Love me like you do
-
เขียนโดย NoeyJangzz
วันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2564 เวลา 21.31 น.
2 ตอน
0 วิจารณ์
1,900 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน พ.ศ. 2564 21.38 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) ไม่รู้จักโตสักที!
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 6 เดือน ฉันได้มีแฟนคนแรก เขาชื่อว่า นนท์ ซึ่งฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมในชีวิตนี้ ถึงมีแต่คนชื่อนนท์เข้ามาในชีวิตฉัน เริ่มตั้งแต่หลานคนเล็กของฉัน ชื่อ ชานนท์ คนที่เคยมาจีบฉัน มีทั้งชื่อ จุฑานนท์ อานนท์ แล้วก็แฟนคนปัจจุบันของฉันชื่อนนท์ แถมนนท์ก็มีเพื่อนที่ชื่อว่า นนทวัฒน์ อีก เห้อออ! ในชีวิตนี้ฉันมีแต่คนชื่อนนท์ทั้งนั้นเลยใช่มั้ย? มันก็ดูตลกดีนะ ที่บังเอิญมีคนชื่อเหมือนกันเข้ามาในชีวิต แต่ก็น่าจะปวดหัวเอาการ กับการเรียกชื่อคนนั้น คนนี้
นนท์มีอายุน้อยกว่าฉัน 3 ปี เป็นรุ่นน้องในโรงเรียนนั่นแหละ เข้ามาจีบฉัน เพราะคิดว่าฉันอายุเท่ากัน เป็นเพราะฉันเป็นคนตัวเล็ก สูง 154 ซ.ม.เองนะ ใครๆก็คงคิดว่าฉันเป็นเด็ก แถมคนส่วนใหญ่ยังคิดว่าฉันหน้าเด็กอีกด้วย จะหลงตัวเองดีมั้ยนะ แต่คนก็ทักฉันแบบนีัเยอะเหมือนกัน จนฉันเริ่มชินกับการทักว่าหน้าเด็กไปแล้ว ความเตี้ยเป็นเหตุแหละมั้ง เอาล่ะ กลับมาที่นนท์ต่อ นนท์เป็นผู้ชายรูปร่าง สูงใหญ่ หุ่นหมี ผิวสองสี เรียนไฟฟ้ากำลัง ต่างจากฉันที่ตัวกะเปี๊ยก นนท์มีนิสัยที่คุยแล้วอารมณ์ขัน ดูแลฉัน ตามใจฉันเสมอ จนฉันรู้สึกว่า คนนี้แหละ ที่จะคบได้นาน แต่แล้ววันเวลาก็พาให้เรารู้จักนิสัยคนคนนึงมากขึ้น เมื่อฉันพบว่าเขามีนิสัยชอบโกหก ไม่ใช่เรื่องผู้หญิง แต่เป็นเรื่องการไม่มาโรงเรียน แต่โกหกฉันว่าเขามา บางครั้งก็เตี๊ยมกับเพื่อนไว้่ ว่าถ้าฉันถามว่า นนท์ได้มาโรงเรียนมั้ย ให้เพื่อนๆตอบไปว่ามา แต่ก็นะ ความลับไม่มีในโลก ด้วยความที่ขี้ระแวง และสงสัยของฉัน ฉันคอยจับตาดูห้องของแฟนฉันตลอด ว่าเวลาเขาเปลี่ยนคาบเรียนแล้วนักเรียนต้องย้ายไปเรียนห้องอื่น ในบรรดากลุ่มนั้นมีแฟนฉันมั้ย แต่ก็ปรากฎว่าไม่มีเลย ฉันจึงได้ลองแกล้งทักไปถามนนท์ว่า ได้มาโรงเรียนมั้ย นนท์ตอบว่ามา ทั้งๆที่ระหว่างที่กลุ่มนักเรียนพวกนั้นเดินอยู่ ไม่มีแฟนฉันเลย จนฉันเริ่มคิดว่า ฉันโตเกินไปที่จะจริงจังเรื่องชีวิต หรือเขายังเด็กเกินไปที่จะใช้ชีวิต หรือเป็นเพราะ...เราไปกันต่อไม่ได้แล้ว
...................................
"เตี้ย หายโกรธเค้าได้แล้วนะ เค้าขอโทษ ต่อไปเค้าจะไม่โกหกอีกแล้ว" นนท์เรียกฉันว่าเตี้ย ส่วนฉันเรียกเขาว่าตัว และใช่ เขามาง้อฉัน หลังจากที่ฉันจับได้เรื่องการโกหกว่ามาโรงเรียน
"ตัวก็รู้ว่าเค้าไม่ชอบคนโกหก แต่ทำไมตัวถึงโกหกเค้าได้ และมันหลายรอบแล้วนะ ที่ตัวโกหกเค้าแบบนี้ เมื่อไหร่จะรู้จักโตสักที!!"
"ถ้าเค้าบอกเตี้ยไปตรงๆว่าไม่ไปเรียน เตี้ยก็โกรธเค้าสิ ก็เตี้ยเป็นเด็กเรียนหนิ ส่วนเค้ามันก็แค่เด็กช่าง"
"เด็กช่างแล้วไง เป็นนักเรียนก็ต้อวมาโรงเรียนสิ แต่นี่ตัวหยุดเพราะตัวขี้เกียจล้วนๆ......"
ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่
"เค้าว่าเราพอกันแค่นี้เถอะ"
นนท์มองหน้าฉัน หน้าเขาแดงจัด และน้ำตาของเขาค่อยๆไหลออกมา ก่อนที่เขาจะเริ่มพูด
"เตี้ย..ฮึก เตี้ยบอกเลิกเค้า...ฮึก หรอ เค้า...ฮึก ขอโทษเตี้ยแล้วไง...ฮึก ฮึก เค้าจะไม่โกหกเตี้ย...ฮึก อีกแล้ว"
การร้องไห้ของเขาทำให้ฉันสงสารเขา แต่ฉันก็ต้องห้ามใจตัวเองให้ได้ เพื่อดัดนิสัยให้เขาต้องไม่ทำแบบนี้กับใครอีก ถามว่าฉันยังรักเขามั้ย ฉันรักเขามากนะ ไม่รู้ทำไมฉันถึงได้อ่อนไหว และใจอ่อนมาตลอด แต่คราวนี้ ฉันคงต้องจริงจังแล้วจริงๆ
"ตัว เรายังอายุแค่นี้นะ ตัวยังต้องเจอผู้คนอีกมาก เค้าเองก็เข้มงวดเกินไป แต่เราไม่ด้วยกันไม่ได้ เข้าใจมั้ย"
"หรือว่าเตี้ยมีคนอื่น"
นนท์หยุดสะอื้น และรวบรวมสติของเขากลับมาเพื่อที่จะถามคำถามนี้กับฉัน
"แน่นอนว่าเค้าไม่ได้มีคนอื่น ตัวก็มีรหัสไอดีเค้านี่ ตัวสามารถเข้าไปดูได้ว่าเค้าคุยกับใครบ้าง ซึ่งก็มีแต่เพื่อนทั้งนั้น เค้าจะมีคนอื่นได้ไง"
"เค้าขอโอกาสอีกครั้งได้มั้ย"
"เค้าให้มาตลอด ตัวรู้มั้ย ว่าผู้หญิงทุกคนมีขีดจำกัดในการอดทน และขีดจำกัดของเค้ามันก็หมดลงแล้ว เค้าขอโทษนะ ขอให้ตัวเจอคนที่ดี"
สิ้นสุดคำนั้น ฉันก็รีบเดินจากเขาออกมา ถึงแม้ว่าฉันจะเสียใจกับการกระทำของฉันมาก แต่ก็เป็นความรู้สึกนึงของฉัน ที่รู้สึกว่า เราไปกันต่อไม่ได้ ถึงแม้เราจะคบกันมาหลายเดือนแล้วก็ถาม แต่ก็ถือว่าเป็นแฟนคนแรกที่ีคบมานานอยู่พอควร
...................................................
ตื๊ดดดดดด ตื๊ดดดดดด
"ฮัลโหลค่ะ" เสียงงัวเงียของฉันที่ตื่นมารับโทรศัพท์
"เนยหรอลูก นี่พ่อเองนะ...เนย วันนี้ไปวานลอยกระทงกับพ่อมั้ยลูก"
"งานลอยกระทงหรอคะ ไปสิคะ หนูก็อยากเจอพ่ออยู๋พอดีเลยค่ะ"
"โอเค งั้นอาบน้ำแต่งตัวมาบ้านพ่อนะ เดี๋ยวค่ำๆ เราไปลอยกระทงกัน"
"โอเคค่ะพ่อ"
หลังจากวางสายของพ่อฉัน ก็ตามสเต็ปของชีวิตวัยรุ่น ที่ตื่นนอนมาแล้วต้องนอนเล่นโทรศัพท์ ดูการอัพเดตข่าวสาร ชีวิตผู้คนทั่วไป และใจฉันมันเป็นอะไรไม่รู้ ทำไมมือของฉันมันถึงได้อยากรู้อยากเห็นขนาดที่่ต้องเข้ารหัสเฟสของนนท์ และเหลือเชื่อที่เขายังไม่เปลี่ยนรหัส
'ทักครับ'
'ค่ะ'
'ชื่อไรครับ'
'มีน ค่ะ'......
อะไรกัน เลิกกับฉันแค่วันเดียว เขาทักหาคนอื่นแล้วหรอ ไม่ได้แสดงถึงความเสียใจ และรู้สึกผิดเลยใช่มั้ย เขาทักใครต่อใครหลายคนที่เป็นผู้หญิง ทั้งๆที่เลิกกันแล้ว แต่ใจฉันมันสั่น เหมือนมีอะไรมาทิ่มที่หัวใจ เป็นไปได้มั้ยที่ฉันบอกเลิกเพื่อประชด เป็นไปได้มั้ยที่ฉันบอกเลิก เพื่อให้เขาปรับตัว เผื่อว่าเขาจะคิดได้ และยอมปรับตัวเองจริงๆ แล้วกลับมาง้อฉัน หรือเป็นเพราะว่าฉันคิดเข้าข้างตัวเองเกินไปว่าทุกสิ่งจะเป็นแบบที่ฉันคิด แต่มันไม่ใช่เลย ทุกอย่างไปกันใหญ่ เขาทักหาผู้หญิงอื่น โดยไม่สนใจฉันเลย กลับกลายเป็นว่าน้ำตาของฉันไหลออกมาแทน ฉันทำอะไรไม่ได้เลย ถึงแม้ในใจอยากจะไปตอบแชทแทนเขาก็เถอะ แต่มันเป็นการก้าวก่ายที่งี่เง่าเกินไป เพราะเราเลิกกันแล้ว ฉันจะมีสิทธิ์ไปห้ามไม่ให้พวกเขาคุยกันได้ไง ฉันมันโง่เอง ที่เอาคำว่า เลิก ไปดัดนิสัยเขา
ฉันตั้งสติอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะอาบน้ำ แต่งตัวไปบ้านพ่อ ลืมเล่าว่า พ่อกับแม่ฉันแยกทางกันตั้งแต่ฉันยังไม่เกิด ตอนแรกฉันไม่เคยเห็นหน้าพ่อด้วยซ้ำ จนกระทั่งฉันอายุ 19 ปี และแม่ฉันเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง แต่เหมือนโชคชะตาเป็นใจ เมื่อฉันเสียสิ่งที่รักไป กลับมีสิ่งใหม่เข้ามา นั่นคือพ่อแท้ๆที่ฉันไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน แน่นอน เหมือนเราจะเข้ากันได้ดี ฉันเองก็ประหม่าตอนเจอพ่อครั้งแรก พ่อรู้สึกเสียใจที่เลิกกับแม่ตอนนั้น พอรู้ว่าแม่เสีย เขาจึงอยากดูแลฉัน ชดเชยสิ่งที่เขาไม่ได้ดูแลเอาไว้ และฉันก็มีน้องชายต่างแม่สองคนด้วยล่ะ
ระหว่างทางที่ฉันเดินทางไปบ้านพ่อ ฉันนั่งเหม่อตลอดทาง สภาพฉันเหมือนคนอกหัก หึ ตลกดีเนาะ เป็นฝ่ายบอกเลิกเขาแท้ๆ แต่กลับต้องมานั่งเสียใจเอง
'ตัวทักหาคนอื่นหรอ' ห๊ะ...นี่มือฉันเป็นอะไร ทำไมถึงพิมพ์ข้อความแบบนั้นไปหานนท์
'ใช่ ทำไม' ดูจากการตอบก็รับรู้ได้ถึงความเย็นชา
'เค้าคิดว่าตัวจะเสียใจ แล้วปรับตัวเพื่อเค้าซะอีก'
'ตอนแรกก็เสียใจนะ แต่พอได้ทักหาคนอื่น มันก็ลืมความเสียใจไปหมด เตี้ย...เอ้ย ไม่สิ พี่เนยบอกเลิกผมเอง ทำไมจู่ๆทักมาล่ะ'
'นี่ใช่ศัพท์ว่าพี่แทนแล้วหรอ'
'...'
'ก็ได้ เค้าขอโทษนะ เค้ามันโง่เอง ที่คิดว่าบอกเลิกตัวแล้ว ตัวจะแก้ไขตัวเอง จริงๆเค้ายังรักตัวนะ และเค้าก็ไม่คิดว่าตัวจะทักหาคนอื่นทันทีที่เราเลิกกัน'
'เตี้ย ตอนเค้ารักใครก็รักมากนะ แต่ถ้าเค้าไม่รักแล้ว ก็จะไม่สนใจเลย อย่าให้ต้องพูดซ้ำ'
หลังจากนั้นเขาก็หายไปเลย ทำเอาใจฉันชาไปหมด ตอนแรกฉันบอกเลิกเขา แต่ตอนนี้เขาบอกเลิกฉันซะงั้น ฉันควรทำไงต่อไปดี.......
"เข้าซอยนี้แล้วเลี้ยวไหนต่อครับ" เสียงคุณลุงคนขับแท็กซี่ถามฉัน ฉันจึงได้สติกลับคืนมา
"จอดตรงต้นมะม่วงต้นใหญ่นั่นเลยค่ะ"
"ครับ"
เมื่อฉันมาถึงบ้านพ่อ สถานการณ์โดยรวมดูปกติดี แต่มีแต่ฉันเองที่ใจยังเหม่อลอย ไม่ว่าจะตอนกินข้าว ดูหนัง เล่นเกมกับน้องๆ ฉันก็แทบไม่อยากจะอยู่บนโลกนี้เท่าไหร่ อยากจะอยู่ในห้องนอน เอาหัวมุดที่นอนอยู่อย่างนั้นทั้งวัน ไม่อยากออกไปไหน ไม่อยากกินอะไรทั้งนั้น และเวลาก็ค่อยๆผ่านไป จนถึงเวลาที่เราต้องออกไปงานวัด เพื่อไปลอยกระทงแล้ว
เห้อออออ ดูพ่อกับน้องๆและแฟนใหม่พ่อดูจะมีความสุขดีนะ ฉันเองก็อยากมีความสุขแบบนั้นบ้าง แต่สมองฉันมันไม่ทำงานแบบนั้นซะแล้ว เมื่อไหร่ฉันจะหายจากอาการเหล่านี้สักที พวกเขาพาฉันไปลอยกระทง พาไปเล่นเครื่องเล่น ฉันเองที่ฝืนยิ้มว่ามีความสุข ทั้งที่ในใจไม่มีความรู้สึกอะไรเลย แต่ก็ต้องฝืนยิ้มเพื่อไม่ให้บรรยากาศเสียเกินไป จนถึงเวลาที่พ่อฉันไปกินข้าวที่ร้านอาหารร้านนึง ช่างเป็นร้านที่ตกแต่งไฟบนต้นไม้ได้สวยจริงๆ สวยจนฉันมองว่ มันเป็นวิวเดียว ที่ฉันมองแล้วรู้สึกสงบ และใจเย็นได้ ว่าแล้วก็ขอถ่ายรูปไฟประดับต้นไม้ลงสตอรี่ไอจีสักหน่อย
แชะ!!
หื้มมม สวยอยู่นะ
เมื่อฉันอัพสตอรี่ไอจีแล้ว มันก็เป็นเวลาที่พวกเราเริ่มอิ่ม เตรียมพร้อมที่จะกลับบ้าน ฉันก็ได้แต่นั่งไถโทรศัพท์ไปตลอดทาง จนถึงบ้าน อาบน้ำ แล้วก็กลับมานอนไถโทรศัพท์เหมือนเดิม แล้วจู่ๆ ก็มีข้อความการตอบกลับสตอรี่ส่งมา
นนท์รึเปล่านะ? ความหวังลึกๆว่าเขาจะทักมาหาฉัน
"" จากเบนซ์หรอ.....
นนท์มีอายุน้อยกว่าฉัน 3 ปี เป็นรุ่นน้องในโรงเรียนนั่นแหละ เข้ามาจีบฉัน เพราะคิดว่าฉันอายุเท่ากัน เป็นเพราะฉันเป็นคนตัวเล็ก สูง 154 ซ.ม.เองนะ ใครๆก็คงคิดว่าฉันเป็นเด็ก แถมคนส่วนใหญ่ยังคิดว่าฉันหน้าเด็กอีกด้วย จะหลงตัวเองดีมั้ยนะ แต่คนก็ทักฉันแบบนีัเยอะเหมือนกัน จนฉันเริ่มชินกับการทักว่าหน้าเด็กไปแล้ว ความเตี้ยเป็นเหตุแหละมั้ง เอาล่ะ กลับมาที่นนท์ต่อ นนท์เป็นผู้ชายรูปร่าง สูงใหญ่ หุ่นหมี ผิวสองสี เรียนไฟฟ้ากำลัง ต่างจากฉันที่ตัวกะเปี๊ยก นนท์มีนิสัยที่คุยแล้วอารมณ์ขัน ดูแลฉัน ตามใจฉันเสมอ จนฉันรู้สึกว่า คนนี้แหละ ที่จะคบได้นาน แต่แล้ววันเวลาก็พาให้เรารู้จักนิสัยคนคนนึงมากขึ้น เมื่อฉันพบว่าเขามีนิสัยชอบโกหก ไม่ใช่เรื่องผู้หญิง แต่เป็นเรื่องการไม่มาโรงเรียน แต่โกหกฉันว่าเขามา บางครั้งก็เตี๊ยมกับเพื่อนไว้่ ว่าถ้าฉันถามว่า นนท์ได้มาโรงเรียนมั้ย ให้เพื่อนๆตอบไปว่ามา แต่ก็นะ ความลับไม่มีในโลก ด้วยความที่ขี้ระแวง และสงสัยของฉัน ฉันคอยจับตาดูห้องของแฟนฉันตลอด ว่าเวลาเขาเปลี่ยนคาบเรียนแล้วนักเรียนต้องย้ายไปเรียนห้องอื่น ในบรรดากลุ่มนั้นมีแฟนฉันมั้ย แต่ก็ปรากฎว่าไม่มีเลย ฉันจึงได้ลองแกล้งทักไปถามนนท์ว่า ได้มาโรงเรียนมั้ย นนท์ตอบว่ามา ทั้งๆที่ระหว่างที่กลุ่มนักเรียนพวกนั้นเดินอยู่ ไม่มีแฟนฉันเลย จนฉันเริ่มคิดว่า ฉันโตเกินไปที่จะจริงจังเรื่องชีวิต หรือเขายังเด็กเกินไปที่จะใช้ชีวิต หรือเป็นเพราะ...เราไปกันต่อไม่ได้แล้ว
...................................
"เตี้ย หายโกรธเค้าได้แล้วนะ เค้าขอโทษ ต่อไปเค้าจะไม่โกหกอีกแล้ว" นนท์เรียกฉันว่าเตี้ย ส่วนฉันเรียกเขาว่าตัว และใช่ เขามาง้อฉัน หลังจากที่ฉันจับได้เรื่องการโกหกว่ามาโรงเรียน
"ตัวก็รู้ว่าเค้าไม่ชอบคนโกหก แต่ทำไมตัวถึงโกหกเค้าได้ และมันหลายรอบแล้วนะ ที่ตัวโกหกเค้าแบบนี้ เมื่อไหร่จะรู้จักโตสักที!!"
"ถ้าเค้าบอกเตี้ยไปตรงๆว่าไม่ไปเรียน เตี้ยก็โกรธเค้าสิ ก็เตี้ยเป็นเด็กเรียนหนิ ส่วนเค้ามันก็แค่เด็กช่าง"
"เด็กช่างแล้วไง เป็นนักเรียนก็ต้อวมาโรงเรียนสิ แต่นี่ตัวหยุดเพราะตัวขี้เกียจล้วนๆ......"
ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่
"เค้าว่าเราพอกันแค่นี้เถอะ"
นนท์มองหน้าฉัน หน้าเขาแดงจัด และน้ำตาของเขาค่อยๆไหลออกมา ก่อนที่เขาจะเริ่มพูด
"เตี้ย..ฮึก เตี้ยบอกเลิกเค้า...ฮึก หรอ เค้า...ฮึก ขอโทษเตี้ยแล้วไง...ฮึก ฮึก เค้าจะไม่โกหกเตี้ย...ฮึก อีกแล้ว"
การร้องไห้ของเขาทำให้ฉันสงสารเขา แต่ฉันก็ต้องห้ามใจตัวเองให้ได้ เพื่อดัดนิสัยให้เขาต้องไม่ทำแบบนี้กับใครอีก ถามว่าฉันยังรักเขามั้ย ฉันรักเขามากนะ ไม่รู้ทำไมฉันถึงได้อ่อนไหว และใจอ่อนมาตลอด แต่คราวนี้ ฉันคงต้องจริงจังแล้วจริงๆ
"ตัว เรายังอายุแค่นี้นะ ตัวยังต้องเจอผู้คนอีกมาก เค้าเองก็เข้มงวดเกินไป แต่เราไม่ด้วยกันไม่ได้ เข้าใจมั้ย"
"หรือว่าเตี้ยมีคนอื่น"
นนท์หยุดสะอื้น และรวบรวมสติของเขากลับมาเพื่อที่จะถามคำถามนี้กับฉัน
"แน่นอนว่าเค้าไม่ได้มีคนอื่น ตัวก็มีรหัสไอดีเค้านี่ ตัวสามารถเข้าไปดูได้ว่าเค้าคุยกับใครบ้าง ซึ่งก็มีแต่เพื่อนทั้งนั้น เค้าจะมีคนอื่นได้ไง"
"เค้าขอโอกาสอีกครั้งได้มั้ย"
"เค้าให้มาตลอด ตัวรู้มั้ย ว่าผู้หญิงทุกคนมีขีดจำกัดในการอดทน และขีดจำกัดของเค้ามันก็หมดลงแล้ว เค้าขอโทษนะ ขอให้ตัวเจอคนที่ดี"
สิ้นสุดคำนั้น ฉันก็รีบเดินจากเขาออกมา ถึงแม้ว่าฉันจะเสียใจกับการกระทำของฉันมาก แต่ก็เป็นความรู้สึกนึงของฉัน ที่รู้สึกว่า เราไปกันต่อไม่ได้ ถึงแม้เราจะคบกันมาหลายเดือนแล้วก็ถาม แต่ก็ถือว่าเป็นแฟนคนแรกที่ีคบมานานอยู่พอควร
...................................................
ตื๊ดดดดดด ตื๊ดดดดดด
"ฮัลโหลค่ะ" เสียงงัวเงียของฉันที่ตื่นมารับโทรศัพท์
"เนยหรอลูก นี่พ่อเองนะ...เนย วันนี้ไปวานลอยกระทงกับพ่อมั้ยลูก"
"งานลอยกระทงหรอคะ ไปสิคะ หนูก็อยากเจอพ่ออยู๋พอดีเลยค่ะ"
"โอเค งั้นอาบน้ำแต่งตัวมาบ้านพ่อนะ เดี๋ยวค่ำๆ เราไปลอยกระทงกัน"
"โอเคค่ะพ่อ"
หลังจากวางสายของพ่อฉัน ก็ตามสเต็ปของชีวิตวัยรุ่น ที่ตื่นนอนมาแล้วต้องนอนเล่นโทรศัพท์ ดูการอัพเดตข่าวสาร ชีวิตผู้คนทั่วไป และใจฉันมันเป็นอะไรไม่รู้ ทำไมมือของฉันมันถึงได้อยากรู้อยากเห็นขนาดที่่ต้องเข้ารหัสเฟสของนนท์ และเหลือเชื่อที่เขายังไม่เปลี่ยนรหัส
'ทักครับ'
'ค่ะ'
'ชื่อไรครับ'
'มีน ค่ะ'......
อะไรกัน เลิกกับฉันแค่วันเดียว เขาทักหาคนอื่นแล้วหรอ ไม่ได้แสดงถึงความเสียใจ และรู้สึกผิดเลยใช่มั้ย เขาทักใครต่อใครหลายคนที่เป็นผู้หญิง ทั้งๆที่เลิกกันแล้ว แต่ใจฉันมันสั่น เหมือนมีอะไรมาทิ่มที่หัวใจ เป็นไปได้มั้ยที่ฉันบอกเลิกเพื่อประชด เป็นไปได้มั้ยที่ฉันบอกเลิก เพื่อให้เขาปรับตัว เผื่อว่าเขาจะคิดได้ และยอมปรับตัวเองจริงๆ แล้วกลับมาง้อฉัน หรือเป็นเพราะว่าฉันคิดเข้าข้างตัวเองเกินไปว่าทุกสิ่งจะเป็นแบบที่ฉันคิด แต่มันไม่ใช่เลย ทุกอย่างไปกันใหญ่ เขาทักหาผู้หญิงอื่น โดยไม่สนใจฉันเลย กลับกลายเป็นว่าน้ำตาของฉันไหลออกมาแทน ฉันทำอะไรไม่ได้เลย ถึงแม้ในใจอยากจะไปตอบแชทแทนเขาก็เถอะ แต่มันเป็นการก้าวก่ายที่งี่เง่าเกินไป เพราะเราเลิกกันแล้ว ฉันจะมีสิทธิ์ไปห้ามไม่ให้พวกเขาคุยกันได้ไง ฉันมันโง่เอง ที่เอาคำว่า เลิก ไปดัดนิสัยเขา
ฉันตั้งสติอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะอาบน้ำ แต่งตัวไปบ้านพ่อ ลืมเล่าว่า พ่อกับแม่ฉันแยกทางกันตั้งแต่ฉันยังไม่เกิด ตอนแรกฉันไม่เคยเห็นหน้าพ่อด้วยซ้ำ จนกระทั่งฉันอายุ 19 ปี และแม่ฉันเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง แต่เหมือนโชคชะตาเป็นใจ เมื่อฉันเสียสิ่งที่รักไป กลับมีสิ่งใหม่เข้ามา นั่นคือพ่อแท้ๆที่ฉันไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน แน่นอน เหมือนเราจะเข้ากันได้ดี ฉันเองก็ประหม่าตอนเจอพ่อครั้งแรก พ่อรู้สึกเสียใจที่เลิกกับแม่ตอนนั้น พอรู้ว่าแม่เสีย เขาจึงอยากดูแลฉัน ชดเชยสิ่งที่เขาไม่ได้ดูแลเอาไว้ และฉันก็มีน้องชายต่างแม่สองคนด้วยล่ะ
ระหว่างทางที่ฉันเดินทางไปบ้านพ่อ ฉันนั่งเหม่อตลอดทาง สภาพฉันเหมือนคนอกหัก หึ ตลกดีเนาะ เป็นฝ่ายบอกเลิกเขาแท้ๆ แต่กลับต้องมานั่งเสียใจเอง
'ตัวทักหาคนอื่นหรอ' ห๊ะ...นี่มือฉันเป็นอะไร ทำไมถึงพิมพ์ข้อความแบบนั้นไปหานนท์
'ใช่ ทำไม' ดูจากการตอบก็รับรู้ได้ถึงความเย็นชา
'เค้าคิดว่าตัวจะเสียใจ แล้วปรับตัวเพื่อเค้าซะอีก'
'ตอนแรกก็เสียใจนะ แต่พอได้ทักหาคนอื่น มันก็ลืมความเสียใจไปหมด เตี้ย...เอ้ย ไม่สิ พี่เนยบอกเลิกผมเอง ทำไมจู่ๆทักมาล่ะ'
'นี่ใช่ศัพท์ว่าพี่แทนแล้วหรอ'
'...'
'ก็ได้ เค้าขอโทษนะ เค้ามันโง่เอง ที่คิดว่าบอกเลิกตัวแล้ว ตัวจะแก้ไขตัวเอง จริงๆเค้ายังรักตัวนะ และเค้าก็ไม่คิดว่าตัวจะทักหาคนอื่นทันทีที่เราเลิกกัน'
'เตี้ย ตอนเค้ารักใครก็รักมากนะ แต่ถ้าเค้าไม่รักแล้ว ก็จะไม่สนใจเลย อย่าให้ต้องพูดซ้ำ'
หลังจากนั้นเขาก็หายไปเลย ทำเอาใจฉันชาไปหมด ตอนแรกฉันบอกเลิกเขา แต่ตอนนี้เขาบอกเลิกฉันซะงั้น ฉันควรทำไงต่อไปดี.......
"เข้าซอยนี้แล้วเลี้ยวไหนต่อครับ" เสียงคุณลุงคนขับแท็กซี่ถามฉัน ฉันจึงได้สติกลับคืนมา
"จอดตรงต้นมะม่วงต้นใหญ่นั่นเลยค่ะ"
"ครับ"
เมื่อฉันมาถึงบ้านพ่อ สถานการณ์โดยรวมดูปกติดี แต่มีแต่ฉันเองที่ใจยังเหม่อลอย ไม่ว่าจะตอนกินข้าว ดูหนัง เล่นเกมกับน้องๆ ฉันก็แทบไม่อยากจะอยู่บนโลกนี้เท่าไหร่ อยากจะอยู่ในห้องนอน เอาหัวมุดที่นอนอยู่อย่างนั้นทั้งวัน ไม่อยากออกไปไหน ไม่อยากกินอะไรทั้งนั้น และเวลาก็ค่อยๆผ่านไป จนถึงเวลาที่เราต้องออกไปงานวัด เพื่อไปลอยกระทงแล้ว
เห้อออออ ดูพ่อกับน้องๆและแฟนใหม่พ่อดูจะมีความสุขดีนะ ฉันเองก็อยากมีความสุขแบบนั้นบ้าง แต่สมองฉันมันไม่ทำงานแบบนั้นซะแล้ว เมื่อไหร่ฉันจะหายจากอาการเหล่านี้สักที พวกเขาพาฉันไปลอยกระทง พาไปเล่นเครื่องเล่น ฉันเองที่ฝืนยิ้มว่ามีความสุข ทั้งที่ในใจไม่มีความรู้สึกอะไรเลย แต่ก็ต้องฝืนยิ้มเพื่อไม่ให้บรรยากาศเสียเกินไป จนถึงเวลาที่พ่อฉันไปกินข้าวที่ร้านอาหารร้านนึง ช่างเป็นร้านที่ตกแต่งไฟบนต้นไม้ได้สวยจริงๆ สวยจนฉันมองว่ มันเป็นวิวเดียว ที่ฉันมองแล้วรู้สึกสงบ และใจเย็นได้ ว่าแล้วก็ขอถ่ายรูปไฟประดับต้นไม้ลงสตอรี่ไอจีสักหน่อย
แชะ!!
หื้มมม สวยอยู่นะ
เมื่อฉันอัพสตอรี่ไอจีแล้ว มันก็เป็นเวลาที่พวกเราเริ่มอิ่ม เตรียมพร้อมที่จะกลับบ้าน ฉันก็ได้แต่นั่งไถโทรศัพท์ไปตลอดทาง จนถึงบ้าน อาบน้ำ แล้วก็กลับมานอนไถโทรศัพท์เหมือนเดิม แล้วจู่ๆ ก็มีข้อความการตอบกลับสตอรี่ส่งมา
นนท์รึเปล่านะ? ความหวังลึกๆว่าเขาจะทักมาหาฉัน
"" จากเบนซ์หรอ.....
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ