ยอดสตรีฉางอิ๋ง
เขียนโดย Xiaobei
วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เวลา 17.20 น.
แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 17.21 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) รุ่ยอวี่ถัง (2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความฮูหยินผู้เฒ่าคือย่าอีกคนของซ่งไจ้สุ่ย และยังมีศักดิ์เป็นอาของฮูหยินซ่ง อาหลานทั้งสองคนนี้ในด้านโชคชะตาต่างก็ค่อนข้างน่าเสียดายมาก แต่หากเทียบกันจริงๆ แล้วฮูหยินซ่งยังถือว่าดีกว่า แม้ว่าจะต้องทุกข์ทรมานอยู่เก้าปี แต่ไม่ว่าจะเป็นเว่ยฉางอิ๋งหรือเว่ยฉางเฟิง ทั้งสองต่างก็มีร่างกายแข็งแรงและเฉลียวฉลาด จึงไม่ต้องทุกข์กับการสูญเสียบุตรธิดา ส่วนฮูหยินผู้เฒ่านั้นให้กำเนิดบุตรชายสี่คนบุตรสาวสองคน สุดท้ายที่สามารถเติบโตได้ กลับมีเพียงแค่บุตรชายคนโตอย่างเว่ยเจิ้งหงกับบุตรสาวคนที่สองอย่างเว่ยเจิ้งอินเท่านั้น
เว่ยเจิ้งอินยังดี นางเติบโตขึ้นมาอย่างธรรมดาและแต่งงานออกไปอย่างราบรื่น แต่งงานไปกับบุตรหลานของตระกูลซูแห่งชิงโจว ทุกวันนี้ติดตามสามีไปที่เมืองหลวง ตระกูลคู่ควรเหมาะสม สามีภรรยาเคารพให้เกียรติกัน อยู่ห่างไกลมาก ทั้งยังให้กำเนิดบุตรธิดาแล้วมากมาย ไม่มีอะไรให้ฮูหยินผู้เฒ่าต้องกังวลใจ
แต่ว่าบุตรชายคนเดียวของฮูหยินผู้เฒ่าซ่งที่ยังเหลือรอดชีวิตมาได้อย่างเว่ยเจิ้งหง แม้ว่าจะได้ตำแหน่งฐานะบุตรชายภรรยาเอก แต่ว่ากลับป่วยออดๆ แอดๆ ไม่เพียงแต่จะไม่สามารถให้ท่านพ่อสนับสนุนเป็นขุนนาง นำเกียรติยศมาให้ครอบครัวอย่างเหล่าพี่น้องจากอนุภรรยาเหล่านั้นได้เท่านั้น การที่เขายังมีชีวิตอยู่มาได้ถึงทุกวันนี้ ทั้งยังมีบุตรสาวบุตรชายอย่างละหนึ่งคนก็ถือว่าสวรรค์เมตตาเขามากแล้ว
จากการที่ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งให้ความรักและใส่ใจสองพี่น้องเว่ยฉางอิ๋งและเว่ยฉางเฟิง ไม่ว่าเรื่องอะไรหรือใครมาทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าไม่สบอารมณ์ แค่ได้เห็นเว่ยฉางอิ๋งเว่ยฉางเฟิง ก็ยังสามารถยิ้มออกมาได้จากใจอย่างแน่นอน
แต่ว่าคราวนี้เว่ยฉางอิ๋งกับซ่งไจ้สุ่ยจูงมือกันเข้ามาด้านใน แต่กลับพบว่าฮูหยินผู้เฒ่าซ่งมีสีหน้าเคร่งขรึม นางนั่งอยู่ภายในห้องโถงตามลำพัง แววตานางราวกับมีประกายเหี้ยมโหดและดุร้ายอันตรายขึ้นมา สาวใช้รอบด้านต่างพากันก้มหน้า เงียบสนิทกระทั่งเข็มตกยังได้ยิน!
เห็นดังนี้ ทั้งสองคนก็อดชะงักไปไม่ได้ เว่ยฉางอิ๋งถูกตามใจโดยฮูหยินผู้เฒ่าซ่งจนเคยตัวแล้ว หลังจากนิ่งไปครู่หนึ่ง ก็เดินไปด้านหน้าแล้วเรียกท่านย่าคำหนึ่งอย่างยินดีดังปกติ คิดไม่ถึงว่าเมื่อนางกับซ่งไจ้สุ่ยทำความเคารพเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งถึงจะราวกับตื่นจากภวังค์และฝืนยิ้มออกมา นางเก็บความเหี้ยมโหดบนใบหน้าไปแล้วกลับมามีท่าทีเมตตาดังปกติพลางกล่าวว่า "พวกเจ้ามาแล้วหรือ รีบนั่งลงเถอะ ระหว่างทางร้อนนัก หรูผิงไปเอาผลไม้แช่ในแท่งมา อย่าใช้การแช่แข็ง ของนั่นต่อให้อากาศร้อน แต่ว่าเด็กสาวกินมากไปก็ไม่ดี"
แม้ว่าจะเอ่ยปากเรียกหลานสาวทั้งสอง แต่ว่าน้ำเสียงของฮูหยินผู้เฒ่าซ่งก็ยังยากจะปิดบังความอ่อนเพลียเหนื่อยล้าได้
เฉินหรูผิงข้ารับใช้ที่มาพร้อมกันตอนแต่งงานกล่าวรับคำ แล้วสั่งการให้คนไปยกเอาผลไม้แช่ในแท่ง
เว่ยฉางอิ๋งกล่าว "เมื่อครู่หลานอยู่กับท่านพี่ กินผลไม้แช่แข็งไปมาก ตอนนี้ไม่ได้รู้สึกอยากกินเท่าไหร่นัก"
ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งถอนหายใจแล้วกล่าวว่า "แล้วอยากกินขนมไหม?"
"ไม่ต้องแล้ว" เว่ยฉางอิ๋งกลอกตาไปมา มองไปที่ท่านย่าอย่างสงสัย นางรู้สึกว่าวันนี้ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งไม่ปกตินักจึงถามว่า "วันนี้ท่านย่าไม่สบายหรือ?"
ซ่งไจ้สุ่ยรอให้นางกล่าวถามอย่างห่วงใยแล้วจึงกล่าวว่า "หรือท่านย่าจะเหนื่อยแล้ว?"
ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งมองไปที่พวกนาง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะรู้สึกไปเองหรือเปล่า ใบหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าราวกับกำลังทุกข์อยู่ แต่ก็ยังกล่าวออกมาว่า "เล็กน้อยน่ะ"
เว่ยฉางอิ๋งชอบทำเรื่องเอาใจท่านย่ามาตั้งแต่เล็กจนชินแล้ว จึงรีบลุกขึ้นม้วนแขนเสื้อทันทีแล้วกล่าวว่า "ข้าจะทุบขาให้ท่านย่าเอง!"
ซ่งไจ้สุ่ยเองก็กล่าวตามว่า "ข้าเองก็จะนวดไหล่ให้ท่านย่าด้วย"
เฉินหรูผิงอยู่ข้างๆ ยิ้มแล้วกล่าวว่า "ฮูหยินผู้เฒ่ามีหลานสาวที่ดีอย่างนี้ ควรดีใจถึงจะถูก ไม่ว่าอย่างไรก็ยังมีฮูหยินผู้เฒ่าอยู่ด้วย"
ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งฝืนยกมุมปากขึ้นแล้วกล่าวเสียงเรียบว่า "ใช่แล้ว ล้วนแต่เป็นเด็กดี ข้าจะต้องคุ้มครองพวกเขา"
ประโยคนี้ดูประหลาดเล็กน้อย ซ่งไจ้สุ่ยมีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้น ส่วนเว่ยฉางอิ๋งก็เงยหน้าขึ้นมองไปที่ท่านย่าอย่างสงสัย แต่ว่าฮูหยินผู้เฒ่าซ่งกลับไม่ได้บอกความหมายกับนาง ได้แต่ลูบไปที่ผมนางแล้วถาม "เมื่อครู่ไม่ใช่ว่าลวี่ฝางมาบอกว่าวันนี้เจ้าจะไม่มาแล้วหรือ แล้วทำไมถึงได้มาอีก?"
เว่ยฉางอิ๋งกำลังรอให้ท่านย่าถามเรื่องนี้อยู่พอดี นางรีบแสดงท่าทีน้อยอกน้อยใจอย่างคล่องแคล่วออกมาทันทีแล้วกล่าวว่า "เดิมทีข้าจะไม่มาแล้ว แต่ว่าตอนหลังข้าคิดถึงท่านย่า สุดท้ายก็มา"
เรื่องที่นางถูกลงโทษให้คุกเข่า แน่นอนว่าฮูหยินผู้เฒ่าซ่งนั้นรู้ดี และหากว่าเป็นตามปกติแล้ว แม้ว่าฮูหยินซ่งจะลงโทษอย่างมีเหตุผล แต่ว่าฮูหยินผู้เฒ่าซ่งก็ยังกล่าวปลอบใจนางเพราะปวดใจอยู่ดี และยังเอาของอะไรให้เป็นการปลอบขวัญอีก คราวนี้เว่ยฉางอิ๋งกำลังคิดอยู่ว่าอยากจะได้ม้าแก้วชุดนั้นบนชั้นวางของโบราณในห้องนอนดี หรือว่าจะเอากระบี่ล้ำค่าที่ขจัดความชั่วร้ายที่แขวนอยู่บนห้องโถงดี...คิดไม่ถึงว่าฮูหยินผู้เฒ่าซ่งกลับกล่าวว่า "วันนี้ฉางอิ๋งยิ่งเชื่อฟังอ่อนโยนนุ่มนวลกว่าเดิมแล้ว ต่อไปก็ต้องเป็นอย่างนี้ถึงจะดี"
"..." เว่ยฉางอิ๋งนิ่งงันไป เห็นฮูหยินผู้เฒ่าซ่งไม่ได้จะกล่าวอะไรต่ออีก จึงได้แต่ต้องกล่าวอย่างจำใจว่า "เจ้าค่ะ"
ซ่งไจ้สุ่ยเองก็แสดงท่าทีประหลาดใจออกมา กำลังนิ่งคิดอยู่ว่าทำไมวันนี้ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งถึงได้เปลี่ยนนิสัยไม่ได้เอาใจหลานสาวอย่างนั้นแล้ว ตอนนี้เองด้านนอกก็มีคนรายงานมา กล่าวว่าฮูหยินสามนำคุณหนูสี่ คุณหนูห้าและคุณชายสี่กับคุณชายเจ็ดมาคารวะ
ตอนนี้เว่ยฮ่วนมีบุตรชายทั้งหมดสี่คนบุตรสาวสามคน บุตรชายคนเล็ก เว่ยเซิ่งเหอได้ยกให้กับน้องชายต่างมารดาที่ไร้บุตรชายอย่างเว่ยโจ่ง เหล่าบุตรสาวต่างก็แต่งงานหมดแล้ว เพราะเว่ยเจิ้งหงบุตรชายจากภรรยาเอกป่วยมานาน เว่ยฮ่วนจึงได้แต่ต้องบ่มเพาะเว่ยเซิ่งอี๋บุตรชายคนรองและเว่ยเซิ่งเหนียนบุตรชายคนที่สามจากอนุภรรยาอย่างเต็มที่แทน
แต่ว่าเว่ยเซิ่งเหนียนบุตรคนที่สามมีความสามารถธรรมดาทั่วไป เว่ยฮ่วนกังวลว่าเมื่อตนเองเกษียณกลับมาแล้วการที่เอาเขาไว้ที่เมืองหลวงจะไม่ใช่เรื่องดี จึงให้เขาลาออกจากขุนนางและอ้างว่ากลับมาเลี้ยงบิดา ทุกวันนี้ตำแหน่งผู้ตรวจการเฟิ่งโจวก็เป็นตัวเขาที่ไปคอยแนะนำอย่างใกล้ชิด กลับเป็นบุตรคนรองอย่างเว่ยเซิ่งอี๋ที่รับเอาความเฉลียวฉลาดจากเว่ยฮ่วนไปทั้งหมด ทำให้เว่ยฮ่วนวางใจและให้เขาอยู่เผชิญหน้าที่เมืองหลวงตามลำพัง
เว่ยเซิ่งอี๋อยู่ที่เมืองหลวง ภรรยาและครอบครัวต่างก็ไม่ได้กลับมาที่เฟิ่งโจว ทุกวันนี้ในรุ่ยอวี่ถังมีเพียงแค่บ้านใหญ่และบ้านสามเท่านั้น ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งถือกำเนิดในตระกูลมีชื่อเสียง และยังแต่งงานกับลูกหลานในตระกูลที่มีประวัติยาวนานเช่นกันด้วย จึงให้ความสำคัญกับกฎพิธีมารยาทมาก นอกจากหลานแท้ๆ ทั้งสองคนที่ได้รับการปล่อยปละจากนางแล้ว ผู้น้อยคนอื่นๆ ที่เหลืออยู่ต่อหน้านางกระทั่งหายใจยังไม่กล้าหายใจแรงเลย
แม้ว่าจะต้องมาคารวะทุกวัน แต่นอกจากเว่ยฉางอิ๋งกับเว่ยฉางเฟิงแล้ว ใครก็ไม่กล้าเข้ามาอย่างบุ่มบ่ามโดยไม่มีการรายงาน จะต้องมีการรายงานให้ฮูหยินผู้เฒ่าพยักหน้าก่อนถึงจะกล้าเข้ามา คราวนี้ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวรับแล้ว ผ่านไปครู่หนึ่ง ถึงได้กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจว่า "เรียกเข้ามาเถอะ"
สาวใช้ออกไปถ่ายทอดคำ ฮูหยินสามก็เดินนำหลานทั้งสี่เข้ามาตามลำดับอายุ พร้อมเดินตามสาวใช้เข้ามา แม้ว่าจะมีคนกลุ่มใหญ่เข้ามา แต่ว่าการเคลื่อนไหวกลับเบามาก ได้ยินเพียงเสียงเสื้อผ้าเบาๆ เท่านั้น ระหว่างนั้นไม่มีกระทั่งเสียงแก้วกระทบกัน เห็นได้ชัดว่าบุตรหลานของตระกูลเว่ยมีมารยาทที่เข้มงวดขนาดไหน
ตระกูลที่มีอายุหลายร้อยปี ต่อต้านการแต่งงานที่ต่างกันที่สุด แน่นอนว่าฮูหยินสามเองก็มาจากตระกูลมีชื่อ ฝั่งแม่ของนาง ตระกูลเผยรุ่งเรืองมาไม่ถึงร้อยปี เพราะรุ่นท่านปู่ของนางเคยรับตำแหน่งราชครูฝ่ายบู๊จึงนับว่าเป็นตระกูลเกาเหลียง ส่วนในยุคของท่านพ่อและนาง ตำแหน่งขุนนางที่สูงที่สุดก็เพียงเสนาธิการเท่านั้น ตกอยู่ในอันตรายกำลังจะร่วงลงไปยังแซ่เจี่ยอยู่ร่ำไรแล้ว อย่างไรขุมกำลังก็ยังไม่หนาแน่นเท่าตระกูลเว่ย ดังนั้นแม้ว่าเว่ยเซิ่งเหนียนจะเป็นบุตรจากอนุภรรยา แต่ฮูหยินสามก็ยังถือว่าแต่งเข้าในตระกูลสูง
และเพราะอย่างนี้ ฮูหยินสามจึงเป็นผู้ที่เข้มงวดในมารยาทพิธีการมากที่สุดในสะใภ้ทั้งสามคน ไม่เพียงแต่จะมาคารวะทุกวันเท่านั้น ยังไม่มีการแบ่งแยกสายบุตรธิดาภรรยาเอกและอนุภรรยาในสายของตัวเองด้วย นางชี้แนะอบรมสั่งสอนอย่างตั้งใจ เกรงว่าเหล่าญาติพี่น้องจะหัวเราะตระกูลฝั่งแม่นางที่ขุมกำลังเปราะบาง ทำให้เป็นสะใภ้ตระกูลเว่ยไม่ได้
นางเผยคนนี้มีรูปโฉมสะอาดเกลี้ยงเกลา มีความงดงามอยู่หลายส่วน นางคารวะให้ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งด้วยท่าทีประณีตเชื่องช้า ตอนนี้เว่ยฉางอิ๋งและซ่งไจ้สุ่ยเองก็หยุดทุบขาและนวดไหล่ให้ฮูหยินผู้เฒ่าแล้ว พวกนางต่างถอยกันไปอีกด้านแล้วคารวะ
ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งบอกให้ลุกขึ้น ทุกคนถึงได้ยืนตรงพร้อมกันด้วยท่วงท่าที่ตรงตามมาตรฐานและพร้อมเพรียง
เมื่อลุกขึ้นแล้ว นางเผยก็มองเห็นว่าสีหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าซ่งนั้นไม่ดีนัก ในใจก็ลอบกระตุกขึ้นมา นางไม่ได้เพิ่งจะแต่งงานเข้ามาอย่างตอนนั้นแล้ว นางเข้าใจความลึกซึ้งของแม่สามีคนนี้ดี ยามปกติแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่ามักจะไม่แสดงอารมณ์ออกมาทางสีหน้า
พูดอีกอย่างก็คือ สามารถทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งแสดงโทสะได้ จะต้องไม่ใช่เรื่องเล็กแน่นอน
ในใจของนางเผยคิดกลับไปกลับมา ใครทำให้โมโหอย่างนี้กัน? เดิมวันนี้นางมีเรื่องอยากจะขอให้ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งชี้แนะ มาตอนนี้กลับไม่รู้แล้วว่าควรจะพูดหรือไม่พูดออกไปดี
.........................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ