ภวังค์รักในห้วงฝัน
เขียนโดย Yajula
วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2564 เวลา 23.05 น.
แก้ไขเมื่อ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 22.39 น. โดย เจ้าของนิยาย
13) เรื่องของความรู้สึก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่สิบสาม
เรื่องของความรู้สึก
ทั้งสองใช้เวลาอยู่ด้วยกันจนดึก ชายหนุ่มนั่งพิงโซฟาดูทีวีสารคดีสัตว์โลกอย่างผ่อนคลาย โดยมีหญิงสาวนั่งทำงานอยู่ข้าง ๆ อย่างเงียบ ๆ ไม่นาน ร่างสูงก็ขยับตัวลุกขึ้น พาฝันมองตามอย่างสงสัย
“ขอตัวลงไปทำธุระข้างล่างนิดหน่อย” เขากล่าวอย่างเร่งรีบ จากนั้นร่างสูงก็เดินออกไปทันที
สายตาของหญิงสาวมองตามร่างของเขาหายลับไป ด้วยความสงสัย ถึงแม้ว่าช่วงนี้เมศจะมาอยู่ที่นี่กับเธอบ่อย แต่ดูเหมือนว่าเขามีบางอย่างปิดบังเธออยู่
ครืด ๆ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นใกล้ ๆ เจอเข้ากับโทรศัพท์ของเมศที่ตกอยู่บนโซฟาที่เขานั่งอยู่ เมื่อเธอหยิบขึ้นมา ปรากฏว่าสายที่โทรเข้า เป็นชื่อผู้หญิง
ภูพิงค์
ซึ่่งเธอไม่แน่ใจเขามีความสัมพันธ์ยังไงกับผู้หญิงคนนี้ หญิงสาวจึงไม่ตัดสินใจไม่รับ ละวางโทรศัพท์เขาไว้บนโต๊ะที่อยู่ด้านหน้า สายดังกล่าวยังคงส่งเสียงดังต่อเนื่อง ไม่นานก็เงียบลง
เมื่อเธอเห็นเขาเข้ามา จึงรีบบอกเขาไปว่ามีสายโทรเข้ามา พร้อมจ้องมองไปที่เขาอย่างเงียบ ๆ
เขาเดินไปหยิบขึ้นมาดูทันที และทำหน้าแปลกใจพร้อมหันมาสบตากับเธอพอดี เมื่อรู้สึกตัวหญิงสาวก็รีบหลบสายตาอันเฉียบคมของเขาทันที และก้มหน้าทำงานของเธอไป
“ใครกันเหรอ?” หญิงสาวอดที่จะเอ่ยถามออกไปไม่ได้ ด้วยความอยากรู้
พรึบ ! เสียงอ่อนยวบของโซฟาถูกชายหนุ่มนั่งลงไป พลางวาง โทรศัพท์ดังเดิมราวกับไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ทว่าในเวลาเช่นนี้จะมีใครติดต่อมา ถ้าไม่ใช่เรื่องสำคัญ
“เพื่อน” จากนั้นเขาก็เล่าให้เธอฟัง ว่าพวกเขาเจอกันโดยบังอิญเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากที่ขาดการติดต่อกันได้เกือบปี เมศยังเล่าอีกว่า เพื่อนคนนี้พึ่งย้ายเข้ามาทำงานในตัวจังหวัดนี้ ที่พวกเขาอาศัยอยู่ จึงยังเดินทางไปไหนมาไหนไม่ค่อยสะดวกนัก โชคดีที่วันนั้นได้เขาช่วยไว้ ระหว่างที่เธอเกือบจะถูกรถชน เพราะไม่ทันระวัง หลังจากที่เจอกัน ทั้งสองน่าจะทิ้งเบอร์ติดต่อไว้ให้กันและกัน และเมื่อเพื่อนเขาคนนี้ หาเส้นทางไม่เจอ ก็มักจะโทรมาสอบถามเขาอยู่บ่อยครั้ง อย่างหลังพาฝันอดที่จะคิดไม่ได้
“นายไม่โทรกลับเหรอ เธออาจมีธุระสำคัญจะคุยด้วยหรือเปล่า” พาฝันพูดออกไปอย่างเรียบเฉย คาดเดาอารมณ์ไม่ออก
“ไม่ล่ะ เธอน่าจะคนช่วยแล้ว” เขาบอกเป็นนัยบางอย่าง ซึ่งเธอก็ไม่เข้าใจ ได้แต่มองเขาด้วยความงุนงง
“อย่าสนใจเลย” เมื่อเมศเห็นหญิงสาวมีทีท่าแบบนั้น ก็พูดตัดบทแบบยิ้ม ๆ และนั่งจ้องมองทีวีต่ออย่างไม่มีอะไร จนไม่คิดว่าหญิงสาวที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ ก้มหน้าลงครุ่นคิดบางอย่าง ไหนจะกลิ่นน้ำหอมที่ฉุน จากตัวของชายหนุ่ม เป็นกลิ่นหอมหวานชวนแสบจมูก ซึ่งต่างจากก่อนหน้าที่เขาจะลงไป ตกลงแล้ว เมศลงไปทำอะไรข้างล่างกันแน่ พอเธอแอบเงยหน้ามองไปที่ชายหนุ่ม คนตัวใหญ่ก็นั่งดูทีวีปกติ
“มีอะไรเหรอ” พอเขาเห็นว่าเธอนั่งจ้องอยู่ ก็เอ่ยถามออกมาอย่างสงสัย ยิ่งเขาขยับเข้ามาใกล้ ๆ ยิ่งทำให้กลิ่นหอมจนฉุนนั้นรุนแรงมากจนทำให้พาฝันย่นจมูกใส่เขาทันที
“เหม็นจัง” เธอพูดพร้อมผลักเขาออกไปเบา ๆ อย่างไม่ชอบใจ
“อา..โทษที” เมศรีบขยับตัวออกห่างทันที เมื่อเห็นว่าเธอไม่ชอบ
“ไปทำอะไรมา” พาฝันจ้องมองอย่างสงสัย
“สูบบุหรี่” ชายหนุ่มบอกเธอตามตรง เธอไม่ได้รังเกียจคนสูบบุหรี่ แต่ก็นะ พอรู้ว่าเป็นคนที่เรารักสูบเอง ความรู้สึกใจหายและเป็นห่วงเข้ามาทันท่วงที แม้ว่าเธอจะเคยขอให้เขาพยายามสูบให้น้อยลง แล้วก็ตาม
“.....”
“ไม่เยอะหรอก แค่มวนเดียว” เขาขยับเข้ามาใกล้ ๆ อีกครั้ง พร้อมจับมือเล็กบางของเธอขึ้นมาแล้วลูบมันเบา ๆ
“ต่อไปจะไม่ทำอีก ขอโทษนะ” สายตาสำนึกผิดของเขาสบเข้ากับสายตาที่นิ่งลึกของหญิงสาว
“เพลา ๆ ลงหน่อยก็ดี” อย่าให้ถึงกับสูบจนทำลายสุขภาพของตัวเขาเองเลย
“รู้แล้วน่า” เขายิ้มให้ร่า
“ปล่อย” พาฝันบอกพลางมองไปที่มือของเธอถูกกุมไว้โดยคนตัวใหญ่อย่างเหนียวแน่น อย่างเก้อเขิน
“อ้อ” เขาปล่อยมือของเธอลงอย่างเสียดาย เพราะเข้าใจว่า เธอต้องพอใจกับกลิ่นที่อยู่ติดเสื้อผ้าของเขาแน่ ๆ เขาจึงรีบขยับตัวออกห่างโดยเร็ว ซึ่งหญิงสาวก็ไม่ได้อะไรมากกับเรื่องกลิ่นแล้ว เธอแค่ไม่อยากให้คนเขาอยู่ใกล้จนเกินไปต่างหาก เพราะตอนนี้เธอรู้สึกไม่ไว้ใจตัวเองเอาเสียเลย
ไม่นานบรรยากาศในห้องก็กลับมาเงียบอีกครั้ง โดยพาฝันนั่งทำงาน (ไม่มีสมาธิ) ส่วนชายหนุ่มนอนหลับอยู่ใกล้ ๆ อย่างสบายใจ โดยใช้หัวของเขานอนหนุ่นหมอนใบเล็กที่ถูกวางไว้ที่ขาเรียวเล็กของหญิงสาว เมื่อเธอก้มมองลงไป เผยให้เห็นใบหน้าที่แข็งกร้าวแต่เรียบเนียนของชายหนุ่ม เธออิจฉาเขาที่มีดั้งจมูกโด่งเป็นคมสัน ริมฝีปากไม่หนาและบาวเกินไป คิ้วดำเข้มหนาช่วยทำให้ใบหน้าดูโดดเด่น ไม่ใช่แค่หน้าตาเท่านั้น รูปร่างของเขาก็โดดเด่นเช่นกัน โดยเขามีรูปร่างสูงที่ใหญ่อยู่แล้ว ยิ่งชายหนุ่มเป็นคนรักสุขภาพชอบออกกำลังกายเป็นประจำ ยิ่งทำให้ทั้งร่างและรูปลักษณ์ภายนอกเขาดูดีน่ามองขึ้นเป็นหลายเท่าตัว ทุกอย่างที่เป็นตัวเขาช่างลงตัวกันอย่างเหมาะเจาะโดยแท้
ในขณะที่พาฝันเอาแต่จ้องมองเขาอย่างเผลอไผลด้วยความหลงไหลอยู่นั้น ราวกับรู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังจ้องมองเธออยู่เช่นกัน
“เอ่อ..” ชายหนุ่มใช้สายตาอันตรายมองมาที่หญิงสาวตรงหน้าอย่างมีความหมาย เป็นแววตานิ่งลึก ไม่อาจคาดเดาอารมณ์ได้ ปรอยผมยาวสลวยของพาฝันทิ้งตัวลงสัมผัสเข้ากับใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่ม ชวนให้รู้สึกจักจี้และวูบไหวในคราวเดียวกัน
“เอ่อ คือ....มันดึกมากแล้ว กลับไปพักผ่อนก่อนไหม” เธอรีบทำลายบรรยากาศแปลก ๆ ไปทันที และเสมองตรงไปยังนาฬิกาโดยเข็มสั้นกำลังจะชี้เลขสิบเอ็ดพอดี บ่งบอกเวลาห้าทุ่ม กว่าเขาจะขับรถไปถึงคอนโด ไหนจะต้องทำอะไรจุกจิกอีก เข้านอนเสร็จไม่ปาไปตีหนึ่งเลยเหรอ ซึ่งพรุ่งนี้ชายหนุ่มต้องเข้าประชุมในตอนเช้า เธอกลัวว่าเขาจะมีเวลาพักผ่อนไม่เพียงพอ
“นั่นสิ” เขาขยับบตัวยืนขึ้นหลังจากที่นอนหลับบนตักเล็กของเธอ พาฝันเห็นดังนั้นก็รีบกุลีกุจอ ช่วยเขาเก็บของที่เขาเอาติดตัวมาไม่มาก พอทั้งสองเดินมาถึงหน้าประตูห้องของหญิงสาว ชายหนุ่มที่กำลังจะเดินออกไป ชะงักกึก และหันกลับมาทำบางอย่างที่ทำให้หญิงสาวตะลึงงัน
“พาฝัน” เขาก็ก้มลงมาจูบริมฝีปากของหญิงสาวเบา ๆ ราวกับผีเสื้อบินแตะผิวน้ำ ชวนให้ความรู้สึกกระเพื่อมเบา ๆ แต่สลักลงเข้าไปในส่วนลึกของหัวใจหญิงสาว ความรู้สึกล่องลอยราวกับฝันนั้นเป็นความจริง แม้จะเป็นเพียงจูบสั้น ๆ แต่ยิ่งทำให้หญิงสาวปรารถนาต้องการมากขึ้นกว่านี้ เมื่อเขาผละตัวออกพลางสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และบอกกับเธอด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า
“สาเหตุที่ทำให้ฉันต้องออกไปสูบมันเหรอ?” สายตาที่ชวนให้ลุ่มหลงของเขา ยากเกินกว่าที่เธอและใครเห็นจะต้านทานได้ ราวกับถูกตรึงไว้ด้วยโซ่ที่มองไม่เห็น เธอถูกแววตายากจะคาดเดาของเขามองตรงมาและพูดบอกกับเธออย่างอดทนอดกลั้น “เธอไงล่ะ”
ปัง!
หลังจากเสียงปิดประตูเงียบลง พาฝันยังคงยืนอยู่ในภวังค์ ไม่คิดว่าเขาจะจู่โจมเธอแบบนี้ พาฝันยกมือขึ้นมาสัมผัสเบา ๆ ตรงริมฝีปากบางที่ยังคงทิ้งร่องรอยความอุ่นร้อนเอาไว้ แม้กระใบหน้าที่ร้อนลวกของเธอก็ไม่เว้น
ตั้งแต่คบกันมา เขาปฏิบัติกับเธออย่างให้เกียรติเสมอ เมื่อเห็นว่าเธอยังไม่พร้อมในเรื่องนั้น เขาก็ไม่มีทีท่าจะบังคับหรือพยายามทำให้เธอรู้สึกอึดอัดเลย มีบ้างที่ทั้งสองเกือบเผลอไป แต่พอเขาเห็นเธอทำไปด้วยความเผลอใผล หาได้มีความเต็มใจ เขาจะเป็นฝ่ายที่หยุดมันก่อนเสมอ ซึ่งเธอไว้ใจและเชื่อใจเขามากในเรื่องแบบนี้ แต่พอมาถึงวันนี้ สิ่งที่เขาทำลงไป เพราะต้องการสื่อให้เธอได้เห็นถึงความอดทนของเขาที่ใกล้จะหมดลง ทำให้เธอไม่สบายใจขึ้นมาทันที
ตัวเธอเองยังมีหน้าไปห้ามเขาสูบบุหรี่ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ช่วยอะไรเขาให้ดีขึ้น ในยามที่เขาเครียดหรือต้องการคนที่ทำให้เขาอยู่ด้วยแล้ว รู้สึกสบายใจ แต่เธอไม่เคยคิดเลยว่าการกระทำของเธอ จะทำให้เขากลับยิ่งรู้สึกอึดอัดใจ เธอเห็นแก่ตัวเกินไปหรือเปล่า หญิงสาวได้กล่าวโทษตัวเองอารมณ์วาบหวามหายไปถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกผิด
ทั้งสองไม่รู้เลยว่าหลังจากเหตุการณ์ในวันนี้ ต่างฝ่ายต่างมีความรู้สึกที่ต่างกัน คนหนึ่งได้รับความสุขและความสมหวัง ปล่อยให้อีกฝ่ายรู้สึกติดค้างอยู่ในใจ ไม่อาจปล่อยวางได้
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ