คุณพฤกษ์รวยมาก (สนพ.Onederwhy)
เขียนโดย ฟ้ามุ่ย
วันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 22.49 น.
แก้ไขเมื่อ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2564 23.11 น. โดย เจ้าของนิยาย
39) 00 39
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ00 39
เวลาห้าทุ่มเกือบจะเที่ยงคืนอยู่รอมร่อ เป็นเวลาที่มาลีวัลย์กำลังนอนหลับสนิท ส่วนพงพีเพิ่งจะเคลิ้มหลับเพราะเล่นเกมหรือไม่ก็ดูซีรีส์อยู่จนดึกดื่นเกือบทุกวัน อินทรชิตเปิดประตูออกมาอย่างเงียบเชียบ ชายหนุ่มมองไปยังประตูที่ปิดแนบสนิทของน้องสาวและน้องชายเพื่อความแน่ใจว่าจะไม่มีใครเปิดออกมาเจอเขาในยามนี้
ร่างสูงกำยำก้าวเท้าไปตามทางเดินที่มืดสนิท พยายามอย่างยิ่งยวดเพื่อไม่ให้เกิดเสียง ค่อย ๆ เหยียบขึ้นบันไดชั้นสามไปทีละขั้น ..ทีละขั้นอย่างรวดเร็วและระมัดระวัง กระทั่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าห้องหนึ่งที่คุ้นชิน ชายหนุ่มหัวใจเต้นแรง เขามองซ้ายมองขวาอีกครั้งราวกับโจรแสดงพิรุธก่อนจะหมุนลูกบิดเข้าไปในห้อง
“มาช้าจริง” เสียงนุ่มเอ่ยพร้อมกับไฟที่เปิดพรึ่บขึ้นมาจากปลายนิ้วของร่างโปร่งที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวเล็ก ๆ คุณพฤกษ์อยู่ในชุดคลุมนอนสีดำสนิท ไม่ได้ผูกเชือกปิดเอาไว้จึงเห็นแผ่นอกและหน้าท้องราบเรียบชัดเจน
..ขาวสะอาดผุดผ่องไปทุกสัดส่วน ขาวจนตาพร่ามัว
“ฉันเกือบจะหลับอยู่แล้ว” คุณพฤกษ์ว่าพลางเอนหลังพิงกับพนักโซฟา ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้ ตอบว่า
“ผมกลัวคนอื่นยังไม่หลับ”
“ใครยังไม่หลับ? ชั้นสามฉันนอนอยู่แค่คนเดียว”
“ผมหมายถึงมะลิกับพีร์”
“เดี๋ยวนี้มาหาฉันแต่ละทีแกต้องทำตัวมีพิรุธด้วยหรือ ทีเมื่อก่อนยังเข้านอกออกในได้สบายบรื๋อแท้ ๆ ”
อินทรชิตเกาแก้ม นั่นสิ ทำไมเขาต้องทำตัวมีพิรุธราวกับคนคบชู้ด้วย ทั้งที่ตลอดหลายปีมานี้เขาเข้ามาหาคุณพฤกษ์ถึงในห้องนอนนับครั้งไม่ถ้วนแล้วแท้ ๆ
อ้อ.. นั่นมันก่อนที่คุณเขาจะรู้ว่าอินทรชิตคิดไม่ซื่อ
“แกมีธุระอะไรก็รีบพูดมาเถอะ” คุณพฤกษ์หาว “ง่วงจะแย่ พรุ่งนี้ต้องเล่นดนตรีในงานอีกวันไม่ใช่หรือไง”
ชายหนุ่มโน้มตัวลงก่อนจะเท้ามือทั้งสองข้างไว้กับแขนโซฟาทั้งสอง กลายเป็นกรงขังขนาดใหญ่ที่จะไม่ให้คุณพฤกษ์หลบหนีไปไหนได้อีก คุณเขาหรี่ตาลงต่ำก่อนจะช้อนสายตางามงอนขึ้นมามอง
“วันนี้ผมทำดีหรือเปล่าครับ? ”
อินทรชิตเกริ่น เหมือนเห็นท่าทีนิ่งเฉยก็รีบย้ำให้ชัดเจนขึ้นไปอีก
“ผมชนะมัน” เขาว่า “ผมมาทวงรางวัลของผม”
ใช่ วันนี้ที่สนามแทบลุกเป็นไฟ อินทรชิตสามารถเอาชนะอัคราได้ราวกับปอกกล้วยเข้าปาก ทีมนักกีฬาเบอร์ต้นของโรงเรียนแพ้ทีมนักเรียนธรรมดาหลุดลุ่ยอย่างน่าตกใจด้วยสกอร์ที่ห่างกันสี่สิบต่อหนึ่งร้อยยี่สิบ อินทรชิตเป็นคนทำคะแนนเกือบจะทั้งหมดด้วยการชู้ตสามแต้มติด ๆ กัน โค้ชประจำทีมถึงกับพุ่งเข้ามาทามทาบเขาทันทีที่การแข่งขันจบลงเพราะประทับใจในการเล่นที่บ้าดีเดือดและดูมีความเป็นมืออาชีพมากกว่าเด็กนักเรียนเกรดสิบสองทั่วไป ทว่าเขาก็ปฏิเสธไปอย่างไร้เยื่อใย เขาไม่ได้ต้องการเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลดังเช่นกาลก่อนที่เป็นมา รางวัลจากคุณพฤกษ์ต่างหากเป็นสิ่งที่เขาปรารถนามากที่สุด
“อ้อ” คุณพฤกษ์ร้อง “จะเอาอะไรดีล่ะ”
“คุณพฤกษ์ไม่ได้คิดไว้หรือครับ”
ร่างโปร่งยักไหล่ “อยากได้อะไรก็บอก”
“ทุกอย่าง? ”
“ไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็ได้ทุกอย่าง”
อินทรชิตยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนคุณเขาถึงกับผงะ
“จูบ? ”
“ขอมากกว่าจูบ” เขาอ้อนวอน
เสียงทุ้มต่อรองทันที “แต่ไม่ใช่เซ็กส์”
“คุณพฤกษ์พูดเองนะครับ”
ชายหนุ่มได้ยินดังนั้นก็ยิ้มแพรวพราว อินทรชิตยืดตัวขึ้นยืนตรงก่อนจะจับมือเรียวมาสัมผัสตรงเป้ากางเกง
คุณพฤกษ์เองก็ไม่ได้เดียงสา พอฝ่ามือสัมผัสเข้ากับสิ่งคุ้นเคยก็ตะครุบจับเอาไว้ทันทีจนเห็นเป็นลำเอ็นโผล่ขึ้นมาผ่านผิวกางเกงวอร์มที่บางเบา ใบหน้านุ่มนวลย่นคิ้ว ดวงตาคู่สวยภายใต้กรอบแว่นมองเขาอย่างมีคำถาม
“ปกติแกไม่ใส่กางเกงในนอนหรือ”
อินทรชิตส่ายเอวเล็กน้อยตามแรงมือที่บีบคลึงเป็นคำตอบ
“ก็เหมือนกับที่คุณพฤกษ์ถอดเสื้อนอนทุกวันไงครับ”
“ฉันร้อน”
“ผมก็ร้อน”
“ไอ้จ้อนของแกก็ร้อนเป็นด้วยหรือ”
“ร้อนสิครับ” เขาว่าพลางวางฝ่ามือซ้อนลงไป ให้มือสวยนุ่มนิ่มแนบชิดกับแกนกายมากขึ้น “คุณพฤกษ์ไม่เห็นหรือ มันร้อนจนแข็งคามือขนาดนี้แล้ว”
คุณพฤกษ์กระตุกยิ้ม ก่อนที่ประโยคต่อมาจะทำให้ชายหนุ่มหัวใจเต้นวูบวาบ
“บอกฉันสิ แกอยากให้ฉันทำยังไงกับมันดี”
“ทำอะไรก็ได้ที่คุณพฤกษ์อยากทำ”
คุณพฤกษ์วางมือลงสะโพกทั้งสองก่อนจะออกแรงดึงให้เขาขยับเข้ามาใกล้ให้มากว่านี้ ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอดังอึก ยามเห็นใบหน้านุ่มนวลเคลื่อนเข้าไปแนบชิดและหายใจรินรดเป้ากางเกง ฝ่ามือเรียวข้างหนึ่งกำรอบแกนกายผ่านผิวผ้าจนเห็นเป็นรูปร่างของลำเนื้อขนาดใหญ่ เขาเห็นคุณพฤกษ์กัดริมฝีปากตนเองก่อนแนบริมฝีปากนั้นจูบลงบนสิ่งที่กำอยู่ตรงหน้า
“ทำไมแกแข็งเร็วจัง”
“คงเพราะผมอยู่ใกล้คุณพฤกษ์ครับ”
คุณพฤกษ์หัวเราะในคอ คงจะรู้สึกเอ็นดูในความซื่อตรงของเขาอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว อีกฝ่ายยื่นหน้าเข้ามาใกล้อีกครั้ง ทว่าคราวนี้กลับแลบลิ้นสีแดงเรื่อออกมาและลากไล้จากโคนแข็งขึ้นมาจนสุด ทำวนอยู่อย่างนั้น ทั้งเลียทั้งขบหยอกราวกับจงใจกลั่นแกล้งให้หมดความอดทน อินทรชิตกัดปากตนจนช้ำ นึกเสียดายอยู่ในใจที่มันเป็นแค่การสัมผัสผ่านเนื้อผ้าด้านนอกเท่านั้น
‘อ่า.. ถ้าคุณพฤกษ์อมมัน..’ อินทรชิตทำหน้าเพ้อ
“แกคงกำลังคิดอยู่ใช่ไหมว่าฉันควรจะเอามันออกมาเลียมากกว่าทำแบบนี้”
“ผม.. อ่า เปล่า ..อ๊ะ”
โดนคุณพฤกษ์ใช้ฟันคมขบเข้าเต็มเปา แม้จะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยแต่มันก็กลับสร้างความตื่นเต้นจนทำให้แกนกายแข็งชันจนปวดหนักขึ้นไปอีก
‘จะไม่ไหวอยู่แล้ว แม่งเอ๊ย อยากจะจับกระแทกเข้าไปในปากแรง ๆ เอาให้ลึกสุดคอ ให้ยัดโดนลิ้นไก่ เอาให้สำลักไปเลย’
ความคิดหยาบช้าเริ่มวิ่งแล่นอยู่เต็มสมอง ทว่ามันก็คงอยู่แค่ในสมองอย่างนี้ไปตลอดเพราะอินทรชิตเทิดทูนและบูชาคุณพฤกษ์ยิ่งกว่าสิ่งใด ความคิดสกปรกแบบนี้จะไม่มีวันแสดงออกมาให้ได้รับรู้เด็ดขาด
“คุณพฤกษ์ครับ” ชายหนุ่มอ้อนวอน “อย่าทรมานผมไปมากกว่านี้อีกเลย”
“แค่นี้ก็ทนไม่ไหวแล้วหรือ”
“ทนไม่ไหวแล้วครับ อูย..”
คุณพฤกษ์ยิ้ม “ใจเสาะจริง”
แม้ปากจะว่ากล่าวดูแคลนอย่างไร ทว่าคุณพฤกษ์ก็ยังเป็นคุณพฤกษ์ คนที่ปากร้ายทว่าลึก ๆ ก็เมตตาปรานีเขาอยู่ตลอด และครั้งนี้ก็เช่นกัน..
“!!! ”
ทันทีที่นิ้วชี้เรียวยาวเกี่ยวเอาขอบยางยืดของกางเกงวอร์มลง แกนกายที่แข็งชันและใหญ่โตก็ดีดผงาดออกมาจนใบหน้าสวยถึงกับผงะถอยไปด้านหลังเล็กน้อย คุณพฤกษ์ยังคงตกตะลึงกับขนาดที่ใหญ่ของเขาอีกครั้ง สีหน้าดูหวาดหวั่นราวกับเจอสิ่งของไม่พึงประสงค์อย่างไรอย่างนั้น อินทรชิตนึกน้อยใจขึ้นมาจึงแกล้งขยับสะโพกไปด้านหน้า จงใจให้ปลายหัวมนทู่กระแทกไปโดนแก้มเนียนนุ่มจนยุบเข้าไปเป็นหลุม
“ใจร้อนเหลือเกินนะแก” คุณเขากดเสียงต่ำก่อนยกฝ่ามือขึ้นมาสัมผัส ปลายนิ้วทั้งสิบและดวงตาเฉี่ยวคมลูบไล้กวาดมองไปทั่วราวกับกำลังสำรวจสิ่งแปลกปลอมที่ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อนในชีวิต
“ทำอย่างกับไม่เคยเห็นเลยนะครับ” อดไม่ได้ที่จะประชดประชันคุณเขาสักครั้ง
“ใหญ่ขนาดนี้ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน” คุณพฤกษ์ตอบเป็นจริงเป็นจังแถมยังจับจ้องชนิดที่ว่ามองตาแทบไม่กระพริบเชียวล่ะ
“ดูซี่” คุณเขาใช้มือรูดรั้งหนึ่งที พูดว่า “ไอ้จ้อนของแกมีเส้นเลือดขึ้นเต็มไปหมด น่าเกลียดน่ากลัวสมชื่อยักษ์จริง ๆ ”
“อยากโดนของยักษ์สักทีไหมล่ะครับ” เขารับรองว่าคุณพฤกษ์จะไม่มีวันลืมเด็ดขาด อาจจะเจ็บจนจุกในคราแรก แต่เชื่อเถอะ ..หลังจากนั้นจะต้องครวญครางและเรียกหาเอาจากเขาราวกับสารเสพติดแน่นอน!
“อย่าไปไกลขนาดนั้นสิ ..เอาตรงนี้ก่อน”
เสียงนุ่มเอ่ยราบเรียบก่อนจะงัดลำเอ็นยาวให้ชี้ขึ้นบน ริมฝีปากนุ่มอ้าออกส่งลิ้นร้อนละเลงไล้เลียพวงอัณฑะที่ห้อยอยู่ด้านล่างและใช้กลีบปากครอบทับสลับกับดูดดึงเบา ๆ ไม่หนักไม่แรงไป จนทำให้เขารู้สึกเจ็บ
“ซี๊ด..” อินทรชิตสูดปาก “ดีจังเลยครับ”
“เดี๋ยวจะทำให้รู้สึกดียิ่งกว่านี้”
สิ้นเสียงนั้น ลิ้นเรียวก็ลากขึ้นมาจากโคนยาวไปจนถึงปลายหัวมน อินทรชิตสะดุ้งเฮือกซ่านเสียวไปทั่วทั้งร่าง สองมือก็กำขากางเกงไว้แน่นเพื่อระบายความกำหนัด คุณพฤกษ์ช้อนสายตาขึ้นมองเขาอย่างออดอ้อน หัวใจพลันอ่อนยวบยาบราวกับคนหมดเรี่ยวหมดแรงจะเป็นลมอยู่รอมร่อ คุณพฤกษ์ที่เป็นแบบนี้ยากเหลือเกินที่อินทรชิตจะต้านทานไหว
“แกขยุ้มผมฉันได้นะ” คุณเขาว่า “แต่ห้ามดึง”
“คระ ครับ” เขารับคำก่อนจะสอดนิ้วมือเข้าไปตามไรเส้นผมนุ่มสลวยสีดกดำและคลึงเบา ๆ อย่างรักใคร่ คุณเขาแนบริมฝีปากจูบลงบนปลายส่วนหัวสีแดงด้วยความเอ็นดูก่อนจะส่งลิ้นร้อนผ่าวออกมาลามเลียจนเกิดความรู้สึกเสียววูบวาบขึ้นมาถึงท้องน้อย
“อืมม คุณพฤกษ์.. อ่ะ” อินทรชิตครางกระเส่ายามเมื่อปากสวยอ้าออกกว้างก่อนจะค่อย ๆ กลืนกินตัวตนของเขาเข้าไปข้างในโพรงอุ่นร้อนทีละนิด อา.. ชายหนุ่มแทบจะคลุ้มคลั่ง เขาอยากจะอาละวาด อยากขาดสติและให้สัญชาตญาณต่ำช้าเข้าครอบงำเสียเดี๋ยวนั้น
‘อดทนไว้ จะรุนแรงกับคุณพฤกษ์ไม่ได้เด็ดขาด’ เขาสบถออกมาทั้งที่ใจจริงลึก ๆ อยากจะจับศีรษะนั้นเอาไว้ให้มั่นแล้วกระแทกกระทั้นแกนกายเข้าไปและชักออกมาจนสุด อยากจะกระทำเช่นนั้นซ้ำ ๆ จนกว่าจะเสร็จสม เขาอยากจะเสร็จข้างในโพรงปากอุ่น ๆ จนคุณพฤกษ์สำลัก หรือบางทีอาจจะชักออกมาเสร็จใส่ใบหน้าซ้ำอีกเป็นหนที่สอง อยากจะบังคับให้กลืนลงไป อยากให้ใช้ลิ้นแดง ๆ นั่นกวาดเลียคราบคาวที่เลอะอยู่ตามโคนกินให้หมด
เป็นความคิดที่แย่.. เขาห้ามตนเองให้จินตนาการไม่ได้ มันเป็นปรารถนาดำมืดและต่ำช้าที่ซ่อนเร้นเอาไว้มาตลอดทั้งชีวิต
“เขี้ยว” คุณพฤกษ์เรียก อินทรชิตหอบหายใจรุนแรงขณะหลุบตามองลงไป เขาคิดอะไรไม่ออก หัวสมองขาวโพลนมึนชา อัดแน่นไปด้วยความสุขจนล้นปรี่
“แกอยากให้ฉันอมมันจนสุดหรือเปล่า? ”
“อยากให้ฉันรัวลิ้นใส่ตอนมันอยู่ข้างในปากหรือเปล่า? ”
“อยากแตกใส่หน้าฉันไหม? ”
“หรือว่าอยากแตกใส่ปากฉันดี? ”
“แต่ฉันไม่ชอบกลืนของพรรค์นี้เข้าไปเท่าไหร่ ทั้งคาว ทั้งแปลก ๆ ..อืม แกแตกใส่หน้าฉันแล้วกันนะเขี้ยว”
เขี้ยวที่ว่าแทบไม่ได้ยินสิ่งที่คุณพฤกษ์พูดเลยสักนิด ชายหนุ่มเริ่มหายใจรุนแรง ความกำหนัดที่สั่งสมมาค่อย ๆ เพิ่มพูนจนจวนเจียนที่จะปะทุอยู่ทุกเมื่อ เขาขยุ้มเส้นผมเบา ๆ ก่อนจะค่อย ๆ เปลี่ยนมากำไว้แน่นขึ้น และ..
“อ่อก! ”
“ซี๊ดด.. ขอโทษครับ ผมขอโทษ อ่า.. คุณพฤกษ์ ผมขอโทษ..”
ปากก็พร่ำขอโทษคุณเขาอยู่อย่างนั้นไม่หยุดหย่อน ทว่าการกระทำกลับทวนทางต่างกันลิบลับ!
“อุ่ก! .. อือ อื๊อ! อ่อก.. แค่ก” ใบหน้าสวยเหยเกไม่เป็นรูป ซ้ำศีรษะก็ถูกมือหนาจับตรึงไว้แน่น ไหนจะสะโพกสอบที่กระแทกกระทั้นแกนกายใส่เข้ามาไม่หยุดหย่อนจนแทบจะหายใจไม่ทัน
‘มันเข้ามาลึกมาก ลึกเกินไป ทั้งยาวทั้งใหญ่ผิดมนุษย์มนา คับปากไปหมด แถมยังรู้สึกเลยว่ามันกำลังกระแทกโดนลิ้นไก่และลงไปในลำคอ’
“คุณพฤกษ์.. คุณพฤกษ์”
“อื๊อ..! ” คุณพฤกษ์ยกมือขึ้นทุบหน้าขาแกร่งเพราะอีกฝ่ายกำลังจะเสร็จสมในไม่ช้า ทว่าทุบเท่าไหร่อินทรชิตไม่ยอมปล่อยให้โพรงปากของเราเป็นอิสระ ซ้ำยังใจคอโหดเหี้ยม กระแทกใส่เข้ามาราวกับคนคลุ้มคลั่ง
“อ๊า” ไม่ทันการเสียแล้ว ทุกอย่างมันรวดเร็วไปหมดเมื่อจู่ ๆ ของเหลวร้อนจัดก็อัดฉีดออกมาจากรูเล็กจนอัดแน่นไปทั่วโพรงปาก อินทรชิตกระตุกอยู่สองสามครั้งติด ๆ กัน ชายหนุ่มชักแกนกายของตนออกมาก่อนจะใช้ฝ่ามือปิดปากคุณเขาเอาไว้ทันที
“กลืนมันลงไป” เสียงเข้มว่า “ได้โปรดทูนหัว”
คุณพฤกษ์มองมาที่เขาด้วยสายตาเรียบนิ่ง เพียงไม่นานนักก็ทำท่าราวกับกำลังกลืนอะไรบางอย่างลงคอ อินทรชิตหัวใจเต้นระรัว มีความสุขปะปนไปกับความรู้สึกประหลาดที่ค่อนไปทางวิตถาร เขาค่อย ๆ ปล่อยฝ่ามือออกจากริมฝีปากนุ่มอย่างพึงพอใจ
..ทว่าเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น คุณพฤกษ์ที่นั่งอยู่กลับลุกขึ้นยืน มือเรียวพุ่งออกมากำคอเสื้อเขาเอาไว้แน่นก่อนจะกระชากเข้ามาใกล้ ริมฝีปากทาบลงมาแนบชิดและกัดกินอย่างตะกละตะกลามจนอินทรชิตต้องเผยอปากออกเพื่อที่จะเปิดรับลิ้นร้อนเข้ามาภายใน
“!!! ” แต่แล้วสิ่งที่รับกลับเข้ามากลับไม่ได้มีเพียงแค่เรียวลิ้นจากคุณพฤกษ์ แต่ยังมีของเหลวอุ่นร้อนรสชาติคาวฝาดปะแล่ม ๆ จำนวนมากหลั่งไหลเข้ามา
“แค่ก ๆ! คุณพฤกษ์!? ”
อินทรชิตสำลักขณะที่อีกฝ่ายถอนริมฝีปากจากไป คุณพฤกษ์ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาดังเดิม ยกขาข้างหนึ่งขึ้นมาไขว่ห้างก่อนจะยิ้มเยาะให้เขา
“นี่ไง ..รางวัลของแก”
“เอานี่ไป” คุณพฤกษ์โยนทิชชู่เปียกหนึ่งห่อมาตรงหน้าเขา พูดว่า “เช็ดให้สะอาด อย่าให้เหลือคราบของแกสักหยดในห้องฉัน”
“ครับ” อินทรชิตยื่นมือไปหยิบมันขึ้นมาถือ คุณพฤกษ์ลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ ชายหนุ่มจึงถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ให้ผมช่วยไหมครับ” เพราะเขาคิดว่าคุณพฤกษ์กำลังมีอารมณ์ การที่เดินเข้าห้องน้ำไปในทันทีก็คงหนีไม่พ้นเรื่องทำนองนี้ โอกาสมาแล้ว เขาต้องรีบคว้าเอาไว้ให้อยู่หมัด!
คุณเขาชะโงกหน้าออกมา “แกจะช่วยฉันแปรงฟันหรือไง? ” พร้อมกับอมแปรงสีฟันไว้ในปาก
“คุณพฤกษ์ไม่ได้จะ..”
“จะ? ..จะอะไร” ดวงตาคู่สวยหรี่ลง “อ้อ ไม่ต้อง ฉันพอจะเดาออก”
อินทรชิตทำตัวไม่ถูก เขารู้สึกอับอายเกินกว่าจะมองหน้าอีกฝ่าย ชายหนุ่มนั่งลง แกะทิชชู่เปียกออกมาจากห่อและค่อย ๆ เช็ดทำความสะอาดคราบสีขาวขุ่นที่เปรอะเปื้อนตามโซฟาและที่อยู่บนพื้นจากการสำลัก
ให้ตายเถอะ.. เหตุการณ์เมื่อครู่อินทรชิตไม่เจอกับตนเองมาก่อนตลอดอายุสามสิบสามปี ไม่คิดว่าคุณพฤกษ์จะเอาคืนเขาได้เจ็บจนกระอักแบบนี้ อา.. อีกด้านหนึ่งของคุณเขาทำให้ชายหนุ่มรู้สึกตื่นเต้นอยู่ในใจไม่น้อยเลย
ขณะที่ร่างสูงเดินไปทิ้งทิชชู่ในถังขยะใบเล็ก เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เขาหันไปมองประตูห้องน้ำที่ปิดสนิทและได้ยินเสียงฝักบัว คุณพฤกษ์คงกำลังอาบน้ำอีกรอบก่อนเข้านอน ถ้าอย่างนั้นเขาควรจะเดินไปดูใช่ไหม? ไปดูว่าใครกันที่โทรศัพท์มาหาคุณเขาในเวลาเกือบตีหนึ่งแบบนี้ อินทรชิตมีลางสังหรณ์บางอย่าง ชายหนุ่มกระโจนเข้าไปคว้าโทรศัพท์ที่อยู่บนหมอนขึ้นมา ก่อนที่คิ้วเข้มจะขมวดเข้าหากันแน่นเมื่ออ่านรายชื่อบุคคลที่โทรเข้ามา
คุณฉัตร.. ไอ้ฉัตรตะวันนั่น!
เสียงเรียกเข้ายังคงดังต่อไป อินทรชิตเอาแต่ยืนจ้องอยู่อย่างนั้น กระทั่งอีกฝ่ายวางสายไปจึงค่อย ๆ ถอนหายใจออกมา —ทว่า ยังไม่ทันที่จะหายใจได้สุดปอด ฉัตรตะวันก็โทรศัพท์เข้ามาอีกครั้ง อินทรชิตหลับตาลงอย่างอดทน เขาไม่ควรไปยุ่งวุ่นวายกับเรื่องส่วนตัวให้มาก คุณพฤกษ์ไม่ชอบคนแบบนั้น และเขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้คุณเขาไว้ใจมากที่สุด ดังนั้นเขาจะไม่รับสายฉัตรตะวันและวางโทรศัพท์ลงบนหมอนดังเดิมอย่างที่มันควรอยู่ แต่แล้วอีกฝ่ายก็โทรศัพท์เข้ามาอีกหลายครั้ง ยืนนับคร่าว ๆ ก็คงสี่ บางที่อาจจะห้าหรือหก เอาล่ะ ตอนนี้มันเงียบไปแล้ว แต่ไม่ทันขาดคำก็โทรศัพท์เข้ามาใหม่ โถ่.. ช่างมีความพยายามเสียจริง
กระทั่งอินทรชิตเริ่มหงุดหงิด เขายืนนับได้ว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่สิบที่ฉัตรตะวันโทรเข้ามา ชายหนุ่มคว้าโทรศัพท์ขึ้นและเริ่มคิด หรือเขาควรจะรับสายและพูดคุยกับอีกฝ่ายดี? เหมือนกับเมื่อสามปีก่อนที่เขาเคยโทรศัพท์ไปหาคุณพฤกษ์แล้วมันก็เป็นคนที่รับโทรศัพท์แทน ดี.. ดี อินทรชิตจะเอาคืนอีกฝ่ายเสียเลยในวันนี้ ทบทั้งต้นทั้งดอก เอาให้แตกตายไปเลยที่รู้ว่าเขากำลังจะมาเป็นผู้ชายของคุณพฤกษ์แทนที่ตนเองแล้ว
“ทำไมยังอยู่อีก แล้วนั่นใครโทรมา? ” ไวกว่าความคิดก็คงเป็นคุณพฤกษ์ที่นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเดินออกมาจากห้องน้ำ อินทรชิตหันขวับไปมองท่อนบนที่เปลือยอกโชว์ความขาวผุดผ่องจนตาค้าง และยิ่งตาถลนเข้าไปอีกเมื่อมองสบเข้ากับยอดอกสีแดงเรื่อที่เด่นขึ้นมาตัดกับสีผิว
โอ้.. ให้ตายสิ ให้ ตาย สิ
“แกจะจ้องหัวนมฉันอีกนานไหม? ” เสียงทุ้มเอ่ยก่อนจะเขกลงบนขมับของเขาแรง ๆ เพื่อเรียกสติและเดินไปนั่งที่โต๊ะเครื่องแป้ง อินทรชิตกระพริบตาปริบ ๆ ละล่ำละลักตอบ
“คะ คุณฉัตรโทรมาครับ” ปากพูดแต่ตายังมิวายชำเลืองมองช่วงแนวกระดูกสันหลังไล่ต่ำลงมาถึงก้นงามงอนที่อยู่ภายใต้ผ้าเช็ดตัว
“รับหรือตัดสาย” คุณเขาว่าพลางเปิดกระปุกครีมออก ใช้นิ้วเรียวยาวแตะเนื้อครีมออกมาและทาลงบนผิวหน้าอย่างพิถีพิถัน
“ไม่ได้ทำทั้งสองอย่างครับ” เขาตอบ “คุณฉัตรเขาวางไปเอง”
“คุณพฤกษ์จะทำยังไงกับเขาหรือครับ” อินทรชิตลองถาม “ปล่อยไว้แบบนี้จะดีหรือ”
“ฉันต้องเคลียร์กับคุณฉัตรสักวันอยู่แล้ว เพียงแต่ว่ายังไม่ใช่วันนี้”
ชายหนุ่มดีใจจนเนื้อเต้นที่ได้ยินว่าเสี้ยนหนามในใจจะถูกคุณพฤกษ์กำจัดออกไปอีกคน
“คุณพฤกษ์จะเลิกคบกับเขาไหมครับ”
“เลิกคบในแง่คู่ขาก็คงใช่อยู่หรอก ..แต่ในความเป็นเพื่อนระหว่างเขากับฉันมันคงไม่ตัดขาดกันง่าย ๆ แบบนั้น” คุณเขาถอนหายใจและพูดใหม่ “แต่คุณอรดีเธอรู้แล้ว ฉันคิดว่าเธอคงไม่ปล่อยให้เราคบกันต่อ ถึงจะเป็นแค่เพื่อนกันก็เถอะ ฉันน่ะมันยังไงก็ได้ แต่คุณฉัตรนี่สิ ..คงจะเป๋ไปพักใหญ่เลยมั้ง”
“เขาดูรักคุณมาก”
“นั่นแหละคือปัญหารู้ไหม” คุณพฤกษ์ปิดกระปุกครีมลงก่อนจะหยิบขวดแก้วที่ดูจากลักษณะคงจะเป็นเซรั่มหรืออะไรที่คล้ายคลึงกันขึ้นมา บีบหัวหยดลงบนหน้าผาก แก้มและลำคอก่อนจะใช้ฝ่ามือเกลี่ยเนื้อเจลให้ทั่ว
“ตอนแรกเราตกลงกันแค่เรื่องเซ็กส์ เอ่อ.. ฉันใจอ่อนเอง มันเป็นความผิดฉันครึ่งหนึ่ง แต่นาน ๆ วันเข้าฉันก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกอื่นนอกจากเรื่องเซ็กส์ มันก็ทำให้ฉันรู้สึกอึดอัด ถ้าวันนั้นฉันใจแข็งพอ วันนี้ฉันอาจจะไม่เสียเพื่อนที่สนิทที่สุดไปก็ได้”
วูบหนึ่งดวงตาที่เรียบนิ่งก็พลันวูบไหวขึ้นมา อินทรชิตเห็นดังนั้นก็ใจร่วงทันที คุณพฤกษ์กำลังอาลัยถึงฉัตรตะวันคนก่อน ฉัตรตะวันที่เสียชีวิตไปด้วยอุบัติเหตุครั้งนั้น
“..ชีวิตนี้ฉันมีเขาเป็นเพื่อนที่สำคัญเพียงคนเดียว”
“ผมกลัว..” อินทรชิตโน้มตัวลงและซุกจมูกลงบนไหล่ลาด สูดดมกลิ่นหอมหวานจากสบู่และครีมประทินผิวเข้าปอดก่อนจะสลักลึกลงไปในส่วนลึกของจิตใจ
“กลัวอะไร” มือเรียวข้างยกขึ้นมาลูบแก้มเขาเบา ๆ
“ขนาดคุณฉัตรคุณยังตัดเขาออกจากชีวิตได้ง่าย ๆ แล้วผมล่ะ? ถ้าเกิดว่าวันหนึ่งคุณพฤกษ์เบื่อผมขึ้นมา ..ผมก็แย่น่ะสิ คุณจะไม่ทิ้งผมใช่ไหมครับ? ”
“นั่นเป็นเรื่องของอนาคต” เสียงนุ่มว่า “สักวันฉันอาจจะเบื่อแก หรือไม่ก็แกเองนั่นแหละที่จะเบื่อฉัน ใครจะรู้กัน มันอาจเป็นความรักฉาบฉวย รักประเดี๋ยวประด๋าว ปากแกก็บอกว่ารักฉันนักหนา แต่ต่อจากนี้ก็ไม่แน่ พอโตขึ้น เป็นผู้ใหญ่ขึ้น ได้เห็นโลกได้เจอคนมากขึ้นแกก็อาจจะเปลี่ยนใจไปรักใครสักคน อาจจะเพื่อนในมหาลัย รุ่นพี่หรือรุ่นน้อง ใครสักคนที่เดินสวนกัน อาจจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้ หรือไม่ก็ความแตก คนอื่นอาจจะรู้เรื่องของเรา แย่สุดก็อาจจะเป็นคุณพ่อที่จับได้ ถึงตอนนั้นแกจะทำยังไงล่ะ? ”
“ผมจะไม่มีวันปล่อยมือคุณพฤกษ์”
เสียงหัวเราะดังขึ้น “รักของวัยรุ่นก็บริสุทธิ์แบบนี้”
อินทรชิตอยากจะเถียงแทบขาดใจว่าเขาไม่ใช่วัยรุ่นแล้ว แต่อีกใจก็กลัวเหลือเกินว่าคุณพฤกษ์จะเกลียดหากได้รู้ความจริงว่าเขาเองก็ย้อนกลับมาเหมือนกัน
สัญญากับตนเอาไว้แล้วว่าจะเก็บเป็นความลับไปชั่วชีวิต ...คุณพฤกษ์จะไม่มีทางได้รู้เด็ดขาด
“แล้วถ้าคุณลุงจับได้ล่ะครับ” เขาถามบ้าง “คุณพฤกษ์จะทำยังไง? ”
“มันก็ขึ้นอยู่กับว่าตอนนั้นฉันรักแกมากพอหรือเปล่า หรือเราแค่รักสนุกกันเฉย ๆ ”
“แล้วถ้าเรารักกัน แค่สมมติ” อินทรชิตยกมือขึ้นกอดเอวบาง เอ่ยกระซิบชิดหลังใบหู “ถ้าเรารักกันมากพอ”
“ก็ออกมาอยู่ด้วยกัน” คุณเขาตอบเสียงเรียบ “แกจะอยู่ที่นี่ไม่ได้อีก คุณพ่อไม่มีทางปล่อยแกไปแน่ บางทีอาจจะทวงบุญคุณที่เลี้ยงดูก็ได้ หรือไม่ก็..”
คุณพฤกษ์พูดค้างไว้เพียงเท่านั้นก่อนจะขมวดคิ้วแน่น สีหน้าที่สบาย ๆ เมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นตึงเครียดอย่างไร้สาเหตุ อินทรชิตที่เฝ้ามองอยู่จึงเริ่มคิดตามในสิ่งที่คุณเขาเกริ่นไว้ ..ในความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดขึ้นหากคุณลุงจับได้ว่าเขาลักลอบมีความสัมพันธ์กับคุณพฤกษ์ อย่างแรกเลยก็คือความผิดหวัง ความเสียใจและการต่อต้านคือสิ่งที่จะตามมา คุณลุงอาจจะบีบให้เขาเลิกยุ่งกับคุณพฤกษ์โดยการใช้บุญคุณที่เคยชุบเลี้ยงมาอ้าง ..แต่ถ้าถึงเวลานั้นจริง ๆ ถ้าหากอีกฝ่ายยกเรื่องบุญคุณมาบังคับกัน อินทรชิตก็พร้อมที่จะอกตัญญูอย่างไม่ลังเล เขายอมโดนตราหน้าว่าเนรคุณกับคนที่เลี้ยงมา เพราะมันไม่ได้สลักสำคัญสำหรับเขาแม้แต่น้อย นั่นก็เพราะเป้าหมายในชีวิตใหม่ที่ได้รับมามีเพียงแค่คน ๆ เดียวเท่านั้นซึ่งก็คือคุณพฤกษ์!
ถ้าเรารักกัน ขอเพียงแค่คุณพฤกษ์มีใจให้เขาบ้างแม้สักเล็กน้อย ..เขาจะไม่ยอมให้อะไรมาขัดขวางได้อีกเลย
“ช่างมันเถอะ” เสียงนุ่มปลุกเขาจากความคิด “แกกลับห้องของแกไปได้แล้ว”
“ผมขอนอนกับคุณพฤกษ์ไม่ได้หรือครับ”
เขาจูบลงบนซอกคอขาว ทว่าอีดฝ่ายกลับยกมือขึ้นดันใบหน้านั้นออกห่าง
“ฉันไม่นอนกับคนมีเหงื่อ” คุณเขาว่าพลางลุกขึ้นยืน อินทรชิตมีเหงื่อซึมตามใบหน้าและร่างกายอยู่จริง ๆ แต่มันก็ไม่ได้มีกลิ่นเหมือนตอนเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายมาหนัก ๆ
“ถ้าอย่างนั้นผมจะอาบน้ำให้ตัวหอม ๆ ” เขางัดลูกอ้อนที่ตนถนัดมาใช้ ทว่าคุณพฤกษ์กลับเดินหนีไปยังตู้เสื้อผ้าแทน
“ไม่ เตียงเล็กเดี๋ยวก็นอนเบียดกัน ฉันร้อน”
อินทรชิตมองไปที่เครื่องปรับอากาศและเตียงขนาดคิงส์ไซส์ก่อนจะหันกลับมาทำตาใสซื่อ
“งั้นผมนอนบนพื้น”
“...”
“ไม่ได้.. หรือครับ”
เขาได้ยินคุณพฤกษ์ถอนหายใจออกมายาวเหยียดก่อนหยิบผ้าขนหนูโยนมาทางเขา อินทรชิตคว้าไว้อย่างรวดเร็วแล้วยิ้มแฉ่ง
“แปรงฟันด้วย” ชายหนุ่มพยักหน้าหงึกหงักอย่างเชื่อฟัง “มีแปรงอยู่ในตู้ หาเอาเอง”
“ครับ” รับคำเสร็จสรรพร่างสูงก็กอดผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างสงบเสงี่ยม ผ่านไปไม่ถึงสิบห้านาทีก็เดินตัวหอมฉุยกลับออกมา ชายหนุ่มทิ้งผ้าขนหนูและเสื้อยืดใส่นอนลงในตะกร้าสำหรับรอซักในห้องน้ำ เนื้อตัวเขาตอนนี้มีแค่กางเกงวอร์มตัวเดียวเท่านั้น
“เสื้อแกไปไหน” คุณพฤกษ์ที่นอนอยู่บนเตียงถาม อีกฝ่ายเปลี่ยนมาสวมชุดคลุมนอนผ้าไหมสีเทาตัวยาว
“มันเปียกครับ” เขาเป็นคนเอาฝักบัวรดใส่จนชุ่มเองกับมือเพราะอยากจะโชว์เนื้อหนังมังสาของตนเองให้คุณพฤกษ์สนใจ
ดูเหมือนมันจะได้ผลอยู่บ้าง ดวงตาแสนสวยหลังกรอบแว่นสีทองกวาดมองเรือนร่างของเขาราวกับกำลังประเมินและตีค่าตีราคาสิ่งของอยู่อย่างไรอย่างนั้น
“นมใหญ่” คุณเขาว่า สีหน้าราบเรียบเหลือเกิน
อินทรชิตจึงเท้าเข่าข้างนึงไว้บนเตียงก่อนจะโชว์กระดิกหน้าอกให้ดูเป็นขวัญตาเสียเลย
“อย่างอื่นก็ใหญ่นะครับ”
“ให้มันน้อย ๆ หน่อย” คุณพฤกษ์ว่าพลางปาหมอนใบใหญ่ใส่ อินทรชิตรับมันมากอดไว้ก่อนลงไปยืนที่พื้น
“ผมปิดไฟแล้วนะ” ชายหนุ่มเอื้อมมือไปกดสวิตช์ ห้องทั้งห้องพลันมืดสนิท มีแต่แสงสีส้มนวลอ่อน ๆ จากโคมไฟดวงเล็ก เขาวางหมอนลงบนพื้น เตรียมตัวจะเข้านอน
“แกจะนอนบนพื้นจริง ๆ หรือเขี้ยว” คุณพฤกษ์เกาะขอบเตียง ชะโงกหน้าลงมาถาม
“คุณพฤกษ์จะให้ผมขึ้นไปนอนด้วยไหมล่ะครับ”
“แต่แกห้ามมาเบียดนะ ฉันขี้ร้อนจริง ๆ นอนคนละมุมโอเคไหม? ”
เพราะว่ามันค่อนข้างมืดสลัว คุณพฤกษ์จึงไม่มีโอกาสได้เห็นสีหน้าเจ้าเล่ห์และรอยยิ้มร้ายกาจของเขา
อินทรชิตแสร้งทำเป็นเชื่อฟัง “ครับ” ก่อนจะรีบปีนขึ้นมาบนเตียงอย่างรวดเร็วจนคุณพฤกษ์ถึงกับผงะเพราะยังไม่ทันจะได้ขยับตัวไปไหน
“ปิดไฟตรงหัวเตียงซะ” เสียงนุ่มว่าก่อนจะถอดแว่นสายตาส่งให้เขาไปวางไว้บนโต๊ะข้างเตียง คุณพฤกษ์นวดคลึงเบ้าตาอยู่สักพัก จากนั้นจึงล้มตัวหันหลังนอน อินทรชิตเห็นดังนั้นก็รีบจัดการวางแว่นและเอื้อมมือไปดับไฟและล้มตัวลงนอนตามมาติด
เขานอนมองแผ่นหลังเพรียวบางนั่นอยู่นานเลยทีเดียว.. ทว่าไม่ยอมหลับเสียทีเพราะมีแผนบางอย่างอยู่ในใจ
ขณะที่นอนหันหลังให้อีกฝ่าย พฤกษ์ก็ยังไม่ได้นอนหลับแต่อย่างใด เขายังคงเบิกตาโพลงอยู่ในความมืดมิด เหม่อมองไปยังผนังห้องที่อยู่ตรงหน้าและกำลังขบคิดอะไรบางอย่างเงียบ ๆ
‘แกจะอยู่ที่นี่ไม่ได้อีก คุณพ่อไม่มีทางปล่อยแกไปแน่ บางทีอาจจะทวงบุญคุณที่เลี้ยงดูก็ได้ หรือไม่ก็..’
หรือไม่ก็.. ที่เขาไม่ยอมพูดออกมาในตอนแรกเพราะมันไม่ใช่สิ่งที่อินทรชิตสมควรได้รับรู้ในตอนนี้ พฤกษ์กำลังกังวลอนาคตของอีกฝ่าย เพราะพนาผู้เป็นพ่อเป็นคนเดียวที่กุมความลับเรื่องชาติกำเนิดของอินทรชิตในตอนนี้
เขากำลังคิดเผื่ออนาคต ..มันอาจจะเป็นไปได้หรือไม่ก็ได้
ถ้าหากพนาคิดจะกีดกันเขากับอินทรชิต วิธีที่เลวร้ายและโหดเหี้ยมมากที่สุดไม่ใช่การทวงบุญคุณหรอก แต่คือการส่งอินทรชิตกลับคืนสู่ครอบครัวเลิศบดินทร์ต่างหาก
พฤกษ์ไม่อยากจะคิด ..หากชายหนุ่มกลับไปที่นั่นก็เท่ากับว่าทุกอย่างจะกลับไปวนลูปแบบเดิมหรือเปล่า? ที่นั่นมีอัคราและสิรี แต่อัคราในกาลนี้ดูยังไงก็ไม่ใช่อัคราคนเก่าก่อนที่เขารู้จัก ทว่าอนาคตนั้นมักเป็นสิ่งไม่จีรัง พฤกษ์อาจจะคิดในแง่ลบและหวาดระแวงทุกอย่างมากเกินไปก็เป็นได้
ใช่.. อนาคตไม่แน่นอน บางทีพวกเขาอาจจะเบื่อความสัมพันธ์หลบ ๆ ซ่อน ๆ กันก่อนที่พ่อของเขาจะจับได้เสียอีก
หมับ..
ระหว่างที่กำลังเลิกคิดฟุ้งซ่าน จู่ ๆ ร่างกายใหญ่โตก็ขยับเข้ามาประชิด อกหนากำยำซ้อนทับแผ่นหลังแนบสนิท แขนแข็งแรงถูกสอดเข้ามาโอบรัดเอวบางและรั้งให้เข้าไปในอ้อมกอด
พฤกษ์ถูกร่างกายใหญ่ยักษ์นั่นพันธนาการไว้จนขยับไปไหนไม่ได้
‘มันคงคิดว่าฉันหลับ ไหนมาดูสิว่าแกจะทำอะไร’
ไม่ทันขาดคำ พฤกษ์ก็รู้สึกว่าร่างกายของอินทรชิตกำลังขยับ ใช่ ..ทว่าส่วนที่ขยับดันเป็นส่วนล่าง ไอ้เด็กเลวนั่นมันกำลังใช้ไอ้จ้อนใหญ่ ๆ ของตนเองถูไถและเบียดเสียดไปมากับร่องก้นของเขาอย่างช้า ๆ
เขาหัวเราะอยู่ในคอ ใจหนึ่งก็นึกสมเพชในความอยากจนหน้ามืดตาลายของมัน แต่อีกใจก็รู้สึกสงสารปนขำในความเงอะงะของมันอยู่ไม่น้อย
“จะนอนก็นอนดี ๆ ” เขาว่าก่อนจะหลับตาลง “อย่าเอาไอ้ของแปลก ๆ พรรค์นั้นมาถูก้นฉันจะได้ไหม”
ฟังจบอินทรชิตก็ถึงกับหน้าแดงแปร๊ด ชายหนุ่มกระชับอ้อมแขนก่อนจะจูบลงบนต้นคอขาว ๆ ด้านหลัง
“ขอโทษครับ ผมจะไม่ทำแล้ว” เสียงทุ้มว่า “ฝันดีนะครับทูนหัวของผม”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ