Fant World ฝ่าวิกฤตพิชิตโลกต่างมิติ
-
เขียนโดย Myrashan
วันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เวลา 07.47 น.
20 ตอน
1 วิจารณ์
13.93K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 12.58 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) ตอนที่ 9 เอ็น ป้อม ป้อง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“จะรีบไปไหนล่ะนายสองคน คิดว่าจะออกไปเฉย ๆ เลยงั้นหรอ”
กลุ่มเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับเอ็นมาขวางเอ็นกับป้อมไว้ คนที่ทักพูดคือเอก 6/3 หัวโจกห้อง 3 สูง 182 หนัก 74
“ใช่แล้ว ได้ข่าวว่ามีเกมใหม่มา มือโปรอย่างพวกนายคงไม่พลาดแน่นอนใช่ไหมล่ะ เลือกเอาละกันว่าจะอยู่คุยด้วยดี ๆ หรือจะให้ลากไปคุย”
เพื่อนสนิทของเอก ชื่อว่า ที 6/2 สูง 191 หนัก 85 เป็นนักบาสเกตบอลโรงเรียน เล่นตำแหน่งชู้ตติ้งการ์ด ตัวทำ 3 แต้มมือโปรเลย เป็นหัวโจกห้อง 2
“นี่เอ็น พวกมันเยอะมากเลยนะ รวม ๆ กันเป็นสิบคนเลยนะ เหนื่อยแย่ซะมั้งงานนี้ เผลอ ๆ เจ็บตัวอีกแน่พวกเรา”
ป้อมปรึกษากับเอ็นท่าทางกังวลพอสมควร
“เรื่องอื่นเอาไว้ก่อน ถามหน่อยสิป้อม นายกับพี่ป้องเลเวลเท่าไรแล้วตอนนี้ ได้อุปกรณ์เทพ ๆ กันบ้างหรือยัง”
เอ็นท่าทางขึงขังถามป้อมเรื่องเกม ไม่สนใจพวกนั้นเลย
“เราเวล 52 ส่วนพี่ป้องเวล 57 แล้วมั้ง เห็นทักไลน์มาบอกว่ากำลังหาอะไรกิน พึ่งลุยดันมารัว ๆ คือโหดไง คนเลยขอให้ช่วยเคลียร์”
ป้อมคุยกับเอ็นแบบไม่สนใจพวกนั้นเหมือนกัน พวกนั้นก็ตั้งใจฟังแบบคิ้วกระตุก จะเอาดีไม่เอาดี แล้วเอ็นได้ถามพวกของเอกว่า
“นี่พวกนาย จะรีบถอยไปดี ๆ หรืออยากให้คนมารับตัวไปโรงพยาบาลล่ะ ไหนบอกมาให้ชัด ๆ หน่อยสิ ตอนนี้กำลังรีบด้วย อารมณ์ไม่ค่อยแฮปปี้”
ป้อมจับไหล่เอ็นแล้วบอกเอ็นเบา ๆ ว่า
“ใจเย็น ๆ เพื่อน ที่นี่โรงเรียน ถ้าอาละวาดที่นี่ ทั้งเราทั้งมันเจอสอบยาว ๆ เลยนะ เสียเวลาเล่นเกมไปใหญ่เลยละทีนี้ เรียกผู้ปกครองอีก”
เอ็นจ้องพวกนั้นตาไม่กระพริบ แต่ในใจก็พยายามทำให้เย็นเพราะคำเตือนของป้อมมีเหตุมีผลมาก ส่วนเอกกำลังเดินเข้าไปหาเอ็น
“จริง ๆ ก็ไม่ได้จะมาหาเรื่องหรอกนะ แต่ว่ามีเรื่องอื่นมากกว่า”
เอกพูดไปจ้องหน้าเอ็นไป ป้อมเลยถามกลับไปว่า
“แล้วตกลงมีอะไร ตอนนี้ฟิวส์เอ็นมันจะขาดแล้วนะ ถ้ามีเหตุผลไม่ดีพอ สงสัยจะต้องเคลียร์กันยาว ๆ เพราะฉันเองก็ไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไร”
ทีเดินเข้ามาประจันหน้ากับป้อมแล้วอธิบายสาเหตุที่มาดักรอให้ทั้งสองคนได้ฟัง
“จริง ๆ แล้วพรุ่งนี้ก็วันเสาร์ หยุด 2 วันเลยนะ จะมาตกลงด้วยหน่อย เรื่องเกมน่ะ จริง ๆ ก็ไม่ได้จะมาหาเรื่องอะไรหรอก”
“ใช่แล้วล่ะ เรื่องดันเจี้ยน เรดดันเจี้ยน แล้วก็เรื่องกิลด์ คือว่าถ้ามันหนัก ๆ ก็อยากจะได้คนช่วยหน่อย ส่วนเรื่องกิลด์ ถ้าพวกนายสร้างเมื่อไร พวกเราก็อยากมีส่วนร่วมด้วยหน่อยน่ะ ก็นะ ประมาณนี้”
เอกอธิบายเสริมต่อจากที แล้วถามเอ็นกับป้อมต่ออีกว่า
“ขอชื่อตัวละครหน่อยได้ไหม เดี๋ยวจะแอดไป จะได้ติดต่อได้น่ะ”
“เอาสิ เอาของป้อมนะ เพราะว่าตอนนี้ยังไม่อยากสู้ร่วมกับใคร ตอนนี้ตัวยังกากอยู่ พาใครดันไม่ไหวหรอก แล้วเรื่องกิลด์ ถ้าพวกนายติดท็อป 1,000 ได้ จะให้เข้าละกัน เอาตามนี้นะ จะรีบไปเก็บเวลต่อ ตอนนี้ช้าแล้วล่ะ”
เอ็นสรุปให้พวกเอกกับทีฟัง แต่ทียังสงสัยจึงถามเอ็นอีกว่า
“เดี๋ยวก่อนสิ นายเล่นนักอะไรเกมนี้ ใช่นักเวทย์หรือเปล่า”
“ไม่หรอก เล่นนักทวนนักง้าวน่ะ น่าจะมันส์กว่าเลยเอา ถ้าเวทย์มันไม่ได้เข้าไฟท์ อีกอย่างชุดเกราะเหล็กยังไงก็ดูเท่กว่าเกราะผ้า แค่นี้ละกัน ไปละ”
เอ็นพูด ๆ ๆ แล้วก็ไปเลย ส่วนป้อมก็ให้ชื่อในเกมกับพวกเอกและทีไป แต่พวกลูกสมุนไม่ค่อยพอใจสักเท่าไรนัก
“นี่เอก ทำไมนายไม่เอาพวกมันเลยล่ะ พวกเราเยอะกว่าตั้งเยอะ ดูพูดจาน่าหมั่นไส้มากเลย ยิ่งไอ้เอ็นนะยิ่งชวนหงุดหงิด”
ศร สมาชิกในกลุ่มพูดถามด้วยความไม่พอใจ เอกจึงเดินมาตบไหล่เบา ๆ แล้วบอกกับพวกเขาทุกคนว่า
“อย่างแรกที่นี่ในโรงเรียน อย่างที่สองคือไม่อยากให้พวกเรานอนโรงพยาบาลว่ะ ขอตัวก่อนละกัน เออที ฝากอธิบายด้วย เรากลับบ้านก่อนว่ะ”
“เคเพื่อน แล้วพวกนายเดินตามมานี่ นั่งคุยที่โต๊ะหินอ่อนดีกว่า”
ทีพาพวกของเขาอีก 12 คนเดินตามไปนั่งที่โต๊ะหินอ่อน แล้วนั่งคุยกัน ทีเริ่มเล่าเรื่องเกี่ยวกับเอ็นและป้อมให้พรรคพวกฟัง
“พวกนายย้ายมาที่นี่ตอน ม.ปลายแล้ว จะไม่รู้จักสองคนนั้นก็ไม่แปลก ถ้าจะเล่าคงต้องเริ่มตั้งแต่ตอนพวกเรา ม.3 เอ็น ป้อม เอก แล้วก็ข้าเรียนที่นี่ จริง ๆ แล้วเอ็นกับป้อมมีเพื่อนสนิทอีกคนชื่อว่าริว เป็นคนหน้าตาดี เรียนเก่ง จึงทำให้มีสาว ๆ มากรี๊ดไม่น้อยเลย แต่ว่าดันมีรุ่นพี่ ม.5 คนนึงมาชอบมัน ชื่อว่าน้ำผึ้ง เป็นดาวของโรงเรียนเราในตอนนั้นเลย ทั้งสวยทั้งเก่ง ทำให้มีคนมาตามจีบพี่คนนั้นเยอะมาก ทั้งในและนอกโรงเรียน แต่พอพี่น้ำผึ้งไปชอบกันกับริว คนพวกนั้นเลยไม่พอใจ ทำให้เกิดเรื่องขึ้น”
“แสดงว่าไอ้คนชื่อริวนี่โดนกระทืบว่างั้นสิ”
ศรเอ่ยถาม ทีจึงตอบแล้วเล่าต่อ
“ใช่ พวกเด็กเทคนิค ปวช 2 ปวช 3 พาพวกมาดักตี พวกมันมา 10 กว่าคน เล่นริวซะนอนไอซียูไป 7 วันเลย แขนซ้ายหัก 3 ท่อน กระดูกขาแตก นอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลไปหลายเดือนเลยล่ะ”
โอม สมาชิกในกลุ่มพูดขึ้นว่า
“เด็กเทคนิคนี่เล่นกันแรงนะ มันหนักไปหรือเปล่า แล้วเอ็นกับป้อมก็ไปเอาคืนใช่ไหม ผลเป็นยังไงบ้างล่ะอยากรู้ ต่อเลย ๆ รอฟัง”
“จะว่างั้นก็ถูก แต่ไม่หมด พวกเอ็นไปสืบหาความจริงว่าใครทำ แต่ก็ไม่ค่อยมีคนอยากจะพูด ป้อมเครียดอยู่หลายวันจนทำให้พี่ชายเขาสงสัย พาคุยกันเขาก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พี่ป้องพี่ชายของป้อมเลยสืบเอง พอรู้ตัวแล้วพี่ป้องก็ไปอัด 1 ในคนที่มาตีริว เพราะ 3 คนนั้นสนิทกันมาก พี่ป้องก็เห็นเอ็นกับริวเหมือนน้องแท้ ๆ เลยมั้ง มาโดนแบบนี้เลยอยู่เฉยไม่ได้ ตอนอัดไอ้คนนั้นไม่รู้ว่าพูดอะไรไปบ้าง แต่ 3 วันต่อมาเป็นวันเสาร์ พวกนั้นพาพวกมา 26 คน มีทั้งไม้หน้าสาม กระบอง ไม้เบสบอล ไม้ทีกันเยอะแยะ แต่พวกพี่ป้องมีไปแค่ 3 คนคือ พี่ป้อง ป้อมและเอ็น ไปกันตัวเปล่า”
ทีเล่าให้พวกเพื่อนฟัง พวกเขาตั้งใจฟังกันมาก ศรยังไม่เลิกพูด ด้วยความอินจึงได้เอ่ยออกมาอีกว่า
“จำนวนขนาดนั้น ไปให้เขาตีเข้าโรงพยาบาลอีกซะมั้ง”
ทีจึงตอบแล้วเล่าต่อไป
“ใช่ ทั้งสามคนถูกหามเข้าโรงพยาบาลหมด แต่พวกนั้นก็เจ็บไม่น้อยนะ มีที่แขนหัก 7 คน สาหัสเข้าไอซียู 4 คน เข้าโรงพยาบาลอีก 5 คน อีก 10 คนมีที่สลบไปแต่ไม่บาดเจ็บมากประเภทโดนจุดสลบ 4 คน อีก 6 คนหนีไป ส่วน 3 คนทางเราบาดแผลก็มีไม่น้อยเลย ตอนนั้นใคร ๆ ก็รู้จักพี่ป้อง เพราะพี่เขาพึ่งจบ ม.6 ไปได้ปีเดียว พี่เขาก็เรียนที่โรงเรียนนี้ ตั้งแต่ตอนนั้นก็มีคนมาหาเรื่องเอ็นกับป้อมเรื่อย ๆ แต่พอพี่ป้องตั้งบริษัทได้แล้วอยู่ตัว พวกนั้นก็หายไปหมดเลย คิดว่าคงกลัวหัวหดไปแล้วล่ะ”
“ก็น่าอยู่หรอก ขนาดไม่มีอะไรยังเอาไม่ลง แต่นี่รวยขนาดนั้น จะหาเรื่องอีกก็อาจจะเป็นการรนหาที่ก็ได้”
โอมพูดขึ้นมาหลังจากที่ทีเล่าจบ คราวนี้ทุกคนจึงรู้วีรกรรมของเอ็นกับป้อม แล้วก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเอกถึงยอมถอยให้สองคนนี้
ทางป้องตอนที่ป้อมกลับไปถึงบ้านก็กำลังเล่นเกมอยู่ ป้อมจึงรีบอาบน้ำกินข้าวแล้วเข้าเกมเพื่อไม่ให้โดนพี่ชายทิ้งห่างไปมากกว่านี้
กลุ่มเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับเอ็นมาขวางเอ็นกับป้อมไว้ คนที่ทักพูดคือเอก 6/3 หัวโจกห้อง 3 สูง 182 หนัก 74
“ใช่แล้ว ได้ข่าวว่ามีเกมใหม่มา มือโปรอย่างพวกนายคงไม่พลาดแน่นอนใช่ไหมล่ะ เลือกเอาละกันว่าจะอยู่คุยด้วยดี ๆ หรือจะให้ลากไปคุย”
เพื่อนสนิทของเอก ชื่อว่า ที 6/2 สูง 191 หนัก 85 เป็นนักบาสเกตบอลโรงเรียน เล่นตำแหน่งชู้ตติ้งการ์ด ตัวทำ 3 แต้มมือโปรเลย เป็นหัวโจกห้อง 2
“นี่เอ็น พวกมันเยอะมากเลยนะ รวม ๆ กันเป็นสิบคนเลยนะ เหนื่อยแย่ซะมั้งงานนี้ เผลอ ๆ เจ็บตัวอีกแน่พวกเรา”
ป้อมปรึกษากับเอ็นท่าทางกังวลพอสมควร
“เรื่องอื่นเอาไว้ก่อน ถามหน่อยสิป้อม นายกับพี่ป้องเลเวลเท่าไรแล้วตอนนี้ ได้อุปกรณ์เทพ ๆ กันบ้างหรือยัง”
เอ็นท่าทางขึงขังถามป้อมเรื่องเกม ไม่สนใจพวกนั้นเลย
“เราเวล 52 ส่วนพี่ป้องเวล 57 แล้วมั้ง เห็นทักไลน์มาบอกว่ากำลังหาอะไรกิน พึ่งลุยดันมารัว ๆ คือโหดไง คนเลยขอให้ช่วยเคลียร์”
ป้อมคุยกับเอ็นแบบไม่สนใจพวกนั้นเหมือนกัน พวกนั้นก็ตั้งใจฟังแบบคิ้วกระตุก จะเอาดีไม่เอาดี แล้วเอ็นได้ถามพวกของเอกว่า
“นี่พวกนาย จะรีบถอยไปดี ๆ หรืออยากให้คนมารับตัวไปโรงพยาบาลล่ะ ไหนบอกมาให้ชัด ๆ หน่อยสิ ตอนนี้กำลังรีบด้วย อารมณ์ไม่ค่อยแฮปปี้”
ป้อมจับไหล่เอ็นแล้วบอกเอ็นเบา ๆ ว่า
“ใจเย็น ๆ เพื่อน ที่นี่โรงเรียน ถ้าอาละวาดที่นี่ ทั้งเราทั้งมันเจอสอบยาว ๆ เลยนะ เสียเวลาเล่นเกมไปใหญ่เลยละทีนี้ เรียกผู้ปกครองอีก”
เอ็นจ้องพวกนั้นตาไม่กระพริบ แต่ในใจก็พยายามทำให้เย็นเพราะคำเตือนของป้อมมีเหตุมีผลมาก ส่วนเอกกำลังเดินเข้าไปหาเอ็น
“จริง ๆ ก็ไม่ได้จะมาหาเรื่องหรอกนะ แต่ว่ามีเรื่องอื่นมากกว่า”
เอกพูดไปจ้องหน้าเอ็นไป ป้อมเลยถามกลับไปว่า
“แล้วตกลงมีอะไร ตอนนี้ฟิวส์เอ็นมันจะขาดแล้วนะ ถ้ามีเหตุผลไม่ดีพอ สงสัยจะต้องเคลียร์กันยาว ๆ เพราะฉันเองก็ไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไร”
ทีเดินเข้ามาประจันหน้ากับป้อมแล้วอธิบายสาเหตุที่มาดักรอให้ทั้งสองคนได้ฟัง
“จริง ๆ แล้วพรุ่งนี้ก็วันเสาร์ หยุด 2 วันเลยนะ จะมาตกลงด้วยหน่อย เรื่องเกมน่ะ จริง ๆ ก็ไม่ได้จะมาหาเรื่องอะไรหรอก”
“ใช่แล้วล่ะ เรื่องดันเจี้ยน เรดดันเจี้ยน แล้วก็เรื่องกิลด์ คือว่าถ้ามันหนัก ๆ ก็อยากจะได้คนช่วยหน่อย ส่วนเรื่องกิลด์ ถ้าพวกนายสร้างเมื่อไร พวกเราก็อยากมีส่วนร่วมด้วยหน่อยน่ะ ก็นะ ประมาณนี้”
เอกอธิบายเสริมต่อจากที แล้วถามเอ็นกับป้อมต่ออีกว่า
“ขอชื่อตัวละครหน่อยได้ไหม เดี๋ยวจะแอดไป จะได้ติดต่อได้น่ะ”
“เอาสิ เอาของป้อมนะ เพราะว่าตอนนี้ยังไม่อยากสู้ร่วมกับใคร ตอนนี้ตัวยังกากอยู่ พาใครดันไม่ไหวหรอก แล้วเรื่องกิลด์ ถ้าพวกนายติดท็อป 1,000 ได้ จะให้เข้าละกัน เอาตามนี้นะ จะรีบไปเก็บเวลต่อ ตอนนี้ช้าแล้วล่ะ”
เอ็นสรุปให้พวกเอกกับทีฟัง แต่ทียังสงสัยจึงถามเอ็นอีกว่า
“เดี๋ยวก่อนสิ นายเล่นนักอะไรเกมนี้ ใช่นักเวทย์หรือเปล่า”
“ไม่หรอก เล่นนักทวนนักง้าวน่ะ น่าจะมันส์กว่าเลยเอา ถ้าเวทย์มันไม่ได้เข้าไฟท์ อีกอย่างชุดเกราะเหล็กยังไงก็ดูเท่กว่าเกราะผ้า แค่นี้ละกัน ไปละ”
เอ็นพูด ๆ ๆ แล้วก็ไปเลย ส่วนป้อมก็ให้ชื่อในเกมกับพวกเอกและทีไป แต่พวกลูกสมุนไม่ค่อยพอใจสักเท่าไรนัก
“นี่เอก ทำไมนายไม่เอาพวกมันเลยล่ะ พวกเราเยอะกว่าตั้งเยอะ ดูพูดจาน่าหมั่นไส้มากเลย ยิ่งไอ้เอ็นนะยิ่งชวนหงุดหงิด”
ศร สมาชิกในกลุ่มพูดถามด้วยความไม่พอใจ เอกจึงเดินมาตบไหล่เบา ๆ แล้วบอกกับพวกเขาทุกคนว่า
“อย่างแรกที่นี่ในโรงเรียน อย่างที่สองคือไม่อยากให้พวกเรานอนโรงพยาบาลว่ะ ขอตัวก่อนละกัน เออที ฝากอธิบายด้วย เรากลับบ้านก่อนว่ะ”
“เคเพื่อน แล้วพวกนายเดินตามมานี่ นั่งคุยที่โต๊ะหินอ่อนดีกว่า”
ทีพาพวกของเขาอีก 12 คนเดินตามไปนั่งที่โต๊ะหินอ่อน แล้วนั่งคุยกัน ทีเริ่มเล่าเรื่องเกี่ยวกับเอ็นและป้อมให้พรรคพวกฟัง
“พวกนายย้ายมาที่นี่ตอน ม.ปลายแล้ว จะไม่รู้จักสองคนนั้นก็ไม่แปลก ถ้าจะเล่าคงต้องเริ่มตั้งแต่ตอนพวกเรา ม.3 เอ็น ป้อม เอก แล้วก็ข้าเรียนที่นี่ จริง ๆ แล้วเอ็นกับป้อมมีเพื่อนสนิทอีกคนชื่อว่าริว เป็นคนหน้าตาดี เรียนเก่ง จึงทำให้มีสาว ๆ มากรี๊ดไม่น้อยเลย แต่ว่าดันมีรุ่นพี่ ม.5 คนนึงมาชอบมัน ชื่อว่าน้ำผึ้ง เป็นดาวของโรงเรียนเราในตอนนั้นเลย ทั้งสวยทั้งเก่ง ทำให้มีคนมาตามจีบพี่คนนั้นเยอะมาก ทั้งในและนอกโรงเรียน แต่พอพี่น้ำผึ้งไปชอบกันกับริว คนพวกนั้นเลยไม่พอใจ ทำให้เกิดเรื่องขึ้น”
“แสดงว่าไอ้คนชื่อริวนี่โดนกระทืบว่างั้นสิ”
ศรเอ่ยถาม ทีจึงตอบแล้วเล่าต่อ
“ใช่ พวกเด็กเทคนิค ปวช 2 ปวช 3 พาพวกมาดักตี พวกมันมา 10 กว่าคน เล่นริวซะนอนไอซียูไป 7 วันเลย แขนซ้ายหัก 3 ท่อน กระดูกขาแตก นอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลไปหลายเดือนเลยล่ะ”
โอม สมาชิกในกลุ่มพูดขึ้นว่า
“เด็กเทคนิคนี่เล่นกันแรงนะ มันหนักไปหรือเปล่า แล้วเอ็นกับป้อมก็ไปเอาคืนใช่ไหม ผลเป็นยังไงบ้างล่ะอยากรู้ ต่อเลย ๆ รอฟัง”
“จะว่างั้นก็ถูก แต่ไม่หมด พวกเอ็นไปสืบหาความจริงว่าใครทำ แต่ก็ไม่ค่อยมีคนอยากจะพูด ป้อมเครียดอยู่หลายวันจนทำให้พี่ชายเขาสงสัย พาคุยกันเขาก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พี่ป้องพี่ชายของป้อมเลยสืบเอง พอรู้ตัวแล้วพี่ป้องก็ไปอัด 1 ในคนที่มาตีริว เพราะ 3 คนนั้นสนิทกันมาก พี่ป้องก็เห็นเอ็นกับริวเหมือนน้องแท้ ๆ เลยมั้ง มาโดนแบบนี้เลยอยู่เฉยไม่ได้ ตอนอัดไอ้คนนั้นไม่รู้ว่าพูดอะไรไปบ้าง แต่ 3 วันต่อมาเป็นวันเสาร์ พวกนั้นพาพวกมา 26 คน มีทั้งไม้หน้าสาม กระบอง ไม้เบสบอล ไม้ทีกันเยอะแยะ แต่พวกพี่ป้องมีไปแค่ 3 คนคือ พี่ป้อง ป้อมและเอ็น ไปกันตัวเปล่า”
ทีเล่าให้พวกเพื่อนฟัง พวกเขาตั้งใจฟังกันมาก ศรยังไม่เลิกพูด ด้วยความอินจึงได้เอ่ยออกมาอีกว่า
“จำนวนขนาดนั้น ไปให้เขาตีเข้าโรงพยาบาลอีกซะมั้ง”
ทีจึงตอบแล้วเล่าต่อไป
“ใช่ ทั้งสามคนถูกหามเข้าโรงพยาบาลหมด แต่พวกนั้นก็เจ็บไม่น้อยนะ มีที่แขนหัก 7 คน สาหัสเข้าไอซียู 4 คน เข้าโรงพยาบาลอีก 5 คน อีก 10 คนมีที่สลบไปแต่ไม่บาดเจ็บมากประเภทโดนจุดสลบ 4 คน อีก 6 คนหนีไป ส่วน 3 คนทางเราบาดแผลก็มีไม่น้อยเลย ตอนนั้นใคร ๆ ก็รู้จักพี่ป้อง เพราะพี่เขาพึ่งจบ ม.6 ไปได้ปีเดียว พี่เขาก็เรียนที่โรงเรียนนี้ ตั้งแต่ตอนนั้นก็มีคนมาหาเรื่องเอ็นกับป้อมเรื่อย ๆ แต่พอพี่ป้องตั้งบริษัทได้แล้วอยู่ตัว พวกนั้นก็หายไปหมดเลย คิดว่าคงกลัวหัวหดไปแล้วล่ะ”
“ก็น่าอยู่หรอก ขนาดไม่มีอะไรยังเอาไม่ลง แต่นี่รวยขนาดนั้น จะหาเรื่องอีกก็อาจจะเป็นการรนหาที่ก็ได้”
โอมพูดขึ้นมาหลังจากที่ทีเล่าจบ คราวนี้ทุกคนจึงรู้วีรกรรมของเอ็นกับป้อม แล้วก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเอกถึงยอมถอยให้สองคนนี้
ทางป้องตอนที่ป้อมกลับไปถึงบ้านก็กำลังเล่นเกมอยู่ ป้อมจึงรีบอาบน้ำกินข้าวแล้วเข้าเกมเพื่อไม่ให้โดนพี่ชายทิ้งห่างไปมากกว่านี้
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ