ชื่อเรื่อง ยังไม่มี

7.0

เขียนโดย PMTV

วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 22.35 น.

  54 ตอน
  6 วิจารณ์
  23.82K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2564 15.27 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

22) ตอนที่22

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

ตื่นเช้ามาก็อ่าบน้ำแต่งตัวไปทำงานขับรถมาสักพักก็ถึงที่ทำงาน

 

 

นานามิ-ไปเที่ยวมาเป็นยังไงบ้างคะ บิกคุซัง

ผม-สนุกมากๆดูฟูจิซังเต็มอิ่มเลยละครับ ฮ่าๆ

ชิสึกะ-ที่นี่จองยากมากๆเลยนะคะ ส่วนใหญ่เต็มตลอดเลย

ผม-จริงสิครับ ผมซื้อ คุกกี้รูปฟูจิซังมาฝาก คนละกล่องนะครับ

 

แล้วผมก็ยื่นให้

 

นานามิ/ชิสึกะ-ขอบคุณนะคะบิกคุซัง

ผม-ไม่เป็นไรครับของเล็กๆน้อยๆทั้ง2คนขยันทำงานขนาดนี้ผมเองก็อยากตอบแทนให้ทั้ง2คนบ้างน่ะครับ งั้นผม

เข้าไปทำงานก่อนนะครับ

 

 

แล้วผมก็เดินเข้าไปทำงาน สักพัก นานามิซังก็เอาน้ำเข้ามาให้ผมก็นั่งทำงานต่อไปจนถึงเที่ยงงานก็เสร็จผมก็เอางานไป

ให้นานามิซัง

 

ผม-นานามิซังงานเสร็จหมดแล้วนะครับ งั้นเด๋วผมขอออกไปเดินเล่นหน่อยนะครับมีงานด่วนก็โทรมาตามด้วยนะครับ

นานามิ-ทราบแล้วค่ะ

 

 

 

ผมก็ลงลิฟต์มาเดินเล่นแถวชิบูย่า เดินไปเดินมา ก็ไปนั่งกินราเมงพอกินเสร็จผมก็เดินไปซื้อโมเดลรถกลับบ้านได้มา

ทั้งหมด5คัน พอละลายทรัพย์เสร็จผมก็เดินเล่นไปเรื่อยๆก็เริ่มคิดว่า คริสต์มาส จะซื้ออะไรให้ทุกคนดี ระหว่างเดินเล่นมือ

ถือผมก็ดัง

 

 

ผม-ครับ

พ่อบ้าน-กระผมทานากะ นะครับคุณท่าน

ผม-ครับ ทานากะซัง มีอะไรหรอครับ

พ่อบ้าน-ขอโทษที่โทรมาเวลาทำงานนะครับ

ผม-อ่อไม่เป็นไร ผมเดินเล่นอยู่พอดีครับ

พ่อบ้าน-คือ ต้นซากุระของคุณท่านได้แล้วนะครับ ตอนนี้กำลังเตรียมขนขึ้นรถกลับไปอยู่ครับ

ผม-มาแล้วหรอครับ ในที่สุดก็ได้ต้นซากุระ ที่สำคัญสักที ขอบคุณนะครับ ทานากะซัง

พ่อบ้าน-คะ คือ.....กระผมมีเรื่องอยากจะขอร้องคุณท่านน่ะครับ

ผม-เรื่องอะไรหรอครับ

พ่อบ้าน-คือ.........พอดีกระผมมีคนรู้จักอยากจะให้คุณท่านได้พบน่ะครับ

ผม-เอ๋!! เรื่องแค่นี้เองหรอครับ ได้สิครับ พานั่งรถกลับมาด้วยเลยก็ได้นะครับ

พ่อบ้าน-แต่ว่าคุณท่าน

ผม-ผมคิดว่า มันคงจะเป็นเรื่องที่พูดออกมายากมากๆสำหรับทานากะซัง แต่สำหรับผมแล้วทุกคนในบ้านคือครอบครัว

ของผม ถ้าทานากะซังกำลังเดือดร้อนผมก็พร้อมที่จะช่วยนะครับ

 

พ่อบ้าน-ขอบพระคุณจริงๆครับ คุณท่าน

ผม-เรื่องอื่นไว้ที่หลัง ตอนนี้ทานากะซังก็นั่งรถไฟกลับมาได้เลยนะครับ แล้วให้คนขับรถมาส่งต้นซากุระ ทานากะซังจะ

ได้กลับมารอรับต้นไม้ที่บ้าน

พ่อบ้าน-ทราบแล้วครับคุณท่าน

ผม-งั้นเด๋วเราเจอกันที่บ้านนะครับ เด๋วผมต้องกลับไปทำงานล่ะครับ

พ่อบ้าน-ครับคุณท่าน

 

 

พอวางสายจากทานากะไปผมก็เดินเล่นต่ออีกแปปนึงก็กลับไปที่บริษัท

 

 

นานามิ-กลับมาแล้วหรอคะ บิกคุซัง กำลังจะโทรตามพอดีเลยค่ะ

ผม-มีอะไรหรอครับ

นานามิ-เมื่อกี้โอคะวะซังเรียกพบค่ะ

ผม-อ่อครับ

 

 

ผมก็เลยเดินเข้าไปเคาะประตูห้องทำงานโอคะวะซัง

 

 

ก๊อกๆๆ

ผม-ขออนุญาตนะครับ

โอคะวะซัง-ไงกลับมาแล้วหรอบิกคุคุง

ผม-พอดีผมไปทานข้าวแล้วแวะเดินเล่นได้โมเดลรถมา5คันครับ ฮ่าๆ

โอคะวะซัง-ออกไปเดินเล่นแบบนี้บ้างก็ดีนะบิกคุคุง พยายามโยนงานให้คนอื่นทำบ้างนะ

ผม-ทราบแล้วครับโอคะวะซัง

โอคะวะซัง-จริงสิ วันนี้ที่เรียกมาน่ะ จะมาถามความเห็นหน่อย ชั้น ล่างสุด ของตึกน่ะ เราจะทำอะไรดี คือตอนนี้สั่งให้ทำ

ที่จอดรถหน้าตึก2คัน ของเราทั้งคู่ แต่ทีนี้ด้านในตัวตึกเนี่ยเราจะทำอะไรเพิ่มดี

 

ผม-อืมมมอะไรที่คนทำงานต้องใช้............... จริงสิครับ ถ้าเกิดว่าเราลองติดต่อร้านกาแฟชื่อดังมาลงขายดีมั้ยครับ อาจ

จะมีเบเกอรี่เล็กๆอีกสักร้าน

 

โอคะวะซัง-อืม ก็น่าสนใจนะ นี่เห็นฮารุบอกว่า คุณพ่อกับคุณแม่จะเที่ยวช่วงปีใหม่หรอ

ผม-อ่อครับผมชวนไว้แต่ ทางบ้านผมยังไม่ได้ติดต่อกลับมาเลยครับ

โอคะวะซัง-ถ้ามาก็ดีนะ จะได้คุยเรื่องแต่งงาน

ผม-เอ๊ะ แต่งงาน หรอครับ

โอคะวะซัง-ใช่

ผม-ผะ ผมว่า ผมขอเวลาทำงานเก็บเงินอีกหน่อยนะครับ

โอคะวะซัง-แค่คุยกันเฉยๆนะยังไม่ได้บอกจะให้แต่งกันวันนี้พรุ้งนี้ไม่ต้องคิดมากขนาดนั้นหรอกนะ

ผม-จริงๆ ผมก็คิดว่า อยากจะแต่งงานครับ แต่ ผมแค่รู้สึกว่า ยังต้องทำงานหาเงิน มากกว่านี้อีกหน่อยครับ

โอคะวะซัง-งั้นหรอ จริงสิ วันนี้เห็น นานามิบอก งานหมดแล้วหรอ

ผม-ครับ วันนี้งานเสร็จแล้วครับ

โอคะวะซัง-งั้นเราไปร้านรถมือสองกันมั้ย

ผม-ไปตอนนี้เลยหรอครับ

โอคะวะซัง-ใช่ ไปตอนนี้แหละได้ข่าวว่ามีรถเข้ามาใหม่เต็มเลยนะ

ผม-งะ งั้น ผมไปเก็บของก่อนนะครับ

โอคะวะซัง-ได้

 

 

 

ผมก็ออกมาจากห้องโอคะวะซังแล้วก็เดินเข้าไปเก็บของ พอเก็บของเสร็จผมก็ออกมายืนรอโอคะวะซัง

 

 

 

นานามิ-เก็บของจะกลับแล้วหรอคะ

ผม-ครับ พอดีเด๋วจะออกไปข้างนอกกับโอคะวะซัง ถ้ามีงานด่วนก็โทรมาได้เลยนะครับ

นานามิ-ทราบแล้วค่ะ

โอคะวะซัง-ป่ะ บิกคุคุง

ผม-ครับ

 

พวกเราก็ลงมาข้างล่าง

 

โอคะวะซัง-เด๋วบิกคุคุงจะขับรถตามไปใช่มั้ย

ผม-ครับ เด๋วผมขับรถตามไปด้วยถ้าไม่มีงานด่วนอะไรแล้วก็คิดว่าจะกลับบ้านเลยครับ

โอคะวะซัง-งั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ

 

 

โอคะวะซังก็ขึ้นรถหน้าตึกแล้วก็ออกไปผมก็เดินไปเอารถ แล้วก็ขับรถตามไปพอไปถึงร้านมีรถใหม่มาเต็มเลยแหะผมก็

เดินดูไปเรื่อยๆ ไปสะดุดตาอยู่2คัน คันนึงคือแลมโบ คอเท๊ช และ 240z แลมโบคงจะไม่ไหว แต่ถ้า240z ที่ไม่มีล้อ

สภาพเก่ากึกนี่อาจจะพอไหวอยู่

 

 

ผม-โอคะวะซังลองนั่งแลมโบคันนี้หน่อยมั้ยครับ

 

พอโอคะวะซังลองเข้าไปนั่ง

 

โอคะวะซัง-อืมมม ก็กว้างกว่าที่คิดนะ สวยดีนะภายในก็เก็บมาแล้ว

ผม-คันนี้เจ้าของเก่าคงทำเก็บมาเยอะแล้วเหมือนกันนะครับ แต่บอดี้นี้ มีเสน่มากๆ สำหรับผม แต่ ผมซื้อตอนนี้ไม่ไหว

โอคะวะซัง-งั้นหรอ แล้วอะไหล่เราจะหาได้หรอ

ผม-คิดว่าน่าจะพอมีอยู่บ้างครับ แต่อะไหล่ น่าจะแพงมากๆ

โอคะวะซัง-บิกคุคุงคิดว่าไง

ผม-อืมมมม ใจผมก็อยากได้นะครับ เพราะเครื่อง ก็ดูแห้งดี สีก็ยังเงางาม แต่ถ้าพูดถึงเรื่องอะไหล่ แล้วนี่ก็อีกเรื่องนึงเลย

ละครับ

โอคะวะซัง-นั่นสินะ ถ้าอย่างงี้ไปเล่นรุ่นใหม่เลยดีกว่า

ผม-ครับ น่าจะคุ้มกว่า แต่บอดี้นี้ สำหรับผมมันทำให้ผมใจเต้นทุกครั้งที่ได้เห็นมันวิ่งอนู่บนถนน

โอคะวะซัง-แล้ว นอกจากคันนี้ มีคันไหนอีกมั้ย

ผม-ก็มีหลายคันนะครับ อย่าง silvia s15

โอคะวะซัง-ไม่ค่อยโดนเท่าไหร่คันนั้น เฮ้อออ ไว้ต้องไปดูที่อื่นเพื่อจะมีคันที่ถูกใจ

ผม-อย่างงั้นหรอครับ

โอคะวะซัง-งั้นพวกเรากลับบ้านกันเลยมั้ย

ผม-เอ๊ะ คือว่า ขอผมไปถามอีกสักคันได้มั้ยครับ

 

 

ผมก็เดินไปหาพี่เจ้าของร้านรถ

 

 

ผม-240z คันนี้เท่าไหร่หรอครับ

เจ้าของร้าน-800000 เยน

ผม-ขอเปิดรถดูหน่อยนะครับ

เจ้าของร้าน-ได้ตามสบายเลย

ผม-ขอบคุณครับ

 

 

ผมก็เดินออกมาดูรถกับโอคะวะซัง

 

 

โอคะวะซัง-อืมมม 800000เยนเลยหรอ ล้อก็ไม่มี

 

ผมก็เปิดประตูรถดู ภายในดูเหมือนจะทำมารอบนึงแล้ว แต่ตอนนี้ก็เน่าไปแล้ว เปิดห้องเครื่องออกมาก็เจอกับเครื่อง6สูบ

คาบู 2000cc ดูสะอาดมากๆ นะ นี่หรือว่ามันเป็นZ432R ผมเลยรีบดูใต้ท้องรถ ก็ไม่ค่อยจะมีสนิมเท่าไหร่

ผมก็เลยเดินเข้าไปหาเจ้าของร้าน

 

 

ผม-ลดราคาหน่อยได้มั้ย มันต้องเอาไปทำอีกตั้งเยอะเนี่ยกว่าจะวิ่งได้

เจ้าของร้าน-ราคานี้มีทะเบียนแท้รถตรงรุ่น ไม่แพงหรอก

ผม-600000เยน ผมโทรรถยกมารับไปเลย

เจ้าของร้าน-โหย600000ไม่ได้ๆ 750000แถมล้อ1ชุด ลดได้สุดๆแค่นี้

ผม-งั้น700000 ผมไม่เอาล้อ

เจ้าของร้าน-ไม่เอาล้อ725000

 

ผมเลยหยิบเงินออกมาจาก กระเป๋า 70ใบ ใบละ10000เยน

 

 

ผม-700000เยน ผมจ่ายสดด้วยนะครับ

เจ้าของร้าน-อะๆ 700000เยน ก็700000

ผม-ขอบคุณครับ

 

แล้วผมก็โทรเรียกรถให้มารับรถไปที่อู่ประจำ

 

โอคะวะซัง-นี่บิกคุคุง มันไม่แพงไปหน่อยหรอ

ผม-อืม...มันดันเป็นz432R แท้ๆ ที่บ้านผมหาไม่ได้หรอกนะครับต่อให้หาได้ สภาพนี้พร้อมทะเบียน อย่างน้อยๆ

ต้องมี เกินล้านเยนเป็นอย่างต่ำครับ พอมาอยู่นี่ผมก็คิดมาตลอดว่า อยากจะได้สักคัน แต่จะเอามาใช้งานทุกวันก็ไม่

ไหว เลยยังไม่ได้ซื้อแถมฮารุซังเห็นคงจะบอกว่าซื้อมาทำไมคะ เก่าขนาดนี้ แน่ๆเลยครับ

 

โอคะวะซัง-ฮ่ะๆ นั่นสินะ แล้วจะทำอะไรกับรถบ้างละ

ผม-อย่างแรกก็คงต้องแยกส่วนออกมาทุกชิ้นแล้วเอาตัวบอดี้ ไปยิงทรายปะผุทำสีภายในก็คงต้องเก็บใหม่หมดส่วน

เครื่องก็คงจะโมเพิ่ม อีกหน่อย ช่วงล่างเก็บใหม่หมดเลยครับ

 

โอคะวะซัง-สรุปทำใหม่หมดทั้งคันสินะ

ผม-ครับ ฮ่ะๆ เพราะงี้แหละครับโอคะวะซังขอร้องละครับช่วยปิดเป็นความลับกับฮารุซังด้วยนะครับ เด๋วทำเสร็จผม

ค่อยเอากลับบ้านทีเดียว

 

โอคะวะซัง-ได้สิ

 

 

หลังจากที่เรารออยู่สักพักรถก็มารับ240z ไปที่อู่ ผมก็โทรบอกที่อู่ว่าจะทำอะไรบ้าง แล้วก็ขับรถกลับมาบ้านพร้อม

โอคะวะซัง พอมาถึงบ้านผมก็เดินเข้าไปในห้องทำงาน กดสั่งของพวกล้อ คาร์บูแต่ง และของแต่งทั้งหลายให้ไปส่งที่อู่

พอสั่งเสร็จผมก็เดินไปหาพวกฮารุ

 

 

ผม-กลับมาแล้วครับ

ฮารุ-ที่รักกลับมาแล้วหรอคะ

ผม-ทำอะไรกันอยู่หรอครับ

พลอย-กำลังดูของลดราคากันอยู่ค่ะ

ผม-อ่อ ร้านซุปเปอร์ที่มาเปิดใหม่นี่อะหรอ

ฮารุ-ใช่ค่ะ ฮารุกำลังดูอยู่ว่ามีอะไรที่ต้องซื้อมั้ย

ผม-แต่ว่าผมหิวแล้วอ่ะครับ

ฮารุ-เอ๋! หิวแล้วหรอคะ ทำไมวันนี้ที่รักกลับบ้านไวจังคะ ไม่ได้ไปทำงานมาหรอ

ผม-ไปทำงานมาแล้วครับ และก็กลับมาบ้านเลย

เมดอายะ-คุณท่านจะรับอะไรก่อนดีมั้ยคะ

ผม-เอาข้าวผัดก็ได้ครับ

เมดอายะ-ทราบแล้วค่ะ

เมดชิสึ-เอาน้ำองุ่นมาให้แล้วค่ะ

ผม-ขอบคุณครับ

ฮารุ-ที่รักคะ ปีนี้ที่รักอยากได้ของขวัญเป็นอะไรดีคะ

ผม-อืมมมม.......... ผมขอให้ฮารุมีความสุขครับ

ฮารุ-อีกแล้วหรอคะ วันเกิดที่รักก็ขอแบบนี้ ที่รักขอแบบนี้ตลอดเลยนะคะ

ผม-กะ ก็ ผมนึกอย่างอื่นไม่ออกเลยนี่ครับ

พลอย-จริงสิพี่ชาย เตี่ยกับแม่จะมาหาเรา ตอนเมษานะ

ผม-อ่อหรอ มากันกี่คน

พลอย-ก็มากันหมดบ้านเลย

ผม-งั้นก็จองตั๋วให้เค้าด้วยละ

พลอย-แล้วจะจองแบบไหนดีอ่ะ

ฮารุ-เอาที่มันนั่งสบายๆหน่อยดีมั้ยคะ ท่านพ่อท่านแม่จะได้นั่งสบาย

ผม-นั่นแหละตามที่ฮารุซังบอกเลย

พลอย-ค่ะ แล้วของเฮียอีก2คนล่ะคะ

ผม-จองให้มันถูกๆไปนั่นแหละยังไม่แก่เท่าไหร่นั่งถูกๆแหละดีแล้ว

พลอย-ค่ะ

ฮารุ-พลอยจังเด๋วมาเอาบัตรพี่ไปจ่ายนะ

ผม-จริงสิ ฮารุซังเอาบัตรผมไปใช้บ้างก็ได้นะครับ ผมไม่ค่อยได้ใช้เลย

ฮารุ-แล้วทำไมที่รักไม่ใช้ล่ะคะ

ผม-นี่ไงใช้ซื้อตั๋วเครื่องบินก่อนเลย

ฮารุ-ค่ะ งั้นเอาบัตรมาไว้ที่ฮารุก่อนนะ เด๋วฮารุเอาไปใส่คืนให้

ผม-ครับ

 

 

แล้วผมก็เดินออกจากห้องมา แต่ยังไม่ทันเดินไปไหนก็ได้ยินฮารุกับพลอยจังคุยกัน

 

 

ฮารุ-พลอยจัง ทำไมบิกคุคุงถึงดูไม่อยากจะได้อะไรเลยละคะ

พลอย-อืมมม.........จะว่ายังไงดีละคะ ถึงพี่ชายจะทำเหมือนไม่เคยคิดอะไรเลย แต่ในหัวพี่ชายน่ะคิดอยู่ตลอดแหละค่ะ

หนูว่าสิ่งที่พี่ชายต้องการ มันก็คืออยากเห็นพี่ฮารุมีความสุขจริงๆค่ะ

 

ฮารุ-แล้วบิกคุคุงไม่อยากจะได้ของอะไรเลยหรอ ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา ไม่เคยเห็นจะขออะไรเป็นของตัวเองสักอย่างเลย

นะ

พลอย-พี่ชายน่ะเป็นประเภทที่ไม่รู้ว่าตัวเองอยากจะได้อะไร นอกจากจะคิดถึงหรือไปเห็นของๆนั้นเข้าจู่ๆคิดอยากจะเอา

ก็จะเอาให้ได้ เหมือนกับต้นซากุระนั่นแหละค่ะ จริงๆก็รอให้เค้ามาส่งให้ก็ได้ แต่ก็ยังจะให้ทานากะซังไปอีกใช่มั้ยละคะ

นั้นแหละค่ะคือ1ในข้อเสียของพี่ชาย

 

ฮารุ-มีเรื่องที่พี่ยังไม่รู้อีกเยอะเลยนะคะ บางทีพี่ก็รู้สึกว่าพี่ไม่เข้าใจในตัวบิกคุคุงเลย อย่างเรื่อง แต่งงานกันอ่ะ บิกคุคุง

เอาแต่ขอเวลาก่อนอยู่เรื่อยเลย

 

พลอย-เรื่องนั้น หนูเองก็ไม่ได้รู้อะไรเกียวกับพี่ชายมากนัก ถ้าคนที่รู้จริงๆคงต้องเป็นพี่เต๋าพี่ชายอีกคนของหนูอ่ะค่ะ แต่

ถ้าเรื่องแต่งงานหนูคิดว่าเป็นเพราะว่าพี่ชายก็แค่กลัวเลยถ่วงเวลาไปเรื่อยๆมากกว่าค่ะ

 

ฮารุ-ทำไมต้องถ่วงเวลาด้วยละ หรือบิกคุคุงไม่ได้รักพี่แล้วหรอ พลอยจัง

พลอย-ไม่ใช่แบบนั้นหรอกนะคะ พี่ฮารุ งั้นหนูจะเล่าเท่าที่เล่าได้ละกันนะคะ ส่วนรายละเอียดพี่ฮารุคงต้องรอฟังจากพี่

ชายเอง

 

ฮารุ-อื้ม รบกวนด้วยนะพลอยจัง พี่เองก็อยากจะรู้จักบิกคุคุงมากกว่านี้

พลอย-เรื่องแต่งงานที่พี่ชายไม่ตอบตกลงสักที เพราะพี่ชายกลัวว่าวันนึงถ้าฮารุรู้เรื่องทุกอย่างของพี่ชายแล้ว พี่ฮารุอาจ

จะอยากเปลื่ยนใจก็ได้หนูเลยคิดว่าวันที่พี่ชายจะแต่งงาน คือหลังจากที่เล่าทุกอย่างให้พี่ฮารุฟังแล้วค่ะ

 

ฮารุ-เรื่องตอนบิกคุคุงอยู่ที่ไทยหรอ

พลอย-ค่ะ เมื่อก่อนพี่ชายติดเพื่อนมากๆเลยค่ะ พวกเราก็พยายามชวนพี่ชายไปที่อื่นไปต่างประเทศบ้างพี่ชายก็ไม่ไปอยู่

กับเพื่อนตลอดเวลา แต่เพื่อนที่ชายไปสนิทด้วยเป็นพวกกุ๊ยข้างถนน แล้วก็พากันไปแต่งมอไซและเอาไปแข่งเสร็จก็ไป

อยู่กับแก๊งยาเสพติดอีก มีเรื่องได้ไม่เว้นวัน แล้วจู่ๆวันนึงพี่ชายก็กลับมาบ้าน แล้วก็บอกกับเตี่ยและแม่ว่าอยากจะกลับไป

เรียนและก็ไม่ได้ไปยุ่งกับแก๊งอีกเลยแล้วก็ได้มาเรียนที่นี่1ปี

 

ฮารุ-แล้วก็มาเจอชิโระสินะคะ

พลอย-ก็เพราะแบบนี้แหละค่ะ หนูถึงไม่แปลกใจที่พี่ชายเป็นเพื่อนกับชิโระซังและริวซังได้ง่ายๆ

ฮารุ-นั่นน่ะสิ ถ้าเป็นคนปกติก็คงไม่มีใครอยากจะเข้าไปยุ่งด้วย

พลอย-เท่าที่หนูบอกได้ตอนนี้ก็มีเท่านี้ค่ะ ที่เหลือพี่ฮารุต้องรอฟังจากพี่ชาย

ฮารุ-อะ อื้มม พลอยจัง บิกคุคุงตอนอยู่ที่ไทย ก่อเรื่องไว้เยอะเลยหรอคะ

พลอย-เยอะมากๆๆๆเลยค่ะ แม่เป็นห่วงอยู่ทุกวันทุกคืน เพราะงั้นตอนที่พี่ชายบอกว่าจะมาทำงานที่นี่และหลังจากนั้นก็

พาพี่ฮารุไปที่บ้านแล้วแนะนำให้พวกเรารู้จัก ทุกคนยังตกใจกันอยู่เลยนะคะ ไม่คิดว่าพี่ชายจะเปลื่ยนไปได้ขนาดนี้

 

ฮารุ-อย่างงั้นหรอคะ

พลอย-พี่ฮารุคงไม่ได้กำลังกลัวพี่ชายอยู่หรอกนะคะ

ฮารุ-มะ ไม่ได้กลัวเลยจ๊ะ แค่ คิดว่าบิกคุคุงต้องผ่านอะไรมาบ้างแล้วพี่ก็รู้สึกเศร้ายังไงก็ไม่รู้ค่ะ

พลอย-พี่ฮารุไม่ต้องคิดมากหรอกนะคะ ปกติแล้วพี่ชายจะทำทุกอย่างให้คนในครอบครัวสบาย แต่ตอนนี้เค้ากลับบอกว่า

ต้องให้พี่ฮารุสบายก่อน เป็นอับดับแรก เพราะงั้น เรื่องที่พี่ชายรักพี่ฮารุเนี่ยหนูยืนยันได้เลยค่ะว่าพี่ชายรักมากกว่าทุกคน

ที่พี่ชายรักแน่นอนค่ะ

 

 

 

ผมยืนฟังอยู่นานสักพักผมก็เดินไปที่บาร์หยิบเหล้าไปนั่งกินอยู่ในสวน นั่งคิดหลายๆเรื่อง อย่างที่ยัยพลอยพูดมันก็จริง

ทุกวันนี้ผมเองก็ยังกลัวไม่หาย คิดว่าถ้าวันนึงที่ฮารุรู้เรื่องของผมทุกอย่างแล้วเค้าจะยังรักผมอยู่มั้ยแค่คิดผมก็ไม่รู้จะต้อง

ตอบฮารุยังไงเหมือนกันถ้าเกิดฮารุมาถามเรื่องทั้งหมดในตอนนี้ ใจนึงก็อยากจะเล่าให้ฟังทั้งหมด อีกใจก็กลัวว่าเล่าไป

แล้วมันจะเป็นวันสุดท้ายที่เราได้อยู่ด้วยกันผมนั่งกินไปได้สักพัก ไฟสวนหลังบ้านก็เปิดผมก็หันไปเจอกับฮารุ

 

 

 

ฮารุ-มาอยู่ที่นี่เองหรอคะ ที่รัก

ผม-มีอะไรหรอครับฮารุซัง

ฮารุ-ที่รักมานั่งดื่มอะไรมึดๆอยู่คนเดียวล่ะคะ

ผม-ผมก็แค่คิดอะไรไปเรื่อยน่ะครับ

ฮารุ-ที่รักคะ พวกเรามาแต่งงานกันเถอะนะ

ผม-..............

 

ในที่สุดก็มาแล้วสินะเฮ้อออออ ผมไม่ได้ตอบอะไรฮารุไปได้แต่นั่งเงียบ

 

 

ฮารุ-มะ ไม่ว่าที่รักจะมีอดีตแบบไหนฮารุก็จะรอนะคะ รอวันที่ บิกคุคุงพร้อมที่จะเล่า

ผม-ผมก็แค่ กลัว

 

แล้วฮารุก็เข้ามากอดผมที่นั่งอยู่จากด้านหลัง

 

ฮารุ-ไม่ต้องกลัวนะคะ ฮารุจะปกป้องที่รักเองนะคะ

ผม-คะ ครับ

เมดอายะ-ขออนุญาตค่ะคุณท่าน คุณผู้หญิง ทานากะซังกลับมาแล้วค่ะ

ผม-ครับ ฮารุซังตอนนี้กี่โมงแล้วหรอครับ

ฮารุ-ตอนนี้จะ5ทุ่มแล้วค่ะ

ผม-งั้นเรื่องเมื่อกี้เราค่อยมาคุยกันต่อวันหลังนะครับ วันนี้ผมต้องเข้าไปคุยกับทานากะซังก่อน

ฮารุ-ค่ะ ขอฮารุไปด้วยได้มั้ยคะ

ผม-ได้สิครับ

 

 

แล้วผมก็จูงมือฮารุเดินไปที่หน้าบ้านก็เจอทานากะซังยืนอยู่กับเด็กผู้หญิงอีกคน

 

พ่อบาน-กระผมกลับมาแล้วครับ คุณท่าน คุณผู้หญิง

ผม-ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะครับทานากะซัง

ฮารุ-แล้วสาวน้อยคนนั้นเป็นใครหรอจ๊ะ

พ่อบ้าน-คือว่าเด็กคนนี้ชื่อ

...-สวัสดีค่ะคุณท่าน คุณผู้หญิง หนูชื่อ ไอซาวะ มิเอะ ค่ะ

ฮารุ-ไอซาวะจังหรอจ๊ะ หน้าตาน่ารักจังเลย

ไอซาวะ-ระ เรียกหนู ว่ามิจังก็ได้ค่ะคุณผู้หญิง

ฮารุุ-จ๊ะ มิจัง

ผม-แล้ว ทานากะซังมีเรื่องอะไรหรอครับ ที่บอกจะคุย

พ่อบ้าน-คือเรื่องของเด็กคนนี้แหละครับ

ผม-งั้นหรอครับ

ฮารุ-มิจัง ทานข้าวมารึยังจ๊ะ

มิจัง-คะ คือ ว่า

ผม-งั้นทานากะซังกับ มิจัง มาทานข้าวกันก่อนสิครับ อายะซังช่วยเอาข้าวมาให้ 2คนนี้ที่ห้องอาหารด้วยนะครับ

เมดอายะ-ทราบแล้วค่ะคุณท่าน

ผม-ป่ะงั้นพวกเราไปนั่งกันที่ห้องอาหารก่อนนะ

พ่อบ้าน-แต่คุณท่าน เด๋วกระผมกับมิจังไปนั่งทานที่ห้องพัก ก็ได้ครับ

ผม-ทานที่นี่ก็ได้ครับ เราจะได้มานั่งคุยกันก่อน กลับมาเหนื่อยๆ นั่งพักสักหน่อยเถอะนะครับ

พ่อบ้าน-ทราบแล้วครับ

ฮารุ-มิจังก็มาด้วยกันสิจ๊ะ

มิจัง-ค่ะ

 

แล้วพวกเราก็เดินมานั่งที่ห้องอาหาร

 

 

ผม-แล้วเรื่องมิจัง

พ่อบ้าน-คือว่า มิจังเป็นลูกของรุ่นน้องที่อยู่บ้านใก้ลกับผมครับ เสียแม่ไปตั้งแต่เด็กเมื่อไม่นานนี้ก็เสียพ่อไปอีกคน ก่อนที่

ผมจะมาทำงานที่นี่ผมก็พอจะมีเวลาได้ไปดูแลมิจังอยู่บ้างแต่พอผมได้งานที่นี่ มิจังก็บอกผมว่าอยู่คนเดียวได้ ผมก็เลย

มาทำงานกับคุณท่าน

 

ผม-แล้วค่าใช้จ่ายในบ้าน ค่ากินค่าอยู่ของมิจัง ที่ผ่านมานี่ทานากะซังรับผิดชอบมาตลอดเลยหรอครับ

พ่อบ้าน-จริงๆแล้วผมก็โอนเงินให้มิจังทุกเดือนแต่ มิจังน่ะไม่ยอมกดเงินที่ผมส่งไปให้ออกมาใช้เลยล่ะครับ เธอไป

ทำงานพาร์ทไทม์ หลังเลิกเรียนทุกวัน จนล่าสุดก็ล้มป่วยเพราะพักผ่อนไม่พอ

 

ผม-มิจังครับ ขอพี่ชาย ดูมือของมิจังใก้ลๆได้มั้ยครับ

มิจัง-ดะ ได้ค่ะ

 

มิจังก็เอามือให้ผมดู มือเธอเต็มไปด้วยปุ่ม ด้านๆ ตามนิ้วมือเต็มไปหมด

 

ผม-มิจัง โตขึ้นอยากจะเป็นอะไรหรอครับ

มิจัง-คะ คะ คือว่า..... หนูไม่มีหรอกค่ะความฝันแบบนั้น

ผม-งั้นหรอครับ ทานากะซัง ช่วยมาคุยกับผมที่ห้องทำงานหน่อยได้มั้ยครับ

พ่อบ้าน-ทราบแล้วครับคุณท่าน

ผม-ฮารุซังฝากดูแล มิจังหน่อยนะครับ มิจัง ตามสบายเลยนะครับ อาหารของอายะซังกับชิสึซังน่ะ อร่อยมากๆเลยนะ

ครับ

มิจัง-ขอบคุณค่ะ คุณท่าน

ผม-ครับฮิฮิ

 

แล้วผมก็ลูบหัวมิจัง หลังจากนั้นก็เดินมาคุยกับทานากะซังที่ห้องทำงาน

 

ผม-ทานากะซัง อยากจะขอร้องอะไรผมหรอครับ

พ่อบ้าน-สิ่งที่กระผมอยากจะขอร้องคุณท่าน คืออยากจะขอให้เด็กคนนี้มาอยู่ที่นี่ด้วยได้มั้ยครับ กระผมจะรับผิดชอบเรื่อง

ของมิจังทุกอย่างเองครับคุณท่าน

ผม-แล้วมิจัง เค้าอายุเท่าไหร่หรอครับ

พ่อบ้าน-มิจังอายุ17ครับ

ผม-เอ๋ งั้นเค้ายังเรียน ม.ปลายอยู่น่ะสิครับ

พ่อบ้าน-ครับคุณท่านมิจังอยู่ม.ปลาย ปี3 ครับ

ผม-จะให้มิจังมาอยู่ที่นี่แล้วเรื่องเรียนจะทำยังไงละครับ

พ่อบ้าน-ผมทำเรื่องที่โรงเรียนเก่ามาแล้วละครับ ผมว่าจะไปยื่นโรงเรียนแถวบ้านดูน่ะครับเพื่อเค้าจะรับเข้าเรียนครับ

ผม-นี่มันเป็นปีสุดท้ายแล้วนะครับทานากะซัง ถ้ามิจังย้ายมาอยู่ที่ใหม่ มิจังจะไม่มีเพื่อนนะครับ

 

พ่อบ้าน-กระผมทราบดีครับ แต่กระผมปล่อยมิจังไว้คนเดียวไม่ได้ครับคุณท่านกระผมได้คุยกับอาจารย์และทางโรงเรียน

แล้วล่ะครับเรื่องนี้ทางนั้นเค้าก็เห็นด้วยที่มิจังควรจะต้องมีคนดูแล และมิจังเป็นเด็กดี ขยัน กระผมอยากจะส่งมิจังไปให้

ถึงฝันแทน รุ่นน้องของผมที่ไม่มีโอกาสได้ทำครับคุณท่าน

 

ผม-เฮ้อออ ผมเข้าใจแล้วละครับ งั้นพวกเรากลับไปที่ห้องอาหารกันเถอะนะครับ

พ่อบ้าน-ครับคุณท่าน

 

 

พวกผมก็เดินกลับมาที่ห้องอาหาร

 

 

ผม-มิจัง อาหารอร่อยมั้ยครับ

มิจัง-อร่อยมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ คุณท่าน

ผม-ฮ่ะๆไม่ต้องคิดมากหรอกนะ

ฮารุ-ที่รักไปคุยอะไรกันมาหรอคะ

ผม-คือ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป มิจังจะมาอยู่ที่บ้านเราด้วยนะครับ

ฮารุ-เอ๋!!!

มิจัง-นะ...หนูจะตั้งใจทำงานนะคะคุณผู้หญิง ได้โปรดเมตตาหนูด้วยเถอะนะคะ

ผม-มิจัง แล้วเพื่อนๆที่โรงเรียนเก่าจะไม่เหงาแย่หรอครับถ้ามิจังไม่อยู่

มิจัง-หนู....บอกเพื่อนๆแล้วล่ะค่ะทุกคนก็เข้าใจ วันนี้ทุกคนยังส่งข้อความมาหาหนูกันเต็มไปหมดเลยนะคะคุณท่าน

ผม-งั้นหรอครับ

ฮารุ-แล้วที่รักจะให้มิจังทำงานหรอคะ

ผม-เรื่องนั้น ผมยังไม่ได้ตัดสินใจหรอกนะครับ ตอนนี้ผมคิดว่าต้องรีบหาที่เรียนให้มิจังก่อน เพราะนี่ก็เปิดเทอมกันไป

แล้วด้วยไม่รู้ว่าจะรับรึป่าว พรุ้งนี้ทานากะซังพามิจังไปติดต่อเรื่องเรียนแต่เช้าด้วยนะครับ

 

พ่อบ้าน-ทราบแล้วครับ

ผม-นี่มิจัง ระหว่างที่ไปเรียนก็คิดด้วยนะครับว่าโตขึ้นอยากจะทำงานอะไร แล้วเด๋วพี่ชายจะให้เงินมิจังไปโรงเรียนทุกวัน

นะครับ

พ่อบ้าน-คุณท่านครับเรื่องนั้น

ผม-ผมบอกแล้วนะครับทานากะซัง ถ้าจะมาอยู่ที่นี่ผมจะเป็นคนรับผิดชอบให้เองครับ

พ่อบ้าน-ตะ แต่

ผม-อย่าลืมหาห้องพักให้ มิจังด้วยนะครับ มิจังเองก็โตเป็นสาวแล้วจะให้นอนห้องเดียวกับทานากะซังก็คงจะไม่ได้

พ่อบ้าน-ทราบแล้วครับ

ผม-งั้นตามสบายนะครับ ฮารุซังขึ้นไปนอนกันเถอะครับ

ฮารุ-จ๊ะ มิจัง คืนนี้ก็พักผ่อนเยอะๆนะจ๊ะ พรุ้งนี้จะได้ไปสมัครเรียนนะ

มิจัง-ค่ะ

 

 

แล้วพวกผมก็เดินออกมาจะเดินไปขึ้นบนห้องนอน

 

มิจัง-คุณท่าน คะ คุณผู้หญิงคะ

ฮารุ-วิ่งตามมามีอะไรหรอจ๊ะ มิจัง

 

แล้วมิจังก็นั่งคุกเข่าก้มหัวลงไปติดกับพื้น

 

มิจัง-ขอบพระคุณมากๆนะคะ ที่เมตตาหนู

ฮารุ-ลุกขึ้นมาเถอะจ๊ะ

มิจัง-ตะ แต่ว่า

 

ผมก็เลยเดินไปจับที่ไหล่มิจัง

 

ผม-นี่มิจังหลังจากที่พี่ชายดูมือของมิจัง พี่ชายก็รู้ได้เลยว่าหลังจากที่เสียคุณพ่อไป มิจังก็สู้คนเดียวมาตลอดเลยสินะ

ครับ ความคิดที่จะพึ่งแต่ตัวเองไม่ใช่ไม่ดีนะครับ แต่มนุษย์เราไม่สามารถทำทุกอย่างได้ด้วยตัวคนเดียวหรอกนะครับ

เพราะงั้นเราถึงต้องมีครอบครัว มีเพื่อน ไว้เป็นที่พึ่งเวลาที่เราเจอกับปัญาหาที่เราแก้มันไม่ได้ หลังจากนี้พวกพี่ชายจะ

ดูแลมิจังเองนะ ลุกขึ้นยืนเถอะนะครับ

 

มิจัง-ทะ ทราบแล้วคะ

ผม-มิจัง ไม่ต้องคิดมากหรอกนะครับ วันนี้พักผ่อนก่อนเถอะนะ เรื่องอื่นเด๋วพวกเราค่อยมาคุยกันนะ

ฮารุ-ใช่แล้วละจ๊ะ ไม่ต้องเกรงใจนะจ๊ะ คิดสะว่าที่บ้านนี้คือบ้านของมิจังนะ

มิจัง-ค่ะ คุณผู้หญิง

ผม-งั้น ราตรีสวัสดิ์ นะครับ

 

แล้วพวกผมก็เดินขึ้นมาบนห้อง

 

ผม-เฮ้ออออ จะหาที่เรียนได้มั้ยนะ

ฮารุ-ได้อยู่แล้วล่ะค่ะ ถ้าที่รักเป็นคนไปคุย

ผม-เอ๋ ผมไม่ได้รู้จักคนที่เค้าเป็นเจ้าของโรงเรียนหรอกนะครับ

ฮารุ-ไม่ต้องห่วงนะคะ ถ้าพรุ้งนี้ไม่ได้ เด๋วฮารุจะจัดการให้เองค่ะ

ผม-แต่ว่ามัน

ฮารุ-ฮารุบอกแล้วไงคะ ว่าเรื่องในบ้านฮารุจะจัดการให้ที่รักเองนะคะ

ผม-ขอบคุณนะครับ

 

 

แล้วผมก็เข้าไปอ่าบน้ำมานอนตื่นเช้ามาผมก็ลงมากินข้าวเสร็จก็ขับรถออกมาทำงาน พอขึ้นมาบนห้องทำงาน

 

 

นานามิ-บิกคุซัง ช่วงนี้มีข่าวลือเกี่ยวกับบิกคุซังด้วยนะคะ

ผม-เอ๋!! ข่าวลือหรอครับ

ชิสึกะ-มันก็คือ เรื่องซุบซิบกันในบริษัทนี่แหละค่ะ

ผม-แล้วเรื่องอะไรหรอครับ

นานามิ-ช่วงนี้ อยู่ๆ ก็มีข่าวลือบ่อยๆว่า ผู้หญิงใน บริษัทเราตกหลุมรัก บิกคุซังกันเยอะขึ้นมากเลยนะคะ

ผม-ผะ ผม เนี่ยนะครับ ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ

ชิสึกะ-การตกหลุมรักคน มันไม่ต้องทำอะไรหรอกนะคะ แค่เดินผ่านก็ตกหลุมรักได้ค่ะ

ผม-ชิสึกะซัง ครับ ใครจะมาตกหลุมรัก คนแบบผมกันครับ

นานามิ-เอ๋ บิกคุซัง รูปร่างหน้าตาก็ดีแถมตอนนี้หน้าที่การงานก็ดี ใครจะอดใจไหวละคะ

ผม-นานามิซังชอบแกล้งผม ตลอดเลยนะครับ

นานามิ-พูดจริงๆนะคะบิกคุซัง ต้องระวังตัวไว้บ้างนะคะไม่งั้นจะหาว่านานามิไม่เตือนนะคะ

ชิสึกะ-คุณหนู ก็รู้เรื่องนี้ตั้งนานแล้วนะคะ

ผม-ฮารุซังก็รู้เรื่องนี้หรอครับ

ชิสึกะ-ค่ะ

ผม-เพราะแบบนั้น ฮารุซังถึงได้พูดอะไรแปลกๆสินะ

นานามิ-บิกคุซังต้องระวังตัวด้วยนะคะ ถ้าไม่อยากมีปัญหากับคุณหนู

ผม-นะ นั่นสิครับ งั้นผมไปนั่งทำงานก่อนนะครับ

 

 

แล้วผมก็เข้ามาในห้องทำงาน ก็มานั่งคิดว่าจะทำยังไง อาจจะต้องแต่งงานจริงๆแล้วละมั้ง คงได้เวลาแล้วละมั้งถึงตอนนี้

เราจะหมั้นกันแต่ผมเองก็ไม่ได้มีแหวนหมั้นใส่ คนอื่นจะไม่รู้ก็ไม่แปลก เอ๊ะแหวน หรอ งั้นคงต้องไปเดินดูแถวโอโมเตะ

ซานโดะแล้วละถ้างั้น ดูมือถือนี่ก็พึ่งจะ10โมงเองอีกนานกว่าจะเลิกงาน งั้น.....ผมก็เดินออกมาจากห้องทำงานไปแล้ว

ก็กดลิฟต์

 

 

นานามิ-อ๊ะบิกคุซัง เด๋วตอน11โมงมีประชุมนะคะ แล้วก็ตอน บ่ายต้องไปพบลูกค้าด้วยนะคะ

 

พอลิฟต์มาปุ๊บ ผมก็เดินเข้าไปในลิฟต์

 

ผม-นานามิซัง วันนี้.........ผมขอโดดงานนะครับ ไปล่ะ

 

แล้วลิฟต์ก็ค่อยๆปิด

 

นานามิ-เอ๋!!! โดดงานหรอคะ ดะ เด๋วสิคะ บิกคุซัง บิกคุซัง!!!!

 

เฮ้อออ พรุ้งนี้มาทำงาน นานามิต้องโกรธมากๆแน่เลย แต่ยังไงวันนี้ผมก็อยากจะลองไปดูแหวนสักหน่อย พอลงมาถึง

ด้านล่าง ก็เจอโอคะวะซัง กับ รีเซฟชั่น

 

รีเซฟชั่น-บิกคุซังคะ หยุดก่อนค่ะ

โอคะวะซัง-มีเรื่องอะไรกัน

รีเซฟชั่น-คือนานามิซังโทรมาบอกว่าให้จับตัวบิกคุซังไว้ค่ะ

โอคะวะซัง-นี่บิกคุคุง จะไปไหนน่ะ

ผม-อ๊ะ โอคะวะซัง คือว่า........ผมไปก่อนนะครับ

รีเซฟชั่น-เด๋วสิคะบิกคุซัง ท่านประธานช่วย จับบิกคุซังไว้หน่อยสิคะ

ผม-ขอโทษนะครับ เด๋วผมจะเข้าไปอธิบายเรื่องทั้งหมดอีกทีนะครับโอคะวะซัง

โอคะวะซัง-เด๋วๆ มาคุยกันก่อน แค่เรา2คน

ผม-คะ ครับ

 

 

แล้วพวกเราก็เดินแยกออกมา

 

 

โอคะวะซัง-นี่ จะทำเป็นไม่เห็นเธอก็ได้นะบิกคคุง วันนี้น่ะ

ผม-จะ จริงหรอครับ

โอคะวะซัง-แต่

ผม-แต่อะไรหรอครับ

โอคะวะซัง-ถ้าคิดจะโดดงานละก็ งั้น ช่วยพาออกไปด้วยอีกคนจะได้มั้ย

ผม-เอ๊ะ โอคะวะซัง จะดีหรอครับ

โอคะวะซัง-เอาหน่าาาา นานๆที

ผม-ขะ...เข้าใจแล้วครับ

โอคะวะซัง-สรุปคือ เธอ หนี นานามิ ลงมาสินะ

ผม-ครับ ผมต้องรีบไปแล้วครับไม่งั้น โดน จับตัวกลับไปแน่ครับ

โอคะวะซัง-มีแผนอะไร

ผม-งั้นโอคะวะซัง แค่เดินตามผม แล้วเออ ออ กับสิ่งที่ผมพูด พอเราเดินไปนอกตึกปุ๊บ ก็ขึ้นรถผมเลยนะครับ

โอคะวะซัง-ได้

 

 

แล้วพวกเราก็เดินกลับมา

 

 

ชิสึกะ-ท่านประธานคะ เด๋วพวกเราต้องขึ้นไปประชุมกันแล้วนะคะ

โอคะวะซัง-แปปนะ พวกผมกำลังคุยกันอยู่ พูดต่อสิบิกคุคุง

ผม-โอคะวะซังจำเรื่องร้านกาแฟที่เราคุยกันก่อนหน้านี้ได้มั้ยครับ ผมคิดว่าเราควรจะทำหน้าประตูเลยเป็นไงครับ เข้ามาก็

เจอเลยสามารถซื้อปุ๊บขึ้นไปทำงานได้ทันที

โอคะวะซัง-อืมมม น่าสน ใจนะ

ผม-จริงสิครับโอคะวะซังที่บอกจะทำที่จอดรถหน้าตึกนี่คือตรงไหนหรอครับ

โอคะวะซัง-อ่ออยู่ด้านหน้าตึกนี่เองจะเสร็จแล้วนะ เดินตามมาสิเด๋วชี้ให้ดู

 

 

คือพวกเราก็ค่อยๆ คุยกันเรื่องงาน(ทั้งๆที่พวกเรา2คนรู้เรื่องนี้กันดีอยู่แล้วว่าตรงไหนจะทำอะไรบ้าง) แล้วลากตัวเองออก

จากบริษัทไปที่รถ ให้คนอื่นไม่รู้

 

 

ชิสึกะ-บิกคุซัง ท่านประธานต้องไปประชุมแล้วนะคะ

โอคะวะซัง-อีกแปปนะ ช่วยโทรบอกคนอื่นว่ารอก่อน

ชิสึกะ-ทราบแล้วค่ะท่านประธาน

 

 

แล้วชิสึกะซังก็หยิบมือถือออกมาโทร ผมก็ส่งสายตา กับโอคะวะซัง ผมก็วิ่งไปเปิดรถสตาร์ทรถ แล้วโอคะวะซังก็วิ่งมา

ขึ้นรถ

 

 

นานามิ-บิกคุซังคะ!!!!! จะไปไหนคะ!!!!

ชิสึกะ-ท่านประธานคะ ประชุมละคะ!!!

ผม-ขอโทษนะครับ นานามิซัง เด๋วผมจะมาทำให้นะครับ แล้วก็ชิสึกะซังครับโอคะวะซังฝากบอกว่า ไม่ได้ยินเสียงอะไร

เลยครับ เสียงรถมันดัง

 

 

พูดเสร็จผมก็เบิ้ลเครื่องหน้าบริษัท

 

 

ชิสึกะ-หนอยยยยย บิกคุซังคะ เอาตัวท่านประมธานมาเด๋วนี้เลยนะคะ

นานามิ-ใช่แล้วค่ะ บิกคุซังคะ วันนี้บิกคุซังมีงาน มีประชุม มีไปพบลูกค้าด้วยนะคะ

ผม-แหะๆ ผมไปก่อนนะครับ

 

 

แล้วผมก็ปล่อยคลัช ให้รถกระโดดออกตัวไปเลย พอหนีออกมาได้แล้ว

 

 

ผม-โอคะวะซังจะไปที่ไหนหรอครับ

โอคะวะซัง-อืมมม...... ไปที่อู่ละกันจะได้ไปเอารถด้วย

ผม-ได้ครับ

 

พวกเราก็คุยเรื่องรถ กันไปจนถึงที่อู่ พอถึงอู่ปุ๊บ มือถือผมกับโอคะวะซังก็ดัง แต่ รอบ นี้ไม่ใช่นานามิและชิสึกะ แต่ดัน

เป็น....

 

ผม-อะ อะ อะ โอคะวะซัง ฮารุซังโทรมา ทำไงดีครับ

โอคะวะซัง-ของเธอฮารุหรอ

 

 

แล้วโอคะวะซังก็ยื่นมือถือมาให้ดู ของโอคะวะซัง เป็นสึคุยะซังโทรมา

 

 

ผม-หรือว่า จะมีคนโทรไปบอกกันครับ

โอคะวะซัง-ใจเย็นๆก่อนบิกคุคุง อาจจะบังเอิญก็ได้ เด๋วพวกเราแกล้งทำเป็นไม่ได้อยู่ด้วยกันนะ แกล้งทำเป็นทำงาน นะ

ผม-ครับ

 

 

หลังจากนั้นโอคะวะซังก็ลงไปเข้ารถตัวเอง ผมก็เลยกดรับสายฮารุ

 

ผม-ฮัลโหลครับ

ฮารุ-อยู่ไหน ทำไมรับสายช้าจังคะ

ผม-เอ๊ะ ผมก็อยู่ที่ทำงานไงครับ

ฮารุ-หรอคะ แล้วคุณพ่อล่ะคะ

ผม-โอคะวะซังหรอ วะ วันนี้ผมยังไม่ได้เจอเลยนะครับ

ฮารุ-ฮารุคิดว่า ทั้ง2คนอยู่ด้วยกันสะอีกนะคะ

ผม-ฮ่ะๆ ฮารุซัง ผมจะอยู่กับโอคะวะซังบ่อยๆได้ยังไงล่ะครับ พวกเรามีงานต้องทำนะครับ

ฮารุ-งานหรอคะ?

ผม-ครับ งานน่ะสิครับ

ฮารุ-ฮารุจะให้เวลาคิด แล้วก็กลับมาเจอกันที่บ้านเด๋วนี้ค่ะ

 

 

 

และฮารุก็วางสายไป ผมก็เลยหันไปจะพึ่ง โอคะวะซัง แต่หันไปเห็นหน้าโอคะวะซังแล้ว บอกได้คำเดียว หนักกว่าผมอีก

 

 

โอคะวะซัง-งะ งัย ฮารุว่าไงบ้าง

ผม-ฮารุซังบอกว่า ให้กลับไปเจอกันที่บ้านเด๋วนี้เลยครับ

โอคะวะซัง-งะ งั้นหรอ งั้นพวกเราก็กลับไปที่บ้านเธอก่อนละกันนะบิกคุคุง

ผม-โอคะวะซังจะไปด้วยหรอครับ ผมค่อยสบายใจหน่อย ยังไงโอคะวะซังก็น่าจะช่วยพูดกับฮารุซังได้

โอคะวะซัง-คือว่า.........สึคุยะก็รออยู่ที่บ้านด้วยเหมือนกัน เพราะงั้นคิดว่าคงช่วยอะไรเธอไม่ได้บิกคุคุง

ผม-เอ๊ะ

 

 

แล้วโอคะวะซังก็ลงรถไป พวกเราก็ขับรถตามกันมาถึงที่บ้าน

 

 

เมดอายะ-ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ คุณท่าน ท่านโอคะวะ

ผม-ครับฮารุซังละครับ

เมดอายะ-คุณผู้หญิง นั่ง อยู่กับท่านสึคุยะที่ห้องอาหารค่ะ

ผม-คะ ครับ

 

 

แล้วพวกเราก็เดินกันมาถึงหน้าห้องอาหารและพวกเราก็หันไปมองหน้ากันและกัน

 

 

ผม-อะ โอคะวะซัง ผมว่า ให้โอคะวะซังนำเข้าไปก่อนจะดีกว่าครับ

โอคะวะซัง-พูดอะไรแบบนั้นบิกคุคุงเธอเป็นเจ้าของบ้านต้องเข้าไปก่อนสิ

ผม-ตะ แต่ว่า

โอคะวะซัง-เอาหน่าาา

 

 

ผมก็เปิดประตูเข้าไป ก็เจอฮารุกับสึคุยะซัง และก็ นานามิกับชิสึกะ

 

 

ผม-กะ...กลับมาแล้วครับ

ฮารุ-มานั่งตรงนี้สิคะ บิกคุซัง

สึคุยะ-คุณ ก็มานั่งด้วยสิคะ

ผม/โอคะวะซัง-ครับ

ฮารุ-ไหน บอกมาสิคะ ว่าไปที่ไหนกันมา

ผม-คะ คือว่า...........

สึคุยะ-แล้วคุณละคะ

โอคะวะซัง-ผะ ผม

ฮารุ-ถ้าไม่พูด งั้น นานามิซัง ไหนลองเล่าให้ฟังหน่อยสิคะว่าเกิดอะไรขึ้น

นานามิ-คือว่าวันนี้ บิกคุซังไปทำงานพวกเราก็ทักทายกันปกติแล้วบิกคุซังก็เข้าไปในห้องทำงานสักพักก็ออกมา

เลยรายงานไปว่าวันนี้ต้องไปประชุมตอน11โมงแล้วตอนบ่ายก็ต้องไปพบลูกค้าด้วยคะ

 

ฮารุ-แล้ว..ท่านรองประธานทำยังไงกับเธอ

นานามิ-บิกคุซังก็เข้าไปในลิฟต์แล้วบอกว่าขอโทษนะ วันนี้โดดงานแล้วก็ออกไปเลยค่ะ

สึคุยะ-แล้วยังไงต่อ ชิสึกะ

ชิสึกะ-พอท่านประธานมาถึงที่บริษัท บิกคุซังก็ลงมาพอดีค่ะ ทางรีเซฟชั่นกำลังป่วนกันอยู่เพราะต้องไล่จับบิกคุซัง พอ

ท่านประธานเห็นก็เรียกบิกคุซังไปคุยกัน2คนพอกลับมาก็แกล้งทำเป็นคุยเรื่อง ร้านกาแฟ คุยเรื่องงานกลบเกลื่อนแล้วก็

ออกไปนอกตึกพอออกนอกตึกบิกคุซังก็วิ่งไปเอารถ มารับท่านประธานแล้วทั้งคู่ก็ขึ้นรถหนีออกมาจากบริษัทค่ะ

 

สึคุยะ-แล้วงานของท่านประธาน วันนี้มีอะไรบ้าง

ชิสึกะ-งานของประธานมีประชุมแล้วก็ออกตรวจสาขาต่างๆค่ะ แล้วก็ต้องไปพบลูกค้าอีกชุดค่ะ

สึคุยะ-ขอบใจนะ เอาละ พวกเธอ กลับไปทำงานต่อเถอะ เด๋วจะให้คนไปส่ง

ฮารุ-อายะซังบอกนิชิโนะซังให้ขับรถไปส่งนานามิซังและชิสึกะซังให้ถึงบริษัทด้วยนะคะ

เมดอายะ-ทราบแล้วคะ คุณผู้หญิง

ฮารุ-ส่วนคุณ เรามาคุยกันให้รู้เรื่องหน่อยสิคะ

 

 

แล้วฮารุก็มาดึงหูผม

 

 

ผม-จะ เจ็บๆ ครับฮารุซัง หูผมจะขาดแล้ววววครับ

ฮารุ-อย่ามาอ้อนนะคะ

ผม-คุณแม่ ช่วยผมด้วยครับบบบบบบบบ

สึคุยะซัง-โชคดีนะจ๊ะบิกคุคุง ฮารุจังแม่ขอยืมห้องนี้หน่อยนะ เด๋วจะต้อง จัดการ คนโดดงานอีกคน

โอคะวะซัง-บิกคุคุงงงงงงงงงงงงงง

ผม-โอคะวะซังงงงงงงงงงง

 

 

แล้วพวกผมก็โดนจับแยกกัน ผมโดนดึงขึ้นมาข้างบนห้อง

 

 

ฮารุ-นั่งคุกเข่า

ผม-ครับ

ฮารุ-เอาล่ะไหนบอกมาสิ โดดงานไปไหนมา

ผม-ผะ ผม ยังไม่ได้ไปไหนเลยนะครับ ผมออกมาก็ขับรถไปส่งโอคะวะซังที่อู่เอารถ แล้วฮารุซังก็โทรมาพอดี

ฮารุ-แล้ว จะโดดงานไปไหนคะ

ผม-ผะ....ผม จะไปโอโมเตะซานโดะครับ

ฮารุ-จะไปทำไม

ผม-ปะ.....ไป ดู แหวนครับ

ฮารุ-จะซื้อแหวนไปทำอะไร

ผม-คะ...คือว่า วันนี้ ตอนเช้าผมไปทำงาน แล้วนานามิซํงกับชิสึกะซังก็บอกว่า ช่วงนี้มีข่าวลือเกี่ยวกับผม มาสักพัก

แล้วในบริษัท

ฮารุ-เรื่องนั้นน่ะหรอ

ผม-คะ ครับ ผมไม่อยากให้ฮารุซังคิดมาก แหวนหมั้นก็มีแค่ของฮารุซังเท่านั้นคนที่บริษัทจะไม่รู้ก็ไม่แปลก ผมเลยจะไป

ดูแหวนครับ

ฮารุ-อย่างงั้นหรอคะ ไม่ใช่ว่าจะโดดงาน ออกไปหาสาวๆกันหรอกนะคะ

ผม-เอ๊ะ มะ...ไม่ใช่เลยครับ ผมไม่ได้จะไปทำอย่างงั้นสะหน่อยครับ

ฮารุ-หรอออ แล้วถ้าโดดงานอีกโดยที่ฮารุไม่รู้ละก็ต่อให้เป็นบิกคุคุงฮารุก็ไม่ยอมนะคะ

ผม-ทะ ทราบแล้วครับ ฮารุซัง

 

 

แล้วพวกเราก็ลงมาข้างล่างเจอโอคะวะซังกับสึคุยะซังยืนอยู่

 

 

สึคุยะซัง-ทั้ง2คน คะ ถ้าจะโดดงานก็ไม่ว่าหรอกนะคะ แต่ต้องมีคนใดคนนึงอยู่ทำงานนะคะ

ฮารุ-ห้ามโดดงานแบบนี้อีกนะคะ

ผม/โอคะวะซัง-ครับ

สึคุยะซัง-เฮ้อออ ไม่รู้คิดอะไรของคุณอยู่กันแน่นะคะ บิกคุคุงก็ว่าไปอย่าง แต่คุณเนี่ยปกติก็ไม่ค่อยได้เข้าไปทำงานอยู่

แล้วแท้ๆ ให้ตายสิ

ฮารุ-ที่รักคะ ถ้ามีเวลามาโดดงานเนี่ยไปช่วยกันหาโรงเรียนให้มิจังดีกว่ามั้ยคะ

ผม-คะ ครับ

สึคุยะซัง-มิจังนี่ใครหรอ

ฮารุ-เด็กที่บิกคุคุงรับมาอยู่ที่บ้านอีกคนค่ะ

ผม-คือ มิจังเค้าเป็นลูกของรุ่นน้องทานากะซังครับ แล้วเมื่อไม่กี่ปีที่แล้วมิจังก็เสียพ่อไป เลยต้องอยู่คนเดียวมาตลอดแต่

ก็มีทานากะซังคอยช่วยแต่พอทานากะซังมาอยู่ที่บ้านนี้ ทานากะซังก็ยังส่งเงินไปให้มิจังทุกเดือนแต่มิจังก็ไม่ยอมใช้เงิน

นั้นเลย มิจังไปทำงานหลังเลิกเรียน สุดท้ายก็ล้มป่วยทานากะซังก็เลยมาขอร้องน่ะครับ

 

โอคะวะซัง-อย่างงั้นเองหรอ นึกว่าเธอเอาเด็กมาเลี้ยงถึงในบ้านเลยฮ่าๆ

ผม-จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงละครับ ก่อนหน้านี้ ฮารุซังก็บ่นว่า อยากจะเพิ่มเมด สักคน ผมก็เลยคิดว่ามันก็ดีถ้าจะรับให้

มาอยู่ที่บ้านอ่ะครับ

 

ฮารุ-แล้วเมื่อไหร่ที่รักจะออกไปหาโรงเรียนให้มิจังคะ

ผม-เอ๊ะ เอ่อ.......คือว่า พอมานั่งนึกๆดูแล้วผมแทบจะไม่มีเพื่อนเลยล่ะครับ ไม่รู้จะไปขอความช่วยเหลือกับใครดี

ฮารุ-เฮ้อออ เพราะวันๆทำแต่งานใช่มั้ยล่ะคะ ถึง ไม่ได้ออกเจอคน เจอเพื่อน

โอคะวะซัง-จริงสิ ลองโทรไปคุยกับทาเคจังสิ น่าจะช่วยได้นะ

ผม-ทาเคดะซังหรอครับ

โอคะวะซัง-ใช่

ผม-ครับ งั้นเด๋วผมจะลองโทรไปถามดูนะครับ

สึคุยะซัง-คุณคะ คุณกลับไปทำงานได้แล้วนะคะ ตามรถมารอรับอยู่ที่หน้าบ้านแล้วค่ะ

ฮารุ-ส่วนรถคุณพ่อ ก็เอาจอดไว้ที่นี่นั่นแหละ เด๋วหนูจะให้บิกคุคุงเอาไปเก็บในโรงรถให้ค่ะ ส่วนงานของบิกคุคุง ก็ต้อง

รบกวนคุณพ่อด้วยนะคะ

 

โอคะวะซัง-เอ๋!!!! แต่งานมันเยอะมากเลยนะฮารุจัง

ฮารุ-วันนี้บิกคคุงต้องรีบหาที่เรียนให้มิจังนะคะ

 

 

แล้วผมก็เดินออกมาโทรหาทาเคดะซัง

 

 

ผม-ฮัลโหล สวัสดีครับทาเคดะซัง

ทาเคดะซัง-โอ้ สวัสดีบิกคุคุง

ผม-คือว่าผมมีเรื่องอยากจะขอร้องหน่อยครับ พอดี ผมกำลังหาโรงเรียน ม.ปลาย ให้เด็ก คนนึงอยู่ครับ  ชั้นปีที่3แล้ว

เกิดปัญหานิดหน่อยเลยต้องย้ายมาอยู่ที่บ้านผมครับ ตอนนี้ออกไปหาโรงเรียนแถวบ้านแล้วครับแต่ดูเหมือนว่าจะไม่มี

ที่ไหนรับได้เลยเพราะมันเปิดเทอมไปแล้วด้วย

 

ทาเคดะซัง-อืมมม แบบนี้ก็ลำบากแย่เลยนะ งั้นเด๋วพาเด็กนั่น ไปที่โรงเรียนที่เธอเคยเรียนกับชิโระนะ เด๋วจะโทรบอกให้

รีบๆไปล่ะจะได้เรียนทันเพื่อนๆ

 

ผม-ครับ ขอบคุณมากเลยครับ ทาเคดะซัง

ทาเคดะซัง-ไม่เป็นไรหรอก เรื่องเล็กน้อยถ้าเทียบกับสิ่งที่เธอทำให้

ผม-ผมว่า ผมไม่ได้ทำอะไรให้ทาเคดะซังเลยนะครับ

ทาเคดะซัง-ฮ่าๆๆ งั้นแค่นี้ก่อนนะ

ผม-ครับ ทาเคดะซัง

ฮารุ-ที่รักทาเคดะซังว่ายังไงบ้างคะ

ผม-ทาเคดะซังบอกว่า ให้พาเข้าไปที่โรงเรียน ที่ผมเคยเรียนกับชิโระได้เลย เด๋ว ทาเคดะซังจะโทรไปบอกให้ คิดว่าไม่

น่าจะมีปัญหาอะไรครับ

 

ฮารุ-งั้นเด๋ว ฮารุโทรบอกทานากะซังก่อนนะคะ

ผม-ครับ สึคุยะซังครับ แล้ว โอคะวะซังละครับ

สึคุยะซัง-เวลาจะโดนทำโทษยังเรียกคุณแม่ได้อยู่เลยนะเมื่อกี้

ผม- ผะ ผมยังไม่ค่อยชินครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับ คุณแม่

สึคุยะซัง-จ๊ะ คุณพ่อออกไปทำงานแล้วล่ะจ๊ะ

ผม-เอ๊ะกลับไปทำงานหรอครับ

สึคุยะซัง-จ๊ะ

ผม-จริงสิคุณแม่ ผมปลูกต้นไม้เพิ่มเยอะเลยครับ ที่สวนหลังบ้าน

สึคุยะซัง-เอ๋ จริงหรอจ๊ะ

ผม-พวกเราไปดูกันมั้ยครับ

สึคุยะซัง-ไปสิจ๊ะ

 

 

ผมก็เลยพาสึคุยะซังมาดูสวนหลังบ้าน ไปถึงก็คือ ทุกคนลงต้นไม้ปลูกกันเรียบร้อยแล้ว

 

 

สึคุยะซัง-มีต้นอะไรบ้างจ๊ะเนี่ย

ผม-มีต้นบ๊วยครับ ผมอยากจะลองทำบ๊วยดองกับเหล้าบ๊วยไว้ดื่มเองที่บ้านครับ แล้วก็มีต้นแอ๊ปเปิ้ล กับต้นองุ่น ด้วยครับ

สึคุยะซัง-ดีเหมือนกันนะ ผลไม้สด ก็แพงขึ้นทุกวัน

ผม-นั่นสิครับ พูดถึงแล้วผมก็อยากทานเลยล่ะครับฮ่ะๆ

ฮารุ-มาอยู่ที่นี่กันเองหรอคะ

ผม-ครับ ทานากะซังว่ายังไงบ้างครับ

ฮารุ-ทานากะซังกำลังพาไปที่โรงเรียนค่ะ

สึคุยะซัง-นี่ลูกอย่าลืมไปขอบคุณทาเคดะซังด้วยนะจ๊ะ บิกคุคุง

ผม-ทราบแล้วครับ คุณแม่

ฮารุ-เอ๊ะ บิกคุคุง เรียกว่าอะไรนะคะ

สึคุยะซัง-คุณแม่ไงจ๊ะ

ฮารุ-กว่าจะยอมเรียกให้ฮารุรอตั้งนานเลยนะคะ

ผม-ผมก็ยังไม่ค่อยชินเท่าไหร่ครับ บางครั้งเลยเรียกสึคุยะซังแบบเมื่อก่อนแทน

ฮารุ-นี่ คุณแม่คะ เด๋วพวกเราไปข้างนอกกันหน่อยได้มั้ยคะ

ผม-งะ งั้นผมไปด้วยนะ

ฮารุ-ไม่ได้ค่ะ คุณเองก็มีลูกค้าต้องไปพบไม่ใช่หรอคะ

ผม-แต่

ฮารุ-ไม่มีแต่ค่ะ พบลูกค้าเสร็จก็กลับไปรอที่บริษัทด้วยนะคะ เด๋วฮารุจะกลับบ้านด้วยค่ะ

ผม-งั้นให้นิชิโนะซัง

ฮารุ-วันนี้ฮารุจะนั่งรถที่รักกลับบ้านค่ะ เข้าใจนะคะ

ผม-ขะ เข้าใจแล้วครับ

ฮารุ-คุณแม่ไปกันเถอะค่ะ

สึคุยะซัง-จ๊ะ

 

 

แล้วพวกฮารุก็ออกไปผมก็ออกไปหาลูกค้าจนถึงเย็นผมก็ต้องขับรถกลับไปที่บริษัทไปถึงก็ไปนั่งรอข้างล่างสักพัก

นานามิก็ลงมา

 

 

นานามิ-บิกคุซังคะ มาถึงแล้วทำไมไม่ขึ้นไปที่ห้องทำงานของตัวเองละคะ

ผม-อ๊ะ นานามิซัง ผมขอโทษนะครับ

นานามิ-ขึ้นไปห้องประชุมได้แล้วนะคะ ท่านประธานรออยู่ค่ะ

ผม-เอ๊ะ โอคะวะซังหรอครับ

นานามิ-ค่ะ

ผม-ทราบแล้วครับ

 

 

แล้วผมกับนานามิก็เดินไปขึ้นลิฟต์ พอไปถึงห้องประชุม ก็เห็นโอคะวะซังนั่งอยู่ พอโอคะวะซังเห็นผมปุ๊บ ก็ลุกขึ้นแล้ว

ออกจากห้องประชุมมา

 

 

โอคะวะซัง-บิกคุคุง เข้ามาเร็วๆ

ผม-คะ ครับ มีอะไรหรอครับ

โอคะวะซัง-เอาล่ะทุกคน ตอนนี้คนที่รับผิดชอบการประชุมนี้ได้มาถึงแล้ว

ผม-เอ๊ะ เด๋วสิครับโอคะวะซัง

โอคะวะซัง-ไม่ต้องพูดเลย วันนี้ทำงานมาทั้งวันแล้วเหนื่อยมาก ต่อไปตาเธอแล้วนะ

ผม-ผมเพิ่งไปหาลูกค้ามานะครับ

โอคะวะซัง-ไม่สน นี่คือคำสั่งท่านประธาน เฮ้ออออ จะได้พักสักที กลับบ้านดีกว่าาา

ผม-จริงสิครับโอคะวะซัง สึคุยะซังบอกว่าทำงานเสร็จแล้วให้ รอก่อนนะครับ เด๋วฮารุซังกับสึคุยะซังจะมาหาที่บริษัทครับ

โอคะวะซัง-เอ๊ะ นี่เรื่องจริงหรอ

ผม-เรื่องจริงครับ

โอคะวะซัง-เฮ้อออ งั้น บิกคุคุงก็จัดการที่เหลือไปละกันเด๋วจะนั่งฟังด้วย

ผม-ทราบแล้วครับ

 

 

หลังจากนั้นพวกเราก็นั่งประชุมกันจน ถึง 2ทุ่ม เสร็จก็ออกมา นานามิกับชิสึกะก็ยืนรอ อยู่หน้าห้อง

 

 

ชิสึกะ-ท่านประธานคะ คุณนายรออยู่ข้างล่างนะคะ

 

นานามิ-คุณหนูก็รออยู่ข้างล่างค่ะ บิกคุซัง

ผม-ขอบคุณครับ

โอคะวะซัง-ขอบใจนะชิสึกะ

นานามิ-หวังว่าพรุ้งนี้บิกคุซังจะไม่โดดงานอีกนะคะ

ผม-มะ ไม่หรอกนะครับฮ่ะๆ

ชิสึกะ-จริงสิคะนานามิซัง เมื่อกี้ ตอนลงไปหาคุณนายกับคุณหนูที่ข้างล่าง คุณหนูกับคุณนายสั่งว่า ถ้าเกิดเห็นท่าน

ประธาน และท่านรองประธานโดดงานอีกเมื่อไหร่ให้โทรแจ้ง ได้เลย นะคะ

 

นานามิ-ทราบแล้วค่ะ

ผม-ดะ เด๋วสิครับ

นานามิ-ได้ยินแล้วนะคะ ท่านรองประธานบริษัท

ผม-เอ๊ะ คะ ครับ โอคะวะซังช่วยพูดอะไรหน่อยสิครับ

โอคะวะซัง-บิกคุคุงนั่นแหละที่ต้องจัดการ

ผม-เด๋วสิครับ คุณพ่อ แบบนี้มัน

โอคะวะซัง-ถึงจะดีใจที่เธอยอมเรียกว่าพ่อสักทีก็เถอะ แต่เรื่องนี้

ชิสึกะ-ท่านประธานก็ช่วยบิกคุซังไม่ได้หรอกนะคะ เพราะคุณนายและคุณหนูเป็นคนสั่งค่ะ

ผม-เฮ้อออออออ

 

 

พอพวกเราลงลิฟต์มาถึงข้างล่างก็เจอฮารุกับสึคุยะซัง

 

 

โอคะวะซัง-วันนี้ทำงานเหนื่อยมากๆเลยนะ

สึคุยะซัง-นานๆจะทำสักที ยังมาบ่นอีกนะคะ

ฮารุ-ที่รักคะ ยื่นมือซ้ายมาให้ฮารุหน่อยค่ะ

ผม-เอ๊ะ มือซ้ายหรอครับ ได้สิครับ

 

แล้วผมก็ยื่นมือให้ฮารุ

 

 

สึคุยะ-ยังไงก็ต้องขอบใจชิสึกะกับนานามิมากเลยนะจ๊ะ ที่ต้องมาดูแล 2 คนนี้

ชิสึกะ-ไม่เป็นไรค่ะ

นานามิ-ปกติบิกคุซังก็มักจะทำงานจนเกินตัวด้วยซ้ำแต่ไม่รู้ทำไมวันนี้ถึงได้โดดงาน

ฮารุ-เสร็จแล้วค่ะ ทีนี้ที่รักก็ต้องใส่มาทุกวันด้วยนะคะ

ผม-เอ๊ะ ฮารุซื้อแหวนมาหรอครับ แหวนอะไรหรอครับ

ฮารุ-แหวนแต่งงานไงคะ

ผม-เอ๊ะ

นานามิ-นี่มันแหวนเพชร นี่คะ

ชิสึกะ-แค่ดูก็รู้ว่าแพงมากๆ หรูมากๆเลยนะคะ บิกคุซัง

ผม-เอ๊ะ ดะ เด๋วสิครับฮารุซัง นี่มันเรื่องอะไรหรอครับ

ฮารุ-ก็ที่รักอยากได้แหวนไม่ใช่หรอคะ

ผม-คะ ครับ ผมก็อยากได้แหวนมาใส่ก็จริงนะครับแต่ว่าแบบนี้มันแพงไปรึป่าวครับ ราคาเท่าไหร่หรอครับ

ฮารุ-เอ๋ ไม่ได้แพงขนาดนั้นหรอกนะคะ

สึคุยะซัง-7,350,000เยนจ๊ะ

ผม-เอ๋!!!!! จะ จะ 7ล้าน

ฮารุ-ไหนคุณแม่สัญญาว่าจะไม่บอกราคาไงคะ

โอคะวะซัง-นี่เรื่องอะไรหรอ

ผม-คะ คะ คือว่า ตอนเช้าผมมาทำงาน แล้วก็คุยกับนานามิซังกับชิสึกะซังเรื่อง ข่าวลือในบริษัทเกี่ยวกับผม น่ะครับ

ผมก็เลยคิดว่าถ้าผมมีแหวนใส่ทุกคนจะได้รู้ว่าผมมีเจ้าของแล้วน่ะครับผมก็เลย.......

 

นานามิ-เอ๊ะหรือว่าที่โดดงานไปจะไปดูแหวนหรอคะ

ผม-คะ ครับ

นานามิ-เรื่องนี้ บอก นานามิก็ได้นะคะ เด๋วจะไปซื้อมาให้ค่ะ

ผม-คือ ผมอยากจะลองไปเดินดูก่อนน่ะครับ ไม่งั้นผมก็นึกแบบที่อยากได้ไม่ออก

ฮารุ-ทีนี้ก็มีแหวนแล้วนะคะ ใส่มาทำงานทุกวันด้วยนะคะ

ผม-ทราบแล้วละครับฮารุซัง

สึคุยะซัง-งั้นพวกเราก็กลับบ้านกันเถอะนะ ชิสึกะซัง นานามิซัง กลับบ้านได้เลยนะจ๊ะ

นานามิ/ชิสึกะ-ทราบแล้วคะ คุณนาย

 

 

แล้วทั้งคู่ก็เดินออกไป ส่วนโอคะวะซังกับสึคุยะซังก็เดินไปขึ้นรถที่หน้าตึกส่วนผมกับฮารุก็เดินไปเอารถแล้วก็ขับรถกลับ

มาที่บ้าน ก็เจอทานากะซังยืนรออยู่

 

 

พ่อบ้าน-ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับคุณท่าน คุณผู้หญิง

ฮารุ-กลับมาแล้วจ๊ะ

ผม-วันนี้ไปสมัครเรียนมาเป็นยังไงบ้างครับ

พ่อบ้าน-ตอนนี้มิจังได้ที่เรียนแล้วครับ เป็นเพราะคุณท่านช่วยเอาไว้ครับ

ผม-งั้นหรอครับ แล้วพลอยจังละครับ

พ่อบ้าน-คุณหนูพลอยนั่งรอ อยู่ที่ห้องอาหารครับ

ผม-ครับ

 

 

แล้วพวกเราก็เดินเข้าไปที่ห้องอาหารก็เจอพลอยจัง นั่งอยู่

 

 

เมดอายะ-ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะคุณท่าน คุณผู้หญิง

พลอยจัง-วันนี้ไปไหนกันมาหรอคะ หนูกลับมาบ้านไม่มีใครอยู่เลย

ฮารุ-พี่ไปธุระข้างนอกมาจ๊ะ เลยแวะไปหาบิกคุคุงที่ บริษัทแล้วก็กลับมาด้วยกันนี่แหละจ๊ะ

เมดอายะ-คุณท่าน คุณผู้หญิงจะรับอาหารเย็นเลยมั้ยคะ

ฮารุ-ยกอาหารเย็นมาเลยจ๊ะ

เมดอายะ-ทราบแล้วค่ะ คุณผู้หญิง

ผม-ทานากะซัง แล้วมิจังทำอะไรอยู่หรอครับ

พ่อบ้าน-มิจัง เพิ่งจะเข้าห้องไปครับ

ผม-งั้นหรอครับ แล้วค่าใช้จ่ายวันนี้เท่าไหร่ครับมาเบิกได้เลยนะครับ

พ่อบ้าน-แต่ว่า

ผม- เรื่องของมิจังผมจะรับผิดชอบให้ทุกอย่างเลยนะครับ

ฮารุ-ก็อย่างที่บิกคุซังบอกไปนะจ๊ะ

ผม-จริงสิครับ ช่วยตาม มิจังมาให้หน่อยได้มั้ยครับ

พ่อบ้าน-ทราบแล้วครับ

เมดอายะ-คุณผู้หญิงจะรับน้ำอะไรดีคะ

เมดชิสึ-คุณท่านจะรับน้ำอะไรดีคะ

ฮารุ-เอาน้ำองุ่นมาทั้ง2แก้วเลยก็ได้จ๊ะ

เมดชิสึ-ทราบแล้วค่ะ

พ่อบ้าน-พามาแล้วครับ คุณท่าน

มิจัง-ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ คุณท่าน คุณผู้หญิง

ฮารุ-วันนี้ไปสมัครเรียนมาเป็นยังไงบ้างจ๊ะ

มิจัง-ได้คุณท่านช่วยไว้ ตอนนี้หนูเลยมีที่เรียนแล้วค่ะ คุณผู้หญิง

ผม-งั้นมิจังเด๋วพี่ชายจะให้เงินเป็นรายเดือนนะครับ มิจังจะได้มีไว้ใช้ซื้อของกินซื้อของใช้ที่อยากได้หรือเวลาไปกินข้าว

กับเพื่อนๆ น่ะครับ

 

มิจัง-ตะ แต่ว่า

ฮารุ-มีอะไรหรอจ๊ะมิจัง

 

มิจัง-คะ คือหนู......... คุณท่านกับคุณผู้หญิงเป็นคนใจดีจังเลยนะคะให้หนูอยู่ที่บ้านมีข้าวกินแถมยังให้หนูได้ไป

เรียนอีก และยังจะให้เงินหนูใช้อีก

 

 

แล้วมิจังก็ร้องไห้พวกฮารุกับพลอยจัง ก็เข้าไปปลอบ พวกเราทุกคนรู้ว่าการที่เด็กอายุแบบนี้อยู่คนเดียวมันลำบากแค่

ไหนถึงจะอยู่ได้แต่ก็ต้องแลกมาด้วยเวลาที่จะได้อยู่กับเพื่อนๆสำหรับผม ช่วงเวลาแบบนี้นั้นมีค่ามากถ้าเลือกได้ก็อยาก

ให้ทุกคนมีช่วงเวลาแบบนี้กันทุกคน สักพักมิจังก็หยุดร้องไห้

 

 

ผม-นี่มิจัง พี่ชายน่ะรักบ้านหลังนี้มากเลยนะ เพราะบ้านหลังนี้ทำให้พวกเราได้อยู่ด้วยกัน แล้วมิจังละครับชอบบ้านหลังนี้

มั้ย

มิจัง-ชะ ชอบค่ะ!! ถึงจะใหญ่เวลาไม่มีคนอยู่แล้วดูเหงามากเลยล่ะค่ะ แต่หนูก็รู้สึกถึงความอบอุ่นของบ้านหลังนี้นะคะ

ผม-งั้นหรอครับ ที่บ้านหลังนี้มีความรู้สึกอบอุ่นแบบนั้นเพราะพวกเราทุกคน ช่วยกัน พวกเราทุกคนใช้เวลาอยู่ด้วยกันที่นี่

ถ้ามิจังอยากอยู่ที่นี่มิจังต้องเห็นคนในบ้านนี้เป็นครอบครัวเดียวกันก่อนนะครับ

 

มิจัง-ครอบครัวหรอคะ

ผม-ใช่ครับ ถึงผมกับฮารุซังจะเป็นเจ้าของบ้าน แต่พวกเราก็อยู่ที่นี่ด้วยกันเหมือนกับเป็นพี่น้องกันจริงๆ เพราะงั้นมันถึง

ได้อบอุ่นและเป็นครอบครัวไงครับ

 

มิจัง-ค่ะ

ผม-งั้นมิจังก็รับเงินเดือนนี้ไว้เถอะนะครับ ส่วนถ้านอกจากเวลาเรียนแล้ว มิจังอยากจะทำงานล่ะก็ พี่ชายจะให้มิจังทำงาน

เป็นเมดที่บ้านนี้เอามั้ยครับ

 

มิจัง-ให้หนูทำงานได้หรอคะ

ผม-ได้สิครับ แต่ต้องทำในบ้านนี้เท่านั้นนะครับ พี่ชายไม่อนุญาตให้ไปทำนอกบ้านนะครับ

มิจัง-เอ๋ หนูคิดว่าหนู

ผม-นี่มิจัง เอามือถือมาหน่อยได้มั้ย

มิจัง-ค่ะ

 

 

แล้วมิจังก็ยื่นมือถือมาให้ผมมือถือมิจัง เป็นรุ่นเก่าแถมหน้าจอแตกอีกคือกดก็แทบจะกดไม่ติดอยู่ละ แล้วแบบนี้จะอ่าน

ข้อความที่เพื่อนๆส่งมาให้ยังไงกันนะ

 

 

ผม-มิจังทำไมมันแตกแบบนี้ละครับ

มิจัง-คือหนูทำหล่น ตอนทำงานหลังเลิกเรียนค่ะ

ผม-แบบนี้จะอ่านข้อความที่เพื่อนๆส่งมาให้ได้หรอครับ แล้วทำไมมิจังถึงไม่ซื้อใหม่หรอครับ

มิจัง-คะ คือว่า อันนี้คุณพ่อเป็นคนซื้อให้ในวันเกิดหนูอ่ะค่ะ หนูก็เลย....

ฮารุ-มิจังงง

มิจัง-เอ๊ะ คือจริงๆแล้วหนูก็ไม่ค่อยมีเงินเท่าไหร่ด้วยค่ะ

ผม-แล้วเงินที่ทานากะซังส่งไปให้ละครับ

มิจัง-หนู ไม่กล้าใช้หรอกนะคะ ถึงทานากะซังจะสนิทกับคุณพ่อหนู แต่หนู

ผม-มิจังไม่อยากใช้เงินก้อนนั้นหรอครับ

มิจัง-ค่ะ

ผม-งั้นหรอ มิจังคงคิดว่า ทานากะซังเป็นเพื่อนคุณพ่อ เลยไม่กล้าใช้สินะครับ

มิจัง-ค่ะ

ผม-แล้วปกติตอนอยู่บ้านมิจังอยู่คนเดียวไม่เหงาหรอครับ

มิจัง-ไม่เหงาหรอกค่ะ หนูเลิกเรียนก็ไปทำงานพอทำงานเสร็จกลับมาบ้านก็ดึกแล้ว เวลาหนูเหงาจริงๆ ก็ยังมีเพื่อนๆอยู่

ค่ะ ตั้งแต่คุณพ่อเสียไปหนูก็เลยไม่ค่อยมีเวลาไปเล่นกับเพื่อนๆ

ผม-งั้นหรอครับ

 

 

 

แล้วผมก็เลยกดมือถือของมิจังให้โทรมาที่เครื่องผม พอเครื่องผมสั่นผมก็กดวาง แล้วก็ยื่นให้มิจังดู

 

 

 

ผม-ทีนี้ถ้ามิจังเหงาละก็โทรมาหาพี่ชายได้ตลอดเลยนะครับ โทรมาได้ทุกเรื่องเลยนะมิจัง

มิจัง-เอ๋

ฮารุ-งั้นฮารุขอด้วยสิคะ

พลอยจัง-หนูเอาด้วยค่ะ

มิจัง-ทุกคน........

ผม-หลังจากนี้ พวกพี่ชายก็ต้องของฝากตัวด้วยนะครับ

พ่อบ้าน-ที่นี่มีคนดีๆอยู่เยอะเลยนะครับมิจัง

มิจัง-ค่ะ ทำให้หนูคิดถึงพ่อขึ้นมาเลยล่ะค่ะ

ผม-ฮ่าๆนี่มิจัง ถึงพี่ชายจะเป็นพ่อให้มิจังไม่ได้ แต่ทานากะซังละก็หายห่วงเลยนะครับ

มิจัง-เอ๋

ฮารุ-งั้น ทานากะซังเป็นพ่อมิจัง ที่รักเป็นพี่ชาย ส่วนฮารุกับพลอยจัง ก็จะเป็นพี่สาวสินะคะ

มิจัง-เอ๊ะ จู่ๆ หนูก็มีพ่อกับพี่ชายและพี่สาวเพิ่มขึ้นมาหรอคะ

ผม-ใช่แล้วล่ะครับ พี่ชายกับพี่สาวของมิจังยังไม่หมดหรอกนะครับ ใช่มั้ยครับอายะซังชิสึซัง

เมดอายะ/เมดชิสึ-ใช่แล้วค่ะคุณท่าน

ฮารุ-ยังมีอีกตั้งหลายคนเลยนะบ้านหลังนี้ แถมที่นี่ชอบมีพวกตัวปัญหามาเที่ยวด้วยนะ

มิจัง-ตัวปัญหาหรอคะ

ผม-ฮารุซังไม่ได้หมายถึงมิจังหรอกนะครับ ที่ฮารุซังหมายถึงคือไอ้พวกบ้า น่ะครับ ไว้วันไหนพี่ชายจะแนะนำให้มิจังรู้จัก

อีกทีนะครับ

 

มิจัง-ทราบแล้วค่ะ

ฮารุ-งั้นนอกเวลาเรียน มิจังก็มาหัดเรียนรู้งาน กับพี่อายะกับพี่ชิสึ นะจ๊ะ

มิจัง-ค่ะ พี่อายะ พี่ชิสึ หนูขอฝากตัวด้วยนะคะ หนูจะพยายามทำงานให้เต็มที่ค่ะ

ผม-นี่มิจัง ถึงจะให้ทำงานก็เถอะนะ งั้นพี่ชายขอสั่งงานแรกให้มิจังก่อนเลยนะครับ

มิจัง-ได้ค่ะจะให้หนูไปซื้อของ หรือทำครัว หรือทำความสะอาดหนูจะทำทุกอย่างเลยค่ะ

ผม-หรอออ งั้นงานแรกของมิจัง ก็คือ ต้องตั้งใจเรียน แล้วก็เก็บความทรงจำกับเพื่อนๆใหม่ให้ได้ละ

มิจัง-เอ๊ะ นี่มันงานหรอคะ

ผม-อืมมม อาจจะดูไม่เหมือนแต่ ถ้าพี่ชายเป็นคนบอกก็ถือว่าเป็นงานนะครับ

พ่อบ้าน-ในเมื่อคุณท่านสั่งงานให้มิจังแล้ว เพราะงั้นมิจังอย่าทำให้คุณท่านต้องผิดหวังนะครับ

มิจัง-ค่ะ หนูจะพยายามนะคะ คุณท่าน ทานากะซัง

ผม-ดีแล้วล่ะครับ แล้วชุดนักเรียนหนังสือเรียนเตรียมพร้อมแล้วใช่มั้ยครับทานากะซัง

พ่อบ้าน-กระผมเตรียมไว้ให้เรียนร้อยตามที่คุณท่านสั่งแล้วครับ

ผม-งั้นหรอ โรงเรียนมันไกลจากบ้านเราพอสมควรเลยนะ แถมบ้านเราก็ดันไกลสถานีรถไฟสะด้วย

ฮารุ-งั้นตอนเช้าก็ไปพร้อมพลอยจังมั้ยคะ

มิจัง-เอ๋ ไม่เป็นไรค่ะ หนูเดินไปเองได้ค่ะ คุณผูู้หญิง

ผม-งั้นเอาเป็นว่า คืนนี้ มิจังไปนอนพักเถอะนะครับ แล้วตื่นมาก็เตรียมตัวไปเรียนนะครับ ทานข้าวเช้าให้เรียบร้อยด้วยนะ

ครับ เสร็จแล้วออกมารอที่หน้าบ้านนะครับ เด๋วจะให้นิชิโนะซังไปส่งพร้อมกับพลอยจัง เอาแบบนี้ไปก่อนนะครับ

 

พ่อบ้าน-ทราบแล้วครับคุณท่าน

ผม-ป่ะงั้นพวกเราก็แยกย้ายไปนอนกันเถอะนะครับ

 

 

พอพวกผมขึ้นมาข้างบน

 

 

ฮารุ-ดูที่รักจะเอาใส่ใจมิจัง จังเลยนะคะ

ผม-งั้นหรอครับ

ฮารุ-ใช่ค่ะ ตอนพลอยจังมา ที่รักดุกว่านี้เยอะเลยนะคะ

ผม-เฮ้ออออ นั่นก็เพราะว่า มิจัง น่าสงสารแหละครับ ผมเองก็รู้สึกว่า การที่มิจังต้องเอาเวลาหลังเลิกเรียนมาทำงานมัน

ไม่ควรครับ วัยมิจังคือวัยที่ ควรจะต้องมีความสุขกับเพื่อนๆร้องไหไปพร้อมกันทุกคน เลิกเรียนมาก็ควรไปเที่ยวบ้านเพื่อน

ปิดเทอมก็ควรไปเที่ยวกับเพื่อนๆบ้างก็แค่นั้นแหละครับ

 

ฮารุ-นั่นสิคะ อยู่กับพ่อมาตลอดด้วยกัน2คน จู่ๆ พ่อก็เสียไปอีกแล้วก็ต้องอยู่ในบ้านหลังเดิม ที่มีแต่ภาพของพ่อเต็มไป

หมด ถ้าเป็นฮารุคงจะนอนไม่หลับแน่ๆเลยนะคะ

 

ผม-มิจังก็นอนไม่หลับเหมือนกันครับผมเชื่อแบบนั้น จนผมได้เจอมิจังจริงๆ ผมเลยตอบตกลงทันที เพราะอย่างน้อยผมก็

แค่อยากจะเติมเต็มครอบครัวของมิจัง ถึงจะไม่สามารถพาคนที่มิจังอยากเจอมากที่สุดมาได้ก็เถอะ แต่ผมก็จะเป็นพี่ชาย

ที่ดีของมิจังให้ได้ครับ

 

ฮารุ-ปกติแล้ว ฮารุมักจะได้เห็นที่รักที่เป็นคนอ่อนโยนเสมอเลยนะคะ

ผม-อาจจะเพราะผมตั้งใจให้ฮารุซังเห็นแต่เรื่องดีๆละมั้งครับ

ฮารุ-นี่บิกคุคุงเล่าเรื่องตอนบิกคุคุงตอนเด็กๆให้ฟังหน่อยสิคะ

ผม-เอ๊ะ ตอนเด็กๆหรอครับ
ฮารุ-ใช่ค่ะ

ผม-อืมมม ผมก็เกิดมาในครอบครัวที่ ฐานะปานกลาง ผมเกิดที่ ตจว แล้วก็อยู่ ตจว จนเข้าโรงเรียนได้ที่บ้านผมก็ย้าย

จาก ตจว มาอยู่ที่แถวบ้านที่พาฮารุไปนั่นแหละครับ

ฮารุ-แล้วยังไงต่อละคะ

ผม-อืมมม ผมก็ไปเรียนปกตินั่นแหละครับ ใช้ชีวิตไปวันๆ

ฮารุ-แล้วยังไงต่อคะ

ผม-ผมว่าคืนนี้มันดึกแล้วนะครับเรานอนกันก่อนนะครับ ไว้เราค่อยคุยกันต่อนะครับ

ฮารุ-เอ๋!! กะ ก็ได้ค่ะ

 

 

หลังจากนั้นผมก็ไปอ่าบน้ำ แล้วมานอน

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา