ภวังค์รักในห้วงฝัน
เขียนโดย Yajula
วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2564 เวลา 23.05 น.
แก้ไขเมื่อ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 22.39 น. โดย เจ้าของนิยาย
19) เหตุเกิดที่ร้านอาหาร
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ยี่สิบ
เหตุเกิดที่ร้านอาหาร
หลายวันผ่านไป ชีวิตของทั้งคู่ดำเนินผ่านไปด้วยดี วันนี้เมศชวนมาทานข้าวที่ร้านอาหารเดิม ซึ่งเป็นร้านที่เธอกับพลอยบังเอิญเจอเขาเข้าพอดี ต่อมาภายหลังเขาสารภาพว่าเป็นการตั้งใจมาของเขาเอง
ตอนเย็นอากาศกำลังดี พวกเขาเลือกนั่งโต๊ะที่อยู่ด้านนอกสุดเพราะค่อนข้างที่จะสะดวกและมีลูกค้าไม่มากนักอยู่ในบริเวณนี้
“นั่นไง คิดไว้ไม่มีผิด!”ในขณะที่พาฝันกับเมศกำลังนั่งรออาหารกันอยู่นั้น จู่ ๆ เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นข้างหลังของพาฝัน เมื่อเธอหันไปมองจึงพบเข้ากับร่างของหญิงสาวที่คุ้นตา
“พลอย!” พาฝันอุทานชื่อออกมาด้วยความตกใจ พลางหันกลับไปมองร่างสูงของเมศที่นั่งส่งยิ้มให้กับเธอและเอ่ยทักทายพลอยด้วยน้ำเสียงปกติ
“อ้าวพลอย มากับใคร มานั่งคุยกันก่อน” เมศลุกขึ้น พลางยกเก้าอี้ตัวที่ว่างออก เพื่อให้เพื่อนได้นั่ง ไม่สนใจสีหน้าจับผิดของพลอยที่มองมาทางพวกเขาเขม็ง แตกต่างจากพาฝันที่ตอนนี้สีหน้ากระอักกระอ่วนของเธอยิ่งสร้างความมั่นใจให้พลอยอย่างช่วยไม่ได้ ทันทีที่พลอยนั่งลง เธอก็ตอบเมศไปว่า
“มาเองน่ะสิ ชวนใครแถวนี้ก็บอกไม่ว่าง” พลอยมองค้อนพาฝันทันทีอย่างทีเล่นทีจริง
“แล้วนี่พวกแกสองคนคบกันเหรอ?” คำถามที่ตรงไปตรงมาของพลอยสร้างความพอใจให้กับเมศเป็นอย่างมากเขาจึงพยักหน้ายิ้มตอบ ในขณะเดียวกันก็สร้างความเก้อเขินให้กับพาฝัน หญิงสาวจึงไม่กล้าสบตากับเพื่อนสาวและเลี่ยงที่จะมองไปทางอื่นแทน
“ฉันเป็นเพื่อนแกจริงหรือเปล่า?” พลอยมองไปทางพาฝันอย่างไม่เชื่อสายตา จริงอยู่ที่เมศกับพาฝันรู้จักกัน แต่เธอไม่คิดว่าพวกเขาจะ แอบติดต่อกันและคบหากันในเวลาต่อมา ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พวกเธอสองคนอยู่ด้วยกัน พาฝันก็ไม่ได้เล่าอะไรหรือเผยท่าทีพิรุธอะไรให้เห็นเลยสักนิด ยัยเพื่อนคนนี้ไม่ไหวเลยจริง ๆ พลอยหรี่ตามองพาฝันที่กำลังมองมาด้วยท่าทีแหย ๆ อย่างสำนึกผิด
“ฉันขอโทษ”
“ฉันไม่ยกโทษให้ง่าย ๆ หรอก โทษฐานที่ทำให้เพื่อนคนนี้ตกใจ กลับไปแกต้องเล่าให้ฉันฟังอย่างละเอียดด้วย” พลอยพูดอย่างคาดโทษ ทั้งที่ในใจกลับรู้สึกยินดีกับเพื่อนของเธอที่หาความรักของตัวเองเจอ
“ได้” พาฝันรับปากอย่างรวดเร็ว
“เมศ” เสียงเรียกที่แผ่วเบาของหญิงสาวร่างเล็กคุ้นตาในชุดเดรสสีชมพูอ่อนหวานเอ่ยขึ้นในขณะที่เธอกำลังเดินตรงมายังโต๊ะที่พวกเขาทั้งสามนั่งอยู่อย่างดีใจ
“ภูพิงค์?” พลอยอุทานอย่างแปลกใจ พร้อมรีบหันกลับมามองหน้าพาฝันและเมศอย่างงุนงง
“ใช่ค่ะ บังเอิญจริง ๆ” ภูพิงค์ถามต่อว่า “แล้วนี่มากันนานยังคะพอดีว่าพิงค์กำลังมองหาโต๊ะว่างอยู่พอดี ไหน ๆ ก็เจอกันแล้ว พิงค์ขอนั่งทานด้วยนะคะ” สิ้นเสียง ภูพิงค์ก็หันไปมองพวกเธอ โดยเฉพาะเมศ แต่เหมือนหญิงสาวจะคิดผิด เมื่อเจอเพียงใบหน้าที่ยิ้มให้อย่างแกน ๆ ของเขาในขณะเดียวกันก็เอาแต่จ้องไปที่พาฝันราวกับขอความเห็นเธอก่อนอย่างไรอย่างนั้น บรรยากาศเริ่มอึมครึมชวนอึดอัด
“ได้สิ” เสียงสดใสของพลอยพูดบอกกับภูพิงค์อย่างใจดี ทำลายบรรยากาศที่น่าอึดอัดลง เมื่อเห็นว่าไม่มีใครแย้งอะไร พลอยจึงเอ่ยแทนทั้งสองคนไป
“เอ่อ คุณคือ?” ทันทีที่ได้ยินเสียงของพลอย ภูพิงค์จึงหันมามองและทำหน้าสงสัยพลางถามทันที เพราะก่อนหน้าที่จะเดินมาถึง เธอสังเกตเห็นแต่เมศจึงไม่ทันได้เห็นผู้หญิงคนนี้เลย
“พลอย เป็นเพื่อนสมัยมัธยมของเมศกับพาฝัน” พลอยบอกอย่างเรียบง่าย
“พิงค์ต้องขอโทษด้วยนะคะ ที่ก่อนหน้านี้ พิงค์เสียมารยาทกับคุณ” ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ภูพิงค์จึงรีบเอ่ยขอโทษแต่โดยดี พลอยเห็นท่าทางเช่นนั้นจึงไม่ได้ติดใจอะไร
“ไม่เป็นไรหรอก ทำตัวตามสบายเถอะ”
“ฉันทำให้พวกเธอไม่สบายใจหรือเปล่า” ภูพิงค์ถามด้วยความกังวล หลังจากที่เธอสังเกตเห็นสีหน้าไม่สบายใจของพาฝันกับเมศเข้าพอดี
“ไม่หรอก อย่าคิดมากเลย คิดเรื่องอื่นนิดหน่อย เรามาทานข้าวด้วยกันดีกว่า” น้ำเสียงที่นิ่งสงบของพาฝันพูดปลอบและชวนให้เธอมานั่งทานข้าวด้วยกันด้วยความเต็มใจ เมื่อภูพิงค์หันไปมองชายหนุ่มคนเดียวในโต๊ะ เขาเพียงแต่พยักหน้าให้
ในขณะที่ทุกคนกำลังนั่งคุยกันและนั่งทานอาหารอยู่นั้น บังเอิญมีชายหนุ่มที่เธอคุ้นตากำลังมองหาใครบางคนอยู่ด้วยสีหน้าที่กังวล และทันทีที่ดวงตาของเขาสบเข้ากับเธอ
“อ้าวคุณ!” เสียงเอ่ยทักอย่างแปลกใจที่ดังขึ้นของสิงหาเรียกความสนใจให้คนทั้งสี่ได้เป็นอย่างดี ทุกคนรีบหันไปมองตามเสียง
“ไอ้เมศ/มึง” เมศและสิงหาเอ่ยพร้อมกันทันทีที่เห็น พวกเขาทั้งสองต่างแปลกใจและสงสัยไม่ต่างกัน ไม่คิดว่าความบังเอิญจะทำให้พวกเขาได้เจอกันในสถานการณ์อย่างนี้
สิงหาใช้สายตาอันนิ่งสงบกวาดมองไปทั่วโต๊ะอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะหหญิงสาวร่างบางอย่างพาฝัน ที่ถูกเขาจ้องมองนานเป็นพิเศษ แต่ก็ไม่มีใครสังเกตเห็นนอกจากสายตาคู่หนึ่ง
“มึงมาทำอะไรที่นี่” เมศโพล่งถามขึ้น ยากมากที่จะได้เห็นมันมาเหยียบร้านอาหารอย่างนี้ เพราะสิงหามันเป็นคนชอบอะไรง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก ยิ่งคนเยอะ ๆ มันยิ่งรำคาญ และไม่คิดว่ามันจะมาคนเดียวอย่างแน่น่อน
“มึงจะให้กูมาว่ายน้ำหรือไง ก็ต้องมากินข้าวดิวะ” สิงหายักไหล่ให้อย่างชิว ๆ และพูดกับเขาอย่างคาดโทษ “พรุ่งนี้มึงอย่าชิ่งนัดพวกกูล่ะ” สิงหาย้ำบอกกับเมศ พวกเขาทั้งสี่มีนัดเจอกันที่บ้านของเชน เนื่องจากที่บ้านมันจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ทุกปี โดยคุณนิดา แม่ของเชน ท่านได้เอ่ยปากเชิญพวกเขามาร่วมงานนี้ด้วย เขาเองก็ยากที่จะปฏิเสธจึงได้แต่ไปด้วยก็เท่านั้น
“เออ พรุ่งนี้กูไปแน่” เมศรับปากอย่างมั่นเหมาะ เพราะเขาได้เคลียร์งานที่ค้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ช่วงนี้เขาจึงทำตัวว่างได้อีกสักพัก และอีกอย่างเขาอยากจะพาพาฝันไปด้วย แต่เมื่อเห็นท่าทีของหญิงสาวที่แอบส่ายหัวให้อย่างปฏิเสธ เขาจึงได้แต่เก็บความคิดนี้ไว้เพียงคนเดียวอย่างเสียดาย
“พวกเธอจะไปด้วยก็ได้นะ เป็นงานเลี้ยงธรรมดานี่แหละ” สิงหาเอ่ยชวนพวกเธอ
พาฝันกับพลอยต่างมองหน้ากัน
“ขอบคุณนะ แต่ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ พวกเราไม่สะดวกที่จะไปน่ะ” พลอยพูดด้วยน้ำเสียงที่เสียดาย ซึ่งในความเป็นจริงช่างตรงข้ามกับความรู้สึก พวกเธอไม่มีใครอยากจะไปงานเลี้ยงที่มีแต่คนแปลกหน้ามาพูดคุยแต่เรื่องเงิน ทอง ธุรกิจกันหรอก
“อาหารที่สั่งได้แล้วครับ” ในระหว่างที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอยู่นั้น มีพนักงานนำอาหารมาเสริฟ์ให้พอดี หลังจากที่พึ่งสั่งไปได้ไม่นาน
“งั้นมาทานข้าวด้วยกันเลยเถอะ” พลอยหันมามองหน้าทุกคนอย่างอารมณ์ดี พลางชักชวนสิงหาด้วยอีกคน
“ขอบใจนะ แต่วันนี้คงไม่สะดวก ไว้โอกาศหน้าจะดีกว่า” สิงหาปฏิเสธอย่างทันที และบอกกับทุกคนอย่างเน้นย้ำอีกว่า “มีนัดกับใครบางคนที่นี่” ว่าแล้วก็เดินเข้าไปด้านใน จนลับสายตาของทุกคน
“ปล่อยมันไปเถอะ ไอ้คนเดาใจยาก” เมศส่ายหัวอย่างชินชา
หลังจากนั้นคนทั้งสี่นั่งทานอาหารด้วยกันโดยไร้เสียงพูด มีบ้างที่พลอยหันคุยกับพาฝันบ้าง ภูพิงค์บ้าง เมศบ้าง อย่างคนชอบพูด และคิดในแง่บวกตลอด ทำให้บรรยาบนโต๊ะอาหารไม่ดูกร่อยหรือเสียอรรถรสในการทานเลย ไม่นานทุกคนก็พากันอิ่ม ใว่ ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แต่ทว่ายาวนานราวกับหลายชั่วโมงในความคิดของใครบางคน เสียงขยับตัวของหญิงสาวร่างเล็ก ทำให้ทุกคนหันมาให้ความสนใจทันที
“เอ่อ พิงค์ขอตัวกลับก่อนนะคะ พอดีมีธุระ ไว้เจอกันใหม่นะทุกคน ส่วนค่าอาหารให้เมศออกไปก่อนนะ พิงค์จะโอนคืนให้ทีหลัง” ภูพิงค์บอกกับทุกคนอย่างเร่งรีบ ก่อนที่จะก้าวเดินออกไป
“ไม่ต้องหรอก มื้อนี้ฉันเลี้ยงให้กับทุกคนอยู่แล้ว” เสียงเมศทำให้เท้าที่กำลังจะก้าวเดินชะงักไปเล็กน้อย และหันมายิ้มให้แล้วเอ่ยบอกเขาว่า “ขอบคุณ” จากนั้นก้าวเท้าเดินออกไปอย่างรีบร้อนเล็กน้อย
Rrrr เสียงโทรศัพท์ของพลอยดังขึ้นทันที เธอรีบหยิบออกมารับ ไม่นานสีหน้าของพลอยก็ไม่ค่อยดีเท่าไร
“ค่ะ พลอยจะรีบกลับ” พูดตอบกลับด้วยเสียงที่แผ่วเบา ไม่สมกับเป็นเธอเลย และจะเป็นใครไปไม่ได้ ที่ทำให้พลอยเปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือได้เช่นนี้
“เอ่อ ฉันต้องขอตัวกลับก่อน” พลอยรีบเอ่ยบอกอย่างเสียดาย
“เกิดอะไรขึ้น” พาฝันถามเพื่อนอย่างเป็นห่วง
“พี่คีนส์มาว่ะแก” ผู้ชายที่ชื่อพี่คีนส์เป็นแฟนของพลอย ซึ่งพลอยให้ความเคารพและเกรงกลัวเขามาก ในขณะที่พลอยกุลีกุจอจะรียไปอยู่นั้น พาฝันพึ่งนึกขึ้นได้ว่าเพื่อนนั่งรถแท็กซี่มา จึงรีบหยุดเพื่อนก่อนและบอกไป
“แกอย่าพึ่งกลับ รอก่อน” พลอยมองมาที่เธออย่างไม่เข้าใจ หญิงสาวจึงรีบพูดต่อ
“กลับด้วยกันนี่แหละ แกไม่ได้เอารถมาไม่ใช่เหรอ?”
“เดี๋ยวพวกเราไปส่ง” เมศพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วงทันที
พลอยพยักหน้าให้พวกเขาแต่โดยดีหลังจากที่พยายามจะปฏิเสธไป ไม่นานทั้งสามก็เดินทางกลับพร้อมกันด้วยรถยนต์ส่วนตัวของเมศ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ