Pathenon โรงเรียนมนตราพาเธนอน

-

เขียนโดย OAZIS

วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 13.58 น.

  17 ตอน
  2 วิจารณ์
  8,956 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 19 กันยายน พ.ศ. 2564 15.16 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

9) งานเทศกาลและไตรกีฬาเวทมนตร์

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่ 9

งานเทศกาลและไตรกีฬาเวทมนตร์

 

          หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับวิชาพละมาตลอดทั้งวัน ขณะนี้บรรดาเด็กปี 1 แห่งโรงเรียนมนตราพาเธนอนต่างก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำชำระร่างกายจากเหงื่อที่พรั่งพรูออกมาจนชุ่มเครื่องแบบวิชาพละ

 

          ในวิชาพละ พวกเขาไม่ได้สวมชุดเครื่องแบบนักเรียนตามที่ใส่อยู่ประจำ หากแต่เป็นชุดแนบเนื้อแบบชิ้นเดียวสีดำเพื่อความสะดวกในการเคลื่อนไหวร่างกาย เอ็ดเวิร์ดมีความรู้สึกว่าเนื้อผ้าที่นำมาตัดชุดนี้ดูจะไม่ใช่สิ่งที่ได้จากธรรมชาติอย่างแน่นอน เพราะ นอกจากชุดนี้จะมีความยืดหยุ่นมากเป็นพิเศษ แต่กลับให้ความรู้สึกสบายเมื่อสวมใส่เป็นอย่างมาก เขาสามารถใส่ชุดนี้นอนหลับยังได้เลยด้วยซ้ำ และความคาใจของเขาก็ได้รับความกระจ่างจากเด็กสาวคนเดิม

 

          “ชุดนี้ทำมาจากขนหางของเซนทอร์” แอเลน่าบอกเมื่อเอ็ดเวิร์ดหันไปถามถึงที่มาของชุด

 

          “บ้าน่า ไม่จริงหรอก” เอ็ดเวิร์ดถามกลับ ไม่เชื่อในสิ่งที่ตนเองได้ยิน

 

          “จริง” เด็กสาวย้ำ “ขนหางของเซนทอร์มีความยืดหยุ่นสูงมาก ถึงแม้นายจะไมเคยเห็น แต่เซนทอร์ก็ไม่ได้จัดเป็นสิ่งมีชีวิตที่หายากสักเท่าไร เราแค่ต้องรู้ว่าพวกเขาอยู่ตรงไหนเท่านั้น”

 

          เมื่อ 3 หนุ่มและ 1 สาวอาบน้ำเสร็จ ก็มารวมตัวกันที่ห้องอาหารเช่นเดิม นิโคลดูจะกินอาหารได้มากเป็นพิเศษ ทั้งๆ ที่ปกติก็กินได้เยอะอยู่แล้ว เด็กหนุ่มให้เหตุผลว่าหลังการใช้แรงกายอย่างหนักหน่วง เราต้องพยายามเติมพลังงานเข้าไปให้ได้มากที่สุด แม้เอ็ดเวิร์ดจะเห็นด้วยกับความคิดนี้ แต่เขาก็ไม่สามารถยัดอาหารเข้าไปได้มากเท่าที่ต้องการ เนื่องมาจากความเหนื่อยล้า ดูท่าแอเลน่าเองก็จะเป็นเช่นเดียวกัน เดรโกยังคงกินอาหารในปริมาณเท่าเดิมทุกๆ มื้อ เขาบอกว่าแค่รับอาหารเข้าไปในปริมาณที่ร่างกายต้องการก็เพียงพอแล้ว

 

          “คนบ้าอะไรใช้คำว่ารับแทนคำว่ากิน นายเป็นนักโภชนาการหรือไง” นิโคลว่าขณะที่กำลังเคี้ยวข้าวเต็มปาก

 

          “นี่! นิค” แอเลน่าตะโคก “ฉันเคยบอกว่าไงตอนกำลังเคี้ยวข้าวน่ะ”

 

          “ขอโทษครับแม่” นิโคลพูดติดตลก เรียกเสียงหัวเราะบางๆ จากอีก 3 คนได้เป็นอย่างดี

 

          มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นในระหว่างวิชาเรียนพละที่น่าพูดถึง แต่เรื่องที่ดูจะเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ที่สุดในชั่วโมงนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มนักเรียนหญิง คงจะหนีไม่พ้นเรื่องครูประจำวิชา ราโอ ซิลวา

 

          “ครูซิลวานี่หล่อมากเลยเนอะ เธอ” เสียงกระซิบกระซาบที่ดังราวกับจะให้ได้ยินทั้งห้องดังมาจากโต๊ะของนักเรียนสาวกลุ่มหนึ่ง

 

          “ยิ่งกว่าหล่ออีกเธอ เทพบุตรชัดๆ” เสียงอีกเสียงบนโต๊ะกล่าวสนับสนุน

 

          “ไหนจะรูปร่างนั่นอีก กล้ามเป็นมัดๆ” เสียงเด็กสาวคนที่ 3 บอกเพิ่มเติม

 

          แม้เอ็ดเวิร์ดจะไม่นิยมชมชอบการชมผู้ชายนัก แต่เขาก็ต้องยอมรับเรื่องนี้ เขาไม่สามารถบอกได้ว่าครูซิลวานั้นดูดีตรงไหนบ้าง ถึงขนาดทำให้เพื่อนร่วมรุ่นของเขาทุกคนคลั่งไคล้ได้ขนาดนี้ แต่หากจะให้นิยามง่ายๆ ก็ต้องบอกว่าครูซิลวานั้นงดงามราวกับรูปปั้นที่เทพเจ้าสรรสร้างออกมาด้วยความปราณีตขั้นสุด แม้เขาจะไม่ชอบใช้คำที่มันดูเพ้อฝันแบบนี้ แต่เขาก็ไม่อาจหาคำเปรียบเทียบอื่นได้แล้วจริงๆ

 

          “พวกผู้หญิงรุ่นเรานี่ดูจะกรี๊ดกร๊าดครูซิลวามากเลยนะ” เอ็ดเวิร์ดตั้งข้อสังเกตขึ้นมา

 

          “แหงอยู่แล้วสิยะ ก็ดูหน้าตาอันเพอร์เฟคของครูเขาสิ ไม่ให้กรี๊ดกร๊าดยังไงไหว” แอเลน่าตอบกลับพร้อมกับทำแววตาเหม่อลอย ก่อนจะหันมาสบตาเพื่อนร่วมโต๊ะทั้ง 3 ของเธอ “แล้วยิ่งมาเทียบกับเพื่อนผู้ชายร่วมรุ่นของเรานะ ต่างกันราวฟ้ากับเหวเลย”

 

          “เธอนี่มันยัยปากปีจอจริงๆ แอล” นิโคลตำหนิแกมหยอก

 

          “ฉันล่ะอยากรู้จริงๆ ว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน” แอเลน่าพูดลอยๆ ขณะหยิบขนมเข้าปาก

 

          “เขาคืออดีตว่าที่ราชาแห่งทวีปมูน" เด็กหนุ่มที่นั่งเงียบมาตลอดเป็นฝ่ายพูดขึ้นบ้าง

 

          “นายรู้จักเขาหรอ เดรโก” แอเลน่าถาม

 

          “ก็ไม่เชิงรู้จักหรอก แต่ตอนเด็กๆ ฉันมีโอกาสได้เข้าไปเล่นในลากูนบ่อยๆ ฉันหมายถึงวังแห่งทวีปลากูน่าน่ะ” เดรโกอธิบายเพิ่มเติม

 

          “ฉันรู้หรอกย่ะว่าคือที่ไหน” แอเลน่าตอบกลับ “แล้วยังไงต่อ”

 

          “บางครั้งราชาแห่งทวีปมูนก็จะแวะเวียนมาเยี่ยมราชาแห่งลากูน่าบ่อยๆ แล้วทุกครั้งเขาก็จะพาลูกชายคนโตของเขามาด้วย ก็เลยพอจะได้เห็นหน้าค่าตากันมาบ้าง” เดรโกอธิบายต่อโดยไม่หันไปสบตากับผู้พูด เอ็ดเวิร์ดสังเกตเห็นพฤติกรรมนี้มาหลายต่อหลายครั้งแล้ว เขาเคยถามเดรโกว่าทำไมเวลาคุยกับใครถึงไม่ชอบมองหน้าคู่สนทนา แม้เดรโกจะตอบมาด้วยสาเหตุมากมาย แต่เขาก็พอรู้ว่าจริงๆ แล้วเด็กหนุ่มก็แค่อายไม่กล้าสบตาใครก็เท่านั้น

 

          “แล้วหมายความยังไงที่เป็นอดีตน่ะ” นิโคลถามขึ้นบ้าง

 

          “ก็อยู่ดีๆ เขาก็สละสิทธิ์ในการสืบทอดตำแหน่ง ไม่มีใครรู้สาเหตุว่าทำไม และเขาก็ไม่เคยบอกใครถึงสาเหตุในการตัดสินใจนั้น และด้วยอายุที่ค่อนข้างห่างกันของเขากับน้องชาย ปัจจุบันคนที่ปกครองทวีปมูนก็ยังคงเป็นราชาคนเก่า แม้ว่าจะอายุมากแล้วก็ตาม” เด็กหนุ่มตอบเสร็จก็หยิบแก้วน้ำขึ้นมาจิบเบาๆ

 

          “แล้วทำไมเขาถึงเลือกมาสอนที่นี่ล่ะ” แอเลน่าถามอย่างไม่รีรอ แต่เดรโกก็ยักไหล่แทนคำตอบ

 

          “พักเรื่องครูซิลวาสักแปปได้ไหม” เอ็ดเวิร์ดยกมือขึ้นขออนุญาตเปลี่ยนเรื่อง “พวกนายพอจะมีใครรู้เรื่องมัวร์ดาล่าบ้างไหม ฉันไม่ทันฟัง”

 

          “ฉันด้วย” นิโคลยกมือขึ้นอีกเสียง

 

          “ไม่ใช่ไม่ทันฟัง พวกนายไม่ฟังเลยต่างหาก ฉันเห็นพวกนายเอาแต่เป่ายิ้งฉุบเล่นอะไรกันก็ไม่รู้ ฉันว่าพวกนายน่ะ...” แอเลน่าเริ่มตั้งท่าว่าจะบ่นยาว เอ็ดเวิร์ดจึงชิงหันไปถามเด็กหนุ่มอีกคนแทน

 

          “มัวร์ดาล่าคือเทศกาลการแข่งขันไตรกีฬาเวทมนตร์ จะจัดขึ้นช่วงสิ้นปีของทุกปี จริงๆ วิชาพละที่เราเรียนกันก็เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าแข่งขันในเทศกาลนี้นี่แหละ”

 

          “หรอๆ แล้วมีข้อมูลอะไรอย่างอื่นอีกล่ะ” นิโคลรีบซักให้เดรโกอธิบายต่อ พร้อมกัดไส้กรอกเข้าปากคำใหญ่

 

          “อันนี้เท่าที่ฉันลองศึกษาข้อมูลมาเองนะ” แอเลน่าชิงอธิบายก่อน “มัวร์ดาล่าจริงๆ แล้วไม่ได้เป็นชื่อของการแข่งขันไตรกีฬาเวทมนตร์ แต่เป็นชื่อของเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับลิเบอร์ตัน เพราะเป็นเพียงช่วงเวลาเดียวในปีที่บุคลากรในโรงเรียนมนตราทั้ง 4 โรงเรียนจะได้มาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน แต่ไม่ใช่แค่เฉพาะบุคคลากรของโรงเรียนมนตราทั้ง 4 เท่านั้นที่สามารถเข้าร่วมได้ แม้แต่คนทั่วๆ ไปไม่ว่าจะมีพลังเวทหรือไร้พลังเวทก็สามารถเข้ามาร่วมเทศกาลนี้ได้เช่นกัน บรรดาพ่อค้าแม่ค้าต่างก็ต้องจับจองพื้นที่ขายของกันนานเป็นเดือนก่อนที่งานจะเริ่มซะอีก แล้วปีนี้ก็เป็นพาเธนอนนี่แหละที่เป็นเจ้าภาพ

 

          แต่ที่หลายๆ คนเข้าใจผิดว่ามัวร์ดาล่าเป็นชื่อของการแข่งขันไตรกีฬาเวทมนตร์ ก็เพราะไฮไลท์ที่เด่นที่สุดของงานนี้ก็คือการแข่งไตรกีฬาเวทมนตร์ของนักเรียนโรงเรียนมนตรา โดยจะจัดขึ้น 4 วันติดต่อกันสำหรับนักเรียนชั้นปีที่ 1-4 รุ่นละ 1 วัน พวกครูอาจารย์ต่างโรงเรียนก็จะแห่กันมาดูคุณภาพของนักเรียนโรงเรียนตัวเองและโรงเรียนคู่แข่ง คนทั่วไปก็อยากเข้ามาดูการแข่งขันนี้เหมือนกัน

 

          แล้วก็เพราะว่าการแข่งขันนี้แบ่งรุ่นตามปีการศึกษา คู่ต่อสู้ที่จะต้องเจอทุกๆ ปีก็มักจะเป็นหน้าเดิมๆ รอบแข่งขันที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็เลยตกเป็นของพวกหน้าใหม่ปี 1 อย่างพวกเรานี่แหละ”

 

          “แล้วเรื่องคุณสมบัติของผู้เข้าแข่งกับขั้นตอนการแข่งขันล่ะ” เอ็ดเวิร์ดถามต่อ เขาชักสนใจไอ้การแข่งขันนี่ขึ้นมาบ้างแล้ว

 

          “ไม่มีข้อกำหนดเรื่องคุณสมบัติหรอก ทุกคนสามารถเข้าแข่งขันได้ตามใจเลย ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง

 

          ส่วนเรื่องขั้นตอนก็ไม่มีอะไรมาก ไตรกีฬาเวทมนตร์ก็จะแบ่งการแข่งขันออกเป็น 3 ระยะ ระยะแรกจะเป็นการวิ่งแข่งในเขาวงกต ระยะที่สองจะเป็นการว่ายน้ำ ส่วนระยะที่สาม...”

 

          “ว่ายน้ำ!” นิโคลตาโตราวกับประโยคนี้เป็นประโยคที่เฝ้ารอมาทั้งชีวิต “ใครจะว่ายังไงไม่รู้ แต่ฉันคนหนึ่งละจะลงแข่งรายการนี้แน่นอน”

 

          “นี่ นิค ฟังแอลพูดให้จบก่อนสิ ไอ้บ้านี่” เอ็ดเวิร์ดหันไปบ่นเจ้าเพื่อนตัวแสบ

 

          “ก็คนมันตื่นเต้นนี่นา” นิโคลทำหน้าเศร้าเรียกร้องความสงสาร

 

          “ว่าต่อเลยแอล” เอ็ดเวิร์ดหันไปบอกเด็กสาว

 

          “เฮ้อ” เด็กสาวถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายให้กับเพื่อนของเธอ “ระยะสุดท้ายในแต่ละปีจะจัดขึ้นไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับมติระหว่างโรงเรียนมนตรา”

 

          “มีแต่เรื่องที่ต้องใช้แรงทั้งนั้นเลยนี่ แล้วแบบนี้ผู้หญิงจะไม่เสียเปรียบหรอ” เอ็ดเวิร์ดถาม

 

          “ไม่หรอก” เป็นฝ่ายเดรโกที่ตอบคำถามนี้ “ตอนที่เราเรียนเมื่อกี้ครูซิลวาก็บอกว่าผู้ที่จะชนะการแข่งขันนี้ได้ ต้องประกอบไปด้วยพลังกาย พลังใจ และพลังความคิด ฉันไม่คิดหรอกว่าแค่แรงเยอะอย่างเดียวจะเข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 ได้ อีกอย่าง นายลืมไปแล้วหรอ เอ็ดเวิร์ด นี่เป็นการแข่งขันไตรกีฬาเวทมนตร์นะ นั่นหมายความว่าเราจะต้องใช้เวทมนตร์ในการแข่งขันนี้ด้วย”

 

          “อย่างที่เดรโกพูดนั่นแหละ” แอเลน่าเสริม “เท่าที่ฉันลองไปดูข้อมูลมา คนล่าสุดที่ชนะการแข่งขันนี้ 2 ปีซ้อนเป็นเด็กผู้หญิงนะ แล้วตอนนี้เธอก็อยู่ปีที่ 3 ที่โรงเรียนมนตราคาลล่าด้วย หลายๆ คนเขาก็คาดกันว่าเธออาจเป็นคนแรกที่ทำลายสถิติชนะเลิศ 4 ปีซ้อนได้ด้วยซ้ำ”

 

          “เจ๋งแหะ” นิโคลชม “จบมาจากคาลล่า ก็เป็นรุ่นน้องแม่นายสิ เอ็ด”

 

          “พูดถึงแม่ฉัน แอล ฉันนัดแม่ฉันให้เจอกับเธอได้แล้วนะ แต่แม่บอกว่าจะไม่เข้ามาหาเธอ แต่จะรอจนกว่าเธอจะเปิดประตูโรงเรียนได้แล้วไปหาเขาเอง” เอ็ดเวิร์ดหันไปบอกเพื่อนสาว

 

          “สมกับเป็นคุณโอลิเวียจริงๆ” แอเลน่ายิ้มให้กับนิสัยเข้มงวดของหญิงสาว พร้อมกับหันไปขอบใจเด็กหนุ่มที่อุตส่าห์นัดให้เธอ

 

          “นี่ แอล เย็นนี้ลานตามประสงค์เปลี่ยนเป็นอะไรหรอ” นิโคลถามสีหน้าตื่นเต้น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาหวังให้มันเปลี่ยนเป็นผืนน้ำสีฟ้า

 

          “ทะเลทราย” คำตอบสั้นๆ จากปากเด็กสาวที่เปลี่ยนรอยยิ้มของผู้ฟังให้แทบจะกลายเป็นน้ำตา

 

          “ไอ้ครูใหญ่บ้า! คนอุตส่าห์มีไฟจะซ้อมเตรียมลงแข่งทั้งที” นิโคลสบถ

 

          “นายก็ไปซ้อมที่สระว่ายน้ำของโรงเรียนก็ได้นี่ นิค” เอ็ดเวิร์ดแนะ

 

          “ผิวของฉันไม่ได้สร้างมาให้คลอรีนโง่ๆ นั่นกัดนะ” นิโคลลุกขึ้นยืน “ไป ทุกคน ไปห้องครูใหญ่กัน ฉันจะไปขอให้ครูใหญ่เปลี่ยนลานนั่นเป็นทะเลในเย็นนี้”

 

          “ฉันขี้เกียจไปว่ะ นิค” เอ็ดเวิร์ดตอบเรียบๆ

 

          “ฉันด้วย” แอเลน่าเสริมทับ

          “...” เด็กหนุ่มอีกคนไม่พูดอะไร แต่นั่นก็เท่ากับเป็นคำตอบแล้วว่าเขาเห็นด้วยกับเพื่อนอีก 2 คน

 

          “ไม่ได้ว้อยยยยย! พวกนายต้องไปกับฉัน ห้ามมีข้อต่อรอง” นิโคลเดินไปลากคอเพื่อนทั้ง 3 ของเขาออกมาจากเก้าอี้ “ลุกๆ”

 

 

          อาคารที่มีห้องของครูใหญ่เอไลจาห์อยู่ เป็นอาคารขนาดกลางสูง 3 ชั้นสีถ่าน แยกออกมาจากอาคารหลักที่พวกเอ็ดเวิร์ดใช้กันอยู่ประจำ อาคารนี้เป็นที่สำหรับครูของโรงเรียนมนตราพาเธนอนไว้ใช้เตรียมการสอน รวมถึงพักผ่อนในเวลาว่าง โดยปกติอาคารนี้ไม่อนุญาตให้นักเรียนเข้ามายุ่มย่าม เว้นแต่จะมาเพราะมีครูเรียกพบ หากมีเด็กนักเรียนลอบเข้ามาแล้วถูกจับได้ จะโดนลงโทษ หนักเบาขึ้นอยู่กับเหตุผลที่ลอบเข้ามาที่นี่

 

           เด็กหนุ่มสาวทั้ง 4 ค่อยๆ เดินกันไปอย่างเงียบเชียบ เพราะกลัวว่าถ้ามีครูคนใดมาเห็นเข้า พวกเขาขี้เกียจจะต้องตอบคำถามมากมายที่น่าจะโดนซัก และยิ่งถ้าหาเหตุผลดีๆ มารองรับไม่ได้ ก็คงไม่รอดโดนทำโทษแน่ๆ การหลบเลี่ยงสายตาของบรรดาครูดูจะเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด

 

           พวกเขาค่อยๆ ย่องขึ้นไปยังชั้น 3 ห้องในสุดซึ่งเป็นห้องของครูใหญ่ ระหว่างทางก็ช่วยกันสอดส่องหาความเคลื่อนไหวของใครก็ตามที่อยู่ที่นี่เพื่อหลบเลี่ยง แม้แต่เพื่อนทั้ง 3 คนที่อิดออดไม่ยอมมาด้วย แต่เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ที่พลาดไม่ได้แบบนี้ ก็ดูจะร่วมแรงร่วมใจกันได้อย่างดี

 

          เมื่อมาถึงหน้าประตูไม้บานใหญ่สีขาวที่อยู่ชั้น 3 ห้องในสุด หน้าประตูมีป้ายติดชื่อของครูใหญ่อยู่ เด็กทั้ง 4 มองหน้ากัน นิโคลค่อยๆ เอื้อมมือไปจะเคาะประตูห้อง ก็มีเสียงตะโกนจากข้างในออกมาเสียก่อน นิโคลรีบเอาหูเข้าไปแนบประตูด้วยความสนุก อีก 3 คนที่เหลือก็ทำอย่างเดียวกัน

 

          “หมายความว่ายังไงคะ ครูใหญ่ ผนึกนั่นเป็นมนตราที่แน่นหนาที่สุดแล้วนะคะ มันไม่น่าจะมีทางปลดผนึกได้สิ” เอ็ดเวิร์ดจำได้วถึงเสียงหญิงสาวที่ดังออกมา ต้องเป็นรองครูใหญ่สาว ไดอานี่ วิคตอเรียแน่นอน

 

          “จริงด้วยครับ ครูใหญ่ มนตรานั่นถึงกับต้องสังเวยชีวิตคนหนึ่งเพื่อสร้างผนึกขึ้นมาเลยนะครับ มันมีทางปลดผนึกได้จริงๆ หรอ” เสียงผู้ชายอีกเสียงที่ดังออกมา เอ็ดเวิร์ดไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใคร แต่เขาคิดว่าเขาไม่น่าจะเคยเจอเจ้าของเสียงนี้มาก่อนแน่ๆ

 

          “เท่าที่ฉันรู้ก็ไม่มีนะ” คราวนี้เป็นเสียงครูใหญ่เอไลจาห์ตอบกลับ “แต่การที่พวกนั้นเริ่มเคลื่อนไหว และกับการที่ฉันได้ไปคุยกับราชาแล้วก็ที่ปรึกษาส่วนพระองค์มา ก็ไม่สามารถหาข้อสรุปอะไรอื่นได้นอกจากว่าพวกนั้นรู้วิธีปลดผนึกได้แล้ว”

 

          เอ็ดเวิร์ดมองหน้าเพื่อนทั้ง 3 ของเขา สีหน้าของทุกคนไม่ต่างกัน ไม่ว่าเรื่องที่พวกเขาคุยกันในนั้นจะเป็นเรื่องอะไร แต่ทุกคนรู้ดีว่ามันต้องไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ๆ

 

          “ครูใหญ่คะ ฉันขอเสียมารยาทหน่อยเถอะค่ะ แต่ครูใหญ่ช่วยบอกให้พวกเรารู้ทีได้ไหมคะว่าสิ่งที่ถูกผนึกอยู่คืออะไรกันแน่” ไดอานี่คาดคั้น เอ็ดเวิร์ดสัมผัสได้ถึงความวิตกกังวลในน้ำเสียงนั้น

 

          “ได้สิ ยังไงทุกคนก็ต้องรู้เข้าสักวันอยู่แล้ว” ครูใหญ่ตอบรับด้วยน้ำเสียงจำนน “สิ่งที่พวกนั้นตั้งใจจะปลุกขึ้นมาอีกครั้ง ไม่ใช่วัตถุหรือใครที่พวกเธอไม่รู้จักหรอก กลับกันคนที่ถูกผนึกอยู่ในตอนนี้คือคนที่พวกเธอรู้จักกันดี ไม่สิ ไม่ใช่แค่พวกเธอหรอก ทุกคนในลิเบอร์ตันเลยต่างหาก”

 

          “อย่าบอกนะครับครูใหญ่...” เสียงชายหนุ่มอีกคนในห้องมีอาการตื่นกลัว

 

          “ใช่” ครูใหญ่เหมือนจะรู้สิ่งที่ชายหนุ่มคิด “พวกนั้นตั้งใจจะคืนชีพอาร์เธอร์ ผู้พิชิต”

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา