เซน
เขียนโดย jenkaweeroong
วันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2563 เวลา 15.55 น.
แก้ไขเมื่อ 27 กันยายน พ.ศ. 2563 16.01 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) บทที่1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
บทที่1
ท่ามกลางแดดเที่ยงในมหาวิทยาลัย ตามทางที่ทอดไปสู่โรงอาหาร
วินกับโยชิเพิ่งเลิกจากคลาสอิงลิช เดินคุยกันมาเพลินๆ
จู่ๆวินก็ถูกกอดรัดจากข้างหลัง
“ เฮ้ย! ใครเนี่ย ”
เขาคว้าแขนนั้นไว้แต่อีกฝ่ายผละไปหาโยชิที่ยืนเซ่ออยู่
โยชิเบี่ยงหลบแต่ไม่พ้น ถูกเซนรวบกอดเอวไว้ เขาพยายามดึงดันให้หลุดจากวงแขนนั้นอย่างทุลักทุเล สีหน้าจืดเจื่อน จะยิ้มก็ไม่เชิงจะบึ้งก็ไม่ใช่
“ น้องเซน ? ” วินหัวเราะ
ยิ่งพักเที่ยงแบบนี้ สายตาหลายคู่กำลังมองมาโยชิยิ่งอยากเอาหน้าซุกลงดิน
“ เซน มึงจะกอดทำไมเนี่ย ”
“ ก็อยากกอดอ้ะ ”
เหมือนยิ่งแกล้ง เซนกอดรัดแน่นอีกทีก่อนจะปล่อยเขา เมื่อเป็นอิสระ โยรีบย้ายมายืนข้างเพื่อนสนิททันที
“ ทำอะไรวะ คนเยอะแยะ ” โยชิหน้ายุ่ง
“ โห อายจริง หน้าแดงเลยอะ พี่วินดูดิ ”
เซนเรียกให้วินดูผิวแก้มผิวคอของโยชิที่เปลี่ยนจากสีขาวเป็นแดงเรื่อเข้มขึ้น
“ น้องเซน เพื่อนพี่มันอ่อนไหวง่าย กอดบ่อยๆเดี๋ยวมันคิดจริงนะ ”
“ บ้า! ”
สองคนคุยกันสรวลเส แต่อีกคนหน้ายุ่ง
“ น้องกินข้าวแล้วเหรอ ” วินถาม
“ เรียบร้อยแล้วครับ เดี๋ยวจะไปทำงานต่อ ”
“ ที่ตึกเหรอ ”
“ ครับใช่ ”
“ ดีแล้ว ขยันๆไว้ มีอะไรก็ปรึกษาพี่ได้ตลอดนะ ” วินว่าพลางจับไหล่
“ พอดีเลย เซนอยากให้ช่วยทำรายงานวิชาสิ่งแวดล้อมส่วนของเซนได้ป่าว ”
“ ไม่ได้ดิ น้องเซนนี่ตลกอีกละ ”
“ ก็มันยากอะ แล้วจารย์ก็ไล่ให้พรีเซนท์ทุกอาทิตย์ โอ้ยยยยเซนไม่ชอบเลย ”
“ รายงานอะไรวะ ” โยชิถาม
“ วิชาสิ่งแวดล้อม เขาให้คิดให้ทำเพจเพื่ออนุรักษ์....ทำไม?พี่โยจะช่วยเซนทำเหรอ ” เขายิ้มร่าแววตาเป็นประกาย
“ ฮึ? เปล่า แต่ถ้ามันยากก็ช่วยดู ช่วยให้คำปรึกษาได้ ” โยชิวางท่าเป็นรุ่นพี่ที่ดีเต็มที่
“ หืม...ใจดีจัง ถ้าจะให้ช่วยจริงๆเซนจะบอก แล้วต้องช่วยจริงๆนะ ”
“ เออ ”
เซนมีใบหน้าหล่อผุดผาดแกมสวย ลักยิ้มสองข้างแก้มยิ่งเสริมให้หวานและดูมีเสน่ห์มากขึ้นอีก บุคลิกอ่อนน้อมพูดเพราะเป็นนิสัย พอมารวมอยู่กับคุณสมบัติรูปโฉมดังกล่าวแล้ว เซนมักจะสร้างความรู้สึกน่าหลงใหลและประทับใจตั้งแต่แรกเจอแก่ผู้คนทุกเพศอยู่เสมอ
เพราะมีภาพพจน์แบบนั้น เขาถึงได้รับเลือกให้แสดงชายรักชายโดยเป็นฝ่ายรับมาตลอด
‘ เซนเขาคุณสมบัติครบตามที่เราต้องการ เชฟร่างกำลังดี แอคติ้งได้ หน้าดีด้วย พอเห็นปุ๊บ..มันใช่เลย ’
เคยมีผู้ใหญ่ในวงการท่านหนึ่งกล่าวถึงเซนไว้แบบนั้น
เซนไม่แปลกใจนักหรอก ถ้าใครจะมองเขาว่าเป็นแบบไหน เซนสนุกกับงานแสดงและได้พบเจอผู้คนอีกมากมายในสายงานที่รัก
การได้มาเจอวินกับโยชิก็ถือว่าเป็นกำไร แค่วันที่เริ่มต้นเจอกันก็น่าสนุกแล้ว โยชิมักจะแสดงออกเหมือนไว้ท่า วางฟอร์ม มากแค่ไหน แต่เซนกลับรู้สึกปลอดภัยกับคนแบบนี้
เย็นวันนี้มีนัดถ่ายซีนสุดท้ายนในมหาลัย แล้วพรุ่งนี้วันเสาร์จะเริ่มถ่ายซีนหอพัก ภายในระยะเวลาสองอาทิตย์ที่ออกกองกันมา มันเป็นระยะเวลาที่ไม่นานขนาดที่เราจะสนิทสนมกับใครได้มากมายถึงขั้นตรงเข้ามากอด
แต่ เซนทำได้หน้าตาเฉย จริงอยู่ว่าในกองถ่าย ได้ละลายพฤติกรรม เล่นกัน คุยกัน จนสนิทสนมอย่างรวดเร็ว เพื่อทำให้บรรยากาศการทำงานมันง่ายขึ้น
ย้อนไปในวันที่เริ่มเปิดกอง โยค่อนข้างเกร็งและแสดงออกมาได้ไม่ค่อยดีนัก
‘ โยชิคืองี้นะ ไอซ์เป็นผู้ชายที่-หล่อเลย-เจ้าชู้นิดๆ กะล่อนหน่อยๆ ไอซ์อยู่หอพักและประกาศหาเมททางเว็บ แล้วทีนี้ พู่กัน ’
โต้ง ผู้กำกับหันไปทางเซน
‘ พู่กันเป็นน้องปีหนึ่ง เป็นเด็กทุน ก็ติดต่อมา แล้วนัดเจอกันในมอ ’
ผู้กำกับบรีฟคาแรคเตอร์ตัวละครก่อนถ่ายจริงกันอีกรอบ เซนฟังบรีฟก็เล่นผ่านฉลุยในเทคแรก
‘ น้องเซน ดีแล้วนะ ประมาณนั้นเลย โย อยากให้ดูทะเล้นกว่านี้อีกนิด แบบไม่ต้องออกท่าทางมาก ให้มันออกมาทางสีหน้าแววตา ’
โยฟังเข้าใจแต่เขาสื่อมันออกมาไม่ได้ ทำได้ก็ยังไม่ค่อยดีนัก
หลิว ผู้ช่วยผู้กำกับเลยเข้ามาช่วยเสริม
‘ คืองี้นะโย ในตอนนี้ไอซ์เพิ่งมาเจอกับพู่กัน มันยังไม่ได้ชอบพู่กันแบบนั้น แต่คือไอซ์ มันเป็นคนเฟรช มีเสน่ห์ดึงดูด ถึงเนื้อถึงตัวคนอื่นก่อนแบบไม่คิดอะไรเยอะ มันไม่ใช่ รู้สึกอยากจะเจ้าชู้แบบผู้ชายเจอสาว แต่เหมือนแบบ..ถูกชะตากับไอ้น้องคนนี้จัง ดีใจที่ได้มาเป็นเมทมากๆ แต่ก็แบบ..เก็บอาการนิดๆ อะไรประมาณนั้นนะ ’
โยชิพยักหน้าหลับตานิ่ง เขาต้องทำสมาธิกับบรีฟและการทำตัวเองเป็นไอซ์ ให้ดีที่สุด
ตั้งแต่แรกเริ่มที่คุยกันว่าจะทำหนังสั้น เพื่อเป็นผลงานก่อนจบ โยชิไม่ได้อยากเป็นตัวแสดงสักเท่าไหร่ เขากับวินถนัดงานเบื้องหลัง แต่เมื่อทุกคนเห็นว่าเขามีรูปร่างหน้าตาที่เหมาะเหม็ง อีกทั้งก็เคยเรียนการแสดงกันมาแล้วทุกคน
บทผู้ชายเฟรนด์ลี่ เจ้าชู้ ที่กำลังจะมาชอบผู้ชายด้วยกัน โคตรจะไม่ใช่ตัวเขาแบบสุดขั้ว
แต่เขาทำการบ้านมาพอสมควร ยิ่งคนที่มาเล่นคู่เป็นดาราที่มีประสบการณ์มากทั้งที่อายุยังน้อยอย่างเซน
ถ่ายวันแรกโยหลายเทค แต่ทุกคนก็เอาใจช่วย พยายามกันสุดแรง โยเองก็รู้ว่าเซนพยายามเป็นกันเองกับเขา พูดคุยหยอกล้อกับเขาเป็นพิเศษ แล้วยังมีบ้างที่เซนลองสวมบทบาทเป็นไอซ์ให้ดู เหมือนว่าเซนแค่ลองทำเล่นๆสนุกๆ แต่โยชิก็ได้สังเกต จับสีหน้าแววตาแอบเรียนรู้หลายๆอย่างจากเซน
ตรงนี้หรือเปล่าที่ทำให้ดูเหมือนสนิทกันรวดเร็วเกินความเป็นจริง และเกินกว่าที่โยชิจะตั้งรับได้ทัน
ค่ำวันศุกร์ หลังจากถ่ายซีนสุดท้ายเสร็จ แจมทำหน้าที่โปรดิวเซอร์ของกองก็แจ้งว่า ซีนหอพักที่จะเริ่มถ่ายกันค่ำวันพรุ่งนี้ หอพักที่คุยไว้แคนเซิลไปถ่ายไม่ได้แล้ว สำคัญคือทำเรื่องเบิกอุปกรณ์ของมหาลัยไว้แล้ว ยังไงก็ต้องหาหอพัก
แต่พอเริ่มถามหาหอพักจากคนที่อยู่ในกองก็ไม่มีใครสะดวกสักคน
หวยก็มาออกที่โยชิ
“ ไม่ไหวว่ะ ”
“ เอ้ย โยติดอะไรตรงไหน บอกเราได้นะ ”
แจมพยายามรุกไล่ ความที่โลเคชั่นหอดีงามใกล้มหาลัย เป็นชายโสดพักอยู่คนเดียว
“ ก็ห้องกูมันโร้กก ของเยอะแยะไม่สะดวกหรอก ”
“ เราให้ฝ่ายอาร์ตเข้าไปเซตฉากได้ เสร็จแล้วก็จัดคืนให้เรียบร้อย ”
“ ฉันไม่สะดวกวว่ะ มันห้องส่วนตัวอะ ”
สีหน้าของเขามันฟ้องถึงความเครียด แม้แจมจะพยายามโน้มน้าว อธิบายปัญหา
โยเองพยายามหาทางออก วินก็ช่วยโทรถามเพื่อนที่อยู่หอพักให้ทั่ว
“ แล้วจะทำไงดีว้า ” โต้งเริ่มกุมขมับ
“ เฮ้ย โย หอมึงน่าจะมีห้องว่างใช่ปะ มึงว่าหอเค้าจะให้เราใช้ห้องว่างถ่ายหนังได้ปะ ” วินถาม
“ จ่ายเป็นรายวันงี้เหรอวะ ” โต้งว่า
“ มันจะได้เหรอวะ เขาไม่ได้ปล่อยเช่ารายวันนะ ” โยว่า
“ ถ้าเราเข้าไปคุยขอเช่าถ่ายหนังเก็บข้าวของไม่เกินเดือนล่ะ ไปคุยดู ”แจมว่า
“ ตอนนี้ไม่มีใครอยู่แล้วนะ อยู่แต่แม่บ้านกับยาม ”
“ ถ้างั้นพรุ่งนี้เราไปแต่เช้า ”
“ เอาจริงๆมั้ย กูว่าไม่ได้ แล้วถ้าไม่ได้จะหากันทันมั้ยวะ ถ่ายตอนเย็นนะ ”
“ ใช่เพราะมันต้องเซตฉากจัดการสถานที่กันอีก ”
“ เซนเช่าอยู่เองก็ได้นะครับ ”
เซนพูดขึ้นมา ทุกคนหันมาทางเซน
“ ถ้าผมเข้าไปติดต่อทำสัญญาเช่าพรุ่งนี้เช้า จ่ายเงินเสร็จเราก็เข้าอยู่วันนั้นได้เลยมั้ยอะ พี่โย ....แล้วเราก็เข้าไปเซตห้องหลังทำสัญญาเสร็จ แบบนี้ได้มั้ย ”
“ เดี๋ยว แล้วน้องเซน..คือกะจะเช่าหออยู่แล้ว? หรือว่าอะไร ” วินถาม
“ ครับ เซนก็คิดๆอยู่ว่าจะเช่าหอ แล้วเค้าต้องมัดจำกี่เดือน เซนต้องเตรียมเงินมาเท่าไหร่ยังไงอะพี่โย ”
“ เอ่อ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะประมาณ ..”
จากนั้นก็คุยกันเรื่องรายละเอียดค่าเช่า ซึ่งช่วงที่ทางกองจะไปใช้สถานที่จะช่วยออกค่าเช่าค่าน้ำไฟบางส่วน
โยชิ ไม่อยากเชื่อว่าเซนคิดจะเช่าหอพักจริงๆแต่แรก เพราะย้อนไปช่วงแรกๆที่ถ่ายกันในมหาลัย เคยมีครั้งหนึ่งหลังเลิกกอง ซึ่งเป็นเวลาล่วงเข้าเย็นย่ำใกล้ค่ำ
‘ เดี๋ยวน้องเซนกลับไงครับ ’ วินถามเมื่อเซนมาร่ำลาก่อนกลับ
‘ เดี๋ยวเรียกแท็กซี่ พอดีวันนี้ผมนั่งวินมาครับ ’
‘ อ้าวเหรอ พี่ไปส่งมั้ย บ้านอยุ่แถวไหนล่ะ ’ วินถาม
‘ อยู่แถวปิ่นเกล้า มันไกล อย่าเลยครับ ’
คำตอบทำเอาทั้งโยชิและวินร้องโห เพราะมันไกลแบบไม่สมควรนั่งวินมา
‘ นี่พี่ฟังผิดรึเซนพูดผิดเนี่ย ’ วินว่า
‘ เปล่าหรอกครับ พอดีเมื่อคืนมาแวะนอนห้องเพื่อนแถวเกษตรน่ะครับ แล้วเมื่อเช้าเซนตื่นสายเลยนั่งวินมาเลย ’
‘ อ้าวแล้ว ปกติมาเรียนยังไงล่ะ ’ โยชิถาม
‘ ขับรถมา แต่ตอนนี้รถเซนจอดไว้ที่บ้านเลยว่าจะเข้าไปบ้าน ’
‘ โอเค งั้นเดี๋ยวพี่ไปส่งบ้าน ไปหาไรกินกันด้วย ’
‘ ก็..ด้าย..ครับ ’
เขามีท่าทีลังเล
‘ ดูคิดนานนะ ’ โยว่า
‘ หรือว่าน้องเซนไม่สะดวก ถ้าไม่สะดวกไม่เป็นไรนะพี่ไม่ได้ซีเรียส ’วินรีบพูด
‘ ได้ครับได้ แค่มันไกลเลยเกรงใจ ไม่ได้ติดอะไรครับ ’
โยนั่งหน้าไปด้วย ระหว่างทางก็คุยกันไปหลายเรื่อง หอพักก็เป็นประเด็นที่คุยกัน
‘ บ้านอยู่ไกลแบบนี้ คิดจะอยู่หอมั้ย ’ วินถาม
‘ ยังไม่ได้คิดเลยครับ ’
‘ ที่บ้านหวงละซี้ ’ โยชิแซว
‘ เออจริงเนาะ ใช่รึเปล่าน้องเซน ’ วินว่า
‘ ไม่ ไม่ใช่เลย ’ เซนหัวเราะโบกมือปฏิเสธ เห็นเป็นเรื่องขำ
‘ เออ โยชินี่ก็อยู่หอนะ ถ้าคิดจะอยู่หอให้พี่โยแนะนำได้ หอมันน่าอยู่ ใกล้มอด้วย ’
‘ เหรอวะ? ’
‘ เซนยังไม่คิดจะอยู่หอหรอก เพราะจากบ้านเซนไปออฟฟิตจะใกล้กว่า เซนยังต้องไปทำงานบ่อยๆ น่าจะบ่อยกว่าเรียน...คิดว่านะ. ’
‘ ปีหนึ่งก็อาจจะคิดแบบนั้นได้อยู่ แต่ถ้าเรียนน้อยกว่าทำงานระวังไม่จบเอานะ ’
วินติงด้วยความหวังดี เซนเงียบ เขาไม่ตอบอะไร
‘ นึกว่าที่บ้านหวง ไม่ยอมให้มาอยู่หออะไรแบบนี้ ’ โยว่าพลางหันมา
‘ ไม่เลย..เซนไปนอนบ้านเพื่อนมากกว่าบ้านตัวเองอีก ’
‘ อ้าวเหรอ แล้วทำไมต้องไปนอนบ้านเพื่อนล่ะ ’ โยว่า
‘ ….ก็..เพราะ..ว่า...ที่บ้านเซนอยู่คนเดียว แล้วเซนขี้เกียจอยู่คนเดียวเลยไปนอนบ้านเพื่อน ’
‘ ฮะ? แล้วทำไมที่บ้าน ’
โยชะงักเพราะสายตาเชิงปรามของวินที่ส่งมา
‘ เออ โทษที กูก็ถามเพลินไปหน่อย ’
‘ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็ความลับหรอก เซนอยู่กับแม่สองคน แล้วแม่เซนเพิ่งเสียไปเมื่อสองปีก่อน เซนไม่อยากอยู่คนเดียวก็เลยไปนอนบ้านเพื่อนซะส่วนมาก ’
ทำเอาโยชิ ไปต่อไม่ถูก เขานั่งเงียบกริบ
‘ ไงล่ะมึง ’
วินกระซิบตอกย้ำความรู้สึกผิดของโยชิไปอีก ถึงเซนจะบอกว่าเขาไม่ได้ซีเรียสอะไรเลยก็เหอะ แต่การที่บอกว่าไม่สามารถอยู่บ้านตามลำพังได้หลังจากแม่เสีย แค่นี้โยก็รู้สึกผิดที่ปากพล่อยไปถามซอกแซก และที่เคยมองเซนเป็นอีกแบบ
นาทีนั้นแม้เขายังมีคำถามเกี่ยวกับตัวเซนผุดขึ้นมาอีกมาก แต่ก็ไม่กล้าเอ่ยถามอะไรอีก
และความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลของโยชิยิ่งรุนแรงมากขึ้นเมื่อรถมาจอดถึงหน้าบ้านเซน
เป็นบ้านจัดสรรโครงการใหญ่ใจกลางเมือง ตัวบ้านสองชั้นมีต้นไม้หน้าบ้านบริเวณสวนหย่อมปล่อยรกไว้ ไม่ได้ดูแลตัดแต่ง ทำให้ยามค่ำแบบนี้ยิ่งดูมืดทึม
ภาพเซนเดินเข้าบ้านมืดๆนั้นไปโดยลำพัง ทำให้อารมณ์สะท้อนใจมันผุดมาโจมตีโยชิอีกครั้ง
ตอนนี้เซนคือทางออกของกอง หลังจากที่ผู้กำกับและแจมคุยรายละเอียดเรื่องหอพักและค่าใช้จ่ายแล้วต่างก็แยกย้ายกันกลับ
“ เดี๋ยวพรุ่งนี้สายๆเซนมาหาที่หหอนะ ” เซนโบกมือ
แต่โยชิยังงงกับเหตุการณ์ รู้ตัวอีกทีเซนก็เดินไปไกลแล้ว
ในมหาลัยยามค่ำยังมีนักศึกษาอยู่ทำกิจกรรม แสงไฟส่องทางสีส้มสว่างไสว แสงสปอร์ตไลท์จากสนามบอล สนามบาส สาดมาถึงทางเดินที่เซนกำลังเดินมุ่งไป
โยตามมาจนทัน
“ เซน ”
เขาร้องเรียก พลางก้าวยาวๆไปหา เด็กหนุ่มร่างเล็กกว่าหันมา
“ ครับ มีอะไรพี่โย? ”
“ คือ..” เขาอ้ำอึ้ง
“ ถามจริงๆ ตอบกูตรงๆนะ มึงตั้งใจจะอยู่หอจริงๆเหรอ คงไม่ใช่ว่าทำเพราะ...เรื่องกองนะ ”
“ ก็ส่วนนึงครับ คือจริงๆเซนก็คิดอยู่บ้างเหมือนกันเรื่องหาหอพัก ”
“ แล้วที่ว่ามันไกลจากที่ทำงานล่ะ มึงต้องทำงานไม่ใช่เหรอ ”
“ ก็ใช่ครับ ก็ลองดู ถ้าไม่สะดวกจริงๆก็คืนห้องไป ”
“ สัญญา1ปีนะ ”
“ อืม ”
เซนนิ่งอั้นไป โยว่าเซนคงไม่เคยคิดถึงเงื่อนไขพวกนี้มาก่อน โยชิได้แต่ถอนใจแทน
“ เอารถมาใช่ปะ จอดไว้ไหนล่ะ ”
“ จอดไว้ตรงด้านหลังหอในน่ะครับ ”
“ งั้นตามมา เดี๋ยวกูขี่มอไซด์ไปส่ง ”
โยพาเดินกลับมาอีกทาง
“ สัญญาหอ1ปีคือถ้าอยู่ไม่ครบเขาไม่คืนเงินประกันนะ ”
“ ไม่ทันได้คิดเลยอะ แต่ช่างมันเถอะก็แค่ปีเดียว ยังไงช่วงแรกก็คงยังไม่ได้อะไรมากให้ถ่ายหนังให้จบปิดกองก่อน ไม่แน่ เซนอาจจะมาอยู่หอมากกว่าก็ได้ ”
ไม่รู้ว่าเซนพูดปลอบใจตัวเองหรือเปล่า
พอเลี้ยวเข้าทางเดินแคบๆระหว่างตึกสูงที่มืดจนแทบมองไม่เห็นทาง
“ เฮ้ย! เชี่ย! ”
จู่ๆเซนสบถเสียงดัง พร้อมกับเสียงฝาท่อกระดก
เขาเสียการทรงตัวคว้าแขนโยหมับ โยก็คว้าเซนไว้ทันที
“ เอ้ยๆ ระวังๆ แถวนี้ทางเดินมันเป็นฝาท่อ มึงต้องเดินชิดมาทางขวาหรือซ้ายหน่อย ”
“ แล้วเพิ่งมาบอก! ตกใจหมดเลยไอ้พี่โย! ” เซนโวยใส่
“ เอ้า ก็ลืมคิดไปนี่หว่า ..โทษที ลืมไปว่ามึงมันเป็นเฟรชชี่ ” โยขำ
“ มึงพามาทางแบบเนี้ย เมื่อกี้กูเดินสว่างๆก็ดีอยู่ละ ” เซนโวยแบบขำๆ
ระหว่างที่เดินลัดเลาะตามโยไปในทางเดินที่มืดนั้น คนน้องยังคงยึดแขนคนพี่ไว้แน่น
โยรู้สึกแปลกๆอยู่เหมือนกัน ที่มีผู้ชายมาจับจูงตามเขาต้อยๆแบบนี้ ถ้าเป็นผู้หญิงก็คงเป็นซีนที่ละมุนพิลึก แต่เขาไม่อยากคิดอะไรให้ขนพองสยองเกล้ามากไปกว่านี้
พ้นช่วงที่มืดเป็นที่จอดรถ เซนปล่อยมือจากโยทันที รถมอเตอร์ไซด์ของโยเป็นรถใหม่ที่ดีไซน์ออกมาเป็นทรงย้อนยุค สีฟ้าอ่อนทูโทนกลมกลืนกับบังลมสีครีม ตัดด้วยเบาะสีน้ำตาล
โยพาขี่วนในมหาลัยจนมาถึงที่เซนรถจอดไว้ ค่อนข้างเปลี่ยวลับตา ไม่มีคนเดินผ่านไปมา มีแค่แสงไฟนีออนให้ความสว่างห่างๆกัน
“ โห..พอกลางคืนตรงนี้โคตรน่ากลัวเลยอ่ะ ” เซนทำท่าอึ้งๆ
“ ถ้ามึงจอดตรงนี้ ตกเย็นต้องมาย้ายรถเข้าไปจอดแถวด้านใน กลางคืนเขาไม่จอดกัน ”
“ นี่ดีนะพี่โยมาส่ง ขอบคุณมากๆ ”
โยพยักหน้า รู้สึกดีกับประโยคนี้ของเซน
“สรุป มึงจะเช่าหอชัวร์ ”
“เซนลั่นวาจาไปแล้ว ไม่เป็นไรหรอก ในกองก็ช่วยออกกัน เซนไหว ”
โยไม่เข้าใจความคิดเซนนัก เพราะเขาเองจะไม่ยอมให้ใช้ห้องเขาถ่ายแน่นอน มันจะเละและน่าปวดหัวขนาดไหนสำหรับคนที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัวอย่างเขา ทำไมโยจะจินตนาการไม่ออก
“งานการมึงก็ต้องทำ จะเดือดร้อนทีหลังรึเปล่าวะ ”
เซนมองหน้าโยชิ ภายใต้สีหน้ากังวลนั้นเขามองเห็นแววอาทรห่วงใยอยู่
แวบนั้นเขารู้สึกนึกเอ็นดูโยชิขึ้นมา เซนยิ้ม ตบแขนตบไหล่เขาไป
“ ตามนั้นแหละ ขอบคุณนะครับที่เป็นห่วง ”
เซนเปิดประตูรถ เข้าประจำที่คนขับ
“ ถ้าห่วงขนาดนี้ งั้นพี่โยต้องดูแลเซนดีๆ พรุ่งนี้พาไปเลี้ยงข้าวด้วย โอเคนะ ”
เซนรวบรัด ทิ้งคำท้ายด้วยน้ำเสียงน่าเอ็นดู
โยยืนงงกับคำพูดเซน
ใช่เหรอ? นี่เขาดูเป็นห่วงเซนขนาดนั้นเลยเหรอ ?
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ