Psychic พลังกายสิทธิ์ ลิขิตมรณะ

-

เขียนโดย MoMoGa

วันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เวลา 23.06 น.

  26 บท
  4 วิจารณ์
  20.55K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 11.12 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) ตอนที่ 2-2 ทองคำสีเปลวเพลิง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
        วันอังคารที่ 23 เมษายน เวลาบ่าย 2 โมง 55 นาที
        “วันนี้อาจารย์มายาซาว่าจะเรียกเราไปทำไมนะ เดี๋ยวยังไงเลิกเรียนแล้วก็ต้อง  ไปเจอกันที่ห้องชมรมอยู่แล้วนี่ หรือว่าจะเรื่องอะไรที่เกี่ยวข้องกับเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมารึเปล่านะ คิดไม่ออกเลยแฮะ แย่ชะมัด ยังไม่ได้ทำอะไรเลยแท้ๆ”
        ที่มาซามุเนะมานั่งกลุ้มใจอยู่แบบนี้ ก็เป็นเพราะว่าในคาบโฮมรูมตอนเช้านั้น มายาซาว่าผู้เป็นอาจารย์ประจำชั้นของมาซามุเนะได้เรียกให้เขาไปพบหลังเลิกเรียนนั่นเอง ตัวเขาที่ไม่รู้เหตุผลที่ถูกเรียกจึงนั่งกลุ้มใจมาทั้งวัน
        “อ่าว วันนี้ก็พอแค่นี้นะ”
        อาจารย์พูดออกมาเมื่อได้ยินเสียออดที่บ่งบอกว่าเลิกเรียนดังขึ้น มาซามุเนะที่ไม่ได้ฟังจึงลุกขึ้นช้ากว่าเพื่อน ทำให้เขาออกจากห้องมาเป็นคนเกือบสุดท้าย
        “มาซามุเนะคุง กลับบ้านด้วยกันไหม ฉันว่าจะแวะร้านเครื่องเขียนสักหน่อยน่ะ”
        พอเขาออกจากห้องมา ก็ถูกคาวาซากิ คุออน ที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กเรียกหาทันที ตัวมาซามุเนะนั้นแทบบอกตกลงทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น แต่...
        “เอ่อ คุออน โทษทีนะ พอดีฉันโดนอาจารย์มายาซาว่าเรียกตัวน่ะ”
        แต่ตัวเขาตอนนี้ไม่สามารถพูดออกมาได้ เมื่อคุออนได้ฟังอย่างนั้น ก็ทำหน้าไม่พอใจ ทำให้มาซามุเนะกังวลตามไปด้วย แต่เธอก็ทำท่าเหมือนคิดอะไรได้ ทำให้ตัวเขายิ่งกังวลขึ้นไปอีก
        “งั้นเอาเป็นการชดเชย เสาร์นี้ต้องพาฉันไปเที่ยวสวนสนุกที่พึ่งเปิดใหม่ด้วยนะ”
        เมื่อมาซามุเนะได้ยินอย่างนั้น เขาจึงพยายามตอบตกลงไปอย่างเลี่ยงๆ
        “ก็ได้ๆ แต่ฉันไม่รับปากเธอหรอกนะ งั้นไปละ แล้วเจอกันนะ”
        เขาพูดพร้อมกับเดินไปยังห้องพักของมายาซาว่า
        “แล้วเจอกันนะ”
        เขาโบกมือ แทนคำกล่าวลา จากนั้นเขาก็ตรงดิ่งไปยังห้องพักของมายาซาว่าโดยไม่หันหลังกลับไปมองอีก เขาเริ่มเปลี่ยนจากการเดินเป็นวิ่งอย่างช้าราวกับว่ากำลังดีใจกับบางเรื่องอยู่ แต่เมื่อเขาวิ่งไปถึงห้องพักของมายาซาว่าแล้ว ตัวเขาก็ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูครู่หนึ่ง ก่อนจะเคาะประตู
        “เข้ามาได้เลย”
        มีเสียงตอบกลับมาจากในห้อง เป็นเสียงของอาจารย์ประจำชั้นของตัวเองไม่ผิดแน่ เขาเปิดประตูเข้าไปในห้องเหมือนอย่างเคย แต่สิ่งที่พบนั้นไม่ได้มีแต่มายซาว่าที่นั่งอยู่ที่โซฟาที่เป็นที่นั่งประจำของตัวเอง แต่ที่โซฟาฝั่งตรงข้ามยังมีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ด้วย จากที่เขาดูก็เป็นผู้หญิงชาวต่างชาติ คาดว่าน่าจะอายุพอๆกับตัวเขา เธออยู่ในชุดเดรสกระโปรงยาวสีขาว มีสีทองสง่า
        “เอ่อ... อ๋อ สวัสดีครับอาจารย์ มีอะไรถึงเรียกผมมาหรอครับ”
        มาซามุเนะที่ยังไม่เข้าใจสถานการณ์พึ่งนึกขึ้นมาได้ว่าต้องทักทายกันก่อน เขามองไปที่มายาซาว่าโดยพยายามไปมองไปที่ผู้หญิงชาวต่างชาติที่นั่งอยู่ เขาจ้องไปที่     มายาซาว่าเหมือนกับจะบอกให้อธิบายสถานการณ์
        “อ่าว มาซามุเนะ นี่คือ อลิซาเบธ อาเธน่า เธอเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนนักเรียนแลกเปลี่ยนมาจากประเทศอังกฤษ”
        มายาซาว่าพูดแนะนำชื่อของเด็กผู้หญิงที่นั่งอยู่ที่โซฟาให้เขาฟัง แล้วเธอก็มองมายังเขาเหมือนกับว่าให้พูดแนะนำตัวให้เด็กผู้ที่นั่งอยู่ได้รู้จัก
        “Hello , my name is Hunso Masamune , nice to meet you.”
        “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ อลิซาเบธ อาเธน่า ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ”
        ขณะที่เขาพูดภาษาอังกฤษออกไปแบบเก้ๆ กังๆ เธอกลับตอบเขามาด้วยภาษาญี่ปุ่นที่คล่องแคล้ว พร้อมกับยืนขึ้นก้มหัวโค้งทำความเคารพออกมา เขาทำความเคารพกลับไป ออกมาทำเอาเขารู้สึกประหลาดใจและประทับใจไปพร้อมๆกัน
        “เธอเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นน่ะ”
        มายาซาว่ากล่างออกมาตามหลังเมื่อเห็นท่าทีมาซามุเนะที่ทำตัวไม่ถูก
        “งั้นก็น่าจะบอกกันก่อนสิครับ แล้วผมก็ไม่เห็นจะรู้เลยว่าจะมีนักเรียนแลกเปลี่ยนน่ะ”
        มาซามุเนะพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกประหลาดใจต่อเรื่องนักเรียนแลกเปลี่ยนที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน
        “ไม่แปลกหรอกที่จะไม่เคยได้ยิน เพราะเธอเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนในโครงการของรัฐบาล และที่มาอยู่ในโรงเรียนที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการอย่างโรงเรียนเราก็เป็นเพราะว่าเธอเป็นคนเสนอมาว่าอยากจะเข้ามาเรียนที่เมืองนี้ ดังนั้นเธอยังไม่ใช่นักเรียนของโรงเรียนเรา แต่ที่เธอมาในวันนี้ก็เป็นเพราะว่าเธออยากจะมาดูที่โรงเรียนแห่งนี้ที่เป็นโรงเรียนที่ดังไว้เป็นตัวเลือกในการตัดสินใจน่ะ”
        เมื่อได้ฟังอย่างนั้น มาซามุเนะก็เข้าใจได้ว่า อลิซาเบธ อาเธน่า เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนในโครงการของรัฐบาลอังกฤษและรัฐบาลญี่ปุ่น และที่เธอมาอยู่ที่นี่ก็เพราะว่าเธอจะมาดูที่โรงเรียนมาซาราดะแห่งนี้ไว้เป็นตัวเลือกในการตัดสินใจเพื่อที่จะเข้ามาเรียนนั่นเอง
        “เป็นผู้หญิงที่เรื่องมากน่าดูเลยแฮะ”
        มาซามุเนะคิดกับผู้หญิงชาวต่างชาติที่พึ่งรู้จักกันเป็นครั้งแรกว่าอย่างนั้น
        “แล้ว เรียกผมมาทำไมหรอครับ”
        มาซามุเนะถามข้อสงสัยที่ตัวเองมีตั้งแต่ทีแรกออกไป ที่เขาฟังมาทั้งหมดนั้น ไม่มีส่วนไหนเลยที่เกี่ยวข้องกับตัวเขา
        “ก็จะให้นายเป็นคนพาเธอไปเดินดูโรงเรียนเรายังไงล่ะ”
        “ฮะ!”
        เขาร้องอุทานออกมาอย่างตกใจ แต่มายาซาว่าก็พูดต่อไปโดยไม่รอฟังคำถามของมาซามุเนะที่กำลังจะเอ่ยขึ้นมา
        “ก็นายเป็นคนที่รู้จักของโรงเรียนนี้ดีอยู่แล้วนี่ แถมนายก็ไม่ทีชมรมด้วย”
        มาซามุเนะที่ได้ฟังอย่างนั้น ทำสีหน้าเอือมระอากับคำพูดที่ออกมาจากปากของอาจารย์ตัวเองที่เป็นคนชวนเขาเข้าชมรมเองแท้ๆ แต่เนื่องจากมันเป็นชมรมอย่างไม่เป็นทางการ นั่นจึงเหมือนกับว่าเขาไม่มีชมรมอยู่นั่นเอง
        “ขอร้องล่ะนะ ทุกคนที่ฉันรู้จักก็มีธุระกันหมดแล้ว มีแต่นายเท่านั้นแหละ”
        มายาซาว่ากล่าวคำข้อร้องพร้อมกับสีหน้าที่ดูเหมือนกับไร้ที่พึ่งแล้ว
        “ก็ได้ครับ แต่จะให้พาเดินดูยังไงล่ะ”
        มาซามุเนะตอบรับข้อเสนอ พร้อมกับถามวิธีการ
        “ก็พาเธอเดินดูแต่ละที่ของโรงเรียนเรายังไงล่ะ ง่ายใช่ไหมล่ะ”
        มายาซาว่าเสนอวิธีการออกมา มาซามุเนะที่ฟังคำพูดของเธอที่บอกว่า “ง่าย” แล้วนั้น เขาคิดว่ามันสิ้นคิดเสียมากกว่า
        “ก็ได้ครับ งั้นจะไปกันตอนไหนล่ะ”
        มาซามุเนะถามด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูแล้วเหมือนกับว่าเตรียตัวพร้อมแล้ว
        “ตอนนี้เลยค่ะ”
        คนที่เป็นคนตอบนั้นไม่ใช่มายาซาว่า แต่เป็นอลิซาเบธที่ตอบพร้อมกับลุกขึ้น ทำท่าอย่างกับว่าเป็นเทพีอาเธน่า ที่กำลังจะออกรบยังไงอย่างงั้น แต่อยู่ๆก็มีข้อสงสัยข้อหนึ่งแล่นเข้ามาในหัวของเขา
        “เออ คุณอาเธน่า ออกไปรออยู่ข้างนอกห้องก่อนนะครับ ขอผมเตรียมตัวก่อน”
        มาซามุเนะพูดออกไปอย่างนั้น อลิซาเบธที่ได้ยินอย่างนั้นจึงยอมออกไปรออยู่นอกห้องแต่โดยดี
        “เอ่อ อาจารย์ครับคือว่าผมมีข้อสงสัยน่ะครับ คือ ทั้งที่เธอเป็นคนอังกฤษแท้ๆ แต่ทำไมเธอถึงได้มีนามสกุลเป็นเทพีในตำนานกรีกล่ะครับ”
        มายาซาว่าที่ได้ยินมาซามุเนะถามแบบนั้นจึงทำสีหน้าผิดหวังอย่างหนัก
        “อะไรกันครับ ไอ้สีหน้าแบบนั้นน่ะ”
        มาวามุเนะถามด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจ
        “ก็ฉันนึกว่านายจะรู้สึกนี้นา ฟังนะ อลิซาเบธ อาเธน่า เธอบอกว่าต้นตระกูลอาเธน่าน่ะเป็นผู้สืบเชื้อสายโดยตรงจากเทพีอาเธน่า แต่ว่าบรรพบุรุษไปทำเรื่องไม่ดีไว้ ก็เลยถูกลบออกจากหน้าประวัติศาสตร์ แล้วก็ย้ายรากฐานมาอยู่ที่ประเทศอังกฤษ แต่ที่สำคัญ เธอบอกว่าได้รับสืบทอดวิชามนตราที่เป็นเวทมนต์ซึ่งเป็นเหมือนพรที่ได้รับจากเทพีอาเธน่าด้วย ดังนั้น ฉันจะให้นายสืบเรื่องนี้มาด้วย เข้าใจไหม”
        “เข้าใจแล้วครับ งั้นผมไปก่อนล่ะ”
        มาซามุเนะตอบกลับด้วยท่าทางที่รู้สึกสนใจในตัวของอลิซาเบธเพิ่มมากขึ้นมามาก จากคำพูดของมายาซาว่าแล้ว เขาคิดว่า อลิซาเบธ อาเธน่า นั้นอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับพลังจิตก็เป็นได้
        “ขอโทษที่ต้องให้รอนะครับ คุณอาเธน่า”
        มาซามุเนะเดินออกจากห้องพร้อมกับขอโทษอลิซาเบธ ตัวเธอนั้นยืนพิงกำแพงรออยู่ที่ข้างประตูของห้อง เมื่อได้ยินคำขอโทษจากมาซามุเนะ เธอก็ส่ายหน้า
        “ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ฉันต่างหากที่ต้องรบกวน”
        เธอพูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่เปล่งประกาย
        “งั้นไปกันเลยไหม”
        “ค่ะ”
        “หลังจากนั้นผมก็พาคุณอาเธน่าเดินดูรอบๆโรงเรียนเป็นเวลา 1 ชั่วโมงครึ่งแบบพอดี หลังจากนั้นเขาก็ขอเดินดูคนเดียว แต่ผมก็ยังแอบตามดูอยู่ดีและนะ รู้สึกเธอจะเดินดูอยู่ได้สัก 30 นาที แล้วสุดท้ายเธอก็มาบอกผมว่ามีธุระ จะกลับแล้ว ผมก็ถามว่ามีที่พักแล้วหรอ เธอบอกว่าเรื่องที่พักเดี๋ยวก็หาได้เอง ผมเป็นห่วงก็เลยให้เบอร์โทรไป หลังจากนั้นก็มาอยู่ที่นี่แหละ”
        เวลา 17 นาฬิกา 40 นาทีของวันเดียวกัน
        มาซามุเนะที่พาอลิซาเบธเดินดูรอบๆโรงเรียนเสร็จ เขาก็มาพักเหนื่อยที่ห้องชมรมพลังจิตที่อยู่ที่อาคารเรียนเก่า แต่เมื่อเขามาถึง ก็พบกับอากิโอะที่มานั่งพักเหนื่อยหลังเข้าชมรมเสร็จเหมือนกัน นอกจากอากิโอะแล้วก็ยังมีมายาซาว่าที่เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของชมรม แล้วก็ซาโยโกะที่มานั่งอ่านหนังสือเองก็อยู่ด้วย หลังจากที่เขาเข้าห้องมาได้ไม่นาน มายาซาว่าก็ถามความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องที่ให้มาซามุเนะไปสืบเรื่อง   อลิซาเบธมา
        “เท่าที่ฟังมา สรุปว่านายเฝ้าดูว่าเธออาจจะแสดงพลังออกมา ก็เลยจับตาดูเธอโดยที่ไม่ถาม แต่เธอก็ไม่ได้ใช้พลังอะไรออกมา ตามนี้ใช่ไหม”
        อากิโอะพูดสรุปสิ่งที่มาซามุเนะทำลงไปทั้งหมด
        “มันก็ประมาณนั้น...”
        “จะบ้ารึไงนายน่ะ ใครที่ไหนจะใช้พังในเขตโรงเรียนกันบางเล่า!!!”
        มายาซาว่าพูดออกมาก่อนที่เขาจะตอบกับคำพูดของอากิโอะจบ เธอแสดงท่าทางโกรธจัดอย่างเห็นได้ชัด
        “ไม่เป็นไรหรอกค่ะอาจารย์ ถึงมาซามุเนะคุงจะไม่ได้ข้อมูลอะไรเลย แต่จากที่หนูสืบดูก็รู้แล้วค่ะว่าเธอมีพลังพิเศษจริงๆ แต่ไม่รู้หรอกนะคะว่ามันเป็นเวทมนต์หรือว่าพลังจิต”
        ซาโยโกะที่นั่งจ้องจอโน๊ตบุ๊คอยู่พูดออกมา นั่นทำให้ความโกรธของมายาซาว่าลดลงไปมากโขอยู่ เมื่อเธอพูดจบ ก็เปิดคลิปอะไรบ้างอย่าง แต่เมื่อพวกเขาได้ดูแล้วก็พบว่านี่คือคลิปที่อลิซาเบธจุดไฟที่กิ่งไม้ที่แห้งอยู่ จากคลิปดูเหมือนจะเป็นการเข้าค่ายพักแรม สิ่งที่น่าสนใจในคลิปก็คือ เธอถือไม้ขีดไว้ที่มือซ้าย แต่ที่มือขวากลับมีประกายไฟสีแดงเพลิง
        “นี่เป็นพลังวิเศษอย่างแน่นอน แต่เนื่องจากเราไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเวทมนต์ที่เธออ้าง ทำให้เราไม่สามารถแยกได้ว่านี่คือพลังจิตจริงหรือเปล่า”
        มายาซาว่าสรุปออกมาอย่างจริงจัง
        “เดี๋ยวหนูจะลองสืบค้นเกี่ยวกับเองค่ะเวทมนตร์ส่วนเรื่องพลังจิตก็ให้อากิโอะคุงกับมาซามุเนะคุงที่เป็นผู้ใช้พลังจิตตรวจสอบเอาก็แล้วกัน”
        ซาโยโกะพูดสรุปเรื่องหน้าที่ในการหาข้อมูลอย่างละเอียดและมีเหตุผลสมกับที่อยู่ปี 2 หลังจากนั้นมายาซาว่าก็บอกให้ทุกคนกลับบ้านได้แล้ว เพราะว่าเวลาในตอนนี้นั้นผ่านมาจากตอนที่มาซามุเนะมายังห้องกว่า 30 นาทีแล้ว มายาซาว่านั้นบอกว่าย้ำกับทุกคนว่าให้ตรงดิ่งกลับบ้านเลย แต่เขากับอากิโอะนั้น ขอแวะร้านสะดวกซื้อที่อยู่ในเมืองก่อนแล้วค่อยกลับบ้าน มายาซาว่าจึงบอกว่าให้รีบกลับบ้านโดยเร็วเมื่อซื้อของเสร็จแล้ว
        “เออนี่ มาซามุเนะ นายคิดยังไงกับเรื่องของคุณอาเธน่าบ้าง”
        อากิโอะกล่าวออกมาระหว่างทางกลับบ้านหลังจากแวะซื้อของเสร็จ ตอนนี้ทั้งสองคนนั้นกำลังเดินอยู่ที่ย่านชานเมือง
        “ฉันคิดว่าเธอน่าจะมีโอกาสเป็นผู้ใช้พลังจิตมากกว่าผู้ใช้เวทมนตร์นะ ผู้ใช้พลังจิตน่ะค้นพบแค่ในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น และเธอก็เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นกับอังกฤษด้วย ถึงตัวเธอจะบอกว่ามีต้นตระกูลเป็นเทพีอาเธน่าก็แถอะ ยังไงฉันก็เชื่อไม่ได้อยู่ดีแหละว่าเธอจะใช้เวทมนตร์น่ะ”
        มาซามุเนะตอบโดยใช้ความคิดของตัวเองเป็นที่ตั้ง เรื่องที่ว่าเขาเป็นคนที่เชื่อในสิ่งที่พิสูจน์ได้นั้นอากิโอะรู้มาตั้งแต่เด็กแล้ว เขาจึงคาดเดาคำตอบของมาซามุเนะไว้แล้ว
        “มันก็จริงของนายนะ การที่คุณอาเธน่านั้นมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นผู้ใช้พลังจิตมากกว่า เรื่องนั้นฉันก็เห็นด้วยนะ แต่เราก็ยังตัดประเด็นเรื่องเวทมนตร์ออกไปไม่ได้ ใช่ไหมล่ะ”
        อากิโอะแดงความเห็นต่อความคิดของมาซามุเนะพร้อมกับถามกลับไป
        “ก็ ตามนั้นล่ะนะ แต่เรื่องสืบค้นเกี่ยวกับพลังจิตเนี่ย ฉันสอนนายไปแล้ว ดังนั้นฉันก็คิดว่าตอนนี้นายก็รู้เรื่องเกี่ยวกับพลังจิตอยู่พอควรเลยนะ”
        ที่มาซามุเนะพูดออกมาแบบนั้น ก็เพราะว่าเมื่อวานนี้เขาได้ฝึกให้กับอากิโอะเรื่องวิธีใช้พลังจิตแล้วนั่นเอง
        “ที่เหลือก็คือลองประยุกต์ใช้ในแบบที่ตัวเองถนัดสินะ ฉันก็ขอบใจนายเรื่องช่วยสอนให้มากนะ”
        “ไม่เป็นไรหรอก แค่นี้เอง”
        หลังจากที่ทั้งสองคนได้ต่อสู้กัน ก็ทำให้ทั้งสองคนปรับความเข้าใจกันมากขึ้น พลังจิตนั้นมีอารมณ์ความรู้สึกเป็นต้นตอของพลัง เพราะงั้นเมื่ออากิโอะถูกดจมตีด้วยพลังจิตของมาซามุเนะเข้าอย่างจัง จึงทำให้เขาเข้าใจความรู้สึกของมาซามุเนะมากขึ้นนั่นเอง ถึงมันจะไม่ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เรื่องที่ว่าตอนนี้ทั้งสองคนกลายเป็นเพื่อนกันอย่างแท้จริงแล้วนั่นก็เป็นความจริงอย่างแน่นอน
        หลังจากนั้นทั้งสองคนก็คุยอะไรกันเรื่อยเปื่อย แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินเข้าไปในเขตชุมชน อากิโอะก็รู้สึกถึงเรื่องประหลาดได้
        “นี่ มาซามุเนะ นายรู้สึกไหม”
        “รู้สิ หมายถึงเรื่องแปลกๆที่กำลังเกิดอยู่ใช่ไหมล่ะ”
        มาซามุเนะเองก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างเหมือนกัน
        “ทั้งที่ยังอยู่ในเขตชานเมืองที่คนควรจะหนาแน่นแท้ๆ แต่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่เลยยังไงล่ะ แล้วยิ่งเป็นเวลาที่ควรจะมีคนพลุกพล่านแบบนี้ด้วยสิ”
        มาซามุเนะเอ่ยข้อสงสัยของตัวเองออกมา
        “นายนึกสาเหตุของสถานการณ์ตอนนี้ได้รึเปล่า”
        อากิโอะถามมาซามุเนะอย่างมีความหวัง
        “ไม่เลย ไม่เลยสักนิด ไม่มีทั้งสัญญาณของเหตุแปลกๆ แล้วก็ไม่มีเหตุการณ์แบบนี้ในความทรงจำของฉันเลยด้วย”
        “งั้นหรอ นึกว่านายจะรู้ซะอีก ฉันก็ด้วย ฉันไม่รู้”
        ทั้งคู่โต้ตอบกันเพื่อหาคำตอบเกี่ยวกับสถานการณ์ในตอนนี้ แต่จู่ๆก็มีผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งออกจากตรอกหนึ่งตัดหน้าพวกเขาเข้าไปในตรอกที่อยู่ฝั่งตรงข้ามพวกเขา      อลิซาเบธนั่นเอง! แต่ด้วยความเร็วของเธอและความสับสนของทั้งคู่ทำให้พวกเขาไม่ทันที่จะทัก แต่สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นก็คือ มีกลุ่มคนสวมผ้าคลุมสีดำวิ่งออกมาจากตรอกเดียวกันกับเธอและยังเข้าไปในตรอกที่อยู่ฝั่งตรงเหมือนกันอีกด้วย ตอนนี้ทั้งมาซามุเนะและอากิโอะนั้นตกอยู่ในสภาพมึนงงเป็นอย่างมาก แต่หลังจากผ่านไปเพียงไม่กี่วินาที อากิโอะก็ตั้งสติได้
        “มาซามุเนะ นายน่ะ ถ้ามีคนที่กำลังลำบากอยู่ตรงหน้า นายก็จะเข้าไปช่วยโดยที่ไม่สนทั้งเหตุผลและก็ตัวเองสินะ งั้นฉันเองก็จะเอาบ้าง”
        ทันทีที่อากิโอะพูดจบ เขาก็เริ่มใช้พลังจิตโดยไม่รอให้มาซามุเนะทำความเข้าใจกับสถานการณ์แม้แต่น้อย อากิโอะเริ่มลอยตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วก็พุ่งตัวเข้าไปในตรอกที่อลิซาเบธหายเข้าไป เขาเข้าไปโดยลอยไปในแนวเฉียงขึ้นเขาไปในตรอก
        “<แอร์ ช๊อท (Air Shot)>!!!”
        มีเสียงของอากิโอะตะโกนออกมาจากตรอกภายในไม่กี่วินาทีที่เขาเข้าไป เมื่อมาซามุเนะรู้สึกตัว เขาก็เริ่มวิ่งตามเข้าไปในตรอกบ้าง เมื่อเขาวิ่งเข้าไปจนสุดทาง ก็เห็นอลิซาเบธอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิง แต่เธอไม่เหมือกับเมื่อตอนบ่าย เส้นผมที่สั่นไหวของเธอนั้นเป็นสีแดงเพลิง ดวงตาก็เปลี่ยนจากสีฟ้าน้ำทะเลเป็นสีเดียวกันกับเส้นผม ชุดที่เธอใส่ก็ไม่ใช่เดรสกระโปรงยาวสีขาว แต่เป็นเสื้อเชิ้ตสีดำพร้อมผ้าคลุมสีดำ ตัวเธอในตอนนี้กับเมื่อตอนบ่ายนั้นเหมือนกับเป็นคนละคนกันเลยทีเดียว ส่วนตัวของอากิโอะนั้นกำลังลอยตัวอยู่เหนือหัวของอลิซาเบธ
        “อะไรกันเนี่ย”
        มาซามุเนะอุทานออกมาอย่างนั้น แต่ก็ไม่มีเวลาให้เขาทำความเข้าใจสถานการณ์อีกเช่นเคย อากิโอะที่กำลังลอยอยู่ก็พุ่งเข้ามาหอบตัวเข้าออกไปจากตรอกที่เป็นที่ที่ลำบากในการต่อสู้ อลิซาเบธเองก็วิ่งตามมาด้วย
        “ตอนนี้อลิซาเบธกำลังถูกตามล่าตัวอยู่ ต้องหนีไปที่ที่เราได้เปรียบก่อน”
        อากิโอะกระซิบข้างหูเขาว่าอย่างนั้น ก่อนที่อลิซาเบธจะตะโกนบอกให้หยุดบินก่อน อากิโอะร่อนลงที่ลานจอดรถแห่งหนึ่ง แต่แปลกตรงที่ไม่มีรถจอดอยู่สักคัน อลิซาเบธก็หยุดวิ่งแล้วกลับไปมองข้างหลัง แต่ก็ไม่มีใครตามมา เธอจึงพาตัวทั้งสองคนเข้าไปในแอบที่ลับตาที่อยู่ใกล้ๆ
        “นายสองคนจะตามชั้นมาทำไมเนี่ย มันอัตรายนะ”
        อลิซาเบธถามออกมาด้วยความเป็นห่วงทั้งสองคน
        “พวกชั้นตามเธอมาเพราะอยากรู้ว่าพวกเธอทำอะไรถึงไม่มีคนอยู่แถวๆนี้เลยน่ะสิ”
        อากิโอะตอบคำถาพร้อมย้อนถามอลิซาเบธ
        “กะอีแค่สร้างมิติเสมือนที่อนุญาตให้เฉพาะผู้ที่มีเวทมนตร์เข้ามา มันก็ได้ยากอะไรนักหรอก ใช่ไหมล่ะ อลิซาเบธ”
        เสียงนั่นดังมาจากหลังคาบังแดดของลานจอดรถ มีคนสวมผ้าคลุมสีดำอยู่ เขาค่อยๆถอดฮู้ดของผ้าคลุมออก ปรากฏออกมาเป็นผู้ชายชาวต่างชาติที่มีผมสีเหลืองอ่อน
        “อเล็กซ์ เป็นนายจริงๆด้วยสินะ”
        อลิซาเบธพูดออกมาพร้อมกับชูสิ่งที่ดูเหมือนไม้คทาของพวกจอมเวทย์ชี้ไปที่ผู้ชายที่เธอเรียกว่าอเล็กซ์ ก่อนจะพูดพึมพำอะไรบางอย่าง แล้วที่ปลายสุดของไม้คทาก็มีสิ่งที่เหมือนกับวงเวทย์ปรากฏขึ้นมา
        “<สปาร์ค แฟลร์ (Spark Flare)>!!!”
        มีลูกไฟปรากฏที่วงเวทย์แล้วก็พุ่งเข้าไปหาอเล็กซ์ด้วยความเร็วสูง เหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่อลิซาเบธชี้คทาไปทางอเล็กซ์ไปจนถึงลูกไฟถูกยิงออกไปนั้นเกิดขึ้นภายในเวลาเพียงแค่วินาทีเดียวเท่านั้น แต่อเล็กซ์ที่ถูกยิงนั้นก็กระโดดหลบได้ด้วยความเร็วที่ไม่แพ้ลูกไฟเลยทีเดียว หลังจากนั้นก็มีกลุ่มคนที่สวมผ้าคลุมอีกจำนวนหนึ่งโผล่ออกมาล้อมพวกมาซามุเนะไว้
        “ฉันไม่อยากทำให้เธอกับเพื่อนเจ็บตัวหรอนะ ถ้าส่งคัมภีร์มหาเวทมาฉันจะปล่อยพวกเธอไปก็ได้นะ”
        อลิซาเบธทำท่าทีหนักใจกับข้อเสนอของอเล็กซ์ แต่ก่อนที่เธอจะพูดอะรออกมา มาซามุเนะที่ยืนทำความเข้าใจสถานการณ์อยู่ก็เดินออกมาข้างหน้าแล้วยกแขนขวาขึ้นมาบังอลิซาเบธเอาไว้
        “จนถึงเมื่อฉันกี้นี้ฉันก็ยังไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์หรอกนะ แต่ตอนนี้แจ่มแจ้งเลยล่ะ ไม่ว่าพวกนายจะตั้งใจมาขโมยคัมภีร์อะไรนั่น แต่ดูเหมือนว่านายจะได้รับคำสั่งมาจากคนอื่นสินะ โดยที่ฝ่ายเบื้องบนนายก็จะอยากให้พวกฉันเปิดเผยตัวเหมือนกัน งั้นฉันก็จะให้ตามความต้องการเลยก็แล้วกัน”
        ระหว่างที่มาซามุเนะพูดอยู่ สีหน้าของอเล็กซ์ก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด แต่หลังจากที่มาซามุเนะพูดจบ มือขวาของเขาที่มีออร่าสีดำอยู่แล้ว ก็ลูกเหวี่ยงไปทางกลุ่มคนสวมผ้าคลุมสีดำ
        “<แบล็ค แจ็ค (Black Jack)>”
        มือที่ถูกเหวี่ยงออกไปนั้นมีเคียวสีดำขนาดเท่าเล็บนิ้วก้อยหลุดออกจากออร่าที่ก่อตัวขึ้นที่มือขวา มันพุ่งออกไปด้วยความเร็วที่ตามองไม่ทัน ทันใดนั้น ผู้โชคร้ายที่อยู่ในกลุ่มคนที่สวมผ้าคลุมสีดำที่ล้อมเขาอยู่ก็ถูกเคียวปาผ่านหายไปกลางหน้าผาก ทะลุฮู้ดของผ้าคลุมเป็นรู ทันใดนั้นก็มีเลือดจำนวนหนึ่งพุ่งออกมาจากรูของฮู้ดที่ถูกเจาะ แล้าเจ้าตัวก็ล้มลงไปอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
        “จัดการมันเลย!!”
        ท่ามกลางความมึนงง อเล็กซ์ก็ตะโกนออกคำสั่งแก่เหล่ากลุ่มคนสวมผ้าคลุม ทันใดที่คำสั่งนั้นถูกกล่าวออกไป กลุ่มคนสวมผ้าคนก็แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มทันที คือกลุ่มที่วิ่งเข้ามาจู่โจมใส่พวกมาซามุเนะ และกลุ่มที่ถอยออกไปทำท่าร่ายเวทมนตร์อยู่ข้างหลัง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นเวทแบบจู่โจมระยะไกลหรือเป็นเวทสนับสนุนให้กับพวกที่กำลังบุกเข้ามา
        “<แอร์ ชูริเคน (Air Shuriken)>”
        “<เฟลม ซอร์ด (Flame Sword)>”
        มีเสียงอากิโอะและอลิซาเบธตะโกนออกมาจากข้างหลัง ทันใดนั้นอลิซาเบธก็กระโดดข้ามหัวเขาไปยังกลุ่มคนสวมผ้าคลุม ในมือขวาของเธอที่เคยถือคทา ตอนนี้มันเปลี่ยนเป็นเปลวไฟรูปร่างดาบสองคมแบบตะวันตก ส่วนคทาก็ย้ายไปอยู่ที่มือซ้าย เธอใช้ดาบที่อยู่ในมือฟาดฟันใส่เหล่าคนสวมผ้าคลุม อากาศที่ถูกกวัดแกว่งใส่นั้นมีเปลวไฟลุกขึ้นมา ส่วนคนที่ถูกดาบฟาดฟันใส่ก็ลุกไหม้กลายเป็นเปลวไฟสลายหายไปในอากาศ แล้วเมื่อมองดูบนท้องฟ้าที่อยู่สูงขึ้นไปไม่กี่เมตร ก็เห็นดาวกระจายรูปร่างโปร่งใสจำนวนหนึ่งเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง จุดหมายของมันก็คือกลุ่มคนที่ใช้เวทมนตร์อยู่ห่างออกไปนั่นเอง แต่คราวนี้เมื่อดาวกระจายพุ่งไปปักอยู่ที่หัวของเป้าหมายแล้ว เป้าหมายก็ล้มลงพร้อมกับเลือดที่พวยพุ่งมา
        “เข้าใจแล้ว พวกที่อยู่ข้างหลังคือมนุษย์จริงๆที่มีความสามารถประเภทการสร้างพวกลูกสมุนดินเผาอะไรประมาณสินะ”
        มาซามุเนะคิดอย่างนั้น
        “อลิซาเบธ ฉันคิดว่าพลังโจมตีของเธอกว้างกว่าของฉันนะ เธอไปจัดการกับคนที่ยืนอยู่บนนั้นเถอะ เดี๋ยวตรงนี้ฉันจัดการเอง”
        มาซามุเนะพูดกับอลิซาเบธที่กำลังใช้ดาบโจมตีใส่พวกตุ๊กตาอยู่ เมื่อเธอได้ยินอย่างนั้นก็พย้กหน้าตอบรับ พร้อมกับกระโจนขึ้นไปกลางอากาศ
        “<แฟลร์ ไดรฟ์ (Flare Drive)>!!!”
        “<แบล็ค เวฟ (Black Wave)>”
        อลิซาบธที่กระโดดขึ้นไปกลางอากาศตะโกนเสียงดังลั่นพร้อมกับเปลวเพลิงที่ท้วมตัวเธออย่างกับว่าเอ่อล้นออกมาจากร่างกาย ต่างกับมาซามุเนะที่แค่กระซิบชื่อท่าโจมตี แต่ออร่าสีดำที่ท้วมตัวก็กระจายออกเป็นเหมือนวงคลื่นน้ำสมชื่อ ส่วนอลิซาเบธก็แลนดิ้งด้วยความเร็วสูงเหมือนอุกกาบาต เป็นการโจมตีใส่อเล็กซ์นั่นเอง แต่เขาก็หลบได้อย่างเชียดชิว ส่วนพวกตุ๊กตาที่โดนการโจมตีของมาซามุเนะนั้นก็ตัวขาดครึ่งกันเป็นแถบๆ แต่คลื่นน้ำนั้นก็ยังโจมตีไม่หยุด มันไหลผ่านพวกที่กำลังร่ายเวทสู้กับอากิโอะด้วย พวกที่โดนนั้นตัวขาดครึ่งเละไม่เป็นชิ้นดีเหมือนกับพวกตุ๊กตา ทำให้ตอนนี้ไม่มีคนร่ายเวทเพื่อใช้ตุ๊กตาอีกแล้ว เลือดของคนพวกนั้นกระเด็นมาโดนมาซามุเนะที่กำลังตั้งสมาธิกับการโจมตีอยู่
        “ที่เหลือก็มีแค่อเล็กซ์ที่กำลังสู้อยู่กับอลิซาเบธ”
        “<เฟเธอร์ สไตรค์ (Feather Strike)>”
        อ้าาาา!!!
        มีเสียงร้องของอลิซาเบธดังขึ้นหลังจากที่มาซามุเนะคิดแบบนั้น แล้วร่างของเธอก็ร่วงลงมายังพื้นของลานจอดรถ สภาพของเธอนั้นมีรอยแผลเหมือนถูกใบมีดนับร้อยเฉือนตามร่างกาย ตอนนี้สภาพของเธอดูแล้วไม่น่าจะลุกขึ้นมาได้เลย
        “ถ้ายอมส่งคัมภีร์มหาเวทมาแต่แรกก็ไม่เป็นแบบนี้หรอก”
        “<แอร์ ช๊อท(Air Shot)>!!!”
        อากิโอะที่ได้ยินอย่างนั้นถึงกับโจมตีโดยไม่ทันที่จะได้คิดทบทวนถึงความสามารถของอเล็กซ์เลยสักนิด แต่กระสุนอากาศที่พุ่งไปอย่างรวดเร็วก็ถูกคนสวมผ้าคลุมสีดำเหมือนเมื่อกี้เข้ามาสกัดไว้ได้ แต่คนที่มาสกัดไว้นั้นแตกต่างจากพวกเมื่อกี้อย่างสิ้นเชิง คนๆนั้นมีออร่าสีทองเริงอยู่ทั่วร่าง หลังจากนั้นก็มีกลุ่มตุ๊กตากระโดดออกมาเพิ่มด้วยจำนวนที่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ดุเหมือนว่าสิ่งที่มาซามุเนะสันนิษฐานจะผิดไปบางส่วน
        “งั้นคราวนี้มาเอาจริงกันเลยดีกว่า”
        มาซามุเนะได้ยินเสียงของอเล็กซ์แว่วมาตามลม เมื่อเขาได้ยินจึงตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด เขาวิ่งไปช้อนตัวของอลิซาเบธขึ้นมาแล้วหมุนตัวกลับไปในทิศทางที่เขาตั้งใจไว้ตั้งแต่ตอนแรก นั่นก็คือทางกลับบ้านนั่นเอง!!!
        “อากิโอะ เผ่นเร็ว เผ่นป่าราบเลย!!!”
        “เข้าใจแล้ว”
        อากิโอะนั้นอ่านสถานการณ์ออกว่าตอนนี้ควรที่จะทำอะไร ทั้งคู่รีบตรงดิ่งไปด้วยความเร็วที่มีทั้งหมด
        “ตามไปเร็ว อย่าให้มันออกจากอาณาเขตโกเสมือนได้”
        อเล็กซ์ที่เห็นแบบนั้นจึงออกคำสั่งไปด้วยความร้อนใจอะไรบางอย่าง แต่มาซามุเนะที่ได้ยินแบบนั้นก็เร่งฝีเท้าขึ้นเป็นเท่าตัว
        “<แบล็ค บูสต์ (Black Boost)>”
        ด้วยคำพูดนั้น มาซามุเนะก็ยิ่งเพิ่มความเร็วยิ่งขึ้นไปอีก ถึงความเร็วนี้จะไม่เร็วเท่าตอนที่ปีนขึ้นไปบนตึกโครงเหล็กในครั้งก่อน แต่ก็เร็วพอที่จะหนีการไล่ตามของ อเล็กซ์
        “ออก... ไปจาก... อาณาเขต... ให้ได้ก็พอ”
        อลิซาเบธพึมพำว่าอย่างนั้น ตอนนี้มาซามุเนะแค่หนีไปทางเขตชุมชนเท่านั้น เขาไม่รู้จักอาณาเขตนั่น ทำให้เขาต้องหนีค่อไปอย่างไรจุดหมาย
        “ขอแค่หนีการตามล่าของพวกนั้นให้ได้ก็พอ”
        มาซามุเนะคิดแค่นั้น ส่วนอากิโอะนั้นลอยขึ้นไปบนสูงยิ่งกว่าเดิมเพื่อที่จะเช็คดูว่าพวกสวมผ้าคลุมนั้นยังตามมารึเปล่า
        “อากิโอะ พวกมันไม่ตามมาแล้วใช่ไหม”
        “ใช่ เหมือนว่าจะไม่ตามมาแล้วล่ะ”
        มาซามุเนะถามหลังจากที่อากิโอะลอยต่ำลงมา ถึงเขาจะรู้อย่างนั้น แต่เขาก็ยังวิ่งต่อไป
        “อากิโอะ ฉันว่าเราไม่น่าที่จะไปโรงพยาบาลได้แล้วล่ะ ฉันว่าเราไปขอความช่วยเหลือจากอาจารย์มายาซาว่ากันเถอะ เขาอยู่ใกล้ๆบ้านฉัน”
        มาซามุเนะเสนอหนทาง
        “ฉันเห็นด้วยนะ”
        อากิโอะเห็นด้วยกับความคิดของมาซามุเนะ ทำให้ทั้งสองคนมุ่งหน้าไปยังบ้านของมายาซาว่า ซึ่งถ้าเขียนเป็นแผนที่การเดินทางแล้ว จะต้องผ่านบ้านของมาซามุเนะที่เป็นห้องเช่าไปซะก่อน
        “พี่ชายยย!!!” “มาซามุเนะ!!!”
        เมื่อเขาลองใช้หางตามองก็พบคุออนอยู่กับนากิสะซึ่งก็คือน้องสาวของตัวเอง หรือให้พูดให้ถูกก็คือเป็นลูกสาวของญาติที่รับเลี้ยง
        “อะไรเนี่ย มันมั่วซั่วไปหมดแล้วนะ”
        ถึงเขาจะรู้ว่าเป้นทั้งสองคน แต่เขาในตอนนี้คงยังไม่สามารถที่จะหันไปโบกไม้โบกมือทักทายได้ เพราะตัวเขานั้นมีแต่กลิ่นคาวเลือด นั่นเป็นเรื่องจริงที่เขาฆ่าใครก็ไม่รู้โดยที่ตัวเองตั้งใจดี ถึงมันจะมีเหตุผล แต่จะให้ไปพบหน้าผู้หญิงที่ตัวเองชอบในสภาพแบบนี้ไม่ได้อย่างแน่นอน เขาจึงมุ่งหน้าไปบ้านของมายาซาว่าอย่างเดิมโดยที่ไม่ลดความเร็วลงเลยแม้แต่น้อย
        “อาจารย์มายาซาว่าครับ เปิดประตูให้หน่อย”
        อากิโอะตะโกนอยู่หน้าบ้านมายาซาว่า
        “อากิโอะ บอกให้กลับรีบบ้านไม่ใช่หรอ แล้วมาทำไม”
        มายาซาว่าเปิดประตุออกมาในสภาพที่อยู่ในชุดเดียวกับที่โรงเรียนพร้อมกับบ่นอย่างนั้น แต่เมื่อเธอเปิดออกก็เห็น อากิโอะที่กำลังยืนหอบอยู่ แต่ที่ทำให้เธอตกใจมากที่สุดก็คือสภาพของมาซามุเนะที่โชกเลือดนั่งอยู่ที่ม้านั่งหน้าบ้าน โดยมีอลิซาเบธที่ทั่วร่างมีแต่บาดแผลนอนอยู่ข้างๆ
        "พวกเธอ ไปทำอะไรกันมาน่ะ"
 
                                                                [จบ]

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา