วรัญญู

-

เขียนโดย Nueng1598507198

วันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2563 เวลา 12.58 น.

  3 ตอน
  0 วิจารณ์
  3,644 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2563 13.03 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ตอนที่ 3.

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
เย้!! ได้เวลากลับบ้านแล้ว    ขณะนี้เมยืนอยู่  บขส หรือท่ารถ เพื่อรอขึ้นรถกลับบ้าน บ้านเมอยู่ในอำเภอเล็กๆของจังหวัดเพชรบูรณ์ ครอบครัวเมฐานะปานกลาง พ่อแม่เมทำอาชีพ ทำไร่ทำสวน ส่วนมากจะนิยมปลูกมะขามกัน เมไม่เคยอายไครนะ ที่พ่อแม่ทำอาชีพนี้ ภูมิใจสะอีกที่ท่านทำงานสุจริต และอาชีพนี้แหละที่หล่อเลี้ยงให้เม เป็นเมจนถึงทุกวันนี้ เวลาที่เมไม่สบายใจ     เมแค่มองทิวทัศน์และบรรยากาศความทุกข์ใจที่มีมามันก็จะจางหายไป
ถ้าให้เมพูดคำนิยามของธรรมชาติ เมคิดว่าธรมมชาติเงียบสงบ ลมพัดมาทีไรเหมือนเค้าพัดเอาความทุกข์ ความเศร้าเราออกไปทุกครั้ง เหตุผลนี้แหละที่เค้าเรียกว่า ธรรมชาติบำบัด 
 
"เพชบูรณ์ ครับ เพชรบูรณ์ ! รถมาแล้วครับ"   เสียงนายท่าตะโกนบอกผู้โดยสารที่นั่งรอรถอยู่ที่ชานชาลา  พอได้ยินว่าเป็นรถที่จะไปเพชรบูรณ์ฉันก็ลุกแล้วเดินขึ้นรถไปบนรถ ทันทีที่ขึ้นมาก็มองหาที่นั่งหมายเลขที่ตรงกับในตั๋ว พอสายตามองเห็นที่นั่งของตัวเองก็รีบเดินไปนั่งเพราะคนข้างหลังยืนรอต่อแถวอยู่ ฉันโชคดีมากที่เบาะนั่งของตัวเองติดกับกระจกทำให้มองเห็นวิวข้างนอกรถได้  
 
"นั่งด้วยคนนะครับ" 
 
"ค่ะ" ฉันนั่งได้สักพักก็มีผู้ชายมานั่งข้างๆ แถมหล่อด้วย หล่อน้อยกว่าพี่หมอญูนิดนึ่ง แล้วจะนึกถึงเค้าทำไมเนี้ย บ้าแล้วฉันช่วงนี้ เราเกลียดเค้าอยู่นะเมจิกา 555 พี่เขาคงสงสัยสีหน้าที่หลุดออกไป จึงมองมาที่ฉันด้วยท่าทางสงสัยแต่เขาคงไม่คิดอะไรหรอก เพราะสภาพฉันตอนนี้ออกจะเฉยๆโทรมๆ แบบพวกติสๆ
 
 
นั่งมาได้ประมานครึ่งทางรถก็เข้าจอดพักที่ปั้ม ปตท.แห่งหนึ่ง จากที่มองปั้มนี้คนเข้าเยอะมากก มองทางไหนก็เห็นรถที่จอดอยู่ปั๊มเต็มไปหมด บางคันกว่าจะได้จอดต้องวนรถอีก 2-3 รอบ
 
"พัก 10นาทีนะครับ" เสียงคนขับรถร้องบอกผู้โดยสาร ที่นั่งอยู่ในรถ
 
"ลงมั้ยครับ" พี่ที่นั่งข้างๆเค้าถามคงเพราะฉันนั่งอยู่ข้างในแล้วจะหลีกทางให้มั่ง หล่อแล้วยังนิสัยดีอีกเนาะ
 
"ไม่ละค่ะ"ตอบแล้วยิ้มมมมมจ้าา 
 
"ถ้างั้นงั้นพี่ฝากกระเป๋าหน่อยนะครับ" พี่เค้าหมายถึงฝากกระเป๋าใบใหญ่ที่วางอยู่ใกล้ๆเท้าตรงกลางระหว่างเรา แปลกเนาะ กระเป๋าใหญ่เขาจะมีที่เก็บกระเป๋าให้ไม่ใช่หรอ รึเราเข้าใจผิดว่ามันมี
 
"ค่ะเดี๋ยวดูให้"     "ติ้งๆ"  เสียงไลน์ดังขึ้นอย่างรัวๆ เปิดอ่านดูก็ไลน์แกงค์เพื่อนสาวนั้นเองที่ส่งเสียงเมื่อกี้  ไลร์นี้เป็นไลน์กลุ่มที่เปิดไว้เม้าท์มอยตามประสาผู้หญิงที่สนิทกัน
k. แกวันนี้ฉันจะไปร้านพี่น้ำ มีใครฝากซื้ออะไรมั้ย
J.ฉันฝากซื้อต่างหู 2 คู่
อ่านแค่นี้ฉันก็กดออกจากแอพไลน์แล้วปิดหน้าจอ เพราะเล่นโทสับบนรถเมล์ทีไรเมารถทุกที 
 
"อะพี่ซื้อมาฝากค่าเฝ้ากระเป๋า" แมะหล่อแล้วมีน้ำใจ ดูดีๆหุ่นก็ได้นะ ส่วนสูงก็ได้ ผิวก็ดี หน้าตาก็หล่อ ถ้าไอ้เก๋กะยายเจนเห็นต้องมีกริ๊ดกร๊าดแน่
 
 "ขอบคุณค่ะ"  สิ่งที่พี่เค้าซื้อมาก็มีเลย์และน้ำเปล่า ดูดีมีน้ำใจไม่หยิ่งเหมือนใครบางคน ฉันเปิดฝากินน้ำที่เขาซื้อมาให้อึกสองอึกก็ เผลอหลับไป คงเพราะรถที่โยกๆเหมือนเปล กล่อม บวกกับแอร์รถที่เย็นฉ่ำคงไม่แปลกที่จะเผลอหลับไป
 
 
"น้องครับ ตื่นๆถึงแล้ว" ฉันสดุ้งตื่นจากเสียงพี่ที่นั่งข้างๆและแรงสกิด (เบาๆ) ของเขา
 
  "ค่ะถึงแล้วหรอ" ถามแบบงัวเงียแต่พอตั้งสติได้ก็รีบลุกนั่ง นี่ฉันนอนนานเหมือนกันนะเนี้ย หวังว่าตอนนอนน้ำลายไม่ไหลคงไม่ไหลมาประจานตัวเองให้คนนั่งข้างๆเห็นนะ ไม่งั้นคงได้ท่องคาถาของพระร่วงแทรกแผ่นดินหนีตรงนี้เลยนะ 
 
"ครับรีบลงรถกัน ตอนนี้ทั้งรถเหลือแค่เรา" เขาเอื้อมมาจับกระเป๋าแล้วพาฉันเดินลงรถ พอเท้าเหยียบลงพื้นเท่านั้นแหละน้ำตาเมจิกาจะไหล คิดถึงมากเพชรบูรณ์  เมืองสวรรค์ของฉันคิดถึงที่สุดเลย
 
 "น้องครับกลับไงใครมารับ"
 
"  อ่อพ่อมารับค่ะ"   
 
"งั้นไปนั้งในม้านั่งก่อนมะพี่รอเป็นเพื่อน เพื่อนพี่ก็ยังไม่มา"   
 
"ไม่เป็นไรค่ะ พ่อมารับค่ะแล้วยืนรออยู่ตรงนู้นนน" ฉันชี้ไปทางที่รถจอดเรียงกันอยู่ข้างถนน เห็นพ่อสุดหล่อของฉันยืนพิงรถรออยู่ตรงนั้น ไม่ว่าจะผ่านมากี่วันพ่อฉันก็หล่อเหลาไม่แก่ลงเลย
 
  "งั้นเมไปก่อนนะ ขอบคุณนะค่ะสำหรับทุกอย่าง หนูชื่อเมนะถ้าเจอกันอีกทักได้นะค่ะ" 
 
" ครับพี่ชื่อแบงค์นะครับ อะนี่กระเป๋าเรา"  
 
"ขอบคุณค่ะ"  เราทั้งสองต่างยิ้มให้กันแล้วแยกย้ายคนละทาง การที่ไม่ได้เดินทางมาแบบรถส่วนตัวก็ดีอีกแบบนะ ได้เจอคนที่ไม่รู้จักได้ทั้งมิตรภาพดีๆจากคนแปลกหน้า
 
 
"ไงลูกสาวพ่อ" 
 
"คิดถึงจังเลย" ฉันเข้าไปกอดไปหอม ให้ชื่นใจ ไม่เคยอายใครถ้าใครจะมองมาเห็น เพราะฉันเชื่อเสมอว่าการที่ฉันทำแบบนี้คือสิ่งที่ดี พวกท่านแก่ลงไปทุกวันไม่รู้อีกกี่10 ปีที่จะจากกัน ชีวิตคนเรามันสั้น ชะนั้นทำทุกวันนี้ให้ดีที่สุด อย่ากลัวการที่จะบอกรักกัน
 
"ไม่ต้องมาปากหวาน เมื่อกี้ใครพ่อเห็นนะ" 
 
"เค้าชื่อแบงค์ค่ะ เจอกันบนรถ พี่เขาคงเอ็นดูเพราะเป็นคนบ้านเดียวกัน" 
 
"พ่อก็นึกว่าลูกสาวสุดที่รักของพ่อ เอาลูกเขยเมืองกรุงมาฝากสะแล้ว"
 
"โห้ยพ่ออะ เมเป็นเด็กดีนะค่ะ" 
 
"จ้าพ่อรู้ๆ กลับบ้านกันแม่เอ็งรอใจจะขาดละ"  เราสองพ่อลูกขึ้นรถกระบะโตโยต้าแชมป์สีขาวมุกออกมา ขับผ่านนู้นนี่นั้นจนออกมาจากตัวเมืองเข้าสู่ชนบท มาเจอทางเข้าหมู่บ้าน ก็จะเห็นป้ายเขียนคำว่า คำแปง ตั้งเด่นหราอยู่และ รอบๆตัวป้ายก็จะมีดอกไม้ดาวเรือและกุหลาบปลูกไว้เพื่อเสริมความงามและความชดชื่นจากคนที่พบเห็น ป้ายนี้เป็นสิ่งที่บงบอกว่าเป็นสัญญาลักษณ์ของบ้านฉันอย่างชัดเจน กับคำที่สลักอยู่ในป้ายว่า คำแปง
 
ขับเข้ามาสู่ตัวบ้านครึ่งไม้ครึ่งปูนหลังใหญ่ ก็จะเห็นผู้หญิงวัยกลางคนยืนรออยู่หน้าบ้าน พอท่านเห็นรถที่เล่นเข้ามาจนจอด ก็แสดงอาการตื่นเต้นดีใจ ส่วนฉันแค่ได้เห็นใกล้ ก็เกิดน้ำตาจิไหล ความคิดถึงมันเอ่อล้นจนมากมาย พอพ่อจอดรถได้จึงรีบเปิดประตูกระโดดกอดแม่ทันที  
 
 "คิดถึงจังเลย" 
 
"แม่ก็คิดถึงเหมือนกัน"
 
"หิวจังเลยค่ะแม่ทำไรกินบ้างค่ะคิดถึงฝีมือแม่ที่สุดเลย" 
 
"งั้นไปกินข้าวกันแม่ทำแต่ของที่เมชอบทั้งนั้นเลยลูก" 
เราทั้งสามคนพ่อแม่ลูกกินข้าวไปคุยกันไป เป็นบรรยากาศที่อบอุ่นทุกครั้งที่อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน สุขจนฉันบรรยายเป็นคำพูดไม่ได้มันเลยแสดงออกมาจากร่ายกายที่ บ่งบอกว่าสุขเหลือล้น ล้นเหลือเกิน
 
 
 
 
 
 "เมตื่นยังลูก แม่กับพ่อจะเข้าไร่นะไปดูคนงานเค้าเก็บมะขามก่อน" 
 
"ค๊าาาา" 
6.12 น. เองเช้านี้อากาศสดใสดีจังแต่งตัวไปออกกำลังกายดีกว่า คิดได้ดังนั้นเมจึงไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดวอมร์   แล้วลงไปวิ่ง อากาศตอนเช้านี่ชดชื่นจริงๆ ไม่เหมือนเมืองกรุงเลย  ...วิ่งไปวิ่งมาวิ่งไปจนถึงทางเข้าไร่ด้านหน้า จึงวนกลับ  ก็มีเสียงรถมอไซค์ป้าพร้อมขับตามหลังมา
 
"เอ้าหนูเม มาวันไหน" 
 
"เมมาถึงเมื่อคืนค่ะป้า   ป้าพร้อมสบายดีมั้ยค่ะ" 
 
"จ้าสบายดีลูก หนูละไปอยู่เมืองกรุงเป็นไงบ้าง" 
 
"ก็ดีค่ะ สนุกดีเพื่อนก็ดีแต่รถติด แล้วก็วุ้นวายไม่สงบเหมือนบ้านเราหรอกค่ะ"
 
"จ้าดีแล้วลูกเดี๋ยวก็ชิน งั้นป้าขอไปก่อนนะ" 
 
"ค๊าา" สงสัยละสิค่ะว่าป้าพร้อมเป็นไคร ป้าพร้อมคือคนทำความสอาดบ้านค่ะ แกจะเข้ามาทำความสอาดทุกวันอาทิตย์ พอเสร็จแล้วแกก็กลับ บางวันแม่อยู่แกก็จะทำกับข้าวกินกัน ที่บ้านนอกนี่เขาอัธยาศัยกันดีค่ะ ใครมีอะไรก็แบ่งกันกินช่วยกันทุกอย่างทั้งๆที่ไม่ใช่ญาติกัน
 
"จ๊อกกกก" เมื่อหูได้ยินเสียงท้างร้อง สมองจึงสั่งสองขาเดินไปห้องครัวทันที เปิดตู้กับข้าวดู ในนั้นมีน้ำพริก ผักลวกไข่ต้ม ทอดปลา ของชอบทั้งนั้นเลยแค่เห็นน้ำลายก็จะไหล  
 
"ติ้งๆ" เสียงไลน์ที่ดังขึ้นทำให้ฉันเลิกสนใจอาหารที่อยู่ข้างหน้าชั่วขณะ สแกนนิ้วมือได้แอพพลิเคชั่นไลน์ก็แสดงหน้ารูปของคนที่ทักมา ใคร? อ่อเพื่อนสมั้ยป6 ทักมา เพื่อนคนนี้ก็สนิทกันมาก โตมาด้วยกันเรียนมาด้วยกัน ทุกวันนี้ไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ยังรักและติดต่อกันอยู่
 
T. เมกลับบ้านหรอ
 
M.อื้มรู้ได้ไง โทษทีไม่ได้บอกใครว่าจะทักไปหาอยู่
 
T.แตเจอแม่เมที่ตลาด แกบอกเมกลับบ้าน ไปกินส้มตำร้านเดิมกันมั้ยคิดถึง อยากเจอ 
 
M. เคไปตอนเที่ยงเนาะ แล้วเจอกันนะ ตอนนี้เมกินข้าวอยู่
 
T.จ้าเจอกัน บาย..
 
M.บาย 
 
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา