ภูผาคอยตะวัน : My Sweet Sunshine [แต่จบแล้ว]

-

เขียนโดย พร่างพระพาย

วันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2563 เวลา 20.00 น.

  15 ตอน
  0 วิจารณ์
  11.86K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2563 05.20 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

12) Let bygones be bygones

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
นิยายแต่งจบออกเป็น eBook แล้วค่ะ
…. Let bygones be bygones ….
"สวัสดีครับคุณภูผา ... วันนี้มาซื้อของเข้าไร่หรือว่าจะมาซื้ออุปกรณ์สำหรับก่อสร้างกันครับ?"
เสียงทักดังมาจากชายกลางคนที่ดังอยู่ด้านหลังของเธอไม่ไกล ทำให้ร่างบางชะงักมือที่กำลังจะเอื้อมไปรับขนมข้าวเกรียบปากหม้อของโปรดที่เมื่อก่อนนี้นั้นเคยเป็นของโปรดของใครคนหนึ่ง ซึ่งเธอมักจะคอยหาซื้อไปฝาก หากพอนานวันเข้า มันก็ได้กลายมาเป็นของโปรดของเธอไปอีกคน
คงเป็นเพราะชื่อที่ไม่ว่าจะกี่ร้อยกี่พันวัน มันก็ไม่สามารถลบเลือนไปจากความทรงจำได้เลย ทำให้เจ้าของร่างเล็กบางอดใจไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองอย่างอยากให้แน่ใจ เพราะโดยนิสัยนั้นเธอไม่ชอบความกังขาหรือค้างคาใดเท่าไรนัก
...ลมหายใจกระตูกวูบ…
ศีรษะราวกับถูกน้ำเย็นเฉียบราดรดลงมาจนถึงปลายเท้า เพราะเมื่อหันไปเห็นคนที่แม้เป็นแค่เพียงด้านข้างของคนร่างสูงใหญ่ ผิวเข้ม ผมดำ ที่กำลังยืนก้มหน้าน้อย ๆ ลงไปคุยกับชายวัยกลางคนที่ตัวเตี้ยกว่าหน้าร้านขายของจิปาถะ ถัดออกไปไม่ไกลจากที่เธอยืนอยู่นักได้ถนัด โชคดีที่เขายืนหันข้างมาทางนี้ ซึ่งถ้าไม่สังเกตให้ดีแล้วล่ะก็ ผู้ถูกมองก็จะไม่รู้หรอกว่ามีใครบ้างที่ยืนอยู่ตรงนี้ 
..หญิงสาวดูเหมือนจะวุ่นวายใจเล็กน้อยในตอนที่หันกลับมารับเงินทอนจากแม่ค้าขายขนม … พยายามอย่างยิ่งที่จะบังคับลมหายใจให้เป็นปกติเหมือนเดิม
ไม่มีอะไรหรอก ... มันก็แค่ความบังเอิญเท่านั้นเอง
เธอดุตัวเองในใจ
ภูผาหันกลับไปมองตาสายตาของคู่สนทนาโดยสัญชาตญาณ ก่อนจะรู้สึกว่าเผลอสะดุดลมหายใจตัวเอง
เป็นไปไม่ได้หรอก!! ... เขาสรุปดุเดือด
รูปร่างบอบบางคุ้นตาแม้ว่าเขาจะเห็นเพียงแค่ด้านหลัง แต่ผมหยักเป็นลอนสยายบวกสีผมที่อ่อนเองโดยธรรมชาติมิได้เกิดจากการกัดย้อมสีกันตามสมัยยังอยู่ในความทรงจำแจ่มชัด 
จะเป็นไปได้อย่างไรล่ะ
เจ้าของร่างสูงหน้าเข้มเองก็ไม่คิดที่จะเชื่อในสิ่งที่เห็น 
เธอคนนั้นน่ะหรือจะมาเดินเฉิดฉันอะไรกันในที่ ๆ ห่างไกลแหล่งคุ้นเคยของสาวไฮโซเช่นนั้นด้วยเล่า? 
"สองสัปดาห์ก่อนมีคนเค้าพูดกันครับคุณภูผา ว่าเห็นผู้หญิงสวย ๆ คนนึ่งผ่านมาแถวนี้บ่อย ๆ ผมก็เพิ่งจะเห็นวันนี้แหละ แหม!!... สวยอย่างที่เขาลือกันจริงเสียด้วยแฮะ" เถ้าแก่ร้านชวนคุยเมื่อเห็นหญิงสาวต่างถิ่นแสนสวยเดินห่างออกไปจนพ้นจากระยะการได้ยินนั้นแล้วเล็กน้อย
"เถ้าแก่รู้ได้ไงกันครับ ผมก็หันไปดูเมื่อครู่ เห็นแค่ข้างหลัง"
พยายามข่มเสียงตัวเองให้ราบเรียบ ถามทั้ง ๆ ที่ภายในยังรับรู้ถึงความร้อนประหลาดที่นาบอยู่ไม่รู้หาย ... 
"สวยจริง ๆ ครับ ใกล้แค่นี้ผมเห็นชัดเลย เพราะเมื่อกี้เธอหันมามองทางนี้ ตอนที่ผมร้องทักคุณภูผานั้นแหละ" เถ้าแก่ยืนยัน 
"อ้าวเดี๋ยวสิครับ! ... คุณภูผาจะรีบไปไหนละ..นั่น?" 
เจ้าของร้านตะโกนเรียกเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มคู่สนทนาหันหลัง รีบผลุนผลันจากไปในทางที่เขาเห็นว่าเป็นทางเดียวกันกับที่หญิงสาวเดินจากไปเมื่อครู่ 
เอ?... หรือว่าจะรีบตามไปดูหน้าผู้หญิงที่เขาออกปากชมเมื่อครู่ 
นั่นแน่ .. ไม่ยักรู้ว่า 'ฤๅษียิ้มยาก' ประจำอำเภอจะวิ่งตามผู้หญิงก็เป็นด้วย 
แต่เอ๊ะ! .. โดยปกติคุณ 'ภูผา' นายใหญ่ของไร่ ‘ภูผาคอยตะวัน’ ไม่เห็นเคยต้องวิ่งตามผู้หญิงเลยนี่นา?
แต่ .. ท่าทางเขาทั้งสองก็เหมือนรู้จักกันแฮะ?
ชายกลางคนคิดพลางส่ายหัวไปตามประสา
หญิงสาวเดินกลับมาขึ้นรถที่จอดอยู่ใกล้บริเวณนั้น 
เปิดประตูเข้าไปนั่งด้านคนขับก่อนจะสตาร์ทรถคันโก้เคลื่อนตัวห่างไป
…. Let bygones be bygones ….
มันเป็นเพียงแค่ 'จุดเล็กๆ ของกาลเวลา' ที่เธอต้องผ่านมันไปให้ได้ก็เท่านั้นเอง! ..ทุกสิ่งผ่านมาแล้ว..สักวันมันก็ต้องผ่านไปอยู่วันยันค่ำ.. เจอกันก็แค่เพียงวันนี้ จะมีประโยชน์อะไรกับการจะเพียงแวะเข้าไปทักทาย 
‘คนถูกทัก’ ก็ไม่แน่ว่าจะยินดีที่ได้พบกันหรือไม่ เพราะถึงอย่างไรเรื่องของเธอกับเขามันไม่มีวันที่จะจบลงหรอก
ในเมื่อมันไม่เคยมีวัน 'เริ่ม' มาตั้งแต่ต้นแล้ว
พอเถิด ... 
เธอควรจะหยุดให้ความสำคัญกับคนที่ไม่เคยเห็นว่าเธอ 'สำคัญ' สำหรับเขาเสียที
………………..
ไร่  'ภูผาคอยตะวัน'
ป้ายไม้ตรงปากทางเข้าไร่เล็ก ๆ ที่ยังเป็นแค่เพียงทางลูกรังขรุขระ เรียกความสนใจให้กับหญิงสาวเป็นอย่างยิ่ง... 
ค่อย ๆ ละเท้าจากคันเร่งเพื่อชะลอรถก่อนหันมาแตะเบรคเพื่ออ่านป้ายที่ปักอยู่ทางเข้าไร่อย่างจะให้แน่ชัด .. แกมประหลาดใจ
บ้าน่า!! .. ทำไมก่อนหน้าเธอจึงไม่เคยเห็นป้ายนี้?
ขมวดคิ้วถามตัวเองหลังจากหันกลับมามองถนน .. 
สงสัยเป็นเพราะคนงานในไร่หรือใครสักคนคงเพิ่งจะมาถางหญ้าที่มันขึ้นรกจนบังป้ายออกไปแน่ ๆ เพราะมั่นใจว่าก่อนหน้านี้ ตลอดเวลาเกือบเดือนที่ขับรถผ่านเส้นทางนี้ไปมาก็ไม่เคยที่จะสังเกตเห็นมันมาก่อน หรืออาจเป็นเพราะเธอที่สงสัยใคร่รู้ว่า บ้านน้อยที่ถูกใจนักเมื่อวานนี้มีทางเข้าอยู่ตรงไหนหรือเปล่า จึงทำให้เพ่งใส่ใจอ่านป้ายแทบจะทุกป้ายที่ปักไว้ และคอยมองทางเข้าแทบจะทุกทางที่คิดสงสัย
นั่นไงล่ะ! ... รอยถางหญ้าใหม่ ๆ จริง ๆ ด้วย
และถ้าจะคะเนได้ไม่ผิด .. ทางเข้าที่ป้ายนี้ปักอยู่ก็น่าจะเป็นทางไปสู่บ้านหลังน้อยนั่นเช่นกัน!
หัวใจเต้นตึกตักอุ่นๆ ผิดจังหวะกับข้อสรุปนี้ แม้เธอไม่เชื่อว่าจะมีเรื่องบังเอิญเกิดขึ้นซ้อน ๆ กันได้ในเวลาไล่เรี่ยกัน
เขาน่ะหรือจะมาทำไร่อยู่ทีนี่? 
...มีความเป็นไปได้...ที่เธอไม่ควรแปลกใจ... 
ขมวดคิ้วเรียวใคร่ครวญอีกครา .. คนมีความสามารถและสมถะราวฤๅษีแบบเขาไม่เลือกอยู่ในกรุงเทพฯหรือเมืองใหญ่ ก็ย่อมไม่น่าจะแปลกอะไร 
แต่มันจะไม่บังเอิญไปหรอกหรือที่เขาจะเป็นเจ้าของบ้านน่ารัก ๆ หลังนั้น?
มือนั้นเร็วกว่าความคิด…
ร้อยตะวันพบว่าตัวเองได้หักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าไร่โดยที่มารู้ตัวคิดได้อีกทีก็ตอนที่พาร่างบาง ๆ มาชะเง้อมองเข้าไปในบ้านหลังน้อยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 
โง่จริง ๆ เล้ย... ยัยร้อยตะวันเอ้ย!!

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา