ยอดคนแดนนรก

-

เขียนโดย Echang

วันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 05.26 น.

  8 ตอน
  1 วิจารณ์
  6,971 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2563 05.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) 3 พิพากษา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

3 พิพากษา
        ณ  ท้องพระโรง แห่งหนึ่ง ที่เหมือนมี หรือเหมือนไม่มี
        บรรยากาศ คล้ายเต็มไปด้วยความพร่าเลือน หมอกควันลอยอ้อยอิ่งช้าๆ
       ในสุดท้องพระโรงนี้ มีบัลลังก์สูงเท่าตัวคน บนบัลลังก์ นั่งอยู่ด้วยคนผู้หนึ่ง คล้ายมีตัวตน แต่ดูแล้วก็เหมือนไม่มีตัวตน สองฟากข้างมีตัวตนคล้ายมนุษย์ยืนอยู่ 2 ตน
          ในท้องพระโรงอันกว้างใหญ่ ชุมนุมอยู่ด้วยดวงวิญญาณ จำนวนนับไม่ถ้วนลอยสงบ อยู่บนพื้นของท้องพระโรงหน้าบัลลังก์
          ทุกอย่างเงียบสงัด ไม่มีซุ่มเสียงใดๆ เกิดขึ้น คล้ายกับเป็นเพียงภาพวาด ความเปลี่ยนแปลงทึ่เกิดขึ้นคือ ดวงวิญญาณที่เรืองแสงอยู่บนพื้น ทยอยหายไปเรื่อยๆทีละดวง ด้านหน้าหายไปด้านหลังไหลเข้าไปแทนที่
          ด้วยพลังความคิดของอีชาง มันรับรู้ว่าตัวเองได้มาถึง ประตูตำหนักแห่งหนึ่ง แล้วลอยเลื่อนเข้าไปในท้องพระโรง เช่นเดียวกับดวงวิญญาณอื่นๆ   ค่อยๆไหลไปข้างหน้า
      แม้จะไร้ซึ่งเสียงใดๆ ในท้องพระโรง แต่ด้วยพลังความคิดที่
แผ่ซ่านรับรู้ สิ่งต่างๆรอบตัวทำให้อีช้างได้รับรู้ถึง การสื่อสารที่ไม่ได้เป็นคำพูด แต่เป็นความเข้าใจอย่างหนึ่ง สื่อสารระหว่างตัวตนทั้ง 3
            
       "เรียนท่านพญายม ดวงวิญญาณดวงนึ้เป็น ชู้กับผู้อื่น มีโทษทัณฑ์ที่ควรลงสู่นรกขุมที่ 5 แดนโลกันตร์ โลกีย์ ขอรับ"
        
          ท่านพญายมที่อยู่ตรงกลางผู้ไม่อาจมองเห็นใบหน้า
หรือตัวตนได้อย่างชัดเจน นิ่งไปชั่ววินาทีเพ่งสมาธิไปยัง ดวงวิญญาณที่อยู่ด้านหน้า ของอีชางดวงหนึ่งก่อนจะสื่อความเข้าใจ
ไปยังตัวตนอีกคนหนึ่งที่อยู่ทางด้านขวา
          
        "ข้าได้ตรวจสอบดวงวิญญาณของมันผู้นี้แล้วนอกจากที่
เจ้าบอกแล้วยังมีความผิดชั่วอีกมากมายทั้งปล้นฆ่าละโมบโลภหลง
ลักขโมยสารพัด มันเป็นดวงวิญญาณที่สกปรก โดยแท้จงส่งมันไปยัง
ขุมนรกที่ 20 โดยตรงเลยก็แล้วกัน"
        
           ตัวตนที่ 3 ที่อยู่ข้างๆทางซ้าย สื่อสารตอบ

             "ขอรับ"

            เกิดแผ่นคล้ายยันต์ขนาดฝ่ามือขึ้นตรงหน้า พุ่งวาบหายไปเข้าไปในดวงวิญญาณดวงนั้น อย่างรวดเร็ว ดวงวิญญาณนั้นพลันหายวับไปในทันที
            อีชางรับรู้ ทันทีว่า ดวงวิญญาณนั้นที่แท้ถูกแผ่นยันต์
ส่งไปยังอีกมิติหนึ่ง ซึ่งมีซ้อนทับกันอยู่นับไม่ถ้วนมันพยายามใช้
พลังความคิด ตามจิตดวงวิญญาณนั้น ผ่านมิติต่างๆไปด้วย
            แต่ฉับพลัน พลังความคิดของมัน กลับถูกขัดจังหวะ ในการติดตามดวงวิญญาณนั้นไป เนื่องจากมีแรงกดดันพิสดาร แทรกผ่านเข้ามาในดวงวิญญาณของมันอย่างกะทันหัน
           อีช้างรีบเก็บซ่อนพลังความคิดของมันอย่างฉับพลัน พลังอันพิสดารนั้นคล้ายกับคลื่นน้ำเคลื่อนผ่านไปในแก่นสาร
ดวงวิญญาณของมันจนทั่วๆ ก่อนจะหายไป
            
         "ทำไมจึงรายงานโทษผิดของดวงวิญญาณดวงนี้ ชักช้านักยังมีดวงวิญญาณอื่น ที่รออยู่เป็นจำนวนมาก"

        พญายมสื่อความคิดความเข้าใจไปยังตัวตนทางขวา
        ตัวตนที่ 2 นิ่งอึ้งไป  ก่อนจะส่งผ่านความคิดตอบกลับไป
      
       "ประหลาดมาก    ประสบการณ์ของดวงวิญญาณด่วนนี้ช่างมากมาย จนเกินกว่าข้าจะหยั่งรู้ได้ทั้งหมด ข้าเพียงสามารถรับรู้ได้เพียง ไม่ถึงหนึ่งในหมื่นของมัน ขอท่านพญายม โปรดอภัยโทษให้ข้าด้วยเถอะ"
         
        ทันใด นั้นเองอีชางรับรู้ได้ถึงพลังทะลุทะลวง บางอย่างที่ เปรียบเหมือนสว่านที่หมุนเป็นเกลียวเจาะไปเข้ามาในดวงวิญญาณ
ของมันอย่างรุนแรง
           ที่แท้พยายม ได้ลงมือมายังอีชาง ด้วยตัวเองแล้ว
         พลังที่เหมือนอสรพิษได้เจาะเข้าไปในดวงวิญญาณของอีชาง จนพรุนไปหมด และผ่านไปนาน ก็ยังไม่จบสิ้น
        
       "โอ้ นี่มันตัวบัดซบอันใด ไฉนความชั่วร้ายที่มันก่อกรรมทำเข็ญ ขึ้นมาถึงได้มากมายไม่รู้จบเช่นนี้  กระทั่งบัดนี้  ข้ายังรับรู้ประสบการณ์
ของมันได้ไม่ถึง 1 ใน 10"

        พยายมแสดงความตกใจออกมา
         
       "นั่นน่ะสิขอรับ  ข้าพเจ้ารู้สึกว่า     ประสบการณ์ของดวงวิญญาณ
ดวงนี้ที่ข้าพอจะรับรู้ได้ อย่างน้อยมันน่าจะมีชีวิตในโลกมนุษย์ถึง 200 ปีเป็นอย่างน้อย"

       ตัวตนทางขวา  สื่อสารความเข้าใจออกมา
          
      "แม้เป็นข้าเอง ก็เพียงหยั่งรู้ถึง ประสบการณ์ของมันได้เพียง 1 ใน 10 เท่านั้น ยังคิดว่าน่าจะเทียบเท่าได้กับเวลา 8-9 ร้อยปี ทีเดียว"

     ท่านพญายมนิ่งงันไปชั่วครู่ ก่อนจะสั่งการต่อไป
         
      "แต่แม้จะรับรู้ประสบการณ์ของดวงวิญญาณดวงนี้  ได้ไม่ครบถ้วน แต่ความชั่วร้ายอุบาทว์ที่เกิดจากการทำของมันผู้นี้กลับมากมาย
จนข้าที่ทำหน้าที่นี้มาเป็นแสนปีก็ยังต้อง ทำให้ข้าตื่นตระหนก
ไม่น่าเชื่อว่า  มนุษย์ผู้หนึ่ง  จะสามารถก่อให้เกิดความชั่วร้ายได้ขนาดนี้ ความอุบาทว์ของมันอัดแน่นกันจนก่อเกิดเป็นสภาพให้จับต้องได้
ช่างน่าสงสัยโดยแท้"

      "ถ้าสามารถสอบถามได้จากตัวมันเองได้ก็คงจะดี"

      ตัวตนทางขวายังรู้สึกพิศวงสงสัย
       
       "เราไม่สามารถจะสอบถามได้เพราะว่า ดวงวิญญานเหล่านี้ ถูกลบล้างความทรงจำออกไปหมดแล้ว   กระทั่งตัวตนของมันเป็นใคร
ยังไม่สามารถจะสอบถามได้ เอาอย่างนี้แล้วกัน"  

      พยายมนิ่งไปอึดใจ

       "อย่างไรก็ตาม ความชาติชั่วอุบาทว์ของมัน แม้มากมายจนเกินจินตนาการได้ แต่มันช่างแปลกประหลาดนัก  เพราะข้า กลับรู้สึกว่า มันไม่คล้ายดวงวิญญาณของพวกชั่วสามัญต่ำช้าใดๆ ข้ารู้สึกงงๆเป็นอย่างยิ่ง"

       ท่านพญายมส่ายหน้าไปมา
       ตัวตนที่อยู่ทางขวาพยักหน้า

           "อย่างไรก็ตามเราก็ต้องพิพากษาไปตามกฎอยู่ดี
แต่ก็ยังมีปัญหาคือโทษทัณฑ์ของดวงวิญญาณดวงนี้ ร้ายแรงมากจนกระทั่งไม่มีบทลงโทษใดๆ ที่จะสาสมกับ
ความเลวร้ายของมัน ข้าพเจ้าจึงเห็นควรให้ทำลายดวงวิญญาณ
ของมันดวงนี้เสีย"
         
       อีชางที่ ที่ ดูการสื่อสารทางจิตของทั้งสองมาถึงตรงนี้
พลันสะท้านหวั่นไหว

        "เวรแล้วไง   ข้าก็แค่อยากให้ชนชาวโลกได้สนุกสนานกันก็เท่านั้น ทำไมถึงเป็นความผิดไปได้"
       
        แสงสว่างจากดวงวิญญาณของม้นเจิดจ้าขึ้นทันใด
        พยายมพลันตระหนักได้ถึงความผิดปกติในทันที
           
          "นั่นเจ้าเห็นหรือไม่   ความบริสุทธิ์ของดวงวิญญาณดวงนี้
ช่างสดใสอะไรเช่นนี้  กลับกันกับ สิ่งที่ตรวจสอบได้อย่างแท้จริง"
           
          ท่านพญายมเงยหน้าขึ้นดูดวงวิญญาณที่เพิ่มมากขึ้น
จนแออัดยัดเยียดในท้องพระโรงเพราะการเสียเวลาปรึกษาของ
ตนเองกับผู้ช่วย
         
            "เวลาไม่รอช้า  ยังไงก็ต้องทำงานตามกฎ แม้มีโทษทัณฑ์
มากมาย แต่ดวงวิญญาณบริสุทธิ์เที่ยงแท้    เราไม่อาจปล่อยให้ถูก
ทำลายไปได้ จงส่งมันไป ยังใต้นรกขุมสุดท้าย ให้มันอยู่อย่างนั้น
ชั่กัปชั่วกัลป์ก็แล้วกัน"
     
            "ขอรับ"

        ตัวตนทางซ้ายรับบัญชา แผ่นยันต์สีดำสนิท พลัน
ปรากฏขึ้นตรงหน้า ก่อนพุ่งมาอย่างอีชาง
       ขณะกำลังโล่งอกจากการรอดมาได้อย่างหวุดหวิด เมื่อเห็นยันต์สีดำมุ่งมายังตน  โดยไม่ต้องคิด  อีชางผนึกยอดวิชา ประจำตัวของมัน นาม (ประทับรอยวิญญาณ)
        วิชานี้เป็น อีชางบัญญัติขึ้นมาเพื่อทดแทนการขีดเขียน
จดบันทึกของมัน วิชานี้คล้ายกับการถ่ายภาพเคลื่อนไหว แต่ที่แท้ที่จริงคือการประทับภาพ ความรู้สึก เสียงสัมผัสที่ได้ ทุกสิ่งทุกอย่าง   ในช่วงเวลานั้นลงในดวงวิญญาณที่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งซ้อนทับกัน
จนกว่าจะหยุดการใช้ยอดวิชานี้
         ยอดวิชานี้ มีข้อดีมากกว่า ความจำอันสุดยอด ตามธรรมดาของอีชาง เพราะว่าสามารถรับทราบถึงรายละเอียดทุกๆด้านได้อย่างชัดเจนทุกมิติ
ทั้ง รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส อย่างละเอียดถี่ถ้วน
         ด้วยพลังความคิดของวิชานี้ มันได้คัดลอกกระบวนการที่เกิดขึ้นใน
ช่วงเวลานั้นได้ทุกอย่าง  มันทำได้แม้กระทั่งย้อนเวลาคืนกลับไปได้ด้วยซ้ำ
         แผ่นยันต์สีดำแทรกเข้ามาดูวิญญาณของอีชาง นำมันไปในมิติอื่น
อย่างรวดเร็ว
        จีชางผ่านมิติเป็นร้อยๆพันๆไปในช่วงเวลาเพียงพริบตา
ด้วยความเร็วแสง แต่ด้วยพลังความคิดที่ยิ่งใหญ่ไพศาลของมันย้ง รับรู้ได้ถึงความเป็นไปในแต่ละมิติ ทั้งสวรรค์ชั้นฟ้า และนรกหลายขุม
         อีชางมันสามารถรับรู้ได้ถึงความสุขสดชื่น หรือความสงบในสวรรค์ ต่างๆที่มีเทพยดานางฟ้าปรากฏอยู่ในช่วงขณะที่ผ่านไปในมิตินั้น
ได้อย่างชัดเจน   
         เมื่อผ่านมิติของขุมนรก  มันก็สามารถรับรู้ได้ถึงสัตว์นรก ทน
ทุกข์ทรมาน   เห็นการลงโทษที่ปรากฏขึ้นมาในแต่ละมิติ  ความทุกข์ ทรมานทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับสัตว์นรกเหล่านั้น   กระทะทองแดง
ต้นงิ้ว   อสรพิษ   ไฟนรก มันยังอยากจะหยุดดูและเข้าไปร่วมด้วย ซึ่งด้วยพลังความคิดของมันสามารถควบคุมยันต์สีดำได้ด้วยซ้ำ แต่ยัง กลัวจะมีผู้อื่นล่วงรู้ว่า   มันที่แท้เป็นอิสระจากการควบคุมใดๆ ทางจิตวิญญานได้ทั้งหมด
       ถ้าถูกจับได้ถึงความผิดปกตินี้มันอาจถูกทำลายดวงวิญญาณ
ไปจริงๆก็ได้
   

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา