_ERROR_
-
เขียนโดย CharP
วันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เวลา 09.15 น.
10 ตอน
0 วิจารณ์
7,695 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 09.50 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) Creating gift center
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเคยสงสัยหรือเปล่าว่าทำไมมนุษย์ถึงแตกต่างกัน เพราะการเลี้ยงดู? เพราะสังคมที่อาศัยอยู่? ไม่ใช่ ผมไม่ได้หมายถึงเรื่องพวกนั้น แต่หมายถึงตั้งแต่ตอนที่มนุษย์เกิดมาต่างหากล่ะ ทำไมมนุษย์แต่ละคนใช้เวลาในการเรียนรู้สิ่งต่างๆไม่เท่ากัน อะไรคือสิ่งที่เรียกว่าพรสวรรค์ที่มีมาแต่กำเนิด ที่ทำให้เหล่าอัจฉริยะแตกต่างจากคนธรรมดา
ความจริงแล้วมนุษย์ทุกคนเกิดขึ้นมาก็ไม่ได้มีสิ่งเหล่านั้นหรอก แต่เราได้รับมันมา ก่อนที่ทุกคนจะถูกส่งมาที่โลกมนุษย์ต่างหากล่ะ เพียงแต่เราไม่สามารถจำมันได้เท่านั้นเอง
ก่อนพวกเราจะถูกส่งมาบนโลก พวกเราต้องถูกส่งไปที่ๆหนึ่งก่อน ที่นั้นถูกเรียกว่า
"Creating gift* center"
*พรสวรรค์
เกาะลอยฟ้าขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางมิติที่4 ท้องฟ้าที่มองเห็นจากเกาะนี้จะเป็นสีสลับกันไปตั้งแต่ ม่วง คราม น้ำเงิน (กลางคืน) เขียว เหลือง แสด แดง (กลางวัน) ในเกาะแห่งนี้เต็มไปด้วยอุปกรณ์ล้ำสมัย และยังมีสวนหย่อมลอยฟ้าที่เต็มไปด้วยพรรณไม้แปลกตานานาชนิด ใจกลางของเกาะแห่งนี้ คือหอคอยสูงเฉียดฟ้าที่ทำหน้าที่เป็นหอประชุมกลาง และสถานที่จัดงานต่างๆ อีกทั้งยังมีห้องปฏิบัติการของหน่วยงานที่ควบคุมดูแลเกาะนี้
ซึ่งระบบของที่แห่งนี้ก็เหมือนกับระบบโรงเรียน โดยมีแบ่งออกเป็น3ชั้นปี โดยปี1เรียนสิ่งที่ควรรู้พื้นฐาน ค้นหาสิ่งที่อยากทำ และปีที่สูงกว่านั้นก็ฝึกฝนมันจนสำเร็จวิชา เมื่อได้รับมอบเหรียญตราก็จะได้รับวิชานั้นเป็นพรสวรรค์ติดตัวไปตอนลงไปเกิดบนโลกมนุษย์นั่นเอง
เราสามารถแบ่งเกาะแห่งนี้ได้เป็น4ส่วนใหญ่ๆ ประกอบไปด้วย ส่วนของปี1,2,3 และสุดท้ายคือส่วนกลางที่เป็นที่ตั้งของหอคอยและมีสถานที่ที่นักเรียนทุกชั้นปีมาพบเจอกันได้ เพราะตามปกตินักเรียนจะไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ของนักเรียนต่างชั้นปีได้
โดยเด็กปี1ทุกคนที่ยังไม่เคยฝึกฝนอะไร ทุกๆคนเก่งอย่างเสมอกันในทุกๆด้าน ทั้ง “สติปัญญา” “พละกำลัง” “ไหวพริบ” “ความเป็นผู้นำ” “เซนท์ด้านกีฬาหรือดนตรี” รวมไปถึงสิ่งอื่น ๆอีกมากมายที่นับว่าเป็น “ความสามารถ” ได้
.
.
.
เพราะฉะนั้นมันย่อมเป็นไปไม่ได้ใช่ไหมที่ผมจะฝ่าคนกลุ่มนี้ออกไปได้
หลังจากจบพิธีปฐมนิเทศผมก็รีบออกจากหอประชุมและตรงไปยังหอพักทันที แต่ก็มีคนมาหยุดผมไว้ซึ่งตอนนี้มีคนจำนวนประมาณ10คน กำลังยืนล้อมผมอยู่ ซึ่งถ้าเดินหนีไปตอนนี้ ผมคงถูกยำเละแหงๆ
‘ส่งเหรียญของแกมา’
‘หรือแกคิดว่าจะสู้กับพวกเราทุกคนตรงนี้ได้’
เหรียญที่พวกเขาหมายถึงคือสิ่งที่เปรียบเสมือนหัวใจของที่แห่งนี้ โดยเหรียญจะแบ่งออกเป็น3ระดับหลักๆคือ
เหรียญทอง : เหรียญตราที่เป็นตัวแทนของพรสวรรค์ที่จะได้รับตอนลงไปเกิดบนโลกมนุษย์ แน่นอนว่ามันช่วยเสริมความสามารถของผู้ครอบครอง ในขณะที่ยังเรียนอยู่ที่โรงเรียนนี้ด้วย
เหรียญเงิน : ถ้ามีจะได้รับอภิสิทธิ์บางอย่างเช่น เข้าหอสมุดลับ เข้าเรียนในชั้นปีที่สูงกว่าที่เป็นอยู่ ขึ้นอยู่กับชนิดของเหรียญ
เหรียญทองแดง : ได้รับสิทธิพิเศษนิดหน่อย เช่น ได้รับอาหารชุดพิเศษในโรงอาหาร ขึ้นอยู่กับชนิดของเหรียญ
วิธีการได้มาซึ่งเหรียญนั้นมีตั้งแต่ได้รับเป็นรางวัลจากงานเทศกาลต่างๆ, ได้รับตำแหน่งบางอย่าง ,ได้จากการท้าดวลโดยใช้เหรียญเป็นเดิมพัน หรือแม้กระทั่งการขโมย และข่มขู่อย่างที่ผมโดนอยู่ตอนนี้
ทำให้โดยทั่วไปแล้วนักเรียนจะไม่นำเหรียญออกมาจากที่เก็บ นอกจากเวลาที่จะนำมันมาใช้ โดยเฉพาะเหรียญที่มีค่ามากๆ เพราะหอพักถือเป็นเขตที่ปลอดภัยที่สุดในโรงเรียนนี้ การจะบุกรุกเข้าไปในห้องของคนอื่นนั้นแทบเป็นไปไม่ได้ เพราะหอพักจะมีระบบป้องกัน โดยการสแกนทั้งรูม่านตา ลักษณะของใบหน้า รวมไปถึงลายนิ้วมือ ที่หน้าประตูห้องของแต่ละคน และถึงต่อให้เจ้าของห้องอนุญาตก็ต้องไปทำเรื่องกับส่วนกลางอยู่ดีถึงจะพาคนอื่นเข้าห้องได้ นักเรียนส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยนัดรวมตัวกันที่หอ แต่จะไปรวมตัวกันที่ห้องสมุดหรือสวนหย่อมมากกว่า
จริงๆแล้วเหรียญที่ผมมีอยู่ตอนนี้ก็เป็นแค่เหรียญทองแดงที่ได้รับมาจากที่เป็นคนกล่าวคำสุนทรพจน์ในงานปฐมนิเทศ ซึ่งพวกเขาก็แค่สุ่มนักเรียนคนนึงขึ้นมาพูดแล้วก็ให้เหรียญเป็นรางวัลเท่านั้นแหละ แถมมันก็ไม่ได้มีค่าอะไรมากมายด้วย
เหรียญ ‘ผู้กล่าวสุนทรพจน์’
ระดับ : ทองแดง
สิทธิประโยชน์ : สามารถเรียกนักเรียนปี1 10คนมารวมตัวกันได้1ครั้ง
แต่เหมือนว่าสำหรับเด็กปี1ที่ยังไม่มีใครซักคนมีเหรียญเลยมันก็ดูน่าอิจฉาแหละ แต่ผมไม่สนใจมันหรอกนะ อยากเอาก็เอาไป เพียงแต่ผมไม่อยากให้คนอื่นที่ผ่านมาเห็นมองว่าผมเป็นคนขี้กลัวที่ดูอ่อนแอ ก็เลยไม่ยอมยกให้ทันทีเท่านั้นแหละ
‘มันมีอยู่เหรียญเดียวถึงพวกนายรวมหัวกันแย่งไปได้แต่สุดท้ายก็มีคนเดียวที่ได้อยู่ดีนั่นแหละน่า’
ผมบอกพวกนั้นไป
‘เรื่องนั้นมันไม่เกี่ยวกับแก’
‘พวกเราจะตัดสินกันเองว่าเหรียญนี้ควรเป็นของใคร เพราะฉะนั้นส่งมันมา’
โอเค แล้วแต่เลย~ ถ้าผมส่งให้พวกนั้นตอนนี้ หลังจากนี้ผมก็จะไม่เป็นที่เพ่งเล็งแล้วใช่ไหม ถ้างั้นก็เอาไปเลย เชิญ……. ก็อยากจะพูดอย่างงั้นอยู่หรอก
‘พวกนายจะรวมหัวกันทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!’
อยู่ๆก็มีคนๆนึงฝ่าวงล้อมเข้ามา แล้วตะโกนออกไปแบบนั้น เขาเป็นผู้ชายผมสีทอง ดวงตาสีทับทิม ท่าทางคล่องแคล่ว
และเพราะที่แห่งนี้ไม่มีใครที่พิเศษกว่าใคร ฉะนั้นแล้วเด็กปี1ทุกคน ในช่วงแรกจะมีความสูงและน้ำหนักใกล้เคียงกันทั้งหญิงชาย แต่หน้าตา สีผม สีตา สีผิวอาจแตกต่างกันเล็กน้อย คนคนนี้กับผมจึงมีรูปร่างใกล้เคียงกัน
แต่นิสัยไม่เกี่ยวกันนะ ไม่ได้มีการปรับนิสัยทุกคนให้คล้ายกัน ฉะนั้นแล้วมันก็เป็นอย่างที่เห็นอยู่นี่แหละ
‘มันเป็นรางวัลของคนที่กล่าวสุนทรพจน์ ถ้างั้นหมอนั่นก็เหมาะสมกับมันแล้ว การที่พวกนายรวมหัวกันข่มขู่ เพื่อให้ได้ของแบบนั้นมันไม่ยุติธรรมกับเขาเลยนะ!!!’
เขาคนนั้นพูดขึ้นมา
‘นี่นายคิดว่าเพิ่มเป็นสองคนแล้วจะสู้กับพวกเราทั้งกลุ่มได้งั้นหรอ’
คนๆหนึ่งในกลุ่มที่ล้อมผมอยู่ถามไปด้วยท่าทางเยาะเย้ย
‘ได้สิ!!! ไม่มีทางที่ฉันจะยอมแพ้ให้กับเรื่องแบบนี้หรอก’
ไม่ๆๆๆ มันไม่ไหวหรอกเพื่อน แค่แรงใจมันสู้กับจำนวนคนไม่ได้หรอกนะ โดยเฉพาะปี1ที่ความสามารถทุกคนเท่ากันแบบนี้น่ะ
โชคดีที่โศกนาฏกรรมอันโหดร้ายนี้ถูกหยุดไว้ก่อนมันจะเกิดขึ้น
‘นี่ ปี1 พวกนั้นน่ะ หยุดทะเลาะกันเดี๋ยวนี้นะ นี่พึ่งจะวันแรกเองนะ’
คนที่มาช่วยพวกเราไว้เป็นพี่ๆปี2 รู้สึกเหมือนว่าพวกเขาจะเป็นกรรมการระเบียบวินัย
แต่ก็นะตราบใดที่เหรียญมันยังอยู่กับผมเหตุการณ์แบบนี้อาจจะเกิดขึ้นอีกเมื่อไรก็ได้ อยากเอาเหรียญให้พวกนั้นไปให้จบๆจังเลย แต่ตอนนี้คงไม่เหมาะเท่าไรสินะ
‘นายคนนั้นน่ะ ไม่เป็นไรใช่ไหม?’
ผู้ชายคนที่ฝ่าวงล้อมเข้ามาคนนั้น พูดกับผม
‘อือ ไม่เป็นไร ขอบคุณนะ’
‘นายรหัสอะไรหรอ ฉันD62นะ ยินดีที่ได้รู้จัก’
เขาถามผม
‘B45น่ะ ยินดีที่ได้รู้จักเหมือนกัน’
ใช่แล้ว ในสถานที่แห่งนี้ไม่มีการใช้ชื่อเรียกกันแต่จะเรียกกันโดยใช้รหัส ซึ่งเด็กรุ่นนึงเนี่ยก็จะมีรหัสตั้งแต่A00ไปจนถึงZ99เลยล่ะ เหตุผลที่ใช้เป็นรหัสก็เพราะทุกคนจะใช้ชีวิตอยู่ในเกาะนี้ได้แค่3ปีและไม่สามารถจำเรื่องที่อยู่ที่นี่ได้ตอนลงไปเกิดบนโลกมนุษย์ เพราะเหตุนั้นการตั้งชื่อคนขึ้นมาใหม่จึงจัดเป็นเรื่องไม่จำเป็น แค่เรียกด้วยรหัสที่ได้รับมาก็เพียงพอแล้ว
‘ถ้าพวกนั้นมารบกวนนายอีกเรียกฉันได้เลยนะ ฉันล่ะเกลียดพวกหมาหมู่ที่เอาแต่ข่มขู่คนอื่นจริงๆ”
ผมเกรงว่าเรียกนายมาจะยิ่งทำให้เรื่องแย่ลงน่ะสิ….
‘ฉันกำลังจะไปทดลองเข้าชุมนุมน่ะนายจะไปด้วยกันไหม’
ถึงผมจะสังหรณ์ได้ว่าถ้าตามหมอนี่ไปต้องถูกลากไปพัวพันกับเรื่องวุ่นวายแหงๆ แต่ก็นะการหาเพื่อนได้ตั้งแต่วันแรกมันก็ฟังดูไม่เลวหรอกนะ แล้วเขาก็ดูเป็นคนดีด้วยแหละ
‘ได้ๆ’
ผมก็เลยเลือกที่จะตอบตกลงไปน่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ