นักล่าล้างพันธุ์อมตะ (NC 18+)

-

เขียนโดย Jalando

วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2563 เวลา 10.51 น.

  15 ตอน
  65 วิจารณ์
  16.59K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2563 10.55 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

8) เดินหน้าท้าความตาย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เครดิตภาพจาก https://pixabay.com

..........................

           

        หรั่งใช้เวลาเตรียมตัวอยู่นานพอดู เพราะสิ่งที่กำลังทำนั้นอันตราย ถ้าจะเรียกว่าเอาชีวิตมาเดิมพัน ก็พูดได้แบบไม่อายปาก 

              

 

        ครึ่งชั่วโมงผ่านไป หรั่งสวมชุดนักแข่งรถเป็นที่เรียบร้อย ด้านหลังสะพายเป้ขนาดกลาง มองเผินๆคล้ายเป้ทหาร ผิดก็แต่ว่ามีสายรัดหลายเส้นยื่นออกมาจากตัวกระเป๋า เพื่อรวบช่วงเอวและช่วงอกอย่างแน่นหนา

            

 

         หรั่งก้าวไปหยุดอยู่ที่ขอบเหวสูงชัน สายตาแหลมคมประดุจเหยี่ยวจับจ้องทิวทัศน์ที่ถูกปกคลุมไปด้วยทะเลหมอก สายลมแรงพัดกระหน่ำกระทบใบหน้าคมสันอย่างไม่หยุดยั้ง ระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังส่องสำรวจ ก็มีเสียงหนึ่งดังมาจากทางด้านหลัง

 

“ เฮ้ นายพร้อมหรือยัง ” 

           

 

         หรั่งหันกลับมา ก็พบว่าเจ้าของเสียงนั้นคือ…อานนท์ คอนสแตนดิน ผู้เป็นพี่ชายแท้ๆของตนเอง 

           

 

         หรั่งไม่ตอบคำ ใบหน้ายาวและคมสันดูเคร่งขรึม ท่าทีที่เปลี่ยนไป ทำให้อานนท์เริ่มกดดันจนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่สู้ดี 

 

“ นี่ อย่าบอกนะว่านายเกิดกลัวจนล้มเลิกแผนการ ” 

            

 

          เมื่อได้ยินเช่นนี้ หนุ่มหล่อร่างล่ำก็ค่อยๆแย้มยิ้มออกมา จากนั้นก็ยืดกายแอ่นอก พร้อมตอบกลับด้วยท่าทียโสจนน่าหมั่นไส้ 

 

“ นายพูดอยู่กับใคร ชั้นคือ ชาลาวัน คอนสแตนดิน เบอร์หนึ่งในโลกของผู้ท้าความตาย ความสูงเพียงเท่านี้หยุดชั้นไม่ได้หรอก ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เมื่อชายร่างล่ำพูดจบ เขาก็แหงนหน้าหัวเราะกลางอากาศ ท่าทางดูกวนประสาท

          

 

          อานนท์ยิ้มน้อยๆ พร้อมเอื้อมมือมาแตะหัวไหล่ ใบหน้าของผู้เป็นพี่ชายฉายแววภูมิใจ

 

“ ว่าแต่ว่าทางฝ่ายนาย มีการเตรียมการยังไงบ้าง ” หรั่งถามกลับจริงจัง อันดูค้านกับบุคลิกปกติโดยสิ้นเชิง

 

“ อืม...... ชั้นแบ่งคนออกเป็นสามทีม ทีมแรกแบ็คอัพบนยอดเขา ทีมที่สองประจำตรงกลางเขา เพื่อถ่ายภาพในมุมสูง ส่วนทีมที่สามรอที่ตีนเขา คอยเก็บภาพในอีกมุม ” อานนท์ตอบกลับแบบไม่ต้องคิด อันบ่งบอกถึงการเตรียมงานระดับมือโปร 

 

“ เยี่ยมมาก แล้วพาหนะที่ชั้นขอไว้ล่ะ ” หรั่งถูมือไปมา ท่าทางตื่นเต้นดีใจ     

             

 

        อานนท์ยิ้มรับนิดหนึ่ง ก่อนโอบไหล่น้องชาย เพื่อนำพาไปยังเต็นท์สีขาวขนาดใหญ่ พอหรั่งเดินตามพี่ชายเข้าไปในเต็นท์ เขาก็ต้องตกตะลึง เมื่อได้เห็น…….มอเตอร์ไซค์สีดำที่ดูปราดเปรียวและล้ำสมัย 

 

“ ว้าว....... นี่มัน ” หรั่งอุทานดัง เขาเดินเข้าไปหามอเตอร์ไซค์เบื้องหน้า ท่าทางดูเลื่อนลอยและหลงใหลราวต้องมนต์สะกดอย่างรุนแรง 

 

“ ใช่แล้วนี่คือ คาวาซากิรุ่น Ninja H2R เป็นมอเตอร์ไซค์ที่มีกำลังถึง 300 แรงม้า ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถูกใจนายมั้ย ” อานนท์อธิบายสรรพคุณพาหนะสุดแรง 

 

“ ก็นับว่ายอดมาก แต่เท่าที่รู้ ราคาน่าจะเหยียบล้านเลยนะ พี่ชาย จะว่าไปก็เสียดายที่ต้องนำมาใช้ในงานแบบนี้ ” หรั่งลูบไล้มอเตอร์ไซค์คันงาม ในฐานะชายผู้ชื่นชอบความเร็วเป็นชีวิตจิตใจ จึงรู้สึกอาลัยในการสูญเสียของมัน 

 

“ เอาน่า ไอ้น้องชาย มันเหมาะกับงานแบบนี้อยู่แล้ว เพราะก่อนจะเหินฟ้า นายต้องทำให้ตัวเองเร็วและแรงที่สุดไม่ใช่หรือ อีกอย่างถ้าทำงานนี้สำเร็จ ก็จะมีเงินมากพอที่จะซื้อมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ได้ถึงหลายสิบคัน ” อานนท์ขบขันเล็กน้อย เพราะเวลานี้หรั่งดูเหมือนเด็กเล็กๆที่กำลังอาวรณ์กับของเล่นชิ้นโปรดอย่างไม่มีผิดเพี้ยน 

 

“ เฮ้อ...... เอาก็เอา เพื่อให้ภาพที่ออกมา ดูสวยงามที่สุด ” หรั่งถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนตัดใจจากลา 

          

 

         เมื่อหรั่งตัดสินใจเด็ดขาด เขากระโจนขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์ราคาแพง เพื่อทำความคุ้นเคยกับมัน ด้วยความชำนาญในการขับขี่ ทำให้สามารถหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับพาหนะได้ไม่ยาก ชายหนุ่มเร่งความเร็วในระยะใกล้ๆ บางครั้งก็ยกล้อสูงหลายวินาที พร้อมแล่นไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วจนทำให้ผู้ชมรู้สึกตื่นตาตื่นใจ ปิดท้ายด้วยการเบรกอย่างกะทันหัน แล้วหมุนมอเตอร์ไซค์เป็นวงกลมในลักษณะดริฟ ทำให้ฝุ่นผงจากพื้นดินลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ  

         

 

          เมื่อมอเตอร์ไซด์ของหรั่งจอดสนิท เขาก็หันกลับมายิ้มกริ่มให้พี่ชายและแฟนสาวที่ยืนชมอยู่ไม่ห่าง 

 

“ แหม ไม่เห็นนายโชว์มาตั้งนาน ยังสุดยอดเหมือนเดิม ” อานนท์ตบมือเสียงดัง พร้อมกล่าวชมเชย 

 

“ เชอะ จะไม่ให้ดีได้ยังไง เผลอก็แอบดอดเอามอเตอร์ไซค์ไปแอบแข่งกับเด็กแว้นตอนกลางคืน ” เก๋บ่นพึมพำ ท่าทางไม่พอใจ เพราะหรั่งแอบหนีออกไปทีไร เธอเป็นฝ่ายนอนเหงาอยู่คนเดียวทุกที 

 

“ เฮ้ นายเป็นนักแข่งอาชีพแล้วนี่นา ไหงยังไปแว้นข้างถนนเหมือนตอนวัยรุ่นอีกล่ะ ” สีหน้าของอานนท์ดูงุนงง 

 

“ แหม ก็มันให้ความรู้สึกคนละอย่าง ในสนามแข่ง ถ้าเราชนะ ก็จะได้ชื่อเสียง เงินทอง แต่ถ้าไปแข่งข้างถนน แม้จะได้เงินน้อยนิด แต่ทุกครั้งที่ลงแข่ง หัวใจจะเต้นตูมตามจนแทบทะลักออกมาจากอก เพราะรู้สึกถึงความเป็นความตายที่อยู่ใกล้แค่ปลายจมูก ” หรั่งเปิดความจริงจากหัวใจ แน่นอนว่าสิ่งที่พูดออกมา ย่อมไม่มีคนสติดีที่ไหนต้องการแบบนี้ 

           

 

        เมื่อหรั่งกล่าวจบ อานนท์ก็ยิ้มรับเป็นเชิงเข้าใจ เพราะตัวเขาเองก็รู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งในยามที่ต้องดีลธุรกิจสำคัญอันสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดดับ ฝ่ายเก๋ไม่มีทางที่เข้าใจหัวอกของสองพี่น้อง เธอจึงได้แต่ทำหน้างุ้มๆเป็นเชิงงอนตามนิสัยของผู้หญิง 

 

“ เอาล่ะ ดูท่าทางนายจะเข้ากันได้ดีกับพาหนะที่ใช้ท้ามฤตยู ” อานนท์หุบยิ้มชั่วขณะ จากนั้นก็เอ่ยถามเบาๆ ท่าทีแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม 

 

“ พร้อมน่ะพร้อมอยู่นา...... แต่จะว่าไป ชั้นก็รู้สึกผูกพันกับเจ้านี่อยู่เหมือนกัน ” หรั่งพูดจบก็เอื้อมมือมาลูบไล้มอเตอร์ไซค์ราคาเหยียบล้าน แววตาฉายประกายอาวรณ์อย่างรุนแรง 

 

“ เฮ้อ....... จบงาน ชั้นซื้อให้นายใหม่คันหนึ่งก็ได้ ” อานนท์นึกรำคาญ จึงตัดบทน้องชาย 

 

“ โอเค เอางั้นก็ได้ ” หรั่งตอบเสียงอ่อยๆ พร้อมขี่มอเตอร์ไซค์คันงามไปยังจุดสตาร์ทที่ทีมงานเตรียมเอาไว้   

           

 

         พอหรั่งและมอเตอร์ไซค์ราคาแพงเดินทางไปจอดยังจุดสตาร์ทเป็นที่เรียบร้อย ก็พบว่าบริเวณนั้นคือลานกว้างที่อยู่ห่างจากหน้าผาสูงประมาณ 50 เมตร ตลอดทางไม่มีอะไรขวางกั้น ส่วนทีมงานนับสิบเริ่มกระจายตัวไปรอบๆ หลายคนถือกล้องถ่ายวิดีโอคุณภาพสูง บางคนก็ถือธงแดง เพื่อเตรียมให้สัญญาณ  

            

 

         ข้างกายของหรั่งมีเพียงสองคนที่ยืนอยู่ คนที่หนึ่งคือ อานนท์  ส่วนคนที่สองย่อมเป็น เก๋ แฟนสาวสุดสวย

            

 

          หรั่งลองเร่งเครื่องอยู่กับที่ โดยเริ่มต้นจากช้าๆก่อน จากนั้นก็เบิ้ลเร็วและแรงขึ้นไปตามลำดับ เพื่อทดสอบกำลังของเครื่องยนต์จนเกิดเสียงดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณ

 

“ ปรื้น......... ” 

            

 

          ดวงตาของชายหนุ่มจับจ้องไปยังหน้าผาสูงไม่วางวาย แววตาดูมุ่งมั่นและจริงจังอันผิดจากที่เคย จังหวะนั้นเองแฟนสาวที่ยืนอยู่ข้างๆก็อดไม่ได้ที่จะร้องเรียก 

 

“ เธอต้องรอดกลับมาให้ได้นะ ” 

           

 

         หรั่งหยุดชะงักไปชั่วขณะ ก่อนหันกลับมายิ้มน้อยๆเป็นเชิงทะเล้น พร้อมกล่าวคำพูดที่โรแมนติกในแบบฉบับของตนเอง 

 

“ ชั้นต้องรอดกลับมาอยู่แล้ว เพราะยังเล่นกับเธอได้ไม่ครบทุกพื้นที่ในบ้านเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า ” 

           

 

         ทั้งรอยยิ้มและคำพูดที่กวนเบื้องล่างของหรั่ง ทำให้แฟนสาวเเทบจะระงับความโมโหเอาไว้ไม่อยู่ แต่ก็นั่นแหละ สิ่งนี้คือเสน่ห์ในตัวของชายหนุ่มที่เธอเฝ้าหลงใหลจนสุดใจ จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มตอบและกล่าวกลับมาเบาๆ. 

 

“ ตาบ้า ถ้ารอดกลับมาได้ ชั้นจะให้เธอเล่นทุกท่าทุกที่ทุกเวลาเลย ”

 

 

สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจJalandoนักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ

https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา