ชะตาพารัก
4) คำต้องห้าม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความและแล้ววันที่ต้องให้คำตอบกับอีธานก็ได้มาถึง ภายในห้องส่วนตัวของอีธานไนท์ที่กำลังนั่งลงบนโซฟาตรงหน้าของอีกฝ่ายตอนนี้กำลังทำสีหน้าเคร่งเครียดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ผมได้กลับไปคิดทบทวนมาแล้วหลายวันว่าผมจะสามารถเป็นเมียของอีธานได้ไหม จะทำเรื่องอย่างว่ากับหมอนั้นได้จริงๆ หรือเปล่า
แล้วไอ้การที่จะต้องร่วมใช้ชีวิตแบบคนรักกันเขาทำกันผมจะทำมันได้จริงๆ งั้นหรอ ตอนนี้ที่เป็นปัญหาสำหรับผมมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นปัญหาที่ผมจะต้องนอนร่วมเตียงเดียวกับหมอนั่นในทุกๆ คืนเนี้ยซิครับ ผมคิดว่าผมคงทำไม่ได้จริงๆ T-T
การสาธิตเมื่อคราวก่อนทำผมรู้ซึ้งไปเลย
ผมจะต้องโดนหมอนั่นย้ำยีแบบนั้นในทุกๆ วัน เอิ่ม….ความคิดนี้มันแย่เอามากๆ สำหรับตัวของผม รับไม่ได้ครับ….เพราะสิ่งที่หมอนั่นต้องการจากผมมันไม่ใช่แค่เรื่องความรักอย่างเดียวน่ะซิ แต่มันดันรวมเรื่องแบบนั้นเข้าไปด้วย
โอ๊ย……ผมไม่ไหวแน่ๆ แค่คิดประสาทผมก็จะกินกระบาลแล้วครับเนี่ย และยิ่งต้องเอาไอ้จ้อนของอีธานมายัดที่……อ๊ากกกก……๑*๑
ผมจะต้องตัดสินใจบอกอีธานเรื่องนี้ว่าผมรับไม่ไหว และแน่นอนว่าผมเองก็ไม่อยากให้เรื่องมันค้างคาใจไปมากกว่านี้ นั่นก็เพราะอีธานเป็นเพื่อนสนิทที่สำคัญมากๆ สำหรับผม
“ที่ฉันมาหานายในวันนี้ ฉันจะมาให้คำตอบกับนาย”
“ว่ามา ฉันรอฟังอยู่”
อีธานที่พอจะเดาคำตอบของไนท์ได้จากสีหน้าของอีกฝ่ายตั้งแต่แรกนั้น เขาก็ยังคงนั่งไขว้ขาของตัวเองอยู่ที่โต๊ะน้ำชาของเขาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรเหมือนเดิม
“ฉันขอปฏิเสธ ขอโทษนะอีธาน ต้องขอโทษนายจริงๆ ….”
ไนท์พูดก่อนจะก้มหัวลงพูดขอโทษต่ออีธาน ไนท์รู้สึกผิดที่เขาไม่สามารถช่วยอะไรเพื่อนสนิทอย่างอีธานได้สิ่งที่เขาสามารถทำให้ได้ในตอนนี้ก็คือคำว่าขอโทษอย่างตรงไปตรงมา มันคือสิ่งที่เขาจะต้องบอกออกไปเท่านั้น
ถึงเขาจะรู้ถึงความสำคัญในการเลือกคู่ครองของตระกูลอีธาน แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าความรู้สึกของเขาจะต้องเปลี่ยนตามเรื่องนั้นไปด้วยนี่น่า
“นายอย่าโกธรอย่าเกลียดฉันเลยนะ” ไนท์พูดไปน้ำตาก็เริ่มคลออกมา
ถึงเขาจะไม่สามารถทำหน้าที่เป็นคนรักให้กับอีกฝ่ายได้ แต่ไนท์นั้นก็ยังคงอยากที่จะเป็นเพื่อนสนิทกับอีธานเช่นเดิมต่อไป
“ไม่เป็นไร ถึงนายจะยังไม่รู้สึกชอบฉันในตอนนี้ แต่ว่านะ……”
อีธานลุกขึ้นจากเก้าอี้และได้เดินตรงเข้าไปหาไนท์ที่กำลังก้มลงโค้งให้กับเขาอยู่ อีธานยื่นมือออกไปจับที่ปลายคางของไนท์ ไนท์ได้เงยหน้าขึ้นตามการจับกุมของอีธาน และได้จ้องสบตาเข้ากับดวงตาคู่สวยของอีกฝ่าย
ดวงตาแห่งความหวังและความมุ่งมั่นนั้นยังคงไม่แปลเปลี่ยนไปจากเดิม มันยังทำให้ไนท์รู้สึกประหม่าและหัวใจสั่นไหว
ทำยังไงดีครับ ถ้าขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไป……ผมไม่สบายใจเลย ไนท์ได้คิดอยู่ภายในใจ
“ฉันจะต้องเอาชนะหัวใจของนายให้ได้ เพราะนายคือโชคชะตาแห่งเดียวของชีวิตฉัน ไนท์” อีธานพูดขึ้นในขณะที่จ้องสบตากับไนท์
และคำพูดแค่ประโยคสั้นๆ ในตอนนั้นเองมันกับทำให้คนฟังอย่างไนท์จดจำได้อย่างขึ้นใจ
“อะไรถึงทำให้นายมุ่งมั่นตั้งใจได้ขนาดนั้น ฉันว่านายหยุดคิดแค่นี้จะดีกว่าไหม นายอย่ามาเสียเวลากับฉันเลยอีธานฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้สำหรับเรื่องแบบนั้น” ไนท์ยังคงพูดให้อีธานคิดยอมแพ้ต่อตัวเขา แต่นั่นก็ไม่ได้ส่งผลอะไรสำหรับอีธานเลยแม้แต่น้อย มันกับยิ่งทำให้อีธานอยากจะเอาชนะใจที่แสนดื้อด้านของไนท์ให้ได้มากกว่าเดิมซะอีก
“ไม่ล่ะ ฉันรอนายมาตั้งนาน รออีกทั้งชีวิตมันจะเป็นอะไรไป” อีธานยังคงพูดตอกกลับอย่างมั่นอกมั่นใจไม่เปลี่ยน
“ไม่ตลกเลยนะอีธาน” ไนท์เองพอได้ยินแบบนั้นก็ทำเอาไนท์มีอาการหน้าถอดสีขึ้นมา
“แล้วคิดว่าฉันจะตลกด้วยหรือไง ฉันจริงจังจริงใจเรื่องของนายมาตลอด”
พูดจบประโยครอยยิ้มที่ในตอนแรกได้เผยอยู่ก็ได้ค่อยๆ หายไปจากใบหน้า ทั้งสองได้จ้องสบตากันอยู่อย่างเนินนานโดยทั้งสองไม่รู้เลยว่าต่อไปมันจะเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ในวันต่อมา
“^^”
ยังจะยิ้มไม่หุบอีก
“เอิ่ม…. - -” มันชักจะไปกันใหญ่ซะแล้วครับ
หลังจากการเจรจาของผมกับอีกธานในวันนั้นมันก็ได้จบลงด้วยการที่อีธานได้ขอโอกาสจีบผมอย่างเป็นทางการ ซึ่งผมที่ได้ยินแบบนั้นมันก็ทำเอาผมไปไม่เป็นเลยเหมือนกัน จะบอกยังไงดีว่าผมยังคงคิดว่าความสัมพันธ์ดั่งคนรักแบบนั้นมันเป็นไปไม่ได้เลยระหว่างเราสองคน
แต่ว่าไอ้ใบหน้าซื่อๆ ของอีธานก็กับทำให้ผมต้องเผลอตอบตกลงไปเนี่ยหน่ะซิครับปัญหา จะให้ผมโทษใครดีละนอกซะจากความใจอ่อนของตัวผมเอง
เฮ้อ…. -_-
และในวันนี้เองที่ผมพึ่งรับรู้อะไรได้บางอย่าง นั่นก็คือการที่เรามีจุดอ่อนคือความขี้สงสารหรือการเห็นอกเห็นใจคนอื่นนั่นเป็นการแสดงให้ผมได้รู้ว่า หายนะที่แท้จริงคือการที่ให้โอกาสกับผู้ที่ไม่สมควรจะได้รับมันตั้งแต่แรกครับ
เพราะอะไรนะหรอที่ทำให้ผมต้องคิดแบบนี้
เฮอะ หลักฐานก็เห็นๆ กันอยู่ว่าตอนนี้ที่ด้านหน้าของผมนั่นยังไงล่ะ
“ฉันอยากกินน้ำผลไม้ นายทำให้ฉันกินหน่อยซิ ด่วนนะหิว” และนี่คือเสียงของอวตานในร่างคนครับ --
“ถ้าอยากกินมาก นายก็ไปให้ป้านภาทำให้นายซิ แค่นายพูดว่าอยากกิน ป้านภาแกก็ยินดีจะทำให้นายกินแล้ว”
ป้านภาคือแม่ครัวใหญ่ที่ทำงานอยู่ที่คฤหาสน์หลังนี้มาเป็นสิบๆ ปี ซึ่งป้านภาเนี่ยแหละครับที่เป็นคนส่งเสริมเห็นดีเห็นงามกับหมอนี่มาตั้งแต่เด็กๆ ทำให้อีธานที่พอโตมาถึงได้กลายเป็นคนเอาแต่ใจและหัวดื้อรั้นยิ่งกว่าใครจนถึงทุกวันนี้ พอคิดแล้วผมละกลุ้มใจจริงๆ
“ไม่เอา ฉันจะให้ว่าที่ภรรยาของฉันทำให้กิน” พูดด้วยใบหน้าเรียบเฉย
ว่าที่ภรรยา?
“ใครว่าที่ภรรยาของนาย พูดให้มันชัดๆ ”
ไนท์ที่ทำความสะอาดเหล่าแจกันอันเป็นสุดที่รักของท่านฟาร์อยู่ในตอนนี้นั้น เมื่อเขาได้ยินอีธานพูดคำพูดที่ผิดหูของเขา ไนท์ก็ได้หันมองตาค้อนหาอีธานด้วยสายตาที่เชือดเฉือนในทันที
“ถามมาได้ ก็ต้องนายอยู่แล้วดิ” และหมอนั่นก็ยังคงพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยตามเดิม
“อีธาน นายนี่มันเหลือเกินจริงๆ ” ไนท์พูดออกมาด้วยสีหน้าที่บอกอีธานว่าเขานั้นไม่พอใจกับสิ่งที่เขาได้ยิน
“นายจะเครียดไปทำไม ในเมื่อมันก็ตายตัวอยู่แล้วไม่ว่ายังไงนายก็ต้องมาเป็นเมียของฉันอยู่ดีนั่นแหละน่า " พูดด้วยสีหน้าท่าทางที่ดูมั่นอกมั่นใจ
“เฮอะ ฝันกลางวันหรือไง ควรนอนนะครับคุณเพื่อน…..”
ไนท์ย้ำน้ำเสียงตรงคำว่าเพื่อนก่อนจะวางแจกันลงกับที่ แต่เขาไม่ได้รู้เลยว่าคำพูดของเขาได้ทำให้อีธานนั้นฉุนขาดขึ้นมา อีธานดึงไนท์เข้ามากอดอย่างแรง
“อีธาน นายจะทำอะไรฉันเนี้ย” ไนท์ร้องเสียงหลงออกมาทันทีที่เขาโดนร่างสูงกอดรัดเข้า
“ลองนายพูดคำว่าเพื่อนออกมาให้ฉันได้ยินอีกที ฉันจะ…”
“นายจะทำไม”
“ฉันก็จะ……” อีธานหยุดพูดก่อนจะดันตัวของไนท์ให้ชิดติดผนังกำแพงห้อง
“อะ.อะไร นายจะทำอะไร นี่ หยุดนะ…..หยุด…”
ไนท์ที่รับรู้ได้ถึงฝ่ามือหนาที่กำลังปลดกระดุมกางเกงของเขาและกำลังรูดซิปกางเกงลงอยู่นั่นไนท์ก็รับรู้ได้แล้วว่ามันกำลังจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้หากเขายังไม่รีบคิดหยุดยั้งคนร่างสูงตรงหน้า
ไนท์เริ่มใจคอไม่ดีเขาไม่รู้ตัวเลยว่าเขานั้นได้ทำอะไรผิดไปกันแน่ และทำไมมันถึงได้ลงเอยเป็นแบบนี้ไปได้
อีธานได้ล้วงจะจับอะไรต่อมิอะไรต่ออย่างไม่สนใจไยดีคนในอ้อมแขน เขาทั้งดื้อดึงและทำรุนแรงกับไนท์
“นี่….ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้” ไนท์ยังคงดิ้นไปมาเพื่อที่หวังจะให้อีกฝ่ายนั้นหยุดการกระทำที่เขาไม่ได้ยินยอม
“อยากให้หยุดงั้นซิ " เสียงเย็นชาที่ทำให้ไนท์รู้สึกร้อนรุ่มใจได้พูดกระซิบที่ข้างหูของเขา
“ใช่ นายปล่อยฉันไปเถอะ” ไนท์พูดเสียงเบาด้วยความอ้อนวอน
“งั้นก็รับปากฉันมา ต่อไปนายห้ามพูดคำว่าเพื่อนออกมาให้ฉันได้ยินอีก รับปากมาซิ” อีธานจับหน้าของอีกฝ่ายให้จ้องมองมายังเขา
อีธานในตอนนี้กับดูน่ากลัวกว่าครั้งไหนๆ ที่ไนท์เคยสัมผัสมา ทั้งแววตาและสีหน้าช่างดูเย็นชาอย่างที่ไม่เคยได้เห็น
“ทะ..ทำไมล่ะ” ไนท์พูดเสียงสั่น
" ฉันบอกนายไปแล้วว่าฉันต้องการนายมาเป็นเมียของฉัน ไม่ได้อยากให้ความสัมพันธ์แบบเพื่อนสนิทจากนาย นายเข้าใจไหม” อีธานพูดด้วยน้ำเสียงเดือดดาลขึ้นมาอย่างเสียงดัง
“อีธาน นายทำไมถึงเป็นคนดิบเถื่อนแบบนี้เนี่ย ฉันพูดเพราะอยากให้เราเป็นแบบนั้นยังไงละ ไม่ได้ต้องการให้เป็นอย่างอื่นตามที่นายต้องการ” ไนท์พูดออกมาในขณะที่เขาได้เผชิญหน้าเข้ากับอีธาน
“นายต้องการมันไปคนเดียวเถอะ แต่อยากให้รู้ไว้ด้วยว่าฉันไม่เคยต้องการคำว่าเพื่อนบ้าๆ จากนายเลยสักนิด แล้วนี่ก็จะเป็นคำเตือนครั้งสุดท้ายจากฉัน " อีธานพูดก่อนจะผลักไนท์ออกอย่างแรง
“โอ๊ย…ฉันเจ็บนะ” ไนท์ร้องขึ้นเมื่อเขาถูกผลักชนเข้ากับผนังห้อง
" ถ้าขืนนายยังพูดมันอีก อย่าหาว่าฉันใจร้ายก็แล้วกัน…..ถ้าเกิดฉันจับนายทำเมียขึ้นมาจริงๆ ” อีธานพูดด้วยสายตาที่จริงจังดูน่ากลัว
หลังจากที่พูดจบอีธานก็เดินหันหลังจากเขาไป โดยทิ้งเอาไว้เพียงไนท์ที่กำลังยืนตัวสั่นด้วยความสับสน
“เพื่อบ้าๆ งั้นหรอ ทำไมฉันถึงกลับไปเป็นเพื่อนนายไม่ได้อีกแล้วล่ะ ทั้งๆ ที่เราก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งนานมากขนาดนี้แล้ว” ไนท์พูดด้วยสีหน้าและแววตาที่แสนเจ็บปวด
ฉันเป็นเพื่อนของนายนะอีธาน…..
นายมันงี่เง่า….บ้าชะมัดเลย
ความรู้สึกขัดแย้งของทั้งสองจะจบลงยังไง ติดตามได้ในตอนต่อไป…..
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ