ปาฏิหาริย์โลกวิญญาณ (ได้รับการตีพิมพ์จากAmity Publishing แล้ว)
5.3
เขียนโดย watcharakarn
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 เวลา 12.10 น.
67 ตอน
3 วิจารณ์
41.87K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 23.09 น. โดย เจ้าของนิยาย
60) มนุษย์ ‘บริษัท’
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“หะหะหัวหน้าทำ…แบบนี้…ได้ยังไง” ผมพูดเสียงสั่นด้วยอารมณ์อันหลากหลายที่ระคนกันอยู่ภายในใจ
“ขอบคุณมากคุณย้ง” มันรีบฉวยเอาแผ่นกระดาษจากมือที่กำลังสั่นกึกๆ ไปในทันที ผมยังจำนาทีที่ได้เงยหน้าขึ้นมาสบดวงตาหยีๆ อันแสนเจ้าเล่ห์เพทุบายนั้นได้ น่าแปลกที่มันดูไม่สะทกสะท้านใดๆ เลยกับความเลวที่ได้ก่อขึ้น แต่กลับวางตัวได้นิ่งเฉย ราวกับมองเห็นผมเป็นลูกไก่ในกำมือ แต่แรกมันพยายามใช้ไม้อ่อนกับผม ชื่นชมผมอย่างนู้นอย่างนี้
“คุณเป็นคนทำงานดี”
“ผมรู้ว่าคุณรักบริษัท”
“ผมวางใจในตัวคุณมากเลยนะ”
และแล้วมันก็หว่านล้อมให้ผมกลายเป็นพวกเดียวกับมัน
“ถ้าคุณไม่พูด เรื่องนี้ก็คงไม่มีใครรู้หรอก ปล่อยให้ทุกอย่างมันผ่านไป เชื่อผมเถอะ”
“ผมก็คิดไว้นานแล้วว่าจะเสนอเพิ่มเงินเดือนแล้วก็โอทีให้คุณ”
จากนั้นจึงเตือน และข่มขู่ผมแบบกลายๆ ว่า
“ผมรู้ว่าคุณต้องเข้าใจผม ผมอยู่ที่นี่มานานกว่าคุณเสียอีก ใครๆ ก็รักผมทั้งนั้นแหละ รวมถึงMD บางคนก็ด้วย ถึงคุณจะพูดอะไรไปมันก็ไม่มีประโยชน์หรอก คุณว่าจริงมั๊ย”
“มันก็แค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่เลยคุณย้ง”
“อย่าลืมว่าคุณเองก็มีชื่ออยู่ในนี้เหมือนกัน นี่ไงลายเซ็นต์คุณ”
“แต่ผมไม่ได้ทำนะ” ผมพยายามโต้ “ผมจะร้องเรียน”
“ก็เอาสิ ถ้าคุณอยากมีปัญหา แค่คำพูดน่ะ มันเชื่อได้ด้วยเหรอ…แต่เนี่ยผมมีหลักฐานนะ ผมรับรองว่าถ้าคุณรนหาที่ คุณจะต้องติดร่างแหไปด้วยแน่ๆ ถามจริงๆ ชีวิตคุณยังวุ่นวายไม่พออีกเหรอคุณย้ง”
และก่อนที่ผมจะเดินหน้าซีดตัวสั่นออกมาจากห้อง ไอ้เจ้าสุนัขจิ้งจอกภายใต้ชุดสูท ผูกไทค์ดูโก้หรูที่คอยปั้นหน้าเป็นผู้จัดการใจดีแย้มยิ้มเป็นกันเองกับทุกคน ก็สำรอกวาจาทุเรสๆ ให้ผมฟัง
“คุณเป็นคนดีนะวิศรุฒิ แต่โลกมันก็เป็นแบบนี้แหละ เราจะได้รับประโยชน์ก็ต่อเมื่อเราทำตัวให้มีประโยชน์ ถ้าคุณช่วยผมเราก็Win Win กันทั้งสองฝ่าย ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจในคำพูดของผมนะ”
“ปึง”
สิ้นเสียงประตูปิดลง ผมก็ได้ตระหนักถึงความจริงด้านหนึ่งของโลกใบนี้
ขึ้นชื่อว่า ‘มนุษย์’ ย่อมทำได้ทุกอย่างเพื่อตัวเอง แม้ว่าจะต้องหักหลังหรือทำร้ายคนอื่นก็ตาม และผมเองก็เช่นกัน ผมตัดสินใจเก็บงำความลับนั้นไว้เพราะไม่ต้องการตั้งตนเป็นอริกับหัวหน้างาน และใช้ชีวิตอันแสนน่าเบื่อต่อไปภายใต้ความแคลงใจที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นทีละนิดๆ จนผลสุดท้ายก็ไม่อาจกลบเกลื่อนความรู้สึกผิดหวังในตัวหัวหน้างานได้อีกต่อไป
ผมเริ่มแข็งข้อ บ่ายเบี่ยงงานที่มันมอบหมายให้ทำ โดยเฉพาะเรื่องของพวกตัวเลข งบจัดซื้อ เอกสารการเบิกจ่ายต่างๆ ด้วยกังวลว่าจะถูกปลอบแปลงข้อมูลอีกหรือไม่ และนั่นอาจเป็นชนวนเหตุที่ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเลวร้ายลงกว่าเดิม
แท้จริงแล้วคำพูดหวานหู ที่ยกยอปอปั้นผม บอกว่าจะเพิ่มเงินเดือนให้หรืออะไรต่างๆ นั่นก็เป็นแค่คำลวงให้ผมตายใจ มันเริ่มหาวิธีที่จะกำจัดผมไปให้พ้นทางอย่างเลือดเย็น ด้วยการบีบให้ผมทุกข์ทรมาน เพิ่มแรงกดดันต่างๆ นานา ทั้งให้ออกภาคสนามบ่อยๆ ดึงเรื่องให้ช้าจนถูก MD คอมเพลน แก้เอกสารกันวุ่นวายหลายตลบ
ทำงานน่าเบื่อซ้ำซ้อน ประเมินผลงานให้ต่ำ รวมถึงตำหนิ บ้างก็แกล้งแซวแรงๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นๆ ใส่ไฟผมเสียจนยับเยิน ผมต้องทนอึดอัดเรื่อยมา จากคนที่ประหยัดคำพูดอยู่แล้วก็ยิ่งเงียบขรึมเคร่งเครียดขึ้นไปอีก จนท้ายที่สุดก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ยื่นซองขาวลาออกจากบริษัทที่ผูกพันกันมายาวนานอย่างไม่เหลือเรื่องราวดีๆ ให้คนอื่นได้จดจำ
…นี่หรือคือสิ่งที่ผมควรจะได้รับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ