I'm Promise เกิดใหม่ในนิยายที่ชอบ!?(ชื่อชั่วคราว)
-
เขียนโดย Tsukiyo_
วันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2564 เวลา 00.55 น.
6 ตอนที่
10 วิจารณ์
5,479 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 29 มกราคม พ.ศ. 2564 02.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) การเริ่มต้นแสนประหลาด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความความเดิมตอนที่แล้ว
.
.
.
//เอ่ออออ ย้อนตอนเอาเองละกันนะคะ แหะๆ
จิ๊บ จิ๊บๆ//นกไงจะใครล่ะ
ณ ป่าแห่งหนึ่ง ได้มีร่างๆหนึ่ง(ไม่บอกก็รู้เนอะว่าใคร?)อยู่ท่ามกลางต้นไม้ที่ร่มรื่น(มั้ง?)
“อึก”
ร่างของเด็กสาวที่ตอนแรกนอนสลบอยู่นั้น ในตอนนี้เริ่มรู้สึกตัวบ้างแล้วแต่เธอกลับมองเห็นเพียงแค่ความมืดมิดเท่านั้น
“ป-ปวดหัวจังเลยแฮะ”
เสียงของเด็กสาวที่เปล่งออกมานั้น แหบแห้งเป็นอย่างมากจนน่าตกใจ
และเมื่อเด็กสาวลองพยายามที่จะขยับตัวแต่ถึงจะพยายามมากเท่าไหร่ สุดท้ายผลลัพธ์ก็ยังคงเหมือนเดิม นั่นก็คือ…….
“ทำไม….ไม่มีแรงเลย?”
Miyu Part
เพราะว่าเธอใช้ความพยายามอย่างมากแต่กลับขยับได้เพียงปลายนิ้วเท่านั้นเธอจึงถอดใจ แต่แล้วระหว่างที่เธอกำลังพักหายใจ อยู่ๆเธอก็พึ่งนึกขึ้นมาได้อย่างนึง
‘เรา…..ตายแล้วไม่ใช่หรอ?’
เธอยังจำได้อยู่ว่าหลังจากที่เธอได้ทำตามแผนทุกอย่างเสร็จแล้ว เธอจึงผูกคอตาย ซึ่งเธอมั่นใจเป็นอย่างมากว่าเธอต้องตายแน่ๆ ไม่มีทางที่รถพยาบาลจะมาทันแน่นอน เธอลองคำนวณทุกๆอย่างไว้แล้วด้วย
‘หรือว่าเราจะถูกช่วยไว้ทันงั้นหรอ?’
พอเธอคิดได้อย่างนั้นเธอก็เริ่มกระวนกระวายใจ เธอไม่ได้ต้องการมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกแล้ว เธอแค่อยากรีบไปหาครอบครัวที่เธอรักเท่านั้นเอง ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่า สววรค์ นรก บ้านเก่า หรือ อะไรก็ตาม จะมีจริงรึเปล่า เธอคิดเพียงแค่ว่าอยากที่จะกลับไปเท่านั้นเอง…..
แต่ในระหว่างที่เธอนอนคิด(//หรือเพ้อหว่า?)อะไรเรื่อยเปื่อย เธอก็เริ่มรู้สึกตัวว่านี่อาจไม่ใช่ที่โรงพยาบาลก็เป็นได้ เพราะเธอรู้สึกว่าตรงที่เธอกำลังนอนอยู่ไม่ใช่เตียง
แถมถ้าอยู่ที่โรงพยาบาลจริงๆหล่ะก็เธอคิดว่านะจะมีพวกสายน้ำเกลือบ้างนั่นแหละ ความจริงเธอก็ไม่ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับการแพทย์อะไรมากหรอก แต่อย่างน้อยเธอคิดว่าน่าจะต้องมีพวกสายน้ำเกลือบบ้างนั่นแหละ
พอเธอคิดได้ดังนั้นอยู่ๆก็มีความคิดหนึ่งพุ่งขึ้นมาอย่างฉับพลัน
‘หรือว่า…..เราจะเกิดใหม่?’
เมื่อเธอคิดได้ดังนั้นเธอก็ยังไม่ได้รีบปัดตกไป แต่ก็ไม่ได้ปักใจเชื่อ100%
ระหว่างที่เธอไม่รู้ว่าจะทำอะไรเธอจึงลองพยายามจะเปิดตาที่กำลังปิดอยู่ซึ่งนั่นทำให้ทุกอย่างนั้นมืดมาก
เพื่อที่เธอจะได้รู้ว่าตอนนี้เธออยู่ตรงไหนสักที(//คือง่ายๆเลยสำหรับที่งง ก็คือมิยูอยากรู้ว่าที่เธออยู่คือที่ไหนนั่นแหละ)
ผ่านไปไม่ถึงนาที ความพยายามของเธอก็เริ่มเห็นผลขึ้นแล้ว
เปลือกตาของเธอเริ่มขยับไปมาจนในที่สุดก็สามารถปรือตาขึ้นมาได้นิดนึง
สิ่งแรกที่เธอเห็นเลยนั่นก็คือแสงสว่างที่แยงเข้ามาในตา และเมื่อเธอเริ่มปรับสายตาได้เล็กน้อยเธอจึงค่อยๆเห็นภาพมาแล้วเล็กน้อย
แม้ว่าภาพที่เธอเห็นนั้นอาจจะจะเบลอไปจนแทบมองไม่รู้เลยก็จริง แต่อย่างน้อยเธอก็สามารถเดาได้ว่าเธอน่าจะอยู่ท่ามกลางป่านั่นแหละ
พอเธอเริ่มจ้องไปนานๆเข้า ก็เริ่มรู้สึกว่าปวดตาแถมยังปวดหัวหนักกว่าเดิมด้วย
เธอจึงตัดสินใจว่าเธอจะพักผ่อนตรงนี้แหละ เพราะถึงยังไงเธอก็ไม่สามารถที่จะขยับได้อยู่แล้วนี่?
แม้ว่าเธอจะเสี่ยงถูกสัตว์ในป่าทำร้ายเอาก็เถอะนะ
‘จะเป็นจะตายยังไงเราก็ไม่สนอยู่แล้วล่ะ’
เพราะยังไงซะก็ win-win อยู่ดีนั่นแหละ พวกสัตว์อิ่ม ส่วนเธอก็ตายสมใจอยากนั่นแหละ
แต่ก่อนที่เธอจะสติดับวูบไปเพื่อพักผ่อนนั้น เธอกลับได้ยินเสียงของคนๆหนึ่งดังขึ้นมาในหัวว่า
‘ฮิๆ เจ้าอย่าหวังว่าเจ้าจะได้ตายยกเว้นการตายเพราะความชราในโลกนี้เลย’
‘เจ้าต้องอยู่รอด เพื่อความมั่นคงของโลกใบนี้ และมอบความสนุกสนานให้แก่ข้ากับเหล่าเทพองค์อื่นๆเถอะนะ’
หลังจากนั้นเธอก็สติดับวูบไป
.
.
.
.
30 นาทีผ่านไป
“อืมมม~”
เปลือกตาของเด็กสาวกระตุกเล็กน้อย ก่อนที่จะปรือตาขึ้นมา
แล้วเหตุการณ์ก็เหมือนเดิม แค่เปิดตานิดเดียวแสงก็แยงเข้าตาทันที
แต่ครั้งนี้เมื่อเธอค่อยๆปรับสายตาก็พบว่าภาพไม่เบลอแล้ว
เมื่อเพ่งมองดีๆเธอก็รู้เลยว่าเธอสันนิษฐานถูก เพราะตอนนี้เธออยู่กลางป่าจริงๆนั่นแหละ
‘พอพักแล้วค่อยรู้สึกดีขึ้นหน่อย’
หลังจากที่เธอนอนพักแล้วเธอก็เริ่มรู้สึกมีแรงบ้างแล้วจึงลองพยุงตัวขึ้นมา
เธอก็พบว่าตัวเองสามารถลุกขึ้นได้บ้างแล้วจากที่ทำได้แค่พยุงตัว เธอจึงลองลุกขึ้นมาบ้าง ผลก็คือ….
“อ๊ะ!”
“ เกือบไปแล้วสิ”
เธอสามารถที่จะลุกขึ้นได้ก็จริงแต่กลับรู้สึกว่าร่างกายไม่สมดุลกันเลย
นั่นทำให้เมื่อเธอลุกขึ้นแล้วตัวจึงโซซัดโซเซจนเกือบหน้าทิ่มลงไป
และเมื่อเธอลองยกมือขึ้นมาดูเธอก็พบเรื่องที่น่าแปลกประหลาดอีกเรื่อง
“ทำไม….มือของเราถึงเล็กลง?”
“รู้สึกว่า ส่วนสูงก็คงน่าจะลดลงมาด้วย”
ระหว่างที่เธอพูดตามที่คิดเธอก็พึ่งมานึกได้ว่าเธอรู้สึกคอของเธอนั้นแห้งมาก(//พึ่งคิดได้หรอ(วะ)คะ?)
ถ้าให้เปรียบเทียบก็คงคล้ายเดินบนทะเลทรายแต่ไม่มีน้ำให้กินนั่นแหละ
ซ่าา…ซ่าา(//ใช้ความคิดเอาเองว่าเป็นเสียงของแม่น้ำละกันนะคะ)
บังเอิ๊ญบังเอิญที่ข้างหลังของเด็กสาวมีเสียงน้ำไหลอยู่(//มันแค่เรื่อบังเอิญน่าา)
และเมื่อเด็กสาวหันหลังไปก็พบกับแม่น้ำสายหนึ่ง
‘ทำไมเมื่อกี้เราถึงไม่ได้ยินเสียงน้ำเลยล่ะ?’
‘อ่าา ช่างเถอะ ไหนๆก็ไหนๆละ จะได้ไปส่องตัวเองด้วยว่าเป็นยังไง’
เมื่อเด็กสาวเดินมาถึงก็เริ่มส่องหน้าตาของตัวเองว่าเป็นยังไง
เธอก็รู้สึกตกใจ (//แบบหน้านิ่งอ่ะนะ) เพราะหน้าของเธอมันเปลี่ยนไปไม่มากก็น้อย
(//ชุดที่มิยูใส่คือชุดแนวๆนี้นะคะ เค้าวาดเองและวาดได้แค่นี้แหละค่ะT-T)
แต่ที่ยังไม่เปลี่ยนไปนั่นก็คือดวงตาของเธอ มันเป็นดวงตาที่แค่มองก็รับรู้ถึงความมืดมนได้อย่างชัดเจน
‘รู้สึกว่าจะเด็กลงด้วยสินะ?’
‘ถ้าดูคร่าวๆ ก็คงจะอายุประมาณ10ขวบได้มั้ง? รู้สึกฟันยังไม่ครบ32ซี่ด้วย’
ระหว่างที่เธอประเมินสถานการณ์เธอก็ดื่มน้ำจากแม่น้ำไปด้วยเพื่อดับความกระหาย
เมื่อรู้สึกว่าหายคอแห้งแล้วจึงกลับมาคิดเรื่องของตัวเองต่อ
‘จากที่ดูๆแล้ว เราก็น่าจะมาอยู่ในอีกโลกหนึ่งจริงๆนั่นแหละ’
‘เพราะคงไม่มีใครที่ไหนผูกคอตายแล้วตื่นขึ้นมาอีกทีก็อยู่บนพื้นหญ้าใช่มั้ยล่ะ?’
‘แต่เอาเถอะ ยังไงซะเราก็เป็นพวกไม่สนชีวิตอยู่แล้วนั่นแหละ’
‘ในเมื่อเรายังไม่ตาย เราก็แค่ตายอีกครั้งก็ได้นี่’
“ ถ้าให้โอกาสแบบนี้กับคนอื่นน่าจะมีประโยชน์มากกว่านะ น่าเสียดายจริงๆ”
เด็กสาวเดินไปหยิบก้อนหินที่มีน้ำหนักพอสมควร
แล้วกลับมาอยู่ตรงแม่น้ำอีกครั้ง ก่อนที่จะกระโดดลงไปพร้อมกับทิ้งคำพูดคำสุดท้ายไว้ว่า
“ลาก่อน…..และขอบคุณ”
ตูมมม ซ่าา(น่าจะรู้นะคะว่าเสียงอะไรเนอะ?)
.
.
.
5 นาทีผ่านไป
Tsukino Part
ข้างใต้แม่น้ำที่ไม่กว้างแต่กลับลึกมากกว่าที่เห็น ได้มีร่างของเด็กสาวอยู่ข้างใต้แม่น้ำ
และไม่มีทีท่าว่าจะยอมขึ้นจากแม่น้ำที่แสนจะหนาวเหน็บ
แน่นอนว่าถ้าเป็นคนธรรมดาควรที่จะรีบขึ้นไปเพราะมนุษย์นั้นไม่สามารถที่จะหายใจได้เหมือนปลา
หรืออีกกรณีนึงก็คือ 'ตาย' แต่ร่างของเด็กสาวกลับยังเหมือนมีชีวิตอยู่ก็จริง
สังเกตได้จากฟองน้ำกับท่าทีของเด็กสาวที่ดูคล้ายกับรู้สึกทรมาณนั่นแหละ……(//เอ่ออ….ช่างเถอะ เพ้อไปงั้นแหละ)
Miyu Part
เธอมั่นใจว่าเธออยู่ในแม่น้ำมาน่าจะมากกว่า1นาทีแล้ว
เธอรู้สึกอึดอัดมากในตอนนี้ รู้สึกทนมาณ รู้สึกเย็น รู้สึกเยอะไปหมด
และอย่าลืมว่าเธอยังเป็นมนุษย์ไม่ใช่หุ่นยนต์ที่จะไม่รู้สึกอะไรเลย
ถึงแม้ว่าเธอไม่ค่อยมีความรู้สึกด้านบวกมากสักเท่าไหร่ และส่วนใหญ่มักจะรู้สึกแต่ด้านลบ
ยกเว้นความเจ็บปวดที่จะขาแทนมากกว่าแต่ก็ใช่ว่าการที่เธออยู่ใต้น้ำแล้วจะไม่ทรมาณนะ
เธออยากจะรีบๆตายไป จะได้หายจากความทรมาณสักที สุดท้ายเธอก็ทนไม่ไหวจึงปล่อยหินแล้ว กลับขึ้นมาบนบก
ซ่าา
“แค่ก-แค่ก! ”
เธอสำลักน้ำออกมาจำนวนหนึ่ง
“แฮ่ก ท-ทำไม เราถึง-แฮ่ก ยังไม่ตายล่ะ?”
เธอพูดไปหอบไปสุดท้ายเธอก็ต้องกลับขึ้นมานอนแผ่อยู่บนหญ้าที่เดิม…
เมื่อผ่านไปสักพักเธอก็เริ่มรู้สึกหนาวขึ้นมาเพราะตอนนี้ตัวของเธอเปียกไปหมด
พอมองขึ้นไปบนฟ้าก็พบว่ามันเริ่มเย็นแล้วทำให้เริ่มมีลมพัดมาโดนเธอจนจากที่ตอนแรกแค่เย็นๆจากน้ำ ตอนนี้ก็กลายเป็นหนาวทันที
เพราะว่าทนไม่ไหวและเธอเป็นคนที่ค่อนข้างถือว่าขี้รำคาญเล็กน้อย(//อันนี้ไม่ได้บอกไว้ตรงแนะนำตัวละครนะคะ ถือว่าเป็นนิสัยที่ปรากฏในเรื่องละกัน)
เธอจึงไปหยิบหินมา2ก้อนกับของอื่นๆแล้วเอามากระทบกัน แล้วก่อกองไฟ แต่กว่าไฟจะติดก็นานอยู่เหมือนกัน
เมื่อไฟติดเธอจึงไปบิดน้ำให้ออกจากชุดขาดๆของเธอให้หมด แล้วค่อยกลับไปนั่งผิงไฟ เพื่อให้ตัวของเธอมีความอบอุ่นบ้าง
ระหว่างที่ผิงไฟเธอก็เริ่มคิด(//อีกแล้ว?)ว่าทำไมเธอถึงไม่ตายสักที และความคิดนึงที่น่าจะพอเป็นไปได้นั่นก็คือ
“อมตะงั้นหรอ?”
‘อันนี้ก็พอเป็นไปได้อยู่ เพราะอย่างน้อยเราก็น่าจะเกิดใหม่ไม่ก็ทะลุมิติมาสักอย่างนั่นแหละเพราะฉะนั้นก็คงไม่น่าแปลกเท่าไหร่ถ้าจะมีสิ่งที่เรียกว่าอมตะอยู่ล่ะมั้ง?’
เธอคิดถึงความเป็นไปได้ต่างๆนาๆ เช่น ถ้าไม่ได้เป็นอมตะก็น่าจะตายยาก ระหว่างที่นึกไปนึกมาเธอก็นึกถึงประโยคนึงที่เธอได้ยินก่อนจะหลับ
‘ฮิๆ เจ้าอย่าหวังว่าเจ้าจะได้ตายในโลกนี้ยกเว้นการตายเพราะความชราเลย’
‘เจ้าต้องอยู่รอด เพื่อความมั่นคงของโลกใบนี้ และมอบความสนุกสนานแก่ข้าและเหล่าเทพองค์อื่นๆเถอะนะ’
อย่าหวังว่าจะได้ตายงั้นหรอ หึ ในฐานะคนที่อ่านหนังสือและนิยายต่างๆมามากเธอมั่นใจเกินครึ่งว่านั่นต้องเป็นเสียงของคนที่ทำให้เธอมายังที่แห่งนี้แน่ๆ
‘….ไม่อยากจะเชื่อเลยแฮะว่าไอ้นิยายเนื้อเรื่องพล็อตตลาดสุดๆจะมาเกิดขึ้นกับเราเลยแฮะ’
ฉึก!(//…ฮึก ทำไมรู้สึกเหมือนโดนด่าทางอ้อมง่าา)
“น่าสนใจจริงๆนะคะ”
ถึงแม้ว่าปากของเธอนั้นจะ(แสยะ)ยิ้มอยู่ และหน้าของเธอที่นิ่งเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนก็จริง แต่นัยน์ตาที่มืดหม่นอยู่แล้วกลับมืดลงยิ่งกว่าเดิมจนน่ากลัว ไม่ว่าใครก็น่าจะรู้นั่นแหละว่าเธอกำลังโกรธอยู่
“จะว่าไปแล้ว….แผลตอนที่ฉันยกหินจนมีเลือดออกนิดหน่อยก็หายไปแล้วสินะคะ?”
“น่าโมโหจริงๆนั่นแหละค่ะ”
ชิ
“อืมมม งั้นคงต้องทดลองอะไรบางอย่างแล้วล่ะค่ะ”
เธอหยิบก้อนหินแถวนั้นมาก้อนหนึ่ง แล้วเอามาขูดกับแขนตัวเองจนเลือนไหลออกมา แต่แค่สักพักก็พบเรื่องที่เธอคิดว่าในโลกเก่าทำไม่ได้นั่นก็คือ เลือดของเธอไหลกลับเข้าไปในแผลจนหมดแล้วแผลที่เธอทำก็หายไปแบบที่ไม่รู้ว่าเคยมีแผลจริงๆรึเปล่า
“เห? เมื่อกี๊เหมือนรู้สึกเจ็บนิดหน่อยเลยนะคะ ฮะๆ”
“ยังไงก็ตายไม่ได้สินะคะ?”
“อ่าา น่าโมโหสุดๆไปเลยล่ะค่ะ”
“…ช่างเถอะ”
ใช่…'ช่างเถอะ' เพราะยังไงซะเธอก็รู้ดีว่าลึกๆแล้ววถึงแม้ว่าเธออยากที่จะตายแต่ก็ยังมีอยู่ส่วนนึงที่ประท้วงว่าเธอยังอยากใช้ชีวิตต่อ ยังไม่อยากตาย อืม~
‘ความคิดของมนุษย์เนี่ย มันช่างซับซ้อนจริงๆเลยนะคะ?’
.
.
.
โครกก!!
‘หิว…’
‘จะว่าไป เราควรหาอะไรกินสินะ?’
เมื่อคิดได้อย่างงั้นเธอจึงตัดสินใจเดินเข้าไปในป่าเพื่อหาของกิน
ระหว่างที่กำลังเดินดูนั่นดูนี่ว่าอันไหนกินได้บ้าง
เธอก็พบว่าทุกๆอย่างเหมือนกับโลกเดิมของเธอแต่ก็มีผลไม้แปลกๆขึ้นอยู่บ้างเป็นจุดๆ
แต่ที่เธอเห็นแล้วจำขึ้นใจก็คือสิ่งที่เหมือนกับหอยอะไรสักอย่างอยู่บนต้นไม้แล้วมีก้านกับใบไม้เหมือนกับแอปเปิล
แถมยังมีหนอนแปลกๆไต่อยู่แถวๆนั้นเยอะเลยด้วย แค่คิดก็ขยะแขยงแล้ว!
จนกระทั่งเธอเดินไปยังจุดๆหนึ่ง เธอก็พบว่ามีเห็ดขึ้นอยู่จำนวนมากนั่นทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมานิดนึง
“ มีเห็ดเยอะจังเลย…”
แต่เธอก็ต้องอารมณ์เสียอีกครั้งก็เพราะว่า
“ทำไมแต่เห็ดที่กินไม่ได้ล่ะคะเนี่ย?”
ในที่แห่งนี้มีเห็ดเยอะก็จริงแต่ก็มีแต่เห็ดที่เป็นพิษนั่นแหละ ถ้าถามว่าทำไมถึงรู้เธอก็ขอพูดตรงๆว่า ‘อ่านหนังสือ และ ศึกษาเพิ่มเติม’ค่ะ
ระหว่างที่เธอกำลังบ่นในใจเธอก็ได้ยินเสียงของผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นเสียงที่ไพเราะมากที่สุดเท่าที่เธอเคยได้ยินมานั่นแหละ
“หลงทางอยู่หรอคะ?”
“…ค่ะ”
“น่าสงสารจริงเชียว มีอะไรให้พี่สาวช่วยมั้ยคะ? มาหาพี่มา”
เธอลองสำรวจตัวของหญิงสาวคนนี้สักพัก ผู้หญิงคนนี้ใส่ชุดคล้ายๆแม่ชี ผิวเนียน
แถมยังผิวขาวแบบสุดๆ ขาวจนเธอคิดว่าขาดเลือดรึเปล่า และเมื่อลองมองดีๆผู้หญิงคนนี้ไม่ได้กระพริบตาเลยตั้งแต่ที่เธอเห็น
‘แปลก…ทำไมเหมือนไม่ใช่มนุษย์เลยล่ะ?’
'ไม่สิ...ไม่ใช่แค่การกระทำ แต่ทำไมรู้สึกว่าประโยคที่พูดมันก็แปลกๆเหมือนกันนะ?’
“มาหาพี่คนนี้สิคะ เดี๋ยวพี่จะได้พาไปส่ง เนอะ?”
ผู้หญิงคนนี้พูดไปส่วนขาก็ค่อยๆเดินเข้ามาหาเธอเรื่อยๆ ส่วนเธอก็ค่อยๆเดินถอยหลังและเริ่มระวังตัวมากขึ้น
ในจังหวะนั้นเธอก็เห็นว่ามีตัวอะไรสักอย่างอยู่ 2ตัว
ตัวนึงมีตาสีแดง 2ดวง และ อีกตัวตาสีแดงเมือนกันแต่มีตาอยู่ 8ดวง
ซึ่งมันอยู่ที่ข้างหลังของผู้หญิงคนนั้น
‘จะว่าไปแล้ว ที่นี่ก็น่าจะเป็นโลกแฟนตาซีสินะ? งั้น…’
เธอหยิบดินขึ้นมาแล้วปาใส่ผู้หญิงคนนั้นปรากฎว่า ก้อนดินที่เธอปาไปกลับทะลุตัวของหญิงสาวไปแถมผู้หญิงคนนั้นยังหายไปแทน
ฝุบ! ฝุบ!
แต่เธอก็พบว่ามีสิ่งมีชีวิตทั้ง2ที่สีรูปร่างคล้ายๆกับสไลม์ในอนิเมะที่เธอเคยดูอยู่พุ่งเข้าใส่เธอ
ตัวแรกเป็นสไลม์สีดำตาแดงมีเขาเล็กๆ แต่มีปากอยู่ข้างๆเผยให้เห็นฟันที่แหลมและน้ำลายของมันที่เหมือนกับหมาบ้าหรือหมาเวลาที่มันหิวล่ะมั้ง
มันน่าขยะแขยง แต่แล้วเธอก็ได้รู้ว่าน้ำลายของมันนอกจากจะน่าขยะแขยงแล้วมันยังทำให้ขาของเธอที่โดนน้ำลายนั้นเริ่มกลายเป็นสีเขียวเหมือนกับโดนพิษ
ส่วนอีกตัวก็เป็นสไลม์สีดำตาแดงเหมือนกันแต่ต่างตรงที่ว่ามันมีหูและหางเหมือนแมว พอความเร็วของตัวแรกตกมันก็เข้ามาแทนที่
‘…สามัคคีกันเกินไปแล้ว’
ระหว่างที่เธอกำลังอธิบายรูปร่างให้ใครก็ไม่รู้ขาของเธอก็รีบวิ่งไปอย่างเต็มกำลัง ซึ่งตอนนี้เธอรู้สึกว่าขาซ้ายของเธอเริ่มชาเพราะพิษของไอ้สไลม์บ้านั่น
เธอวิ่งไปเรื่อยๆ ส่วนตาก็รีบมองหาอาวุธสักอย่างที่พอจะใช้ได้
จนสายตาของเธอไปสะดุดเข้ากับกิ่งไม้อันแหลมที่ดูเหมือนจะบังเอิ๊ญบังเอิญมีคนมาเหลาแล้วก็ทิ้งไว้
ไม่รอช้าเธอรีบวิ่งไปเอาไม้แหลมแล้วหยิบก้อนดินมา1กำก่อนที่จะปามันออกไปใส่สไลม์มีเขาตัวนั้น
มันชะงักไปครู่นึง แน่นอนว่าเธอย่อมไม่เสียโอกาศ
เธอใช้จังหวะนั้นในการเอาไม้แหลมทิ่มเข้าไปบนหัวของมันแต่ผลก็คือมันยังไม่ตาย
ด้วยความที่เธอโมโหและกลัว(ไม่)มากมากเธอจึงกระหน่ำแทงไปจนเธอเผลอแทงบริเวณขางๆเขาของมัน
แต่แล้วเธอก็พบว่ามันส่งเสียงร้องแปลกๆว่า
กิวๆ! กิ๊วว!!
มันเป็นเสียงที่ไม่เหมาะกับสภาพที่น่ากลัวของมันสักนิดเดียว
แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เธอรู้ว่าตรงนี้คือจุดอ่อนของมัน
เมื่อเธอรู้อย่างงั้นเธอจึงเริ่มกระหน่ำแทงอีกครั้งแต่เน้นย้ำตรงบริเวณข้างๆเขาของมัน
พอเธอทำไปเรื่อยๆเธอก็พบว่าตัวของมันเหมือนจะละลายและสีซีดลงมานิดนึงแต่มันยังไม่ตายแน่ๆเพราะเธอยังเห็นมันตัวสั่นงึกๆอยู่เลย
จังหวะพอดีกับที่อีกตัวมันมาถึงพอดี ตาทั้ง8ดวงของมันจ้องมาที่เธอแบบสั่นไหว
และพอมองไปที่อีกตัวมันก็ตัวสั่นอย่างกับแผ่นดินไหว เมื่อเธอเห็นอีกตัวหนึ่งด้วยความที่ว่า
ณ ตอนนี้เธอโมโหมากๆและอยากที่จะระบายอารมณ์อีกสัก(ไม่)นิด
เธอจึงหันไปยังสไลม์หูแมวพร้อมพูดกับมันด้วยน้ำเสียที่เป็นมิตร(ตรงไหน(วะ)คะ?)ว่า
“อ้าวๆ มาอีกตัวนึงแล้วหรอคะ??”
“ฉันกำลังโมโหอยู่พอดีค่ะ”
“ไหนๆคุณก็ทำให้ฉันโมโห ก็มารับผิดชอบด้วยสิคะ….ไม่ต้องห่วงนะคะ เจ็บนิดเดียวเท่านั้นแหละค่ะ”
เธอพูดพร้อมเดินเข้าไปหามันด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ส่วนสไลม์หูแมวตัวนั้นก็ตัวแข็งและเริ่มตัวสั่นหนักกว่าเดิม
ฮิๆ!
“ไม่-เจ็บ-หรอก-ค่ะ”
.
.
.
.
To be continued
-ให้ นักอ่านผู้น่ารักทุกท่าน-
เย้ จบไปแล้วนะคะกับอีก 1ตอน คำเดิมนะคะ 'อย่าหาสาระและความเป็นจริง' จากเรื่องนี่นะคะ บอกแล้วว่าเรื่องนี้มันกาว
ส่วนเนื้อเรื่องก็อย่างที่บอกไว้ตอนต้นนั่นแหละค่ะว่าส่วนใหญ่คือสโลวไลฟ์นะคะแต่จะมีเรื่องความรักนิดนึง(Y)ตรงส่วนหลังๆนั่นแหละค่าา(มั้ง?)
ส่วนถ้าถามว่าเรื่องนี้ดาร์ครึเปล่า? เค้าขอยืนยันนะคะว่าเรื่องนี้สดใสค่ะ แค่ะจะดาร์คช่วงแรกนิดเดียว แต่ตอนจบ Happy Ending แน่นอนค่ะ แล้วก็อย่างที่เค้าบอกไปว่า เค้าจะอัพทุกๆ 7 วันนะคะ อย่าลืมล่ะ
….อืม น่าจะหมดแล้วมั้ง? สุดท้ายก็…ทุกคนสามารถมาเม้นให้เค้าได้น้าาไม่กัดหรอกค่ะ มีอะไรก็ถามมาได้นะค้าาจะตอบให้ถ้าเค้าตอบได้อ่ะนะ(ปล.ที่บทของสไลม์งงๆก็เพราะว่ามันคือมอนไม่มีทางที่จะเข้าใจมนุษย์ได้100%นะคะ)
งั้น…บาย ๆ หวังว่าจะเจอในตอนต่อไปนะคะ คุณนักอ่านผู้น่ารักทุกท่าน
-จาก Tsukino-
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ