โอรีเวีย 2 ( ล่มสลาย )
11) บรรณาการแห่งคาเล
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหนึ่งปีที่ผ่านพ้นในโอรีเวียนั้นช่างดำมืดเหลือเกินสำหรับพ่อมดเฒ่าดีมีน เขามองเห็นแต่ความล่มสลายของเมืองต่างๆ รวมทั้งจิตใจของมนุษย์ หลายสิ่งไม่อาจฟื้นคืนหลายอย่างไร้การเยียวยา ทุกอย่างดำเนินไปตามกาลเวลาดังข้าวโพดอ่อนที่งอกงามขึ้นในท้องทุ่ง ต่างเติบโตแล้วแตกฝักก่อนจะแห้งตายไป รอให้ใครสักคนมาเก็บเกี่ยวเอาโดยไม่อาจต้านทานหรือขัดขืนได้
พ่อมดดีมีนรู้สึกมาตลอดว่าเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นเหมือนมีใครฝังรากเอาไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรือใครพยายามจะทำอะไรผลสุดท้ายก็รวมอยู่เป็นรากเดียวไม่อาจหลีกพ้น
พ่อมดเฝ้ามองสิ่งต่างๆ ที่ดำเนินไปด้วยความรู้สึกหดหู่ ไม่อาจเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขสิ่งใดได้ ราวกับเขาคือมดตัวน้อยๆ แม้อยากขวางทางสายน้ำที่เชี่ยวกราก แต่ด้วยตัวเพียงคนเดียวแค่คิดก็ผิดมากแล้ว
ในเย็นวันหนึ่ง ก่อนที่พ่อมดดีมีนจะออกจากโอรีเวียเพื่อไปทำตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย เขาได้ก้าวผ่านประตูห้องที่ประดับด้วยหินสีดำบิดเป็นเกลียว เข้าไปสู่ห้องของส่วนตัวของจอมเวทวาลาน ซึ่งเจ้าของห้องเวลานี้กำลังนั่งอยู่เหนือบัลลัง
“ ท่านวาลานข้ามาขอคำชี้แนะ ”
พ่อมดดีมีนเอ่ยขึ้น
“ เรื่องมันจบไปแล้วดีมีน ถึงแม้จะจบไม่ดีอย่างที่เจ้าหวังไว้ แต่อย่าได้กังวลไปต่อจากนี้ข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง แล้วทุกอย่างจะต้องเรียบร้อยอย่างที่ควรจะเป็น ”
จอมเวทวาลานชิงสรุปก่อน
ในห้องนั้นยังมีคนอีกผู้หนึ่ง
เขาคือที่ปรึกษาเบรนทรัส
ขณะนี้กำลังยืนพิงกรอบหน้าตางอ่านตำราไปเงียบๆ
โดยไม่มีท่าทีจะสนใจผู้อื่นใด
“ แต่ข้ายังมีข้อสงสัยในเรื่องบุตรแห่งควอซาร์ ความวุ่นวายในโอรีเวียย่อมมีสาเหตุ การที่เราจับกุมตัวการไม่ได้นั่นหมายถึงความวุ่นวายจะยังไม่ยุติ แต่อย่างน้อยหากเราเข้าใจจุดประสงค์ของเขาเราจะสามารถเดาแผนการของเขาออก หรืออย่างน้อยเราควรรู้ว่าเขาเป็นใคร ”
พ่อมดดีมีนเอ่ยถึงสิ่งที่อยู่ภายในใจ
“ ข้าคงจะไม่พูดว่านั่นคือบุตรแห่งควอซาร์จริง การที่มีคนผู้หนึ่งผุดขึ้นมาจากเงามืดโดยไร้ที่มาที่ไป มันง่ายที่จะอ้างตนเป็นคนนั้นคนนี้ ยิ่งในช่วงเวลาที่ผู้คนกำลังสับสน บุตรแห่งควอซาร์แล้วอย่างไรเป็นผู้อื่นแล้วอย่างไร ในเมื่อเมืองคาเลกลายเป็นซากไปแล้ว การอ้างตัวว่าเป็นทายาทของเมืองนั้นจะได้อะไรนอกจากความลึกลับน่าเกรงขาม ดีมีนเอ๋ยคิดดูให้ดีหากท่านเป็นคนผู้นั้น ทายาทที่เหลืออยู่เพียงคนเดียว เป็นกษัตริย์ไร้บัลลังประชาชนในปกครองล้มหายตายหมดสิ้น ท่านจะยังอ้างตัวแบบนั้นหรือเร้นกายหายไปเลย ”
วาลานกล่าว
พ่อมดดีมีนได้แต่ก้มหน้า
ข้อกังขามากมายไม่สามารถยกออกไปได้
ใช่
อ้างตัวเป็นทายาทที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของเมืองคาเลแล้วได้อะไร
ในเมื่อเมืองนั้นล่มสลายไปแล้วนับสิบปี
และไม่มีทางฟื้นฟูคืนมาได้
เว้นแต่นี่คือการเตือน
เตือนถึงการแก้แค้นที่โหดร้ายและสาสม
“ ท่านอยากให้ข้ากลับไปที่เมืองคาเลอีกอย่างนั้นหรือ ”
พ่อมดดีมีนถาม
“ ยังก่อน ข้ารู้สึกแปลกใจว่าเหตุใดท่านไม่พบสิ่งใดในเมืองร้างนั่น บางทีเราอาจมองหาผิดที่ข้าอยากให้ท่านไปยังเมืองอันดอรีสต่างหาก ”
“ เมืองนั้นเพิ่งถูกโจมตีอย่างหนัก จากปีศาจร้ายที่ยังไม่อาจระบุตัวตน ท่านอยากให้ข้าไปช่วยฟื้นฟูเมืองหรือตามสืบหาบุคคลลึกลับผู้นั้น ”
“ ข้าได้ยินมาว่ากษัตริย์แห่งอันดอรีสองค์ก่อนเคยมีสำพันธ์อันลึกซึ้งกับเมืองคาเล ถึงขั้นมีการแลกเปลี่ยนเครื่องบรรณาการแก่กัน และการที่เมืองอันดอรีสอยู่รอดปรอดภัยมาโดยตลอดนั้นช่วยยืนยันเรื่องนี้ ข้าอยากรู้ว่าในครั้งนั้นกษัตริย์เมืองคาเลส่งสิ่งใดมาบรรณาการแก่อันดอรีส ”
“ ฝ่าบาทข้าไม่คิดว่าเมืองอันดอรีสจะแอบก่อเรื่องร้าย พวกเขาช่วยเหลือและให้ความร่วมมือกับเรามาตลอด หากท่านไม่หลงลืมเมืองอันดอรีสเพิ่งถูกโจมตีอย่างหนัก ถ้าพวกเขาจะติดต่อกับเมืองคาเลอย่างลับๆ ข้าก็พอเข้าใจเรื่องนี้ได้ เมืองทั้งสองมีชายแดนติดกันอีกทั้งยังไม่มีปราการใดขวางกั้น หากมีวิธีที่จะลดการกระทบกระทั่งก็สมควรต้องทำมิใช่หรือ ”
พ่อมดดีมีนแย้ง
“ ช้าก่อนท่านดีมีน ข้าเองก็ไม่ได้คิดว่าพันธมิตรเก่าแก่จะกลายเป็นศัตรูไปได้ แต่ชาวเมืองคาเลนั้นชั่วร้ายนักกษัตริย์ที่อ่อนแอของเมืองอันดอรีสหรือจะรู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยม ข้าจึงอยากให้ท่านไปสืบว่าปีศาจร้ายตนนั้นส่งสิ่งใดไปไว้ยังเมืองที่น่าสงสาร ”
ที่ปรึกษาคนเดียวแห่งจอมเวทวาลาน
ที่กำลังยืนอ่านหนังสืออยู่ริมหน้าต่าง
ได้ลดหนังสือของตนเองลง
จ้องมองเจ้านายเหมือนอยากกล่าวอะไร
แต่สุดท้ายก็ไม่เอ่ยออกมา
เพียงแต่ยกหนังสือขึ้นแล้วอ่านมันต่อไป
ส่วนพ่อมดเฒ่าดีมีนนั้นนิ่งเฉย
เหมือนยังตัดสินใจไม่ได้
“ ดีมีน ”
เสียงจอมเวทวาลานอ่อนโยน
“ ข้ารู้ว่าเจ้าห่วงอะไร แต่พวกเราชาวเวทย์ได้สัญญาแล้วว่าจะปกป้องมนุษย์ เราจำเป็นต้องทำลายเพื่อที่จะรักษามนุษย์ที่บริสุทธิ์เอาไว้ ข้าเองก็ลำบากใจที่ต้องเข่นฆ่าพวกเดียวกัน ดีมีนเอ๋ยในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วจะลังเลอะไรอีกล่ะ ถ้าเราเห็นอะไรไม่ชอบมาพากลเราก็ต้องไปสอดส่องมิใช่หรือ ถ้าหากควอซาร์ทิ้งสิ่งเลวร้ายเอาไว้ที่นั่นจริงเราจะไม่หาทางป้องกันก่อนหรือ ”
พ่อมดดีมีนได้แต่ถอนหายใจ
“ ปีนี้มีเรื่องร้ายแรงมากเหลือเกิน ”
เขาว่า
“ ข้ารู้ แต่คนเก่งๆ มีน้อยนักน่าเห็นใจมนุษย์ทั้งหลายที่ต้องตกเป็นเหยื่อ ต้องลำบากท่านอีกแล้วอย่ากังวลเรื่องการเยียวยาเลย ข้าจะจัดการเรื่องนี้อย่างดีที่สุด ”
“ ก็ได้ข้าจะไปอันดอรีส ”
พ่อมดเฒ่ารับปากแล้วเดินออกไป
จอมเวทวาลานหลับตาพลางถอนหายใจ
แล้วเอนกายไปด้านหลังอย่างเหนื่อยล้า
“ เขาใช้มนต์ดำโบราณนั่นหมายถึงว่าเขาเป็นชาวเมืองคาเล อย่างน้อยก็ชั้นราชวงศ์หรือร้ายกว่านั้นเขาคือบุตรแห่งควอซาร์จริงๆ ”
เบรนทรัสว่า
พลางเดินมายืนข้างหน้านายของตน
“ ข้ารู้ แต่อย่างน้อยตอนนี้เขายังไม่มีกองกำลัง ฝูงมังกรพวกนั้นก็ควบคุมยากยังไม่เป็นอันตรายกับพวกเรานักหรอก ”
วาลานว่า
เขาเอานิ้วจิ้มขมับด้วยอาการเหนื่อยล้า
“ ดูเหมือนท่านจะอาการไม่ค่อยดี ”
ที่ปรึกษาของเขาทัก
“ ดารีลเพิ่งจะส่งยาชุดใหม่มาให้เขาหายตัวไปนานกว่าที่ข้านึกไว้ ยาที่มีเลยหมด ”
“ ดูเหมือนเราจะดูแลเขาไม่ดีพอ คู่หมั้นของเขาต้องมาตายที่โอรีเวีย ทั้งหมดล้วนหละหลวมข้าคงต้องจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ”
เบรนทรัสว่า
“ ช่างเถอะ ให้ตายไปน่ะดีแล้ว เจ้าเด็กนั่นมีความคิดเห็นที่ไม่ดีกับการคืนชีพและการเป็นอมตะ แต่เมื่อคนรักต้องมาด่วนตายจากไปแบบนี้ บางทีเขาอาจเปลี่ยนความคิด ”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ