ฺBLOOD THRONE บัลลังก์เลือด(ราชินีปีศาจ)

-

เขียนโดย Nut

วันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เวลา 14.43 น.

  2 บท
  0 วิจารณ์
  3,159 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 14.48 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ชาร์ลเอิร์ลแห่งเอสเทส และ เลดี้ซารีน่า

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ชาร์ลเอิร์ลแห่งเอสเทส และ เลดี้ซารีน่า

   สายยลมอ่อนพัดผ่านสวนหลวง ต้นไม้ใบหญ้าโยกไหวไปตามแรงลม หมู่นกน้อย บิ่นว่อนไปมายอกเย้ากันกลางเวหา เหล่าผีเสื้อและผึ้งตัวกระจิดริด กำลังออกหาน้ำหวานจากเกสร พฤกษานานาชนิดต่างหันหน้ารับแสงอาทิตย์อ่อนๆ กลิ่นของมันพัดลอยไปตามลมโดยเฉาะกลิ่นของดอกเดซี่ มันจะส่งกลิ่นหอมยามเมื่อตะวันโผล่พ้นพื้นดิน

   “กลิ่นหอมจริงเลยนะ”เสียงหญิงสาว นามเซรีน่าเอ่ยขึ้น

   นางมีรูปร่างอรชรอ้อนแอ้น ดวงตาคู่สวยสีฟ้าเข้มดุจน้ำทะเล ปากสีชมพูระเรื่อดูอวบอิ่มอย่างเป็นธรรมชาติ จมูกเล็กๆนั่นรับกับใบหน้าหวานๆของนางได้เป็นอย่างดี ผมสีบรอนทองของตระกูลเซอซีมันคลับให้ผิวสีขาวของคนทางเหนืออย่างเซรีน่า ยิ่งขาวขึ้นไปอีก ถ้าวันหนึ่งนางเกิดหลงอยู่ในป่ามืดๆก็คงจะหาตัวนางได้ไม่ยากเย็นนัก กริยาท่วงท่าที่นางเดินเหิน การยืนการนั่งที่สง่างามแต่แฝงไปด้วยความอ่อนหวานของกุลสตรีเช่นนี้ คงไม่ต้องแสวงหาคำตอบว่าถูกอบรมสั่งสอนจากที่ใดถึงสวยสง่าดั่งพญาหงส์ เหล่าบรรดาผู้คนที่ได้ยลโฉม มักจะพูดถึงนางว่าเทพเจ้าได้ประทานพรให้นางหรืองามราวกับเทพเจ้าตั้งใจสรรค์สร้าง เป็นที่หมายตาของชายหนุ่มทั่วราชอาณาจักร แต่ใครเล่าจะโชคดีได้นางไปเชยชม นอกเสียจากชายที่สมฐานะกับนางอย่าง ชาร์ลเอิร์ลแห่งเอสเทส บุตรชายของ ดยุคเอ็ดเวิร์ดแห่งกาแมนวิน

   ชาร์ลคือบุตรชายคนเดียวของเอ็ดเวิร์ด เป็นตระกูลเก่าแก่ที่ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากราชินีและราชาให้ทำกิจแทนพระองค์ในหลายๆด้านจึงเป็นที่รักใคร่ของประชาชนทั่วดินแดน เสมอเหมือนเป็นพระราชาอีกองค์และเพราะเหตุนี้จึงมีอำนาจทางการเมืองมาก แตกต่างจากตระกูลเก่าแก่อื่น ๆและนางเองก็ฉลาดพอที่จะรู้ว่านางถูกจับแต่งงานเพราะด้วยเหตุผลทางการเมืองบางอย่างของท่านตา แต่นางก็ไม่อาจรู้ได้ว่าเรื่องอะไรนางเองก็เป็นเพียงหญิงมิได้มีสิทธิ์มีเสียงในสภาสูงอยู่แล้ว นั่นจึงมิได้เป็นประโยชน์ต่อนางเท่าไหร่นัก แต่ทั้งหมดนี่…เป็นการดีที่นางได้แต่งงานกับชาร์ล ชายผู้เป็นที่รัก และชาร์ลเองก็รักนางเช่นกัน โชคยังดีที่ทั้งคู่รักกันอยู่แล้ว ชีวิตหลังสมรสในระยะเวลาห้าปีนี้จึงมีแต่ความหวานชื่น คู่รักหลังสมรสเกือบทุกคู่คงจะอิจฉาตาร้อนเป็นแน่

   “เซรีน่าเจ้าออกมาทำอะไรที่กลางทุ่งดอกไม้เช่นนี้ มาตากน้ำค้างยามเช้าให้ตนเองไม่สบายเล่นรึ”

   ท่อนแขนแข็งหนาของใครบางคนเข้าโอบจากด้านหลัง แผงอกอุ่นๆที่คุ้นเคยแนบชิดกับแผ่นหลังบอบบางของเซรีน่า ชาร์ลยื่นหน้าคมเข้มของเขาวางเกยมาที่ไหล่และพ่นลมหายใจรดต้นคอ หญิงสาวจั๊กจี้ทุกครั้งที่เขาทำแบบนี้

   “เจ้ากลิ่นดอกเดซี่พวกนี้ปลุกข้าตื่น” หญิงสาวยิ้มออกมาเบาๆ พลางเอามือแข็งแกร่งของชาร์ลที่กอดรัดเอวนางไว้ออก แล้วเดินเอามือไล้ดอกเดซี่ให้พลิ้วไหวตามแรงมือของนาง

   “งั้นหรอ เจ้าดอกพวกนี้งั้นรึ ปลุกเจ้าตื่น”

   “มันก็ปลุกท่านด้วยใช่หรือไม่”

   “เจ้าต่างหากที่ปลุกข้า เซรีน่า” ชาร์ลยิ้มอ่อน และเดินเข้าไปหาเซรีน่าใกล้ๆ“เจ้าชอบหรือ”

   “แน่นอน ข้าชอบ แต่…สวนนี้ ทำไมถึงปลูกดอกเดซี่เสียส่วนใหญ่ล่ะมีพันธุ์ไม้อื่นเพียงไม่กี่หย่อม”นางหันมาเอ่ยปากถามผู้เป็นสามี พลางขมวดคิ้วอย่างสงสัยใคร่รู้

   “เจ้ารู้หรือไม่ ดอกไม้ทุกดอกมีความหมาย”ชาร์ลพูด พลางดึงเซรีน่าให้ลุกขึ้นมาโอบเอวไว้เช่นเดิม

   “ข้าต้องรู้แน่”นางกวาดมือสัมผัสกับแผงอกแล้วลูบไล้เบาๆอย่างหยอกล้อ

   “นี่เจ้ากำลังยั่วข้าอยู่รึ รู้มั้ยว่าเจ้าจะโดนอะไร”ชาร์ลพูดอย่างอารมณ์ขันและแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์

   “ ตอนนี้ท่านกำลังนอกเรื่อง ท่านจะพูดอะไรกับข้านะ” เซรีน่ารีบเปลี่ยนเรื่องทันที เมื่อรู้สึกว่าเสือกำลังตื่นพร้อมจะขย้ำเหยื่อทันทีที่มันเผลอและมันคงไม่ดีแน่

   “รู้ตัวสินะ”เขาขำออกมาเบาๆกับท่าทางของผู้เป็นภรรยา แล้วยักไหล่ให้อย่างขอไปที แล้วชาร์ลก็พูดต่อ“ดอกเดซี่หมายถึงความจงรักภักดี ราชาคาเรนและราชินีแพนเทียปลูกไว้ เป็นอนุสรณ์ให้เหล่าขุนนางและข้าราชบริพารที่ภักดีต่อนาง”

   “กษัตริย์ให้ความสำคัญต่อข้ารับใช้ น่านำไปเป็นเยี่ยงอย่าง”เซรีน่าชะงักไปครู่หนึ่งเหมือนกำลังสงสัย และจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่ก็เงียบไป

   “มีอะไรรึ เซรีน่าเหมือนเจ้าสงสัย”

   “สีหน้าข้าเป็นเช่นนั้นรึ”

   “คิ้วเจ้าพันยุ่งเป็นโบว์ผูกผม”ชาร์ล ยิ้มอ่อนแต่นางกลับทำสีหน้าเคร่งเครียด

   “ท่านมาที่เมืองหลวงนี่ก็เพื่อเข้าร่วมประชุมสภาสูงเรื่องของราชินีปลงพระชนม์พระราชา”เซรีน่าเอามือที่ทาบหน้าอกของชาร์ลขึ้นมาจับคางตัวเองอย่างพินิจพิเคราะห์ “ท่านคิดว่ามันจริงหรือ ราชินีเป็นคนซื่อสัตย์นะที่ข้าได้ยินมาและเคยสัมผัส ราชินีจะทำเช่นนั้นเพื่อหวังสิ่งใด ข้ามองไม่เห็นประโยชน์กับการกระทำของนางในครั้งนี้เลยแม้แต่น้อย”

   ชาร์ลสะอึกไปเล็กน้อยกับความฉลาดของนาง ถึงนางจะไม่ได้มีความรู้หรือเก่งการเมืองมากนัก แต่นางก็ช่างสังเกตและช่างวิเคราะห์ ใครๆต่างก็รู้ว่าราชินีแพนเทีย มีความจงรักภักดีและยึดมั่นในคำสัตย์เพียงใด ข่าวการปลงพระชนม์โดยราชินีแพนเทียที่แพร่สะพัดไปยังหัวเมื่องต่างๆ ทำให้ประชาชนตกใจไม่น้อยยิ่งมหาเวทย์ทั้งแปดที่ปกครองตามเมืองต่างๆยังไม่อยากจะเชื่อ จึงเกิดการประชุมสภาสูงในเที่ยงวันนี้

   ชาร์ลรู้ทุกอย่างเรื่องทั้งหมดมันเป็นเรื่องโกหกมันเป็นแผนของท่านพ่อเขา เขาเองก็ไม่ได้เห็นดีเห็นงามกับพ่อด้วยในเรื่องนี้ แต่ก็ขัดคำสั่งท่านไม่ได้ด้วยเช่นกัน ราชินีแพนเทียเรียกได้ว่ามีพระคุณต่อครอบครัวของเขามากนัก การแต่งงานของเขากับเซรีน่าเกิดขึ้นอย่างหรูหราอย่างที่ตระกูลใหญ่ไหนๆไม่เคยจัดมาก่อน ราชินิแพนเทียและราชาคาเรนเป็นคนจัดหาให้ทุกอย่างและยังเดินทางมาอวยพรด้วยพระองค์เองถึงกาแมนวิน ยศที่แต่งตั้งให้ท่านพ่อเป็นถึงราชองครักษ์นั่นก็ถือว่ามีเกียรติอย่างสูงต่อตระกูลมากนัก ไม่เคยมีใครได้รับการแต่งตั้งให้เป็นราชองครักษ์มาก่อนนับตั้งแต่ราชองครักษ์คนล่าสุดได้ตายไปเมื่อหลายปีก่อนที่เขาจะเกิดเสียอีก

    “ ชาร์ล..ชาร์ล!”

   “อะ..อะไร”ชาร์ลสะดุ้งตื่นจากภวังค์ของตัวเอง และขานรับเสียงของเซรีน่า

   “ท่านเป็นอะไร มีอะไรในเรื่องนี้งั้นรึ”เซรีน่าถลึงตาใส่ชาร์ลทันที่ที่ชาร์ลทำท่าทีแปลกๆ

   “เจ้ารู้หรือไม่ คนที่รู้มากเกินความจำเป็นมันไม่ส่งผลดีต่อใคร”ชาร์ลโอบเอวของซารี่น่าแน่นขึ้น ชาร์ลกลัวว่านิสัยขี้สงสัยของนางจะย้อนกลับไปทำร้ายนางเอง

   เมื่อเซรีน่าได้ยินคำพูดเช่นนั้นของชาร์ล นางเองกลับตัวสั่นขึ้นมาซะดื้อๆ คำพูดของชาร์ลเพียงประโยคเดียวก็ทำให้นางรู้ได้ในทันทีว่าข่าวที่สะพัดไปทั่วมันคือข่าวลวงทั้งสิ้น นี่มันคือการกบฏ ถ้านางคิดไม่ผิดคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจากพ่อของชาร์ลเอง นางรู้…ห้าปีที่นางได้อยู่กับตระกูลนี้ ทำให้นางได้รู้อะไรหลายๆอย่างรวมถึงนิสัยใจคอของ เอ็ดเวิร์ดผู้เป็นบิดาของชาร์ลด้วย เขาไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่ใครๆคิด เรียกได้ว่าโหดเหี้ยมเชียวล่ะ

   “ข้าขอถามอีกสักข้อ แล้วข้าจะไม่ซักไซ้เรื่องนี้อีก”ชาร์ลทำสีหน้าเคร่งเครียด และครุ่นคิดอยู่เพียงคู่ก็พยักหน้าอนุญาตแทนการพูด“ตัวท่านเองและท่านตาของข้าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ใช่ไหม”

   “ข้ามีทางเลือกรึเซรีน่าและ ดยุคแห่งนอสเเซมเบียเองก็เช่นกัน…ท่านตาของเจ้าทำเพื่อเจ้าไม่ให้ตกอยู่ในอันตรายนะ…”ชาร์ลได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างอดกลั้นไว้ไม่ไหว เซรีน่าเองก็พอเข้าใจ ถึงจะเป็นห่วงผู้เป็นสามีและผู้ที่มีศักดิ์เป็นตาแท้ๆของนางแค่ใหนที่ไปพัวพันกับเรื่องนี้ แต่ถ้าเป็นนางก็ไม่มีหนทางใหนให้เลือกเช่นกัน“ได้โปรดเถอะเซรีน่า…หลังจากนี้อย่าถามเรื่องนี้และอย่าพูดถึงเรื่องนี้ให้ใครได้ยินเป็นอันขาด เจ้ารู้อะไรไหม ข้าจะเป็นบ้าตายอยู่แล้วเพราะห่วงเจ้า ท่านตาเจ้าก็เช่นกัน เจ้าอยู่กับข้าอยู่กับตระกูลข้า ก็เท่ากับอยู่ในเงื้อมมือท่านพ่อ ท่านพ่อจะบีบเจ้าให้ตายคามือของเขาเมื่อไหร่ก็ได้ ท่านตาเจ้าและตัวข้าไม่มีทางเลือกอื่น” น้ำเสียงแข็งๆของเขาเปล่งคำพูดออกมาหลายประโยคเหมือนเก็บไว้มานานและสุดจะอดกลั้น สีหน้าของชาร์ลเคร่งเครียดมากอย่างที่นางเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อน และเป็นเพราะนางเองที่เกิดอยากรู้และคาดคั้น

   “ข้าขอโทษ ข้าจะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกเด็ดขาด”นางพูดอย่างรู้สึกผิด

   “ข้ารักเจ้ามากนะเซรีน่า ข้าเป็นห่วงเจ้า แค่ข้าคิดว่าสักวันนึงเจ้าจากข้าไป ข้าคงอยู่ต่อไปไม่ได้”ชาร์ลทำสีหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่ร่อมร่อ พานให้นางรู้สึกแน่นที่อกไปด้วย

    “ข้ารู้ ข้าก็รักท่านมากไม่ต่างกัน”มือเรียวบางเอื้อมไปประคองใบหน้าของชาร์ลและลูบไล้ที่แก้มเบาๆอย่างปลอบประโลม “เราคุยเรื่องร้ายๆกันมามากแล้ว ข้ามีข่าวดีมาปิดท้าย หวังว่าท่านจะอารมณ์ดีขึ้น”อยู่ๆเซรีน่าก็พูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง ภายในดวงตาของนางสั่นระริกอย่างตื่นเต้นที่อยากจะบอก จนชาร์ลเองก็ปรับอารมณ์ตามผู้เป็นภรรยาไม่ทัน

   เซรีน่าผละออกจากมืออันแข็งแกร่งของชาร์ลแล้วดึงมือเขาให้เดินตามนางไป เซรี่น่ามาหยุดอยู่ที่บ่อดอกบัวขนาดใหญ่กลางสวนหลวง

   “ท่านรู้หรือไม่ ดอกบัวหมายถึงอะไร”เซรีน่ายิ้มจนแก้มปริ

   “ข้า…ไม่ได้รู้เยอะขนาดนั้นหรอกนะ”ชาร์ลขำนางที่ดูกำลังจะตื่นเต้นมาก หญิงสาวที่ถูกอบรมสั่งสอนมาอย่างดี ท่าทางที่สง่าและสำรวมทุกอิริยาบถตอนนี้กำลังหลุดเพราะความตื่นเต้น เขาเองก็ชักอย่างจะรู้เสียแล้วว่าเรื่องอะไร “เจ้ามีเรื่องอะไรจะพูด ก็พูดมาเถอะ ข้ารอฟังอยู่นะ”ชาร์ลพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

   “ดอกบัวเขาว่ากันว่าเปรียบเหมือนกับการเกิดใหม่ และ เหมือนกับการที่ดวงอาทิตย์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งชีวิต ลาลับฟ้าในตอนเย็นย่ำ และโผล่มาทอแสงใหม่ยามรุ่งอรุณ”

   “เจ้ากำลังบอกอะไรข้าอยู่”

   “ข้าตั้งท้องไง!”เซรีน่ายกมือขึ้นมากำแน่นแล้วยิ้มกว้าง

   “อ้อ แค่จะบอกว่าท้อง…ห๊ะ!เจ้าท้องงั้นรึ!”ชาร์ลตะโกนด้วยความตกใจเสียงดังลั่นก้องไปทั่วสวนหลวง ชาร์ลที่ตั้งรับและปรับอารมณ์ไม่ทัน ได้แต่อ้าปากค้างไว้เช่นนั้น

   “ชาร์ล…ท่านยังอยู่ไหม…อ๊าย!”เซรีน่าที่กำลังเขย่งเท้าตามความสูงของชาร์ลพลางโบกไม้โบกมือไปมาตรงหน้าคนที่อ้าปากนิ่งอึ้งไป แต่อยู่ๆชาร์ลก็โผเข้ากอดโดยที่นางไม่ทันตั้งตัวทำให้นางเซเล็กน้อย

   “ท่านเบาๆหน่อยสิ”เซรี่น่าเอ็ดเบาๆ

   “ข้ากำลังจะได้เป็นพ่อคนจริงๆหรอ”ชาร์ลพูดย้ำอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองระคนตื่นเต้น

   “อื้ม”นางตอบสั้นๆย้ำให้ชาร์ลรู้ว่านี่มันเรื่องจริง หลังจากพยายามกันมาตลอดระยะเวลาห้าปี

   “ข้ารักเจ้านะ…เซรีน่า”ชาร์ลกระชับอ้อมแขนแกร่งของเขาให้แน่นขึ้นอีกอย่างหวงแหนและรักใคร่

   “ข้าก็รักท่าน”นางกอดตอบความรักของชาร์ล มันช่างมีความสุขจนเหนือคำบรรยาย

   “เป็นข่าวดีที่สุดในชีวิตที่ข้าเคยได้รับมาเลยล่ะ”เซรีน่าขำออกมาเบาๆแล้วกอดชาร์ลแน่นขึ้น“ขอบคุณเทพทุกพระองค์ที่ประทานเจ้าให้เกิดมาอยู่เคียงข้างข้า…”

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา