ชื่อเรื่อง ยังไม่มี

7.0

เขียนโดย PMTV

วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 22.35 น.

  54 ตอน
  48 วิจารณ์
  35.45K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2564 15.27 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

43) ตอนที่43

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

ตื่นมาอีกทีก็เช้าของวันใหม่พอดี ผมก็อ่าบน้ำแต่งตัวไปทำงานปกติ พอไปถึงบริษัทก็เข้าไปนั่งทำงานเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะไปได้

สักพัก ซานาเอะก็เอาเอกสารฝึกงานของเคนชินมาให้ผมเซ็น

 

 

ผม-เอกสารฝึกงานของเคนชินมีแค่นี้ใช่มั้ยครับ

ซานาเอะ-ใช่ค่ะ บิกคุซังคะ จริงๆแล้วเคนชินอยากจะขอขึ้นมาพบกับบิกคุซัง แต่ดิฉันไม่แน่ใจว่ามันจะดีมั้ย ดิฉันก็เลยให้เคนชินรออยู่

ที่ข้างล่างค่ะ

ผม-อืม……จริงๆตอนนี้ผมก็ค่อนข้างจะยุ่งอยู่

ซานาเอะ-ถ้างั้นปฏิเสธไปก่อนจะดีกว่านะคะ

ผม-ไม่เป็นไรครับ ให้เคนชินขึ้นมาเลยล่ะกัน อาจจะมีเรื่องด่วนก็ได้นะครับ

ซานาเอะ-ทราบแล้วค่ะ

 

 

ซานาเอะก็เดินออกจากห้องทำงานผมไปผมก็กลับมานั่งทำงานเอกสารได้แปปเดียวเคนชินและซานาเอะก็เข้ามา

 

 

ซานาเอะ-บิกคุซังคะ เคนชินมาแล้วค่ะ

เคนชิน-สะ สวัสดีครับ บะ บะ บะ บิกคุ….ซัง

ผม-นี่เคนชินถ้าแกไม่ชินละก็จะเรียกแบบตอนสมัยที่เราเรียนด้วยกันก็ได้นะ

ซานาเอะ-บิกคุซังคะ ช่วยอย่าพูดเล่นในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ จะได้มั้ยคะ

ผม-ขะ…เข้าใจแล้วครับ เคนชินแล้ววันนี้แกมีเรื่องอะไรงั้นหรอ

เคนชิน-คะ คือว่า บะ บิกคุ..ซัง

ผม-เฮ้ออ นี่ซานาเอะซัง ช่วยปล่อยเคนชินพูดปกติกับผมสักครั้งจะได้มั้ยครับ ถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อไปไม่รู้จะคุยกันเสร็จตอนไหน

ซานาเอะ-แต่ว่า

ผม-นะครับ ซานาเอะซัง

ซานาเอะ-ทะ ทราบแล้วค่ะ

เคนชิน-ซานาเอะซัง จะดีหรอครับ!!

ผม-เคนชินแกมีเรื่องอะไรจะพูด รีบๆพูดมาสักทีสิวะ ข้ารอฟังอยู่นานแล้วนะ

ซานาเอะ-ไม่ได้ยินที่บิกคุซังถามหรอคะ เคนชิน ถ้าได้ยินก็ช่วยกรุณาตอบคำถามของบิกคุซังเร็วๆด้วยค่ะ ตอนนี้บิกคุซังกำลังยุ่งอยู่นะ

คะ

เคนชิน-ขะ เข้าใจแล้วครับ บะ บิกคุ ผมมีเรื่องอยากจะขอร้อง หลังจากเรียนจบแล้วผมอยากจะมาทำงานที่นี่ต่อ จะได้มั้ยครับ

ผม-ห๊ะ!!นี่แกบ้ารึป่าว บอกไปกี่รอบแล้วว่าที่อื่นสบายกว่านี้ตั้งเยอะ
ซานาเอะ-นั่นสิคะเคนชิน ทำไมต้องเป็นบริษัทนี้คะ
เคนชิน-คะ คือ…..

ผม-ช่างมันเถอะครับ ซานาเอะซังถ้าเคนชินอยากจะมาทำงานที่นี่ก็ไม่เป็นไร แต่ว่านะเคนชินแกคงจะเข้าใจใช่มั้ยว่าต่อให้แกเป็น

เพื่อนข้าสมัยเรียน แต่แกก็จะไม่มีสิทธิพิเศษในบริษัทนี้หรอกนะ

 

เคนชิน-อะ อื้มเข้าใจแล้ว จริงๆแค่เงินเดือนที่จ่ายให้พนักงานและสวัสดิการก็ถือว่าดีกว่าบริษัทอื่นเยอะมากแล้วล่ะ

ผม-เป็นอย่างงั้นหรอครับซานาเอะซัง

ซานาเอะ-ค่ะ ถ้าเทียบกับบริษัทอื่นแล้ว ทางบริษัทเรานั้นถือว่าดีกว่าเยอะมากเลยค่ะ ดิฉันมาสมัครที่นี่ก็เพราะเหตุผลนี้เหมือนกันค่ะ

ผม-งั้นหรอครับ ถ้าแกเข้าใจเรื่องนั้นก็ดีแล้วล่ะ หลังจากเรียนจบก็มายื่นสมัครงานดูล่ะกันนะ แต่ไม่รับประกันว่าจะผ่านหรอกนะเคนชิน

เคนชิน-อื้ม!!

ผม-ถ้าจบเรื่องแล้ว งั้น ข้าต้องขอตัวทำงานต่อละ

ซานาเอะ-ทราบแล้วค่ะบิกคุซัง เคนชินถ้าเสร็จธุระแล้วเชิญค่ะ

เคนชิน-คะ ครับ

 

 

ซานาเอะก็พาเคนชินออกไปนอกห้องทำงานผม ผมก็หันกลับมาทำงานเอกสารไปเรื่อยๆ กว่าจะเสร็จก็บ่าย3โมงกว่าๆ ผมก็เดินเอา

เอกสารทั้งหมดที่เสร็จแล้วส่งให้ นานามิและซานาเอะ

 

ผม-นี่ครับเอกสารทั้งหมด ผมทำเสร็จหมดแล้วครับ

ซานาเอะ-ขอบคุณค่ะ

 

 

ในระหว่างที่ผมยื่นแฟ้มเอกสารให้นานามิ ผมก็ชำเลืองมอง หาแฟ้มงานที่มาส่งใหม่บนโต๊ะนานามิ

 

 

นานามิ-วันนี้งานหมดแล้วค่ะบิกคุซัง
ผม-เอ๊ะ!!ผมยังไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับงานเลยนะครับ นานามิซัง
นานามิ-ดิฉันเป็นเลขาของบิกคุซังมานานแล้วนะคะ แค่บิกคุซังมองดิฉันก็รู้แล้วค่ะ ว่าบิกคุซังต้องการอะไร
ผม-ผะ ผะ ผมก็แค่มองดูเฉยๆครับ แล้วเอกสารของสาขาโยโคเตะ ล่ะครับ

นานามิ-เรื่องนั้น พวกเรากำลังรวบรวมให้อยู่ค่ะถ้าบิกคุซังจะดู ดิฉันพอจะมีเอกสารอยู่บ้างถึงจะไม่ครบแต่ก็พอดูได้นะคะ

ผม-ไม่เป็นไรครับ ผมรอดูตอน ที่เอกสารมาครบดีกว่าครับเพราะ เอกสารที่ส่งมาถึงผมก็ไม่ค่อยมีในส่วนที่ผมสงสัยหรืออยากรู้อยู่เลย

นานามิ-ทราบแล้วค่ะ

ซานาเอะ-บิกคุซังคะ แล้วเรื่องของเคนชินตอนที่มาสมัครงานใหม่อีกรอบอยากจะให้เพิ่มความยากของแบบทดสอบมั้ยคะ

ผม-อืมมม….ถ้าเพิ่มแค่ของเคนชินคนเดียวมันจะดูไม่ดีนะครับ ต่อให้มันยากกว่าของคนอื่น แต่มันก็ไม่เหมือนคนอื่นอยู่ดี อาจจะดู

เหมือนไม่ยุติธรรมนะครับ ผมว่าปล่อยให้เป็นไปตามปกติละกันนะครับ

 

ซานาเอะ-ทราบแล้วค่ะ

ผม-ถ้าไม่มีงานแล้วผมกลับบ้านเลยล่ะกัน ถ้ามีงานด่วนก็โทรมาแจ้งได้เลยนะครับ

นานามิ/ซานาเอะ-ทราบแล้วค่ะ

 

 

หลังจากนั้นผมก็เดินเข้าไปในห้องเพื่อเก็บของกลับบ้าน พอมาถึงบ้านผมก็เอารถไปจอดเก็บในโรงรถและเดินเข้าบ้านไป

 

ทานากะ-ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับ

ผม-ครับ ฮารุอยู่ที่ไหนหรอครับ

ทานากะ-คุณผู้หญิง ออกไปที่บ้านท่านสึคุยะ เมื่อสักครู่นี้เองครับ

ผม-งั้นหรอครับ

ทานากะ-คุณท่านจะรับอาหารเย็นเลยมั้ยครับ

ผม-ยังไม่เอาดีกว่าครับ ผมจะขึ้นไปอ่าบน้ำก่อน

ทานากะ-ทราบแล้วครับ

 

หลังจากนั้นผมก็ขึ้นมาอ่าบน้ำ แต่งตัวพอลงมาข้างล่างก็เจอฮารุ กับ ชิสึ และเก็นจิ กำลังเดินเข้าบ้านมาพอดี

 

ผม-กลับมาแล้วหรอครับ
ฮารุ-อ๊ะ!! ที่รักกลับบ้านมาแล้วหรอคะ ทำไมวันนี้กลับบ้านไวจัง
ผม-พอดีวันนี้งานมันไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ครับ
ฮารุ-เย็นนี้ ที่รักอยากจะทานอะไรดีคะ

ผม-เอาที่มันง่ายๆก็ได้ครับ ผมไม่มีอะไรที่อยากทานเป็นพิเศษตอนนี้

ฮารุ-ค่า~~ ชิสึซังอายะซังพวกเรารีบเข้าครัวไปทำอาหารเย็นกันเถอะนะคะ

ผม-เด๋วสิฮารุ ให้คนอื่นไปทำเถอะนะ พอดีผมมีเรื่องอยาจะคุยกับคุณสักหน่อย

ฮารุ-กะ ก็ได้ค่ะ

ผม-ชิสึซัง อายะซัง รบกวนด้วยนะครับ

ชิสึ/อายะ-ทราบแล้วค่ะ

 

 

และชิสึกับอายะก็เดินเข้าไปในครัว ส่วนผมกับฮารุและเก็นจิเดินตามผมเข้ามาในห้องทำงานของผม

 

 

ฮารุ-ที่รักมีเรื่องอะไรจะคุยหรอคะ

ผม-ฮารุ คุณรู้เรื่องโรงแรมของเราที่ สาขาเมืองโยโคเตะ บ้างมั้ยครับ

ฮารุ-เมืองโยโคเตะหรอคะ….. อ๋อ!! รู้สิคะ ที่นั่น มีเทศกาลบ้านหิมะด้วยนะคะ ที่รักจะไปเที่ยวที่นั่นหรอคะ ขอฮารุไปด้วยนะ

ผม-ใช่ครับผมหมายถึงที่นั่นแหละ แต่ผมไม่ได้จะไปนะครับ ผมแค่ รู้สึกแปลกกับรายงานที่ทางสาขานั้นส่งมา จากข้อมูลที่ผมได้รับมา

ตอนแรก สรุปได้ว่า ยอดลูกค้ามาใช้บริการจะน้อยลงเรื่อยทุกปีๆถึงจะไม่ได้เยอะก็เถอะ แต่มันไม่แปลกไปหน่อยหรอครับ ตั้งแต่ผม

ทำงานมา สาขานั้นไม่เคยทำยอดตามเป้าได้เลยสักปี แต่พอดูในช่องหมายเหตุดันไม่มีอะไรเขียนชี้แจงมาสักอย่าง

 

ฮารุ-เอ๊ะ!!! จริงหรอคะ แล้วที่รักบอกคุณพ่อรึยังคะ

ผม-ยังไม่ได้บอกครับ เพราะคุณพ่อเคยสั่งไม่ให้ผมเข้าไปยุ่งกับสาขานั้นโดยปกติคุณพ่อจะเป็นคนจัดการเอกสารและทุกๆอย่างเกี่ยว

กับสาขานั้นด้วยตัวเองตลอดแต่จู่ๆก็มีแฟ้มเอกสารส่งมาที่ผม

ฮารุ-ที่รัก พวกเราเข้าไปปรึกษาคุณแม่ กับคุณพ่อที่บ้านดีมั้ยคะ

ผม-มะ ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้ครับ ตอนนี้ผมแค่สั่งให้นานามิซังกับซานาเอะซัง รวบรวมเอกสารของสาขานั้นมาให้ผมอยู่ หลัง

จากได้เอกสารผมก็ว่าจะเข้าไปคุยกับคุณพ่อเหมือนกันครับ

ฮารุ-แบบนั้นก็ได้ค่ะ
ผม-จริงสิ เกือบลืมไปเลย หลังจากที่เคนชินเรียนจบมันจะมาสมัครงานที่บริษัทของเรา ผมหวังว่า
ฮารุ-ไม่ได้ค่ะ!!!

ผม-ทะ ทำไมล่ะครับ

ฮารุ-ฮารุไม่ชอบเคนชินค่ะ

ผม-นี่ฮารุ เรื่องในวันนั้นก็ช่างมันเถอะนะครับ อีกอย่างในวันนั้นผมเองก็ไม่ได้เจ็บตัวอะไรด้วยนะครับ

ฮารุ-ก็ได้ค่ะ!! ฮารุจะเป็นคนจัดการเอง และที่รักห้ามมาช่วยเคนชินด้วย

 

จะ จัดการ? ฮารุจะจัดการอะไรอีกเนี้ยยโอ้ยหัวจะปวด ช่วงนี้เจอแต่ล่ะอย่างมีแต่เรื่องปวดหัว แต่ช่างเถ๊อะ อีกนานกว่าเคนชินมัน

จะมาสมัครงานถึงตอนนั้นฮารุคงลืมไปแล้วพอผมคิดแบบนั้นผมก็เลยตอบตกลงกับฮารุไปอย่างส่งๆ

 

ผม-ครับๆ ผมทราบแล้วครับ

ฮารุ-ค่ะ งั้นฮารุไปทำข้าวเย็นให้ที่รักก่อนนะคะ

ผม-ให้คนอื่นเค้าทำไปเถอะครับ ฮารุก็นั่งพักสักหน่อยสิ วันๆจัดการเรื่องในบ้านอยู่คนเดียว

ฮารุ-ถึงจะเหนื่อยแต่ มันก็ยังมีหน้าที่ของภรรยารออยู่อีกนี่คะ

ผม-ครับๆ ผมเข้าใจแล้วครับ เย็นนี้ผมจะรอชิมอาหารฝีมือคุณนะครับ

ฮารุ-ค่ะ งั้นฝากเก็นจิให้อยู่กับที่รักนะ

 

แล้วฮารุก็วิ่งมาจุ๊บผมก่อนที่จะรีบวิ่งออกจากห้องทำงานของผมไป

 

ผม-เฮ้อออ
เก็นจิ-คะ คุณท่าน คงไม่ได้คิดที่จะไปจัดการสาขาโยโคเตะคนเดียวหรอกนะครับ

ผม-ใครมันจะไปรู้อนาคตกันล่ะไอ้บ้า

เก็นจิ-ตะ แต่ว่าจากนิสัยของลูกพี่ เอ๊ย นิสัยของคุณท่านแล้วมีโอกาสเป็นไปได้สูงที่ คุณท่านจะออกไปคนเดียว

ผม-เรื่องไร้สาระนี่ขยันจำจริงๆนะเก็นจิ ว่าแต่แกได้จัดตาราง การฝึกของไอ้พวกบ้า2คนนั้นรึยัง

เก็นจิ-ยะ..ยังครับ คือผมจะมาขออณุญาตจากคุณท่านก่อน เพราะผมอยากจะขอทดสอบ2คนนั้นอีกที

ผม-เห้ย นี่แกคิดจะเอาคืนไอ้พวกบ้านั่นรึไง ในวันนั้นแกก็สู้กับไอ้พวกบ้านั่นจนสมใจอยากแล้วนิ่

เก็นจิ-ตะ…แต่ ถ้าไม่ทำผมก็จัดตารางไม่ถูกนะครับ

ผม-เออๆ เข้าใจแล้วจะทำไรก็ทำ แต่อย่าให้มันหนักเกินไปนักล่ะ ถ้าแกทำอะไรกับ2คนนั้นอีกครั้งล่ะก็ แม้แต่ข้าก็ช่วยชีวิตเอ็งไม่ได้

แล้วนะ

เก็นจิ-ฮึ!! ผมไม่ได้กลัวคนพวกนั้นเลยครับ

ผม-เฮ้ออ!!มรึงนี่มันโครตโง่เลยนะจะโลกแคบไปถึงไหนกันโตเป็นผู้ใหญ่สักทีและลองมองดูรอบๆตัวมรึงดีๆอีกทีซิ(ภาษาไทย)

 

 

เก็นจิก็ได้แต่เงียบไม่ได้ตอบอะไรผมกลับมา ผมคิดว่าคงถึงเวลาที่จะต้องสอนเก็นจิมันจริงๆจังๆซะที ที่ผ่านมาสิ่งที่เก็นจิรับรู้และเห็น

ในสิ่งที่ผมทำมีแต่การใช้กำลังเข้าจัดการทุกอย่าง ที่มันจะหลงตัวเองเพราะเคยผ่านประสบการณ์แบบเดียวกับผมมา ถึงจะไม่ได้

ทั้งหมด ก็คงช่วยไม่ได้ที่มันจะหลงตัวเองและคิดแบบนั้น ถ้าเทียบกับคนที่นี่แล้วมันก็สามารถอยู่หัวแถวในเรื่องโง่ๆพวกนี้ได้ไม่ยาก

แต่ที่นี่ยังมีอีกหลายคนที่พวกผมไม่ควรจะเข้าไปยุ่งถ้ายังรักชีวิตของตัวเองอยู่

 

 

ผม-จะบอกอะไรให้ละกัน ที่กูอยู่กับทาเคดะซังและซาซากิซังได้สบายๆแบบที่มรึงเห็นนั่นก็เพราะกูไม่ได้ใช้กำลังสู้กับคนพวกนั้นไงล่ะ

มรึงคิดว่าคนอย่างพวกเราที่มาอยู่ต่างแดนต่างถิ่นเนี้ย ควรจะไปหาเรื่องกับยากูซ่าเจ้าถิ่นมั้ยมรึงลองคิดดูดีๆ นั่นแหละคือความเป็นจริง

ที่กูต้องดูแลไอ้พวกบ้านั่น ก็เพราะนี่คืองานที่กูได้รับมาจาก2คนนั้น!!! ส่วนชิโระมันคือเพื่อนสนิทกูตอนที่ได้ที่มาเรียนที่นี่ !! (ภาษา

ไทย)

เก็นจิ-ละ ลูกพี่ถ้างั้นพวกเราเป็นลูกน้องเค้าหรอครับ(ภาษาไทย)

ผม-เห้ย! พวกเราไม่ใช่ลูกน้องของทั้ง2คนนั้น และจะไม่มีวันเป็นจำเอาไว้(ภาษาไทย)

เก็นจิ-ถ้างั้นแล้วทำไมพวกเราถึงยังต้องไปช่วยพวกเค้าอีกล่ะครับ(ภาษาไทย)

ผม-กูขอถามมรึงหน่อยเก็นจิ มรึงคิดว่ากูคิดยังไงกับ2คนนั้น(ภาษาไทย)

เก็นจิ-ค…คิดยังไงหรอครับ คิดว่าเป็นแค่หัวหน้าแก๊งยากูซ่าธรรมดา(ภาษาไทย)

ผม-ไม่ใช่โว้ยไอ้โง่!! กูหมายถึง สำหรับกูแล้ว2คนนั้นเป็น มิตรหรือศัตรูกันแน่(ภาษาไทย)

เก็นจิ-ศัตรูครับ!!! (ภาษาไทย)

 

ไอ้เก็นจิมันตอบผมมาอย่างไม่คิด หลังจากที่ผมได้ฟังคำตอบของมันแล้วผมถึงกับเอามือกุมขมับทันที เพราะอะไรน่ะหรอ เพราะว่าผม

พูดกับมันไปตั้งเยอะ มันกับคิดไม่ได้อีกปวดหัวโว้ยยยย!!!!! รอบหน้าที่เจอเคียวซังจะขอให้ทำงานให้เข็ดเลยคอยดู!!!

 

 

ผม-มิตรโว้ย!! เฮ้อออ กูจะทำยังไงกับมรึงดีนะ เก็นมรึงฟังดีๆนะ 2คนนั้นเป็นเพื่อนสนิทกับพ่อของเมียกูมรึงเข้าใจคำนี้มั้ย มรึงสะกด

คำว่าครอบครัวเป็นมั้ยวะ!! (ภาษาไทย)

เก็นจิ-ปะ..เป็นครับ(ภาษาไทย)

 

ผม-เออ!! 2คนนั้นคือครอบครัวของพวกเรารวมถึงไอ้พวกบ้านั่นและคนในแก๊งทุกคนและอีกอย่างนะจะบอกแกเอาไว้เพื่อแกยังไม่รู้

ซาซากิซังและทาเคดะซัง 2คนนั้นน่ะตัวอันตรายของจริงเลยล่ะโดยเฉพาะทาเคดะซัง แกไม่คิดบ้างหรอทำไมคนที่ใจดีแบบเค้าถึงได้

รับตำแหน่งหัวหน้ายากุซ่ากันล่ะ ถ้าเป็นซาซากิซังก็ว่าอย่าง คนๆนั้นไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนใส่ชุดอะไรอยู่ ไม่ว่าจะตอนไหน ดูยังไงเค้าก็คือ

หัวหน้ายากุซ่า คนที่แกควรจะระวังไม่ใช่ซาซากิซังหรอกนะ แต่เป็นทาเคดะซังต่างหากล่ะจำเอาไว้ให้ดี อย่าไปยุ่งกับ2คนนั้นและอย่า

ทำให้2คนนั้นโกรธเด็ดขาด มรึงเข้าใจที่กูพูดรึยัง(ภาษาไทย)

 

เก็นจิ-ขะ..เข้าใจแล้วครับ(ภาษาไทย)

 

หลังจากเก็นจิตอบผมเสร็จก็มีคนเคาะประตูห้องทำงานผม

 

ก๊อกๆ

 

ฮารุ-ทะ..ที่รักคุยอะไรกันอยู่หรอคะดูเครียดกันมากเลยนะคะ

 

ผมหันไปตามเสียงฮารุก็เห็นฮารุกับยัยพลอยยืนแอบหลังประตูโผล่เข้ามาแค่หัว

 

ผม-ทำอะไรกันอยู่ครับ ทำไมไม่เข้ามาพูดในห้องดีๆล่ะครับ

พลอย-พี่ชายทำหน้าดุ ขนาดนั้นใครจะกล้าเข้าไปคะ

ฮารุ-พะ..พลอยจังอย่าไปว่าพี่ชายสิจ๊ะ ที่รักข้าวเย็นเสร็จแล้วค่ะ ไปทานข้าวกันเถอะนะคะ เก็นจิคุงก็ไปทานข้าวเย็นได้แล้วนะจ๊ะ

ผม-งั้นพวกเราก็ไปทานข้าวกันเลยนะครับ

เก็นจิ-ทราบแล้วครับคุณผู้หญิง งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ

 

 

หลังจากนั้นเก็นจิก็หันหลังเดินออกจากห้องทำงานผม ในระหว่างที่เก็นจิกำลังจะเดินออกไปผมก็นึกขึ้นได้ว่าผมยังเหลือคำถามของ

เก็นจิที่ยังไม่ได้ตอบอยู่

 

 

ผม-จริงสิเก็นจิลืมบอกแกไปอย่างถ้าถามว่าพวกเราเป็นลูกน้องของใครล่ะก็ พวกเราเป็นลูกน้องของโอคะวะกรุ๊ป แค่ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น

จำเอาไว้ให้ดีด้วย

 

 

เก็นจิมันก็ชะงักไปแปปนึงและมันก็ก้มหัวให้พวกผมก่อนที่จะปิดประตูห้องทำงาน ดูท่ามันจะเริ่มเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้างแล้ว

 

 

ผม-ยัยพลอยเมื่อกี้แกไม่ได้แปลอะไรให้ใครฟังใช่มั้ย(ภาษาไทย)

พลอย-ใครจะกล้าแปลกันคะ สิ่งที่พี่ชายพูดออกมาคิดบ้างรึป่าวถ้า2คนนั้นได้ยินพวกเค้าจะรู้สึกยังไง พวกเราจะซวยกันนะตาพี่

บ้า(ภาษาไทย)

ผม-ถึงจะใช้คำพูดไม่เหมาะสมก็เถอะแต่ต่อให้ถูกแปลให้คนอื่นฟังความหมายที่สื่อออกไปมันก็ไม่ใช่เรื่องแย่ถูกมั้ยล่ะ(ภาษาไทย)

พลอย-ได้งั้นหนูจะแปลให้พี่ฮารุฟัง(ภาษาไทย)

ผม-หยุด!! (ภาษาไทย)

ฮารุ-นี่ทั้ง2คน ทำไมถึงไม่คุยกันด้วยภาษาญี่ปุ่นล่ะ ฮารุเหมือนคนนอกเลยนะคะ

ผม-ขะ..ขอโทษครับผมไม่ได้ตั้งใจ

ฮารุ-ทั้ง2คนมีความลับกับฮารุหรอคะถึงไม่คุยกันด้วยภาษาญี่ปุ่น

 

 

หลังจากฮารุพูดเสร็จฮารุก็เริ่มทำท่าจะร้องไห้ผมก็เลยรีบลุกเข้าไปหาฮารุพร้อมกับกอดฮารุเอาไว้

 

 

ผม-ไม่ใช่แบบนั้นหรอกนะครับเพียงแต่มันมีบางคำพูดที่มันไม่มีในภาษาญี่ปุ่นอยู่เยอะพวกผมก็เลยคุยภาษาไทยกันเพื่อความง่าย

พลอย-ชะ ใช่แล้วค่ะพี่ฮารุ

ฮารุ-จริงๆนะคะ

ผม-ครับ

พลอย-งั้นหนูจะสอนภาษาไทยให้พี่ฮารุเอามั้ยคะ

ผม-เด๋ว

ฮารุ-เอาค่ะ!! ขอความกรุณาด้วยนะคะ คุณครูพลอย
พลอย-อะ แฮ่ม! วางใจได้เลยค้า~~

 

และยัยพลอยก็เอามือทั้ง2ข้างท้าวเอวและทำหน้าเชิด ประหนึ่งว่าข้านี่เก่งที่สุดในปฐพีนี้แล้ว ผมได้แต่เอือมระอาอยู่ในใจ

 

ผม-นี่ฮารุไม่ต้องเรียนหรอกนะ ยังไงก็มีผม ยัยพลอยและเก็นจิที่คอยแปลให้อยู่นะครับ

ฮารุ-ไม่เอาหรอกค่ะ

ผม-แค่คุณคอยจัดการเรื่องในบ้านนี่มันก็เหนื่อยแล้วนะอย่าเลยครับ

ฮารุ-ที่รักคะถ้าพูดไปแล้วเหมือนจะอวด แต่ฮารุเนี้ยเรียนเก่งมากๆเลยนะคะ

ผม-เรื่องนั้นผมรู้ดีครับแต่ว่า

ฮารุ-ฮารุไม่ยอมเป็นคนนอกไปตลอดหรอกนะคะ ฮารุจะเรียนภาษาไทยค่ะ!!

ผม-เฮ้อออ เข้าใจแล้วครับ

 

 

และผมก็หันไปมองยัยพลอยผมไม่รู้ว่ายัยนั่นมันจะเอาจริงเอาจังแค่ไหนถ้าฮารุพูดมาขนาดนี้ก็คงจะตั้งใจจริงๆนั่นแหละ แต่ยัยพลอย

จะตั้งใจสอนให้ฮารุจริงๆหรอ ยัยน้องบ้ามีเวลาว่างขนาดนั้นเลยเร๊อะ เอาเถอะยังไงก็ยังเหลือเก็นจิอีกคนน่าจะมีเวลาสอนให้ฮารุ

ได้เยอะกว่ายัยพลอย

 

 

ฮารุ-ถ้างั้นพวกเราไปทานข้าวเย็นกันเถอะนะคะ

ผม-คร้าบๆ

 

 

หลังจากนั้นพวกเราก็เดินไปที่ห้องอาหารนั่งกินข้าวไปคุยกันไปหลังจากนั้นผมก็แยกตัวออกมาเดินเล่นที่สวนหลังบ้านต้มไม้ที่เอามา

ปลูกใหม่เดิมทีก็มีดอกกันหมดแล้วพอลงดินแล้วยิ่งทำให้โตไวมากกว่าเดิมอีกปีนี้อาจจะมีผลไม้ของตัวเองกินแล้ว วะ ฮ่ะ ฮ่ะๆ!!!ในระหว่างที่กลับมายืนดูสวนตรงหลังบ้านอยู่นั้นทานากะที่มาพร้อมกับรถเข็นที่มีกาน้ำชาและแก้วก็ได้เข็นรถตรงมาหาผม

 

 

ทานากะ-คุณท่าน กระผมเอาชาร้อนมาให้ครับ
ผม-อ่า
ทานากะ-อาหาศเย็นแบบนี้ระวังจะไม่สบายนะครับ
ผม- ฮ่ะๆผมไม่เป็นไรหรอก ทานากะซังตอนนี้มีคนครัวมาสมัครงานบ้างรึยัง

ทานากะ-มีครับ แต่น่าเสียดายที่คนเหล่านั้นไม่มีคุณสมบัติตามที่คุณท่านต้องการครับ

ผม-เฮ้อออ หรือพวกเราจะยอมลดเงื่อนไขลงหน่อยดีมั้ย

ทานากะ-กระผมคิดว่า ไม่จำต้องทำแบบนั้นหรอกครับ กระผมจะหาคนที่ตรงตามคุณสมบัติที่คุณท่านตั้งไว้มาให้ได้ครับ

ผม-ถ้าทานากะซังยืนยันแบบนั้นผมก็ดีใจครับ และก็ช่วยบอกให้คนมาคอยดูและต้นไม้หลังบ้านให้ผมด้วยนะครับ ผมอยากจะชิมเหล้า

บ๊วยที่ดองเองมานานแล้วครับ

ทานากะ-โฮ๊ะๆ กระผมรับรองได้เลยว่าปีนี้คุณท่านจะได้ทำการดองเหล้าบ๊วยแน่นอนครับ ที่บ้านของเรามีต้นบ๊วยทั้งหมด7ต้น

กระผมมั่นใจว่าคุณท่านจะปวดหัวกับการหาที่เก็บแน่นอนครับ

ผม-ฮ่ะๆๆ! ทานากะซังคุณกำลังทำให้ผมคาดหวังอยู่นะ แล้วปกติเค้าต้องดองนานแค่ไหนหรอครับ

ทานากะ-โฮ๊ะๆกระผมจะทำให้เต็มที่เลยครับถ้าพูดถึงการบ่มเหล้าบ๊วยแล้วประมาณ1ปีเป็นอย่างน้อยครับ บางคนบ่มไว้นาน

กว่า60ปีเลยนะครับ ว่ากันว่ารสชาตินุ่มลึกและหอมกลิ่นของบ๊วยมากเลยล่ะครับ

ผม-ว้าว!!มันต้องอร่อยมากแน่ๆเลยครับ ถ้างั้นช่วยเตรียมของให้ผมหน่อยนะครับ ถ้าได้บ๊วยแล้วจัดการดองเหล้าทันทีเลยนะครับ

ทานากะ-หลังจากทำเหล้าบ๊วยแล้วบ๊วยสดในส่วนที่เหลือกระผมอยากจะขอนำเสนอให้แบ่งบ๊วยสดที่ได้มาดองมาทำน้ำบ๊วยไว้ให้คุณ

ผู้หญิงดื่มจะได้สดชื่นและในส่วนสุดท้ายเอามาดองเค็มไว้ทานกับข้าวสวย ดีมั้ยครับ

 

ผม-อืม…ก็ดีเหมือนกันยังไงเราก็คงจะมีบ๊วยเหลือเยอะเกินที่จะทำแค่เหล้าบ๊วยเก็บไว้ก็ไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้วด้วยล่ะนะ งั้นผมฝาก

จัดการด้วยนะครับ ทานากะซัง

 

ทานากะ-รับทราบแล้วครับ

ผม-จริงสิ คอยดู เก็นจิอย่าให้มันทำเรื่องบ้าๆนะครับ

ทานากะ-เก็นจิซังหรอครับ เรื่องของท่านชิโระและท่านริว สินะครับ

ผม-อืม บอกตามตรง ผมไม่อยากจะมีปัญหากับซาซากิซังและทาเคดะซังโดยที่ไม่จำเป็นหรอกนะครับ

ทานากะ-ทราบแล้วครับ กระผมจะจับตามมองเก็นจิซังอย่างไม่ให้คลาดสายตาเลยครับ

ผม-ฝากด้วยนะครับ งั้นผมไปนอนก่อนนะและก็ขอบคุณสำหรับชาร้อนหอมๆแก้วนี้ด้วยนะครับ

ทานากะ-โฮ๊ะๆด้วยความยินดีครับคุณท่าน

 

พูดจบผมก็ดื่มชาที่ทานากะเทมาให้จนหมดแก้วและก็ส่งแก้วคืนให้กลับทานากะหลังจากนั้นผมก็เดินขึ้นไปที่ห้องและก็ล้มตัวลงนอน

ตื่นเช้ามาผมก็ไปทำงานปกติ จนเวลาผ่านไป1อาทิตย์ผมก็ตื่นเช้าตามปกติอ่าบน้ำแต่งตัวไปทำงานพอลงมาข้างล่างผมก็เดินไปกิน

ข้าวที่ห้องอาหาร

 

 

ฮารุ-วันนี้ที่รักไปทำงานสายกว่าปกตินะคะ

ผม-อืมมก็นิดหน่อยครับ ช่วงนี้ผมมีงานให้คิดเยอะไปหน่อย

ฮารุ-ถ้างั้นวันนี้ให้โทชิโร่ซังหรือเก็นจิซังตามที่รักไปด้วยสักคนดีมั้ยคะ

ผม-เฮ้ออ ไม่ต้องหรอกนะครับ บางทีผมต้องไปทำงานหลายทีมันไม่สดวกอีกอย่างรถผมก็นั่งได้แค่2คนเท่านั้นเองนะครับ

ฮารุ-ที่รักก็เอารถฮารุไปสิคะ ยังไงตอนนี้ฮารุก็มีรถตู้อีกคัน

ผม-แต่ว่า

ฮารุ-นี่คุณไม่ใช่เด็กๆแล้วนะคะ โทชิโร่ซังช่วยพาคุณท่านไปส่งที่บริษัทหน่อยได้มั้ยจ๊ะ

โทชิโร่-ด้วยความยินดีครับ คุณผู้หญิง

 

ทาชิโร่ตอบรับคำสั่งของฮารุด้วยรอยยิ้มและก้มหัวลง หลังจากนั้นก็เดินออกจากห้องอาหารไป

 

ผม-แต่ผมคิดว่าให้เก็นจิและโทชิโร่ซัง คอยดูแลคุณดีอยู่แล้วนะครับ

ฮารุ-ที่รักคะ จะให้มาดูแลฮารุทำไมกันเยอะนักคะ วันๆฮารุไม่ได้ออกไปไหนเลยนะคะ ทำงานอยู่แต่ที่บ้าน คุณเนี้ยต้องไปทำงานข้าง

นอกทุกวัน คุณเองก็ต้องมีคนคอยดูแลไม่ใช่หรอคะงั้นหลังจากนี้ไปให้อายะซัง

ผม-ผมไปทำงานก่อนนะครับ

 

จุ๊บ

 

ผมรีบตัดบทและลุกเข้าไปหอมแก้มฮารุก่อนที่จะรีบวิ่งออกจากห้องอาหารมาที่หน้าบ้าน

 

โทชิโร่-เชิญขึ้นรถได้เลยครับ คุณท่าน
ผม-เฮ้อออ เรียกแบบเดิมไม่ได้หรอครับโทชิโร่ซัง
โทชิโร่-ฮ่ะๆทราบแล้วครับท่านบิกคุ แต่ถ้าอยู่ในบ้านผมคงต้องขอทำตามหน้าที่นะครับ

ผม-ครับๆผมรู้แล้วครับ พวกเรารีบไปทำงานกันเถอะ

โทชิโร่-ทราบแล้วครับ

 

 

หลังจากนั้นผมก็นั่งรถมาได้สักพักก็ถึงที่ทำงานเข้าไปในห้องทำงานก็มีเอกสารวางรอผมอยู่แล้วในระหว่างที่ผมนั่งทำงานเงียบ โทชิ

โร่เองก็คอยยืนรับคำสั่งจากผมอยู่ที่มุมห้องอย่างเงียบๆสักพัก

 

โทชิโร่-ท..ท่านบิกคุ

ผม-หื๋อ? มีอะไรหรอครับ

โทชิโร่-ผมอยากจะขอลงไปสูบบุหรี่สักหน่อยนะครับ

ผม-อืมไปเดินเล่นด้วยก็ได้นะ เพราะตารางงานผมวันนี้ไม่ได้มีไปประชุมที่ไหน

โทชิโร่-เฮ้อ!!คุณท่านนี่ละก็ จะให้ผมทิ้งงานไปเดินเล่นเนี้ยนะครับ ช่างหยอกล้อเก่งจริงๆเลยนะครับ

ผม-ฮ่ะๆ เหมือนผมจะโดนจับได้แล้วสินะครับ ที่ผมพยายามหาเรื่องให้โทชิโร่ซังไปจากผม

โทชิโร่-ใช่ครับ แต่หน้าที่ผมคือดูแลคุณท่านทุกอย่างรวมถึงเรื่องความปลอดภัยด้วยนะครับ ถึงมันจะไม่จำเป็นสำหรับคุณท่านก็เถอะ

ผม-โทชิโร่ซังคุณก็ มองผมซะเก่งเกินไปจากความเป็นจริงแล้วนะครับ คนที่เก่งกว่าผมนั้นมีอีกเยอะครับ

โทชิโร่-บอกตรงนะครับมาจนถึงตอนนี้ผมเองก็ยังนึกหน้าคนๆนั้นไม่ออกเลยว่าจะเป็นยังไง
ผม-ฮ่ะๆ คนแบบนั้นโทชิโร่ซังก็เคยเจอแล้วไม่ใช่หรอครับ
โทชิโร่-เอ๊ะ!!!
ผม-เก็นจิยังไงล่ะครับ

โทชิโร่-ถึงผมจะรู้สึกได้ว่าเก็นจิเก่งก็เถอะนะครับ แต่ผมไม่คิดว่าจะเท่ากับท่านบิกคุหรอกนะครับ

ผม-ถ้าเป็นบ้านผมที่ ที่ผมจากมาล่ะก็ คุณจะเจอคนที่เก่งกว่าผมเดินกันเต็มไปหมดเลยล่ะครับ

โทชิโร่-โฮ่!! ผมเองก็อยากจะลองไปที่นั่นดูสักครั้งเหมือนกันนะครับเนี้ย

ผม-ก็นะ ถ้ามีโอกาสที่ผมต้องกลับไปที่นั่นล่ะก็ผมจะพาไปด้วยล่ะกันนะครับ

โทชิโร่-ขอบพระคุณมากเลยครับท่านบิกคุ

 

ก๊อกๆ

 

นานามิ-บิกคุซังคะ เอกสารเสร็จรึยังคะหลายๆแผนกเริ่มมาขอเอกสารกันแล้วนะคะ

ผม-ยังไม่เสร็จทั้งหมดหรอกนะครับ

 

หลังจากพูดจบผมก็หยิบแฟ้มเอกสารที่ทำเสร็จแล้วยื่นให้นานามิไป

 

นานามิ-ขอบคุณค่ะ ส่วนที่เหลือช่วยเร่งมือด้วยนะคะบิกคุซังและก็นี่คือแฟ้มเอกสารทั้งหมดของสาขาโยโคเตะค่ะ

 

นานามิก็หยิบแฟ้มหนาๆมาให้ผม

 

ผม-จริงสิโทชิโร่ซัง ลงไปสูบบุหรี่เถอะนะครับ

โทชิโร่-ครับ

 

หลังจากนั้นโทชิโร่ก็ก้มหัวให้กับและเดินออกจากห้องทำงานผมไปผมก็เปิดดูเอกสารที่นานามิเอามาให้มีในส่วนที่ผมอยากรู้เยอะมาก

ทั้งเรื่องรายรับรายจ่ายของสาขา เรื่องการเบิกเงิน หลายๆอย่าง

 

ผม-สาขานี้ใช้เงินเยอะกว่าที่ผมคิดไว้มากเลยนะครับ

นานามิ-ใช่ค่ะ และอีกอย่างนะคะ สาขานี้เบิกเงินค่าซ่อมสถานที่อุปกรณ์และเฟอร์นิเจอร์บ่อยมากเลยด้วยนะคะ

 

 

ผมก็เปิดไปดูหน้ารายงานที่นานามิพูดถึง ทุกอย่างเป็นอย่างที่นานามิพูด สาขานี้ มีการเบิกค่ากระจกแตกบ้าง โต๊ะเค้าเตอร์ต้อนรับพัง

บ้าง ห้องพักพังบ้าง สารพัด แต่ในช่องหมายเหตุกับไม่มีอะไรเขียนเอาไว้ตามเคย

 

 

ผม-อืม…..ไม่สมเหตุสมผลกันเลยนะ

นานามิ-บิกคุซังหมายถึงอะไรหรอคะ

ผม-สิ่งที่ผมหมายถึงก็คือ ถ้าเราเป็นคนบริหารแต่มีบางสาขาที่ไม่เคยทำกำไรให้กับเรามาก่อนทำได้แค่ขาดทุนมาตลอดโดยที่หา

สาเหตุไม่ได้ ปล่อยเอาไว้ก็เป็นได้แค่ตัวถ่วงสำหรับสาขาอื่น พวกเราควรจะจำกัดทิ้งหรือไม่ก็ปิดสาขานั้นไปไม่ใช่หรอครับ

 

นานามิ-ที่บิกคุซังพูดก็มีเหตุผลนะคะ ดิฉันก็คิดเหมือนกันว่าทำไมท่านประธานถึงปล่อยเอาไว้แบบนั้น

ผม-ยิ่งผมดูรายงานมากเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกว่า สาขานี้มีความลับกับทางเราเยอะมากเลยนะครับ

นานามิ-จะให้แจ้งเรื่องนี้กับท่านประธานเลยมั้ยคะ

ผม-ยังไม่ต้องครับ ผมอยากจะไปเห็นกับตาตัวเองสักครั้งจังเลยสาขาโยโคเตะ จะเป็นแบบในรายงานที่ผมอ่านรึป่าวนะ

นานามิ-พูดถึงความลับ ดิฉันเคยได้ยินเรื่องนี้ก่อนที่จะมาทำงานกับบิกคุซังด้วยล่ะคะ

ผม-เรื่องนี้? เรื่องอะไรหรอครับ

นานามิ-คือว่าเมื่อก่อนมันมีข่าวลือกันว่าถ้าไปที่เมืองโยโคเตะถ้าไม่อยากเจ็บตัวให้นั่งรถไฟไปนอนที่โรงแรมใหญ่ในตัวเมือง อะกิตะ

จะดีกว่าค่ะ

ผม-ถ้าไม่อยากเจ็บตัวหรอครับ อืม………

นานามิ-บิกคุซังคะ ดิฉันขอเสนอให้นำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมใหญ่ค่ะ เพื่อร่วมกันหาทางออกที่ดีที่สุดค่ะ

 

การประชุมใหญ่ที่นานามิพูดถึงคือการเรียกหัวหน้าแต่ละสาขามาพูดคุยเกียวกับกลยุทธ์การลงทุนในส่วนอื่น เพื่อมองหาสิ่งที่จะทำ

กำไรให้บริษัทเรามากขึ้น หลักๆก็จะประมาณนี้

 

ผม-ตอนแรกผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกันครับ แต่หลังจากที่ผมอ่านรายงานแล้ว ผมว่ามันมีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะมีคนเป็นไส้ศึกใน

กลุ่มคนพวกนั้น

นานามิ-ไส้ศึกหรอคะ แล้วเค้ามีเป้าหมายอะไรล่ะคะถึงทำแบบนี้

ผม-เรื่องนั้นผมก็ไม่รู้หรอกนะครับเพราะว่า

 

ก๊อกๆ

 

โทชิโร่-ขออนุญาตครับท่านบิกคุ

ผม-อืม งั้นก็กลับไปทำงานต่อเถอะนะครับนานามิซัง

นานามิ-ทราบแล้วค่ะ

 

หลังจากนั้น นานามิก็กัมหัวให้ผมและปิดประตูห้องทำงานไป

 

โทชิโร่-ผมเข้ามาขัดตอนที่กำลังคุยเรื่องสำคัญกันอยู่รึป่าวครับ ท่านบิกคุ

ผม-อ่อ ไม่หรอกโทชิโร่ซัง

 

 

หลังจากนั้นผมก็นั่งทำงานเอกสารไปได้สักพัก ผมก็ยังเอาเรื่องสาขาโยโคเตะออกจากหัวผมไม่ได้สักที ผมเลยคิดว่าผมจะนั่งรถไฟ

ไปที่เมืองนั้นเพื่อดูให้เห็นปัญหาด้วยตาของผมเองว่ามันเกิดอะไรกันขึ้น แต่ก่อนอื่นผมต้องไล่โทชิโร่กลับบ้านไปก่อน เพราะผมคิดว่า

ถ้าจะแอบทำอะไรแบบนี้ ควรทำคนเดียวจะดีกว่าเพื่อการคลื่นตัวได้แบบไม่มีจุดเด่น

 

ผม-นี่โทชิโร่ซัง คุณช่วยทิ้งรถไว้ที่นี่และนั่งรถกลับไปที่บ้านก่อนได้มั้ย

โทชิโร่-ตะ แต่ว่า ท่านบิกคุ หรือว่าผมทำอะไรผิดรึป่าวครับ

ผม-ใจเย็นๆก่อนโทชิโร่ซัง ไม่มีอะไรทั้งนั้นผมแค่อยากให้คุณกลับไปอยู่ข้างๆฮารุเพราะผมเป็นห่วงฮารุ

โทชิโร่-แต่คุณผู้หญิงก็มีเก็นจิอยู่ด้วยยนะครับ

ผม-เพราะผมไม่ไว้ใจเก็นจิผมถึงได้บอกให้คุณกลับไปที่บ้านตอนนี้

โทชิโร่-ทะ ทราบแล้วครับ ถ้าเช่นนั้นผมขอตัวก่อนนะครับท่านบิกคุ

ผม-อืม รบกวนด้วยยนะครับ

 

 

โทชิโร่ก็ก้มหัวและออกจากห้องทำงานผมไป เอาล่ะในเมื่อ ตัวขัดขวางไม่อยู่แล้วผมก็รีบเก็บของและเอาแฟ้มงานเอกสารที่เส็รจแล้ว

ส่งให้นานามิกับซานาเอะ

 

ผม-งั้นผมไปก่อนนะครับ ฝากจัดการที่เหลือต่อด้วยนะ

ซานาเอะ-ทราบแล้วค่ะ

นานามิ-ไปแค่ดูจริงๆนะ อย่าทำอะไรเกินเหตุนะคะบิกคุซัง พวกเรายังไม่อยากโดนคุณหนูไล่ออกจากงานในตอนนี้นะคะ

ผม-ผมรู้แล้วครับ

 

หลังจากนั้นผมก็ออกจาที่บริษัทมาเดินไปที่สถานีรถไฟฟ้าชิบูย่าไปที่สถานีอุเอโนะเพื่อซื้อตั๋วรถไฟชินคันเซ็นไปอะคิตะ

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา