Pathenon โรงเรียนมนตราพาเธนอน

-

เขียนโดย OAZIS

วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 13.58 น.

  17 ตอน
  2 วิจารณ์
  8,970 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 19 กันยายน พ.ศ. 2564 15.16 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) เปิดประตู

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
บทที่ 4
เปิดประตู
 
          ขณะนี้ เอ็ดเวิร์ดยืนอยู่ลานกว้างหน้าบริเวณทางเข้าโรงเรียนมนตราพาเธนอน สถานที่เดียวกันกับที่เด็กๆ ทุกคนมารอเข้ารับการทดสอบ เขาอยู่ในเครื่องแบบของนักเรียนที่นี่ เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว กางเกงขายาวและรองเท้าหนังสีดำ สวมไทสีดำเช่นเดียวกัน เด็กหนุ่มกำลังรอการมาของเพื่อนของเขา นิโคล ไรเกอร์ และถ้าเป็นไปได้ เขาหวังว่าคงจะมีโอกาสได้เจอกับคู่อริที่ยังเคลียร์กันไม่จบดีอีกสักครั้ง
 
          วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรกของผู้ที่ผ่านการทดสอบเข้าเรียนที่นี่ รองครูใหญ่วิคตอเรียนัดให้เด็กทุกคนที่ผ่านการทดสอบมาเจอกันที่ลานกว้างเพื่อรวมตัวและเดินทางเข้าไปสู่พาร์เธนอนพร้อมๆ กัน
 
          เอ็ดเวิร์ดเหลือบมองไปที่นาฬิกาหินเรือนใหญ่ที่ติดประดับไว้ในผนังบริเวณประตูทางเข้าสู่โรงเรียน รองครูใหญ่นัดเวลารวมพลไว้ที่ 9 โมง ขณะนี้เป็นเวลา 8 โมง 55 แล้ว แต่เขายังไม่เห็นแม้แต่เงาของเพื่อนตัวดีเลย ในตอนที่เขากำลังจะเหลือบมองนาฬิกาอีกเป็นรอบที่ร้อย เสียงที่คุ้นหูก็ดังแว่วมาตามลมไกลๆ
 
          “ว่าไงพ่อหนุ่ม รอใครอยู่หรอจ๊ะ” เพื่อนตัวดีของเขาเอ่ยทักด้วยความยียวน ยังไม่ทันที่เอ็ดเวิร์ดจะได้เปิดปากบ่น คนตรงหน้าก็รีบพูดแทรกขึ้นมาก่อนทันที “ไปเถอะ เอ็ด ไปรวมตัวกันให้เรียบร้อยดีกว่า นี่ก็ใกล้จะได้เวลาที่รองครูใหญ่นัดแล้ว”
 
          แม้เอ็ดเวิร์ดจะบ่นงุบงิบๆ อยู่คนเดียวถึงไอ้เพื่อนตัวแสบของเขา แต่เด็กหนุ่มก็เดินตามเพื่อนของเขาที่ตอนนี้เดินยิ้มนำหน้าไปหากลุ่มเด็กๆ ข้างหน้าอย่างว่าง่าย
 
          “นี่ปกติคนที่ผ่านการทดสอบน้อยอย่างนี้ทุกรุ่นเลยไหมเนี่ย” นิโคลหันมากระซิบถามเอ็ดเวิร์ดด้วยเสียงแผ่วเบาหลังจากเข้ามารวมกลุ่มกับคนที่เหลือแล้ว
 
          เอ็ดเวิร์ดเพิ่งสังเกตว่าเด็กที่ผ่านการทดสอบที่อยู่ตอนนี้มีไม่ถึง 40 คนด้วยซ้ำ ไม่สิ ถ้าจะพูดว่ามีสัก 30 กว่าคนเห็นจะถูกต้องกว่า “ไม่รู้สิ ฉันก็เพิ่งสังเกตนี่แหละ จากเด็กหลายร้อย เหลือไม่กี่สิบ เวทมนตร์นี่มันหายากกว่างมเข็มในมหาสมุทรอีกนะเนี่ย ฉันว่า”
 
          “แน่ล่ะ ทุกคนถึงเฝ้าฝันที่จะมีเวทมนตร์ไง อ้อ จะยกเว้นก็คงนายคนหนึ่งล่ะ” นิโคลกระทุ้งศอกเข้าที่หน้าท้องของเอ็ดเวิร์ดเบาๆ เป็นเชิงหยอก แล้วเขาก็หัวเราะหึๆ ในลำคอเมื่อนึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ “ว่าแต่ นายเจอสาวน้อยมหัศจรรย์คนนั้นหรือยังล่ะ ผู้เข้าแข่งขันอีกคนในการแข่งขันหัวข้อ “ทำอย่างไร ให้นายเอ็ดเวิร์ดโมโห” น่ะ”
 
          “ฮ่าๆๆ ตลกจริงเลยนะครับ คุณไรเกอร์ แล้วคุณไรเกอร์สนใจสมัครเข้าแข่งขันรายการนี้ด้วยไหมล่ะครับ” เอ็ดเวิร์ดพูดตลกหน้าตายใส่เพื่อนของเขา ยิ่งเรียกเสียงหัวเราะให้ระเบิดจากคนข้างๆ ได้ดียิ่งขึ้น
 
           “ขอผ่านดีกว่าครับ คุณฟอร์บส์ กระผมขอเป็นเพียงผู้ชมน่ารักๆ อยู่ข้างสนามแข่งดีกว่าครับ”
 
          เอ็ดเวิร์ดหันกลับไปมองรอบตัวอีกครั้งก็พบว่ามีเด็กเพิ่มขึ้นมาในกลุ่มอีก 3-4 คน ซึ่งนั่นรวมถึงโจทก์ของเขาทั้ง 2 คนนั้นด้วย เขาทำท่าจะเดินเข้าไปหาเด็กสาวเพื่อเคลียร์ปัญหาที่ยังสะสางกันไม่เสร็จ เสียงระฆังก็ดังขึ้นก่อนเป็นสัญญาณบอกถึงเวลานัดหมาย ประตูหินสีดำบานใหญ่เปิดออก ตามมาด้วยร่างอรชรของหญิงสาวที่เด็กทุกคนตรงนี้ต่างคุ้นเคย หญิงสาวเจ้าของแววตาคมกริบ 1 ใน 4 หัวหน้าครูของพาเธนอน ดาร์ลีน ลินช์ ผู้ที่เป็นกรรมการทดสอบร่วมกันกับครูซ แกสตัน
 
           หญิงสาวเดินเข้ามาประจันหน้ากับกลุ่มเด็กๆ ที่รวมตัวกันอยู่ พลางไล่สายตาคมกริบผ่านกรอบแว่นดูเด็กทุกคนแบบเรียงตัว “ดูเหมือนจะมากันครบสินะ ดีมาก ปกติคนที่รับหน้าที่ต้อนรับพวกเธอนี้จะเป็นรองครูใหญ่วิคตอเรีย แต่วันนี้ท่านติดธุระด่วน ครูจึงจะเป็นคนรับหน้าที่นี้เอง พวกเธอคงได้รับตารางเรียนสำหรับเทอมนี้กันแล้วสินะ แต่สำหรับการเรียนช่วงเช้า ลืมไปซะ ช่วงเช้าจะเป็นการพาพวกเธอไปทำความรู้จักและสร้างความคุ้นเคยกับพื้นที่โรงเรียนในบริเวณที่พวกเธอจะได้เข้าไปใช้ชีวิตกัน ตามมา”
 
          ดาร์ลีนหันหลังกลับและเริ่มเดินนำไป กลุ่มนักเรียนพากันเดินตาม ประตูหินเปิดออกอีกครั้งโดยอัตโนมัติ เอ็ดเวิร์ดพยายามมองหากลไกลการทำงานของมัน เขาก็ไม่พบสวิตซ์หรือคันโยกที่ใช้เปิดประตูนี่เลย แม้แต่ลูกบิดหรือที่จับบนประตูยังไม่มีเสียด้วยซ้ำ เหมือนเอ็ดเวิร์ดจะไม่ใช่คนเดียวที่สงสัยในเรื่องนี้ มีนักเรียนอีก 5-6 คนมองซ้ายขวาพยายามหาคำตอบเช่นเดียวกับเขา และเหมือนดาร์ลีนจะพอเดาได้จากอาการของเหล่านักเรียน เธอจึงชิงให้คำตอบเสียก่อน
 
         “ประตูทางเข้าโรงเรียนของเรามีการลงมนตราป้องกันการบุกรุกไว้ คนที่จะผ่านประตูนี้เข้ามาสู่พื้นที่ภายในโรงเรียนได้จำเป็นจะต้องปลดปล่อยพลังเวทออกมาเล็กน้อยพอให้ประตูสัมผัสได้ มันจึงจะเปิดออกให้ แน่นอนว่ารวมถึงการออกไปจากโรงเรียนด้วย ดังนั้น จึงไม่มีทางเลยที่คนภายนอกซึ่งไม่ใช่บุคลากรของโรงเรียนจะสามารถเข้ามาภายในอาคารของโรงเรียนได้ ทางเดียวที่จะเข้ามาได้ คือ การได้รับอนุญาตจากบุคลากรระดับหัวหน้าครูขึ้นไปเท่านั้น อ้อ ยกเว้นจอมเวทย์ที่เรียนจบแล้วกับพวกจอมเวทย์นอกกฎหมายล่ะนะ แต่กรณีหลังไม่ค่อยเกิดบ่อยนักหรอก หากจอมเวทย์นอกกฎหมายเข้ามาในโรงเรียนก็มีโอกาสสูงที่จะถูกจับส่งทางการ”
 
          “แล้วอย่างนี้ถ้าพวกเราอยากจะออกไปข้างนอกล่ะคะ” เด็กสาวผิวสีคนหนึ่งยกมือถามขึ้น
 
         “ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก กว่าจะถึงเวลาที่พวกเธอจำเป็นต้องใช้ประตูนี้อีกครั้ง ถึงตอนนั้นพวกเธอคงสามารถควบคุมพลังเวทได้พอที่จะเปิดปิดประตูนี้ได้แล้วล่ะ” ดาร์ลีนหันกลับมายิ้มมุมปากให้เหล่านักเรียนพร้อมใช้นิ้วขยับแว่นตาให้เข้าที่ “แต่ก็นะ ถ้าถึงตอนนั้นพวกเธอคนใดคนหนึ่งยังไม่สามารถเปิดประตูนี้ได้ล่ะก็ ครูก็ขอให้มีความสุขกับเรือนจำส่วนตัวที่ชื่อพาเธนอนนะ”
 
          เด็กนักเรียนบางคนอ้าปากค้างกับคำเตือนและรอยยิ้มที่ดูช่างเยือกเย็นของครูสาวตรงหน้า ดาร์ลีนหันหลังกลับ ขณะนี้ทุกคนเดินผ่านบานประตูเข้ามาแล้ว สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าทุกคนในตอนนี้ คือ รูปปั้นสีขาวบริสุทธิ์ขนาดเท่าคนจริงอยู่ เป็นรูปร่างของชายหนุ่มคนหนึ่ง ร่างกายกำยำเต็มไปด้วยมัดกล้าม สวมชุดเกราะออกศึก มือข้างหนึ่งถือดาบเล่มยาวชูขึ้นสู่ท้องฟ้า ตัวรูปปั้นตั้งอยู่บนที่ตั้งหินซึ่งแกะสลักเป็นเสาขนาดใหญ่ มีชื่อของต้นแบบรูปปั้นนี้แกะสลักไว้ ดาร์ลีนเริ่มอธิบายถึงประติมากรรมตรงหน้า
 
         “นี่คือรูปปั้นของอาร์เธอร์ ผู้พิชิต ชายผู้รวมลิเบอร์ตันให้เป็นหนึ่งเดียว รายละเอียดเพิ่มเติม พวกเธอก็คงจะได้รู้จากวิชาประวัติศาสตร์ล่ะนะ เอาล่ะ ไปกันต่อ”
 
         ด้านหลังรูปปั้นของอาร์เธอร์ ทางซ้ายและขวา มีอุโมงค์ขนาดใหญ่อยู่ ภายในอุโมงค์มีบันไดทางเชื่อมที่นำไปสู่อีกอาคารหนึ่งได้ ดาร์ลีนชี้ไปที่บันไดทางเชื่อมไปสู่อาคารด้านซ้าย “บันไดทางเชื่อมทางด้านซ้ายของพวกเธอจะพาไปสู่อาคารปีกซ้าย ซึ่งจะเป็นหอนอน รวมถึงห้องนั่งเล่น ห้องสันทนาการ ห้องอาหาร และห้องอื่นๆ สำหรับการพักผ่อนด้วย พูดง่ายๆ ก็คือเป็นอาคารส่วนตัวสำหรับพักผ่อนของเด็กปี 1 อย่างพวกเธอ คำถาม”
 
            เด็กชายผิวสีร่างสูงใหญ่คนหนึ่งยกมือขึ้นถาม “มีการแบ่งหอนอนยังไงครับ”
 
          “หอนอนมีการแบ่งแค่ชายหญิง ทำความรู้จักเพื่อนเพศเดียวกันในกลุ่มตอนนี้ไว้คร่าวๆ ก็ดีนะ ว่าที่เพื่อนร่วมห้องพวกเธอทั้งนั้น” ดาร์ลีนตอบหน้าตาย “แต่พวกเธอไม่ต้องกังวลไปนะ ที่นี่ไม่ใช่โรงเรียนประจำ เพียงแต่มีหอนอนไว้รองรับนักเรียนที่ไม่ต้องการเดินทางกลับบ้านทุกวัน แต่ถ้าพวกเธอคนไหนต้องการเดินทางไปกลับก็สามารถทำได้ ในกรณีที่พวกเธอสามารถเปิดปิดประตูทางเข้าได้แล้ว” 
 
         เมื่อเหล่านักเรียนไม่มีใครมีคำถามอะไรเพิ่มเติม ดาร์ลีนก็ชี้ไปที่บันไดทางเชื่อมไปสู่อาคารด้านขวา "ส่วนบันไดทางเชื่อมทางด้านขวาของพวกเธอนี้จะพาไปสู่อาคารปีกขวา ซึ่งเป็นอาคารเรียนของปี 1 การเรียนการสอนในโรงเรียนมนตราทุกแห่งจะแบ่งออกเป็น 4 ปี สำหรับพาเธนอน อาคารเรียนของปี 1 ถึงปี 4 จะแยกจากกันต่างหาก ไม่ได้เรียนรวมกันทุกชั้นปี นอกจากห้องเรียนแล้ว ก็จะมีห้องสมุด ห้องวิจัย แปลงผักสำหรับวิชาสมุนไพรศึกษาก็จะอยู่ทางด้านนี้ด้วย แล้วก็ห้องอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับการเรียน เอาไว้พวกเธอค่อยไปสำรวจเอาเองก็แล้วกัน คำถาม”
 
          เหล่านักเรียนเงียบแทนคำตอบ ดาร์ลีนจึงหันหลังเดินไปสู่ลานกว้างด้านหน้า “ในส่วนสุดท้ายครูจะแนะนำสำหรับช่วงเช้านี้ ตามมา”
 
         ลานกว้างด้านหน้าถูกปูด้วยคอนกรีตสีสันสวยงาม ลานสว่างไสวไปด้วยแสงแดดที่สาดส่องลงมาผ่านหลังคากระจกใสด้านบน ลานกว้างนี้ถือเป็นลานที่กว้างที่สุดเท่าที่เอ็ดเวิร์ดเคยเห็นมาเลยในชีวิต แม้จะลองเพ่งตามองไปจนสุด เขาก็ยังไม่อาจเห็นปลายขอบของลานกว้างนี้ได้เลย
 
          เอ็ดเวิร์ดสังเกตเห็นคนเดินผ่านไปผ่านมาเป็นเงาอยู่ไกลๆ กะด้วยสายตาน่าจะมีไม่เกิน 5 คน กระจายกันอยู่ตามพื้นที่บนลานกว้าง บ้างก็นั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่บนม้านั่ง บ้างก็เดินไปเดินมา แต่เนื่องด้วยระยะทาง เขาไม่สามารถมองเห็นหน้าของคนเหล่านั้น ไม่แม้แต่จะสามารถระบุเพศของพวกเขาได้ด้วยซ้ำ
 
          “ที่นี่คือลานตามประสงค์ ลานนี้กินพื้นที่ไป 1 ใน 4 ของโรงเรียน พวกเธอลองไปคำนวณกันเล่นๆ ดูนะว่าลานนี้มีขนาดเท่าไร” ดาร์ลีนเห็นเด็กบางคนยกนิ้วขึ้นมานับ บางคนก็ทำปากขมุบขมิบ หญิงสาวไม่ให้เวลาเด็กๆ คิดคำนวณนานนัก เธอก็เริ่มอธิบายต่อ “พวกเธอสามารถใช้เวลาที่ลานนี้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง จะใช้เป็นที่อ่านหนังสือ ฝึกเวทมนตร์ พบปะเพื่อนหรือรุ่นพี่ หรือทำกิจกรรมใดๆ ก็ได้ทั้งนั้นตามใจพวกเธอเลย อ้อ! พูดถึงรุ่นพี่ ลานนี้เป็นสถานที่เดียวในโรงเรียนนี้เท่านั้นที่อนุญาตให้พวกเธอจะสามารถพบเจอรุ่นพี่ได้ อย่างที่ครูได้บอกไป อาคารเรียนและหอนอนของทั้ง 4 ชั้นปีแยกจากกันต่างหาก ถ้าพวกเธอลองมองตรงไปบริเวณกำแพงของลานที่อยู่ไกลลิบๆ นั่น พวกเธอจะเห็นอุโมงค์บันไดทางด้านซ้ายขวาที่นำไปสู่หอนอนและอาคารเรียนของพวกปี 2 และถัดไปอีกนั้น (ไกลมากจนไม่สามารถมองเห็นได้) ก็จะเป็นของพวกปี 3 และปี 4 ตามลำดับ
 
        นอกจากนี้ ลานนี้จะเป็นสถานที่กระจายข่าวสารของทางโรงเรียนด้วย บริเวณกำแพงทั้ง 2 ด้านของลานกว้างนี้จะมีกระดานข่าวสารอยู่ ไม่เพียงแต่ข่าวสารของทางโรงเรียนเท่านั้น แต่เป็นข่าวสารการเคลื่อนไหวทั้งหมดของลิเบอร์ตัน ในบางกรณีหากเป็นเรื่องเร่งด่วนอาจมีเสียงตามสายประกาศให้ทราบกันด้วย
 
โดยปกติลานตามประสงค์นี้จะเว้นว่างไว้ให้พวกเธอสามารถทำกิจกรรมอะไรก็ได้ที่นี่ แต่ในบางครั้ง ลานนี้ก็จะใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมของทางโรงเรียนด้วย เช่น การสอบ กิจกรรมภายในพาเธนอน กิจกรรมระหว่างโรงเรียนมนตราด้วยกัน ในกรณีที่เราเป็นเจ้าภาพนะ ดังนั้น ครูก็อยากให้พวกเธอคอยติดตามข่าวสารของทางโรงเรียนด้วยแล้วกัน คำถาม”
 
          เด็กสาวร่างท้วมคนหนึ่งยกมือขึ้น อ้าปากกำลังจะถามคำถาม แต่ยังไม่ทันได้ถามคำถามใดๆ พื้นคอนกรีตในลานอเนกประสงค์ก็พลันแปรเปลี่ยนกลายเป็นพื้นหญ้าสดเขียวขจี เอ็ดเวิร์ดสัมผัสได้ถึงลมเย็นๆ อบอวลไปด้วยกลิ่นดอกไม้ที่หอมหวนมาปะทะเบาๆ ที่ใบหน้า ในขณะที่ทุกคนกำลังพากันตกใจ ดาร์ลีนก็ชิงให้คำตอบก่อน 
 
        “ไม่ต้องตกใจหรอก ครูใหญ่ท่านลงมนตราไว้ที่ลานนี้ ทุกๆ 6 ชั่วโมง สภาพแวดล้อมและทิวทัศน์ภายในบริเวณล้านกว้างนี้จะเปลี่ยนไป เท่ากับว่าใน 1 วันลานนี้จะเปลี่ยนไปมาทั้งหมด 4 ครั้ง แต่จะมี 1 ช่วงเวลาที่แน่นอนที่ลานนี้จะมีสภาพเป็นลานปกติอย่างที่เธอเห็นครั้งแรก ที่ผ่านมาที่เคยเปลี่ยนไปก็มีตั้งแต่ลานทราย ลานดิน ลานน้ำ หรือแม้กระทั่งผืนป่าดงดิบ ครูใหญ่ท่านให้เหตุผลว่าต้องการฝึกให้นักเรียนเตรียมพร้อมรับมือกับทุกๆ สถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น แต่ครูว่านั่นก็แค่ข้ออ้างให้ท่านหาเรื่องเล่นสนุกกับนักเรียนอย่างพวกเธอเท่านั้นแหละ” ดาร์ลีนขมวดคิ้วพร้อมกับส่ายหน้าระอากับความขี้เล่นของครูใหญ่แห่งพาเธนอน
 
         “แบบนี้ก็ได้หรอ” นิโคลหันไปกระซิบกระซาบกับเอ็ดเวิร์ด “ฉันว่ามันจะสนุกไม่ออกเอานะอีแบบนี้”
 
         ดาร์ลีนใช้นิ้วชี้ดันแว่นให้เข้าที่ “เช่นเดียวกับข่าวสารอื่นๆ ของทางโรงเรียน ช่วงระยะเวลาและสภาพทิวทัศน์ที่จะเปลี่ยนไปของลานตามประสงค์นี้ พวกเธอสามารถตรวจสอบได้จากกระดานข่าวสาร ยังไงก็มาเลือกช่วงเวลาใช้ลานให้ตรงกับความตั้งใจที่จะมาใช้หน่อยละกันนะ”
 
         เด็ก 2-3 คนหนึ่งเดินเข้าไปดูที่กระดานข่าวสารที่ใกล้ที่สุด และเด็กสาวคนหนึ่งหันหน้ามาถามหญิงสาว “แต่ช่วงเวลาที่ใกล้ที่สุดที่ลานนี้จะเปลี่ยนไปไม่ใช่ตอนนี้นี่คะ ครูลินช์”
 
         ดาร์ลีนถอนหายใจพร้อมให้คำตอบ “ถ้าอย่างนั้นก็คงคิดได้อย่างเดียว ครูใหญ่ท่านคงแค่อยากโชว์ศักยภาพของลานนี้ให้พวกเธอเห็นเท่านั้นแหละ”
 
         เด็กบางคนทำหน้าเหวอกับคำตอบ เอ็ดเวิร์ดรีบหันไปกระซิบกับเพื่อนข้างตัวอย่างแผ่วเบาทันที “ฉันว่าชื่อเต็มๆ ของไอ้ลานนี่ ต้องเป็น “ลานตามประสงค์ของครูใหญ่” แน่ๆ” นิโคลพยักหน้ารับรัวพร้อมกับพยายามกลั้นขำ
 
         “เอาล่ะ” ดาร์ลีนเริ่มพูดต่ออีกครั้ง พอดีว่าครูเองก็มีธุระให้ต้องไปจัดการต่อเหมือนกัน ในเมื่อไม่มีคำถามอะไรแล้ว ก็ใช้เวลาส่วนตัวให้เต็มที่ แล้วอย่าลืมเตรียมตัวเข้าเรียนช่วงบ่ายกันนะ โชคดี” ดาร์ลีนพูดจบก็หันหลังเดินออกไปสู่ลานกว้างทันที ทิ้งให้พวกเด็กๆ ที่เหลือยังคงงุนงงกันว่าต้องทำอะไรต่อไป
 
          เอ็ดเวิร์ดกับนิโคลหันหน้ามาสบตากัน นี่พวกเขาเพิ่งก้าวเท้าเข้ามาในโรงเรียนได้ไม่เท่าไร ก็ต้องมาเจอเรื่องเยอะแยะขนาดนี้ แล้วชีวิตที่เหลือที่จะต้องอยู่ที่นี่ต่อไปล่ะจะเป็นอย่างไร แม้ทั้งสองคนจะคิดเช่นเดียวกัน แต่ปฏิกิริยาตอบรับกลับแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งคิดแล้วก็ขมวดคิ้วและถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย เด็กหนุ่มอีกคนกลับยิ้มร่าอย่างนึกสนุก
 
          เมื่อทุกคนเริ่มกลับมาตั้งตัวได้อีกครั้ง ก็จับกลุ่มแยกย้ายกันไปตามทางที่ตนเองต้องการ เอ็ดเวิร์ดกับนิโคลตัดสินใจกันว่าจะเอาของไปเก็บไว้ที่อาคารปีกซ้ายก่อน หลังจากนั้นก็จะไปหาอาหารกินเติมพลัง และเตรียมตัวเพื่อเข้าเรียนช่วงบ่ายต่อไป
          
          
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา