นักล่าล้างพันธุ์อมตะ (NC 18+)
-
เขียนโดย Jalando
วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2563 เวลา 10.51 น.
15 ตอน
56 วิจารณ์
16.27K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2563 10.55 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) อำนาจมืด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://www.pexels.com
........................
รถสปอร์ตคันงามวิ่งไปตามท้องถนน มาตราวัดพุ่งทะยานถึง 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บ่งบอกถึงกำลังของพาหนะหรูได้เป็นอย่างดี
สถานที่จอดรถคือริมทางซอยเปลี่ยว สองฟากฝั่งเป็นพื้นที่ว่างซึ่งมีหญ้าคาสูงท่วมหัว ในรัศมีห้าสิบเมตรร้างราผู้คนโดยสิ้นเชิง
ทันทีที่หนุ่มตี๋จอมกลัดมันดับเครื่องยนต์ เขาก็หันไปสนใจเหยื่อสาวสุดเซ็กซี่ที่นอนทอดกายอยู่เบาะข้าง เธอยังคงแน่นิ่ง ใบหน้าขาวนวลและจิ้มลิ้มแดงซ่านจนน่าพิสมัย เรือนผมสีโค้กพลิ้วไสวตามลมแผ่วเบาที่พัดผ่านทางช่องแอร์
“ อืม……. จะเริ่มจากตรงไหนดีนะ ” หนุ่มกระทงหอบกระเส่า พร้อมแลบลิ้นเลียปากด้วยท่าทางที่ดูหื่นกระหาย สายตาเล็กหยีสอดส่ายไปทั่วร่างบางอย่างจงใจ
หนุ่มตี๋ตัดสินใจไม่นาน ก็ได้คำตอบ เขาพุ่งทะยานไปยังทรวงอกอันอวบอิ่ม วินาทีต่อมาอวัยวะคู่งามก็ถูกเคล้นควักด้วยมือเล็กบางของเด็กหนุ่มผู้กลัดมัน
“ อู้ว….. อ้า…… ซี้ด…… ” สาวหมวยสุดเซ็กซี่เริ่มครางดัง ดวงหน้างามเชิดสูง พร้อมบิดเบี้ยวเหยเกด้วยไฟปรารถนาที่รุมเร้า
ทั่วทุกอณูบนเนินเนื้อถูกตี๋ไฮโซสำรวจอย่างละเอียด เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็เพิ่มระดับด้วยการประกบจูบอย่างดูดดื่ม
“ อื้อ…….. ” หญิงสาวครางเบา ปากบางเผยอสูง เพื่อรอรับการบดบี้ขยี้ถูไถจากคู่สวาทวัยละอ่อน
หนุ่มตี๋ยังคงรุกเร้าสาวหมวยด้วยลีลาที่ช่ำชอง เพียงไม่นานมือขวาก็เลื่อนลงต่ำไปลูบไล้ที่โคนขาอย่างแผ่วเบา ส่วนช่วงบนก็แปรเปลี่ยนมาเป็นซุกไซ้ซอกคอ เพื่อดอมดมกลิ่นกายที่หอมหวน
“ อ้า….. ซี้ด…… ” หญิงสาวครางหนักกว่าเดิม แต่ในทันทีที่รู้สึกตัว เธอก็ถึงกลับสะดุ้งแรง พร้อมผลักไสหนุ่มตี๋สุดกำลังจนส่งผลให้กายผอมๆกระเด็นไปติดคอนโซล
“ เอ๊ะ นายเป็นใคร จะทำอะไร ที่นี่ที่ไหน ” สาวหมวยตวาดสุดเสียง เธอเหลียวซ้ายแลขวา แววตาเหลือกลานด้วยความสับสนและหวาดกลัว
“ โอ๊ะ โอ๋ พอรู้สึกตัวก็เล่นแรงเลยนะ พี่สาว อย่าถามมากนักเลย เรามาสนุกกันต่อดีกว่า ” หนุ่มตี๋รุ่นกระทงดูไม่ยี่หระ เขาสะบัดหัวไหล่ไปมาเบาๆ เพื่อคลายความเมื่อยขบ
“ ไม่ ไม่นะ ปล่อยชั้นเดี๋ยวนี้ ปล่อย…….. ” สาวหมวยตะโกนดัง ก่อนจะพุ่งไปเปิดประตู แต่กลับพบว่ามันถูกล็อกอย่างแน่นหนา
“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า เปล่าประโยชน์ ประตูรถมันล็อกอัตโนมัติ ยอมซะเถอะ พี่สาว เดี๋ยวก็ดีไปเอง ” หนุ่มตี๋หัวเราะร่า ปากก็เกลี้ยกล่อมเจรจาให้เหยื่อสาวยอมจำนน
“ ไม่ อย่านะ ปล่อยชั้นไปเถอะ ” เหยื่อสาวกระเถิบหนีไปข้างหลัง ด้วยรู้สึกหวาดกลัวต่อภัยพาล แต่นั่นก็ไร้ประโยชน์ เพราะถอยไปเพียงนิดเดียว แผ่นหลังก็กระทบเข้ากับเบาะหนังสีดำ
“ ฮ่าๆ พี่สาว เรามาสนุกกันเถอะ ” หนุ่มตี๋คำรามดัง ก่อนพุ่งเข้าหาเหยื่อสาวอีกครั้ง มือทั้งสองเคล้นคลึงไปทั่วร่างงามอย่างดุดัน
“ ไม่ อย่า……. ” สาวหมวยพยายามผลักไส แน่นอนแรงหญิงที่เมามายย่อมไม่อาจต้านทานความบ้าคลั่งของชายหนุ่มผู้กลัดมัน เวลาผ่านไปไม่นาน เธอก็อ่อนกำลังจนเปิดทางให้หนุ่มตี๋สนุกกับเรือนร่างตามใจชอบ
“ อย่า……. ” เสียงร้องห้ามลอดออกมาจากริมฝีปากอันอวบอิ่ม แต่ไม่อาจหยุดยั้งความบ้าคลั่งที่หนุ่มตี๋ยัดเยียดให้
จากรูปการณ์ที่ปรากฏ ดูเหมือนเหยื่อสาวน่าจะไม่รอดมือมารเป็นที่เรียบร้อย ทันใดนั้นเอง…….
“ เพล้ง ”
กระจกรถข้างกายเกิดแตกอย่างฉับพลัน มีมือเล็กบางพุ่งเข้ามาคว้าคอหนุ่มตี๋อย่างรวดเร็ว วินาทีต่อมามือข้างนั้นก็กระชากหนุ่มรุ่นกระทงให้ลอยออกไปนอกรถ ทุกสิ่งที่เกิด มันรวดเร็วจนผู้ถูกกระทำไม่ทันตั้งตัว
ร่างเพรียวของหนุ่มตี๋ลอยละลิ่วไปไกลจากรถคันงามถึงห้าเมตร ทันทีที่แผ่นหลังกระทบพื้น ก็บังเกิดเสียงดังสนั่นลั่นซอยแคบ
“ ผลั๊ก ”
“ อู้ย…… นี่มันเกิดอะไรขึ้น ” หนุ่มตี๋ทั้งจุกทั้งเจ็บ เขาค่อยๆพยุงกายลุกขึ้นนั่ง สองตาได้พบกับบุคคลที่ทำรุนแรง แต่บริเวณนั้นค่อนข้างมืด เลยทำให้มองเห็นคู่กรณีไม่ถนัดนัก
“ มึงทำบ้าอะไรวะ กระจกรถกูแพงนะโว้ย ” หนุ่มตี๋ฉุนขาดที่ถูกทำลายทรัพย์สินและขัดจังหวะ เขาจึงลุกขึ้นยืน พร้อมบริภาษอย่างรุนแรง
ร่างนั้นยังคงสงบนิ่ง คล้ายกับว่าเจ้าของกายาจะไร้ตัวตน นั่นยิ่งทำให้หนุ่มตี๋โมโหหนักจนรีบรุดเข้าใส่ ปากก็กล่าวผรุสวาทไม่ขาดคำ
“ หน็อย…… ไอ้หมอนี่ ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา เดี๋ยวสวยแน่ ไอ้สันดาน ”
ท่าทางของหนุ่มตี๋ดูเอาเรื่อง แต่เมื่อถึงระยะสามก้าวก่อนถึงคู่กรณี เขาก็กลับชะงักอย่างฉับพลัน ด้วยร่างกายเกิดอาการแข็งเกร็ง
“ เฮ้ย นะๆ นี่มันหมายความว่าไง ทำไมเราถึงขยับตัวไม่ได้ ” หนุ่มตี๋ร้องเสียงหลง เขาตกใจอย่างรุนแรง
เกิดอาการกระตุกน้อยๆตรงบริเวณใบหน้าของบุรุษผู้มาใหม่ อากัปกิริยาคล้ายจะแย้มยิ้ม ครู่หนึ่งเขาก็เดินเข้ามาหาหนุ่มตี๋อย่างช้าๆ ทำเอาจอมซ่าหวาดกลัวจนไม่กล้าต่อปากต่อคำ
เมื่อบุรุษผู้มาใหม่อยู่ห่างเพียงคืบ หนุ่มตี๋เลยเห็นโฉมหน้า คนผู้นี้เป็น…..วัยรุ่นต่างชาติ ใบหน้าเรียวยาว ดวงตาคมซึ้งสีฟ้าออกแนวโศก จมูกโด่งเป็นสัน ปากเล็กบางสีแดงระเรื่อ เมื่อนำมาประกอบกับผมหยักศกดกดำ ทำให้กลายเป็นหนุ่มหล่อขั้นเทพได้ไม่ยาก
“ มึงเป็นใครวะ ทำไมกูถึงขยับไม่ได้ เอ๊ะ หรือเพราะเป็นฝรั่ง เลยฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง มึงรู้มั้ยว่ากูเป็นลูกใคร ” แม้หนุ่มตี๋จะเกิดความหวาดกลัวจนจับขั้วหัวใจ แต่เขาก็ตะโกนถามด้วยประโยคคลาสสิกตลอดกาล เพื่อข่มอารมณ์ของตนเอง
หนุ่มต่างชาติยิ้มเล็กน้อย เขายื่นมือบางมาแตะที่ซอกคอ จากนั้นนั้นก็กำรอบและยกร่างหนุ่มตี๋ให้ลอยขึ้นไปกลางอากาศอย่างง่ายดาย
“ อึก….. อั้ก….. มะๆ มึงจะทำอะไร ” หนุ่มตี๋รู้สึกอึดอัดและปวดร้าวตรงช่วงลำคอ ความหวาดกลัววิ่งแล่นไปทั่วหัวใจ เขานึกสงสัยว่าชายร่างบางคนนี้ไปเอากำลังมาจากที่ไหน แต่ไม่ทันจะได้ถาม หนุ่มหล่อผู้ลึกลับก็ชิงตอบ
“ ไม่ต้องรู้หรอกว่าข้าคือใครและจะทำอะไร บอกได้คำเดียว ข้าไม่ใช่มนุษย์ที่แสนอ่อนแอและไร้เดียงสาเช่นเจ้า ”
สิ้นเสียงนุ่มนวลและเยือกเย็น หนุ่มตี๋ผู้เคราะห์ร้ายก็ถูกชายลึกลับเหวี่ยงจนกระเด็นไกลถึงห้าเมตร
“ เหวอ……… ”
" ผลั๊ก "
หนุ่มตี๋ลอยไปกระแทกต้นไม้ใหญ่ข้างทาง เมื่อแผ่นหลังกระทบกับพื้นดิน สติก็ดับวูบโดยพลัน
หนุ่มหล่อผู้ลึกลับยิ้มเย้ยหยัน สองตาเหลือบมองร่างบางที่นอนสิ้นท่า ครู่หนึ่งก็กล่าวแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน
“ เก็บชีวิตที่แสนสั้นไว้เถอะ เจ้ามนุษย์ตัวน้อย ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจJalandoนักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ