SOMEDAY | โลกกว้างใหญ่ฉันได้พบเธอ

-

เขียนโดย LuckyStars★

วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.21 น.

  4 บท
  0 วิจารณ์
  4,462 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 19 กันยายน พ.ศ. 2563 18.48 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) บทที่ 3 - จับจ้อง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก

          บทที่ 3 - จับจ้อง
  

          หลี่เวยเกิดมายี่สิบสี่ปี นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกกระอักกระอ่วนขนาดนี้ จู่ๆ มีชายแปลกหน้าเข้ามาใกล้ แถมยังมองนิ่งด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกแบบนั้น แสงแดดในยามนี้ทอดผ่านด้านหลังของเขา ทำให้ใบหน้าคมคายใต้หน้ากากผ้าเกิดเป็นเงาขึ้นมา หลี่เวยสบนัยน์ตาที่ดำขลับของเขา นิ่งอึ้งราวกับไม่สามารถละสายตาไปได้ กว่าจะรู้สึกตัวก็เหมือนกับเวลาผ่านไปพักใหญ่


          หญิงสาวหลุบสายตาลงและเงยหน้าขึ้นมาสบตาชายหนุ่มอีกครั้ง


          “ไม่ทราบว่า มีอะไรหรือเปล่าคะ” หลี่เวยเอ่ยถาม


          ชายหนุ่มสบสายตากับหญิงสาว คนเบื้องหน้านี้มีแววตาที่เป็นประกายสดใส ริมฝีปากเรียวสวยดุจดอกไม้ ใบหน้าเล็กบอบบาง หมดจดสะดุดตา แต่สีหน้าท่าทางดูนิ่งเฉยขัดกับรูปลักษณ์เสียเหลือเกิน


          ผู้หญิงคนนี้นี่ ชอบพูดคุยกับคนแปลกหน้าอยู่เสมอหรือไงนะ ไม่รู้จักระมัดระวังตัวบ้างเลย รู้ว่าตัวเองหน้าตาสะสวยก็ไม่ควรเดินทางไปไหนมาไหนเพียงคนเดียวไม่ใช่หรือไง


          หลี่เวยจ้องเขากลับ ริมฝีปากเม้มเข้าหากันนิดๆ แววตาดูเคร่งเครียดกว่าปกติ


          ที่แท้ก็รู้จักระวังตัวอยู่บ้าง สายตาของชายหนุ่มคล้ายกับมีความรู้สึกพอใจแวบผ่าน มุมปากใต้หน้ากากผ้ายกยิ้มโดยไม่รู้ตัว


          ไม่รู้เป็นเพราะถูกหลี่เวยจ้องนานเกินไปหรือเปล่า ชายหนุ่มจึงเบนสายตาออกไปที่ป้ายรถประจำทางเมื่อสักครู่นี้เล็กน้อย ก่อนที่จะกล่าวเสียงเรียบ “คุณทำอะไรหล่นหายหรือเปล่าครับ”


          เอ๊ะ!


          หลี่เวยมองเขาอย่างประหลาดใจ เดิมที่เธอนึกว่าชายหนุ่มจะตอบกลับเหมือนอย่างที่เธอถามเขาเป็นภาษาอังกฤษ แต่ไม่ใช่ ที่แท้ก็เจอคนชาติเดียวกันนี่เอง แสดงว่าเขาได้ยินที่เธอคุยกับกลุ่มนักท่องเที่ยวเมื่อกี้นี้สินะ


          ว่าแต่ เธอทำอะไรหล่นหายไปหรือ หญิงสาวเผยสีหน้าตกใจ พลางก้มลงลงควานหาของในกระเป๋าเป้ ไม่รู้ว่าตอนที่เธอหยิบโบรชัวร์ออกมาได้ทำอะไรหล่นหายไปหรือเปล่า ลองเช็คดูสักพักก็พบว่ากระเป๋าใส่เหรียญของเธอหายไป


 


          “ผมเห็นกระเป๋าใบเล็กนี้ตกอยู่ คิดว่าน่าจะเป็นของคุณ” เขากล่าวเสียงทุ้ม “ต้องขอโทษด้วย ที่ผมเผลอทำพวงกุญแจของคุณเสียหาย” ชายหนุ่มหลุบตาพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงเชิงขออภัย


          หลี่เวยเพิ่งสังเกตเห็นว่าขาของตุ๊กตาพวงกุญแจนั้นหักไปแล้ว หักแบบนี้ อย่างกับโดนเหยียบมาแหนะ


          “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่คุณนำมาคืนก็ดีมากแล้ว” เธอสบตาชายหนุ่มตรงๆ อีกครั้ง พร้อมยิ้มให้อย่างสุภาพ “ขอบคุณมากค่ะ”


          ชายหนุ่มมองรอยยิ้มและนิ่งไป


          สักพักหนึ่งจึงเอ่ยว่า “ถ้ายังไง ให้ผมชดเชยให้คุณ”


          หลี่เวยยิ้มกว้างขึ้นอีกนิด ส่ายหน้าปฏิเสธ และตอบกลับว่า “อย่าเลยค่ะ คุณนำของมาคืนให้ฉัน ฉันยังไม่ได้ตอบแทน จะให้คุณชดเชยได้อย่างไร”


          เธอเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าใบเล็กที่เขาส่งให้ “ขอบคุณอีกครั้งค่ะ”


          “ไม่เป็นไรครับ” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเบา ก้มศีรษะให้เล็กน้อย นิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนคว้ากระเป๋าเป้ใบโต และก้าวขายาวๆ ไปยังที่นั่งด้านหลังรถประจำทาง


          หลี่เวยนั่งอยู่ที่เดิม จู่ๆ ก็รู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก เดินทางมาต่างประเทศทั้งที มีโอกาสไม่บ่อยนักที่ได้พูดภาษาที่คุ้นเคย แถมยังเจอคนที่มีน้ำใจ ใครบ้างที่จะไม่รู้สึกดี


          จริงไหม


 


          ตอนที่หลี่เวยเดินทางมาถึงหมู่บ้านอนุรักษนิยมแห่งนี้ เธอก็เพิ่งรู้สึกว่าตัวเองโชคดี อากาศในวันนี้สดใสและเป็นใจอย่างมาก หมู่บ้านแสนสวยและแสนสงบนี้ มีจุดเด่นที่วิวฝั่งตรงข้าม จะดีสักแค่ไหนที่เธอเพิ่งมาเที่ยวเพียงครั้งแรกก็ได้พบกับท้องฟ้าสดใสไร้เมฆบัง สามารถมองเห็นหิมะที่คล้ายหมวกสีขาวใบใหญ่ปกคลุมอยู่บนยอดภูเขาไฟ คุ้มค่ากับการที่ต้องนั่งรถมานานเกือบหนึ่งชั่วโมง


          หมู่บ้านหลังคามุงจากโบราณแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวไม่มากนัก อาจเป็นเพราะไม่ใช่วันหยุด หรืออาจเป็นเพราะไม่ใช่สถานที่ที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยม ผู้คนที่เดินสวนไปมามักเป็นคนท้องถิ่น ครอบครัวพาเด็กเล็กๆ มาเที่ยวชม หลี่เวยอดไม่ได้ที่จะลองเช่าชุดแบบโบราณเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ เดินเล่นสูดอากาศบริสุทธิ์ และทานขนมพื้นเมืองสักเล็กน้อย รู้สึกเหมือนผ่านไปไม่นานก็ชมรอบๆ จนทั่ว


          ก่อนเดินทางกลับ หลี่เวยแวะร้านขายของที่ระลึกในละแวกนั้น ไหนๆ พวงกุญแจอันเก่าของเธอก็เสียหายไปแล้ว เธอจึงซื้อพวงกุญแจเส้นใหม่เสียเลย แต่จะเรียกว่าพวงกุญแจก็ไม่ค่อยถูกนัก เพราะดูเหมือนจะเป็นสายห้อยโทรศัพท์เสียมากกว่า อักษรที่เขียนว่า ‘ความสุข’ ดูเหมาะกับเธอในวันนี้ดี


 


          “รับชิ้นนี้ค่ะ” หลี่เวยเอ่ยเสียงเบา


          “ได้ค่ะ ขอบพระคุณที่อุดหนุนนะคะ” หญิงวัยกลางคนเจ้าของร้านหยิบพวงกุญแจใส่ซองกระดาษ และยื่นให้ด้วยสองมือบอกถึงความใส่ใจ


 


          ในตอนนี้เองมีเสียงฝีเท้ามั่นคงดังขึ้นด้านหลัง ชายหนุ่มยื่นพวงกุญแจอีกเส้นส่งให้เจ้าของร้านค้า “อ้าว ไม่ได้มาด้วยกันหรือคะ” หญิงเจ้าของร้านพูดพลางอมยิ้ม หลี่เวยที่เดินออกมานอกร้านแล้วหันกลับไปมองอย่างไม่ตั้งใจ น่าเสียดาย ทีผ้าม่านประตูของร้านค้าบดบังลงมาพอดี …
 


----------
 


จบบทที่ 3


 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา