นักล่าล้างพันธุ์อมตะ (NC 18+)
เขียนโดย Jalando
วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2563 เวลา 10.51 น.
แก้ไขเมื่อ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2563 10.55 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) ถ่ายทำระทึกขวัญ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://www.pexels.com
คำสนทนาที่โลดโผนของสองหนุ่มสาวทำเอาหนุ่มโสดอย่างอานนท์ถึงกลับหน้าแดงก่ำ ส่วนหรั่งไม่ตอบคำใด เขาเพียงยิ้มขรึมๆ ก่อนหันหน้าไปยังขอบหน้าผาสูงชัน เพื่อรวบรวมสมาธิใหม่อีกครั้ง
เสียงเร่งเครื่องดังกระหึ่มอย่างต่อเนื่อง กระแสนั้นค่อยๆทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ พอทุกสิ่งพรักพร้อมถึงขีดสุด ชายฉกรรจ์ที่ยืนอยู่เบื้องหน้าก็โบกสะบัดธงแดงลงอย่างรวดเร็วเป็นเชิงให้สัญญาณว่า……..ไปได้
พอธงแดงโบกสะบัด หรั่งก็บิดคันเร่งจนสุด ส่งผลให้มอเตอร์ไซด์เพรียวบางพุ่งทะยานออกจากจุดสตาร์ทอย่างรวดเร็ว
“ บรื้น………. ”
มอเตอร์ไซด์ยี่ห้อนินจาเพิ่มความเร็วอย่างฉับพลันตามกำลังแรงม้าที่มากมาย ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่มันจะสามารถเร่งความเร็วได้ในเวลาอันสั้น ในที่สุดตัวเลขบนหน้าปัดก็เลื่อนไปแตะที่ 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทว่าที่เบื้องหน้าของหรั่งกลับเป็นหน้าผากว้างที่มีความสูงไม่ต่ำกว่า 3,000 เมตร
ช่วงจังหวะที่มอเตอร์ไซด์ราคาแพงกำลังจะเหินฟ้า ดวงตาของหรั่งก็เปิดกว้าง ประกายแฝงแววปีติ คล้ายว่าชายหนุ่มต้องการดื่มด่ำความหฤหรรษ์ต่อประสบการณ์เฉียดตายให้มากที่สุด เมื่อพาหนะกำลังแรงวิ่งผ่านหน้าผาสูงชัน มันก็ลอยค้างกลางอากาศอยู่ครู่หนึ่ง
“ โอ้…… สายลมและแสงแดด ”
หรั่งเงยหน้าขึ้นสูงพร้อมหลับตา เพื่อรับสายลมเย็นและแสงแดดอุ่น ความรู้สึกในยามนี้ดูอิ่มเอมและเปี่ยมไปด้วยความสุข คล้ายกำลังนั่งคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าของพระเยซูคริสต์ผู้ศักดิ์สิทธิ์
วินาทีต่อมา หรั่งก็รู้สึกถึงแรงดึงดูดอันมหาศาล มันฉุดรั้งให้เขาร่วงหล่นอย่างรวดเร็วราวกับถูกมือของมัจจุราชคร่ากุมให้ตกลงสู่ห้วงอเวจี
“ ฮึ่ม…… มีแค่นี้เองรึ ” หรั่งกัดฟันกรอดใหญ่ พร้อมเกร็งข้อมือและลำตัวเพื่อให้ร่างกายได้แนบชิดกับมอเตอร์ไซด์คันงามให้นานที่สุด
มอเตอร์ไซด์และหรั่งลอยละลิ่วลงสู่พื้นอย่างรวดเร็วตามกฎแรงดึงดูดโลก มันเป็นภาพที่ชวนสยองเป็นอย่างยิ่ง เมื่อหนุ่มหล่อล่ำมาถึงระดับที่พอมองเห็นธารน้ำใสอยู่เบื้องล่าง เขาก็กระตุกสายเชือกไนล่อนที่กระเป๋าเป้ใบใหญ่โดยพลัน
“ พรึบ ”
เสียงผ้าใบสะบัดออก พร้อมร่มชูชีพสีแดงสดที่แผ่กว้างออกมาจากกระเป๋าเป้ ร่มทรงกลมทำให้ความเร็วในการทิ้งดิ่งของหรั่งลดลงอย่างรวดเร็ว ต่างจากมอเตอร์ไซด์ราคาแพงที่ยังร่วงหล่นด้วยความเร็วดุจเดิม มันจึงพุ่งกระแทกพื้นโลกในอึดใจต่อมา ส่งผลให้เกิดการระเบิดจนชิ้นส่วนแตกกระจาย
“ บรึ้ม…….”
ทุกคนรู้สึกใจหายใจคว่ำกันไปตามๆกัน เนื่องด้วยภาพดังกล่าว มันชวนหวาดเสียวและลุ้นระทึกเป็นที่สุด ส่วนหรั่งที่กำลังลอยลงมาอย่างช้าๆกลับยิ้มสดใสคล้ายปราศจากเรื่องราวอันใด
หรั่งลอยตัวอยู่กลางเวหาได้พักหนึ่ง ก็ตกลงไปกลางลำธารตื้นเขินอย่างช้าๆ เมื่อได้สัมผัสพื้นน้ำ เขาก็ลุกขึ้นยืน พร้อมปลดสายระโยงระยางที่ผูกติดกับร่างกาย
ทันทีที่เป็นอิสระจากร่มชูชีพ เด็กหนุ่มวัยรุ่นในชุดช่างเครื่องจำนวนสามนายก็กรูกันเข้ามาสอบถามแบบรัวๆ
“ คุณหรั่งเป็นไงบ้างครับ ร่างกายปกติดี ไม่เจ็บปวดตรงไหนใช่มั้ยครับ ”
หรั่งยิ้มให้กลุ่มเด็กหนุ่มที่มารุมล้อม ก่อนตอบกลับเรื่อยๆด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง
“ สบายมาก หนักกว่านี้ก็เจอมาแล้ว ว่าแต่พวกนายบันทึกภาพไว้แล้ว ใช่มะ ”
“ ครับๆ ภาพที่ถ่ายทำตรงมุมล่างออกมาอย่างสวยเลย โดยเฉพาะฉากที่รถมอเตอร์ไซด์ร่วงลงสู่พื้นแล้วระเบิด นับว่าสุดยอดมาก อย่างกะดูหนังสงครามไซไฟเลยทีเดียว ” เด็กหนุ่มร่างอ้วนสิวเขรอะอันเป็นหนึ่งในสามทีมงานอธิบายรัวเร็ว ท่าทางตื่นเต้นดีใจ
“ ว้าว……. เยี่ยมไปเลยพรรคพวก มันต้องแบบนี้สิ ถึงจะถือว่าสุดยอด เอ้า ขอแปะมือหน่อย พวก ” หรั่งดีใจสุดขีด ที่เห็นงานประสบผลสำเร็จ เขาจึงยกมือขึ้นไฮไฟว์กับเหล่าทีมงานหนุ่ม
หลังจากนั้นหรั่งและทีมงานก็พากันเดินไปยังแค้มป์ที่มีทีมงานหนุ่มอีกประมาณสิบกว่าคนประจำการ พอพบหน้า ทุกคนก็พร้อมใจกันโห่ร้องยินดี
“ เฮ……… ยินดีด้วยครับ คุณหรั่ง ภาพสวยมาก คุณได้ดังไปทั่วโลกแน่ ”
“ เฮ้ ยิ่งพวกนายอวยซะขนาดนี้ ชั้นยิ่งอยากดูคลิปที่ถ่าย อยากรู้ว่ามันเจ๋งจริงตามที่โม้หรือเปล่า ว่าแต่……ตอนนี้ชั้นจะดูได้หรือยัง ” หรั่งถูมือไปมา สีหน้าฉายแววตื่นเต้นดีใจ
“ โอเค ดูได้เลยครับ พี่หรั่ง ผมอัปโหลดมันลงไปในโน้ตบุ๊กเครื่องนี้แล้ว ” ชายหนุ่มร่างผอมสูงซึ่งเป็นหนึ่งในทีมงานรับคำ พร้อมเรียกหรั่งให้เข้ามาดูภาพกีฬามันๆในโน้ตบุ๊กที่วางอยู่บนโต๊ะไม้ขนาดเล็ก
“ เยี่ยม ขอดูแอคชั่นของตัวเองหน่อยเถอะ ” หรั่งยิ้มกริ่มและเตร่เข้าไปชมผลงานของตนเอง
ภาพในคลิปเป็นฉากหวาดเสียวที่หรั่งและมอเตอร์ไซด์กำลังร่วงหล่นลงจากหน้าผาสูง ทันใดนั้นหนุ่มหล่อล่ำก็ลอยตัวขึ้นมาอย่างฉับพลันด้วยร่มชูชีพสีโลหิต ทิ้งให้มอเตอร์ไซด์คันงามกระแทกพื้นจนเกิดระเบิดเสียงดังสนั่น ปิดท้ายที่หนุ่มผู้ท้าความตายสามารถลงสู่พื้นอย่างปลอดภัย
“ โห…….. สุดยอดมาก ไอ้น้องชาย นี่นึกว่ากำลังดูเรียลลิตี้หฤโหดอยู่นะเนี่ย ภาพสวยเป็นบ้าเลย ” หรั่งกล่าวชมฝีมือการถ่ายทำ พร้อมตบไหล่ชายหนุ่มร่างผอมด้วยน้ำหนักที่ค่อนข้างแรง
“ ฮะๆ ขอบคุณครับ แต่ไม่รู้ว่าภาพที่ถ่ายทำข้างบนจะเป็นไงมั่ง ” ชายร่างผอมหัวเราะแฮะๆ พร้อมลูบหัวไหล่ไปมา เพราะรู้สึกแสบคันจนเหลือประมาณ
“ เออ ใช่แล้ว ยังเหลือคลิปถ่ายทำบนยอดเขานี่นา ไม่ได้การต้องรีบโทรไปถามเจ้าพี่ชาย ” หรั่งฉุกคิดขึ้นมาได้ เขาจึงล้วงกระเป๋ากางเกง เพื่อหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ทันใดนั้นเอง โทรศัพท์ประจำกายก็เกิดดังขึ้นมาในบัดดล มันเป็นซาวด์เพลงร็อกที่ร้อนแรงของศิลปินในตำนาน
“ All around the world. We could make timerompin' and a stompin' 'Cause I'm in my prime ”
หนุ่มหรั่งรีบรับสายในทันที เพราะรู้ว่าอานนท์กำลังโทรมา
“ เฮ้ เป็นไงเจ้าน้องชาย ยังอยู่รอดปลอดภัยและครบสามสิบสองประการอยู่มั้ย ” อานนท์เอ่ยถามมาตามสายด้วยสำเนียงหยอกล้อนิดๆ
“ ฮ่าๆ ก็ยังรอดอยู่ ว่าแต่การถ่ายทำเป็นไงมั่งฟะ ไอ้พี่ชาย ” หรั่งตอบกลับ พร้อมทวงถามผลงานของตนเอง
“ เอ่อ……. จะว่าไปแล้ว เรื่องนี้ก็…..” ทว่าน้ำเสียงของอานนท์กลับดูเศร้าซึมลงไปถนัดตา แถมยังดูตะกุกตะกักจนผิดสังเกต
“ ที่พูดมา….มันหมายความว่าไงฟะ เจ้านนท์ ” หรั่งถามกลับมาอย่างรวดเร็วด้วยอาการร้อนรน
“ หมายความว่า……” อานนท์ตอบเสียงสั่นๆ คล้ายจะร้องไห้
“ ว่ามา…..เร็วๆ ” หรั่งกระแทกเสียงด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิดงุ่นง่านยิ่งกว่าเดิม
“ ว่ามันเรียบร้อยและสมบูรณ์ทุกประการ ” อานนท์ตอบเสียงระรื่น ปลายกระแสปรากฏเสียงหัวเราะสะใจ
บรรยากาศนิ่งสงบไปครู่ใหญ่ ด้วยหรั่งยังรู้สึกอึ้งกับคำตอบ แต่พอสมองเริ่มเข้าใจในสิ่งที่อานนท์สื่อ เขาก็ถึงกลับเดือดดาลอย่างรุนแรง
“ ไอ้บ้า แกนะแก เล่นเอาใจแป้วไปเลย ชั้นนึกว่าต้องโดดหน้าผาใหม่อีกรอบซะแล้ว ” หรั่งตะคอกใส่ปลายสายอย่างดุดัน
“ ฮะๆ ขอโทษทีนะพวก อดใจแกล้งนายไม่ได้จริงๆ แต่ชั้นอยากจะบอกว่าภาพที่ถ่ายออกมา โคตรสวยเลย ” อานนท์กล่าว พร้อมหัวเราะระรื่นไม่วางวาย
“ เออ ให้มันได้อย่างงี้ซิ ถ้าอยู่ด้วยกันในตอนนี้ ชั้นก็คงจะอดใจที่จะเตะนายไม่ได้เหมือนกัน ว่าแต่….” หรั่งพูดค้างไว้อย่างนั้น ท่าทางเหมือนจะเอ่ยถามถึงใครบางคน
“ อ้อ ใช่ อีกคนที่ถามถึงอยู่ตรงนี้แล้ว เดี๋ยวนายคุยกับเขาเองก็แล้วกัน ” อานนท์ตอบ พร้อมโอนสายไปให้คนที่อยู่ข้างๆ แต่ไม่ทันที่หรั่งจะกล่าวคำใด ก็มีเสียงแหลมใสของหญิงสาวนางหนึ่งดังแทรกเข้ามา
“ ตาบ้า เธอเป็นไงบ้าง กลัวมากมั้ย ”
พอได้ฟังน้ำเสียงที่แฝงแววห่วงใย เขาก็รู้ในทันทีว่าเจ้าของเสียงนั้นคือ…..เก๋ แฟนสาวของตนเอง นั่นทำให้หนุ่มหล่อล่ำถึงกลับยิ้มออกมาน้อยๆ พร้อมตอบกลับแบบทะลึ่งตึงตังตามสันดาน
“ ครบทุกส่วนเลยจ้า รับรองได้ว่าข้อตกลงที่จะพาไปสอยทุกสถานที่ในบ้านยังคงอยู่เหมือนเดิม ”
สิ้นคำกล่าว ก็ปรากฏเสียงหัวเราะขบขันจากพวกหนุ่มๆที่รายล้อม ส่วนปลายสายก็อึ้งกิมกี่ไปพักใหญ่ พระเอกหนุ่มร่างล่ำคาดเดาว่าขณะนี้แฟนสาวของตนน่าจะกำลังเขินอายจนหน้าแดงก่ำอย่างแน่นอน เมื่อเวลาผ่านไปอึดใจ หรั่งก็ได้ยินเสียงใสๆตอบกลับมาแบบเคืองๆ
“ ตาบ้า อย่าพูดดังสิ ชั้นอายนะ ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจJalandoนักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ