Cross sign : Dimension
-
เขียนโดย whitekamilia
วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เวลา 01.45 น.
1 chapter
40 วิจารณ์
1,924 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2564 02.48 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) Return of White wolf
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เวลา 10:05 PM เขต K001 [ย่านฮงแดเก่า] กรุงโซลประเทศเกาหลีใต้
"ทุกหน่วยโปรดทราบ พิกัด K001 อยู่ในระดับวิกฤต ย้ำ อยู่ในระดับวิกฤติ อพยพพลเรือนโดยทันที"
เสียงประกาศตามไซเรนทั่วเขต K001 เนื่องจากค่ากัมมันตรังสีของ Cross Gate ใกล้ถึงขั้นวิกฤต บรรดาเอเจนท์จากบริษัทเมอเซอร์นารี่ต่างๆถูกลำเลียงมาที่นี่เพื่ออพยพผู้คนทั้งพ่อค้าแม่ค้าและคนทั่วไปออกจากเขต
"ย่ำแย่ลงทุกวัน ตอนนี้ครอสเกทเปิดทุกๆ 24 ชม. และเปิดใจกลางเมืองเลยด้วย มีแนวโน้มว่าจะเปิดถี่ขึ้นและจำนวนเพิ่มขึ้นถ้าเราไม่ทำอะไรซักอย่าง"
"เอเจนท์ระดับสูงตายไปเยอะมาก สัปดาห์ที่แล้วออก้ากับจุงวอนตายที่ปักกิ่ง เดือนก่อนเซบัสเตียนตายที่โรม เราเสียคิงและควีนไปในเวลาไล่เลี่ยกัน ทำให้กำลังรบของเราน้อยลง ยังไม่นับพวกเอเจนท์ระดับกลางและล่างที่ตายยังกับใบไม้ร่วง..."
"ไม่ใช่แค่บริษัทเราที่กำลังแย่ ทุกบริษัทในธุรกิจเมอเซอร์นารี่กำลังแย่เพราะขาดบุคลากรที่มีคุณภาพและไม่สามารถหามาทดแทนได้ทันเวลา ถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อไปโลกจะตกสู่สภาวะวิกฤติ"
"แต่ถึงจะพูดแบบนั้นบริษัทเราก็โดนผลกระทบเยอะที่สุดอยู่ดี เราเสียยานขนส่งไป 10 ลำ ใน 3 เดือน เสียเอเจนท์ระดับสูงไป 3 คนใน 2 เดือนยังไม่รวมค่ายุทโธปกรณ์ที่เสียหายในสนามรบและสูญหายอีก สมาพันธ์โลกไม่ได้ชดเชยค่าเบี้ยสงครามให้เราเลย"
"สมาพันธ์โลกเองคงจะเอาตัวไม่รอดเหมือนกัน ได้ข่าวว่าเมื่อปีก่อนก็เสียเอเจนท์คนสำคัญไป 5 คน ตอนภารกิจยึดคืนกรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์กับไต้หวัน"
การประชุมบอร์ดผู้บริหารของบริษัท โซล่า คอร์ป 1 ใน 5 บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจเมอเซอร์นารี่จัดขึ้นทุกๆสิ้นเดือน ครั้งนี้เป็นครั้งที่ตึงเครียดที่สุดตั้งแต่จัดตั้งบริษัท ประธานบริษัท โอ แชยอง ทายาทรุ่นที่ 3 แห่งตระกูลโอผู้ก่อตั้งบริษัทนั่งกุมขมับบนโต๊ะยาวด้านหน้าผู้บริหารทั้งหมดสถานการณ์ในปัจจุบันถึงแม้ว่าเมื่อ 5 ปีก่อนมนุษยชาติจะสามารถโต้กลับและยึดกรุงโซลประเทศเกาหลีใต้กลับคืนมาทว่าสถานการณ์ก็ไม่ได้ดีขึ้นเท่าที่ควร เนื่องจากจำนวนซีดีเอที่มากขึ้นทุกวัน อัตราการเกิดกัมมันตรังสีครอสเกทก็เพิ่มขึ้นจนน่าตกใจ และที่สำคัญกำลังพลพร้อมรบที่น้อยลงๆจนหาคนมาแทนไม่ได้ขัดกับนโยบายที่ต้องการยึดเมืองหลวงของทุกประเทศคืนจากซีดีเอ ทำให้โซล่าตกที่นั่งลำบากเพราะไม่สามารถตอบสนองนโยบายของสมาพันธ์โลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
"หน่วยไวท์ฮาวน์ เหลือใครบ้าง?"
"ตอนนี้เหลือเพียง มิรันด้าค่ะบอส นอกนั้นตายหมดแล้ว..."
"เฮ้อ.... เหลือแค่โอเปอร์เรเตอร์สินะ แล้วนี่ส่งเอเจนท์ไปช่วยอพยพคนจากพื้นที่ K001 แล้วใช่ไหม?"
"ยังค่ะ ยานลำเลียงเกิดขัดข้องกะทันหัน ช่างกำลังซ่อมอยู่ค่ะ..."
"เฮ้ออออ...."
แชยองกุมหัวฟุบลงกับโต๊ะความเงียบปกคลุมห้องชั่วขณะ ปัญหาต่างๆประดังเข้ามาทำเอาสาวน้อยอายุ 18 ปวดหัวไมเกรนเธอผ่อนลมหายใจยาวพร้อมกับท่องในใจว่า "วูซ่าาาา"
...รุ่นพี่คะ กลับมาทีเถอะ ฉันไม่ไหวแล้ว...
ระหว่างนั้นประตูห้องประชุมก็เปิดออกพร้อมหญิงสาวในชุดเอเจนท์ปฏิบัติการของโซล่าคอร์ป ผมยาวสีขาวควันบุหรี่ที่เป็นเอกลักษณ์กับปืนสั้นคู่ที่สะพายไขว้ไว้ด้านหลัง เมื่อเห็นดังนั้นแชยองก็ตาลุกวาวขึ้นมาทันที
"พี่อาเมะ !!!"
"อาเมริ?"
พัค ยอนจู หัวหน้าฝ่ายข่าวกรองเลิกคิ้ว
"ยังไม่ตายอีกหรอ? หายหัวไปไหนมา เขาตามหากันให้ควัก !!!"
ควอน นารา หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการและวางแผนตบโต๊ะดังปัง
"น่าจะกลับมาให้เร็วกว่านี้นะคะ ถ้ามีคุณอยู่บริษัทเราคงยังไม่ถึงจุดตกต่ำขนาดนี้..."ซานดร้า กราเซียร์ หัวหน้าฝ่ายการเงินและกองคลังถลึงตาใส่
"เธอไปตายที่ไหนมา หะ !!! ....มิรันด้าจะกัดลิ้นตายอยู่แล้วเพราะรอเธอกลับมาน่ะ !"
และสุดท้ายน้องสาวของโอเปอร์เรเตอร์แห่งหน่วยไวท์ฮาวน์เลขาประธานโอ แชยอง อเล็กซานเดรีย มิ้นท์
ภายใต้เสียงต่อว่าปนดีใจของเพื่อนร่วมงาน ยูเมโนะ อาเมริ ไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายอะไรกับคำพูดเหล่านั้น เธอโฟกัสเพียงเป้าหมายและสิ่งที่เธอต้องทำ หญิงสาวตบโต๊ะเสียงดังลั่นก่อนจะตามมาด้วยความเงียบที่ปกคลุมห้องอีกครั้ง
...กริบ...
"ฉันจะไปอพยพคนที่เขต K001 เรียกหน่วยไวท์ฮาวน์ให้หน่อย"
"หน่วยไวท์ฮาวน์เหลือแค่มิรันด้า เธอจะเอามิรันด้าไปตีกับซีดีเอหรือไง?"
ควอน นารา เอ่ยถามพลันโยนเอกสารรายงานผู้เสียชีวิตจากหน่วยไวท์ฮาวน์ทั้งหมดให้อาเมริ หญิงสาวหยิบขึ้นมาเปิดอ่านก่อนจะโยนมันกลับไปให้นารา
"เข้าใจแล้ว"
"เฮ้ย ! จะไม่พูดอะไรซักคำหรือไง นังบ้า !!!"
เธอหันหลังเดินออกจากห้องอย่างรวดเร็วพร้อมกับเสียงด่าตามหลังของควอน นารา บรรยากาศการประชุมกลับมาเงียบอีกครั้ง การปรากฎตัวของหัวหน้าหน่วยไวท์ฮาวน์คนเก่าตำนานผู้ทวงคืนกรุงโซลคืนจากซีดีเอมีผลต่อการประชุมครั้งนี้
"ฉันว่า พวกเรามีความหวังแล้วล่ะ..."
แชยองพูดพร้อมรอยยิ้ม
บนยานขนส่งบริษัทอัลฟ่าเรด เวลา 10:35 PM ห่างจากจุด K001 12 นาที
"ไม่ได้เจอกันนานนะ ยัยหมาป่าสีขาว อาเมริ"
"เช่นกัน ซุยจิน"
"เป็นยังไงบ้าง คิดยังไงถึงกลับมา คนอย่างเธอตัดสินใจอะไรแล้วไม่เคยหันหลังกลับนี่?"
"ฉันมีธุระนิดหน่อย...."
"เกี่ยวกับคนเมื่อ 5 ปีก่อนอีกแล้วสินะ ไปรู้อะไรมาอีกล่ะ ?"
ซุยจิน เอเจนท์แนวหน้าระดับควีนของบริษัทอัลฟ่าเรด บริษัทเมอเซอร์นารี่ระดับเดียวกับโซล่าแต่อัลฟ่าเรดมีสถานการณ์ภายในดีกว่าเนื่องจากอัลฟ่าเรดก่อตั้งหลังโซล่าราวๆ 3 ปีและมีผู้บริหารที่มีเส้นสายภายในสมาพันธ์โลกจึงเหมือนเป็นคลื่นลูกใหม่ต่างจากโซล่าที่ก่อตั้งมานานแล้ว
"ฉันแค่อยากสืบจนถึงที่สุดเท่านั้นน่ะ"
"อาเมริ เธอควรปล่อยวางบ้างนะ ในโลกนี้มีเอเจนท์เถื่อนเยอะแยะพอๆกับซีดีเอที่เราเจออยู่ เธอใช้เวลา 5 ปีเพื่อพลิกแผ่นดินหาเขา เสียทั้งเวลา เสียทั้งเงิน เธอต้องการอะไรจากเขากันแน่ ?"
"ตั้งแต่ฉันเป็นเอเจนท์มา คนที่ฆ่าราชินีซีดีเอได้ในดาบเดียวมีแค่เขาคนเดียวเธอคิดว่าฉันต้องการอะไรจากเขาล่ะ ?"
"เธอคิดจะชวนเขาเข้าหน่วยไวท์ฮาวน์หรอ ?"
"...."
"อืม ฉันพอเข้าใจนะ ที่เธออยากได้คนเก่งเข้าหน่วยเพื่อช่วยโลกเพื่อแก้แค้นพวกนั้น"
"ฉันไม่ได้ทำเพื่อโลกหรือแก้แค้นอะไรทั้งนั้น ฉันแค่ทำเพื่อมีชีวิตรอด เพื่อเงิน ถ้าหน่วยฉันมีคนเก่ง ภารกิจก็จะเยอะขึ้นเงินก็จะเยอะขึ้น เท่านั้นล่ะ... "
"ซึนได้โล่ไม่เปลี่ยนเลยนะ เธอเนี่ย..."
ซุยจินยิ้มมุมปากทิ้งตัวลงนั่งข้างอาเมริที่กำลังครุ่นคิดบางอย่างอยู่ ทั้งสองเป็นเพื่อนกันมานานตั้งแต่สมัยเข้าเป็นเอเจนท์แรกๆฝึกมาด้วยกันในค่ายทหารกองทัพวัลคิรี่ 3 ปี ฝึกหน่วยรบพิเศษอีก 2 ปีและออกมาประจำที่บริษัทเมอเซอร์นารี่ เดิมทีซุยจินเป็นเอเจนท์ของโซล่าแต่เพราะอัลฟ่าเรดขอซื้อตัวในราคาสูงเธอจึงเปลี่ยนบริษัทมาอยู่ที่นี่
"ถ้าพูดถึงเรื่องหน้าเงินน่ะ ต้องฉันนี่ไม่ใช่เธอ ยัยซึน"
ซุยจินพูดพลางนึกถึงสมัยก่อนที่อัลฟ่าเรดเปิดใหม่ๆและมายื่นขอเสนอให้เธอกับอาเมริ
"พวกนั้นให้เงินเธอสองเท่าของฉัน เธอยังไม่เอาเลย"
"ฉันอาจจะโง่ก็ได้..."
"ฮึ อย่างเธอน่ะหรอโง่ ยัยหมาป่าถ้าเธอไม่แน่จริงคงไม่ได้เป็นตัวหลักของโซล่ามาจนถึงตอนนี้หรอกนะการที่เธอหายตัวไปมีผลมากต่อโซล่า เธอรู้ใช่ไหม?"
"อือ..."
"นิสัยเผาป่าระเบิดกระท่อมของเธอถึงมันจะเป็นสาเหตุให้ผู้บังคับบัญชาปวดหัวแต่มันเป็นจุดเด่นและบ่งบอกว่าเธอไม่กลัวตายขณะปฏิบัติหน้าที่เหมือนนักล่าที่ไม่เคยละเว้นเหยื่อแม้จะบาดเจ็บสาหัสขนาดไหน ฉายาหมาป่าสีขาวที่คนอื่นเขาเรียกเธอน่ะ มันไม่ได้มาเล่นๆนะ"
"ฉันทำเพื่อตัวเองเท่านั้น... ฉายานั่นฉันไม่ได้สนใจมันหรอก"
อาเมริหยิบปืนคู่ออกมาจากด้านหลัง ปลดล็อคด้วยระบบสัมผัสที่ด้ามจับและป้อนคำสั่ง Generate กระสุนบนกระบอกปืนมีอักษรสลัก หนึ่งกระบอกเขียนว่า Incubuss และอีกหนึ่งเขียนว่า Succubuss
"ไปกันเถอะ ถึงแล้ว"
หญิงสาวลุกขึ้นเดินออกไปท้ายยาน ซุยจินคว้าปืนไรเฟิลขนาด .40Calและลุกเดินตามไป
"อินคิวบัส ซัคคิวบัส เจ้าเขี้ยวคู่ของเธอไม่ได้เจอนานเลยนะนี่"
"อืม ฉันก็ไม่ได้เห็นความงามของบลัดดี้แมรี่มานานมากแล้ว"
หมาป่าสีขาวแห่งโซล่าเหลือบมองปืนไรเฟิลขนาด .40Calของซุยจิน , Bloody Marryไรเฟิลต่อต้านอากาศยานและยานเกราะสีแดงสดทั้งกระบอกปรับแต่งพิเศษ ควบคุมโดยระบบไฟฟ้าอิเล็คตรอนเทคโนโลยีเฉพาะของอัลฟ่าเรดที่ทำให้ปืนสามารถชาร์จยิงเป็นปืนเลเซอร์ไฟฟ้าแรงสูง (Rail gun) ได้เพียงปรับโหมด
[เตรียมปล่อยตัวเอเจนท์]
ไฟสีแดงเหนือประตูห้องโดยสารสว่างขึ้น
"ไม่ต้องบอกคนอื่นนะว่า มากับฉันเดี๋ยวเรื่องไปถึงอัลฟ่าเรดแล้วจะยุ่ง"
"อือ ขอบใจมาก"
[ปล่อยตัวเอเจนท์]
ประตูห้องโดยสารเปิดออก อาเมริทิ้งตัวลงในแนวดิ่งเช่นเดียวกับซุยจินทั้งสองพุ่งลงยังเป้าหมายจุด K001 ที่ตอนนี้กัมมันตรังสีครอสเกทเริ่มหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ
"ทุกหน่วยโปรดทราบ เกิดปรากฎการณ์ครอสเกทแล้ว ย้ำ เกิดปรากฎการณ์ครอสเกทแล้ว ให้ทุกหน่วยเร่งมืออพยพคนและเตรียมรับมือการโจมตี"
เสียงประกาศตามไซเรน เนื่องจากแรงกดอากาศโดยรอบเขต K001 เริ่มต่ำลงและเกิดสะเก็ดสีดำควบแน่นกับอากาศก่อตัวรวมกันเป็นจุดสีดำขนาดเล็กก่อนจะใหญ่ขึ้นจนเกิดเป็นประตูมิติหรือที่เรียกกันว่า ครอสเกท (Cross gate)
"ตรวจพบซีดีเอระดับ 3 ย้ำ ตรวจพบซีดีเอระดับ 3 ทุกหน่วยเตรียมรับมือการโจมตีขั้นสูงสุด"
ปรากฎขาขนาดใหญ่ของสัตว์ประหลาดลักษณะคล้ายแมงมุมก้าวออกมาจากประตูมิติ
"... ตรวจพบซีดีเอระดับ 4 อีกหนึ่งตัว ย้ำ... ตรวจพบซีดีเอระดับ 4 อีกหนึ่งตัว ทุกหน่วยเตรียมพร้อมรับมือการโจมตีขั้นสูงสุด...."
เสียงประกาศตามไซเรนที่ขาดช่วงจากความตื่นตระหนกของผู้ประกาศ
อาเมริกับซุยจินลงถึงพื้นได้อย่างปลอดภัย ทั้งสองหันมองไปยังซีดีเอที่กำลังออกจากประตูมิติ
"ระดับ 4 หรอ? งานยากแล้วไง"
ซีดีเอระดับ 4 คือสัตว์ประหลาดข้ามมิติขนาดยักษ์โดยปรกติจะพบในคีปจำพวกราชินีเท่านั้น พิษสงของมันสามารถต่อกรกับกองทหารทั้งกองพันได้ ในอดีตนอกจากในคีปแล้วพบพวกมันได้น้อยมากแต่ละตัวจะมีลักษณะพิเศษแตกต่างกันออกไป ในภารกิจที่ฮ่องกงและมะนิลาต้องใช้เอเจนท์ระดับบิชอปและรูคกว่าห้าสิบคนเพื่อล้มมัน อัตราการสูญเสียเอเจนท์มีมากกว่ารอดเมื่อเผชิญหน้ากับซีดีเอระดับนี้
เปรี้ยง !!!
เสียงปืนไรเฟิลขนาด .40Cal ของซุยจิน ความแรงของปืนทำให้เกิดลมปะทะออกรอบข้างกระสุนขนาดใหญ่พุ่งทะลุเป้าหมายทำให้ซีดีเอระดับ 3 ที่เพิ่งออกจากครอสเกทเซไปชนกับตึกข้างหลังเกิดรูขนาดใหญ่บริเวณลำตัวของซีดีเอที่ถูกยิง
"เปิดก่อนได้เปรียบละนะ!"
"ฉันไปก่อนนะ คุ้มกันด้วย"
"อืม ไว้ใจได้เลย"
ซุยจินยกนิ้วโป้งให้อาเมริ เธอพยักหน้ารับและวิ่งออกไปยังเป้าหมายที่ตอนนี้ครอสเกทเปิดกว้างขึ้นเพราะซีดีเอระดับ 4 พยายามก้าวข้ามเข้ามา ระหว่างทางพบซีดีเอระดับ 1 และ 2 ตลอดทางมีแนวปะทะกันระหว่างหน่วยรบพิเศษของวัลคิรี่เป็นระยะ
ปัง! ปัง ! ปัง !
อาเมริลั่นไกปืนเพื่อเปิดทาง ซีดีเอขนาดเล็กไม่เป็นอุปสรรคของหมาป่าสาวที่กำลังพุ่งไปหาเหยื่อที่ใหญ่กว่า มีเสียงปืนไรเฟิลของซุยจินดังสนับสนุนเป็นระยะ
"ตายยากจริงแหะ!"
ชิ้ง... กริ๊ง
เปรี้ยง !!!
ซุยจินดันลูกเลื่อนปืนเพื่อสลัดกระสุนเก่าในรังเพลิงออกก่อนจะลั่นไกออกไปอีก คราวนี้กระสุน.40Cal ของเธอเข้าหัวของซีดีเอระดับ 3 พอดีมันเซไปเซมาชนกับตึกข้างทางจนล้มลงมาเสียหาย
"Gottcha !"
ซีดีเอระดับ 3 กระเสือกกระสนพยายามยื้อชีวิตตัวเองแต่มันไม่สามารถใช้ชีวิตได้หากปราศจากหัว... ซีดีเอระดับ 3 ถูกกำจัดอย่างง่ายดายโดยเอเจนท์ควีนซุยจินแห่งบริษัทอัลฟ่าเรด
"ตรวจพบซีดีเอระดับ 5 ย้ำ.... ตะ...ตรวจพบซีดีเอระดับ 5 ทะ...ทุกหน่วยโปรด....ตั้งรับการโจมตี"
เสียงประกาศตามไซเรนขาดหายไป คาดว่าคนประกาศน่าจะเป็นลมไปแล้ว
ระดับ 5 !?
อาเมริกัดฟันกรอดขณะวิ่งไปยังที่หมาย เสียงมือถือของเธอดังขึ้นมือเรียวล้วงเข้าไปหยิบมันขึ้นมาก็พบว่าเป็นสายของซุยจิน
"เธอได้ยินใช่ไหม ระดับ 5!"
"อือ"
"ฉันกำลังตามไปนะ อย่าเพิ่งลุยไปก่อนล่ะ!"
ปลายสายตัดไปอาเมริเก็บมือถือเข้ากระเป๋าเสื้อคลุม สถานการณ์กลางกรุงโซลเข้าสู่สภาวะวิกฤติประชาชนตื่นตระหนกทหารเริ่มคุมสถานการณ์ไม่อยู่เอเจนท์ขวัญกำลังใจหาย เสียงไซเรนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินขั้นสูงสุดดังสนั่นเมือง ยานจู่โจมจากทุกบริษัทเมอเซอร์นารี่เข้าประจำจุดเพื่อเตรียมโจมตี
[ โจมตี ! ]
คำสั่งโจมตีจากผู้บังคับบัญชาสูงสุดของวัลคิรี่ถึงยานทุกลำ ซีดีเอระดับ 4 ออกจากครอสเกทสำเร็จมันมีลักษณะคล้ายแมงมุมแต่มีมือสองข้าง มีเกราะหนาทั่วตัวและปล่อยสารพิษสีม่วงจากปล่องด้านหลังได้ ศพทหารหรือคนธรรมดาที่รับสารนั้นเข้าไปจะกลายสภาพเป็นซีดีเอและเข้าทำร้ายคนอื่นทันที
"แย่ล่ะ นั่นมันไม่ต่างจากไดเมนเคลื่อนที่..."
กรุงโซลกำลังจะกลายเป็นนรกบนดินในไม่ช้า...
เวลา 11:05 Unknown Point
[ Cross Gate access ]
เสียง AI จากระบบนาฬิกาของชายหนุ่มชุดดำที่ยืนอยู่บนเทือกเขาหิมะ แรงกดอากาศโดยรอบเริ่มลดต่ำลงหิมะสีขาวแปรเปลี่ยนเป็นสีดำเกิดจุดสีดำขนาดเล็กและค่อยๆขยายตัวใหญ่ขึ้นจนเกิดเป็นประตูมิติ
"วุ่นวายน่าดูเลยสิน่า..."
ร่างสูงมองผ่านเข้าไปในประตูมิตินั่นเห็นการต่อสู้อันดุเดือดระหว่างซีดีเอระดับ 4 และ 5 กับเอเจนท์อีกหลายสิบคน กรุงโซลพังพินาศไปกว่าครึ่งซากศพและเลือดนองไปทั่วเมืองมีแนวกั้นเป็นระยะของกองทหารวัลคิรี่เพื่อสกัดศพและมนุษย์ที่กลายพันธุ์
"ซุยจิน ใช้เรลกัน!"
"ได้ ! คุ้มกันด้วย"
อาเมริตะโกนบอกซุยจินที่สุ่มอยู่บนชั้นสองของซากตึก เธอเปลี่ยนระบบปืนเป็นการชาร์จเกิดกระแสไฟฟ้าวิ่งรอบตัวตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นมาที่ปืนหมุนวนรอบๆราวพายุและยิงออกไป
เปรี้ยงงง!!!!
ลำแสงเรลกันยิงแหวกอากาศออกไปเป็นเส้นเกิดลมปะทะออกด้านข้างด้วยแรงถีบของปืนจนซุยจินผงะไปด้านหลัง ซีดีเอระดับ 4 โดนเรลกันยิงเข้าที่อกอย่างจังมันทรุดล้มลงแต่ยังไม่หมดฤทธิ์ อาเมริประสานปืนเข้าหากันชาร์จพลาสม่าบอลยิงซ้ำเข้าไป
โฮกกกกก!!!
เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของซีดีเอระดับ 4 ทำให้ซีดีเอระดับ 5 รีบวิ่งเข้ามาช่วยมันทันที ซีดีเอระดับ 5 ตัวนี้มีลักษณะคล้ายลิงมีขนสีขาวปุกปุยยืนสองขามีแขน 4 แขน ที่สำคัญมันสร้างแผ่นดินไหวได้โดยการทุบพื้น
"อาเมริ ถอยก่อน!"
เมื่อเห็นดังนั้นซุยจินจึงส่งสัญญาณให้ถอย เอเจนท์คนอื่นๆยังคงระดมยิงและใช้อาวุธประจำตัวของตนสร้างความเสียหายให้มันอย่างต่อเนื่อง
"เจอบีสสายดินซะด้วย งานหนักหน่อยนะ"
ชายหนุ่มเดินก้าวผ่านครอสเกทมา เขายืนอยู่บนซากตึกสูงที่สามารถมองเห็นทุกอย่างและเห็นการต่อสู้ทั้งหมดได้อย่างชัดเจน
"แต่มันน่าจะหนักไปหน่อยล่ะ ..."
ดาบยาวที่พันผ้าด้านหลังถูกปลดออก...
ฟิ้ง!!!
ฉับ...!!!
โฮกกกก!!!
คมดาบขนาดใหญ่สีดำส่องประกายขึ้นพร้อมเสียงของซีดีเอระดับ 5 ที่ร้องโหยหวนเมื่อต้องเสียแขนข้างขวาไปทั้งสองแขน เอเจนท์ทั้งหมดหยุดชะงักด้วยความตกใจโดยเฉพาะหมาป่าสีขาวแห่งหน่วยไวท์ฮาวน์
"นั่นมัน..."
ฉับ ฉับ ฉับ !!!
ยังไม่ทันกระพริบตา คมดาบสีดำก็ส่องประกายราวแสงจันทร์ยาวค่ำคืนพุ่งเข้าตัดแขนที่เหลือทั้งหมดของซีดีเอตัวนั้นอีกครั้ง มันทิ้งตัวลงคุกเข่ากับพื้นเลือดสีม่วงไหลนองและระเหยไปอย่างรวดเร็ว
"อะ...อะไรน่ะ"
ซุยจินอ้าปากค้างมือยังแตะที่ไกปืน ซีดีเอระดับ 5 คือสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์เท่าตึก 6 ชั้นที่มีทั้งพละกำลังและความแข็งแกร่งขนาดจรวดต่อต้านอากาศยานยังไม่สามารถทำอะไรมันได้ เรลกันของเธอเองเคยยิงมันเมื่อหลายปีก่อนก็ทำได้เพียงสกัดมันไว้ ไม่สามารถล้มมันได้
อาเมริเงยมองไปยังตึกสูงที่ซึ่งชายหนุ่มชุดดำยืนอยู่ เขาเก็บดาบยาวเข้าด้านหลังพร้อมกับมองลงมายังเธอที่ยืนอยู่ด้านล่างสายตาทั้งสองผสานกัน ความทรงจำและความรู้สึกในตอนนั้นเธอไม่เคยลืม ...
...ได้เจอกันซักทีนะ ท่านยมทูต...
To be continue....
"ทุกหน่วยโปรดทราบ พิกัด K001 อยู่ในระดับวิกฤต ย้ำ อยู่ในระดับวิกฤติ อพยพพลเรือนโดยทันที"
เสียงประกาศตามไซเรนทั่วเขต K001 เนื่องจากค่ากัมมันตรังสีของ Cross Gate ใกล้ถึงขั้นวิกฤต บรรดาเอเจนท์จากบริษัทเมอเซอร์นารี่ต่างๆถูกลำเลียงมาที่นี่เพื่ออพยพผู้คนทั้งพ่อค้าแม่ค้าและคนทั่วไปออกจากเขต
"ย่ำแย่ลงทุกวัน ตอนนี้ครอสเกทเปิดทุกๆ 24 ชม. และเปิดใจกลางเมืองเลยด้วย มีแนวโน้มว่าจะเปิดถี่ขึ้นและจำนวนเพิ่มขึ้นถ้าเราไม่ทำอะไรซักอย่าง"
"เอเจนท์ระดับสูงตายไปเยอะมาก สัปดาห์ที่แล้วออก้ากับจุงวอนตายที่ปักกิ่ง เดือนก่อนเซบัสเตียนตายที่โรม เราเสียคิงและควีนไปในเวลาไล่เลี่ยกัน ทำให้กำลังรบของเราน้อยลง ยังไม่นับพวกเอเจนท์ระดับกลางและล่างที่ตายยังกับใบไม้ร่วง..."
"ไม่ใช่แค่บริษัทเราที่กำลังแย่ ทุกบริษัทในธุรกิจเมอเซอร์นารี่กำลังแย่เพราะขาดบุคลากรที่มีคุณภาพและไม่สามารถหามาทดแทนได้ทันเวลา ถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อไปโลกจะตกสู่สภาวะวิกฤติ"
"แต่ถึงจะพูดแบบนั้นบริษัทเราก็โดนผลกระทบเยอะที่สุดอยู่ดี เราเสียยานขนส่งไป 10 ลำ ใน 3 เดือน เสียเอเจนท์ระดับสูงไป 3 คนใน 2 เดือนยังไม่รวมค่ายุทโธปกรณ์ที่เสียหายในสนามรบและสูญหายอีก สมาพันธ์โลกไม่ได้ชดเชยค่าเบี้ยสงครามให้เราเลย"
"สมาพันธ์โลกเองคงจะเอาตัวไม่รอดเหมือนกัน ได้ข่าวว่าเมื่อปีก่อนก็เสียเอเจนท์คนสำคัญไป 5 คน ตอนภารกิจยึดคืนกรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์กับไต้หวัน"
การประชุมบอร์ดผู้บริหารของบริษัท โซล่า คอร์ป 1 ใน 5 บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจเมอเซอร์นารี่จัดขึ้นทุกๆสิ้นเดือน ครั้งนี้เป็นครั้งที่ตึงเครียดที่สุดตั้งแต่จัดตั้งบริษัท ประธานบริษัท โอ แชยอง ทายาทรุ่นที่ 3 แห่งตระกูลโอผู้ก่อตั้งบริษัทนั่งกุมขมับบนโต๊ะยาวด้านหน้าผู้บริหารทั้งหมดสถานการณ์ในปัจจุบันถึงแม้ว่าเมื่อ 5 ปีก่อนมนุษยชาติจะสามารถโต้กลับและยึดกรุงโซลประเทศเกาหลีใต้กลับคืนมาทว่าสถานการณ์ก็ไม่ได้ดีขึ้นเท่าที่ควร เนื่องจากจำนวนซีดีเอที่มากขึ้นทุกวัน อัตราการเกิดกัมมันตรังสีครอสเกทก็เพิ่มขึ้นจนน่าตกใจ และที่สำคัญกำลังพลพร้อมรบที่น้อยลงๆจนหาคนมาแทนไม่ได้ขัดกับนโยบายที่ต้องการยึดเมืองหลวงของทุกประเทศคืนจากซีดีเอ ทำให้โซล่าตกที่นั่งลำบากเพราะไม่สามารถตอบสนองนโยบายของสมาพันธ์โลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
"หน่วยไวท์ฮาวน์ เหลือใครบ้าง?"
"ตอนนี้เหลือเพียง มิรันด้าค่ะบอส นอกนั้นตายหมดแล้ว..."
"เฮ้อ.... เหลือแค่โอเปอร์เรเตอร์สินะ แล้วนี่ส่งเอเจนท์ไปช่วยอพยพคนจากพื้นที่ K001 แล้วใช่ไหม?"
"ยังค่ะ ยานลำเลียงเกิดขัดข้องกะทันหัน ช่างกำลังซ่อมอยู่ค่ะ..."
"เฮ้ออออ...."
แชยองกุมหัวฟุบลงกับโต๊ะความเงียบปกคลุมห้องชั่วขณะ ปัญหาต่างๆประดังเข้ามาทำเอาสาวน้อยอายุ 18 ปวดหัวไมเกรนเธอผ่อนลมหายใจยาวพร้อมกับท่องในใจว่า "วูซ่าาาา"
...รุ่นพี่คะ กลับมาทีเถอะ ฉันไม่ไหวแล้ว...
ระหว่างนั้นประตูห้องประชุมก็เปิดออกพร้อมหญิงสาวในชุดเอเจนท์ปฏิบัติการของโซล่าคอร์ป ผมยาวสีขาวควันบุหรี่ที่เป็นเอกลักษณ์กับปืนสั้นคู่ที่สะพายไขว้ไว้ด้านหลัง เมื่อเห็นดังนั้นแชยองก็ตาลุกวาวขึ้นมาทันที
"พี่อาเมะ !!!"
"อาเมริ?"
พัค ยอนจู หัวหน้าฝ่ายข่าวกรองเลิกคิ้ว
"ยังไม่ตายอีกหรอ? หายหัวไปไหนมา เขาตามหากันให้ควัก !!!"
ควอน นารา หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการและวางแผนตบโต๊ะดังปัง
"น่าจะกลับมาให้เร็วกว่านี้นะคะ ถ้ามีคุณอยู่บริษัทเราคงยังไม่ถึงจุดตกต่ำขนาดนี้..."ซานดร้า กราเซียร์ หัวหน้าฝ่ายการเงินและกองคลังถลึงตาใส่
"เธอไปตายที่ไหนมา หะ !!! ....มิรันด้าจะกัดลิ้นตายอยู่แล้วเพราะรอเธอกลับมาน่ะ !"
และสุดท้ายน้องสาวของโอเปอร์เรเตอร์แห่งหน่วยไวท์ฮาวน์เลขาประธานโอ แชยอง อเล็กซานเดรีย มิ้นท์
ภายใต้เสียงต่อว่าปนดีใจของเพื่อนร่วมงาน ยูเมโนะ อาเมริ ไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายอะไรกับคำพูดเหล่านั้น เธอโฟกัสเพียงเป้าหมายและสิ่งที่เธอต้องทำ หญิงสาวตบโต๊ะเสียงดังลั่นก่อนจะตามมาด้วยความเงียบที่ปกคลุมห้องอีกครั้ง
...กริบ...
"ฉันจะไปอพยพคนที่เขต K001 เรียกหน่วยไวท์ฮาวน์ให้หน่อย"
"หน่วยไวท์ฮาวน์เหลือแค่มิรันด้า เธอจะเอามิรันด้าไปตีกับซีดีเอหรือไง?"
ควอน นารา เอ่ยถามพลันโยนเอกสารรายงานผู้เสียชีวิตจากหน่วยไวท์ฮาวน์ทั้งหมดให้อาเมริ หญิงสาวหยิบขึ้นมาเปิดอ่านก่อนจะโยนมันกลับไปให้นารา
"เข้าใจแล้ว"
"เฮ้ย ! จะไม่พูดอะไรซักคำหรือไง นังบ้า !!!"
เธอหันหลังเดินออกจากห้องอย่างรวดเร็วพร้อมกับเสียงด่าตามหลังของควอน นารา บรรยากาศการประชุมกลับมาเงียบอีกครั้ง การปรากฎตัวของหัวหน้าหน่วยไวท์ฮาวน์คนเก่าตำนานผู้ทวงคืนกรุงโซลคืนจากซีดีเอมีผลต่อการประชุมครั้งนี้
"ฉันว่า พวกเรามีความหวังแล้วล่ะ..."
แชยองพูดพร้อมรอยยิ้ม
บนยานขนส่งบริษัทอัลฟ่าเรด เวลา 10:35 PM ห่างจากจุด K001 12 นาที
"ไม่ได้เจอกันนานนะ ยัยหมาป่าสีขาว อาเมริ"
"เช่นกัน ซุยจิน"
"เป็นยังไงบ้าง คิดยังไงถึงกลับมา คนอย่างเธอตัดสินใจอะไรแล้วไม่เคยหันหลังกลับนี่?"
"ฉันมีธุระนิดหน่อย...."
"เกี่ยวกับคนเมื่อ 5 ปีก่อนอีกแล้วสินะ ไปรู้อะไรมาอีกล่ะ ?"
ซุยจิน เอเจนท์แนวหน้าระดับควีนของบริษัทอัลฟ่าเรด บริษัทเมอเซอร์นารี่ระดับเดียวกับโซล่าแต่อัลฟ่าเรดมีสถานการณ์ภายในดีกว่าเนื่องจากอัลฟ่าเรดก่อตั้งหลังโซล่าราวๆ 3 ปีและมีผู้บริหารที่มีเส้นสายภายในสมาพันธ์โลกจึงเหมือนเป็นคลื่นลูกใหม่ต่างจากโซล่าที่ก่อตั้งมานานแล้ว
"ฉันแค่อยากสืบจนถึงที่สุดเท่านั้นน่ะ"
"อาเมริ เธอควรปล่อยวางบ้างนะ ในโลกนี้มีเอเจนท์เถื่อนเยอะแยะพอๆกับซีดีเอที่เราเจออยู่ เธอใช้เวลา 5 ปีเพื่อพลิกแผ่นดินหาเขา เสียทั้งเวลา เสียทั้งเงิน เธอต้องการอะไรจากเขากันแน่ ?"
"ตั้งแต่ฉันเป็นเอเจนท์มา คนที่ฆ่าราชินีซีดีเอได้ในดาบเดียวมีแค่เขาคนเดียวเธอคิดว่าฉันต้องการอะไรจากเขาล่ะ ?"
"เธอคิดจะชวนเขาเข้าหน่วยไวท์ฮาวน์หรอ ?"
"...."
"อืม ฉันพอเข้าใจนะ ที่เธออยากได้คนเก่งเข้าหน่วยเพื่อช่วยโลกเพื่อแก้แค้นพวกนั้น"
"ฉันไม่ได้ทำเพื่อโลกหรือแก้แค้นอะไรทั้งนั้น ฉันแค่ทำเพื่อมีชีวิตรอด เพื่อเงิน ถ้าหน่วยฉันมีคนเก่ง ภารกิจก็จะเยอะขึ้นเงินก็จะเยอะขึ้น เท่านั้นล่ะ... "
"ซึนได้โล่ไม่เปลี่ยนเลยนะ เธอเนี่ย..."
ซุยจินยิ้มมุมปากทิ้งตัวลงนั่งข้างอาเมริที่กำลังครุ่นคิดบางอย่างอยู่ ทั้งสองเป็นเพื่อนกันมานานตั้งแต่สมัยเข้าเป็นเอเจนท์แรกๆฝึกมาด้วยกันในค่ายทหารกองทัพวัลคิรี่ 3 ปี ฝึกหน่วยรบพิเศษอีก 2 ปีและออกมาประจำที่บริษัทเมอเซอร์นารี่ เดิมทีซุยจินเป็นเอเจนท์ของโซล่าแต่เพราะอัลฟ่าเรดขอซื้อตัวในราคาสูงเธอจึงเปลี่ยนบริษัทมาอยู่ที่นี่
"ถ้าพูดถึงเรื่องหน้าเงินน่ะ ต้องฉันนี่ไม่ใช่เธอ ยัยซึน"
ซุยจินพูดพลางนึกถึงสมัยก่อนที่อัลฟ่าเรดเปิดใหม่ๆและมายื่นขอเสนอให้เธอกับอาเมริ
"พวกนั้นให้เงินเธอสองเท่าของฉัน เธอยังไม่เอาเลย"
"ฉันอาจจะโง่ก็ได้..."
"ฮึ อย่างเธอน่ะหรอโง่ ยัยหมาป่าถ้าเธอไม่แน่จริงคงไม่ได้เป็นตัวหลักของโซล่ามาจนถึงตอนนี้หรอกนะการที่เธอหายตัวไปมีผลมากต่อโซล่า เธอรู้ใช่ไหม?"
"อือ..."
"นิสัยเผาป่าระเบิดกระท่อมของเธอถึงมันจะเป็นสาเหตุให้ผู้บังคับบัญชาปวดหัวแต่มันเป็นจุดเด่นและบ่งบอกว่าเธอไม่กลัวตายขณะปฏิบัติหน้าที่เหมือนนักล่าที่ไม่เคยละเว้นเหยื่อแม้จะบาดเจ็บสาหัสขนาดไหน ฉายาหมาป่าสีขาวที่คนอื่นเขาเรียกเธอน่ะ มันไม่ได้มาเล่นๆนะ"
"ฉันทำเพื่อตัวเองเท่านั้น... ฉายานั่นฉันไม่ได้สนใจมันหรอก"
อาเมริหยิบปืนคู่ออกมาจากด้านหลัง ปลดล็อคด้วยระบบสัมผัสที่ด้ามจับและป้อนคำสั่ง Generate กระสุนบนกระบอกปืนมีอักษรสลัก หนึ่งกระบอกเขียนว่า Incubuss และอีกหนึ่งเขียนว่า Succubuss
"ไปกันเถอะ ถึงแล้ว"
หญิงสาวลุกขึ้นเดินออกไปท้ายยาน ซุยจินคว้าปืนไรเฟิลขนาด .40Calและลุกเดินตามไป
"อินคิวบัส ซัคคิวบัส เจ้าเขี้ยวคู่ของเธอไม่ได้เจอนานเลยนะนี่"
"อืม ฉันก็ไม่ได้เห็นความงามของบลัดดี้แมรี่มานานมากแล้ว"
หมาป่าสีขาวแห่งโซล่าเหลือบมองปืนไรเฟิลขนาด .40Calของซุยจิน , Bloody Marryไรเฟิลต่อต้านอากาศยานและยานเกราะสีแดงสดทั้งกระบอกปรับแต่งพิเศษ ควบคุมโดยระบบไฟฟ้าอิเล็คตรอนเทคโนโลยีเฉพาะของอัลฟ่าเรดที่ทำให้ปืนสามารถชาร์จยิงเป็นปืนเลเซอร์ไฟฟ้าแรงสูง (Rail gun) ได้เพียงปรับโหมด
[เตรียมปล่อยตัวเอเจนท์]
ไฟสีแดงเหนือประตูห้องโดยสารสว่างขึ้น
"ไม่ต้องบอกคนอื่นนะว่า มากับฉันเดี๋ยวเรื่องไปถึงอัลฟ่าเรดแล้วจะยุ่ง"
"อือ ขอบใจมาก"
[ปล่อยตัวเอเจนท์]
ประตูห้องโดยสารเปิดออก อาเมริทิ้งตัวลงในแนวดิ่งเช่นเดียวกับซุยจินทั้งสองพุ่งลงยังเป้าหมายจุด K001 ที่ตอนนี้กัมมันตรังสีครอสเกทเริ่มหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ
"ทุกหน่วยโปรดทราบ เกิดปรากฎการณ์ครอสเกทแล้ว ย้ำ เกิดปรากฎการณ์ครอสเกทแล้ว ให้ทุกหน่วยเร่งมืออพยพคนและเตรียมรับมือการโจมตี"
เสียงประกาศตามไซเรน เนื่องจากแรงกดอากาศโดยรอบเขต K001 เริ่มต่ำลงและเกิดสะเก็ดสีดำควบแน่นกับอากาศก่อตัวรวมกันเป็นจุดสีดำขนาดเล็กก่อนจะใหญ่ขึ้นจนเกิดเป็นประตูมิติหรือที่เรียกกันว่า ครอสเกท (Cross gate)
"ตรวจพบซีดีเอระดับ 3 ย้ำ ตรวจพบซีดีเอระดับ 3 ทุกหน่วยเตรียมรับมือการโจมตีขั้นสูงสุด"
ปรากฎขาขนาดใหญ่ของสัตว์ประหลาดลักษณะคล้ายแมงมุมก้าวออกมาจากประตูมิติ
"... ตรวจพบซีดีเอระดับ 4 อีกหนึ่งตัว ย้ำ... ตรวจพบซีดีเอระดับ 4 อีกหนึ่งตัว ทุกหน่วยเตรียมพร้อมรับมือการโจมตีขั้นสูงสุด...."
เสียงประกาศตามไซเรนที่ขาดช่วงจากความตื่นตระหนกของผู้ประกาศ
อาเมริกับซุยจินลงถึงพื้นได้อย่างปลอดภัย ทั้งสองหันมองไปยังซีดีเอที่กำลังออกจากประตูมิติ
"ระดับ 4 หรอ? งานยากแล้วไง"
ซีดีเอระดับ 4 คือสัตว์ประหลาดข้ามมิติขนาดยักษ์โดยปรกติจะพบในคีปจำพวกราชินีเท่านั้น พิษสงของมันสามารถต่อกรกับกองทหารทั้งกองพันได้ ในอดีตนอกจากในคีปแล้วพบพวกมันได้น้อยมากแต่ละตัวจะมีลักษณะพิเศษแตกต่างกันออกไป ในภารกิจที่ฮ่องกงและมะนิลาต้องใช้เอเจนท์ระดับบิชอปและรูคกว่าห้าสิบคนเพื่อล้มมัน อัตราการสูญเสียเอเจนท์มีมากกว่ารอดเมื่อเผชิญหน้ากับซีดีเอระดับนี้
เปรี้ยง !!!
เสียงปืนไรเฟิลขนาด .40Cal ของซุยจิน ความแรงของปืนทำให้เกิดลมปะทะออกรอบข้างกระสุนขนาดใหญ่พุ่งทะลุเป้าหมายทำให้ซีดีเอระดับ 3 ที่เพิ่งออกจากครอสเกทเซไปชนกับตึกข้างหลังเกิดรูขนาดใหญ่บริเวณลำตัวของซีดีเอที่ถูกยิง
"เปิดก่อนได้เปรียบละนะ!"
"ฉันไปก่อนนะ คุ้มกันด้วย"
"อืม ไว้ใจได้เลย"
ซุยจินยกนิ้วโป้งให้อาเมริ เธอพยักหน้ารับและวิ่งออกไปยังเป้าหมายที่ตอนนี้ครอสเกทเปิดกว้างขึ้นเพราะซีดีเอระดับ 4 พยายามก้าวข้ามเข้ามา ระหว่างทางพบซีดีเอระดับ 1 และ 2 ตลอดทางมีแนวปะทะกันระหว่างหน่วยรบพิเศษของวัลคิรี่เป็นระยะ
ปัง! ปัง ! ปัง !
อาเมริลั่นไกปืนเพื่อเปิดทาง ซีดีเอขนาดเล็กไม่เป็นอุปสรรคของหมาป่าสาวที่กำลังพุ่งไปหาเหยื่อที่ใหญ่กว่า มีเสียงปืนไรเฟิลของซุยจินดังสนับสนุนเป็นระยะ
"ตายยากจริงแหะ!"
ชิ้ง... กริ๊ง
เปรี้ยง !!!
ซุยจินดันลูกเลื่อนปืนเพื่อสลัดกระสุนเก่าในรังเพลิงออกก่อนจะลั่นไกออกไปอีก คราวนี้กระสุน.40Cal ของเธอเข้าหัวของซีดีเอระดับ 3 พอดีมันเซไปเซมาชนกับตึกข้างทางจนล้มลงมาเสียหาย
"Gottcha !"
ซีดีเอระดับ 3 กระเสือกกระสนพยายามยื้อชีวิตตัวเองแต่มันไม่สามารถใช้ชีวิตได้หากปราศจากหัว... ซีดีเอระดับ 3 ถูกกำจัดอย่างง่ายดายโดยเอเจนท์ควีนซุยจินแห่งบริษัทอัลฟ่าเรด
"ตรวจพบซีดีเอระดับ 5 ย้ำ.... ตะ...ตรวจพบซีดีเอระดับ 5 ทะ...ทุกหน่วยโปรด....ตั้งรับการโจมตี"
เสียงประกาศตามไซเรนขาดหายไป คาดว่าคนประกาศน่าจะเป็นลมไปแล้ว
ระดับ 5 !?
อาเมริกัดฟันกรอดขณะวิ่งไปยังที่หมาย เสียงมือถือของเธอดังขึ้นมือเรียวล้วงเข้าไปหยิบมันขึ้นมาก็พบว่าเป็นสายของซุยจิน
"เธอได้ยินใช่ไหม ระดับ 5!"
"อือ"
"ฉันกำลังตามไปนะ อย่าเพิ่งลุยไปก่อนล่ะ!"
ปลายสายตัดไปอาเมริเก็บมือถือเข้ากระเป๋าเสื้อคลุม สถานการณ์กลางกรุงโซลเข้าสู่สภาวะวิกฤติประชาชนตื่นตระหนกทหารเริ่มคุมสถานการณ์ไม่อยู่เอเจนท์ขวัญกำลังใจหาย เสียงไซเรนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินขั้นสูงสุดดังสนั่นเมือง ยานจู่โจมจากทุกบริษัทเมอเซอร์นารี่เข้าประจำจุดเพื่อเตรียมโจมตี
[ โจมตี ! ]
คำสั่งโจมตีจากผู้บังคับบัญชาสูงสุดของวัลคิรี่ถึงยานทุกลำ ซีดีเอระดับ 4 ออกจากครอสเกทสำเร็จมันมีลักษณะคล้ายแมงมุมแต่มีมือสองข้าง มีเกราะหนาทั่วตัวและปล่อยสารพิษสีม่วงจากปล่องด้านหลังได้ ศพทหารหรือคนธรรมดาที่รับสารนั้นเข้าไปจะกลายสภาพเป็นซีดีเอและเข้าทำร้ายคนอื่นทันที
"แย่ล่ะ นั่นมันไม่ต่างจากไดเมนเคลื่อนที่..."
กรุงโซลกำลังจะกลายเป็นนรกบนดินในไม่ช้า...
เวลา 11:05 Unknown Point
[ Cross Gate access ]
เสียง AI จากระบบนาฬิกาของชายหนุ่มชุดดำที่ยืนอยู่บนเทือกเขาหิมะ แรงกดอากาศโดยรอบเริ่มลดต่ำลงหิมะสีขาวแปรเปลี่ยนเป็นสีดำเกิดจุดสีดำขนาดเล็กและค่อยๆขยายตัวใหญ่ขึ้นจนเกิดเป็นประตูมิติ
"วุ่นวายน่าดูเลยสิน่า..."
ร่างสูงมองผ่านเข้าไปในประตูมิตินั่นเห็นการต่อสู้อันดุเดือดระหว่างซีดีเอระดับ 4 และ 5 กับเอเจนท์อีกหลายสิบคน กรุงโซลพังพินาศไปกว่าครึ่งซากศพและเลือดนองไปทั่วเมืองมีแนวกั้นเป็นระยะของกองทหารวัลคิรี่เพื่อสกัดศพและมนุษย์ที่กลายพันธุ์
"ซุยจิน ใช้เรลกัน!"
"ได้ ! คุ้มกันด้วย"
อาเมริตะโกนบอกซุยจินที่สุ่มอยู่บนชั้นสองของซากตึก เธอเปลี่ยนระบบปืนเป็นการชาร์จเกิดกระแสไฟฟ้าวิ่งรอบตัวตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นมาที่ปืนหมุนวนรอบๆราวพายุและยิงออกไป
เปรี้ยงงง!!!!
ลำแสงเรลกันยิงแหวกอากาศออกไปเป็นเส้นเกิดลมปะทะออกด้านข้างด้วยแรงถีบของปืนจนซุยจินผงะไปด้านหลัง ซีดีเอระดับ 4 โดนเรลกันยิงเข้าที่อกอย่างจังมันทรุดล้มลงแต่ยังไม่หมดฤทธิ์ อาเมริประสานปืนเข้าหากันชาร์จพลาสม่าบอลยิงซ้ำเข้าไป
โฮกกกกก!!!
เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของซีดีเอระดับ 4 ทำให้ซีดีเอระดับ 5 รีบวิ่งเข้ามาช่วยมันทันที ซีดีเอระดับ 5 ตัวนี้มีลักษณะคล้ายลิงมีขนสีขาวปุกปุยยืนสองขามีแขน 4 แขน ที่สำคัญมันสร้างแผ่นดินไหวได้โดยการทุบพื้น
"อาเมริ ถอยก่อน!"
เมื่อเห็นดังนั้นซุยจินจึงส่งสัญญาณให้ถอย เอเจนท์คนอื่นๆยังคงระดมยิงและใช้อาวุธประจำตัวของตนสร้างความเสียหายให้มันอย่างต่อเนื่อง
"เจอบีสสายดินซะด้วย งานหนักหน่อยนะ"
ชายหนุ่มเดินก้าวผ่านครอสเกทมา เขายืนอยู่บนซากตึกสูงที่สามารถมองเห็นทุกอย่างและเห็นการต่อสู้ทั้งหมดได้อย่างชัดเจน
"แต่มันน่าจะหนักไปหน่อยล่ะ ..."
ดาบยาวที่พันผ้าด้านหลังถูกปลดออก...
ฟิ้ง!!!
ฉับ...!!!
โฮกกกก!!!
คมดาบขนาดใหญ่สีดำส่องประกายขึ้นพร้อมเสียงของซีดีเอระดับ 5 ที่ร้องโหยหวนเมื่อต้องเสียแขนข้างขวาไปทั้งสองแขน เอเจนท์ทั้งหมดหยุดชะงักด้วยความตกใจโดยเฉพาะหมาป่าสีขาวแห่งหน่วยไวท์ฮาวน์
"นั่นมัน..."
ฉับ ฉับ ฉับ !!!
ยังไม่ทันกระพริบตา คมดาบสีดำก็ส่องประกายราวแสงจันทร์ยาวค่ำคืนพุ่งเข้าตัดแขนที่เหลือทั้งหมดของซีดีเอตัวนั้นอีกครั้ง มันทิ้งตัวลงคุกเข่ากับพื้นเลือดสีม่วงไหลนองและระเหยไปอย่างรวดเร็ว
"อะ...อะไรน่ะ"
ซุยจินอ้าปากค้างมือยังแตะที่ไกปืน ซีดีเอระดับ 5 คือสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์เท่าตึก 6 ชั้นที่มีทั้งพละกำลังและความแข็งแกร่งขนาดจรวดต่อต้านอากาศยานยังไม่สามารถทำอะไรมันได้ เรลกันของเธอเองเคยยิงมันเมื่อหลายปีก่อนก็ทำได้เพียงสกัดมันไว้ ไม่สามารถล้มมันได้
อาเมริเงยมองไปยังตึกสูงที่ซึ่งชายหนุ่มชุดดำยืนอยู่ เขาเก็บดาบยาวเข้าด้านหลังพร้อมกับมองลงมายังเธอที่ยืนอยู่ด้านล่างสายตาทั้งสองผสานกัน ความทรงจำและความรู้สึกในตอนนั้นเธอไม่เคยลืม ...
...ได้เจอกันซักทีนะ ท่านยมทูต...
To be continue....
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ