If...
-
เขียนโดย Nelveny
วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 23.15 น.
2 chapter
0 วิจารณ์
2,791 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 23.18 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) ครอบครัวสุขสันต์
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ11 Nov 2020
ท่ามกลางพายุหิมะ มีบ้านหลังหนึ่งกำลังมีช่วงเวลาที่สุขสันต์
"ลูกรัก เขียนชื่อตัวเองคล่องรึยังเอ่ย ไหนลองเขียนให้พ่อดูหน่อยสิคะ" ชายหนุ่มวัยกลางคนระบายยิ้มออกมาพลางชี้ไปบนหน้ากระดาษที่ว่างเปล่า ข้างหน้าเขาคือเด็กหญิงผมบลอนด์ ตาสีฟ้า ดูปกติทั่วไป แต่สำหรับเขาแล้ว เธอคือคน"พิเศษ"
เด็กหญิงตัวสั่นก่อนจะค่อยๆจับดินสอขึ้นมาแล้วเขียนชื่อตัวเองลงไป ด้วยความที่ยังเด็กทำให้ลายมือของเด็กน้อยหงิกงอและคดโค้งไปมา เด็กน้อยค่อยๆเงยหน้าขึ้นสบตาคุณพ่อของตนเองด้วยน้ำตาที่คลอเบ้าก่อนจะเอ่ยปากถาม
"ช..ใช้ได้มั้ยคะ ค..คุณพ่อ" คุณพ่อยังคงยิ้มแบบเดิมก่อนจะก้มลงดูผลงานของลูกสาวตนเอง
"อืม… แย่มากเลยค่ะ รู้ใช่มั้ยคะ ว่าพ่อจะทำอะไรต่อ" คุณพ่อพูดพลางขยับเข้ามานั่งใกล้ลูกสาวตนเองแล้วล้วงบางสิ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อ เด็กสาวเห็นดังนั้นจึงรูดแขนเสื้อกันหนาวที่ตนกำลังใส่อยู่ขึ้น เผยให้เห็นแผลเป็นที่เขียนว่า FIORA อยู่มากมายหลายร้อยคำอยู่บนแขนเล็กๆนั่น
"คุณพ่อ สอนหนูเขียน ด..ได้เลยค่ะ.." สิ้นคำเด็กน้อยคุณพ่อก็ยื่นผ้าให้กัดเอาไว้ พลางตวัดมีดพกปลายแหลมออกมา ก่อนจะค่อยๆขีดเขียนลงไปบนแขนของเด็กน้อย
"ชื่อของหนูคือ ฟีโอร่า มา พ่อจะสะกดทีละตัวนะ F..." คุณพ่อพูดไปด้วยค่อยๆกรีดใบมีดลงบนแขนของลูกตัวเองไปด้วย เด็กสาวกัดผ้าแน่นน้ำตาไหลอาบแก้ม
"I..O..R..A.." คุณพ่อผละออก หยิบผ้าข้างตัวออกมาเช็ดเลือดที่ใบมีดก่อนจะให้เด็กน้อยได้ชื่นชมวิธีการเขียนที่ตนพึ่งสอนไป
"จำไว้นะลูก ว่าชื่อตัวเองเขียนยังไง.. เอาล่ะ พ่อจะให้โอกาสลูกอีกครั้งนึง ถ้าทำได้ไม่ดี พ่อจะสอนเขียนใหม่นะคะ" เด็กน้อยพยักหน้าพร้อมน้ำตาก่อนจะหยิบดินสอขึ้นมาอีกครั้งด้วยมืออันสั่นเทา
ในห้องครัวข้างล่างบ้านนั้นเต็มไปด้วยอารมณ์สนุกสนานของสองแม่ลูกที่กำลังหยอกล้อกัน ลูกสาวคนโตของบ้าน ฟีเรียล(Ferial) วัย 8 ขวบกำลังเล่นปาหมอนกับแม่หรือ มิส เฟอร่า บราวน์ อยู่ เสียงหัวเราะดังขึ้นไปถึงบนห้องนอนของเด็กน้อย นามว่าฟีโอร่า(Fiora) ที่ตอนนี้ตนได้เขียนชื่อผิดอีกครั้ง
เด็กน้อยก้มหน้านิ่ง น้ำตาหยดลงบนแผ่นกระดาษเป็นดวง คุณพ่อเอื้อมมือมาลูบหัวฟีโอร่าพลางกล่าวปลอบ
"ไม่เป็นไรนะคะ เด็กดี ตรงแขนขวาเต็มแล้ว แขนซ้ายก็เต็มแล้ว ยังเหลือตรงหลังให้พ่อสอนเขียนอยู่นะคะ" คุณพ่อ หรือ มิสเตอร์ เอ็ดวาร์ด บราวน์ พูดพลางลูบแผ่นหลังของลูกสาวตนเองไปด้วย
"คราวนี้ถ้าหนูเขียนถูก พ่อจะให้ลงไปเล่นกับพี่ที่ชั้นล่างนะคะ ตกลงมั้ย?"
ฟีโอร่าพยักหน้าอย่างรวดเร็วก่อนจะค่อยๆหันหลังแล้วถลกเสื้อขึ้นเพื่อให้พ่อสอนการ"เขียนชื่อ"ที่ถูกต้องให้ตนอีกหลายครั้ง…
"คุณแม่ขา ของขวัญวันเกิดของฟีโอร่าปีหน้า หนูอยากลองถักผ้าพันคอให้น้อง" ฟีโอร่าที่ค่อยๆเดินลงบันไดมา ได้ยินดังนั้นก็ยิ้มออกมาจางๆ ก่อนจะก้าวเข้าไปหาแม่และพี่ฟีเรียลที่ยิ้มต้อนรับตนอยู่
"เป็นไงบ้างลูกฝึกเขียนชื่อกับคุณพ่อ คุณพ่อว่าไงเอ่ย" คุณแม่โอบกอดฟีโอร่าด้วยความทะนุถนอม ฟีโอร่าเอนตัวพิงคุณแม่โดยเว้นระยะห่างจากพนักพิงโซฟาไว้ ก่อนจะตอบเสียงเบา
"คุณพ่อบอกว่าหนูต้องฝึกอีกเยอะเลยค่ะคุณแม่" เด็กน้อยทำตาใส คล้ายกำลังอ้อนวอนขอให้คุณแม่ช่วยบอกคุณพ่อให้ปราณีตนหน่อย
ฟีเรียลเห็นก็กล่าวว่าตนก็อยากเรียนกับพ่อบ้าง คุณแม่ยิ้มออกมาจางๆก่อนจะเอ่ยขึ้น
"ลูกก็รู้ฟีเรียล พ่อเค้าน่ะเป็นคนลำเอียง น้องก็พึ่ง 5 ขวบเอง ทั้งฝึกพูดฝึกเขียน รู้แล้วว่ารักมาก แต่นี่มันชักจะเกินไปหน่อยแล้วมั้ง ว่ามั้ยคะคนดีของแม่?" คุณแม่ดึงตัวฟีโอร่ามาหอมกลางกระหม่อมก่อนจะมองลูกสาวคนเล็กที่ตอนนี้ใบหน้าซีดเซียว
"ดูซิ ลูกแม่หน้าซีดหมดแล้ว ได้กินอะไรบ้างรึยังเนี่ย แม่มีเค้กแครอทของโปรดลูกด้วยนะวันนี้" ฟีเรียลรีบลุกขึ้นยืนก่อนจะคว้ากล่องของขวัญใบเล็กข้างตัวออกมา
"สุขสันต์วันเกิดนะฟีโอร่า น้องสาวสุดที่รักของพี่" ฟีเรียลยื่นกล่องให้ ก่อนจะเข้าไปโอบกอดน้องตนเบาๆ แล้วผละออกมา ฟีโอร่ายิ้มตาหยี ก่อนจะแกะกล่องของขวัญด้วยแรงที่มีอยู่น้อยนิด ข้างในเป็นตุ๊กตาหมีสีขาวตัวเล็กๆ ขนาดเท่าผลแอปเปิ้ลผลหนึ่ง ฟีโอร่าหยิบขึ้นมาแนบกลางอกก่อนจะเอ่ยขอบคุณพี่สาวด้วยเสียงแผ่วเบา ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าพี่ฟีเรียลอยากเรียนกับพ่อ แต่มันเจ็บมากๆ จึงจะเอ่ยบอกพี่ของตนไป
"พ..พี่คะ เรียนกับพ่อมันจ.." พูดไม่ทันจบประโยค คุณพ่อก็เดินลงบันไดมาด้วยท่าทีผ่อนคลาย คุณพ่อนั่งลงบนโซฟาข้างๆตัวฟีโอร่าก่อนจะเอ่ยถาม
"เรียนกับพ่อจะเป็นยังไงบ้างคะฟีโอร่า" คุณพ่อลูบหัวฟีโอร่าเบาๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปสัมผัสแผ่นหลังที่ตนพึ่งสลักอักษรลงไปเบาๆ ฟีโอร่าสะดุ้งเฮือก ก่อนจะละล่ำละลั่กพูดขึ้นว่า
"เรียนกับพ่อ พ..พี่จะ..ส..สนุกมากๆเลยค่ะ!" ฟีโอร่าพูดพร้อมระบายยิ้มออกมาอย่างฝืนๆ ฟีเรียลได้ยินดังนั้นก็ตาลุกวาวอยากจะเรียนกับคุณพ่อบ้าง คุณพ่อส่ายหัวไปมาก่อนจะพูดขึ้นว่า
"ลูกเรียนเก่งแถมยังมีคุณครูคอยสอนแล้ว น้องเขียนไม่ค่อยเก่งพ่อต้องคอยจับมือเขียนอยู่เรื่อยเลย ถ้าให้พ่อสอนลูกอีกคน น้องฟีโอร่าก็จะต้องเขียนเองนะคะ" ฟีเรียลผงกหัวเข้าใจก่อนจะบอกว่าตนไม่เรียนแล้วก็ได้
คุณพ่อก้มมองนาฬิกาพลางพูดขึ้นว่า
" ได้เวลาอาบน้ำของฟีโอร่าแล้ว มาค่ะ คนดี มาอาบน้ำกับพ่อ" คุณแม่ส่ายหัวกับความหวงลูกเกินตัวของสามีตนเอง แม้กระทั่งอาบน้ำคนเป็นพ่อก็อาสาทำเองทุกอย่าง แถมให้เหตุผลที่ปฏิเสธไม่ได้อย่าง
'ช่วยกันดูแลลูกไงคุณ ถ้าให้คุณดูแลทั้งสองคนก็เหนื่อยแย่เลยสิ'
ทำให้คนเป็นแม่ยอมปล่อยให้คนเป็นพ่อดูแลลูกคนเล็กไป
โดยรวมทุกอย่างก็โอเคดี ติดแค่ว่าช่วงนี้คุณพ่อเรียกฟีโอร่าขึ้นไปฝึกเขียนบ่อยกว่าปกติ แทบจะสองวันครั้ง จากที่เคยเรียกไปอาทิตย์ละครั้ง แถมช่วงนี้ฟีโอร่าใส่แต่เสื้อแขนยาวหรือเสื้อกันหนาวทั้งวัน แต่ก็พอเข้าใจได้เพราะช่วงนี้เป็นช่วงหน้าหนาว ฟีโอร่าเป็นคนขี้หนาว ตอนยังเด็กฟีโอร่าจะชอบงอแงให้เธออุ้มมากอดแล้วนั่งข้างเตาผิงไฟอุ่นๆ ในบ้าน น่าแปลกที่ผ่านไปเพียงปีเดียวลูกสาวคนเล็กจากที่เป็นเด็กแก่น พูดอ้อแอ้ตลอดเวลา ก็กลายเป็นเด็กเรียบร้อย พูดน้อยลง ตนก็เป็นห่วงอยู่บ้าง แต่สามีก็บอกว่าเป็นช่วงที่เด็กกำลังเติบโตอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ก็ทำให้หมดห่วงไป
"ฟีเรียลเองก็อยากอาบกับคุณพ่อบ้างค่ะ!" ฟีเรียลเสนอตัวอย่างกระตือรือร้น คุณพ่อส่ายหัวอีกครั้ง
"ลูกโตแล้วนะ ต้องหัดอาบน้ำเอง ฟีโอร่าก็เหมือนกัน สัก 6 ขวบให้ฝึกอาบน้ำเองดีมั้ยคะ หื้ม?" คุณพ่อพูดตอบก่อนจะหันมาถามทางฟีโอร่าที่จับปลายนิ้วก้อยของตนอยู่ ฟีโอร่าพยักหน้ารับ ราวกับว่าอาบน้ำเองก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ ก่อนจะเดินตามคุณพ่อขึ้นไปห้องน้ำชั้นบนอย่างเชื่องช้า…
"ดูสิลูก เลือดหนูสีสวยมากเลยนะ" คุณพ่อทักขึ้นหลังจากถอดชุดให้ฟีโอร่าเสร็จ ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบแขนทั้งสองข้างของลูกเบาๆ แล้วกระซิบข้างหู
"ฟีโอร่านี่คือชื่อของลูก.. สิ่งที่พ่อมอบให้ รักษามันไว้ให้ดีนะคะ ถ้ารอยไหนมันเริ่มจางบอกพ่อนะ พ่อจะเขียนให้ใหม่" ฟีโอร่าพยักหน้าด้วยความกลัว
"ว่าแต่.. วันนี้ลูกจะพูดอะไรกับพี่ฟีเรียลหรอคะ หื้ม? เรียนกับพ่อสนุกมากใช่มั้ยคะ" คุณพ่อจับฟีโอร่านั่งลงในอ่างอาบน้ำที่เปิดน้ำร้อนอยู่ครึ่งอ่าง เด็กน้อยสะดุ้งโหยงเมื่อตัวสัมผัสโดนน้ำ มันร้อน..ร้อนมากๆ ฟีโอร่าพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ คุณพ่อไม่ชอบน้ำตา ห้ามร้องไห้ ไม่งั้นจะโดนตี ตนยังจำเข็มขัดหนังสีดำอันโปรดของคุณพ่อได้ดี
พ่อมักจะใช้มันฟาดเธอยามที่ทำอะไรผิด และมันเจ็บมาก เจ็บกว่าที่พ่อสอนเขียนชื่ออีก ฟีโอร่าเลยพยายามเป็นเด็กดีให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ครั้งล่าสุดที่โดนฟาดก็คือตอนที่เผลอทำแจกันใบโปรดในห้องหนังสือของพ่อแตก ฟีโอร่าในตอนนั้นได้แต่ยืนนิ่งรอพ่อด้วยความกลัว พอพ่อกับพี่ฟีเรียลมาเห็น พ่อก็รีบวิ่งเข้ามาจับไหล่ของฟีโอร่าแล้วบีบอย่างแรงจนเธอร้องออกมาด้วยความเจ็บ พ่อรีบพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
"เจ็บตรงไหนลูก! โดนแจกันบาดรึเปล่า ให้พ่อดูแผลหน่อยสิคะ"
ฟีเรียลที่ยืนอยู่หน้าประตูก็รีบวิ่งมาดูน้องตัวเองว่าบาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า แต่ก็ไม่กล้าแตะตัวน้องเพราะเห็นพ่อจับแล้วน้องเจ็บ ตนก็กลัวจะทำน้องเจ็บไปด้วย
"งั้นพ่อพาฟีโอร่าไปทำแผลที่ห้องพ่อนะลูก ส่วนฟีเรียลไปเรียกคุณแม่มาช่วยเก็บกวาดเศษแจกันหน่อยนะคะ" คุณพ่ออุ้มน้องฟีโอร่าเดินออกไปจากห้องหนังสือ ฟีเรียลได้แต่ยืนมองตาปริบๆ ก่อนจะรีบวิ่งไปบอกแม่ว่าแจกันแตก
"นังตัวดี! รู้มั้ยแจกันใบนั้นแพงแค่ไหน!! ขายแกไปก็ได้ไม่ถึงครึ่งของแจกันใบนั้นด้วยซ้ำ!!" พ่อกดสำลีที่ชุ่มไปด้วยแอลกอฮอล์กดย้ำๆ ที่แผลถลอกและแผลลึกจากการล้มและโดนบาด ฟีโอร่านั่งเงียบน้ำตาไหล
"รู้ตัวใช่มั้ย!!! ว่าจะโดนอะไร!!!" ฟีโอร่ารีบคุกเข่าลงตัวสั่น พึมพำคำว่าขอโทษไม่หยุดปาก พ่อส่งเสียงหึในลำคอเพียงครั้งเดียว ฟีโอร่าก็หมอบตัวลงแล้วถลกเสื้อขึ้นเผยให้เห็นแผ่นหลังขาวใสของเด็กสาววัย 5 ขวบ คุณพ่อไล่ลากนิ้วผ่านเข็มขัดที่แขวนไว้อยู่ทีละอัน ก่อนจะหยุดที่เข็มขัดหนังสีดำด้าน พ่อยืนนิ่งก่อนจะหยิบออกมาจากราวแขวน แล้วทดลองฟาดกลางอากาศราวๆ สองรอบ ฟีโอร่าได้แต่หมอบตัวแล้วร้องไห้อยู่อย่างนั้น คุณพ่อเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะคุกเข่าลงแล้วบอกว่า
"รู้มั้ย แจกันใบนั้นราคา 1,000 ดอลลาร์ แต่เห็นแก่ที่ลูกไม่หนีความผิด แถมยังเป็นครั้งแรกพ่อจะลดความผิดให้ จาก 100 ที เป็น 50 ทีแทนละกันนะคะ 'เด็กดี'ของพ่อ" สิ้นคำในห้องนอนเก็บเสียงของคุณพ่อก็เต็มไปด้วยเสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวดของเด็กน้อยคลอไปกับเสียงเข็มขัดหนังฟาดลงบนแผ่นหลัง
ฟังดูราวกับดนตรีชั้นสูงสำหรับเอ็ดวาร์ด เขาหลับตาพริ้มก่อนจะเพิ่มแรงฟาดขึ้นไปอีก พอถึงครั้งที่ 37 ฟีโอร่าก็สลบไป เอ็ดวาร์ดดึงเสื้อกันหนาวลงก่อนจะปลดล็อคประตูห้องแล้วตะโกนเรียกภรรยาตนด้วยน้ำเสียงกังวลว่า
"คุณ! ฟีโอร่าลูกเรามีไข้อ่อนๆ คืนนี้ผมจะพาฟีโอร่ามานอนด้วย คุณช่วยนอนกับฟีเรียลแทนฟีโอร่าทีได้มั้ย?" ภรรยาถามกลับด้วยความเป็นห่วงลูกสาวว่าเป็นอะไรมากรึเปล่า ตนก้มมองลูกสาวที่สลบอยู่ ก่อนจะตอบกลับไปว่าแค่ไข้อ่อนๆนอนพักซักคืน คอยเช็ดตัวเดี๋ยวก็หาย และแน่นอน คืนนั้นฟีโอร่ามีเพียงแค่หมอนใบนึงที่นอนของเด็กน้อยคือข้างเตียงของคุณพ่อ พื้นไม้อันแสนหนาวเหน็บ ไม่มีแม้กระทั่งผ้าห่ม ฟีโอร่าห่อตัวเข้าหากัน ก่อนน้ำตาจะไหลออกมาช้าๆ ภาวนาให้เทพธิดาองค์ใดก็ได้ช่วยพาตนออกไปจากที่แห่งนี้ที...
ท่ามกลางพายุหิมะ มีบ้านหลังหนึ่งกำลังมีช่วงเวลาที่สุขสันต์
"ลูกรัก เขียนชื่อตัวเองคล่องรึยังเอ่ย ไหนลองเขียนให้พ่อดูหน่อยสิคะ" ชายหนุ่มวัยกลางคนระบายยิ้มออกมาพลางชี้ไปบนหน้ากระดาษที่ว่างเปล่า ข้างหน้าเขาคือเด็กหญิงผมบลอนด์ ตาสีฟ้า ดูปกติทั่วไป แต่สำหรับเขาแล้ว เธอคือคน"พิเศษ"
เด็กหญิงตัวสั่นก่อนจะค่อยๆจับดินสอขึ้นมาแล้วเขียนชื่อตัวเองลงไป ด้วยความที่ยังเด็กทำให้ลายมือของเด็กน้อยหงิกงอและคดโค้งไปมา เด็กน้อยค่อยๆเงยหน้าขึ้นสบตาคุณพ่อของตนเองด้วยน้ำตาที่คลอเบ้าก่อนจะเอ่ยปากถาม
"ช..ใช้ได้มั้ยคะ ค..คุณพ่อ" คุณพ่อยังคงยิ้มแบบเดิมก่อนจะก้มลงดูผลงานของลูกสาวตนเอง
"อืม… แย่มากเลยค่ะ รู้ใช่มั้ยคะ ว่าพ่อจะทำอะไรต่อ" คุณพ่อพูดพลางขยับเข้ามานั่งใกล้ลูกสาวตนเองแล้วล้วงบางสิ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อ เด็กสาวเห็นดังนั้นจึงรูดแขนเสื้อกันหนาวที่ตนกำลังใส่อยู่ขึ้น เผยให้เห็นแผลเป็นที่เขียนว่า FIORA อยู่มากมายหลายร้อยคำอยู่บนแขนเล็กๆนั่น
"คุณพ่อ สอนหนูเขียน ด..ได้เลยค่ะ.." สิ้นคำเด็กน้อยคุณพ่อก็ยื่นผ้าให้กัดเอาไว้ พลางตวัดมีดพกปลายแหลมออกมา ก่อนจะค่อยๆขีดเขียนลงไปบนแขนของเด็กน้อย
"ชื่อของหนูคือ ฟีโอร่า มา พ่อจะสะกดทีละตัวนะ F..." คุณพ่อพูดไปด้วยค่อยๆกรีดใบมีดลงบนแขนของลูกตัวเองไปด้วย เด็กสาวกัดผ้าแน่นน้ำตาไหลอาบแก้ม
"I..O..R..A.." คุณพ่อผละออก หยิบผ้าข้างตัวออกมาเช็ดเลือดที่ใบมีดก่อนจะให้เด็กน้อยได้ชื่นชมวิธีการเขียนที่ตนพึ่งสอนไป
"จำไว้นะลูก ว่าชื่อตัวเองเขียนยังไง.. เอาล่ะ พ่อจะให้โอกาสลูกอีกครั้งนึง ถ้าทำได้ไม่ดี พ่อจะสอนเขียนใหม่นะคะ" เด็กน้อยพยักหน้าพร้อมน้ำตาก่อนจะหยิบดินสอขึ้นมาอีกครั้งด้วยมืออันสั่นเทา
ในห้องครัวข้างล่างบ้านนั้นเต็มไปด้วยอารมณ์สนุกสนานของสองแม่ลูกที่กำลังหยอกล้อกัน ลูกสาวคนโตของบ้าน ฟีเรียล(Ferial) วัย 8 ขวบกำลังเล่นปาหมอนกับแม่หรือ มิส เฟอร่า บราวน์ อยู่ เสียงหัวเราะดังขึ้นไปถึงบนห้องนอนของเด็กน้อย นามว่าฟีโอร่า(Fiora) ที่ตอนนี้ตนได้เขียนชื่อผิดอีกครั้ง
เด็กน้อยก้มหน้านิ่ง น้ำตาหยดลงบนแผ่นกระดาษเป็นดวง คุณพ่อเอื้อมมือมาลูบหัวฟีโอร่าพลางกล่าวปลอบ
"ไม่เป็นไรนะคะ เด็กดี ตรงแขนขวาเต็มแล้ว แขนซ้ายก็เต็มแล้ว ยังเหลือตรงหลังให้พ่อสอนเขียนอยู่นะคะ" คุณพ่อ หรือ มิสเตอร์ เอ็ดวาร์ด บราวน์ พูดพลางลูบแผ่นหลังของลูกสาวตนเองไปด้วย
"คราวนี้ถ้าหนูเขียนถูก พ่อจะให้ลงไปเล่นกับพี่ที่ชั้นล่างนะคะ ตกลงมั้ย?"
ฟีโอร่าพยักหน้าอย่างรวดเร็วก่อนจะค่อยๆหันหลังแล้วถลกเสื้อขึ้นเพื่อให้พ่อสอนการ"เขียนชื่อ"ที่ถูกต้องให้ตนอีกหลายครั้ง…
"คุณแม่ขา ของขวัญวันเกิดของฟีโอร่าปีหน้า หนูอยากลองถักผ้าพันคอให้น้อง" ฟีโอร่าที่ค่อยๆเดินลงบันไดมา ได้ยินดังนั้นก็ยิ้มออกมาจางๆ ก่อนจะก้าวเข้าไปหาแม่และพี่ฟีเรียลที่ยิ้มต้อนรับตนอยู่
"เป็นไงบ้างลูกฝึกเขียนชื่อกับคุณพ่อ คุณพ่อว่าไงเอ่ย" คุณแม่โอบกอดฟีโอร่าด้วยความทะนุถนอม ฟีโอร่าเอนตัวพิงคุณแม่โดยเว้นระยะห่างจากพนักพิงโซฟาไว้ ก่อนจะตอบเสียงเบา
"คุณพ่อบอกว่าหนูต้องฝึกอีกเยอะเลยค่ะคุณแม่" เด็กน้อยทำตาใส คล้ายกำลังอ้อนวอนขอให้คุณแม่ช่วยบอกคุณพ่อให้ปราณีตนหน่อย
ฟีเรียลเห็นก็กล่าวว่าตนก็อยากเรียนกับพ่อบ้าง คุณแม่ยิ้มออกมาจางๆก่อนจะเอ่ยขึ้น
"ลูกก็รู้ฟีเรียล พ่อเค้าน่ะเป็นคนลำเอียง น้องก็พึ่ง 5 ขวบเอง ทั้งฝึกพูดฝึกเขียน รู้แล้วว่ารักมาก แต่นี่มันชักจะเกินไปหน่อยแล้วมั้ง ว่ามั้ยคะคนดีของแม่?" คุณแม่ดึงตัวฟีโอร่ามาหอมกลางกระหม่อมก่อนจะมองลูกสาวคนเล็กที่ตอนนี้ใบหน้าซีดเซียว
"ดูซิ ลูกแม่หน้าซีดหมดแล้ว ได้กินอะไรบ้างรึยังเนี่ย แม่มีเค้กแครอทของโปรดลูกด้วยนะวันนี้" ฟีเรียลรีบลุกขึ้นยืนก่อนจะคว้ากล่องของขวัญใบเล็กข้างตัวออกมา
"สุขสันต์วันเกิดนะฟีโอร่า น้องสาวสุดที่รักของพี่" ฟีเรียลยื่นกล่องให้ ก่อนจะเข้าไปโอบกอดน้องตนเบาๆ แล้วผละออกมา ฟีโอร่ายิ้มตาหยี ก่อนจะแกะกล่องของขวัญด้วยแรงที่มีอยู่น้อยนิด ข้างในเป็นตุ๊กตาหมีสีขาวตัวเล็กๆ ขนาดเท่าผลแอปเปิ้ลผลหนึ่ง ฟีโอร่าหยิบขึ้นมาแนบกลางอกก่อนจะเอ่ยขอบคุณพี่สาวด้วยเสียงแผ่วเบา ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าพี่ฟีเรียลอยากเรียนกับพ่อ แต่มันเจ็บมากๆ จึงจะเอ่ยบอกพี่ของตนไป
"พ..พี่คะ เรียนกับพ่อมันจ.." พูดไม่ทันจบประโยค คุณพ่อก็เดินลงบันไดมาด้วยท่าทีผ่อนคลาย คุณพ่อนั่งลงบนโซฟาข้างๆตัวฟีโอร่าก่อนจะเอ่ยถาม
"เรียนกับพ่อจะเป็นยังไงบ้างคะฟีโอร่า" คุณพ่อลูบหัวฟีโอร่าเบาๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปสัมผัสแผ่นหลังที่ตนพึ่งสลักอักษรลงไปเบาๆ ฟีโอร่าสะดุ้งเฮือก ก่อนจะละล่ำละลั่กพูดขึ้นว่า
"เรียนกับพ่อ พ..พี่จะ..ส..สนุกมากๆเลยค่ะ!" ฟีโอร่าพูดพร้อมระบายยิ้มออกมาอย่างฝืนๆ ฟีเรียลได้ยินดังนั้นก็ตาลุกวาวอยากจะเรียนกับคุณพ่อบ้าง คุณพ่อส่ายหัวไปมาก่อนจะพูดขึ้นว่า
"ลูกเรียนเก่งแถมยังมีคุณครูคอยสอนแล้ว น้องเขียนไม่ค่อยเก่งพ่อต้องคอยจับมือเขียนอยู่เรื่อยเลย ถ้าให้พ่อสอนลูกอีกคน น้องฟีโอร่าก็จะต้องเขียนเองนะคะ" ฟีเรียลผงกหัวเข้าใจก่อนจะบอกว่าตนไม่เรียนแล้วก็ได้
คุณพ่อก้มมองนาฬิกาพลางพูดขึ้นว่า
" ได้เวลาอาบน้ำของฟีโอร่าแล้ว มาค่ะ คนดี มาอาบน้ำกับพ่อ" คุณแม่ส่ายหัวกับความหวงลูกเกินตัวของสามีตนเอง แม้กระทั่งอาบน้ำคนเป็นพ่อก็อาสาทำเองทุกอย่าง แถมให้เหตุผลที่ปฏิเสธไม่ได้อย่าง
'ช่วยกันดูแลลูกไงคุณ ถ้าให้คุณดูแลทั้งสองคนก็เหนื่อยแย่เลยสิ'
ทำให้คนเป็นแม่ยอมปล่อยให้คนเป็นพ่อดูแลลูกคนเล็กไป
โดยรวมทุกอย่างก็โอเคดี ติดแค่ว่าช่วงนี้คุณพ่อเรียกฟีโอร่าขึ้นไปฝึกเขียนบ่อยกว่าปกติ แทบจะสองวันครั้ง จากที่เคยเรียกไปอาทิตย์ละครั้ง แถมช่วงนี้ฟีโอร่าใส่แต่เสื้อแขนยาวหรือเสื้อกันหนาวทั้งวัน แต่ก็พอเข้าใจได้เพราะช่วงนี้เป็นช่วงหน้าหนาว ฟีโอร่าเป็นคนขี้หนาว ตอนยังเด็กฟีโอร่าจะชอบงอแงให้เธออุ้มมากอดแล้วนั่งข้างเตาผิงไฟอุ่นๆ ในบ้าน น่าแปลกที่ผ่านไปเพียงปีเดียวลูกสาวคนเล็กจากที่เป็นเด็กแก่น พูดอ้อแอ้ตลอดเวลา ก็กลายเป็นเด็กเรียบร้อย พูดน้อยลง ตนก็เป็นห่วงอยู่บ้าง แต่สามีก็บอกว่าเป็นช่วงที่เด็กกำลังเติบโตอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ก็ทำให้หมดห่วงไป
"ฟีเรียลเองก็อยากอาบกับคุณพ่อบ้างค่ะ!" ฟีเรียลเสนอตัวอย่างกระตือรือร้น คุณพ่อส่ายหัวอีกครั้ง
"ลูกโตแล้วนะ ต้องหัดอาบน้ำเอง ฟีโอร่าก็เหมือนกัน สัก 6 ขวบให้ฝึกอาบน้ำเองดีมั้ยคะ หื้ม?" คุณพ่อพูดตอบก่อนจะหันมาถามทางฟีโอร่าที่จับปลายนิ้วก้อยของตนอยู่ ฟีโอร่าพยักหน้ารับ ราวกับว่าอาบน้ำเองก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ ก่อนจะเดินตามคุณพ่อขึ้นไปห้องน้ำชั้นบนอย่างเชื่องช้า…
"ดูสิลูก เลือดหนูสีสวยมากเลยนะ" คุณพ่อทักขึ้นหลังจากถอดชุดให้ฟีโอร่าเสร็จ ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบแขนทั้งสองข้างของลูกเบาๆ แล้วกระซิบข้างหู
"ฟีโอร่านี่คือชื่อของลูก.. สิ่งที่พ่อมอบให้ รักษามันไว้ให้ดีนะคะ ถ้ารอยไหนมันเริ่มจางบอกพ่อนะ พ่อจะเขียนให้ใหม่" ฟีโอร่าพยักหน้าด้วยความกลัว
"ว่าแต่.. วันนี้ลูกจะพูดอะไรกับพี่ฟีเรียลหรอคะ หื้ม? เรียนกับพ่อสนุกมากใช่มั้ยคะ" คุณพ่อจับฟีโอร่านั่งลงในอ่างอาบน้ำที่เปิดน้ำร้อนอยู่ครึ่งอ่าง เด็กน้อยสะดุ้งโหยงเมื่อตัวสัมผัสโดนน้ำ มันร้อน..ร้อนมากๆ ฟีโอร่าพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ คุณพ่อไม่ชอบน้ำตา ห้ามร้องไห้ ไม่งั้นจะโดนตี ตนยังจำเข็มขัดหนังสีดำอันโปรดของคุณพ่อได้ดี
พ่อมักจะใช้มันฟาดเธอยามที่ทำอะไรผิด และมันเจ็บมาก เจ็บกว่าที่พ่อสอนเขียนชื่ออีก ฟีโอร่าเลยพยายามเป็นเด็กดีให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ครั้งล่าสุดที่โดนฟาดก็คือตอนที่เผลอทำแจกันใบโปรดในห้องหนังสือของพ่อแตก ฟีโอร่าในตอนนั้นได้แต่ยืนนิ่งรอพ่อด้วยความกลัว พอพ่อกับพี่ฟีเรียลมาเห็น พ่อก็รีบวิ่งเข้ามาจับไหล่ของฟีโอร่าแล้วบีบอย่างแรงจนเธอร้องออกมาด้วยความเจ็บ พ่อรีบพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
"เจ็บตรงไหนลูก! โดนแจกันบาดรึเปล่า ให้พ่อดูแผลหน่อยสิคะ"
ฟีเรียลที่ยืนอยู่หน้าประตูก็รีบวิ่งมาดูน้องตัวเองว่าบาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า แต่ก็ไม่กล้าแตะตัวน้องเพราะเห็นพ่อจับแล้วน้องเจ็บ ตนก็กลัวจะทำน้องเจ็บไปด้วย
"งั้นพ่อพาฟีโอร่าไปทำแผลที่ห้องพ่อนะลูก ส่วนฟีเรียลไปเรียกคุณแม่มาช่วยเก็บกวาดเศษแจกันหน่อยนะคะ" คุณพ่ออุ้มน้องฟีโอร่าเดินออกไปจากห้องหนังสือ ฟีเรียลได้แต่ยืนมองตาปริบๆ ก่อนจะรีบวิ่งไปบอกแม่ว่าแจกันแตก
"นังตัวดี! รู้มั้ยแจกันใบนั้นแพงแค่ไหน!! ขายแกไปก็ได้ไม่ถึงครึ่งของแจกันใบนั้นด้วยซ้ำ!!" พ่อกดสำลีที่ชุ่มไปด้วยแอลกอฮอล์กดย้ำๆ ที่แผลถลอกและแผลลึกจากการล้มและโดนบาด ฟีโอร่านั่งเงียบน้ำตาไหล
"รู้ตัวใช่มั้ย!!! ว่าจะโดนอะไร!!!" ฟีโอร่ารีบคุกเข่าลงตัวสั่น พึมพำคำว่าขอโทษไม่หยุดปาก พ่อส่งเสียงหึในลำคอเพียงครั้งเดียว ฟีโอร่าก็หมอบตัวลงแล้วถลกเสื้อขึ้นเผยให้เห็นแผ่นหลังขาวใสของเด็กสาววัย 5 ขวบ คุณพ่อไล่ลากนิ้วผ่านเข็มขัดที่แขวนไว้อยู่ทีละอัน ก่อนจะหยุดที่เข็มขัดหนังสีดำด้าน พ่อยืนนิ่งก่อนจะหยิบออกมาจากราวแขวน แล้วทดลองฟาดกลางอากาศราวๆ สองรอบ ฟีโอร่าได้แต่หมอบตัวแล้วร้องไห้อยู่อย่างนั้น คุณพ่อเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะคุกเข่าลงแล้วบอกว่า
"รู้มั้ย แจกันใบนั้นราคา 1,000 ดอลลาร์ แต่เห็นแก่ที่ลูกไม่หนีความผิด แถมยังเป็นครั้งแรกพ่อจะลดความผิดให้ จาก 100 ที เป็น 50 ทีแทนละกันนะคะ 'เด็กดี'ของพ่อ" สิ้นคำในห้องนอนเก็บเสียงของคุณพ่อก็เต็มไปด้วยเสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวดของเด็กน้อยคลอไปกับเสียงเข็มขัดหนังฟาดลงบนแผ่นหลัง
ฟังดูราวกับดนตรีชั้นสูงสำหรับเอ็ดวาร์ด เขาหลับตาพริ้มก่อนจะเพิ่มแรงฟาดขึ้นไปอีก พอถึงครั้งที่ 37 ฟีโอร่าก็สลบไป เอ็ดวาร์ดดึงเสื้อกันหนาวลงก่อนจะปลดล็อคประตูห้องแล้วตะโกนเรียกภรรยาตนด้วยน้ำเสียงกังวลว่า
"คุณ! ฟีโอร่าลูกเรามีไข้อ่อนๆ คืนนี้ผมจะพาฟีโอร่ามานอนด้วย คุณช่วยนอนกับฟีเรียลแทนฟีโอร่าทีได้มั้ย?" ภรรยาถามกลับด้วยความเป็นห่วงลูกสาวว่าเป็นอะไรมากรึเปล่า ตนก้มมองลูกสาวที่สลบอยู่ ก่อนจะตอบกลับไปว่าแค่ไข้อ่อนๆนอนพักซักคืน คอยเช็ดตัวเดี๋ยวก็หาย และแน่นอน คืนนั้นฟีโอร่ามีเพียงแค่หมอนใบนึงที่นอนของเด็กน้อยคือข้างเตียงของคุณพ่อ พื้นไม้อันแสนหนาวเหน็บ ไม่มีแม้กระทั่งผ้าห่ม ฟีโอร่าห่อตัวเข้าหากัน ก่อนน้ำตาจะไหลออกมาช้าๆ ภาวนาให้เทพธิดาองค์ใดก็ได้ช่วยพาตนออกไปจากที่แห่งนี้ที...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ