I'm Promise เกิดใหม่ในนิยายที่ชอบ!?(ชื่อชั่วคราว)

-

เขียนโดย Tsukiyo_

วันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2564 เวลา 00.55 น.

  6 ตอนที่
  10 วิจารณ์
  5,486 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 29 มกราคม พ.ศ. 2564 02.05 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) จุดจบแห่งความแค้น

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก


 ความเดิมตอนที่แล้ว……………….

 

 
 
"หนูรู้ค่ะ……..ว่าการทำอย่างนี้มันสิ้นคิด"
 
"แต่ว่านะคะ…."
 
"หนูน่ะ…….ไม่ไหวอีกต่อไปแล้วล่ะค่ะ"
 
"รอหนูก่อนนะคะ…..คุณพ่อ….คุณแม่"
 
"หนูกำลังจะไปหาแล้วนะคะ"เธอยิ้มอ่อน
 
"ลาก่อนโลกใบนี้…."เธอพูดพร้อมค่อยๆ ปิดตาก่อนจะค่อยๆ เดินออกมาจากเก้าอี้ ทีละก้าว……ทีละก้าว จนสุดท้ายก็….
 
.
 
.
 
.
 

 
แต่ก่อนที่จะลงมาจากเก้าอี้เพื่อที่จะทำให้เธอตายแล้ว แต่อยู่ดีๆ เธอก็พึ่งมาคิดได้เรื่องนึง……………
 
“!?”
 
“ไม่สิ"
 
เธอกลับมายืนให้คงที่แล้วรีบนำห่วงเชือกออกจากคอ
 
"ถ้าทำอย่างงี้แล้วเราตายไปละก็….คนที่ได้รับผลประโยชน์ก็คือไอ้คนสารเลวนี่นา?”
 
“ขนาดจะได้ตายแล้ว ก็ยังมาหลอกหลอนอยู่ได้”
 
“อืม~ งั้นก็คงต้องกลับไปชำระแค้นนิดๆ หน่อยๆละกันเนอะ? หึ” เธอกระตุกยิ้มบางๆ คนแทบมองไม่เห็น
 
มิยูในตอนนี้กำลังคิดแผนการที่จะทำให้ผู้เป็นน้าของเธอไม่ต้องมีที่ยืนในสังคม
 
“น่าสนุกจริงๆ นั่นแหละ” อยากรู้จริงๆ ว่ามันจะทำหน้ายังไงกันนะ?
 
‘รีบไปดีกว่า ไม่งั้นคงสายแย่เลย’
 
 
เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอก็รีบเดินไปยังบ้านของน้าพร้อมกับเอาไฟแช็กและน้ำมันที่มีอยู่ในโรงรถไปด้วย
 
 
และเพื่อที่จะไม่ให้เป็นจุดสังเกตมากเกินไปเธอจึงนำของพวกนี้ไปใส่ในกระเป๋าผ้า
 
 
22:30
 
 
Miyu Part
 
 
    กว่าเธอจะเดินมาถึงก็ดึกจนน้าของเธอไปนอนแล้ว หากถามว่าเธอรู้ได้ยังไงก็เพราะว่าเธอมีกุญแจเป็นของตัวเอง เพราะบางครั้งเจ้านั่นก็ชอบกลับดึก แล้วมันก็มักจะอ้างกับเธอว่ามีงานต้องทำแต่เธอรู้ว่าที่จริงแล้วมันไม่ได้ไปทำงานหรอก
 
 
มันแค่ไปเล่นพนันเท่านั้นเอง ที่เธอรู้เพราะเธอเคยแอบตามอยู่เพราะสงสัยว่าทำไมมันชอบกลับดึก
 
 
แถมเงินที่เธอคอยทำงานเล็กๆ น้อยๆ ก็ชอบหายไปบ่อยๆ ด้วย
 
 
…รู้สึกว่ามันจะนอกเรื่องเกินไปแล้ว
 
 
งั้นก็เข้าเรื่องก่อนละกัน….รู้สึกว่าไอ้เฮงซวยนั่นทำพ่อกับแม่ของเธอจากไปแล้วยังมาด่าว่าพ่อแม่ของเธอว่าโง่อีกสินะ?
 
 
สงสัยว่ามันคงจะไม่ค่อยเจอกับความเจ็บปวดหล่ะมั้ง
 
 
เพราะพ่อแม่ของเธอตายท่ามกลางไฟ ทั้งยังโดนระเบิดจากรถอีก
 
 
มันคงไม่รู้นั่นแหละว่าการที่ตายท่ามกลางไฟที่แสนจะร้อนแล้วยังมาโดนระเบิดซ้ำเนี่ยมันเจ็บแค่ไหน
 
 
ถ้าถามว่าเธอเข้าใจความเจ็บปวดนั่นมั้ย เธอสามารถตอบได้เลยว่า ไม่
 
 
แต่อย่างน้อยเธอก็รู้ว่ามันต้องเจ็บจนไม่สามารถจินตนาการได้อย่างแน่นอน
 
 
ในระหว่างที่เธอกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่นั้นก็ใช่ว่าเธอจะยืนคิดอยู่เฉยๆ หรอกนะ
 
 
เพราะตอนนี้มือของเธอที่กำลังถือถังน้ำมันอยู่และกำลังราดน้ำมันให้ทั่วบ้าน
 
 
ทั้งข้างในและข้างนอกเธอจุดไฟแช็กพร้อมพูดกับอากาศไว้ว่า
 
 
"ตอนแรกก็ไม่คิดจะทำอย่างนี้เพราะยังเคารพคุณอยู่ ถึงคุณจะทำตัวแย่แต่คุณก็ยังเลี้ยงดูฉัน "
 
"แต่ในเมื่อคุณเลี้ยงดูฉันด้วยเหตุผลอย่างนี้ล่ะก็ ฉันก็ไม่จำเป็นที่ต้องเคารพคุณอีกต่อไป หวังว่าเราจะไม่ต้องเจอกันอีกนะคะ ลาก่อน"
 
 
หลังจากพูดจบเธอก็ได้โยนไฟแช็กลงบนกองไฟหลังจากที่มันค่อยๆ เกิดไฟลุกฉันจึงค่อยเดินออกมา
 
เดี๋ยวรอภาพก่อนนะคะ จินตนาการไปก่อน ขอไปวาดภาพ (ไม่) แป๊บนะคะ ต้องรอนานนิดนึงค่ะ
(อย่าคาดหวังกับภาพเลยค่ะ เค้าวาดไม่สวยเท่าไหร่อ่ะ)
 
 
ระหว่างที่เดินออกมาเรื่อยๆ ก็ได้ยินเสียงของคนกลุ่มหนึ่งพูดขึ้นมาว่า….
 
“เฮ้ยๆ ไฟไหม้ๆๆ”
 
 
“ตายๆๆๆ รีบโทร 199 เร็วๆ สิวะ”
 
 
“เออๆ ก็รีบอยู่เนี่ย แหกตาดูสิเห็นยัง”
 
 
“เดี๋ยวๆ ไอ้199มันของประเทศไทยโว้ยย”
 
 
“อ้าว? ไอ้Aเป็นคนไทยเรอะ? ไหนแกบอกมาจากเกาหลี เรียนเก่ง สาวตรึมไม่ใช่หรอวะ?”
 
 
“…เออๆ! คนไทย ชัดมั้ยฮะ มีปัญหารึไง?”
 
 
“ใจเย๊นนน ใจเย็นๆ ก่อนดิเฮ้ย อย่าพึ่งทะเลาะกันตรงนี้ดิ โทร119ก่อนนน”
 
 
“โทรแล้วๆ (*) _ (#! #$%^& () (*&^ ครับๆ ขอบคุณครับ…..เสร็จละ”
 
 
“แล้วจะให้ทำอะไรต่ออีก?”
 
“ถามมาได้ ก็รีบหนีสิ ไม่ทราบว่าจะรอใครมาตัดริบบิ้นรึไงครับ ฮะ?”
 
“เออ รู้แล้วๆ ไปๆ รีบหนีเหอะ”
 
ในระหว่างที่มีคนมากมายต่างคนต่างรีบวิ่งหนีออกจากตึกนั้นโดยไม่ได้สนใครนอกจากการเอาตัวรอด นั่นทำให้ไม่มีใครเห็นสิ่งสิ่งหนึ่งที่น่ากลัวเลยสักคน
 
สิ่งสิ่งนั้นก็คือรอยยิ้มของเด็กสาวคนหนึ่งที่แสนจะน่าสยดสยอง
 
 
และแน่นอนว่าถ้าหากมีคนเห็น ก็คงจะขนลุกขนพองไปอีกนาน
 
 
เดี๋ยวรอภาพก่อนนะคะ จินตนาการไปก่อน ขอไปวาดภาพ (ไม่) แป๊บนะคะ ต้องรอนานนิดนึงค่ะ
(อย่าคาดหวังกับภาพเลยค่ะ เค้าวาดไม่สวยเท่าไหร่อ่ะ)
 
ตึก……ตึก…..ตึก….ตึก
 
 
พอเดินออกหากจากตัวตึกมาได้สักพัก
 
 
เธอก็ได้กลับมาอยู่ตรงหน้าบ้านเก่าของเธอพร้อมด้วยอารมณ์ที่แสนจะแปลกประหลาด
 
 
มันเป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อว่าคนที่ไม่ค่อยมีความรู้สึกอย่างเธอจะได้สัมผัสกับความรู้สึกอื่นๆ นอกจากอารมณ์ด้านลบเลย
 
 
ที่มันแปลกไปกว่านั้นก็คือ เธอไม่รู้สึกอะไรเลย….ไม่เลยสักนิด
 
 
มันเป็นความรู้สึกที่แปลกใหม่ มันไม่ใช่ทั้งความรู้สึกผิด ความดีใจ หรือเสียใจ
 
 
มันเป็นความรู้สึกที่มีเพียงแค่ความโล่งใจเท่านั้น อืม~…..ความจริงเธอก็ไม่มั่นใจเลยเหมือนกัน……ไม่รู้สิ
 
 
เพราะเธอก็จำความรู้สึกนี้ไม่ได้มานานมากแล้ว อาจจะสัก 1ปี 2ปี 3ปี หรืออาจจะมากกว่านั้นเลยด้วยซ้ำไป
 
 
แต่ที่มันน่าสนใจไปกว่านั้นคือ ริมฝีปากของเธอกำลังแสยะยิ้มอยู่
 
 
เดี๋ยวรอภาพก่อนนะคะ จินตนาการไปก่อน ขอไปวาดภาพ (ไม่) แป๊บนะคะ ต้องรอนานนิดนึงค่ะ
(อย่าคาดหวังกับภาพเลยค่ะ เค้าวาดไม่สวยเท่าไหร่อ่ะ)
 
 
เธอไม่เข้าใจเลยแม้แต่นิดเดียวว่าทำไมเธอถึงได้แสยะยิ้มอย่างงั้นได้
 
 
และถึงแม้ว่าเธอจะยังคงสงสัยอยู่เธอก็คิดง่ายๆ เพียงแค่ว่า ‘ช่างเถอะ’
 
 
มันเป็นคำตอบที่ทำให้เธอไม่จำเป็นต้องคิดอะไรเยอะแยะในสมองมากนัก
 
 
 
แน่นอนว่าเธอก็ใช้คำๆ นี้ในการตอบคำถามหลายๆ อย่างมาหลายร้อยคำถามแล้วด้วย
 
 
 
ระหว่างนี้เธอก็พึ่งคิดได้ว่ายังต้องทำตามแผนอยู่
 
 
“อ่าา~….จริงสิ เกือบลืมไปเลยแฮะ แย่จริงๆ”
 
 
“ช่วงนี้ชอบเผลอคิดนอกเรื่องตลอดเลย”
 
 
เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้วเธอจึงค่อยๆ เดินมายังชั้น 2 เธอมายืนตรงจุดที่เธอตั้งใจว่าจะฆ่าตัวตายในตอนแรกนั่นเอง
 
 
“ตอนนี้ก็เหลือแค่แผนสุดท้ายแล้วสินะคะ?”
 
 
เมื่อพูดเสร็จเธอก็มานั่งอยู่หน้าคอมตัวโปรดที่แม่ของเธอซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด
 
 
พอคอมเปิดแล้วเธอก็เปิดเข้าไปในแอพโซเชียล
 
 
แต๊กๆ ….แต๊กๆๆๆ //เนรมิตเอาเองว่าเป็นเสียงตอนพิมพ์เอานะคะ แหะๆ
 
2 นาทีผ่านไป
 
“เสร็จสักที…..ประมาณเท่านี้คงพอได้อยู่ละมั้งนะ?”
 



 
 
'wait for me mom dad im going to meet you'
 
.
 
.
 
.
 
.
 
5 นาทีผ่านไป
 



 
'wait for me mom dad im going to meet you'
 
 



 
 
“อืมๆ”
 
“เอาล่ะ……..ประมาณนี้ก็คงได้แล้วมั้งนะ?”
 
 
สายตาที่สุดแสนจะมืดหม่นของมิยู ได้เหลือบมองจดหมายบางอย่าง ใช่
 
 
อย่างที่บางคนน่าจะคิดถูก (?) มันคือจดหมายลาตายนั่นแหละ มันก็เป็นสิ่งปกตินี่เนอะ?
 
 
เวลาคนส่วนใหญ่จะฆ่าตัวตายกันก็ต้องมีจดหมายลาตายนั่นแหละ
 
 
แต่แค่ว่าจดหมายลาตายของเธอฉบับนี้มันน่าจะแตกต่างออกไปเพียงเล็กน้อย (มั้ง) เพราะว่าเธอได้เขียนความจริงทุกๆ อย่างไว้ในนั้นลงไป
 
เธอขอย้ำอีกครั้งว่า…ทุกๆ อย่าง ตั้งแต่เรื่องที่คนอื่นพูดถึงเกี่ยวกับเธอว่ายังไง เรื่องของเพื่อนสนิทของเธอ
 
 
แน่นอนว่าเพื่อให้ดูน่าสงสารก็อาจจะมีการผสมสีตีไข่เล็กๆ น้อยๆ นั่นแหละ ยันหัวข้อหลักๆ เลยนั่นก็คือ….เรื่องน้าของเธอ
 
 
“ฮิๆ เอาล่ะๆ ~”
 
 
“อยากจะรู้จริงๆ เลยนะคะ ว่ามันจะยังใช้ชีวิตแบบปกติ เชิดหน้าชูตาได้อีกรึเปล่าแฮะ?”
 
 
“ที่เหลือก็แค่เอาหลักฐานทุกๆ อย่างใส่เข้าไป”
 
“ฮึบ! …..”
 
ปึก!!
 
 
เอกสารกองโตที่เกี่ยวกับการโกง ยักยอกทรัพย์ และความผิดอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผิดเล็กๆ น้อยๆ จนไปถึงเรื่องใหญ่
 
 
แถมเธอยังรู้มาอีกว่าน้าของเธอมักแอบไปขายข้อมูลของบริษัทให้กับอีกบริษัทคู่แข่งอีกด้วย
 
 
“ฮ่าา! ~ หนักชะมัดเลย”
 
 
“มันทำความผิดมาเยอะเลยสินะ"
 
 
“แต่ก็ต้องขอบคุณมันจริงๆ นั่นแหละอ่ะน้า ที่อุตส่าห์ทำความผิดเยอะนั่นแหละ ไม่งั้นคงจะทำให้เราลำบากน่าดู”
 
 
“อืมๆ หมดเวลาแล้วสิ”
 
 
“ถึงแม้ว่ามันจะน่าเสียดายนิดหน่อยที่ไม่ได้ดูละครฉากเด็ดให้ถึงตอนจบก็เถอะ แต่ว่าอย่างน้อย………”
 
“ฉันก็มั่นใจได้อย่างนึงเลยว่า มันต้องอยู่อย่างสุขสบายไม่ได้ไปอีกนานนนแสนจะนานเลยแน่ๆ”
 
หึ
.
 
.
 
.ในตอนนี้ขาที่เริ่มล้าเพราะต้องวิ่งไปวิ่งมาของเธอ ค่อยๆ ก้าวขึ้นไปบนเก้าอี้
 
ดวงตา1คู่ที่ไร้ประกายและมีเพียงแค่ความมืดมนนั้น ได้จ้องมองไปยังเชือกที่ถูกเธอมัดเป็นบ่วงไว้
 
 
เธอเริ่มเอาหัวลอดเข้าไปในบ่วงนั้น
 
 
ณ เวลานี้ ทุกๆ อย่างเหมือนราวกับเป็นวิดีโอที่ถูกนำกลับมาฉายอีกครั้ง
 
 
แค่แตกต่างอยู่อย่างนึง เพราะครั้งแรกเธอกำลังจะจากไปพร้อมความสิ้นหวัง แต่ตอนนี้เธอจากไปด้วยความรู้สึกที่ขาวโพลน
 
 
มันไม่ได้รู้สึกแย่แต่ก็ไม่ได้รู้สึกมีความสุขอีกเช่นกัน
 
 
เธอหลับตาและใช้ขาถีบเก้าอี้ออกไปนั่นทำให้เธอไร้ซึ่งที่ยืน
 
ขาของเธอเริ่มปัดไปมาตามสัญชาตญาณ ของมนุษย์อย่างไม่อาจที่จะสามารถหลีกเลี่ยงได้
 
 
และอย่างที่เธอได้คิดไปเมื่อกี้นี้ ในใจตอนนี้เธอรู้สึกโล่งใจ เธอโล่งใจที่เธอได้แก้แค้นไอ้เฮงซวยนั่นสำเร็จ
 
 
เธอได้เขียนจดหมายลาตายและความจริงที่แสนจะโสมมของไอ้เฮงซวยนั่นลงไป
 
 
และสุดท้าย….เธอโล่งใจที่ในที่สุดเธอจะได้ไปหาครอบครัวที่ตนเองคะนึงหาแล้ว
 
 
"อึก..... แม่คะ...พ...พ่อคะ...."
 
เธอกล่าวพร้อมน้ำตาที่ร่วงหล่นจากหางตาที่ไม่สามารถรู้ได้ว่าทำไมเธอถึงมีน้ำตาขึ้นมาได้ซึ่งเธอก็ไม่สนมันเช่นกัน
 
ในตอนสุดท้ายเธอก็ค่อยๆ เห็นภาพที่กำลังมืดลงๆ แปลก…ที่เธอกลับรู้สึกสงบ ไร้ซึ่งความกลัวอย่างน่าฉงน
.
 
.
 
.
 
.
วันต่อมา
 
 
ในตอนนี้ ภาพของหญิงสาวที่ได้ผูกคอตายและจากไปด้วยรอยยิ้มนี้นั้นได้ถูกแพร่ออกไป
 
 
สำนักพิมพ์ และข่าวทุกช่องต่างก็ออกความเห็นและทำข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเปิดช่องไหนก็จะพบแต่ข่าวเกี่ยวกับเด็กสาวคนนี้
 
นั่นทำให้ไม่มีใครไม่รู้จักข่าวนี้เลยสักคน เวลาเดินไปที่ไหนก็จะได้ยินหัวข้อนี้เป็นที่พูดถึงมาโดยเฉพาะในโลก โซเชียล
 
ติ๊ง ติ๊งๆๆๆ ….ตึง//คิดว่าเป็นเพลงตอนเข้าข่าวละกันเนอะ?
 



 
“สวัสดีค่ะท่านผู้ชมทุกท่าน ยินดีต้อนรับเข้าสู่รายการ….'ข่าวเด็ดเผ็ดร้อนนะคะ'”
 
 
“ดิฉัน ‘อาสึกิ อากิโกะ’ ค่ะ”
 
 
“ข่าวแรกเลยนะคะ เมื่อวานนี้ได้เกิดเหตุไฟไหม้ที่บ้านเลขที่22/280 ในหมู่บ้าน ริริสึโฮมส์ค่ะ”
 
 
“ซึ่งทางตำรวจได้คาดการณ์ไว้ว่ามีคนวางเพลิงภายในบ้านและนอกบ้านค่ะ”
 
 
“ผู้เสียหายคือ นาย ‘นัทสึโกะ ฮิระ’ ค่ะ”
 
 
“คุณ'ฮิระ'นั้นได้สูญเสียทรัพย์สินรวมทั้งหมดเป็นเงินมูลค่า 16 ล้านเยนค่ะ”
 
 
“ตอนนี้ตำรวจคาดว่าผู้ต้องสงสัยคือ'นัทสึโกะ มิยู' ผู้เป็นหลานสาว ค่ะ”
 
 
“เนื่องจากว่าทางเพื่อนบ้านได้ให้การไว้ว่า เห็นผู้ต้องหารีบเดินไปไหนไม่รู้ค่ะ”
 
“แต่ที่เรื่องนี้กลายเป็นข่าวดังก็เป็นเพราะว่าเรื่องราวเกิดพลิกขึ้นมาค่ะ ที่เรื่องราวพลิกขึ้นมาก็เป็นเพราะว่าใน แอพ โซเชียล ของผู้ต้องหาคาดว่าน่าจะฆ่าตัวตายเพื่อหลบหนีความผิดนั่นเองค่ะ”
 
 
“เดี๋ยวทางทีมงานช่วยเอาภาพขึ้นมาด้วยนะคะ…..ขอบคุณค่ะ”
 



 
 
“เดี๋ยวเราจะให้คุณ'สึกิมิยะ' เป็นคนรายงานค่ะ ขอบคุณค่ะ…..”
 
 
“ครับ ขอบคุณครับคุณอาสึกิ”
 
 
“เอาล่ะครับตอนนี้เป็นเวลา 9.00 น. นะครับ ทางเราได้รับรายงานจากทางตำรวจไว้ว่า”
 
 
“คาดการณ์จากศพแล้ว น่าจะเสียชีวิตในตอนเที่ยงคืนครับ สาเหตุการตายเพราะขาดอากาศหายใจจากการผูกคอตายครับ”
 
 
“และที่น่าสนใจก็คือ…..ทางตำรวจพบจดหมายลาตายครับ ซึ่งมันไม่แปลกอะไรอยู่แล้วเพราะว่าส่วนใหญ่เวลาฆ่าตัวตายก็จะเขียนจดหมายลาตายไว้ครับ แต่ที่น่าตกใจก็คือ…”
 
 
“เราพบหลักฐานการยักยอกทรัพย์ของคุณฮิระครับ ซึ่งสรุปความมาได้ว่า คุณฮิระนั้นได้วางแผนฆ่าชิงทรัพย์สินของพี่สาวและพี่เขยของตัวเองครับ และพี่สาวของคุณฮิระก็คือผู้เป็นมารดาของคุณ'มิยู'นั่นเองครับ”
 
 
“เมื่อคุณมิยูอายุครบ18 เมื่อไหร่เขาจะได้เงินครึ่งหนึ่งในทรัพย์สินของคุณมิยูนั่นเองครับ ซึ่งมีมูลค่า60ล้านเยนครับ”
 
 
“ขอจบการรายงานข่าวแต่เพียงเท่านี้ครับ สวัสดีครับ”
 
 
“ค่ะ ขอบคุณค่ะคุณสึกิยามะ…..เป็นข่าวที่น่าสลดจริงๆ เลยนะคะ ต้องขอแสดงความเสียใจให้กับทางญาติด้วยนะคะ”
 
“และนี่คือข่าวสุดท้ายของเบรกนี้ค่ะ ขอบคุณค่ะ”
 
“ไว้พบกันใหม่ในเบรกต่อไป สวัสดีค่ะ”
.
 
.
 
.
 
.
3 นาทีต่อมา
 
 
“เหตุสลด!! เด็ก14ผูกคอตายเพราะปัญหาชีวิต สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ News Tv 12.com”
 
 
เดี๋ยวรอภาพก่อนนะคะ จินตนาการไปก่อน ขอไปวาดภาพ (ไม่) แป๊บนะคะ ต้องรอนานนิดนึงค่ะ
(อย่าคาดหวังกับภาพเลยค่ะ เค้าวาดไม่สวยเท่าไหร่อ่ะ)
 
sAyO//น่าสงสารน้องเค้าอ่าาา
FF1//เฮ้ย! ตายจริงเหรอวะ -ูคงไม่โดนผีหลอกใช่ป่ะ
Ryso//@FF1 พิมพ์ไปแล้วก็ต้องรับผลไปในสิ่งที่ตัวเองพิมพ์ด้วยค่ะ
M&N//โห น้าโคตรแย่ สงสารน้องอ่ะ ที่ต้องมาทนอยู่กับน้าเลวๆ แบบนี้
 
 
 
.
 
 
.
 
 
 
.
 
 
.
 
.
 
To be continued.
 

-ให้ นักอ่านผู้น่ารักทุกท่าน-
 
สวัสดีค่าาา เป็นไงเอ่ย? เมารึยังคะ? เมากาวน่ะ ก็นะพยายามอย่าหาความสมเหตุสมผลจากเรื่องนี้เลยนะคะ 555 เพราะเค้าก็ไม่รู้ว่าเค้าแต่งมาได้ยังไงเหมือนกันนั่นแหละนะบางคนคงจะเงินว่าทำไมถึงลงวันนี้ทั้งๆที่เมื่อวานก็ลงแล้ว? นั่นก็เพราะว่า.....มีคนเข้ามาอ่านตอนแรก 15 คนแล้วยังไงล่ะคะ!(//ง่ายๆแค่นี้แหละ ไม่ว่าจะหลงมาหรืออะไรยังไงก็เถอะน้าา)
 
แต่แค่วันนี้เท่านั้นนั่นแหละค่ะ อืม...อ๊ะ ลืมบอกไปว่าเวลาที่จะอัพไม่แน่นอนก็จริงแต่อัพวันศุกร์แน่ๆค่ะ ส่วนเรื่องภาพเดี๋ยวจะทยอยวาดมาลงนะคะ ถ้างั้นก็…บายๆ น้าาาา ไว้เจอกันใหม่ในตอนหน้านะคะ (ปล.สามารถเม้นมาได้นะคะ เค้าไม่กัดหรอกนะ ฮิๆ) บายๆ
-จาก Tsukino-

 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณนักอ่านผู้น่ารักทุกท่านคะ ไม่ทราบว่าเรื่องนี้อ่านแล้วงงหรือยังไงมั้ยเอ่ย?

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา