ยอดคนแดนนรก
-
เขียนโดย Echang
วันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 05.26 น.
8 ตอน
1 วิจารณ์
6,985 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2563 05.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) 5 ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ5 ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง เวลาผ่านไปเรื่อยๆไม่รู้จบ อีชางที่เกิดดับ เป็นวัฏจักรชั่วนิรันดร์ ยังคงวิ่งไปข้างหน้าเห็นเป็นเส้นแสง ที่พุ่งผ่านไปตามพื้นดิน แต่ร่างกายของมันในขณะนี้ กลับไร้ การแห้งเหี่ยว หรือไหม้เกรียมใดๆ บนผิวหนัง แม้จะยังคงเห็นไอที่เกิดจากการระเหยของผิวหนัง ความเจ็บแสบร้อนในร่างกายของมัน ก็ยังคงมีอยู่ แต่ตอนนี้ร่างกายของมัน กลับไม่ได้แตกสลายกลายเป็นฝุ่นอีกแล้ว นั่นเป็นเพราะว่าแม้สังขารของมัน จะสลายไปเรื่อยๆแต่ขณะเดียวกัน ขณะเดียวกัน ก็สร้างขึ้นมาใหม่ ทดแทนอยู่ตลอดเวลาจนเกิดความสมดุลอันพิสดารขึ้น "ฮ่าๆๆในที่สุดข้าก็ตีความกระบวนการเปลี่ยนแปลงพลังงานให้กลายเป็นสสารได้ทั้งหมด" ดวงตาอีชางฉายแววความภาคภูมิใจสุดระงับ "ขอขอบคุณจริงๆ ที่ท่านพยายมได้ส่งข้ามายังที่นี้" ความทุกข์ทรมานจากความร้อน ที่แผดเผาร่างกาย จนสังขารร่างกายของมันแตกสลายไปนับครั้งไม่ถ้วนไม่นับเป็นอย่างไรได้แทบจะไม่มีผลต่อจิตวิญญาณ สมาธิของมันแม้แต่น้อย อีชางประสานมือ จรดพื้น "ขอคารวะต่อทุกสิ่งทุกอย่างในที่นี้ ถึงเวลาที่ข้าจะออกไปจากที่นี่แล้วสินะ" ความจริงตั้งแต่แรก ที่มันถูก ส่งมายังที่แห่งนี้ โดยแผ่นยันต์สีดำ กระบวนการนี้ ได้ถูกบันทึกลงในดวงวิญญาณของมัน ซึ่งอีช้างได้ทำความเข้าใจได้ ตั้งแต่แรกที่มันมาถึงแล้ว เพียงแค่มันใช้พลังความคิดอันสุดยอดของมัน ย้อนทวนกระบวนการนี้ มันก็สามารถกลับไปยัง ท้องพระโรง ที่มันถูกพิพากษาได้แล้ว แต่เป็นเพราะมันต้องการจะเรียนรู้ วิธีเปลี่ยนพลังงานให้เป็นสสาร มันจึงยอมอยู่ในที่แห่งนี้ต่อไป เพื่อศึกษาค้นคว้ากระบวนการนี้ "ข้าขอเรียกวิชานี้ว่า (ก่อกำเนิดจากความว่างเปล่า) ก็แล้วกัน เห็นทีถึงจะต้องจากไปแล้วสินะ" อีช้างสะบัดมือคว้าไปในอากาศ ฉับพลันก็เกิดแผ่นยันต์สีดำขึ้นที่มือของมันแล้วพุ่งตรงเข้ามาในร่างมัน สังขารของมันสลายกลายเป็นฝุ่นออกไป เหลือดวงวิญญาณเรืองแสงวิบวับ แสงวิบวับที่เร็วขึ้นจนดูเหมือนสงบนิ่งลง จากนั้นก็ค่อยๆจางลง นั่นเป็นเพราะมันใช้พลังความคิด ทำจิตให้เป็นหนึ่งควบคุมแสงของดวงวิญญาณให้หายไป เพื่อป้องกันผู้อื่น ได้รับรู้ถึงการคงอยู่ของดวงวิญญาณของมัน เมื่อแสงจากดวงวิญญาณหายไป ดวงวิญญาณของมัน ก็กลายเป็นกลมกลืนกับบรรยากาศรอบข้าง จากนั้น พลังความคิด ของมัน เริ่มบังคับกระบวนการเดินทางผ่านมิติ ให้ย้อนกลับ เห็นดวงวิญญาณของมันพุ่งกลับไปบนท้องฟ้าพุ่งทะลุไปสู่มิติต่างๆ ที่ทับซ้อนกันตามทางเดิมที่เคยมา ขากลับนี้มันเร่งความเร็วอย่างเดียวไม่ได้คิดจะสำรวจตรวจตา มิติอื่นๆอีกต่อไป ผ่านเวลาไปนานเท่าไหร่ไม่มีผู้ใดทราบ มันก็หลุดกลับเข้ามาในท้องพระโรง ข้างในยังเต็มไปด้วยดวงวิญญาณเรืองแสง ลอยอยู่ตามพื้นในตำหนักอย่างแออัดยัดเยียด อีชางควบคุมดวงวิญญาณของตน ให้ลอยสูงขึ้น พุ่งข้ามดวงวิญญาณทั้งหลาย มุ่งสู่ประตูตำหนัก ผ่านออกไปข้างนอกในทันใด ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นเลย มีเพียงท่านพระยายมชะงักนิ่งคล้ายกับ สำนึกรู้อะไรบางอย่าง แต่แล้วก็ปล่อยเลยตามเลยเพราะ ที่แห่งนี้ ไม่เคยเกิดเหตุการณ์พิสดารอะไรเลยมีเพียงการพิพากษาที่ดำเนินไปโดยไม่จบไม่สิ้นเท่านั้น ดวงวิญญาณของอีชางพุ่งผ่านประตู มุ่งไปยังแม่น้ำเหลือง เมื่อถึงแม่น้ำเหลือง ดวงวิญญาณของมัน พลันเรืองแสงเจิดจ้า สว่างวาบขึ้นอีกครา ยอดวิชา (ก่อกำเนิดจากความว่างเปล่า) อันสูงสุดยอดสำแดงอิทธิฤทธิ์ขึ้นมาในทันใด รอบดวงวิญญาณที่เรืองแสงสีขาว ปรากฏหมอกควันบางๆ หุ้มล้อมรอบดวงวิญญาน จากนั้นค่อยๆ เข้มข้นหนาตัวขึ้น แล้วเปลี่ยนรูปร่าง เป็นคล้ายมนุษย์ ควบแน่นขึ้นจนกลายเป็นสังขารของร่างกายปรากฏเป็น บุรุษหนุ่ม อายุประมาณ 16 ปี สวมใส่ชุดนักศึกษาผ้าฝ้ายธรรมดาสีเทาดำ ใบหน้าคมเข้ม สมชายชาตรี รูปร่าง สูงโปรง ค่อนข้างสะโอดสะอง อีชางสำรวจดูร่างกายของตัวเองก่อนเลิกคิ้ว แค่นเสียงออกมา "เฮ้อ... กลายเป็นสารรูปนี้ได้อย่างไร" ที่จริงมันใช้พลังความคิดของมันตั้งใจสร้างสังขารของมันให้เป็น ชายหนุ่มที่ทะมัดทะแมง ล่ำสัน แบบนักสู้ แต่เนื่องจากมันยังไม่เชี่ยวชาญเพียงพอ จึงกลับกลายเป็นนักศึกษารูปงามไปเสียได้ "ช่างมัน" อิชางคิด แล้วกลับกลายเป็นลำแสง พุ่งผ่านไปในความมืดมิด ทอประกายแสงทอดยาวเหยียด ย้อนกลับไปยัง ต้นทางของแม่น้ำเหลือง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ