เรื่องราวในโลกสัตว์เทพ

-

เขียนโดย NobYK

วันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2563 เวลา 05.56 น.

  8 ตอน
  0 วิจารณ์
  7,159 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2563 06.06 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ตอนที่ 2 เพื่อนคนแรก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
     วันที่ 2 ของการเปิดเรียนฉันก็พอจะรู้อยู่แล้วล่ะว่ามีคนเกลียดขี้หน้าฉันเพราะอยู่ใกล้กับเจ้าชาย แถมเจ้าชายยังพยายามเข้าหาชั้นอีก
    ถ้าอยากตีสนิทเจ้าชายขนาดนั้นจะเหลือที่แค่ข้าง ๆ ฉันทำไมกัน ปัญญาอ่อนกันจริง ฉันคิดแบบนั้นแล้วก็ฟุบลงกับโต๊ะเพื่อแกล้งหลับเพราะไม่อยากให้มีใครเข้ามายุ่งด้วย
    ในตอนนั้นเองเจ้าชายก็เดินเข้าห้องมา เห มาเช้ากว่าเมื่อวานมากเลยแฮะทำไมกันนะ สงสัยไปก็เท่านั้นช่างมันละกัน
 
“นี่เธอ นอนแบบนั้นรู้สึกไม่ดีหรือเปล่า”
 
    ดูบรรยากาศไม่เป็นเลยรึไงกันเขาคนนี้ ถ้าแกล้งหลับต่อคงแย่กว่าเดิม ฉันเลยทำเหมือนว่าพึ่งตื่นแล้วหันไปทางเจ้าชาย
 
“เปล่าฉันแค่ง่วงเฉย ๆ”
 
“นอนดึกหรอ อย่าฝืนตัวเองนะ”
 
“อา”
 
    ฉันไม่สนใจสายตาของคนรอบๆ แล้วก็เหม่อมองนอกหน้าต่างเหมือนเดิม อย่างน้อยถ้าเจ้าชายยังอยู่คงไม่มีใครกล้ามาหาเรื่องหรอกมั้ง เจ้าชายนั่งลงและหันมาคุยกับฉัน
 
“เธอมาเช้าจังมาถึงกี่โมงหรอ”
 
“มาถึงตั้งแต่ 6 โมงแล้วล่ะ”
 
“อืม งั้นหรอ”
 
    แล้วในคาบเช้าก็ผ่านไปเหมือนเดิม แต่วันนี้ฉันไม่รอให้คนอื่น ๆ ออกไปก่อนแล้วหยิบข้าวกล่องขึ้นมาทันที ฉันคิดไว้แล้วว่าจะไม่สนใจสายตารอบตัวแล้วล่ะ
    เจ้าชายก็ยังคงไม่ลุกออกไปไหนเอาแต่มองมาที่ฉัน พอฉันเปิดข้าวกล่องออกมาเขาก็มองแล้วพยักหน้าเบาๆ พร้อมทั้งยิ้มอย่างร่าเริง ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไป...ทำอะไรของเขากันนะ
 
 ----------------------------------------------------------------------------------------
 
    วันต่อมาเจ้าชายก็มาเร็วกว่าเดิมคือ 6 โมงครึ่งแล้วก็มีสีหน้าดีใจ เกิดอะไรขึ้นกันนะปกติแทบจะมาทีหลังสุดเลยหนิ
    แล้วทุกอย่างก็ผ่านไปแบบเดิมไม่มีอะไรแปลกจนถึงตอนเที่ยง ฉันก็ทำเหมือนๆ เดิมแต่เจ้าชายก็ยังไม่ไปไหน สักพักฉันก็เหลือบมองเขาแล้วก็ทำสีหน้าตกตะลึง เพราะเขาก็พกข้าวกล่องมาเหมือนกัน
 
“ผมขอนั่งกินข้าวด้วยได้ไหม”
 
“...ทำตามใจเถอะ”
 
    พอได้ยินแบบนั้นเจ้าชายก็ยิ้มอย่างมีความสุขแล้วเปิดข้าวกล่องที่ดูหรูสุดๆนี่มันข่มกันชัดๆ ฉันได้แต่นั่งเงียบๆ ไปพร้อมกับร้องไห้อยู่ในใจ
    หลังจากผ่านไป 2 อาทิตย์ขึ้นสัปดาห์ที่ 3 จะมีการเรียนเวทมนตร์เพิ่มในคาบเรียนเพราะว่าทุกคนมีพลังกันหมด ดังนั้นจึงต้องมีการเรียนเพื่อควบคุมพลังให้ดี
    ทุกครั้งจะต้องเปลี่ยนเป็นชุดฝึกแล้วไปรวมกันที่โรงยิมที่เป็นโดมขนาดใหญ่มีที่นั่งอยู่สูงขึ้นไปเผื่อมีการแข่งขันอะไรกัน
    ในตอนที่ฉันกำลังเปลี่ยนชุดอยู่ในห้องแต่งตัวของนักเรียนหญิงในตอนนั้นเองก็มีคนเข้ามาทักฉันจากด้านหลัง
 
“นี่ เธอชื่ออะไรน่ะ”
 
“อันนะ น่ะ”
 
“อ๋อ ฉัน ไอริ นะยินดีที่ได้รู้จัก”
 
“อา...”
 
    เพราะฉันทำสีหน้าระแวงไปหรือเปล่านะเธอคนนั้นจึงยิ้มแห้งๆ แล้วใช้นิ้วชี้เกาแก้มเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ
 
“เพราะสัตว์เทพของฉันบอกว่าเธอก็เป็นนกเหมือนกันน่ะเลยคิดว่าอาจจะสนิทกันได้”
 
“อา งี้นี้เอง”
 
    ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เพราะนึกว่าจะโดนหาเรื่องซะอีก มีคนที่อยากเข้ามาหาเรื่องฉันเยอะเลยล่ะ แต่น่าจะรอดูในคาบนี้อีกทีว่าพลังของฉันเป็นยังไง
 
“ถ้าเป็นเพราะพลังฉันเธออาจจะผิดหวังก็ได้นะ เพราะฉันใช้เวทมนตร์ไม่ได้หรอก เขาไม่ทำสัญญาให้ใช้น่ะ”
 
“เอ๊ะ”
 
    ฉันพูดออกไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไอริก็มองมาที่ฉันด้วยสีหน้าตกตะลึงก่อนจะกลั้นขำเล็กน้อยและหัวเราะออกมา
 
“ฮะๆ เป็นเรื่องล้อเล่นที่ไม่ตลกเลยนะ”
 
    เฮ้ย ไอ้ที่ว่าไม่ตลกของแกนี่หัวเราะลั่นเลยนะ เฮ้อ...ช่างเถอะเรื่องแบบนี้พูดไปก็ไม่มีใครเชื่อหรอก ต้องให้อุปกรณ์ตรวจจับเวทมนตร์บอกเท่านั้นแหละ
 
“ถ้าเชื่อแล้วจะเปลี่ยนใจก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ”
 
“จ้าๆ”
 
    ต้องคิดว่าล้อเล่นแหงๆ ฉันทำหน้ามุ่ยเล็กน้อยแล้วเดินออกมาหลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จพอดี หลังจากรวมตัวกันอยู่ที่โรงยิมแล้วอาจารย์ก็เอาอุปกรณ์ตรวจจับเวทมนตร์ออกมาให้ออกไปทีละคนตามเลขที่ และฉันก็เลขที่สุดท้าย...
    อุปกรณ์นั้นเมื่อคนไปจับต้องมันก็จะบอกข้อมูลของวิญญาณสัตว์เทพกับสายทางที่ถนัด พร้อมทั้งวัดค่าพลังที่มีออกมาเป็นตัวเลขเพื่อเปรียบเทียบกัน
    มีตั้งแต่ 0 คือคนที่ไม่ได้ทำสัญญากับสัตว์เทพ ซึ่งคนแบบนั้นก็จะถูกดูถูกและแบ่งแยกทันที และสูงสุดคือ 6 เป็นพวกระดับมังกรที่มีแต่ราชวงศ์เท่านั้น
    นอกเหนือจากมังกรสัตว์เทพก็จะมีหลายแบบต่างกันไปทั้งวิญญาณที่เกิดขึ้นมาพร้อมๆ กับตัวคนคนนั้น พวกแบบนี้ค่าพลังจะอยู่ที่ 1-2
    กับอีกแบบคือวิญญาณแบบแรกที่หลังจากคู่สัญญาคนแรกตายก็จะยังคงอยู่และไปสิงสถิตกับคนใหม่เรื่อย ๆ พวกนี้จะอยู่ที่ 3-5
     ดูเหมือนเจ้าชายจะเป็นมังกรสีฟ้า ถนัดไปทางรวดเร็วสินะ โอ้ ไอริเป็นนกแก้วสีรุ้งหายากแฮะ ค่าพลังตั้ง 5 แหนะ สายสนับสนุนกับรักษาสินะ
     นั่น คนที่เคยแกล้งเจ้าชายหนิ เห เสือหรอสายพุ่งชนใช้แรงไม่ใช้สมองล่ะมั้ง ค่าพลัง 3 กลางๆ แฮะ อ๊ะ ถึงรอบของฉันแล้ว
 
“เอาล่ะคนสุดท้าย…อะไรกัน! ค่าพลัง 0 งั้นรึ”
 
    พออาจารย์ที่คุมอยู่พูดออกมาแบบนั้นทุกคนก็คุยกันเสียงดังปนไปหมด แล้วสายตาที่มองมาที่ฉันก็แย่ลงกว่าเดิมที่แย่อยู่แล้ว
    ฉันไม่หันไปมองใครทั้งนั้น ทั้งเจ้าชายที่หลังๆ มานี้เขาตัวติดกับฉัน หรือไอริที่พยายามจะตีสนิทด้วย ได้แต่ทำหน้าตายแบบนั้นแล้วกลับไปนั่งโดยไม่สนใจคำพูดดูถูกอย่างสนุกปากของกลุ่มชายคนที่แกล้งเจ้าชาย ของแค่นี้น่ะฉัน ‘ชิน’ แล้วล่ะ
    หลังเลิกคาบเรียนในห้องแต่งตัวตอนที่กำลังจะกลับห้องนั้นไอริก็เดินมาหาฉันและทำท่าทีกระอักกระอ่วนเล็กน้อย
 
“คือว่า...ที่บอกว่าเธอล้อเล่นน่ะ ขอโทษนะ”
 
“ช่างมันเถอะ ก็ไม่แปลกหรอกที่คนจะไม่เชื่อกัน”
 
    ถึงจะพูดแบบนั้นไปไอริก็ยังทำสีหน้าเศร้าอยู่ดี คงจะรู้สึกผิดจริงๆ ล่ะมั้ง อา! อย่าทำท่าเหมือนจะร้องไห้สิทางนี้ดันรู้สึกผิดแทนเลย
 
“แล้วเธอคิดยังไงกับฉันล่ะ”
 
“หือ”
 
“ก็เรื่องที่ฉันมีค่าพลัง 0 ไง จะยังคิดว่าสนิทกับฉันได้อยู่รึเปล่า ฉันไม่ว่าอะไรหรอกนะถ้าเธอจะรังเกียจ”
 
    ฉันพูดพลางหันหน้าหนีไปทางอื่น ถามอะไรไร้สาระชะมัดตัวฉัน คำตอบมันก็แน่นอนอยู่แล้วไม่ใช่หรอ ใครๆ ก็คงรังเกียจฉันกันทั้งนั้นแหละ
 
“อ๋อ เรื่องนั้นนี่เอง ไม่นะ ฉันไม่รังเกียจเธอหรอก”
 
“หรอ...”
 
“อือ ก็เราเป็นเพื่อนกันแล้วใช่ไหมล่ะ”
 
“...ขอบใจนะ”
 
    ฉันพูดแบบนั้นออกไปอย่างแผ่วเบาราวกับไม่ต้องการให้เธอได้ยิน พร้อมทั้งทำตัวไม่ถูก ได้ไงกันไม่เห็นมีใครเคยพูดแบบนี้กับฉันเลย ควรทำยังไงต่อล่ะทีนี้...
 
“เอะ เอ๋~ เมื่อกี้พูดอะไรหรือเปล่า~”
 
“ปะ- เปล่า ไม่ได้พูดอะไรสักหน่อย”
 
“หรือว่า...กำลังเขินอยู่งั้นหรอ หุหุ อันนะเนี่ยน่ารักกว่าที่คิดนะเนี่ย”
 
    สุดท้ายฉันก็เลือกจะไม่เถียงเธอแล้วเดินหนีออกมาทันที ก่อนจะยิ้มเล็กน้อยพลางพึมพำซ้ำไปซ้ำมา
 
“เพื่อน...เพื่อนงั้นหรอ เพื่อนคนแรกของฉัน”
 
    แล้วฉันก็กลับไปนั่งที่ของฉันตามเดิมพร้อมทั้งมองไปนอกหน้าต่างพร้อมทั้งยิ้มอย่างอารมณ์ดี ในตอนนั้นเองก็โดนดึงกลับมาด้วยเสียงของคนที่คุ้นเคย
 
“มีเรื่องอะไรดีๆ งั้นหรอ ยิ้มใหญ่เลย”
 
“เปล่า ไม่มีอะไร”
 
    เจ้าชายนั่นเอง ฉันเผลอสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองโดยเปลี่ยนเป็นสีหน้าตามปกติ จริงสิแล้วเจ้าชายจะคิดยังไงกับพลังฉันกันนะ จะคิดแบบไอริหรือเปล่า...
 
“แล้วนายคิดยังไงกับฉันล่ะ”
 
“อะ เอ๋!”
 
    พอฉันพูดแบบนั้นเขาก็มีท่าทีตกใจมากจนลนลานหน้าก็แดงไปจนถึงหู อะไรทำไมถึงมีท่าทีแบบนั้นล่ะ คำถามของฉันมันเข้าใจยากงั้นหรอ
 
“ก็เรื่องพลังของฉันไง”
 
    เพราะไม่เข้าใจฉันจึงถามเขาด้วยน้ำเสียงปนหงุดหงิดเล็กน้อย เขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะทำท่าจะพูดอะไรสักอย่าง
 
“ก็--”
 
“เอาล่ะทุกคนนั่งที่”
 
    แล้วก็เป็นอีกครั้งที่อาจารย์เข้ามาได้ถูกจังหวะ
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา