ชื่อเรื่อง ยังไม่มี
เขียนโดย PMTV
วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 22.35 น.
แก้ไขเมื่อ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2564 15.27 น. โดย เจ้าของนิยาย
48) ตอนที่ 47.2
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ผม-ใช่ครับ แม่ผมเป็นคนทำเองเลยครับ คุณแม่นั่งรอสักครู่นะครับ
สึคุยะ-จ๊ะ
ผมก็เดินสวนกับยัยพลอยที่เดินออกจากครัวส่วนผมเดินเข้าไปในครัวไปตักข้าวต้มมาให้สึคุยะเสร็จผมก็เอาให้พวเราก็นั่งกินข้าวกันสัก
พักก็เสร็จ แม่ผมกับ ยัยพลอย และฮารุ ขึ้นไปเตรียมตัวส่วนผมก็ยืนอยู่ที่หน้าบ้านกับสึคุยะ
ผม-วันนี้คุณพ่อไปทำงานหรอครับคุณแม่
สึคุยะ-ใช่แล้วจ๊ะ คิดว่าตอนนี้คงไปถึงที่บริษัทแล้วล่ะนะ
ผม-ขยันจริงๆเลยนะครับคุณพ่อ
สึคุยะไม่ได้ตอบอะไรผมกลับมาได้แต่หันมามองหน้าผม
ผม-นะ…หน้าผมมีอะไรติดยู่หรอครับ
สึคุยะ-นี่ลูก…….เอาเถ๊อะมาถึงขั้นนี้แล้วแม่บ่นลูกเรื่องทำงานไปก็คงจะเปลื่ยนลูกไม่ได้อยู่แล้วล่ะ
ผม-แฮะๆ ครับคุณแม่
สึคุยะ-แต่ว่า แม่และฮารุพวกเราจะทำทุกทางเพื่อไม่ให้ลูกต้องทำงานหนักมากเกินไป
ผม-คะ..คุณแม่ ไม่ต้องเป็นห่วงผมขนาดนั้นหรอกนะครับ เพราะแบบนั้นคุณแม่กับฮารุเลยพยายามเอายัยพลอยมาทำงานช่วยผมที่
บริษัทหรอครับ
สึคุยะ-แม่ว่าดีออกนะลูก ลองให้พลอยจังรับผิดชอบเรื่องโปรเจ็คใหม่ที่คุณพ่อพูดก็ดีไม่ใช่หรอจ๊ะ
ผม-คุณแม่หมายถึง เรื่องกลุ่มลูกค้าใหม่ที่เป็นคนไทยนั่นหรอครับ
สึคุยะ-ใช่จ๊ะ
ผม-แต่ว่าเรื่องนั้นมันเรื่องใหญ่มากเลยนะครับคุณแม่ ผมว่ายัยพลอยทำไม่ไหวหรอกนะครับ
สึคุยะ-ถ้าแค่แปลเอกสารเป็นภาษาไทยก็น่าจะได้ไม่ใช่หรอ ยังไงลูกก็ต้องจ้างคนมานั่งแปลเอกสารทั้งหมดอยู่แล้ว สู้ให้พลอยจังทำ
ไม่ดีกว่าหรอจ๊ะ แบบนั้นพลอยจังจะได้ฝึกภาษา ฝึกการทำงาน และหาเงินใช้เองได้ด้วยนะ
ผม-ระ…เรื่องเอกสารผมคิดว่าผมจะแปลเองครับ
สึคุยะ-ไม่ได้!! ลูกจะทำเองทุกอย่างคนเดียวไม่ได้นะรู้มั้ย ถ้าอย่างงั้นเราจะจ้างคนมาทำงานทำไมล่ะ
ฮารุ-คุยอะไรกันอยู่หรอคะ
ผม-มะ…ไม่มีอะไรครับ เฮ้อออ ทราบแล้วครับคุณแม่ ผมจะลองเก็บกลับไปคิดดูนะครับ
สึคุยะ-จ๊ะ
ฮารุ-ที่รักจะเอารถไปกี่คันดีหรอคะ แค่พวกเราก็จะไม่พอนั่งแล้วนะคะ
ผม-ก็ไปคันเดียวนี่แหละครับ ยังไงก็ไปหมดอยู่แล้ว
ฮารุ-แล้วพวก ชิสึซังล่ะคะ
ผม-ให้อยู่
สึคุยะ-ก็เอารถไป2คันสิจ๊ะฮารุ
ผมยังพูดไม่ทันจบสึคุยะก็พูดแทรกขึ้นมาทันที
ฮารุ-คุณจะเอายังไงดีคะ
ผม-ปะ…ไป2คันตามที่คุณแม่บอกล่ะกันนะครับ
พลอย-พี่ชายจะไปคันไหนกัน
ผม-ไปรถตู้ แกพาแม่ไปนั่งรอในรถเลย นิชิโนะซังติดเครื่องรถตู้รอไว้แล้ว
พลอย-ค้า~~~
ยัยพลอยก็พา แม่ผมไปนั่งรอในรถกับสึคุยะ ส่วนผมกับฮารุยืน อยู่หน้าบ้าน พร้อมด้วย เหล่าพ่อบ้านและแม่บ้าน ปกติตอนอยู่ที่บ้านก็
พอจะชินกับอะไรแบบนี้อยู่บ้างความรู้สึกเหมือนเราอยู่หน้าตู้กระจกที่มีน้องๆหลายคนนั่งกวักไม้กวักมือเรียกเรา
ฮารุ-ที่รักจะให้ใครตามไปด้วยดีคะ
ผม-อืมม……. ชิสึซัง เก็นจิ โทชิโร่ซัง อายะซัง ไปขึ้นรถอีกคันและขับตามรถตู้ไป
ทั้ง3คน ยกเว้นชิสึ เดินไปขึ้นรถเก๋งของฮารุ
ผม-ที่เหลือก็ฝากดูแลบ้านให้ดีๆนะครับ
ทานากะ-กระผมจะดูแลอย่างเต็มที่เลยครับ
ผม-อืม ขอบคุณครับ
ริน-ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะคะ
ฮารุ-ขอบใจจ๊ะ
หลังจากนั้นพวกผมก็เดินไปขึ้นรถตู้และนั่งรถไปที่ตลาดปลา นั่งรถมาได้สักพักก็ถึงตลาดปลา ที่มีทั้งของสด และอาหารขายเต็มไป
หมด แม่ผมพอเห็นตลาดปุ๊บก็ตาลุกวาวจะรีบลงไปเดินเล่นให้ได้ผมก็ให้ยัยพลอยกับเก็นจิคอยเดินประกบแม่ผมตลอดเวลาส่วนพวก
ผมก็เดินตามไปเรื่อยๆ เพราะสึคุยะและฮารุก็ไม่ค่อยได้มีโอกาสมาเดินตลาดกันบ่อยนัก ส่วนใหญ่จะมีคนออกมาซื้อของสดเข้าไปให้
หรือบ้างทีก็สั่งจากร้านอาหารโรงแรมเลย มันก็เลยไม่ค่อยมีความจำเป็นสักเท่าไหร่ที่จะต้องมาตลาดสด แต่กลับแม่ผมต่างกันเลย แม่
ผมชอบเดินตลาดมากๆ ชนิดที่ว่าเดินเข้าทุกร้าน
แม่-นี่มันปูม้า!!
พลอย-มันไม่ใช่ปูม้าแม่ มันแค่คล้ายๆกันเฉยๆ
แม่-เราซื้ออันนี้กลับไปกินกันเถอะ
พลอย-พะ พี่ชาย แม่อยากจะซื้อปูอันนี้
ผม-อืม รู้แล้ว
พลอย-งั้นหนูซื้อให้แม่3ตัวนะ 1000เยนพอดี
ผม-ซื้อมาทั้งกล่องโฟมนั่นแหละ
พลอย-พี่ชาย จะซื้อทำไมเยอะๆมันไม่ได้อร่อยขนาดนั้นหรอกนะ
ผม-อ่ะๆ งั้นตามใจแก แล้วกัน
หลังจากนั้นผมก็หยิบเงินให้ยัยพลอยพาแม่ผมเดินซื้อของไปเรื่อยๆ
ผม-คุณแม่กับฮารุ เบื่อกันรึป่าวครับ
ผมหันไปดู พวกฮารุที่ไม่ได้สนใจผมเลย แต่ดันไปยืนมองเค้าแล่ ปลามากุโล่ กัน
ชิสึ-เนื้อสวยมากเลยนะคะ
ฮารุ-ใช่มั้ยล่ะ เนี่ยฮารุดูตั้งแต่เดินเข้ามาแล้ว
อายะ-ราคาถูกมากเลยนะคะ คุณผู้หญิง
สึคุยะ-นี่ฮารุจัง พวกเราต้องดูแลท่านแม่ไม่ใช่หรอจ๊ะ
ฮารุ-ตะ..แต่ว่า
ผม-ไม่เป็นอะไรหรอกนะครับคุณแม่ตอนนี้แม่ผมก็ไปกับยัยพลอยแล้วล่ะครับ ถ้าทุกคนอยากทานก็ซื้อทานกันสักหน่อยมั้ยครับ
ฮารุ-ได้หรอคะที่รัก!
ผม-ฮ่ะๆ ได้สิครับ อายะซังช่วยไปซื้อมาให้ทีนะ
อายะ-เอาทั้งหมดกี่ที่ดีคะ
ผม-เอาทั้งหมด4ที่ละกันนะครับ ผมไม่ชอบทานของดิบๆ
ชิสึ-เอ๊ะ!! แต่ให้พวกดิฉันทานจะดีหรอคะ
ผม-ดีสิครับ ไหนๆก็ได้ออกมาเที่ยวด้วยกันทั้งที จะทำตัวให้สมกับเป็นนักท่องเที่ยวซะหน่อยผมก็ไม่คิดจะว่าอะไรหรอกนะครับ
อายะ-ถ้างั้น เด๋วดิฉันจะรีบไปซื้อมาให้นะคะ คุณผู้หญิง ท่านสึคุยะ
ฮารุ-จ๊ะ
อายะก็เดินไปเข้าแถวต่อคิวได้ไม่นานก็เดินกลับมา พร้อมกับเนื้อปลาที่อยู่ในจาน4ชุด
ในชุดจะประกอบไปด้วยเนื้อปลาสดหั่นหนา 3ชนิด ชนิดล่ะ3ชิ้น และทุกคนก็กินซึ่งทุกคนก็พูดว่ามันอร่อยนั่นแหละ แต่สำหรับผมแล้ว
ไม่ไหว ขอไปกินเนื้อย่างจะดีกว่าฮ่ะๆหลังจากที่พวกเรากินกันจนหมดแล้วก็เดินตามหาแม่ผมที่เดินนำไปก่อนแล้วเดินไปสักพักก็เจอ
พวกแม่ผมกำลังยืนซื้อหอยเชลล์ย่างกันอยู่
แม่-นี่แกจะกินหอยเชลล์ย่างด้วยกันมั้ย
พลอย-ทั้งหวานทั้งอร่อยเลยนะพี่ชาย
ผม-ก็ดีเหมือนกัน
เก็นจิ-นี่ครับลูกพี่ เอาของผมไปทานก่อนก็ได้ครับ
ผม-อืม ขอบใจ
พอผมรับหอยเชลล์ย่างเนยโชยุมาจากเก็นจิ ก็รีบจิ้มเอาเข้าปากพร้อมกับซดน้ำที่อยู่ในเปลือกหอยจนหมด เนื้อหอยเชลล์สดที่หวาน
อ่อนที่มาพร้อมกับรสชาติเนยและโชยุ สรุปแล้วอร่อยมาก
พลอย-เป็นยังไงบ้างพี่ชาย อร่อยมากเลยเนอะ
ผม-อร่อยและสดดี ราคาเท่าไหร่
พลอย-หอยเชลล์ย่างตัวละ 650เยน
ผม-ราคาก็ไม่แพงนะ ฮารุ กับคุณแม่จะทานด้วยมั้ยครับ ผมจะได้ให้คนไปซื้อให้
ฮารุ-ฮารุเอาด้วยค่ะ
สึคุยะ-นี่ลูกซื้อกลับไปทำทานที่บ้านก็ได้ไม่ใช่หรอจ๊ะ ตอนนี้ต้องดูแลท่านแม่ก่อนนะฮารุจัง
ฮารุ-นะ..นั่นสินะคะ
ผม-แม่ ผมจะซื้อหอยเชลล์พวกนี้และจะให้เค้าเอาไปส่งที่บ้าน แม่จะเอาอะไรเพิ่มอีกมั้ย
แม่-ให้เค้าไปส่งที่บ้านได้ด้วยหรอ
ผม-ได้สิแม่ อยากได้อะไรเพิ่มมั้ย
แม่-งั้นรอแปปนึงนะ ยัยพลอยเก็นจิ พวกเราไปกันเถอะ
ยัยพลอย-ดะ…เด๋วแม่!!
แม่ผมไม่ฟังเสียงค้านของยัยพลอยแม้แต่นิดเดียว และก็ลากยัยพลอยไปเดินตลาดเพื่อซื้อของ ส่วนเก็นจิก็เดินตามไปอย่างเงียบๆ
ฮารุ-ที่รักพวกเราไม่ต้องเดินตามท่านแม่ไปจะดีหรอคะ แล้วใครจะจ่ายเงินให้ท่านแม่ตอนซื้อของล่ะ
ผม-อืม….นั่นสินะอายะซังเดินตามไปทีนะครับ และก็จ่ายเงินซื้อของกลับเข้าบ้านให้เรียบร้อยด้วยยนะครับ
อายะ-ทราบแล้วค่ะ แล้วหอยเชลล์ของร้านนี้ล่ะคะ
ผม-อ่อหอยเชลล์อันนี้ซื้อกลับไปด้วยครับ ถ้ารูริซังอยู่ด้วยคงช่วยเลือกของสดๆกลับบ้านได้สบาย
อายะ-เรื่องนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของดิฉันเองค่ะ
ผม-ฮ่ะๆไม่ต้องคิดมากหรอกครับ ดูแค่หอยเชลล์ตรงนี้ก็พอครับ ที่เหลือเด๋วแม่ผมก็คงจะเลือกซื้อด้วยตัวเองนั่นแหละ จัดการแค่
เรื่องจ่ายเงินกับให้ทางร้านส่งไปที่บ้านก็พอ
อายะ-ทราบแล้วค่ะ
หลังจากนั้นอายะก็เดินเข้าไปเลือกหอยเชลล์จ่ายเงินเสร็จก็เดินตามแม่ผมไป
ฮารุ-ที่รักก่อนที่จะพาท่านแม่เข้าไปที่บริษัท พวกเราไปหาอะไรทานกันก่อนดีมั้ยคะ
ผม-นี่มันก็จะ11โมงแล้วนี่นะ เด๋วซื้อของเสร็จพวกเราไปทานร้านปู ตรงหน้าสถานีรถไฟชิบูย่ากันมั้ยครับ
ฮารุ-ดีสิคะ ท่านแม่จะได้ทานปูด้วย!
สึคุยะ-ได้ยินแบบนี้แม่ก็ค่อยสบายใจหน่อย อย่างน้อยลูกก็ยังพาท่านแม่ไปทานร้านอาหารดีๆกับเค้าบ้างสักที
ผม-เอ๊ะ!! ทะ..ทำไมคิดแบบนั้นล่ะครับคุณแม่ จริงๆผมก็ตั้งใจจะพาแม่ไปเที่ยวอยู่แล้วล่ะครับ
สึคุยะ-ไปเที่ยวแล้วต้องทำให้ท่านแม่สบายและมีความสุขด้วยนะเข้าใจมั้ย
ผม-ทะ..ทราบแล้วครับคุณแม่
สึคุยะ-ดีจ๊ะ งั้นวันนี้แม่จะให้คะแนนลูก5คะแนนพอ
ผม-5คะแนน หรอครับ
สึคุยะ-ใช่จ๊ะเพราะลูกให้เก็นจิคอยดูแลเหมือนกับพ่อบ้านส่วนตัวของท่านแม่ และในตอนท้ายพอฮารุพูดเรื่องท่านแม่ขึ้นมาทำให้ลูกรู้สึก
ตัวจึงได้ให้อายะเดินตามไปอีกคน เพราะงั้นถึงได้5คะแนน
ผม-ขะ...เข้มงวดจริงๆเลยนะครับคุณแม่
สึคุยะ-จริงสิ แม่ว่าลูกควรเพิ่มแม่บ้านอีกสัก2คนนะ
ฮารุ-คุณแม่คะ เรื่องนี้มาพูดกับหนูเถอะค่ะ ถ้าพูดกับสามีของหนูละก็ คงได้คำตอบแบบเดิมๆคือที่มีอยู่ก็พอแล้วแน่นอนค่ะ
สึคุยะ-นั่นสินะ
หลังจากนั้นสึคุยะกับฮารุก็ยืนคุยกัน2แม่ลูกโดยที่ไม่ได้สนใจอะไรผมเลยหลังจากนั้นสักพักพวกแม่ผมก็เดินกลับมาพวกเราก็เดินกัน
กลับมาขึ้นรถเพื่อไปที่ร้านอาหารไปถึงนิชิโนะก็จอดรถที่หน้าร้านอาหารให้พวกเราลงรถกันก่อนหลังจากนั้นนิชิโนะจะเอารถไปจอดรอ
พวกเราที่บริษัท
แม่-โห!!ปูตัวใหญ่หน้าร้านมันขยับได้ด้วยยัยพลอย!!
พลอย-มะ…แม่!!!อย่าพูดดังนักสิมันน่าอาย
ผม-แม่ เป็นร้านอาหารที่มีเมนูปูเยอะมากเลยนะ
แม่-จริงหรอ!!
ผม-จริงสิ เนี้ยแม่ดูเมนูที่หน้าร้านสิมีเมนูปูเต็มไปหมดเลยนะ
ผมพูดพร้อมกับพาแม่เดินไปดูเมนูอาหารที่อยู่ด้านหน้าร้านแม่ผมก็เปิดเมนูอาหารดูอย่างตื่นเต้น
ฮารุ-ที่รักคะ รีบๆพาท่านแม่เข้าไปข้างในร้านอาหารเถอะนะคะ
ผม-นั่นสินะครับ
หลังจากนั้นพวกเราก็เดินเข้าไปในร้านอาหารทาง พนง ก็พาพวกเราเดินเข้าไปในร้านหลังจากได้ที่นั่งปุ๊บ ผมก็สั่งเมนูสำหรับ7คน มา
และสั่งปูทาราบะ มาเพิ่มอีก1ตัว
สึคุยะ-นี่ลูกทำไมไม่สั่งปูมัตสึบะล่ะมันอร่อยกว่านะ
ผม-มะ..มัน
พนง.ร้าน-ต้องขอโทษด้วยนะคะท่านลูกค้า เมนูปูมัตสึบะต้องสั่งจองล่วงหน้าเท่านั้นค่ะ
สึคุยะ-อย่างงั้นหรอคะ
ผม-ปะ..ปูทาราบะตัวเดียวก็น่าจะอิ่มกันแล้วล่ะครับคุณแม่ฮ่ะๆ
สึคุยะไม่ได้ตอบอะไรผมกลับมาผมก็พอจะรู้ว่าเค้าอยากให้แม่ผมได้กินปูมัตสึบะ พออาหารทั้งหมดถูกวางลงบนโต๊ะแม่ผมก็ดูตื่นเต้น
จนออกอาการอย่างเห็นได้ชัด
ผม-งะ..งั้นพวกเรามาทานกันเลยนะ
ฮารุ-ค้า~~!
สึคุยะ-นี่ลูกแล้วท่านแม่ทานของดิบได้หรอจ๊ะ
ผม-อ๊ะ!! ผมลืมไปเลยครับ ชิสึซังช่วยไปบอกทางร้านทีนี้ว่าปูทาราบะเอาแบบนึ่งนะ
ชิสึ-ทราบแล้วค่ะ
หลังจากนั้นชิสึก็ลุกไปบอก พนง ร้าน ไม่นานก็เดินกลับมา
แม่-นี่ ไม่มีแบบที่ไม่ดิบบ้างหรอ
ผม-ผมสั่งให้เค้านึ่งปูแล้ว แม่กินปูย่างอันนี้รอไปก่อนนะ
ผมก็หยิบขาปูย่างที่อยู่ในชุดอาหารให้แม่กิน
พลอย-งั้นหนูทำชาบูขาปูให้แม่เลยนะพี่ชาย
ผม-เออแก เริ่มทำไปเลย
ชิสึ-คุณหนูพลอยเด๋วดิฉันทำให้เองนะคะ
ผม-ไม่ต้อง
ฮารุ-ชิสึซัง ช่วยทำให้สุกทุกอย่างด้วยนะคะ
ชิสึ-ทราบแล้วค่ะคุณผู้หญิง
หลังจากนั้นพวกเราก็นั่งกินข้าวกันไปได้สักพักปูทาราบะนึ่งก็ถูกยกมาวางบนโต๊ะแม่ผมก็กินอย่างอร่อยหลังจากที่พวกเรากินข้าวกันเสร็จ
แล้วพวกเราก็เดินกลับไปที่บริษัทกันระหว่างทางก็มีร้านขายของเต็มไปหมดทั้ง2ข้างทาง แม่ผมก็มองเข้าไปดูทุกร้านแต่เดินไปได้ไม่
ถึง4นาที ร้านขายของก็เริ่มน้อยลงเริ่มมีตึกสำนักงานมากขึ้นแม่ผมก็เริ่มเบื่อและพูดถึงมื้ออาหารเมื่อกี้ขึ้นมา
แม่-ร้านเมื่อกี้อร่อยดีหรอกนะแต่น่าเสียดายไม่มีน้ำจิ้มซีฟู้ด รู้แบบนี้น่าจะซื้อติดมาด้วยนะ
ผม-เฮ้ออ เด๋วผมไปหาซื้อให้ละกันครับ
สึคุยะ-ท่านแม่พูดอะไรหรอจ๊ะ
ผม-มะ..แม่ผมเค้าแค่นึกเสียดายที่ลืมเอาน้ำจิ้มซีฟู้ดติดมาด้วยเฉยๆครับ
สึคุยะ-อย่างงั้นหรอจ๊ะ
ฮารุ-งั้นให้ใครไปซื้อพวกเครื่องปรุงอาหารไทยกลับบ้านด้วยดีมั้ยคะ
ผม-ไว้ผมจะไปซื้อมาให้เองนะครับ
หลังจากเดินกันมาสักพักก็ถึงที่บริษัท
โทชิโร่-ยินดีต้อนรับกลับครับทุกท่าน
อายะ-เดินกลับมาเหนื่อยๆ รับน้ำองุ่นกันสักแก้วก่อนดีมั้ยคะ
ผม-แม่หิวน้ำมั้ย
แม่-โห!!! ตึกนี่สูงจัง วิวข้างบนจะสวยขนาดไหนกันนะ!!!
พลอย-แม่!!! หนูบอกว่าอย่าทำเสียงดังไงล่ะ มันน่าอายนะ!!
ผม-โทษทีนะอายะซัง อุตส่าห์ไปซื้อน้ำองุ่นมาเตรียมไว้ให้ทั้งที
อายะ-เอ๊ะ มะ..ไม่เป็นไรค่ะจริงๆแล้วน้ำอง่นุพวกนี้ดิฉันเตรียมมาจากที่บ้านด้วยค่ะไม่ได้เสียเงินตัวเองซื้อมาหรอกนะคะ
ผม-เตรียมมาจากบ้านด้วยหรอครับ
อายะ-ค่ะ ดิฉันคิดว่าจะต้องออกมานอกบ้านทั้งวัน ก็เลยเตรียมน้ำองุ่นที่คุณท่านชอบติดมาด้วยค่ะ
ฮารุ-เป็นที่รักของทุกคนในบ้านแบบนี้ ฮารุอิจฉาคุณจังเลยนะคะ
พูดเสร็จฮารุก็เข้ามากอดแขนผม
ชิสึ-คุณผู้หญิง ดิฉันเองก็เตรียมชาร้อนหอมๆที่คุณผู้หญิงชอบมาให้ด้วยแล้วนะคะ ได้โปรดอย่าน้อยใจไปเลยนะคะ
ฮารุ-ฮิฮิ ฮารุแค่ล้อเล่นค่ะ ชิสึซังกับอายะซัง ขอบคุณนะ ❤️
ในระหว่างที่ผมคุยกับฮารุ แม่ผมก็เดินดูมุมนั้นมุมนี้ของตึกกับยัยพลอยและเก็นจิ ถึงจะเป็นตึกสำนักงานแต่ก็เป็นสำนักงานบริษัททำ
โรงแรม การตกแต่งหลายๆอย่างจึงหรูหรากว่าบริษัททั่วๆไป มันก็เป็นที่ดึงดูดสายตาแม่ผมเป็นอย่างดี ทั้งถ่ายรูป ทั้งเดินดู ส่วนสึคุยะ
ซัง ก็ทำหน้าที่รับการต้อนรับจากพนักงาน ซึ่งที่นี่เป็นตึกสำนักงานจึงมีพิธีรีตองในการต้อนรับพวกเราน้อยมมากๆ อย่างผม มาทำงาน
ประจำอยู่แล้วถือว่าปกติจึงไม่ได้เป็นที่สนใจ
สึคุยะ-นี่ลูกพาท่านแม่ขึ้นไปข้างบนได้แล้วนะ คุณพ่อน่าจะรออยู่ที่ห้องทำงานแล้ว
ผม-เอ๊ะ มะ…ไม่ต้องขึ้นไปรบกวนคุณพ่อก็ได้นะครับ
สึคุยะ-ไม่เห็นจะรบกวนอะไรเลยนี่จ๊ะ ปกติลูกก็ขึ้นไปห้องทำงานของคุณพ่อบ่อยๆไม่ใช่หรอจ๊ะ
ผม-ตะ..แต่นั่นมัน
สึคุยะ-ฮารุจังพาท่านแม่ไปดูห้องทำงานของสามีลูกหน่อยได้มั้ยจ๊ะ
ฮารุ-ได้ค่ะ ท่านแม่ค้า~~!!! พวกเราขึ้นดูข้างบนกันมั้ยคะ วิวสวยมากๆเลยนะคะ
พลอย-แม่ พวกเราขึ้นไปข้างบนกันเถอะ อยู่ตรงนี้มีแต่จะรบกวนคนอื่นทำงานนะแม่
แม่-อะไรไม่ได้รบกวนอะไรสักหน่อย
ผม-เฮ้อออออ อายะซัง เดินไปบอกเก็นจิให้พา ท่านแม่ขึ้นไปข้างบนได้แล้ว
อายะ-ทราบแล้วค่ะ
หลังจากนั้นอายะก็เดินไป
ผม-คุณแม่พวกเราก็ไปกันเถอะนะครับ
สึคุยะ-จ๊ะ
หลังจากที่ยัยพลอย ดึงแม่ผมมาได้แล้วพวกเราก็ขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นบนสุดเพื่อไปหาคุณพ่อกันก่อน พอลิฟต์เปิด ผมก็เห็นชิสึกะมายืนรอ
ต้อนรับอยู่ที่หน้าประตูลิฟต์
ชิสึกะ-ยินดีต้อนรับค่ะ คุณนาย คุณหนู ท่านบิกคุ คุณหนูพลอย
สึคุยะ-ขอบใจที่มารับนะ จริงสินี่คือท่านแม่ของบิกคุซังดูแลให้ดีๆด้วยนะ
ชิสึกะ-ทราบแล้วค่ะคุณนาย สวัสดีค่ะท่านแม่ของท่านบิกคุ ดิฉันชื่อชิสึกะ ถ้าท่านแม่จะเอาอะไรเพิ่มเรียกดิฉันได้เลยนะคะ
พลอย-แม่ ชิสึกะซังเค้าทักทายสวัสดี
แม่-สะ..สวัสดี ขะ.. ขอฝากตัวด้วยนะ
ผมแปลกใจกับสิ่งที่ผมได้ยินคือแม่ผมสวัสดีและฝากตัวเป็นภาษาญี่ปุ่น
ผม-แม่!! ไปหัดพูดมาจากไหน
แม่-เก็นจิสอนให้แม่แหละ แม่พูดเหมือนคนญี่ปุ่นมั้ย
แม่ผมพูดพร้อมกับทำท่าภูมิใจ ถ้าถามว่าเหมือนมั้ยล่ะก็ไม่เหมือนเลยสักนิด แต่เอาเถอะแม่เองก็พยายามหัดอยู่
ผม-หึหึ เหมือนดีนี่แม่
ชิสึกะ-คุณนายคะ ท่านประธานกำลังรออยู่ข้างในห้องทำงานนะคะ
สึคุยะ-งั้นพวกเราเข้าไปหาคุณพ่อกันเถอะนะ
หลังจากนั้นพวกเราก็เดินเข้าไปในห้องทำงานของคุณพ่อเปิดประตูเข้าไป ในห้องทำงานนั้นมีทั้งคุณพ่อ ทาเคดะซัง ซาซากิซัง ริว ชิโระ
อยู่กันครับเลย และไอ้2ตัวป่วนอย่างชิโระและริวก็รีบวิ่งเข้ามาทักทายแม่ผม
ชิโระ-สวัสดีครับท่านแม่ ผมชื่อชิโระเป็นเพื่อนสนิทกับบิกคุคุงครับ
ริว-สวัสดีครับท่านแม่ผมชื่อ ริว เรียกว่าริวจังก็ได้ครับเป็นน้องชายของบิกคุซังครับ
ผม-สะ…สวัสดีครับ ทาเคดะซง ซาซากิซัง คะ..คุณพ่อ
แม่-อุ้ยตาย หนุ่มหล่อ2คนนี้เป็นใครหรอ
พลอย-2คนนี้เป็นเพื่อนสนิทของพี่ชายแม่ บางทีก็ไปค้างคืนที่บ้านอยู่บ่อยๆด้วยนะ
ผม-นี่ยัยพลอย ไม่คิดจะสวัสดีผู้ใหญ่เลยรึไง แม่คนๆนี้ทาเคดะซัง เป็นพ่อของ ชิโระ ส่วนคนนี้คือซาซากิซัง เป็นพ่อของริว นี่คือแม่ผมครับ
แม่-สวัสดีค่ะ ขอฝากตัวด้วยนะคะ
โอคะวะ-โอ้!! ท่านแม่พูดภาษาญี่ปุ่นได้ด้วยหรอครับเนี้ย
ผม-คือ เก็นจิสอนให้แม่ไปได้ไม่กี่คำเองครับตอนนี้
ทาเคดะซัง-แค่นี้ก็ดีแล้วนะ
ซาซากิ-ใช่ๆ ไอ้เด็กน้อยแกคิดมากไปนะ
ผม-จริงสิแม่ ทั้งทาเคดะซังและซาซากิซัง เค้ามีบุญคุณกับผมมากเลยนะ
แม่-จริงหรอ!!! แล้วทำไมแกไม่รีบบอกเล่าจะได้เตรียมของฝากมาให้
ผม-ผะ..ผมลืม
แม่-แกนี่มันใช้ไม่ได้เลยนะ!!
ฮารุ-เกิดอะไรขึ้นหรอคะท่านแม่
เก็นจิ-คือว่าคุณท่านไม่ยอมบอกท่านแม่ก่อนว่าทาเคดะซังกับซาซากิซังเป็นคนที่มีบุญคุณกับคุณท่าน ท่านแม่ก็เลยโมโหที่ไม่มีของฝากมาให้ทั้ง2ท่าน
ผม-แม่ ใจเย็นๆก่อนสิ เด๋วเราให้เตี่ยซื้อมาก็ได้นี่แม่
แม่-แก!!
พลอย-นี่แม่พวกเรามาทำอาหารไทยเลี้ยงทุกคนดีมั้ย ทุกคนเค้าอยากลองกินอาหารไทยแท้ๆมานานมากๆแล้วนะ
วะ..วันนี้ผมรู้สึกว่าผมเป็นตัวป่วนและยัยพลอยเป็นตัวแบกของทีม ซึ่งพอได้ยินแบบนั้นแม่ผมก็อารมณ์เย็นลง และก็ได้นัดแนะกับทุกคนว่าในวันเสาร์หน้าพวกเราจะมาทำอา หารไทยและจัดงานเลี้ยงต้อนรับแม่ผมด้วยเลยหลังจากที่ผมคุยกับคุณพ่อเสร็จผมก็ลงมาที่ห้องทำงานตัวเอง ไม่ได้มาห้องทำงานตัวเองมาสักพักแล้วพูดแบบนี้อาจจะฟังดูแปลกแต่ผมรู้สึกคิดถึงห้องทำงานของผมพอประตูลิฟต์เปิดนานามิกับซานาเอะก็มายืนรอต้อนรับพวกเราที่หน้าประตูลิฟต์เหมือนกัน
นานามิ-ยินดีต้อนรับนะคะ คุณนาย คุณหนู ท่านบิกคุ คุณหนูพลอย
ซานาเอะ-ยินดีต้อนรับค่ะ คุณนาย คุณหนู ท่านบิกคุ คุณหนูพลอย
ผม-ฮ่ะๆยินดีที่ได้เจอกันอีกนะครับ
ฮารุ-ท่านแม่คะ 2คนนี้คือ นานามิซังกับซานาเอะซัง เป็นเลขาส่วนตัวของ บิกคุซังค่ะ
แม่-เลขาส่วนตัว!!! นี่แกมีเลขา2คนเลยหรอ !!!
ผม-อะ…อื้มพอดีมันมีปัญหานิดหน่อยน่ะแม่
สึคุยะ-นี่ลูกมีเรื่องที่จะต้องพูดอยู่ไม่ใช่หรอจ๊ะ
ผม-เรื่องอะไรหรอครับ
สึคุยะ-อะไรกัน ลืมไปแล้วหรอจ๊ะ ก็เรื่องปูมัตสึบะไงล่ะ
แม่-ปูมัตสิบะหรอ
พลอย-ใช่แม่ เมื่อกี้ที่เราไปกินมันไม่มีปูนี้ จะกินปูนี้ได้ต้องสั่งจองล่วงหน้าเท่านั้น
แม่-โห!! มันต้องอร่อยมากๆแน่เลยนะ
สึคุยะ-ปูมัตสึบะคือปูที่อร่อยมากเลยค่ะท่านแม่
พลอย-เนื้อมันหวานมากเลยนะแม่ แถมได้กินสดๆอีก
แม่-เฮ้ออ!!พูดไปก็ยังกินไม่ได้ต้องสั่งจองล่วงหน้าไม่ใช่หรอ
หลังจากที่แม่ผมพูดจบทุกคนก็หันมามองหน้าผมกันหมดทุกคน ซึ่งจะให้ผมทำเป็นปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปก็ไม่ได้ด้วยเพราะคนที่เปิดหัวข้อ
เรื่องนี้ขึ้นมาก็คือสึคุยะซังและนี่ไม่ใช่การพูดถึงปูมัตสิบะครั้งแรกในวันนี้ ถ้าผมปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปผมเองนี่แหละจะซวยแทน
ผม-เฮ้อออ ผมทราบแล้วครับ ซานาเอะซัง ช่วยสั่งให้คนเอาปูมัตสึบะ ไปส่งที่บ้านผมทีนะ
ซานาเอะ-เรื่องนั้นง่ายมากเลยค่ะ จะเอาเท่าไหร่ดีคะ
ผม-เอาเท่าไหร่ดีล่ะ
พลอย-เอาแค่5ตัวก็เยอะแล้วนะพี่ชาย
ผม-จะพอกินงั้นหรอคนในบ้านก็อยู่กันตั้งหลายคน
สึคุยะ-ถ้าอย่างงั้นเอา1ลังละกันนะจ๊ะ
ซานาเอะ-ทราบแล้วค่ะจะรีบจัดการให้เลยนะคะ
ผม-เอ๋!!! ดะ…เด๋วสิครับคุณแม่ปูนี่มันแพงมากเลยนะครับผมคิดว่าเราควรเก็บไว้ขาย
ฮารุ-ถ้าไม่พอที่รักก็สั่งซื้อใหม่อีกสิคะ
สึคุยะ-เรื่องง่ายๆใช่มั้ยล่ะจ๊ะ ฮิฮิ
ผม-เฮ้อออ เอาละๆถ้าจบเรื่องแล้วงั้นพวกเราก็เข้าไปในห้องทำงานของผมก่อนละกันจะได้ไม่มารบกวนคนอื่นทำงาน
พลอย-แม่!! พี่ชายสั่งปูมัตสึบะมาให้แม่ด้วยล่ะ!!!
แม่-นี่แกสั่งซื้อปูมัตสึบะได้ด้วยหรอ
ฮารุ-ได้ค่ะท่านแม่ เพราะว่าบิกคุซังเป็นถึงรองประธานบริษัทโรงแรมและยังเป็นประธานบริษัทร้านอาหารในโรงแรมอีกด้วยนะคะท่านแม่!
แม่-ห๋า!!!! แก เนี้ยนะ รองประธานบริษัท! โกหก!!!
พลอย-เรื่องจริงนะแม่
แม่-นี่ยัยพลอยอย่างพี่ชายแกเนี้ยนะ
เก็นจิ-เรื่องจริงนะครับคุณป้า
ฮารุ-ท่านแม่คะ ได้โปรดดูห้องทำงานของบิกคุซังก่อนเถอะนะคะ พวกเราในที่นี่ไม่มีใครคิดจะโกหกหรือหลอกลวงท่านแม่เลยสักคนนะคะ
หลังจากนั้นฮารุก็เดินไปเปิดประตูห้องทำงานผม ทำให้แม่ผมเห็นข้างในห้อง ฮารุและยัยพลอยพาแม่ผมเดินเข้าไปดูในห้องทำงานของ
ผมหลังจากที่ผมไม่ได้มาทำงานเกือบเดือนหลายๆอย่างในห้องทำงานผมเปลื่ยนไปอย่างแรกชุดโซฟารับแขกซึ่งตอนแรกไม่เคยหรูหรา
ขนาดนี้ และยังเฟอร์นิเจอร์อีกหลายอย่างที่ถูกตกแต่งใหม่ทั้งหมดหลังจากนั้นแม่ผมก็เดินดูทุกซอกทุกมุมของห้อง
แม่-ห้องทำงานนี่ใหญ่จริงๆเลยเนอะยัยพลอย
พลอย-ใช่แล้วล่ะแม่แถมวิวในห้องนี้ก็ยังสวยอีกด้วย
ผม-แม่ นั่งพักหน่อยมั้ย วันนี้เดินทั้งวัน
แม่-ดีเหมือนกันแม่ก็เมื่อยขาแล้วล่ะ
ผมก็เลยพาแม่ไปนั่งที่โต๊ะทำงานของผมพอแม่เข้าไปนั่งแม่ก็ค่อยๆเอามือมาลูบคลำโต๊ะทำงานของผมอย่างทะนุถนอมและจู่ๆแม่ผมก็
น้ำตาไหลออกมา
ฮารุ-ทะ…ท่านแม่ร้องไห้ทำไมกันคะ!
ผม-เอ๊ะ!! แม่เป็นอะไร
อายะ-ท่านแม่ นี่ผ้าเช็ดหน้าค่ะ
แม่-ปะ…ป่าวแม่ไม่ได้เป็นอะไรแค่พอคิดว่าเด็กโง่อย่างแกในวันนั้นจะมีวันนี้กับเค้าได้
แม่ผมพูดไปด้วยน้ำตาที่ไหลออกมาไม่ยอมหยุดมันทำให้ผมเองก็เริ่มมีน้ำตาคลอบ้าง
ผม-พะ…พูดอะไรกันแม่ ผมก็คือผม เป็นลูกแม่คนเดิมนั่นแหละ แม่ไม่ต้องร้องไห้แล้วนะ
ผมก็หยิบผ้าเช็ดหน้าจากอายะมาเช็ดน้ำตาให้แม่ผม
แม่-ไอ้เด็กบ้า!!คิดจะมาปลอบใจแม่ อย่างแกยังเร็วไป100ปี
ผม-ฮ่ะๆ งั้นผมจะโทรตามเตี่ยให้มาหาแม่ไวๆนะ นี่แม่รู้มั้ยทำไมโอคะวะซังถึงให้ห้องทำงานห้องนี้กับผม
แม่-อ้าว แกไม่ได้ทำงานที่ห้องนี้ตั้งแต่แรกแล้วหรอ
ผม-ในตอนแรกผมทำงานอยู่ห้องข้างๆโอคะวะซัง
แม่-แล้วทำไม
แม่ผมยังพูดไม่ทันจบผมก็ดึงเก้าอี้ที่แม่นั่งอยู่หันหลังกลับไปที่วิวในห้องทำงานผมแบบเต็มๆตา
แม่-ว้าวววว………สวยจังเลยวิวนี้
ผม-แม่เห็นภูเขาไกลๆตรงนั้นมั้ย
แม่-ตรงนั้นหรอ
ผม-ใช่ๆ นั่นภูเขาไฟฟูจิแหละแม่ ถ้าวันไหนที่ท้องฟ้าปลอดโปร่งแบบวันนี้เราก็จะสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ เพราะแบบนี้โอคะวะซังก็เลยยกห้องทำงานห้องนี้ให้ผม
แม่ผมก็นั่งดูวิวอยู่อย่างงั้นเงียบๆไม่ได้ตอบอะไรผมกลับมา ผมเองก็ยืนดูอยู่ข้างหลังเก้าอี้ทำงานและดูวิวไปพร้อมกับแม่ผม
ฮารุ-คุณคะตอนนี้ก็บ่าย2กว่าๆแล้ว พวกเราแวะพักดื่มชากันสักหน่อยดีมั้ยคะ
สึคุยะ-ถ้าอย่างงั้นสั่งชุดขนมหวานที่กินคู่กับชามาด้วยดีมั้ยจ๊ะ
พลอย-หนูเอาค่ะ!!
ฮารุ-ถ้างั้นเอามา2ชุดนะคะคุณแม่
สึคุยะ-เอามา7ชุดละกันจ๊ะ
ฮารุ-ตะ..แต่ว่าคุณแม่คะ มันไม่เยอะไปหน่อยหรอคะ ชุดนึงก็ทานได้4คนแล้วนะคะ
สึคุยะ-พวกเราอยู่กันตั้งหลายคนนะจ๊ะ
ฮารุ-ขะ..เข้าใจแล้วค่ะ ที่รักคะช่วยสั่งชุดขนมว่างที่ทานคู่กับชาให้ฮารุหน่อยได้มั้ยคะ
ผม-ซานาเอะซังช่วยจัดการให้ผมทีนะครับ
ซานาเอะ-ทราบแล้วค่ะ
หลังจากนั้นซานาเอะก็ออกจากห้องทำงานผมไปโทรศัพท์สั่งขนมที่โต๊ะทำงาน ถึงจะบอกว่าออกไปนอกห้องก็เถอะแต่วันนี้ประตูห้องทำงานผมไม่ได้ปิดเปิดอ้าอย่างเต็มที่ไม่นานนักก็มีคนเอาขนมมาส่ง ตอนแรกผมคิดว่าจะใส่กล่องมาให้ แต่นี่เล่นเอาชั้นที่เป็นรูปร่างคล้ายกรงนกและมี2ชั้นพร้อมกับเอาขนมของหวานวางบนจานมาเสิร์ฟ ทำเหมือนกับพวกเราไปนั่งกินที่ร้านไม่มีผิดหลังจากนั้นชิสึและอายะที่ชงชาร้อนเองกับมือ ก็เดินเสิร์ฟชาร้อนให้กับพวกเราคนละแก้ว
ผม-เวลาลูกค้าสั่งกลับบ้านจะได้เป็นชุดแบบนี้รึป่าวครับ
ซานาเอะ-เรื่องนั้น…..ไม่ได้ค่ะ ถ้าลูกค้าต้องการที่จะห่อกลับบ้านทางเราจะใส่กล่องกระดาษให้แทนค่ะ
นานามิ-มีอะไรหรอคะบิกคุซัง
ผม-มะ..ไม่มีอะไรครับแค่คิดว่าถ้าให้ขนาดนี้ร้านของพวกเราคงเจ๊งแน่นอนครับ
ซานาเอะ-ฮิฮิไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะ อันนี้ดิฉันสั่งให้เค้าเตรียมมาจากที่ร้านด้วยค่ะ
ฮารุ-ฮารุว่าก็ปกตินี่คะเวลาฮารุไปดื่มชาที่ร้านข้างนอกกับพลอยจังเค้าก็จะเสิร์ฟขนมมาเป็นเซ็ทแบบนี้
พลอย-ใช่แล้วล่ะพี่ชาย
ผม-ยะ…อย่างงั้นหรอครับ จริงสิ โทชิโร่ซัง นิชิโนะซัง ช่วยเอาน้ำชาและขนมไปเสิร์ฟพวกคุณพ่อทีนะครับ
โทชิโร่/นิชิโนะ-ทราบแล้วครับ
หลังจากนั้นทั้ง2คนก็ช่วยกันยกทั้งขนมและน้ำชาร้อนไปขึ้นลิฟต์
ชิโระ-ท่านแม่จะอยู่ถึงเมื่อไหร่หรอครับ พวกเราพาท่านแม่ไปเที่ยวฮ๊อกไกโดกันเถอะนะบิกคุคุง
ริว-พี่ใหญ่ชิจังเองก็ชวนพวกเราไปเที่ยวที่ฮ๊อกไกโดหลายครั้งแล้ว น่าสงสารชิจังออกนะครับ
ผม-เฮ้อออ เออแม่ข้าจะอยู่ที่นี่ไปสักพักส่วนเรื่องเที่ยว ก็อย่างที่พวกแกเห็นข้าไปเที่ยวจนเบื่ออยากจะพักและมานั่งทำงานบ้าง
นานามิ-บิกคุซังคะวันนั้นทำงานค้างไว้ทางแผนกรอเอกสารมานานมากแล้วนะคะ
ผม-เอ๊ะ!!ไม่ใช่ว่าคุณพ่อเอ๊ย!! ท่านประธานจัดการไปแล้วหรอครับ
นานามิ-อันอื่นท่านประธานจัดการไปหมดแล้วล่ะคะ เหลือแต่อันที่บิกคุซังทำค้างเอาไว้จะเอายังไงดี ให้ดิฉันยกเข้ามาให้เลยดีมั้ยคะ
ผม-อืมรบกวนด้วยครับ
หลังจากนั้นนานามิก็เดินออกไปหยิบเอกสารจากบนโต๊ะทำงานของตัวเองมาให้ผม
ฮารุ-ที่รักคะ มานั่งทานชาด้วยกันก่อนสิคะ
ผม-ตะ..แต่ว่า
สึคุยะ-มีแค่แฟ้มเดียวเองไม่ใช่หรอจ๊ะ มานั่งทำตรงนี้กับพวกเราก็ได้
ผม-ท..ทำอย่างงั้นได้ที่ไหนล่ะครับคุณแม่เอกสารจะเปื้อนเอานะครับ เด๋วผมนั่งทำที่โต๊ะทำงานนี่แหละครับ
หลังจากนั้นผมก็นั่งทำงานที่โต๊ะทำงาน อายะก็ยกน้ำชาและขนมทานเล่นมาให้ผม ชิโระและริวก็เดินตามมานั่งเก้าอี้ตรงข้ามผม
ชิโระ-นี่ๆๆ พวกเราไปเที่ยวฮอกไกโดกันเถอะนะ
ผม-เฮ้อออ นี่ชิโระแกทิ้งริกะจังมาแบบนี้จะดีหรอ
ชิโระ-ทิ้งที่ไหนกันไอ้บ้า อีกอย่างริกะก็นั่งอยู่ตรงนั้นกับพวกฮารุไม่เห็นต้องกลัวอะไรเลยนี่
หลังจากนั้นผมก็นั่งทำงานโดยไม่ได้ตอบอะไรชิโระกลับไป ชิโระมันก็หันไปคุยเล่นกับริว แทน อายะก็คอยเติมชาให้พวกเราไม่นานผมก็ทำงานเสร็จ
ผม-นานามิซังเอกสารเสร็จแล้วเอาไปส่งที่แผนกได้เลยนะครับ
นานามิ-ทราบแล้วค่ะ
แม่-งานเสร็จแล้วแกก็มานั่งกินขนมด้วยกันกับพวกเราสิ ขนมพวกนี้อร่อยมากเลยนะ
ผมก็พึ่งจะรู้ว่าแม่ชอบกินพวกขนมหวานมากๆ อย่างพวกเค้กเป็นต้น
พลอย-ปล่อยพี่ชายไปเถอะแม่ ปกติตอนอยู่บ้านก็มักจะรวมกลุ่มอยู่กันแบบนั้นแหละค่ะ
ฮารุ-ใช่แล้วค่ะท่านแม่
แม่-จับกลุ่มกันนี่คงไม่ได้พากันไปทำเรื่องโง่ๆใช่มั้ย อย่างไปทะเลาะวิวาทกับพวกนักเลงหรือพวกยากุซ่าหรอกนะ
ผมได้ยินแบบนั้นก็แทบจะพ่นน้ำชาที่อยู่ในปากออกมาแต่เก็นจิก็รีบเข้ามาปกป้องพวกผม
เก็นจิ-ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับคุณป้า
พลอย-ชะ..ใช่แล้วล่ะแม่พี่ชายก็แค่ผู้ชายที่ชอบจับกลุ่มทำเรื่องบ้าๆอย่างไปขับรถเล่นกันเท่านั้นแหละแม่
ฮารุ-ใช่ค่ะท่านแม่บิกคุซังแค่ออกไปเที่ยวเล่นตามภาษาเด็กผู้ชายนิดหน่อยเท่านั้นเองค่ะ
แม่-ไม่ได้นะฮารุจัง!! จะปล่อยให้ไอ้ลูกโง่ของแม่ออกไปทำอะไรไม่คิดไม่ได้นะ
ฮารุ-เอ๊ะ!!
ผม-แม่ ผมไม่ใช่เด็กๆแล้วนะที่จะไปทำอะไรแบบนั้น
แม่-ฮึ คิดว่าจะเชื่อแกได้รึไง
ผม-โธ่แม่!!!
สึคุยะ-ฮารุจังได้เวลาทำให้ท่านแม่สบายใจแล้วไม่ใช่หรอจ๊ะ
ฮารุ-ขะ..เข้าใจแล้วค่ะ เพื่อความสบายใจของท่านแม่ เก็นจิไปบอกทุกคนในบ้านให้เรียบร้อยด้วยนะคะว่าหลังจากนี้ห้ามปล่อยคุณท่านไปไหนมาไหนคนเดียวอีกเด็ดขาด
หลังจากที่ฮารุพูดจบ เก็นจิก็หันมามองผม ผมก็ได้แต่ส่ายหัวกลับไป เก็นจิมันก็ผงกศีรษะเหมือนเข้าใจว่าผมต้องการอะไร
เก็นจิ-ทราบแล้วครับคุณผู้หญิง
ผม-เห้ย!!
ฮารุ-มีปัญหาอะไรหรอคะที่รัก
ฮารุพูดกับผมด้วยรอยยิ้มแต่สายตาของฮารุที่มองผมอยู่กับไม่ได้ยิ้มเลย
ผม-มะ..ไม่มีครับ
สึคุยะ-ท่านแม่คะ บิกคุคุงไม่ใช่เด็กแบบนั้นหรอกนะคะ ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ก็ทำแต่งานมาตลอดเลยนะคะ
หลังจากที่แม่ผมได้ยินที่สึคุยะพูดแม่ผมก็เย็นลงหลังจากนั้นผมก็เลยเดินมาแนะนำตัวไอ้พวกชิโระใหม่อีกรอบ
ผม-แม่ ชิโระกับริวคือเด็กมหาลัยปีสุดท้าย แล้วนะไม่ใช่เด็กเกเรแบบนั้นหรอกนะแม่
แม่-แล้วเรียนอะไร
ผม-บริหารน่ะแม่
แม่-หรอ แล้วที่บ้านทำงานอะไรกันละ
ผม-โธ่แม่
ฮารุ-ที่บ้านของชิโระกับริวทำธุรกิจไนต์คลับ ค่ะท่านแม่มีหลายสาขาเลยนะคะ
แม่-จริงหรอ
ชิโระ-จ..จริงครับท่านแม่
แม่-อย่าพากันไปทำเรื่องโง่ๆนะรู้มั้ยมันไม่ดี
ริว-ทะ..ทราบแล้วครับ
ผม-ผมรู้แล้วแม่
แม่-ถ้ารู้ก็ดีอย่ามาทำให้คนที่นี่เค้าเดือดร้อนล่ะ
หลังจากนั้นพวกผม3คนก็เดินกลับมานั่งที่โต๊ะทำงานพร้อมกับกินขนมที่อายะเอามาวางไว้ให้
อายะ-ขอความร่วมมือด้วยนะคะคุณท่าน
ผม-เฮ้ออออ!!! ผมขอน้ำองุ่นหน่อย
อายะ-ฮิฮิ ทราบแล้วค่ะ
หลังจากนั้นอายะก็เดินไปเอาน้ำองุ่นใส่แก้วมาให้ผม กว่าพวกเราจะนั่งคุยนั่งกินขนมกันเสร็จก็เย็นพอดีหลังจากนั้นพวกเราก็แยกย้ายกัน
กลับบ้านสึคุยะกลับบ้านไปกับโอคะวะ ส่วนพวกผมก็กลับบ้านกัน ทางพวกชิโระกับริวในตอนแรกจะขอไปนอนที่บ้านผมให้ได้แต่ผมก็
เลือกที่จะปฏิเสธไปเพราะว่าผมอยากพักผ่อนจริงๆอยู่บ้านเงียบๆก่อนที่จะต้องกลับมาเริ่มงานพอมาถึงบ้านพวกเราก็แยกย้ายกับกลับ
ห้องตัวเองอ่าบน้ำเปลื่ยนชุดอยู่บ้านเสร็จผมกับฮารุก็เดินจูงมือกันลงมารอกินข้าวตอนเย็นที่ห้องอาหาร
ผม-จริงสิผมยังไม่ได้ขอบคุณที่คุณยอมให้ผมสร้างการาจใหม่เลย ขอบ
ฮารุ- ฮารุอยากพาท่านแม่ไปเที่ยวจังเลยแถวนี้พอจะมีใครพาฮารุกับท่านแม่ไปเที่ยวได้บ้างมั้ยน้า~~~~
ผม-ขะ….ขอผมกลับไปเคลียร์งานที่บริษัทก่อนได้มั้ยครับ
ฮารุ-ทำไมต้องไปเคลียร์ด้วยล่ะก็คุณพ่อเป็นคนทำให้แล้วนี่คะ
ผม-ถึงงานของโรงแรมคุณพ่อจะเคลียร์ให้ได้แต่งานของร้านอาหารในโรงแรมยังไงผมก็ต้องเป็นคนทำอยู่ดีนะครับ
ฮารุ-……ก็ได้ค่ะ ยังไงที่รักก็ใหญ่ที่สุดนี่คะ
ผม-โธ่คุณพูดแบบนี้อีกแล้วหรอ ผมก็บอกแล้วว่าในบ้านนี้พวกเราทั้งคู่ใหญ่เท่ากันนะครับ
ผมพูดจบฮารุก็หันหน้าไปทางอื่นทำท่า งอนผมนิดหน่อย
ชิสึ-ดิฉันเอาน้ำองุ่นมาให้แล้วค่ะ คุณท่าน คุณผู้หญิง
ฮารุ-ขอบใจจ๊ะ
ผม-วันนี้มีเมนูอะไรทานหรอครับ
ชิสึ-อืมม…..ดูเหมือนจะเป็นอาหารฟูลคอร์สแบบที่เสิร์ฟกันตามโรงแรมค่ะ เพราะช่วงนี้รูริซังบ่นบ่อยๆว่าอยากทำอาหารแบบตอนอยู่ที่โรงแรม
ฮารุ-ถ้าอย่างงั้นวันนี้ท่านแม่ก็ได้ทานอาหารเมนูดีๆแล้วสินะไม่เหมือนเมื่อวานที่ได้ทานแค่ปลาย่าง
ชิสึ-ใช่แล้วค่ะ
ผม-ตะ..แต่ว่าเมนูอาหารชุดปลาแซลม่อนที่บ้านผมถือว่าหรูระดับนึงเลยนะครับ
ฮารุ-แต่ถ้ามาที่นี่มันกลับกันเลยนะคะ
ผม-จริงหรอครับ ผมว่าผมชอบมากเลยนะครับ
ชิสึ-ใช่ค่ะถ้าเป็นที่นี่สามารถหาทานปลาแซลม่อนย่างได้ทุกที่เลยนะคะ
ในระหว่างที่พวกผมคุยกันอยู่ยัยพลอยก็พาแม่ผมเดินมาที่ห้องอาหารตามติดมาด้วยเก็นจิ
พลอย-มาแล้วค้า! พี่ชายวันนี้เป็นอาหารฟูลคอร์สด้วยแหละ!!!
แม่-ยัยพลอยอาหารฟูลคอร์สคืออะไร
ผม-แม่มานั่งก่อนสิ อาหารฟูลคอร์สก็คือชุดอาหารปกตินั่นแหละแม่ มี Appetizer (จานเรียกน้ำย่อย)Soup (ซุป)Main dish (จานหลัก)Dessert (ของหวาน)
ฮารุ-ถ้าพวกเราได้ไปทานที่ร้านอาหารในโรงแรมจะมีมากกว่านี้อีกค่ะท่านแม่
แม่-ร้านอาหารในโรงแรมหรอ น่าจะแพงมากเลยใช่มั้ย
ฮารุ-ฮิฮิมันก็แพงจริงๆนั่นแหละค่ะ แต่ว่าท่านแม่ไม่ต้องห่วงนะคะถึงจะแพงแต่บิกคุซังพาท่านแม่ไปทานได้ตลอดเวลาเลยล่ะค่ะ
พลอย-ใช่แล้วล่ะแม่พี่ชายน่ะนะ
ผม-นี่ยัยพลอยพอแล้วอย่าพูดมากนัก แม่ถ้ายังไงไว้ผมจะพาแม่ลองไปทานที่ร้านอาหารในโรงแรมนะ
แม่-ไม่ต้องหรอกมันแพงไม่ใช่หรอ
ผม-มันไม่ได้แพงขนาดนั้นหรอกแม่ถ้าเทียบกับเงินเดือนที่ผมได้รับจากโอคะวะซัง
แม่-เค้าให้เงินเดือนแกเยอะมากเลยหรอ
ผม-อืมม…เยอะมากเลยล่ะแม่ มากพอขนาดที่ว่ารวมค่าใช้จ่ายในบ้านนี้ทั้งหมดแล้วผมยังมีเงินเก็บอีกนะ
แม่-แกก็อย่าใช้เงินเยอะเกินไปนักล่ะ ฮารุบอกว่ามาอยู่นี่แกก็ยังแต่งรถอยู่เหมือนเดิมงั้นหรอ
ผมก็หันไปมองฮารุที่พยายามหลบหน้าผมอยู่โดยการหันมองไปทางทีวีทำเป็นไม่ได้ยินที่พวกผมคุยกัน
ผม-….มะ…มันก็มีบ้างแม่มันเป็นสิ่งที่ผมชอบ
แม่-แกก็อย่าลืมตัวเหมือนยัยพลอยนักล่ะ
พลอย-อะไรกันแม่!!คุยกับพี่ชายอยู่ดีๆทำไมถึงหันมาว่าหนูล่ะ
แม่-ก็แกชอบใช้คนอื่นจนเคยตัวแล้วยังไงล่ะยัยพลอย!!
พลอย-อึก….
ผม-แม่เรื่องนั้นช่างมันเถอะผมเองก็พยายามบอกทุกคนไม่ให้ตามใจยัยพลอยมากจนเกินไปตลอดเวลา
แม่-เฮ้อออนี่ยัยพลอยกลับบ้านไปไม่มีใครดูแลแกแบบนี้หรอกนะ
พลอย-งั้นหนูก็จะอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิต หนูจะมาเป็นลูกที่บ้านนี้
แม่-ห๋า!!! นี่ยัยพลอยแกพูดอะไรออกมารู้ตัวรึป่าว!!!!
แม่ผมตวาดใส่ยัยพลอยอย่างโมโหทำเอาฮารุที่นั่งฟังเก็นจิแปลอยู่เงียบๆก็สดุ้งขึ้นมาทันทีหลังจากเห็นแม่ผมเริ่มโมโห
ผม-มะ..แม่!!ใจเย็นๆก่อน ยัยพลอย!!ใครจะให้แกอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิตกันห๊ะ! เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว!!!
พลอย-ตะ..แต่ว่า
ผม-นั่นมันไม่ใช่เรื่องที่แกจะตัดสินใจได้ด้วยตัวแกเองเข้าใจใช่มั้ย!!! มะ…แม่อย่าไปใส่ใจที่ยัยพลอยพูดเลยนะยัยพลอยมันก็พูดเล่นไปแบบนั้นนั่นแหละ
แม่-พูดเล่นก็ไม่ได้!!!รู้มั้ยว่า พวกเราต้องเสียทั้งเงินเสียทั้งเวลาเพื่อเลี้ยงดูพวกแกมากแค่ไหนกว่าพวกแกจะโต แต่พอพวกแกโตแล้วกลับบอกว่าจะเป็นลูกบ้านคนอื่นอย่างงั้นหรอ!!!
ผม-ยะ…ยัยพลอยไม่ได้พูดแบบนั้นสะหน่อยแม่ หลังจากที่ยัยพลอยเรียนจบแล้วก็จะกลับไปอยู่ที่บ้านนั่นแหละแม่
แม่-แกแน่ใจ
ผม-คะ..ครับ
หลังจากนั้นพวกเราก็นั่งกันอยู่เงียบๆไม่นานนักอาหารก็ถูกยกมาเสิร์ฟในคืนนั้นพวกเรานั่งกินข้าวกันเงียบๆไม่มีใครคิดจะพูดอะไรหลัง
จากที่กินเสร็จแม่ผมก็ลุกออกจากห้องอาหารไปโดยที่มีเก็นจิเดินตามไปด้วย
ผม-เฮ้อออ นี่ยัยพลอยแกคิดจะทำอะไรกันแน่
พลอย-นะ…หนูแค่เผลอพูดออกไป
ฮารุ-ท่านแม่ตอนโมโหน่ากลัวมากเลยนะคะ
ผม-มันก็สมควรให้เค้าโมโหนั่นแหละครับยัยพลอยเล่นพูดไปแบบนั้นว่าจะย้ายมาเป็นลูกของบ้านโอคะวะซัง
ฮารุ-แล้วเรื่องของที่รัก
ผม-เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะ มีแต่เรื่องวันๆ เฮ้อออ ผมขอไปเดินเล่นหน่อยนะครับ
ฮารุ-ค่ะ
หลังจากนั้นผมก็เดินออกมาจากห้องอาหารไปนั่งเล่นที่สวนหลังบ้านได้ไม่นาน ทานากะก็เดินเข็นรถพร้อมกับกาน้ำชาและน้ำองุ่นเดินตรง
มาที่ผม
ทานากะ-คุณท่านจะรับชาร้อนหรือน้ำองุ่นดีครับ
ผม-เอาชาร้อนมาล่ะกันครับ
ทานากะ-ทราบแล้วครับ
หลังจากนั้นทานากะก็เทชาร้อนใส่แก้วมาให้ผมและก็กลับไปยืนตรงข้างๆผมเหมือนเดิม
ผม-เฮ้อออ มีแต่เรื่องปวดหัวตลอดเวลาเลยจริงๆให้ตายสิ
ทานากะ-เรื่องที่ท่านแม่พูดเมื่อกี้หรอครับ
ผม-อืม
ทานากะ-แล้วคุณท่านจะทำอย่างไรต่อไปดีล่ะครับ
ผม-ผมก็ยังไม่รู้เหมือนกันครับ ลองแม่ผมพูดแบบนั้นแล้วล่ะก็…….มันคงจะไม่ง่ายเหมือนอย่างที่ผมคิดไว้ในตอนแรก
ทานากะ-นั่นสินะครับ ตัวกระผมเองนั้นก็คิดว่าเรื่องนี้มันคงจะเป็นเรื่องใหญ่จริงๆนะครับ
ผม-เฮ้ออออ….จริงสิ วันเสาร์นี้จะจัดงานเลี้ยงอาหารไทยผมคิดว่ามันจะเป็นการดีถ้าเราจะทดลองการต้อนรับแขกสำหรับทุกคนในบ้านนี้
ทานากะ-กระผมก็คิดว่าดีนะครับ ถ้าอย่างงั้นกระผมจะถือว่างานในวันนั้นเป็นงานเลี้ยงอย่างเป็นทางการจะได้รึป่าวครับ
ผม-อืม ฝากบอกทุกคนให้เตรียมตัวด้วยนะครับ
ทานากะ-รับทราบแล้วครับ
ผม-อ้อ!!! อีกอย่างคุณแม่บอกว่าอยากจะให้เพิ่มเมดอีกสัก2คน ยังไงก็ช่วยจัดการเรื่องห้องพักไว้ล่วงหน้าด้วยนะครับ
ทานากะ-ท่านสึคุยะหรอครับ
ผม-คงรู้ใช่มั้ยว่าผมไม่อยากจะให้มีเรื่องปวดหัวเพิ่มขึ้นมาอีก
ทานากะ-ทราบแล้วครับ กระผมจะจัดการทุกอย่างให้เองครับ
ในระหว่างที่ผมกับทานากะกำลังคุยกันอยู่รูริที่กำลังจะเดินกลับห้องพักของตัวเองก็เดินเข้ามาหาพวกผม
รูริ-บอส!! อาหารฟูลคอร์สของเราในวันนี้อร่อยมั้ย! ฮี่ๆ
ผม-อาหารในวันนี้อร่อยมากเลยครับรูริซัง
รูริ-แฮ่ๆ ขอบคุณนะบอส แค่นี้เราก็หายเหนื่อยแล้วล่ะ!
ผม-จริงสิในวันเสาร์นี้พวกเราจะจัดงานเลี้ยงอาหารไทยกันที่บ้าน
รูริ-อาหารไทยหรอบอส ตะ..แต่เราทำเป็นไม่กี่อย่าง
ผม-เรื่องนั้นผมคิดว่าไม่ต้องเป็นห่วงครับเพราะแม่ผมคงจะเป็นคนทำเอง ยังไงก็รบกวนช่วยแม่ผมทำหน่อยล่ะกันนะ
รูริ-ได้เลยบอส!! เมื่อเช้าตอนเราไปช่วยท่านแม่ทำ เมนู ข้าวต้ม เราสนใจเทคนิคในการทำอาหารของท่านแม่มากเลยนะ เครื่องปรุงทุกอย่างในบ้านนี้ไม่มีเครื่องปรุงสำหรับอาหารไทยเลยแท้ๆแต่ท่านแม่กลับทำออกมาได้อร่อยมากๆเลยล่ะบอส!!
ผมก็คิดว่าแม่ผมทำอาหารเก่งอยู่หรอกเพราะต้องทำให้พวกผมกินมาตั้ง20กว่าปี แต่ไม่คิดว่าระดับคนที่เคยเป็นหัวหน้าเชฟในโรงแรม
จะออกปากชมแม่ผมขนาดนี้ในเรื่องเทคนิคการทำอาหาร
ผม-.........ถึงผมจะรู้ว่าแม่ผมทำอาหารเก่งจริงๆก็เถอะแต่ผมก็ไม่คิดว่าแม่ผมจะเก่งขนาดนั้นหรอกนะครับ
รูริ-ท่านแม่ทำอาหารเก่งจริงๆนะบอส!
ผม-ช่างเถอะๆ ในวันเสาร์นี้ถ้ารูริซังอยากที่จะทำของหวานด้วย ถ้าขอได้ผมก็อยากจะทานฟรุ๊ตเค้ก
รูริ-ของหวานหรอ!!! เราทำได้จริงหรอบอส
ผม-ผมก็บอกไปแล้วนะครับว่าในบ้านนี้คุณสามารถทดลองทำอาหารใหม่ๆได้รวมถึงพวกของหวานด้วยนะครับ เพราะฮารุกับยัยพลอยและแม่ผมเองก็ค่อนข้างชอบขนมหวาน
รูริ-ผู้หญิงก็แบบนี้แหละบอส ฮิฮิ
ทานากะ-คุณท่านแล้วแขกที่จะมาในวันนั้นมีกี่คนหรอครับ
ผม-อืมนั่นสินะ หลักๆก็คงจะเป็นพวกทาเคดะซังและซาซากิซังนั่นแหละครับ ทุกคนล้วนเคยมาบ้านนี้กันอยู่แล้วเพราะงั้นผมคิดว่าทุกคนคงไม่ตื่นเต้น
ทานากะ-ถ้าอย่างนั้นกระผมจะเตรียมเพื่อเอาไว้สำหรับแขกสัก30คนนะครับ
ผม-อืม
รูริ-ตะ..แต่ทำเยอะขนาดนั้นถ้าแขกมากันไม่ครบอาหารจะเหลือเอานะบอส
ผม-อาหารไม่เหลือหรอกครับ
ทานากะ-โฮ๊ะๆใช่แล้วครับอย่างที่คุณท่านบอกเลย ตั้งแต่กระผมทำงานที่บ้านหลังนี้มาไม่ว่าคุณท่านและคุณหญิงทานอะไรพวกเราก็จะได้ทานด้วยเหมือนกันครับรูริซัง
รูริ-จริงหรอ!! พวกเราจะได้ทานอาหารหรูๆแบบนั้นด้วยหรอ
ผม-รูริซังก็พูดเวอร์ไปแล้วนะครับ ผมว่าผมก็ให้เงินเดือนทุกคนในบ้านนี้เยอะกว่ามาตรฐานทั่วๆไปแล้วนะไม่น่าจะขัดสนเรื่องเงินขนาดนั้นไม่ใช่หรอ
รูริ-กะ…ก็แหม๋ บอสเราตกงานมาตั้งหลายเดือนแถมเงินเก็บก็ไม่ค่อยจะเหลือ เมนูอาหารหรูๆนอกจากทำเองแล้ว เราก็แทบจะไม่ได้ทานเลยและก็นะ
ทานากะ-รูริซังช่วยหยุดพูดเรื่องที่ทำให้คุณท่านไม่สบายใจจะได้รึป่าวครับ
รูริ-อ๊ะ!!! บะ…บอสเราขอโทษนะ เราไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดไปแบบนั้น
ผม-ฮะๆ ไม่ต้องคิดมากหรอกนะครับ หลังจากนี้ก็คงได้ทานบ่อยๆแล้วนะ
รูริ-อื้ม!!! เราโชคดีจริงๆที่ได้เจอบอส ขอบคุณนะบอส!!~~
ผม-ครับ ทานากะซังเองก็อย่าเข้มงวดกับคนในบ้านนักเลยนะ
ทานากะ-ทราบแล้วครับ
รูริ-บอสแล้วพวกของทะเลสดๆที่มาส่งในวันนี้จะให้ทำยังไงกับมันดีล่ะ เราทำความสะอาดเสร็จหมดทุกอย่างแล้ว
ผม-ของพวกนั้นผมกะสั่งมาไว้ทำอาหารทานกันในบ้านนี่แหละจัดเก็บเข้าตู้แช่แข็งได้เลยครับ
รูริ-อ๊ะ!! นึกออกแล้วว่าจะทำเมนูอะไรให้บอสทานพรุ้งนี้เช้าดี งั้นเด๋วเราขอกลับเข้าไปเตรียมของในห้องครัวก่อนนะบอส
ผม-ดะ..เด๋ว
รูริพูดจบก็วิ่งกลับไปที่ห้องครัวโดยที่ไม่ฟังคำค้านของผมเลยสักนิด
ทานากะ-ให้กระผมไปเรียกตัวกลับมาดีมั้ยครับ
ผม-เฮ้ออ ไม่เป็นไรผมแค่จะบอกว่าค่อยทำพรุ้งนี้ก็ได้เฉยๆครับ
ในระหว่างที่ผมนั่งคุยกันอยู่ไม่รู้เมื่อไหร่ที่คนในบ้านต่างพากันมายืนอยู่ข้างๆผมทั้ง อายะ ริน ทาคุยะ โทชิโร่ เก็นจิ และคนที่เดินตามมา
สุดท้ายก็คือ ชิสึ ที่คอยตามติดฮารุ
ชิสึ-คุณท่านคะ คุณผู้หญิงฝากมาบอกว่า อย่าดื่มเยอะจนเกินไปนะคะ
ผม-อืม เข้าใจแล้ว จริงสิ ทานากะซังแล้ว มิจังไปไหนหรอครับตั้งแต่ผมกลับมาบ้านยังไม่เจอเลย
ทานากะ-พอดีมิจังต้องไปช่วยทำงานกลุ่มที่โรงเรียนครับ มิจังก็เลยขอไปข้างคืนข้างนอกกระผมก็เลย
ผม-นี่ทานากะ…. หลังจากนี้ไปห้ามมิจังออกไปข้างคืนที่ข้างนอกอีกเด็ดขาด ถ้าจะต้องกลับบ้านดึกละก็ให้ส่งนิชิโนะไปรับซะ! เข้าใจนะ
ทานากะ-ตะ..แต่ว่าถ้าทำแบบนั้นมันจะไม่ดีนะครับ เพราะเดิมทีนิชิโนะซังถูกจ้างมาเพื่อขับรถให้คุณท่านกับคุณผู้หญิงเท่านั้นนะครับ
ผม-หรือว่าจะต้องให้ผมขับรถไปรับด้วยตัวเอง
ชิสึ-ได้โปรดช้าก่อนค่ะ คุณท่าน จริงอยู่ว่ามิจังยังเด็กพวกเราต้องช่วยกันดูแล แต่พวกเรามีหน้าที่อยู่ที่นี่เพื่อคุณท่านและ
ผม-ชิสึ สำหรับผมแล้วพวกคุณไม่ใช่ลูกน้องแต่เป็นครอบครัวต่างหากละ เพราะงั้นผมถึงตั้งใจดูแลทุกคนเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน
ทานากะ-เรื่องนั้นพวกกระผมเข้าใจดีครับ
ผม-งั้นผมจะขอถามอีกครั้งว่า จะต้องให้ผมขับรถไปรับมิจังด้วยตัวเองอีกรึป่าว!
ผมพูดพร้อมกับมองไปที่ทานากะที่กำลังเอาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเหงื่อตัวเองที่บนใบหน้าตัวเอง
ทานากะ-ระ..เรื่องนั้น
อายะ-ไม่ค่ะ!! ไม่จำเป็นที่คุณท่านจะต้องไปเองเลยแม้แต่น้อยค่ะ
ทานากะ-อายะซัง คุณพูดอะไรน่ะครับ
อายะ-ทานากะซังลองคิดดูดีๆสิคะ การที่ปล่อยให้คุณท่านขับรถออกไปคนเดียวจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้นะคะบางที คุณผู้หญิงอาจจะอาละวาดจนบ้านพังหมดแน่เลยนะคะ ถ้าเป็นแบบนั้นสู้ส่งนิโชโนะซังออกไปน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดไม่ใช่หรอคะ
ริน-ดิฉันก็เห็นด้วยค่ะ
ทาคุยะ-ผมก็คิดว่าน่าจะดีที่สุดแล้วล่ะครับ
โทชิโร่-ทานากะซังยอมแพ้เถอะครับ ถ้าขืนยังขัดใจคุณท่านต่อไป สุดท้ายแล้วคุณท่านก็จะหาทางออกไปเองอยู่ดี ถ้าเรื่องเป็นแบบครั้งที่ผ่านมาอีกละก็คุณผู้หญิงคง……….
เก็นจิ-ถ้าอย่างงั้นผมขอเป็นคนออกไปเองครับ
ทานากะ-เก็นจิซังแต่คุณยังมีหน้าที่ต้องคอยรับใช้ท่านแม่อยู่ไม่ใช่หรอครับ
เก็นจิ-ตะ..แต่ว่าเรื่องนั้น
ทานากะ-กระผมทราบแล้วครับคุณท่าน หลังจากนี้ไปกระผมจะให้นิชิโนะซังขับรถไปรับคุณหนูพลอยและมิจังเวลาที่ต้องกลับดึกๆ
ผม-เรื่องของยัยพลอยน่ะช่างมันเถอะ
ทานากะ-ถ้าขนาดคุณหนูพลอยยังต้องนั่งรถไฟกลับเอง กระผมเกรงว่ามิจังเองก็คงจะต้องทำตามเช่นกันจะให้มิจังได้สิทธิ์สบายคนเดียวไม่ได้เด็ดขาดครับ
ชิสึ-ดิฉันก็เห็นด้วยกับทานากะซังค่ะ
ผม-อะๆ เข้าใจแล้ว ถ้าฮารุไม่ได้ไปไหน จะอนุญาตล่ะกัน
ทานากะ-ขอบพระคุณมากครับ
ผม-เฮ้ออออ เอาล่ะคืนนี้ก็ไปพักผ่อนกันเถอะ
ทานากะ-ถ้าอย่างงั้นกระผมจะเดินไปส่งนะครับ
ผม-ไม่ต้องหรอก ผมไม่ใช่เด็กๆแล้ว
ชิสึ-แต่การปล่อยคุณท่านไปไหนมาไหนคนเดียวมันขัดกับคำสั่งของคุณผู้หญิงนี่คะ
ผม-เรื่องนั้นไม่ได้ร่วมถึงในบ้านใช่รึไง
ชิสึ-รวมถึงในบ้านด้วยค่ะคุณท่าน
ผม-เข้าใจแล้วๆ รบกวนด้วยละกัน
ผมตอบกลับไปอย่างหัวเสียแต่ก็ขัดไม่ได้
ชิสึ-ถ้าอย่างงั้นเชิญทางนี้เลยค่ะ
ผม-อืม
หลังจากนั้นผมก็เดินกลับห้องนอนโดยที่มีชิสึเดินตามติดมาด้วย
ชิสึ-คุณท่าน ดิฉันมีเรื่องสงสัยที่อยากจะถามอยู่ค่ะ ขออนุญาตถามได้หรือไม่คะ
ผม-เรื่องอะไรละ
ชิสึ-ทำไมคุณท่านถึงเอาใจใส่มิจังขนาดนั้นหรือคุณท่านคิดจะเอามิจังมาทำเมีย
ผม-หยุดเลยนะชิสึ ห้ามพูดคำนั้นออกมาตรงนี้นะ ก่อนที่ผมจะตอบคำถาม ผมขอถามคุณก่อนละกันทำไมถึงดูแลยัยพลอยเป็นคุณหนูแบบนั้น
ชิสึ-เอ๊ะ! ก็คุณหนูพลอยเป็นคุณหนูนี่คะคุณท่าน
ผม-ไม่ใช่ นี่ขนาดยัยพลอยเป็นแค่น้องสาวผม ถ้าเกิดลูกของผมกับฮารุออกมา พวกคุณไม่ดูแลเค้าดั่งกับลูกเทพเจ้าเลยรึไง
ชิสึ-……นั่นเป็นเรื่องปกติที่พวกเราสาวใช้ควรจะทำให้นายน้อยอยู่แล้วไม่ใช่หรอคะ
ผม-เฮ้ออออ อย่าให้มันเยอะจนเกินไปล่ะกัน ส่วนเรื่องของมิจัง ผมแค่อยากดูแลเหมือนน้องสาวเท่านั้นแหละ เพราะงั้นเรื่องที่ยัยพลอยหรือมิจังจะไปค้างคืนข้างนอกโดยที่ไม่มีพวกเราไปด้วย หลังจากนี้ไป ห้ามเด็ดขาด!!!!
ชิสึ-ทราบแล้วค่ะ ดิฉันจะช่วยด้วยอีกแรงนะคะ
ผม-อืม งั้นก็ไปพักผ่อนเถอะ
ชิสึ-ถ้าเช่นนั้นดิฉันขอตัวก่อนค่ะ
หลังจากนั้นชิสึก็ก้มหัวให้ผมและเดินจากไปผมก็เข้ามาในห้องอ่าบน้ำแต่งตัวนอน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ