ชื่อเรื่อง ยังไม่มี

7.0

เขียนโดย PMTV

วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 22.35 น.

  54 ตอน
  6 วิจารณ์
  24.27K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2564 15.27 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

54) ตอนที่ 53

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

                            ตื่นเช้ามาผมก็อ่าบน้ำแต่งตัวลงไปข้างล่าง

 

ทานากะ-อรุณสวัสดิ์ครับ

ผม-อืม

ริน-อาหารเช้าพร้อมแล้วค่ะ

ผม-ไม่เอาครับผมจะต้องรีบไปทำงาน

ทานากะ-เอ่อ…..…..ถ้าทำแบบนั้นคุณผู้หญิงจะว่าเอานะครับ

ผม-ช่วยจัดการให้ทีได้มั้ย

ทานากะ-ตะ..แต่ว่า…..

 

                        ในระหว่างที่ผมยืนคุยกับทั้งคู่อยู่นั้นอายะก็ได้เดินเข้ามาสมทบเพิ่มอีกคน

 

อายะ-คุณท่านคะจะไม่ทานข้าวเช้าที่บ้านก็ไม่เป็นอะไรหรอกนะคะ ดิฉันให้รูริซังทำอาหารเช้าใส่กล่องเตรียมไว้ให้แล้วค่ะ

ทานากะ-นั่นสิครับ! ยังไงก็ติดไปทานในรถก็ได้นะครับ

ผม-เฮ้ออออ!!! นี่ฮารุสั่งให้ดูแลผมขนาดไหนกันเนี้ย

ทานากะ-โฮ๊ะๆ ทุกเรื่องเลยครับ

ผม-………….อืม งั้นผมไปทำงานก่อนนะ ช่วยผมขนเอกสารหน่อยได้มั้ย

อายะ-พวกเราช่วยกันขนเข้าไปในรถแล้วค่ะ

ทานากะ-กระผมเองก็ได้สั่งให้รถมารอคุณท่านที่หน้าบ้านเรียบร้อยแล้วครับ

 

                          นี่คือผมยังไม่ต้องพูดหรือสั่งอะไรเลยทุกคนก็ทำไว้รอผมหมดแล้ว

 

ผม-รู้ใจกันจริงๆ เลยนะ

ทานากะ-โฮ๊ะๆ นิสัยของเจ้านายตัวเองทุกคนในบ้านนี้ไม่มีใครไม่รู้หรอกนะครับ

อายะ-ใช่ค่ะ ถ้าเมื่อคืนทานากะซังไม่ห้ามคุณท่านเอาไว้ ก็คงจะนั่งทำงานไปเรื่อยๆ จนถึงตอนเช้าอีกแน่นอนค่ะ

ริน-พวกเราก็เลยช่วยกันจัดเตรียมทุกอย่างเอาไว้ให้คุณท่าน ไม่ว่าจะอาหารกล่องหรืออาหารเช้าที่บ้านค่ะ

ผม-ขะ..ขอบคุณครับ

ทานากะ-ถ้าอย่างงั้นกระผมจะถือกระเป๋าและเดินไปส่งที่รถนะครับ

ผม-อืม

 

              หลังจากนั้นผมก็เดินออกมาที่หน้าบ้านรถฮารุได้จัดเตรียมรอผมเอาไว้เรียบร้อย พร้อมคนขับรถที่หน้าตาแปลกๆ

 

ผม-………..ยะ..อย่าบอกนะว่า

ทานากะ-อย่างที่คุณท่านคิดนั่นแหละครับ วันนี้ คนที่จะขับรถและคอยดูแลคุณท่านจะเป็นเก็นจิซังครับ

ผม-นี่จะให้เก็นจิมันมาดูแลผมหรือจะให้ผมไปดูแลมันกันแน่ครับ!

ทานากะ-เก็นจิซังไม่สร้างปัญหาให้คุณท่านอยู่แล้วล่ะครับ

ผม-ทะ..ทำไม

ทานากะ-ก็เพราะในบ้านนี้เก็นจิฟังคำสั่งคุณท่านมากที่สุดนี่ครับ

ผม-เฮ้ออ!!! งานช่วงนี้ผมก็เยอะด้วยนะครับ!!

ทานากะ-แต่นี่คุณผู้หญิงเป็นคนสั่งไว้นะครับ

เก็นจิ-ละ..ลูกพี่

ผม-เออๆๆ!!!!รู้แล้วรีบๆ ขับรถไปที่บริษัทได้แล้ว!!

ทานากะ-ขอให้เดินทางปลอดภัยนะครับ

 

 

หลังจากนั้นผมก็ต้องนั่งรถที่เก็นจิขับให้ และมีกองเอกสารวางกองอยู่ข้างๆ ในระหว่างนั่งรถไปผมก็พยายามนั่งกินข้าวไปด้วยแต่ไอ้

เก็นจิมันขับรถได้เหมือนผมเป๊ะ ปาดไปปาดมา มันขับรถได้ห่วยมากๆ

 

 

ผม-เห้ยเก็นจิ!!!ขับรถให้มันดีๆ หน่อยดิวะ ข้าจะกินข้าวโว้ย!!!

เก็นจิ-ทะ..ทราบแล้วครับ

 

 

หลังจากนั้นมันก็ขับดีขึ้นมานิดหนึ่งใช่….. นิดเดียวจริงๆ สุดท้ายผมก็พอได้กินข้าวถึงจะไม่อิ่มก็เถอะไม่นานนักก็มาถึงที่บริษัท

ผมก็ให้เก็นจิมันขนแฟ้มเอกสารที่ยังไม่ได้ทำขึ้นมาบนห้องทำงาน

 

นานามิ/ซานาเอะ-อรุณสวัสดิ์ค่ะ

ผม-ครับ

นานามิ-เมื่อคืนทำงานไม่ได้นอนอีกแล้วใช่มั้ยคะ

ผม-ผมนอนครับถึงจะแค่แป๊บเดียวก็เถอะ พอตื่นมาก็รีบมาทำงานนี่แหละครับ

ซานาเอะ-แล้วมีเอกสารให้พวกดิฉันลงไปช่วยขนมั้ยคะ เมื่อคืนเอากลับไปตั้งเยอะ

ผม-ไม่เป็นไรครับ เก็นจิแกลงไปขนเอกสารขึ้นมาให้หมดด้วยนะ

เก็นจิ-ทราบแล้วครับ

 

                                     เก็นจิมันก็ลงไปขนแฟ้มเอกสารที่เหลือขึ้นมาข้างบน

 

ผม-งั้นพวกเราแยกย้ายกันไปทำงานเถอะนะครับ

นานามิ-เดี๋ยวจะยกน้ำเข้าไปให้นะคะ

ผม-ครับ

 

 

หลังจากนั้นผมก็เข้ามานั่งทำงานส่วนเก็นจิมันก็ขนเอกสาร3-4รอบก็เสร็จ พอมันขนเสร็จมันก็มายืนคอยดูแล ทั้งเรื่องน้ำและขนมให้

ผม แต่ส่วนตัวมันดันซื้อกาแฟมากินต่อหน้าผมในเวลาแบบนี้

 

ผม-เห้ย!!! เอากาแฟมาแดกบ้างเด๊ะไอ้เก็นจิ!!!

เก็นจิ-ตะ…แต่ว่า

ผม-เร็วๆ ข้าง่วงมากงานก็ต้องรีบทำนะเห้ย!!

เก็นจิ-ตะ..แต่คุณผู้หญิงสั่งเอาไว้ไม่ให้ลูกพี่กินกาแฟนะครับ

ผม-ข้าไม่สน!!!นี่เป็นคำสั่ง!!

 

ไอ้เก็นจิมันก็ทำท่าลังเลอยู่นาน และมันก็ทำท่าเหมือนจะยื่นแก้วกาแฟมาให้ผม แต่สุดท้ายมันกลับยกแก้วกินกาแฟจนหมดในรวด

เดียวเลย

 

เก็นจิ-ขะ..ขอโทษด้วยนะครับลูกพี่พอดีกาแฟมันหมดแล้ว

ผม-ไอ้เด็กเหี้ย!!!!!

 

ผมทะเลาะกับเก็นจิเสียงดังมากๆ จนนานามิกับซานาเอะต้องรีบเปิดประตูเข้ามาดู

 

นานามิ-บิกคุซังเป็นอะไรรึเปล่าคะ!!

ซานาเอะ-ให้เรียกยามมาดีมั้ยคะบิกคุซัง!!

 

 

ผมกับเก็นจิก็หันไปมองทั้งคู่แบบงงๆ คือเมื่อกี้พวกเราก็เสียงดังกันจริงๆ นั่นแหละและแถมพวกเรายังใช้ภาษาไทยคุยกันอีกคงทำให้

ทั้งคู่ที่ฟังไม่รู้เรื่องเข้าใจผิดคิดว่าพวกเราทะเลาะกัน

 

ผม-อะ..เอ่อ

นานามิ-มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่าคะ

ผม-คะ..คือว่า

เก็นจิ-ก็คุณท่านหน่ะสิครับ จะเอากาแฟของผมไปดื่มให้ได้ ผมก็เตือนคุณท่านไปแล้วนะครับว่าคุณผู้หญิงสั่งห้ามคุณท่านดื่ม

กาแฟ

นานามิ-เอ๊ะ!!! ใช่แล้วค่ะ!

ผม-ตะ..แต่ว่านานามิซัง ผมง่วงมากเลยตอนนี้ ช่วยลงไปซื้อกาแฟ

นานามิ-ไม่ได้ค่ะ!!!

ซานาเอะ-ไม่ว่าเรื่องอะไรพวกเราก็ยินดีที่จะช่วยนะคะ แต่ถ้าเป็นเรื่องกาแฟดิฉันก็คิดว่าท่านประธานควรเลิกหวังและมาช่วยกันหาวิธีอื่นดีมั้ยคะ

ผม-ตะ..แต่ ซานาเอะซังนี่เป็นคำสั่งนะครับ ชะ..ช่วยลงไปซื้อกาแฟ

นานามิ-ถ้าท่านรองประธานอยากจะดื่มกาแฟให้ได้จริงๆ งั้น เดี๋ยวดิฉันจะโทรไปถามคุณหนูให้นะคะ

 

 

                พูดจบนานามิก็รีบกดมือถือโทรหาฮารุทันทีซึ่งฮารุก็รับทันทีไม่มีเวลาให้ผมบอกปฏิเสธเลย

 

นานามิ-สวัสดีค่ะคุณหนู

             

                ผมก็รีบทำไม้ทำมือว่าไม่เอาแล้วไม่เอากาแฟแล้ว วางสายไปเถอะนะๆ

 

นานามิ-ค่ะ

นานามิ-อ๋อ!!!ดิฉันแค่จะโทรมาถามคุณหนูค่ะว่า อาหารกลางวันของท่านรองประธานจะเอาเป็นเมนูไหนดีคะ ระหว่างข้าวหมูทอดหรือข้าวแกงกะหรี่

นานามิ-ทราบแล้วค่ะ ดิฉันจะเตรียมไว้ให้ค่ะ

นานามิ-ค่ะ สวัสดีค่ะคุณหนู

 

และนานามิก็วางสายไป

 

ผม-เฮ้อออ!!! เกือบไปแล้วนะ

นานามิ-ถ้าท่านรองประธานยังดื้อเรื่องกาแฟอีก ดิฉันจะโทรฟ้องคุณหนูจริงๆ นะคะ

ผม-ครับๆ ไม่เอากาแฟแล้วครับ

นานามิ-ฮิฮิค่ะ!!

ซานาเอะ-ถ้าอย่างงั้น สั่งพวกชุดของว่างและชาร้อนหอมๆ มาทานแก้ง่วงดีมั้ยคะ

นานามิ-นั่นสิ!! อาจจะช่วยได้นะคะ

ผม-งะ..งั้นฝากด้วยนะครับ ยังไงผมก็ไม่มีทางเลือกอยู่แล้วนี่

นานามิ-งั้นเดี๋ยวดิฉันจะไปเอาน้ำองุ่นเย็นๆ ที่บิกคุซังชอบมาให้ก่อนนะคะ

ผม-ที่นี่ก็มีน้ำองุ่นหรอ

นานามิ-เมื่อวานดิฉันมีโอกาสได้คุยกับอายะซังค่ะ ก็เลยรู้ว่าปกติบิกคุซังชอบดื่มน้ำองุ่นแบรนด์ไหน

ซานาเอะ-พวกเราสั่งมาเตรียมไว้เต็มตู้เย็นเลยนะคะ

ผม-ครับๆ ขอบคุณนะครับ

 

 

หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ออกไปไม่นานนักนานามิก็เอาน้ำองุ่นเย็นๆ มาให้ผม ผมก็นั่งทำงานต่อไปเรื่อยๆ แน่นอนว่าทั้งน้ำชา ขนม และ

อาหารกลางวัน ถูกเอามาเสริฟ์อย่างต่อเนื่อง จนผมคิดว่ามันเยอะเกินไปเพราะถ้าต้องมานั่งกินทั้งหมดคงเสียเวลาไปนานมากๆ และก็

ด้วยความที่เป็นเก็นจิมันถึงกล้าที่จะเข้ามาบอก (บังคับ) ให้คอยกินข้าวกินขนม และมันถึงจะยอมไม่มากวนหรือไม่มาคอยพูดนั่นพูดนี่

เวลาผมทำงาน ผมนั่งทำงานจนถึงเย็นเอกสารก็ไม่ได้ลดลงเลยจนบางครั้งผมเริ่มรู้สึกท้อที่ต้องมานั่งทำงานคนเดียว

 

ก๊อกๆ

นานามิ-ขออนุญาตนะคะ เมื่อกี้คุณนายโทรมาบอกให้บิกคุซังเลิกงานได้แล้วค่ะ

ผม-ห๊ะ!! คุณแม่หรอ

นานามิ-ใช่ค่ะ นี่มันก็มึดแล้วนะคะบิกคุซัง

 

พอนานามิพูดผมก็เลยรีบหันไปมองนาฬิกา ตอนนี้มันเกือบจะ2ทุ่มแล้ว

 

ผม-เข้าใจแล้วครับ เก็นจิเก็บของซะ

เก็นจิ-ทราบแล้วครับ

 

 

หลังจากนั้นเก็นจิมันก็เดินมาเก็บแฟ้มเอกสารที่ยังไม่ได้ทำขนกลับไปที่รถส่วนผมก็เอาแฟ้มเอกสารที่เส็รจทั้งหมดออกมาให้นานามิ

และซานาเอะที่โต๊ะ ในระหว่างที่ผมยืนคุยเรื่องงานกับทั้งคู่อยู่ มือถือก็ดัง ผมก็รีบรับเพราะคิดว่าเป็นฮารุโทรมาตามให้กลับบ้านแต่

กลับไม่ใช่ฮารุ

 

ผม-ฮัลโหลฮารุ

ทาเคดะ-โทษทีนะที่ไม่ใช่ฮารุ นี่ข้าเอง

ผม-อ๊ะ!!! สวัสดีครับ ทาเคดะซัง ขอโทษนะครับผมคิดว่าฮารุโทรมาตามให้รีบกลับบ้าน

ทาเคดะ-ฮ่ะๆๆ ไม่เป็นไรๆ จริงสิ เลิกงานแล้วพอจะมีเวลาว่างหน่อยมั้ย

ผม-เวลาว่างหรือครับ…….ทาเคดะซังมีงานด่วนให้ผมทำหรอครับ

ทาเคดะ-มันก็ไม่ใช่งานด่วนหรอก ข้าแค่อยากจะชวนมาดื่มกันที่บาร์ประจำของข้าเท่านั้นเอง

ผม-บาร์ประจำหรอครับ ตะ…แต่ว่าวันนี้

ทาเคดะ-อะไรกันวันนี้มีนัดแล้วงั้นหรอบิกคุคุง

 

ไอ้นัดเนี้ยผมไม่มีหรอกแต่ การจะเอาเก็นจิเข้าไปหาพวกทาเคดะซังนี่มันก็………….ยิ่งก่อนหน้านี้ไอ้เก็นจิมันก็ก่อเรื่องกับชิโระไว้เยอะ

ด้วยสิ พวกคนในแก๊งทาเคดะคงจะไม่ยอมหรอกที่นายน้อยตัวเองโดนเล่นงาน

 

ผม-มะ.ไม่มีหรอกครับ เพียงแต่ว่า……วันนี้ผมมีคนติดตามมาด้วยนี่สิครับ

ทาเคดะ-อะไรกันเรื่องแค่นั้นเอง ไม่เห็นเป็นอะไรเลย พามาด้วยก็ได้นะ ยังไงข้าก็ไปรบกวนมาหลายครั้งแล้ว ข้ารู้จัก คนในบ้านแกทุก

คนอยู่แล้ว คนกันเองทั้งนั้นไม่ต้องคิดมากหรอก

 

ผม-ถะ…ถ้าทาเคดะซังพูดขนาดนั้นผมคงจะปฏิเสธไม่ได้แล้วสิ งั้นวันนี้ผมขอรบกวนหน่อยนะครับ

ทาเคดะ-ไม่ได้รบกวนอะไรเลย เดี๋ยวข้าจะส่งมาคิชิมะไปรับที่บริษัทนะ

ผม-ทราบแล้วครับ

 

หลังจากนั้นทาเคดะซังก็วางสายไปนานามิกับซานาเอะเก็บของเส็รจก็กลับบ้านส่วนผมกับเก็นจิก็ยืนรอมาคิชิมะอยู่ที่หน้าบริษัทไม่

นานนักมาคิชิมะก็มาถึง

 

มาคิชิมะ-สวัสดีครับ ท่านบิกคุ

ผม-สวัสดีครับ

มาคิชิมะ-ถ้าอย่างงั้นเชิญขึ้นรถเลยครับ

ผม-โทษทีนะ เดี๋ยวผมจะนั่งรถตัวเองไปช่วยนำทางไปให้ได้มั้ย

มาคิชิมะ-ทราบแล้วครับ

 

หลังจากนั้นมาคิชิมะก็ขับรถนำผมไปถึงตึกที่ดูเหมือนจะเป็นตึกสำนักงานที่ใหญ่กว่าปกติและชั้นล่างก็มีบาร์อยู่ หลังจากที่ผมจอดรถ

เสร็จ มาคิชิมะก็รีบมาเปิดประตูรถให้ผมลง

 

มาคิชิมะ-เชิญเลยครับท่านบิกคุ ท่านหัวหน้ากำลังนั่งอยู่ข้างใน

ผม-ขอบคุณครับ เก็นจิแกเอารถไปจอดตรงนั้นและนั่งรอในรถซะ

เก็นจิ-เดี๋ยวสิครับลูกพี่ แบบนี้ผมก็โดนคุณผู้หญิงว่าสิครับ!!!

 

ผมไม่คิดจะฟังสิ่งที่เก็นจิพูดเพราะผมรู้อยู่แล้วว่ามันจะพูดอะไร นิสัยเดิมของมันไม่มีทางที่จะปล่อยผมไปคนเดียว ไม่ว่าจะตอนที่อยู่

แก๊งยักษ์หรือตอนนี้ก็ตามที เก็นจิมันรีบขับรถไปจอดแล้วก็วิ่งมาหาผมเพราะกลัวผมจะเข้าไปคนเดียว

 

ผม-นี่แก ไมได้ฟังคำสั่งเลยสินะ

เก็นจิ-ตะ..แต่ว่า

มาคิชิมะ-ไม่เป็นอะไรหรอกครับ ท่านบิกคุ ยังไงท่านหัวหน้าก็บอกให้พาคนติดตามเข้าไปด้วยได้อยู่แล้วครับ

ผม-เฮ้อออออออ!!! ถ้ามันก่อปัญหาขึ้นมาจะทำยังไงล่ะครับ

มาคิชิมะ-ฮ่ะๆ ถึงตอนนั้นก็คงต้องรบกวนท่านบิกคุช่วยจัดการให้ด้วยนะครับ

ผม-สุดท้ายก็มาลงที่ผมทุกที

มาคิชิมะ-ฮ่ะๆ เชิญเข้าข้างในเถอะครับ ท่านหัวหน้ารอนานแล้วนะครับ

ผม-ครับๆ เก็นจิข้าจะยอมให้แกเข้าไปด้วย ทำตัวให้มันดีๆ เข้าใจที่ข้าพูดใช่มั้ย

เก็นจิ-ทราบแล้วครับ

 

หลังจากนั้นมาคิชิมะก็พาผมเดินเข้าไปในร้าน ในร้านนั้นมีลูกค้าเยอะมากเต็มทุกโต๊ะ แต่……ถ้ามองดูดีๆ แล้วจะเห็นได้ว่าลูกค้าที่นั่ง

กันเต็มร้านนั้นล้วนแล้วแต่เป็นยากุซ่าทุกคน

 

ทาเคดะ-ไงมาแล้วหรอบิกคุคุง

ผม-สวัสดีครับทาเคดะซัง

ทาเคดะ-นั่งก่อนสิ

 

ผมก็เดินไปนั่งข้างๆ ทาเคดะซังตรงเค้าเตอร์บาร์ พร้อมกับเทเหล้าใส่แก้วให้ผมด้วยตัวทาเคดะซังเอง แน่นอนว่าคนทั้งร้านมองมาที่

ผมเพราะทุกคนตกใจที่ไม่ใช่ถูกเชิญมาดื่มด้วยเป็นการส่วนตัวแค่นั้นแต่ทาเคดะซังถึงกับเทเหล้าให้ผมด้วยตัวเองอีก ยิ่งทำให้มีคนที่

นั่งอยู่ในร้านนั้นอิจฉาผมมากกว่าเดิมเข้าไปอีก

 

ผม-……ทาเคดะซังครับ ไม่เห็นต้องเทเหล้าให้ผมด้วยตัวเองก็ได้นะครับ ใช้เก็นจิมันทำให้เถอะนะครับ

ทาเคดะ-ฮ่ะๆ จะคิดมากไปทำไมบิกคุคุง ไอ้คนที่อยู่ในร้านนี้มีแต่คนของแก๊งเราทั้งนั้น และที่สำคัญ นายน้อยอย่างแก ไม่เห็นจะ

ต้องไปแคร์สายตาพวกระดับล่างเลยนี่

ผม-ถึงผมจะเคยได้ยินมาคิชิมะพูดแนวๆ นี้ก็เถอะแต่พอมันออกมาจากปากทาเคดะซังแล้ว ทุกคนเค้าจะคิดว่าเป็นเรื่องจริงนะครับ

ทาเคดะ-ก็ข้าพูดจริงนี่!

มาคิชิมะ-เห้ย!!!!ถ้าพวกแกกล้าลงมือกับนายน้อยที่นั่งอยู่ตรงนี้ล่ะก็พวกแกต้องข้ามศพข้าไปก่อน

เก็นจิ-หึ หึ มีแต่พวกกระจอกยังจะไม่เจียมตัวกันอีกนะ ถ้าพวกแกกล้าลงมือกับคุณท่านของเราล่ะก็ ข้าสาบานเลยว่าข้าจะทำลาย

แก๊งพวกแกทิ้งให้หมดทุกคน!!!!

ผม-เก็นจิใครใช้ให้แกพูดกัน

 

หลังจากที่เก็นจิมันได้ฟังก็ชะงักไปแป๊บหนึ่งพร้อมกับหยุดท่าทางก้าวร้าวต่อคนของแก๊งทาเคดะเพราะถ้าถามว่าคนในบ้านใครรู้นิสัย

ผมมากที่สุดก็เก็นจิมันนี่แหละ และยิ่งผมอดนอนหรือนอนน้อย การที่ผมจะระเบิดอารมณ์ออกมา มันง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากอีก

 

เก็นจิ-ขะ..ขอประทานโทษด้วยครับ

ทาเคดะ-ไม่เอาหน่าบิกคุคุง ไอ้เก็นจิมันก็ทำตามหน้าที่ของมัน เอ้า!!! นี่ส่วนของแกเก็นจิ

 

หลังจากนั้นทาเคดะก็ยื่นแก้วเหล้าไปให้เก็นจิมันก็ทำท่าลังเลใจ ผมก็มองตามันประมาณว่ารีบๆ รับแก้วนั่นไปซะ สุดท้ายมันก็รับแก้ว

เหล้าจากทาเคดะไป

 

ผม-ว่าแต่ทาเคดะซังวันนี้คงไม่ได้ชวนผมมานั่งดื่มด้วยเพราะเหงาเฉยๆ หรอกนะครับ

ทาเคดะ-ฮ่ะๆๆๆๆ!!!!! แกนี่น่าสนใจตลอดเลยนะ ข้าไม่เหงาหรอกเพราะที่นี่มันตึกสำหนักงานใหญ่ของแก๊งทาเคดะไงล่ะ!

ผม-เข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมทุกคนในร้านนี้ถึงเป็นยากุซ่าทั้งหมด

ทาเคดะ-ที่ข้าเรียกแกมาก็เพราะอยากจะขอบคุณแกเรื่องรถนั่นแหละ

ผม-เฮ้ออออ!! เรื่องนั้นมันก็ปวดหัวจริงๆ นั่นแหละครับ

ทาเคดะ-………ต้องขอโทษบิกคุคุงด้วยนะ วันนั้นข้าก็รู้อยู่แล้วแหละว่าชิโระมันทำไปโดยที่ไม่ได้บอกแก แต่ข้า……ไม่กล้าเอาอารมณ์

โมโหทั้งหมดไปลงที่ชิโระ………..สุดท้ายข้าก็ต้องเอาไปลงที่แก

 

ผม-มันก็แน่อยู่แล้วนี่ครับ!! เพราะถ้าผมรู้ว่ามันจะเอารถหายากแบบนั้นไปขาย ผมคงซื้อไว้เองแต่แรกแล้ว

ทาเคดะ-เฮ้ออออ!!!!…………นี่บิกคุคุง…….ชิโระหน่ะมัน..จะไปถึงฝั่งฝันมั้ย ข้าก็รู้นะว่าข้าเองก็ทำให้มันไปถึงฝั่งฝันไม่ได้และข้า

ก็ได้โยนงานที่มันไม่สมควรทำไปให้แก และยังจะมาถามแกแบบนี้อีกทำเหมือนว่าข้าไม่เชื่อใจแก ทั้งๆ ที่ข้าเป็นคนขอให้แกช่วยแท้ๆ

 

สิ่งที่ทาเคดะซังพูดมาผมก็เข้าใจทุกอย่างเพียงแต่การจะสอนคนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะคนทุกคนมีความคิดเป็นของตัวเองและยิ่งเป็น

ชิโระที่ไม่เคยต้องมาดิ้นรนด้วยตัวเองแล้วมันก็เป็นงานยากจริงๆ นั่นแหละ

 

ผม-…………………ถ้าเรื่องชิโระล่ะก็ ลองฟังจากปากครูฝึกมันเองดีกว่ามั้ยล่ะครับ เก็นจิรายงานเรื่องชิโระมาหน่อยซิ!!!

เก็นจิ-ทราบแล้วครับ ถึงผมจะไม่รู้ว่าฝั่งฝันที่ทาเคดะซังพูดมันคืออะไรแต่ตอนนี้ฝีมือการต่อสู้และร่างกายชิโระ ก็ถือว่าพัฒนาจาก

เดิมขึ้นเยอะ …………..แต่นี่เป็นสิ่งที่ผมรู้สึกนะครับลูกพี่ผมว่าชิโระถ้าตั้งใจจะทำจริงๆ ล่ะก็……ผมคิดว่าในห้องนี้อาจจะไม่มีใครที่สู้กับ

ชิโระได้ เพียงแต่ว่าตัวชิโระมันเองนั่นแหละที่เหมือนไม่มีใจที่อยากจะทำมากกว่านะครับ

 

ผม-ผมเองก็คิดแบบเดียวกับเก็นจินะครับในเรื่องนี้ เพียงแต่………….ไอ้บ้านั่นมันชอบหลงตัวเองคิดว่าตัวเองเก่งและมันก็จะ

ไม่ใช้สมองในการคิด ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าตอนชิโระมันเอารถคันนั้นไปขายมันคิดอะไรของมันอยู่

 

ทาเคดะ-เฮ้ออออ!!! แต่แค่เห็นชิโระมันมีพัฒนาการข้าก็ดีใจแล้วล่ะ ข้าเองก็แก่ลงทุกวันๆ ข้าก็อยากจะส่งต่อให้รุ่นต่อไปแล้วล่ะนะ

ผม-ฮ่ะๆ!! ขอโทษนะครับที่ผมหัวเราะออกมา เพียงแต่ว่าผมคิดว่า คนเป็นพ่อเนี้ยคิดเหมือนกันทุกคนเลยนะครับ

 

            ทาเคดะก็มองผมด้วยสายแต่กลับไม่พูดหรือตอบอะไรผมกลับมาเลย

 

ผม-คือก่อนหน้านี้ตอนที่คุณพ่อโดนเอารถไปขาย คุณพ่อก็ถามผมเรื่องที่จะให้ผมรับช่วงต่อตำแหน่งประธานบริษัท

ทาเคดะ-แบบนั้นก็ดีสิ บิกคุคุงรับไปเลย!!!!

ผม-นั่นสิครับ แต่ทาเคดะซังรู้มั้ยครับ ผมตอบปฏิเสธไปแบบไม่ต้องคิดเลย

ทาเคดะ-ทำไมกันล่ะ!

ผม-จะว่ายังไงดีล่ะครับ ในส่วนของผม ผมแค่รู้สึกว่าผมยังใหม่กับงานนี้และผมก็ยังขาดประสบการณ์ที่จะต้องมาแบกรับงาน

ใหญ่ๆ หรือแบกรับหน้าที่และความรับผิดชอบใหญ่ๆ แบบนี้ ถึงผมจะไม่รู้ว่าชิโระมันคิดยังไงแต่บางทีชิโระมันก็อาจจะรู้สึกถูกกดดัน

แบบเดียวกับผมก็ได้นะครับ สิ่งเดียวที่ทำให้พวกเรารู้สึกแบบนี้ คือ พวกเรากลัวว่าจะทำได้ไม่ดีเท่ากับรุ่นก่อนมากกว่า เพราะงั้น

ทาเคดะซังช่วยอยู่ประคองชิโระด้วยนะครับ ผมทำให้ได้เพียงแค่สอนมันเท่านั้น

 

ทาเคดะ-…….งั้นหรอ ข้าเริ่มจะเข้าใจแล้วล่ะ

ผม-แล้วตอนนี้ชิโระมันอยู่ไหนหรอครับ ตั้งแต่วันนั้นมันก็หายไปเลย

ทาเคดะ-ชิโระมันก็อยู่บ้านนั่นแหละ ถ้าแกอยากเจอมันก็เข้าไปหาที่บ้านสิ

ผม-งั้นหรือครับ ผมก็แค่เป็นห่วงมัน กลัวมันจะไปทำเรื่องโง่ๆ อีก

ทาเคดะ-ข้าก็กลัวเหมือนกัน ตอนนี้ข้าได้จ้างสาวใช้มาคอยตามติดไอ้บ้านั่นแล้วล่ะ

ผม-ฮ่ะๆ!! ผมรู้สึกสะใจจริงๆ ปกติมันชอบมาล้อเลียนผมเรื่องที่มีคนมาตามติด

ทาเคดะ-แล้วทำไมบิกคุคุงถึงไม่ชอบคนคอยมาตามดูแล ข้าสงสัยมาตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วนะ

ผม-ก็เพราะผมชอบทำอะไรคนเดียวมันสะดวกดีครับ จะไปไหนมาไหนก็ไม่ต้องมานั่งรอกันด้วยนะครับ และยิ่งต้องโดนไอ้เก็นจิมัน

ตามติดแบบนี้ผมเบื่อมากๆ เพราะไอ้นี่มันรู้นิสัยผมมากเกินไป อย่างในวันนี้มันก็ไม่ยอมให้ผมเข้ามาหาทาเคดะซังคนเดียว

เก็นจิ-เรื่องความปลอดภัยของคุณท่านต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง คุณผู้หญิงสั่งไว้แบบนี้ครับ

ทาเคดะ-ฮ่ะๆ!! แต่ในสายตาข้าไม่มีใครเหมาะจะตามติดแกมากไปกว่าเก็นจิแล้วล่ะนะ จริงสิ ที่เรียกแกมาวันนี้ไม่ใช่แค่เรื่องนี้

หรอกนะ พอดีพวกลูกน้องข้าไปเจอกับกลุ่มคนแปลกๆ มาด้วยล่ะนะ

 

             พูดเสร็จทาเคดะก็ยกแก้วเหล้าตรงหน้าเข้าปากจนหมดแก้ว

 

ผม-…..แปลกๆ งั้นหรอครับ

เก็นจิ-แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับคุณท่านของพวกเราไม่ทราบ

ผม-เก็นจิ...ถ้าแกยังพูดมากแบบนี้อีก กลับไปนั่งรอในรถนะ

เก็นจิ-ทะ…ทราบแล้วครับ

ทาเคดะ-ไม่เอาหน่าบิกคุคุงอย่าไปดุเก็นจิมันเลย ที่ข้าเล่าเรื่องนี้ก็เพราะ คนกลุ่มนี้มันบ้า ชนิดที่แบบพวกเราไม่เคยเจอเลยหล่ะ

ผม-อืม……หมายความว่ายังไงหรอครับ

ทาเคดะ-นี่บิกคุคุง ช่วยโชว์รอยสักยักษ์ให้คนในร้านนี้ดูได้มั้ย

ผม-ตะ….ตอนนี้หรอครับ

ทาเคดะ-ใช่

ผม-ยะ…อย่าบอกนะครับว่าคนแปลกๆ ที่ว่านั่น

ทาเคดะ-ข้าเองก็ไม่รู้ ข้าถึงอยากให้แกช่วยเอารอยสักยักษ์นั่นมายืนยัน

ผม-ขะ..เข้าใจแล้วครับ

เก็นจิ-เดี๋ยวก่อนลูกพี่ เรื่องนี้ไม่ถึงกับต้องเอารอยสักยักษ์แดงของลูกพี่ออกมาโชว์หรอกนะครับ ผมจะเอาให้ทุกคนดูเอง

ผม-อืมๆ ฝากด้วยละกัน

 

หลังจากนั้นเก็นจิมันก็ถอดเสื้อออก ทำให้ทุกคนเห็นรอยสักยักษ์แดง และในตอนนั้นก็มีคนของแก๊งทาเคดะที่เห็นลอยสักนี่แล้วตกใจ

พร้อมกับทำท่าทางหวาดกลัวมากๆ จนส่งเสียงโหยหวนด้วยความกลัวออกมาดังลั่นร้าน ทาเคดะกับมาคิชิมะก็มองหน้ากันและก็พยัก

หน้าให้กัน

 

มาคิชิมะ-ต้องขอประทานโทษด้วยนะครับที่คนของเราส่งเสียงรบกวน

ผม-ไม่หรอกครับ จากที่เห็นเรื่องนี้ผมคงต้องมีเอี่ยวด้วยแน่นอน

ทาเคดะ-พอดีคนของแก๊งเราดันไปมีเรื่องกับไอ้พวกบ้านั่นก็เลยเจ็บตัวกลับมากันหลายคน

ผม-พวกนนั้นมีเยอะมากเลยหรอครับ

ทาเคดะ-มีแค่3คนเท่านั้น

ผม-ถ้าแค่3คนไม่น่าจะทำได้ขนาดนี้นี่ครับ

มาคิชิมะ-แต่ถ้าเป็นท่านบิกคุ ผมว่าก็ไม่ใช่เรื่องยากนะครับ

ผม-เดี๋ยวก่อนนะ ทั้งเรื่องคนบ้าๆ เรื่องรอยสักยักษ์ และ

ทาเคดะ-ใช่อย่างที่แกคิดนั่นแหละคนที่พวกเราเจอนั้น มีรอยสักยักษ์เหมือนกับของเก็นจิแต่……มันเป็นสีม่วง

ผม-ห๊ะ!!!!!! เรื่องจริงหรอครับ

ทาเคดะ-ใช่ และที่สำคัญ1ใน3คนนั้นได้ทำเรื่องที่น่าเหลือเชื่อลงไป

เก็นจิ-เรื่องเหลือเชื่อหรอครับ

ทาเคดะ-ใช่ คนของพวกเราไปกัน หลายคน รถยนต์ที่ไปมีมากกว่า6คัน แต่รู้มั้ย6คันนั้นโดนจัดการด้วยแค่คนเดียว

ผม-อย่าบอกนะครับว่ายักษ์ม่วง

ทาเคดะ-ไม่รู้สิ แต่หมอนั่นมันบ้าบิ่นมากๆ มันขับมอเตอร์ไซค์ที่ปล่อยน้ำมันไหลลงพื้นและมันก็ขี่เข้าหาฝูงรถยนต์ตั้งหลายคันของพวก

เรา พวกมันที่เหลือจุดไฟจากน้ำมันที่ไหลอยู่ที่พื้น ก่อนที่รถและมอเตอร์ไซค์จะชนกันคนที่ขี่อยู่ก็ได้กระโดดออกจากมอเตอร์ไซค์และ

มอเตอร์ไซค์คันนั้นก็ได้เข้าไปชนกับรถยนต์จนเกิดการระเบิด แต่โชคดีที่คนของเราไม่มีใครตายถึงจะได้รับบาดเจ็บสาหัสกันหลายคน

ก็เถอะ

 

หลังจากนั้นทาเคดะ ก็เริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้ผมฟังตั้งแต่ต้น

 

ทาเคดะ-คนของแก๊งเรา ดันไปมีเรื่องกับคนพวกนั้นล่ะนะ

ผม-เห้ยเก็นจิ!!!

เก็นจิ-ผมจะรีบติดต่อหาข้อมูลจากพวกตำรวจเองครับ

ผม-อืม

ทาเคดะ-แสดงว่าพวกเราเจอยักษ์ม่วงเข้าแล้วสินะ

ผม-เห้ยเก็นจิ!! แกมีรูปไอ้นุมั้ยเอามาให้หน่อยซิ

เก็นจิ-มีครับ

 

หลังจากนั้นเก็นจิก็ยื่นมือถือที่เปิดรูปไอ้นุขึ้นมาพร้อมกับผมที่ถามทาเคดะ

 

ผม-คนที่ขี่มอเตอร์ไซค์คือคนนี้มั้ย

ทาเคดะ-ไม่รู้สิ

 

ในระหว่างที่ผมคิดอยู่ว่าจะทำไงถึงจะระบุตัวตนมันได้ มาคิชิมะก็เอารูปไปถามไอ้คนที่มันเสียสติเมื่อกี้ พอมันเห็นรูปมันก็รีบพยักหน้า

ตอบรับทันที

 

มาคิชิมะ-ท่านบิกคุดูเหมือนคนที่ขี่มอเตอร์ไซค์จะเป็นคนในรูปนี้จริงๆ ครับ

ทาเคดะ-แล้วคนในรูปนี้มันเป็นใครงั้นหรอ แถมตัวผอมถึงจะพอมีกล้ามให้เห็นก็เถอะไม่น่าจะทำเรื่องแบบนี้ได้เลยนะ

ผม-……………………ไอ้หมอนี่มันบ้าแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วล่ะครับ

เก็นจิ-ถ้าเป็นคนคนนี้ก็น่าจะทำเรื่องแบบนี้ได้ไม่ยากนะครับลูกพี่

ผม-อืม….

ทาเคดะ-แต่คนที่มีรอยสักไม่ใช่คนนี้นะ ไอ้หมอนี่จะเป็นยักษ์ม่วงจริงๆ หรอ

เก็นจิ-ไม่รู้หรอกว่าคนที่มีรอยสักนั่นมันเป็นใคร แต่คนในรูปที่เอาให้ดู คนนี้คือยักษ์ม่วงแน่นอน หรือจะต้องให้ข้าบอกว่า ไอ้หมอนี่คือ1ใน7คนที่ร่วมก่อตั้งแก๊งยักษ์ขึ้นมาดีล่ะพวกแกถึงจะเข้าใจ

มาคิชิมะ-นะ..นี่คือผู้ร่วมก่อตั้งเหมือนท่านบิกคุงั้นหรอ!!!!

ผม-อืม…….ถ้าเจอไอ้หมอนี่อีกครั้ง สิ่งที่พวกคุณควรทำคือ อยู่ให้ห่างพวกมันเอาไว้ และหลังจากนั้นให้โทรมาแจ้งผม ที่เหลือผมจะจัดการเอง

ทาเคดะ-เฮ้อออ แต่ว่าแบบนั้นมัน

เก็นจิ-ก็บอกไปแล้วนะครับ ว่าในห้องนี้ไม่มีใครเก่งพอที่จะสู้กับชิโระได้ แต่ชิโระในตอนนี้ก็ยังไม่สามารถถึงขั้นที่เรียกได้ว่าสู้กับพวกเราได้หรอกนะครับ

ผม-ถูกต้อง โดยเฉพาะกับไอ้นุ หรือจะเรียกว่าหัวหน้ายักษ์ม่วงก็ไม่ผิด อย่าไปยุ่งกับมันเด็ดขาด พวกคุณน่าจะเห็นความบ้าของมันแล้วนี่

 

ในระหว่างที่ผมพูดยังไม่ทันจบก็มีคนโทรเข้ามาที่ผม

 

เก็นจิ-คุณท่านคุณผู้หญิงโทรมาครับ

ผม-กดวางสายไปเลย

ทาเคดะ-ไม่เอาน่าบิกคุคุง รับสายฮารุจังก่อนเถอะนะ

ผม-ครับๆ

 

หลังจากนั้นผมก็รับมือถือมาจากเก็นจิ

 

ผม-ฮาโหลครับฮารุ

ฮารุ-เมื่อไหร่จะกลับบ้านค่ะ

ผม-อะ..อีกสักพักได้มั้ยครับ

ฮารุ-ตอนนี้อยู่ที่ไหนหรอคะ

ผม-ตอนนี้ผมนั่งดื่มอยู่กับทาเคดะซังที่ร้านเหล้าครับ

ฮารุ-อย่าดื่มเยอะเกินไปนะคะพรุ่งนี้ก็ต้องไปทำงานอีก และอีกอย่างตอนนี้ก็ดึกมากแล้วนะคะถ้าอยากจะดื่มต่อไว้กลับมาดื่มต่อที่บ้านก็ได้นะคะ

ผม-ครับๆ ทราบแล้วครับ ผมจะรีบกลับบ้านนะครับ

ฮารุ-ค่ะ อย่ากลับบ้านดึกนักนะคะ

ผม-ครับ

 

หลังจากนั้นผมก็กดวางสายไป

 

ทาเคดะ-ฮารุโทรมาตามกลับบ้านแล้วหรอ

ผม-เอ่อ…ใช่ครับ

ทาเคดะ-เอาเถอะยังไงวันนี้ข้าก็คุยในเรื่องที่อยากจะคุยกับแกไปหมดแล้วล่ะนะ

ผม-ถ้ามีเรื่องยักษ์เข้ามาอีกรบกวนโทรบอกผมหน่อยนะครับทาเคดะซัง

ทาเคดะ-เออไว้ใจข้าได้เลย

ผม-ถ้างั้นผมขอตัวก่อนนะครับ

ทาเคดะ-กลับบ้านดีๆ ล่ะนายน้อยแห่งแก๊งทาเคดะและแก๊งซาซากิ

 

หลังจากที่ทาเคดะพูดจบผมก็หันกลับไปบอกปฏิเสธแต่ภาพที่ผมเห็นคือยากุซ่าทุกคนในนร้านนั้นทำการก้มหัวให้กับผมทำเอาผมอึ้ง

ไปนิดหน่อย

 

ทุกคน-ขอให้โชคดีครับนายน้อย!!!!!!

ผม-นี้ๆ เลิกเล่นกันได้แล้วหลังจากนี้ก็ตั้งใจทำงานกันด้วยล่ะ!

ทุกคน-โอ้ส!!!!!

 

หลังจากนั้นผมก็เดินกลับมาที่รถไอ้เก็นจิก็ขับรถกลับไปที่บ้านไปถึงเก็นจิมันก็จอดรถให้ผมลงที่หน้าบ้าน

 

ทานากะ-ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับ

อายะ-ดิชั้นเตรียมน้ำดื่มมาให้แล้วค่ะ

ผม-ขอบคุณนะครับ แล้วฮารุอยู่ที่ไหนหรอครับ

ทานากะ-คุณผู้หญิงกำลังนั่งอ่านเอกสารอยู่ในห้องทำงานของคุณท่านครับ

อายะ-งั้นดิชั้นจะเอากระเป๋าทำงานและเสื้อสูทไปเก็บบนห้องนอนให้เลยนะคะ

ผม-อืม ขอบคุณนะครับ

 

หลังจากนั้นผมก็เดินไปเคาะประตูห้องทำงานของผม

 

ก๊อกๆ

ฮารุ-เข้ามาได้เลยค่ะ

ผม-ฮารุผมกลับบ้านมาแล้วครับ กำลังนั่งทำอะไรอยู่หรอ

ฮารุ-กำลังนั่งอ่านเอกสารของทางโรงแรมอยู่ค่ะ

ผม-แต่พวกนั้นเป็นแค่สำเนาเอกสารของเก่าที่ผมทำไปหมดแล้วนะครับ

ฮารุ-ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ยังไงฮารุก็อยากจะเห็นว่าการทำงานของสามีทำงานดีทำถูกต้องทั้งหมดมั้ย

ผม-ตะ..แต่นี่มันดึกมากแล้วนะ

 

ฮารุไม่ได้ตอบอะไรผมกลับมาเลยแต่วิ่งมาดึงแขนผมให้ไปนั่งที่โต๊ะทำงานและฮารุก็มานั่งตกผมต่ออีกที

 

ผม-…..นะ..นี่คุณจะทำอะไร

ฮารุ-ที่รักลืมไปแล้วหรอคะ วันสุดท้ายของการทดลองทำงานในบริษัทนี้ของที่รัก เกิดอะไรขึ้นตอนเย็น

ผม-………อ๋อผมนึกออกแล้วครับเย็นวันนั้นมีงานเลี้ยงส่งผมที่บ้านคุณพ่อด้วยนี่นะ

ฮารุ-ไม่ใช่ค่ะ มันเป็นตอนก่อนที่พวกเราจะลงไปงานเลื้ยงไม่ใช่หรอคะที่ฮารุนั่งตักที่รักแล้วช่วยที่รักดูเอกสารไปด้วย

ผม-..ตะ..ตอนนั้นนี่เอง แล้วมันมีอะไรหรอ

ฮารุ-โธ่!!! นี่คุณไม่มีความโรแมนติกเอาซะเลย

 

หลังจากนั้นฮารุก็ลุกขึ้นและจะเดินออกจากห้องทำงานของผม ผมก็เข้าไปกอดฮารุจากด้านหลัง

 

ผม-เรื่องของที่รัก…..ผมไม่มีทางลืมหรอกนะครับ

 

พูดจบผมก็หอมแก้มฮารุ2ครั้ง ฮารุไม่ตอบได้แต่ยืนนิ่งๆ

 

ผม-ผมรู้ว่าคุณต้องการให้พวกเรามีเวลาอยู่ด้วยกันมากกว่านี้ แต่……งานมันก็เยอะใช่มั้ยล่ะครับ หลังจากนี้ผมจะพยายามหาเวลา

สำหรับเรา2คนให้มากขึ้นนะครับ

ฮารุ-ต้องพาฮารุไปเที่ยวเยอะๆ ด้วยนะคะ เพื่อชดเชยเวลาที่ผ่านมา

ผม-ฮ่ะๆ ทราบแล้วครับ

ฮารุ-สัญญากันแล้วนะคะ ถ้าใครผิดสัญญาต้องกินเข็ม1000เล่มด้วยนะ

ผม-เอ๋!!!! มันไม่เยอะไปหน่อยหรอ

ฮารุ-สัญญาสิคะ

ผม-ครับๆ ผมสัญญากับคุณ..แม่สาวสวยร้านรองเท้าของผม

 

ฮารุที่เขินจนหน้าแดงก็ได้หันหลังกลับมาหาผมและเอามือมาตีที่หน้าอกผมเบาๆ4ที

 

ฮารุ-ตาบ้า เลิกเรียกชื่อนั้นได้แล้วนะคะ

ผม-ฮ่ะๆ

ฮารุ-ไปนอนกันได้แล้วนะคะ พรุ่งนี้คุณต้องตื่นไปทำงานอีกนะ

ผม-ยังไม่เก็บเอกสารให้เข้าทีเลย

ทานากะ-โฮ๊ะๆ ที่เหลือกระผมจะเป็นคนจัดการเก็บให้เองครับ เชิญคุณท่านกับคุณผู้หญิงขึ้นไปพักผ่อนก่อนเถอะนะครับ

ผม-งะ..งั้นหรอ รบกวนด้วยนะครับ

ฮารุ-ขอบใจจ๊ะ

ทานากะ-ด้วยความยินดีครับ

 

หลังจากที่พูดเสร็จทานากะก็ก้มหัวลงให้พวกผมที่เดินออกจากห้องทำงานมาผมขึ้นมาบนห้องได้อ่าบน้ำแต่งตัวออกมาผมก็ล้มตัวนอน

ทันที

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา