โรคผ่านรัก
เขียนโดย สนสนธ์
วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 13.42 น.
แก้ไขเมื่อ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2564 17.39 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) ตัวตน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ครั้งหนึ่งฉันเคยได้ใช้ชีวิตอย่างมนุษย์ปกติ ตอนนั้นมันเป็นอะไรที่ดีมากเลยแหละ ฉันมีความสุขกับการใช้ชีวิต สนุกแต่แอบเครียดไปกับการเรียน ฉันนั้นไม่ค่อยจะมีเพื่อนสักเท่าไหร่เพราะฉันนั้นเป็นพวกที่ชอบเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านในห้องของตนเอง แบบว่าถ้าจะให้ฉันอยู่แต่ในบ้านทั้งวันทั้งคืน อยู่เป็นสัปดาห์ หรือเป็นเดือนฉันก็อยู่ได้นะ ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย ไม่ใช่ว่าฉันป่วยนะต้องบอกไว้ก่อนเลย มันอาจเป็นเพราะตัวเรานั้นเองไม่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นหรือว่า ไม่ชอบสังคมข้างนอกที่มันวุ่นวาย ฉันเป็นคนที่เข้าหาผู้คนอื่นๆได้ยาก แม้แต่ญาติๆของฉันเอง ถ้าไม่สนิทกันคือจะเงียบปากไม่พูดคุยด้วยกันเลย
เอาเป็นว่าฉันมักมีมนุษย์สัมพันธ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก สรุปง่ายๆก็คือฉันเป็นพวก Introvert หรือคนที่มีโลกส่วนตัวสูงนั่นเอง แต่เอาจริงๆแล้วฉันก็ไม่ได้ถึงกับขั้นไม่มีเพื่อนเลยหรอกนะ มันก็มีเพื่อนให้คบอยู่บ้าง แต่มันเป็นจำนวนคนที่สามารถนับออกมาเป็นตัวเลขได้อะ ฮ่าฮ่า ฉันมีเพื่อนที่สนิทกันจริงๆอยู่หนึ่งคน เธอชื่อว่า ษา เธอเป็นคนที่มีจิตใจดีมากๆเลยแหละ เราสนิทกันตั้งแต่เด็กๆ แล้วเรามักจะทำอะไรๆร่วมกันอยู่เสมอ จนกระทั่งวันที่เราต่างแยกย้ายไปเติบโตตามทางของตนเอง แต่เราก็ไม่เคยลืมกัน มักจะนึกถึงกันเสมอ
ลืมบอกไป ครั้นตอนที่เราจะจบมัธยมปลายกัน เราต่างฝ่ายต่างถามกันถึงความใฝ่ฝันในอนาคตของกันและกัน ฉันเลยลองถามษาดูว่า“อนาคตอยากจะงานอะไร” ษาก็ตอบกลับมาว่า “ฉันอยากทำงานในด้านการพยาบาล หรือไม่ก็งานที่มันเกี่ยวข้องกับทางด้านสุขภาพ” ซึ่งความคิดของเธอนั้นมันก็คล้ายๆกับฉัน แต่ขอยกเว้นพยาบาลนะ หิหิ เอาเข้าจริงฉันอยากเรียนหมอนะ เพื่อที่จะช่วยรักษาคนที่เจ็บป่วย แต่ความฝันนั้นมันก็ดับสลายไป เพราะสมองฉันทึบเกินไปเกินกว่าที่ฉันจะสามารถเข้าใจสิ่งต่างๆที่มันต้องสามารถเรียนรู้และเข้าใจได้เลยทันที เพราะงั้นมันจึงทำให้ฉันไม่สามารถไปถึงขั้นนั้นได้ น่าสงสารเนอะ แต่ก็ช่างมันเถอะหาอาชีพที่มันใกล้เคียงกันก็ได้ มันคงต้องมีสักอาชีพแหละที่ฉันเข้าถึงมันได้
ษานั้นได้เสนอแนะให้ฉันไปเรียนพยาบาลด้วยกัน แต่ฉันผู้ซึ่งไม่อยากทำอะไรอย่างนั้นอยู่แล้วก็เลยยังไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ ฟังดูเหมือนจะขัดแย้งกับความฝันของฉันมั้ยล่ะ นั่นแหละที่ทำให้ฉันไม่สามารถไปถึงจุดนั้นได้ ฉันก็เลยลองหาอาชีพอื่นดูที่มีการทำงานคล้ายๆกับหมอ และแล้วฉันก็ไปสะดุดกับอาชีพๆหนึ่งซึ่งฉันไม่เคยนึกถึงมันมาก่อนเลย จนกระทั่งเริ่มมีการเปิดรับนักศึกษาเข้ามหาวิทยาลัย ฉันจึงเลือกอาชีพนั้นเพื่อตัดสินใจในการเข้าเรียนมหาวิทยาลัย อาชีพนี้เป็นอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการรักษาและฟื้นฟูสภาพร่างกายของมนุษย์
อาชีพนี้มักจะไม่ค่อยเป็นทีรู้จักในประเทศฉันเท่าไหร่ เพราะคนในประเทศยังไม่รู้ความหมายของอาชีพนี้อย่างแท้จริง แต่จริงๆแล้วในต่างประเทศอาชีพนี้มีความสำคัญพอๆกับหมอเลย แต่ให้ทำอย่างไรเล่าเมื่อประเทศของฉันนั้นยังล้าหลังมาก แม้มันจะผ่านไป 10ปี 20ปี 30ปี หรือจะเป็นศตวรรษแล้วก็ตาม เอาเป็นว่าฉันจะจบการบรรยายลักษณะของอาชีพเพียงเท่านี้ละกัน
ตัดมาตอนที่ฉันสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้และสามารถเข้าเรียนในคณะ สาขานั้นได้ ฉันดีใจมากเลยตอนรู้ผลสอบ คงเข้าใจความรู้สึกฉันนะ ฉันไม่สามารถบรรยายความรู้สึกนั้นเป็นภาพออกมาได้เลย ส่วนเพื่อนสนิทของฉันนั้นก็สามารถสอบเข้าวิทยาลัยพยาบาลที่เธอตั้งเป้าไว้ได้ จากนั้น 3ปีต่อมา เกิดสถานการณ์ที่มันไม่ควรเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ ตอนนั้นเกิดโรคระบาดอย่างรุนแรงทั่วโลก ทำให้คนทั่วโลกล้มป่วย ล้มตายกันนับแสนนับล้านคน ฉันผู้ซึ่งอยู่ในสถานการณ์นั้นด้วย ซึ่งมันก็เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของฉันเหมือนกัน ทั้งการเรียนที่หนักขึ้น การใช้ชีวิตประจำวันไม่ปกติเหมือนเมื่อก่อน ค่าครองชีพที่ไม่สมมาตรกับกับรายได้ที่ได้รับและยังเป็นช่วงที่ต้องออกฝึกงานอีก ในสถานการณ์แย่ๆแบบนั้นใครเล่าอยากที่จะมีไฟในการทำงาน ฉันบ่นกับตัวเอง พูดกับตัวเอง ทั้งทางแง่ลบและก็แง่ดีในหลายๆเรื่องมากมายแต่ฉันจะทำยังไงได้เมื่อฉันยังมีชีวิตอยู่และเดินหน้าใช้ชีวิตต่อ
ฉะนั้นฉันก็ต้องดิ้นรนเพื่อมีชีวิตรอดอยู่ต่อไป ถ้าฉันไม่ทำอะไรเลย ฉันอาจจะตายตามระยะเวลาไปเลยก็ ได้และฉันคงจะเสียดายเวลาที่ปล่อยละเลยให้มันผ่านอยู่แบบนั้นไปวันๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ