Psychic พลังกายสิทธิ์ ลิขิตมรณะ

-

เขียนโดย MoMoGa

วันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เวลา 23.06 น.

  26 บท
  4 วิจารณ์
  20.56K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 11.12 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

19) ตอนที่ 11-1 เดินตามเกม

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
             วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม เวลา 15.02 นาฬิกา  
             {บอกทุกๆสิ่งที่เธอรู้เกี่ยวกับองค์กรนักฆ่าของรัฐบาลมาซะ}
            มาซามุเนะที่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะเรียนของห้องเรียนของตัวเอง โดยที่มีฮิคาริอยู่ข้างๆตัวในฐานะวิญญาณที่ถูกผูกมัดกับวิญญาณของตน หลังจากที่มาซามุเนะทราบรายละเอียดเกี่ยวกับความสามารถของเธอแล้ว เขาก็ได้รู้ว่าพวกเขาสามารถคุยกันผ่านทางโทรจิตได้ และเขาก็ยังรู้อีกว่าฮิคาริสามารถเข้าไปภายในที่มีวิญญาณอยู่ในตัวของเขาได้ ซึ่งเป็นห้องเดียวกับที่เขาเคยเข้าไปตอนที่ถูกเธอบอกว่าจะต้องตายด้วย
             {ฉันก็บอกไปตั้งหลายครั้งแล้วไงยะ ว่าฉันพึ่งจะเข้ามาได้ไม่นาน สิ่งที่รู้ก็มีแค่เรื่องที่ว่า จตุรเทพทุกคนเป็นพวกที่เรียกว่าปีศาจได้เลยน่ะ ซึ่งก็รวมถึงฉันด้วยน่ะนะ เป็นพวกที่มีอิสระในการใช้ชีวิตเป็นพิเศษ แต่ก็แลกการที่ไม่สามารถเลือกงานที่ต้องการได้ด้วยตัวเอง}
            {แล้วใครให้เธอมาทำลายห้องชมรมล่ะ แค่ทำลายห้องไม่น่าจะจำเป็นต้องเรียกใช้พวกจตุรเทพเลยนิ}
             {ถูกเกี่ยงงานไงย่ะ เกี่ยงงานน่ะ พวกที่มีอันดับสูงกว่า จะสามารถแจกจ่ายงานให้คนที่อยู่อันดับล่างกว่าได้ โดยมีข้อแม้ว่าต้องผ่านการอนุมัติจากรัฐบาลก่อน}
             {ลองบอกเหตุผลที่ฉันจะต้องเชื่อเธอมาสิ ความสามารถของเธอ เธอก็อาจจะโกหกฉันไว้ก็ได้นี่ แล้วเธอก็อาจจะเป็นสปายคนใหม่ก็ได้ เพราะอาจารย์มายาซาว่าที่เป็นสปายคนก่อนถูกรู้ตัวจริง เธอที่มีความสามารถแทรกแซงจิตใจและวิญญาณ ก็เลยถูกส่งตัวมาแทน}
             {แล้วเรื่องที่ว่าก่อนหน้านี้มีคนตั้งใจจะฆ่านายมาหลายหนแล้วล่ะ จะว่ายังไงกับการที่ฉันไว้ชีวิตนายครั้งนี้ดีล่ะ}
             {แผนลวงไงล่ะ รัฐบาลอาจจะมีจุดประสงฆ์อื่น ก็เลยส่งเธอมาเป็นสปาย}
             {แต่นั่นก็เป็นแค่ทฤษฎีของนายคนเดียวไม่ใช่รึไงกันยะ ถ้าสงสัยนัก เย็นนี้ก็พายัยคนหาข่าวมาอ่านความทรงจำฉันสิ ยัยนั่นคงจะทำได้ใช่ไหมเล่า}
             {ถ้าเธอพูดอย่างงั้น ฉันจะยอมเชื่อใจเธอก่อนก็ได้ ยัยเด็กผีโลลิต้า ไม่อยากจะให้รุ่นต้องใช้พลังสักเท่าไหร่ด้วย} “โอ๊ย”
             “มัวเหม่ออะไรอยู่น่ะ ฉันเรียกนายไปล้านรอบแล้วนะ”
            ในระหว่างที่มาซามุเนะกำลังคุยกับฮิคาริอยู่ ก็มีอะไรบางอย่างกระทบเข้าที่หัวของมาซามุเนะอย่างรุนแรง และเสียงที่เข้ามาในโสตประสาทการรับฟังของเขา ก็เป็นคำตอบของคำถามที่ว่า {ใครเป็นคนเคาะมาหัวของคนอื่นเล่นกันน่ะ} ของมาซามุเนะได้เป็นอย่างดี ซึ่งคนที่ว่าก็คือ อลิซาเบธ อาเธน่า ผู้ใช้พลังจิตอีกคนหนึ่งที่อยู่ในโรงเรียนนี้
             “แล้วมีอะไรกับฉันล่ะเนี่ย”
             “มีเรื่องอยากจะไหว้วานหน่อยน่ะ”
             “ห๊า!? เรื่องอะไรล่ะ?”
            “คุณสุเมรางิมีเรื่องอยากจะให้ฉันช่วยน่ะสิ แต่ฉันมีนัดแล้ว ฉันก็เลยบอกไปว่า เดี๋ยวฉันจะส่งนายที่เป็นลูกน้องไปแทนน่ะสิ นายไปแทนฉันหน่อยนะ ฝากด้วยล่ะ”
             “ดะ...เดี๋ยวสิ ฉันไปเป็นลูกน้องเธอตอนไหนน่ะ”
             “คุณสุเมรางิรออยู่ที่ร้านแมคที่อยู่ข้างๆสวนสาธารณะนะ ขอบคุณจ้า~~~”
             “เฮ้ยๆ เดี่ยวก่อนสิ ฉันก็มีธุระนะ”
            อลิซาเบธพูดพร้อมกับเดินออกไปจากห้องเรียนโดยไม่รอฟังสิ่งทีมาซามุเนะพูดเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้ตัวเขานั่งงงกับอยู่ในห้องเรียนกับนักเรียนที่เหลืออยู่บางส่วนเท่านั้น มาซามุเนะที่คิดจะปฏิเสธปัดไป จึงหันไปทางโต๊ะเรียนของ “คุณสุเมรางิ” แต่สิ่งที่หลงเหลืออยู่ก็มีแต่ความว่างเปล่าเท่านั้น และถ้าเป็นไปตามคำสันนิษฐานของเขา การที่คุณสุเมรางิอยากจะให้อลิซาเบธช่วย อาจจะเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรื่องที่อลิซาเบธมาขอย้ายที่นั่งกับเธออย่างแน่นอน เพราะปกติแล้ว คุณสุเมรางินั้นเป็นคนไม่ค่อยพูดสักเท่าไหร่ การที่เธอต้องการความช่วยเหลือจากใครสักคน คนๆก็ต้องคนที่เธอคิดว่าจะไม่ปฏิเสธ
             {แล้วนายจะเอาไงล่ะ ไปตามนัดหรือว่าปล่อยเลยตามเลย อ้าวๆ หน้าแบบนั้นแสดงว่าจะยอมทำไปตามนัดสินะ น่า-สม-เพช}
             {ก็มันเป็นทางเดียวแล้วไม่ใช้เหรอ แค่ไปปฏิเสธก็เท่านั้นเอง}
            มาซามุเนะพูดพร้อมกับหยิบกระเป๋านักเรียนของตัวเองขึ้นมา แล้วเดินออกไปจากห้องเรียนอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็ปรากฏขึ้นมาต่อหน้าของเขา
             “อ้าว มาซามุเนะคุง ไปซื้อของเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ พอดีมีของที่จำเป็นต้องใช้ตอนทำการบ้านน่ะสิ”
            ในระหว่างที่เขากำลังเดินออกไปจากห้องเรียนนั้น ก็ได้เจอกับ คาวาซากิ คุออน เพื่อนสมัยเด็กผู้น่ารักเข้าพอดี เธอพูดขึ้นมาโดยที่ไม่รอให้มาซามุเนะคิดอะไรได้ทัน จนทำให้มาซามุเนะเผลอคิดไปเลยว่า “สมแล้วที่รู้จักตัวเราดีที่สุด” ถ้าเป็นปกติ มาซามุเนะแถบจะไม่เคยปฏิเสธคุออนลยสักครั้ง แต่ในครั้งนี้ เขาไม่สามารถตอบรับได้ เพราะมีเรื่องที่ต้องไปทำอยู่ 
             “อะ...เออ ใช่ๆ ฉันมีนัดแล้วน่ะสิ โทษทีนะ...”
             มาซามุเนชะงักทันทีเมื่อเห็นสีหน้าของคุออนที่แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกความรู้สึกหึงหวงกับคำว่า “มีนัดแล้ว” ของเขา
             “อ... เอาสิ ไปก็ได้ แต่ฉันขอแวะที่หนึ่งก่อนนะ”
            {เฮ้ยๆ นายเอาจริงเหรอยะ}
            {ยุ่งน่า} 
             “เอาสิ ถ้าไปกับมาวามุเนะคุงล่ะก็ จะที่ไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละ”
             มาซามุเนะไม่สามารถปฏิเสธคุออนได้ นั่นคือสิ่งที่ฮิคาริรับรู้ได้จากการกระทำเมื่อตะกี้นี้ของมาซามุเนะ ซึ่งเป็นการกระทำที่เธอคิดว่าน่าตลกสุดๆ แต่เธอก็เช้าใจว่าทำไม มาซามุเนะถึงได้พูดแบบนั้นออกมา
            “แล้ว มาซามุเนะคุงมีนัดกับใครเหรอ”
            คุออนพูดด้วยรอยยิ้มและแววตาที่แฝงไปด้วยความน่ากลัวที่จะส่งผลต่อมาซามุเนะคนเดียวอยู่ มันทำให้มาซามุเนะแทบจะกราบขอขมาเธอเลยก็ว่าได้
             “ห๊ะ... คะ คือ ไม่ต้องไปสนใจคำพูดก่อนหน้านี้ก็ได้นะ”
            “เฮ้อ--- ถ้าไม่คิดอะไร มาซามุเนะคุงจะไปตามนัดนั้นด้วยก็ได้นะ ถ้าไม่คิดอะไรน่ะนะ”
             ช่างเป็นคำพูดที่น่ากลัวเหลือเกิน นั่นคือสิ่งที่มาซามุเนะกำลังคิดอยู่ในตอนนี้ เพราะถ้ารวมคำพูดนั้นเข้ากับสีหน้าของคุออนในตอนนี้ด้วย ก็จะได้คำพูดเชิงบีบบังคับว่า “มาซามุเนะนัดใครไว้เหรอ บอกมาซะดีๆ” หรืออะไรประมาณนั้น
 
 
 
 
 
            “อะ... อะไรนะครับ จะให้ผมเข้าร่วมปาร์ตี้ที่จะจัดขึ้นในคืนนี้เหรอครับ”
            วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม เวลา 16.10 นาฬิกา
            มาซามุเนะมาที่ร้านแมคโดนัลด์ตามที่อลิซาเธอบอก แต่เนื่องจากเขารู้ว่าเวลาที่นัดไว้นั้นคือกี่โมง เขาจึงต้องรีบมาโดยเร็วเพื่อที่จะได้ไม่ทำให้คุณสุเมรางิรอ แน่นอนว่าคุออนต้องตามเขามาด้วยอย่างแน่นอน แต่ในท้ายที่สุด คุณสุเมรางิก็มารอพวกเขาอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นการปฏิเสธให้สิ้นเรื่องจึงเป็นอะไรที่ทำได้ง่ายมาก แต่สิ่งที่มาขัดขวางเขา ก็คือการกระทำของคุออน ที่ปกติแล้วมาซามุเนะจะเรียกมันว่า “อาการอยากรู้อยากเห็นมากเกินจนออกนอกหน้า” ซึ่งมันทำให้ทั้งมาซามุเนะและคุออนต้องอยู่ฟังเธอนั่นเอง ซึ่งถ้าเป็นไปตามความคิดของเขา อาการอีกอย่างหนึ่งของเธอจะต้องทำงานหลังจากนี้แน่นอน
             “ใช่ค่ะ นารุทากิคุงที่มาขอคบกับฉันเมื่อวันเปิดเทอมที่ผ่านมา ชวนฉันไปงานปาร์ตี้ที่พวกเพื่อนๆของเขาจัดขึ้นค่ะ แล้วก็บอกว่า ถ้าไม่มาขอเลิก แต่ปาร์ตี้นั้น ถ้าไม่พาเพื่อนผู้หญิงอีกคนไปด้วย ก็จะเข้าไม่ได้ ฉันก็เลยขอร้องคุณอลิซาเบธดู แต่ตอนที่เธอบอกว่าจะให้คุณฮันโซมาแทน ทำเอาฉันตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเลย แต่ตอนที่เห็นคุรคุวาซากิมาด้วยก็อุ่นใจขึ้นมา ขอร้องนะคะ ฉันไม่อยากเลิกคบกับนารุทากิคุงน่ะค่ะ ฮือๆ”
             ระหว่างที่คุณสุเมรางิพูด เธอก็น้ำตาซึมไปด้วย นั่นทำให้เขาสงสารเธออยู่นิดหน่อย แต่ก็แอบหมั่นไส้อยู่เหมือนกัน
             ในความคิดของมาซามุเนะนั้น ไม่สิ เพราะแม้แต่ฮิคาริก็คิดเหมือนเขา ทั้งสองคนคิดว่าผู้ชายที่ชื่อนารุทากินั้นไม่น่าไว้วางใจสักเท่าไหร่ แต่ปกติตอนที่เขาอยู่ในห้องเรียน ก็ดูเป็นคนที่ดีคนหนึ่งเลย แต่มาซามุเนะก็ตัดสินใจที่จะพูดตามที่ตัวเองคิด
             “นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ผมคิดว่าปาร์ตี้นั่นมันมีอะไรแปลกๆพิกลนะครับ ไม่การที่ต้องผู้หญิงไปด้วยอีกคนเนี่ย คิดยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องดี คิดเหมือนกันไหม คุออน…”
            สิ่งที่มาซามุเนะเห็นเมื่อหันไปหาคุออน ซึ่งเป็นสิ่งเดียวกันกับที่เขากังวลไว้ นั่นคือ ตัวของคุออนที่มีน้ำซึมออกมาเหมือนคุณสุเมรางิ ซึ่งเป็น “อาการเข้าใจเป็นอย่างดี” และสิ่งที่จะตามมาอีกระลอกก็คือ “อาการอยากจะช่วยเหลือจนไม่สนใจตัวเอง”
             “ฉันเข้าใจความรู้สึกนั้นดีเลยค่ะ ตกลงค่ะ ฉันจะไปกับคุณสุเมรางิด้วย แต่มีข้อแม้นะคะ”
             คุออนไม่ได้สนใจคำพูดของมาซามุเนะเลยสักนิด เธอพูดออกไปโดยใช้มือทั้งสองข้างไปกุมที่มือของคุณสุเมรางิด้วย
             “ข้อแม้อะไรเหรอคะ? ฉันยอมทำตามทุกอย่างเลยค่ะ”
             “ข้อแม้คือ ให้มาซามุเนะคุงไปด้วยค่ะ ตามที่ฟังมา ดูเหมือนว่าผู้ชายก็สามารถเข้าไปในปาร์ตี้ได้นะคะ ถึงฉันจะไม่ค่อยแน่ใจก็เถอะ”
             “ฉันคิดว่าไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ยิ่งมีคนเพิ่มยิ่งดีด้วย คิดว่านารุทากิคุงก็ต้องดีใจเหมือนกันค่ะ”
             หลังจากที่คุยกันแล้ว คุณสุเมรางิก็นัดให้มาซามุเนะและคุออนมาเจอกันที่ร้านคาราโอเกะที่ย่านการค้าตอนเวลา 1 ทุ่มครึ่ง จากนั้นทั้งสามคนก็แยกย้ายกันไปเตรียมตัว
             มาซามุเนะที่หมดสภาพเพราะถูกเมิน กำลังเดินกลับบ้าน และระหว่างนั้นก็มีข้อความจากอลิซาเบธที่บอกว่าวันนี้จะกลับช้าหน่อย ให้กินข้าวกันก่อนเลย ซึ่งนั่นก็เป็นใจความเดียวกันกับที่เขาต้องไปบอกกับแคทเธอรีน ผู้หญิงที่เป็นเหมือนพี่เลี้ยงเด็กและแม่บ้านในเวลาเดี๋ยวกัน 
             {ทำหน้าน่าสมเพชจังเลยนะ} 
            ระหว่างที่มาซามุเนะกำลังเดินกลับบ้าน ฮิคาริที่คุยเล่นกันนิดหน่อยเรื่องคุณสุเมรางิ ก็พูดขึ้นมาอย่างไม่ให้ซุ่มให้เสียง แต่มาซามุเนะก็ไม่ได้ตกใจตามสักเท่าไหร่กับคำพูดของเธอ
             {ยุ่งน่า เด็กอย่าเธอมันจะไปรู้อะไรล่ะ}
             {ถึงจะเห็นแบบนี้ แต่ตอนฉันยังเป็นเด็กธรรมดาๆอยู่ ก็เคยมีเด็กผู้ชายที่อายุพอๆกันมาสารภาพรักด้วยนะยะ}
            {หึ ฉันพนันเลยว่าเธอต้องตอบปฏิเสธแน่นอน}
             {เสียมารยาทย่ะ แต่พอมาคิดดูแล้ว ฉันตอนก่อนกับหลังมีพลังจิตนี่ต่างกันน่าดูเลยล่ะ}
             {ถ้าเธอพูดจริง ฉันเดาได้เลยว่า ตัวเธอตอนก่อนมีพลังจิตต้องน่ารักกว่านี้ประมาณสิบล้านเท่าเลย}
             {อ้าวๆ หรือว่าตัดใจจากคุณหนูคนนั้นแล้วหัยมาชอบฉันเหรอยะ ไอ้-หมู-โส-โครก}
             {เงียบไปเถอะน่า}
             {หุๆ}
 
 
 
 
 
            วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม เวลา 18.55 นาฬิกา
            ก๊อกๆ
            ระหว่างที่มาซามุเนะกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับผู้ชายที่ชื่อนารุทากิอยู่ในห้อง เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น มาซามุเนะปิดโน๊ตบุ๊คบนโต๊ะตัวเองแล้วเดินไปเปิดประตูทันที
             “มาแล้วครับ”
             มาซามุเนะเปิดประตูห้องของตัวเองออก และคนที่พบก็คือคุออนนั่นเอง เธอสวมเสื้อแขนกุดสีขาว กระโปรงสั้นสีฟ้า
             “โธ่ มาซามุเนะคุงล่ะก็ อีกแค่ครึ่งชั่วโมงเองนะ ถ้าไม่รีบแต่งตัวจะไปไม่ทันนัดเอานะ”
             ที่คุออนพูดแบบนั้นออกมา ก็เพราะว่ามาซามุเนะในตอนนี้ยังอยู่ในชุดนักเรียนชุดเดิม ไม่ต่างจากตอนที่แยกกันเลยแม้แต่น้อย ที่ต่างไปก็มีแค่แว่นกรองแสงสำหรับใช้กับคอมพิวเตอร์กับเสื้อที่ยับยู่ยี่ยิ่งกว่าเดิมก็เท่านั้น
            “ก็ ไปชุดนี้เลยไม่ได้เหรอ”
             “มันจะไปได้ได้ยังไงกันเล่า! รีบแต่งตัวได้แล้ว เดี๋ยวฉันไปรอที่ห้องนั่งเล่นก็แล้วกัน”
             “ขะ... เข้าใจแล้ว”
             เมื่อมาซามุเนะพูดจบ เขาก็รีบปิดประตูห้องของตัวเองทันที ส่วนคุออนก็เดินลงไปรอที่ห้องนั่งเล่นตามที่เธอพูดไว้ โดยระหว่างที่รอ นากิสะก็ชวนคุออนเล่นเกมรอมาวามุเนะ ซึ่งเธอก็ไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด  มาซามุเนะลงมาพอดี ก็ไม่ได้เข้าไปขวางทั้งสองคน เพราะเขาคิดว่านั่นเป็นภาพที่ทำให้เขามีความสุข แต่คุออนก็ดูเวลาพอดี ทำให้เธอรู้ตัวและมาซามุเนะก็ตีเนียนเดินเข้ามาพอดี ทำให้ทั้งคู่ยังพอมีเวลาให้ได้เดินอยู่บ้าง
             “ฉันรู้นะว่ามาซามุเนะอยู่ข้างหลังประตู ทำไมไม่ออกมาล่ะ”
             ระหว่างที่กำลังเดินไปที่นัดหมาย คุออนก็ยกคำถามที่มาซามุเนะไม่เคยคิดว่าจะได้ยินขึ้นมา ทำเอามาซามุเนะตกใจนิดหน่อยแต่ก็ไม่ถึงกับสะดุ้ง
            “ฮ่าๆๆๆ รู้ด้วยเหรอเนี่ย ว่าแต่เธอเถอะ ทำไมถึงตอบตกลงกับคุณสุเมรางิล่ะ แค่ฟังดูก็น่าจะรู้นิว่ามันฟังดูแปลกๆ”
            มาซามุเนะหัวเราะกลบเกลื่อน แล้วค่อยถามคำถามที่คาใจมาตั้งแต่ช่วงเย็น เพราะปกติแล้ว มาซามุเนะรู้ว่าคุออนนั้นเป็นคนยังไงบ้าง จึงนึกสงสัยที่ตัวเขาคิดผิดเกี่ยวกับความคิดของเธออยู่บ้าง
            “มาซามุเนะคุงไม่เข้าใจสินะ ความรู้สึกที่ไม่อยากสูญเสียคนที่รักไปน่ะ ฉันคิดว่า ถึงมันจะเป็นแค่คำโกหก แต่ถ้าแลกกับคนที่เรารักแล้วก็คิดว่ามันคุ้มค่ามากเลยล่ะ”
            คุออนเดินนำหน้ามาซามุเนะแล้วค่อยหันหน้ากลับมาพูดกับเขา ถึงจะเป็นอย่างนั้น มาซามุเนะก็ยังไม่ค่อยเข้าใจในคำพูดของคุออนสักเท่าไหร่ เพราะมันค่อนข้างจะเฉพาะทางสักหน่อย แต่เขาก็ไม่ได้คิดที่จะซักถามไปมากกว่านั้นแล้ว เพราะว่าสีหน้าของคุออนที่ดูอ่อนโยนและแววตาที่ดูจริงจัง เขาจึงคิดว่านั่นคงจะเป็นหน้าตาของความรู้สึกที่เธอกล่าวมาก็ได้ 
            “ยะ...แย่แล้วสิ มาซามุเนะคุง แย่แล้วล่ะ นาฬิกาที่ห้องนั่งเล่นมันเดินช้ากว่าเวลา 20 นาที แบบนี้เราไปไม่ทันนัดแน่เลย ทำยังไงดีล่ะ”
           มาซามุเนะที่กำลังรู้สึกดีกับสิ่งที่คุออนพูดก่อนหน้านี้อยู่ จำเป็นต้องสลัดความรู้สึกนั้นทิ้งไปก่อนแล้วก็ไปรวบตัวคุออนมาอุ้มไว้ในอ้อมแขนของตัวเองด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง
            “จะ...จะทำอะไรน่ะมาซามุเนะคุง เดียวเราก็ไปไม่ทันนัดหรอก”
            “เฮ้อ--- หลังจากนี้ 3 นาที หลับตาให้สนิทแล้วเกาะแน่ๆก็พอ เดี๋ยวที่เหลือฉันจัดการเอง”
           “อะ... เอ๋ เดี๋ยวสิ จะทำอะไรน่ะมาซามุเนะคุง ว้ายๆ”
            หลังจากที่มาซามุเนะพูดเสร็จ เขาก็เริ่มวิ่งโดยที่ไม่รอฟังคุออนเลยแม้แต่น้อย ส่วนทางคุออนนั้น ถึงมาซามุเนะจะบอกให้หลับตา แต่หนังตาเธอก็ไม่สามารถปิดลงได้เพราะอะไรบางอย่าง ทำให้เธอเห็นสิ่งที่    มาซามุเนะทำหมดทุกอย่าง มาซามุเนะกระโดดไปตามหลังคาบ้านเรือนหลังต่างๆอย่างคล่องแคล่ว เพียงไม่กี่นาที ก็ถึงจุดนัดพบที่คุณสุเมรางิพอเอาไว้แล้ว ถึงมันจะไม่ได้เกินขาดสำหรับเธอมาก แต่ก็เป็นอะไรที่ถือว่าน่าตื่นเต้นสำหรับเธอมาก
            “คุออน ถึงแล้ว ปล่อยฉันได้แล้ว”
            “อยากอยู่แบบนี้ไปอีกสักพักจัง”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา