น้าไม่รู้ ชู้อยู่ไกล

-

เขียนโดย ทูน่าน้อย

วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2564 เวลา 20.56 น.

  2 ตอน
  0 วิจารณ์
  2,672 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 มกราคม พ.ศ. 2564 21.03 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) ของฝากถึงน้า

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
หลังทานข้าวเสร็จร่างบางที่สวมกระโปรงสั้นเหนือเข่าก็ช่วยธรรพ์เก็บจานบนโต๊ะทานข้าว เอาไปไว้ในซิงค์ล้างจาน เช็ดโต๊ะเก็บกวาดเศษอาหารที่ตกพื้นเรียบร้อย
“มาค่ะ เดี๋ยวฟ้าช่วยล้าง” เมื่อจัดการโซนทานอาหารเสร็จ เห็นน้าชายยังล้างจานอยู่ เธอจึงเสนอตัวช่วยเขางานจะได้เสร็จเร็วขึ้น
“ไม่เป็นไรฟ้าไปนั่งพักเถอะ” เขาหันมาปฏิเสธหลานนอกสายเลือด
“ให้ฟ้าช่วยเถอะค่ะ งานจะได้เสร็จไว ๆ” นัยน์ตากลมโตมีเสน่ห์สบตากับตาคมเข้มสีน้ำตาลของเขา
“งั้น ฟ้ามาช่วยน้าเช็ดจานด้านข้างก็ได้” เห็นเธอเสนอตัวเองแบบนี้จึงไม่อยากปฏิเสธให้เสียน้ำใจ
“น้าสอนที่มหาวิทยาลัยนี้มากี่ปีแล้วเหรอคะ” สาวเจ้าหันไปคุยกับคนตัวใหญ่ มือขยับเช็ดจานไปด้วย
“ราว ๆ 4-5 ปี” ชายหนุ่มตอบโดยไม่ได้มองหน้า
“อืม...งั้น...ถ้าฟ้าถามอะไร น้าธรรพ์จะโกรธไหมคะ” นิ้วชี้เคาะริมฝีปากอวบอิ่มทำท่าคิดหนักถามคนด้านข้าง
“ถามมาสิ” ธรรพ์ผู้กำลังตั้งหน้าตั้งตาล้างจานอยู่เอ่ยเป็นเชิงอนุญาต
“น้าอิงกับน้าธรรพ์คบกันตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” ตากลมใสแวววาวฉายความสงสัยใคร่รู้
“สามปีก่อน” เขาหันมามองคนตัวเล็กทีหนึ่ง ก่อนจะเบนสายตากลับมาจดจ่อกับการล้างจานต่อ
“งั้นก็แสดงว่าน้าธรรพ์กับน้าอิงพึ่งศึกษาดูใจกันได้สามปีก็ตัดสินใจแต่งงานกันแล้วเหรอคะ” นัยน์ตาลุกวาวด้วยความตื่นเต้น
“อันที่จริงน้ารู้จักกับอิงมาก่อนหน้านั้นนานแล้ว พึ่งคบอย่างจริงจังก็ตอนสามปีก่อน” เขาอธิบายเสริม
“อืมม...ครั้งแรกของทั้งสองคนคือเมื่อไหร่คะ” เอียงคอมองร่างหนาด้วยความซุกซน
ซ่า!... ชายหนุ่มตกใจเผลอเบี่ยงทางน้ำไหลกระเด็นเปียกปอนพวกเขาทั้งคู่
“อะ เอ่อ สงสัยเป็นเรื่องที่ไม่ควรถามสินะคะ แหะๆ”
“น้าขอโทษ” ธรรพ์รีบร้อนหันมาขอโทษฟ้าใส เสื้อสีขาวท่อนบนเปียกน้ำจนลู่ลงเผยให้เห็นชั้นในสีแดงเพลิง เรือนร่างเย้ายวนใจปรากฏต่อหน้าเขา อึก...ร่างกำยำแอบกลืนน้ำลายไปหนึ่งอึก
“ไม่เป็นไรค่ะ ฟ้าพูดไม่คิดเอง”
“ทางนี้ก็ใกล้เสร็จแล้ว ฟ้าไปอาบน้ำพักผ่อนเถอะ” เขาเห็นสภาพล่อแหลมของเธอเลยเบนสายตามองไปด้านข้างเอ่ยบอกสาวน้อยอย่างกระอักกระอ่วนใจ
“ฟ้าเช็ดจานนี่เสร็จพอดี น้าธรรพ์ช่วยพาไปดูหน่อยได้ไหมคะ ฟ้าไม่รู้ว่าต้องพักห้องไหน” ดวงตาใสแป๋วมองหน้าขอความช่วยเหลือ
“น้าลืมไป โทษทีนะ” เขารีบจัดการใช้ผ้าขี้ริ้วเช็ดบริเวณที่เปียกน้ำให้เสร็จแล้วเดินไปเอากระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของเธอที่ห้องนั่งเล่น
“ตามขึ้นมาเดี๋ยวน้าจะพาไปดูห้อง” ร่างสูงหันกลับมาเรียกหญิงสาวที่กำลังเดินสำรวจห้องนั่งเล่น
“ค่าา” เจ้าหล่อนเร่งฝีเท้าตามให้ทันก้าวยาว ๆ
ทั้งสองเดินไปหยุดหน้าห้องถัดจากบันไดไป ธรรพ์เปิดประตูพร้อมกับเปิดไฟด้านในขวามือเดินนำเข้าไปวางกระเป๋าไว้ข้าง ๆ เช็คความเรียบร้อยภายในห้อง
“ฟ้านอนห้องนี้ ส่วนน้ากับอิงพักอยู่ห้องตรงกันข้าม ถ้ามีอะไรฉุกเฉินไปเคาะเรียกได้เลยนะ” ธรรพ์บอกเผื่อเธอมีเรื่องเร่งด่วนจะได้ไม่ต้องเดินเคาะทุกห้อง
“ค่ะ” ร่างบางรับคำพยักหน้าเบา ๆ
“ฟ้าอาบน้ำเตรียมเข้านอนเถอะ เริ่มดึกแล้ว” สิ้นคำชายหนุ่มเตรียมหันหลังก้าวเดิน
“อ๊ะ! เดี๋ยวก่อนค่ะ ฟ้ามีของที่แม่ฝากมาให้น้าอิง ขอฝากน้าเอาไปให้แทนได้ไหมคะ” แววตาเป็นประกายช้อนขึ้นสบกับคนตรงหน้า
“ได้สิ”
“รอแป๊บนะคะ” ร่างเล็กยิ้มออกมาอย่างดีใจหันหลังให้คนตัวใหญ่ก้มลงเปิดกระเป๋าเดินทางตรงโดยลืมไปว่าเธอใส่กระโปรงสั้นปลายบานอยู่
ดวงตาลุ่มลึกสาดแววแรงกล้าวูบหนึ่งมองเห็นแก้มก้นขาวเนียนใต้กระโปรง กางเกงในจีสตริงสีแดงสีเดียวกับเสื้อชั้นในตัวเมื่อกี้ของเธอซึ่งปกปิดอะไรต่อมิอะไรแทบไม่มิดนอกจากส่วนที่เป็นรูเท่านั้น เขาลากสายตามองตามเข้าไปข้างในเห็นกลีบเนื้ออวบ ๆ แสนซุกซนแอบออกมาเล่นนอกกางเกงใน จู่ ๆ ความเป็นชายก็เริ่มบวมเป่งดุนดังกางเกงใส่อยู่บ้านจนเห็นเป็นลำ ร่างกำยำกลืนน้ำลายลงคอ รู้สึกกระหายน้ำขึ้นมาทันที
“อยู่นี่ไง!” เมื่อเจอของในกระเป๋าเธอก็ร้องออกมาท่าทางยินดีพลันหันกลับมาหาเขายื่นกล่องในมือไปตรงหน้า
ร่างสูงตกใจเอามือมาบังเป้าใหญ่ของตัวเองก่อนจะรับของฝากมาไว้ในมือ
“รีบอาบน้ำเข้านอนเถอะ ดึกแล้ว” ธรรพ์กำชับกำชาหลานคนสวยเสร็จก็หันหลังเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
 
เจ็ดโมงเช้า ฟ้าใสก็ลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวใส่เสื้อยืดรัดรูปสีขาว กางเกงขาสั้นสีดำ เดินลงไปชั้นล่าง เห็นฟ้ากำลังทำกับข้าวกลิ่นหอมฉุยลอยมาแต่ไกล ร่างเล็กเดินเข้าไปหา
“น้าทำอะไรอยู่คะ หอมจังเลย” สาวเจ้าทำจมูกฟุดฟิดสูดดมกลิ่นหอม ๆ ที่ลอยอวลอยู่กลางอากาศ
“ข้าวต้มทะเลทรงเครื่อง เราทานได้ไหม” ฝ่ายญาติผู้ใหญ่ถามเผื่อหลานรักอาจแพ้อาหารทะเล
“น้าทำอะไรให้กิน ฟ้าก็ชอบทั้งนั้นแหละค่ะ” คนช่างอ้อนพูดพลางกอดเอวออดอ้อนอิงฟ้า
“ทำอะไรกันอยู่สาว ๆ” ธรรพ์เดินลงบันไดมาเห็นทั้งสองกอดกันกลมอดจะเข้าร่วมไม่ได้
“อิงทำของโปรดธรรพ์อยู่ค่ะ แต่หลานสาวตัวยุ่งมากวนซะก่อน”
“ไม่ใช่สักหน่อย น้าอิงอ่ะ” คนตัวเล็กทำหน้างอ หันไปกอดชายหนุ่มที่อยู่ข้างหลังซึ่งห่างจากอิงฟ้าสี่ห้าก้าวหมายหาตัวช่วย จู่ ๆ ก็ถูกร่างนุ่มนิ่มจู่โจมเข้ามากอดโดยไม่ทันตั้งตัวทำให้ร่างหนาชะงักเล็กน้อย จากนั้นทำตัวเนียน ๆ กอดเธอเอาไว้ลูบแผ่นหลังปลอบสาวน้อยเบา ๆ
“อิง ขี้แกล้งแบบนี้แหละ” เขาก้มลงบอกร่างนุ่มนิ่ม เจ้าหล่อนเองก็เงยหน้าประสานสายตาเช่นกัน ท้องน้อยรู้สึกถึงของแข็ง ๆ บางอย่างกำลังดุนดันอยู่ แต่เธอไม่ได้ว่าอะไรกลับกดกายท่อนล่างของตนให้แนบชิดกับส่วนนั้นของเขามากขึ้น อารมณ์ปรารถนาตอนเช้า ๆ ทำให้ร่างสูงเผลอไผลไปกับการกระทำของเธอมือใหญ่ที่กำลังลูบแผ่นหลังบอบบางค่อย ๆ เลื่อนต่ำลงมาอีกนิดเพื่อลูบไล้บั้นท้ายกลมกลึงพลางกดให้ส่วนนั้นสัมผัสถึงการคงอยู่ของกันและกัน
อิงฟ้าที่หันกลับไปเตรียมผัดผักทำกับข้าวอีกอย่างจึงไม่ได้เห็นภาพน้าหลานที่กอดกันแนบแน่นเกินความจำเป็น
เมื่อเห็นว่าภรรยาไม่ได้สนใจทั้งสองมากนัก ธรรพ์จึงได้ใจสอดมือใต้กางเกงขาสั้นกำลังจะล้วงเข้าไปข้างในแต่พบว่าเธอไม่ได้ใส่ชุดชั้นใน ความเป็นจริงที่ค้นพบทำให้เขาตกตะลึง กายเล็กยิ่งบดเบียดทรวดทรงใหญ่โตกับแผงอกกำยำของเขา การแนบชิดนี้ทำให้ธรรพ์ได้กลิ่นหอมของแป้งเด็กลอยมาจากร่างบอบบางในอ้อมกอด
ในเมื่อไม่มีกางเกงในเป็นอุปสรรคเขาจึงสามารถลากนิ้วเข้าไปทักทายเนินเนื้อของเธอได้อย่างสบายใจและค้นพบว่าส่วนนั้นของเธอเปียกชื้นด้วยน้ำรักอยู่ก่อนแล้ว ชายหนุ่มแปลกใจก้มลงมองเรียวหน้างาม เธอก็รู้ตัวเช่นกันเงยหน้ากัดริมฝีปากบางเป็นการยั่วยวนเพิ่มความกระสันทางอ้อม
ท่าทางน่ารักเปี่ยมเสน่ห์ของเธอทำให้เขาหน้ามืดตามัว สอดนิ้วเข้าไปในร่องที่เตรียมพร้อมรอท่าอยู่ก่อนแล้ว ชักเข้าออกช้า ๆ กลัวว่าหากทำเสียงดังภรรยาอาจจะได้ยิน ถึงจะสอดใส่ช้าทว่าลงน้ำหนักหนักแน่น ร่างบางเสียวซ่านไปทั้งตัว เงยหน้าเผยอปาก รอรับจุมพิตจากคนตัวโต
เห็นเธอเปิดทางขนาดนี้เขาจะรอช้าอยู่ไย ก้มลงสนองตัณหาให้ทันท่วงทีพร้อมกับสอดปลายลิ้นเข้าไปทักทายอรุณสวัสดิ์ยามเช้า ลิ้นทั้งสองเกี่ยวกระหวัดดูดดื่ม น้ำลายที่ผสมกันไหลมาตามขอบปากจนถึงปลายคางมน
ฟ้าใสขยับถ่างขาออกเล็กน้อยหวังให้เขาเติมเต็มและสนองความต้องการให้มากกว่านี้ ขณะกำลังคลอเคลียอยู่ อิงฟ้าที่ไม่ได้ยินเสียงของทั้งคู่มาสักพักจึงหันกลับไป
“นอกจากผัดผักแล้วเอาอย่างอื่นอีกไหม”
ร่างซึ่งกำลังคลอเคลียรีบผละออกจากกันแทบไม่ทัน ดีที่อิงฟ้าไม่ได้สังเกตอะไรมากมายเท่าไหร่
“แค่นั้นก็พอแล้วล่ะ” ธรรพ์ยกมือขึ้นเช็ดริมฝีปากการกระทำเป็นไปตามธรรมชาติจึงไม่ได้ผิดสังเกต
 “ฟ้า ดื่มน้ำเป็นเด็ก ๆ ไปได้ เลอะคางแล้วนั่น” ส่วนอิงฟ้าสังเกตเห็นหยดน้ำปลายคางหลานสาว จึงชี้คางตัวเองเป็นการบอกตำแหน่ง
เจ้าบ้านเข้าใจไปว่าน้ำลายตรงนั้นเป็นน้ำที่สาวน้อยดื่มแล้วไม่ทันระวังตัวจึงทำให้เปรอะเปื้อน เอ๊ะ แต่ว่าเธอไม่ได้ยินเสียงหลานสาวเปิดตู้เย็นหยิบน้ำเลยนะ ความสงสัยวาบผ่านสมองพลันจางหายไปอย่างรวดเร็ว
ฟ้าใสเอานิ้วมือเช็ดปลายคางก่อนจะอมนิ้วเข้าปากช้อนสายตาสบกับร่างหนาอย่างมีจริตจะก้าน คล้ายกำลังเชื้อเชิญ
อิงฟ้าหันกลับไปจัดแจงผัดผักลงบนจาน ตกแต่งให้สวยงามน่ารับประทาน ก่อนร้องเรียกให้ทั้งสองคนมาช่วยจัดโต๊ะตั้งสำรับสำหรับมื้อเช้า
ทั้งสามคนจัดแจงเอาอาหารมาตั้งไว้บนโต๊ะ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยต่างพากันนั่งลงเตรียมทานข้าว อิงฟ้านั่งข้างสามีและให้ร่างเล็กนั่งฝั่งตรงข้าม ภรรยาสุดสวยลุกขึ้นยืนตักข้าวต้มใส่ชามคนรักอย่างเอาใจใส่ จากนั้นก็หันไปหาฟ้าใสรับชามมาตักให้หลานตัวเอง
“ไม่ต้องเอาเยอะนะคะ” ฟ้าใสเอ่ยปากบอกกลัวน้าสาวจะตักให้เยอะเกินไปจนกินไม่หมด
“เราตัวแค่นี้เอง ต้องทานเยอะ ๆ”
“ก็ฟ้ากินไม่หมดนิคะ” น้ำเสียงเว้าวอนขอให้น้าอิงเมตตาต่อท้องน้อย ๆ ของเธอ
“กินเท่าแมวดมแบบนี้เมื่อไหร่จะโต...หื้ม...” ธรรพ์หันมาดุคนทานน้อยบ้าง
“ตักมาเยอะฟ้ากินไม่หมด เดี๋ยวก็ต้องเททิ้งอยู่ดี ฟ้าเสียดายค่ะ” สาวเจ้ากล่าวอู้อี้เสียงอ่อนใส่ชายหนุ่ม
“อ่ะ ทานให้หมด” สุดท้ายอย่างไรเสียคนเป็นน้าก็ยังใส่ใจในคำพูดของหลานจึงตักเพียงครึ่งเดียว
“โถ่  น้าอิงคะ” ทว่าแม้แต่ครึ่งหนึ่งก็เยอะไปสำหรับคนทานน้อย
“ถ้าทานไม่หมดเดี๋ยวน้าจัดการที่เหลือเอง” ในเมื่อหาข้อตกลงไม่ได้เขาจึงยื่นข้อเสนอดังกล่าวเพื่อกระตุ้นคนตัวเล็ก
“แต่ต้องกินมากกว่าครึ่งนะ” เขากล่าวเสริมเกรงว่าจอมเจ้าเล่ห์จะวางแผนกินแค่นิดเดียว
“ก็ได้ค่ะ” สาวน้อยรับคำดีใจที่มีคนช่วย
“โตแล้วหัดทานเยอะ ๆ หน่อยจะได้มีสารอาหารเพียงพอ” อิงฟ้าเริ่มบ่นด้วยท่าทีไม่จริงจังนัก
“น้าอิงบ่นเหมือนแม่ฟ้าเลย” ร่างบางส่งสายตาใสหวานฟ้องน้าชาย
จากนั้นต่างคนต่างก้มหน้าจัดการในส่วนของตัวเอง ขณะกำลังกินข้าวเพลิน ๆ ต้นขาของเขาก็ถูกเท้าเล็กถูไถขึ้นลงเบา ๆ ความกระสันที่ยังคงอยู่เมื่อกี้ตื่นตัวทันที เขาเหล่มองภรรยาคนสวยที่กำลังฟินกับอาหารเลิศรสข้างหน้า หันกลับมามองร่างบางตรงข้ามกับตัวเอง ฟ้าใสมองอีกฝ่ายอยู่ก่อนแล้วเมื่อเห็นเขายอมมองมาสักที ปลายลิ้นเล็กแลบเลียเศษอาหารตรงขอบปาก ยกช้อนที่เปื้อนข้าวต้มขึ้นมาไล้เลียตามความโค้งของมัน
หญิงสาวส่งสายตาเจือความปรารถนาให้เขา เท้าเล็กข้างใต้เลื่อนขึ้นตามต้นขา น่อง ไปหยุดอยู่ใจกลางเป้าใหญ่ยักษ์จัดการถีบส่วนนั้นของเขาเบา ๆ เหยียบย่ำน้องชายจนขยายใหญ่โต ธรรพ์มองเรียวหน้าเรียบเฉยที่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ดวงตาคู่งามกลับฉายประกายร้อนแรงให้
เห็นดังนั้นเขาก็ยกขายาวของตัวเองไต่ไปตามขาและน่องของเธอบ้าง ซุกเข้าไปในกางเกงขาสั้นถูไถรอบเนินเนื้อเบา ๆ จากนั้นก็สอดนิ้วโป้งเข้าไปในร่องรัก ร่างเล็กกระตุกหนึ่งทีพลันออกแรงที่ขาถีบน้องชายโดยใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ของเท้าเล็กหนีบรอบความใหญ่โตชักขึ้นลง ทั้งสองสลับกันชักเข้าชักออก ‘แค่นี้ไม่พอ’ ฟ้าใสคิด
เคร้ง! มือเล็กปัดช้อนให้ตกลงไปใต้โต๊ะอย่างแนบเนียน เธอมุดหัวลงไปในผ้าปูโต๊ะทำทีมองหาช้อนที่ทำตกไว้ แต่เป้าหมายที่แท้จริงคือความใหญ่โตที่อยู่ตรงหน้า ฟ้าใสขยับตัวเองไปกลางหว่างขาที่อ้าอยู่
เหมือนเขาจะรู้ทันแผนเธอเช่นกันจึงดันตัวเองเข้ามานั่งแนบชิดกับขอบโต๊ะเพื่อที่ภรรยาจะได้ไม่เห็นคนที่อยู่ใต้โต๊ะ ร่างเล็กใช้มือลูบไล้ต้นขาอ่อนเคลื่อนที่เข้าไปตามซอกกางเกงจนพบขอบกางเกงในพลางสอดนิ้วเข้าไปกำรอบน้องชายอวบใหญ่ สาวขึ้นลงจากปลายจนสุดโคน
“ซี๊ดด!” เขาเสียวแกนกายร้องครางซูดปากออกมา
“เป็นอะไรหรือเปล่าธรรพ์ เผ็ดไปเหรอคะ อิงไม่น่าใส่พริกไทยให้เยอะเลย” คนข้างตัวถามสามีอย่างเป็นห่วงและโทษที่ตัวเองปรุงรสจัดจ้านให้เขา
“มะ ไม่เป็นไร ผมกินได้” ร่างหนาพูดจาติดขัด หน้าเริ่มแดงเพราะต้องอดกลั้นความต้องการเอาไว้
“ตายจริง! สงสัยธรรพ์จะเผ็ดมากจริง ๆ รอเดี๋ยวนะคะ” ร่างผอมบางรีบร้อนยืนขึ้นเดินไปหาทิชชูและหยิบน้ำเย็นให้เขา
ในเมื่อทางสะดวกโล่งแล้ว ฟ้าใสก็ปลดกระดุมกางเกง รูดซิปลงล้วงเอ็นอุ่น ๆ ออกมา จัดแจงอมเข้าไปเต็มปากเต็มคำ โยกศีรษะเข้าออกเร่งจังหวะให้เขาด้วยความรวดเร็วโดยไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่วิเดียว แท่นเนื้อเข้ามาถึงลำคอของเธอ เกิดเสียง อ๊อก ๆ ดังขึ้นมาจากใต้โต๊ะทานข้าว เธอเร่งจังหวะรัว ๆ ขึ้นเรื่อย ๆ มือเล็กสองข้างก็โอบอุ้มไข่สองใบในมือนวดคลึงมันเบา ๆ ไม่นานนักเขาก็กระตุกในปากเธอแรง ๆ ฉีดพ่นน้ำคาวเค็มในลำคอหญิงสาว ปากเล็กดูดดื่มกลืนลงท้องทั้งหมด ใช้ลิ้นไล้เลียทำความสะอาดบริเวณส่วนหัวของน้องชาย
ทันใดนั้นอิงฟ้าก็กลับมาพร้อมกับทิชชู น้ำเย็น และชามใบใหม่เตรียมตักข้าวให้ธรรพ์
“ฟ้าใสทำอะไรใต้โต๊ะน่ะ” เห็นผ้าคลุมโต๊ะสั่นไหวบวกกับฟ้าใสไม่ได้นั่งบนเก้าอี้ เธอจึงคาดว่าหลานสาวน่าจะอยู่ใต้โต๊ะนั่นเอง
“เฮ่อ อยู่นี่เอง” ร่างบางออกจากใต้โต๊ะพร้อมโชว์ช้อนในมือ
“ข้าวต้มทรงเครื่องของน้าอิงอร่อยมากจนฟ้าใสทำช้อนตกเลย เสียดายเค็มไปหน่อยนิดหนึ่ง” ว่าพลางใช้ลิ้นไล้เลียน้ำเชื้อที่เปื้อนขอบปาก มองไปทางร่างสูงแวบหนึ่งก่อนหันมายิ้มยิงฟันให้อิงฟ้า
“น้าก็ใส่เกลือน้อยแล้วนะ...เราไม่ชอบทานรสเค็มหรือเปล่าถึงรู้สึกว่าเค็มไป” อิงฟ้าเอ่ย
“สงสัยจะใช่นะคะ” เธอพยักหน้าเห็นด้วยแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ทานอาหารที่เหลือต่อเงียบ ๆ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา