Mention Of Love (รัก)
-
เขียนโดย Nanpm
วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เวลา 20.52 น.
12 ตอน
0 วิจารณ์
10.27K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 21.03 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) แทนใจ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ หลังเลิกเรียนขณะที่เต้เดินจูงจักรยานกลับบ้านพร้อมกับว่าน ชายหนุ่มเห็นหญิงสาวทำหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก
“เป็นอะไรหรือเปล่าว่าน” ชายหนุ่มถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“ไม่มีอะไร แต่จริง ๆ ก็มีนะ เรากำลังคิดว่าเราเป็นเพื่อนกัน แล้วทำไมต้องโกหกกันด้วย” หญิงสาวตอบแล้วหยุดเดินหันมาจ้องหน้าชายหนุ่มด้วยความรู้สึกไม่พอใจ
“ว่านพูดถึงอะไร เราไม่เข้าใจ” ชายหนุ่มถามกลับเพราะไม่รู้ว่าเขาทำอะไรให้หญิงสาวไม่พอใจ
“ก็เรื่องเมื่อเช้า เราเห็นนะ ว่าพัทเดินมาแต่เต้กลับดึงพัทไปที่อื่น ตอบมาตามตรงว่าเต้ไปคุยอะไรกับพัท มันเกี่ยวอะไรกับเราหรือเปล่าถึงไม่ยอมคุยต่อหน้าเรา” ว่านเริ่มถามชุดใหญ่
“ไม่มีอะไรหรอก ไม่มีเรื่องอะไรเกี่ยวกับว่านเลย อย่าคิดมาก” เต้ตอบปฏิเสธแต่ดูเหมือนจะไม่เนียน
“เอาเถอะ ถึงเราจะรู้ว่านายโกหก แต่ไม่เป็นไร เราก็หวังว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้ายนะ” ว่านพูดขึ้น ทำให้เต้รู้สึกละอายใจอย่างบอกไม่ถูก แต่เขาไม่อยากให้หญิงสาวรู้เรื่องนี้เพราะมันอาจจะทำให้เธอไม่พอใจเขามากยิ่งขึ้น
ว่านไม่ยอมพูดกับเต้อีกเลยจนเดินถึงบ้านของเธอ หญิงสาวรีบเดินเข้าบ้านโดยไม่หันกลับมามองชายหนุ่มที่ยืนทำหน้าเศร้า ซึ่งเขารู้ว่าตอนนี้หญิงสาวกำลังโกรธเขาอยู่
ลูกหว้าและว่านกำลังช่วยแม่ของพวกเธอจัดกระเป๋าเสื้อผ้าเพื่อไปเชียงใหม่ ว่านยังบ่นอยู่ว่าอยากไปกับแม่ด้วย พี่หว้าหันมายิ้มด้วยความเอ็นดูน้องสาวของเธอที่ยังไม่ยอมรู้จักโตเสียที
“เสร็จแล้วค่ะ เดี๋ยวว่านลงไปหาอะไรกินเล่นข้างล่างก่อนนะคะ” ว่านบอกแม่และพี่สาวของเธอ แล้วหญิงสาวก็เดินลงมาที่ชั้นล่างเพื่อหาอะไรในตู้เย็นออกมารับประทาน เธอเดินกลับมานั่งที่โซฟาหน้าทีวี แล้วเสียงมือถือของเธอก็ดังขึ้น
“ฮัลโหลว่าน อิงเองนะ” เสียงปลายสายพูดขึ้นหลังจากที่ว่านรับสาย
“อะไรนะ จะไปพัทยาเหรอคะ เอ่อ! ว่านต้องขออนุญาตแม่กับพี่สาวก่อนนะ” หญิงสาวตอบเมื่อชายหนุ่มชวนเธอไปเป็นแบบวาดภาพที่พัทยา
“แล้วพรุ่งนี้ เราจะไปรับคำตอบที่มหาวิทยาลัยนะ ฝันดีนะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยลาแล้ววางสายไป
หญิงสาวนั่งคิดอยู่พักหนึ่งว่าจะขออนุญาตยังไงกับแม่และพี่สาว เพราะเธออยากไปเป็นแบบให้ชายหนุ่มแต่ก็กลัวแม่กับพี่หว้าจะไม่อนุญาต
“แม่คะ เสาร์นี้เพื่อนว่านอยากชวนไปพัทยาไปวาดภาพส่งอาจารย์ค่ะ แต่ไปเช้าเย็นกลับนะคะ แล้วไปกันหลายคนด้วย ว่านไปได้ใช่ไหมคะ” ว่านพยายามอธิบายและขอร้องให้แม่ของเธอ
“เต้ไปด้วยไหม” แม่ของหญิงสาวถามขึ้น
“เต้ไม่ได้ไปค่ะ พอดีเป็นเพื่อน ๆ ต่างคณะน่ะค่ะ สัญญานะคะว่าว่านจะดูแลตัวเองให้ดี ไม่ได้ค้างคืนด้วย” ว่านยังคงทำหน้าเว้าวอน
“แม่ให้ว่านไปเถอะค่ะ น้องก็โตแล้ว ลองให้อิสระดูบ้างก็ได้ค่ะ ยังไงก็คอยโทรรายงานพี่ด้วยทุกระยะนะจ๊ะสาวน้อย” ลูกหว้าช่วยขอร้องและย้ำให้หญิงสาวปฏิบัติตามที่เธอบอก แม่จึงใจอ่อนอนุญาตให้ว่านไปเที่ยวพัทยากับเพื่อนได้
“เดินทางดี ๆ นะคะแม่ อย่าลืมของฝากว่านด้วยนะ”
ว่านกับลูกหว้ายืนส่งแม่ของเธอขึ้นรถไปเชียงใหม่กับเพื่อน ๆ ของแม่ หญิงสาวทั้งสองโบกมือลาแล้วเดินกลับเข้าบ้าน
“พี่ถามจริง ๆ ว่านไม่ได้ไปกับเต้ ว่านไปกับเพื่อนคนไหน” ลูกหว้าเริ่มเปิดประเด็นขึ้นมา
“พี่หว้า ว่านขอโทษที่ต้องโกหกแม่ว่าไปกันหลายคน คือว่านจะไปกับอิงน่ะค่ะ แต่ว่านรับรองว่าจะไม่มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแน่นอน” ว่านรีบยืนยันกับพี่สาวของเธอ
“ระวังตัวหน่อยแล้วกัน ถ้าว่าง ๆ ก็พาเขามาที่บ้านบ้างสิ” ลูกหว้าพอรู้ว่าน้องสาวน่าจะชอบพอกับผู้ชายคนนี้จึงอยากให้น้องสาวพามาแนะนำให้รู้จักไว้บ้าง
“ค่ะ เต้มาแล้ว ว่านไปเรียนก่อนนะคะ” ว่านรับคำแล้วเดินออกไปหาเต้ที่หน้าบ้าน
เมื่อว่านและเต้มาถึงมหาวิทยาลัยพัทก็วิ่งมาขวางทางทั้งคู่ไว้ที่หน้าคณะ และบอกว่ามีคนมารอพบว่าน ซึ่งก็คือชายหนุ่มที่เดินตามหลังพัทมานั่นเอง หญิงสาวมองไปที่ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างหลังเพื่อนสาวของเธอแล้วยิ้มให้กับเขา
“เดี๋ยวเราขอไปคุยกับอิงก่อนนะ พวกเธอเข้าห้องเรียนไปก่อนก็ได้” ว่านรีบบอกเพื่อนทั้งสองของเธอ
“โอเค รีบตามมานะ” พัทตอบตกลงแล้วพยายามดึงแขนเต้ให้รีบเดินตามเธอเข้าห้องเรียน
“เราไปนั่งคุยตรงนู้นไหม” อิงชี้มือไปตรงเก้าอี้ใต้ต้นไม้ข้าง ๆ คณะเรียน แล้วทั้งคู่ก็พากันเดินไปนั่ง
“เรามาเอาคำตอบจากว่าน ตกลงพรุ่งนี้ไปได้ใช่ไหม” อิงรีบถามเพราะต้องการคำตอบจากหญิงสาว ซึ่งในใจก็หวังว่าจะได้รับคำตอบที่ดี
“วันเสาร์จะไปรับกี่โมงคะ” ว่านไม่ตอบแต่เธอถามชายหนุ่มกลับ
“แสดงว่าตกลงไปได้ใช่ไหมครับ” อิงพูดออกมาด้วยความดีใจ
หญิงสาวพยักหน้าแล้วยิ้มออกมา และเมื่อทั้งคู่นัดเวลากันเรียบร้อยแล้ว ก็ต่างแยกย้ายกันไปเข้าเรียน
หลังเลิกเรียนเต้ขอตัวกลับก่อนเพราะต้องรีบไปรับแม่ของเขาที่โรงพยาบาล เนื่องจากวันนี้แม่มีนัดกับอาหมอเพื่อเช็กอาการอีกรอบ ชายหนุ่มจึงบอกขอโทษที่ไม่ได้กลับบ้านพร้อมกับว่านวันนี้
“รีบไปเถอะเดี๋ยวคุณน้ารอนาน ว่านขอนั่งอ่านหนังสือกับพัทสักพักเดี๋ยวก็กลับแล้ว” ว่านบอกให้เต้รีบไป
พอชายหนุ่มแยกตัวออกไปแล้ว พัทรีบถามว่านขึ้นมาทันที
“เมื่อเช้านี้ อิงมาคุยเรื่องกับว่านอะไรเหรอ บอกกันบ้างสิ” พัททำหน้าอยากรู้อยากเห็นจนว่านขำออกมา
“อิงชวนเราให้ไปเป็นแบบที่ทะเลแถวพัทยาวันเสาร์นี้น่ะ” ว่านตอบเพื่อนของเธอ
“อะไรนะ! อิงให้เธอไปเป็นแบบ แล้วไปกันสองคนเหรอ ยังไง ๆ” พัทส่งเสียงดังออกมา
“เบา ๆ ก็ได้ยั้ยพัท คนมองกันใหญ่แล้ว แค่ไปเช้าเย็นกลับเอง ไม่มีอะไรหรอก” ว่านพูดขึ้นเมื่อเห็นพัทพูดเสียงดังจนคนแถวนั้นหันมามอง
“แหม! ไปสวีทกันไม่คิดจะชวนเราเลย” พัทพูดแล้วทำท่าเหมือนน้อยใจ
“ไปด้วยกันไหมล่ะ เดี๋ยวเราบอกอิงให้” ว่านหันมาง้อเพื่อนสาว
“ไม่เอาอะ ไม่อยากเป็นก้าง” พัทพูดแล้วหัวเราะเมื่อเห็นว่านทำหน้าเหมือนเขินที่เธอแซว
เต้มาถึงโรงพยาบาล พอดีกับที่ชายหนุ่มคนหนึ่งมาเยี่ยมใครบางคน เต้รีบแอบเดินตามเขาไปห่าง ๆ โดยที่ชายหนุ่มคนนั้นไม่ทันสังเกตจนเขาเดินเข้าห้องไป เต้จึงเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องนั้นแล้วอ่านชื่อคนไข้ที่ติดอยู่ที่หน้าห้อง “นางสาวลินลดา จินดา”
“ขอโทษนะคะ มาเยี่ยมคนไข้หรือเปล่าคะ” พยาบาลสาวเข็นรถยามาที่หน้าห้องที่เต้ยืนอยู่
“น่าจะมาผิดห้องน่ะครับ ขอโทษด้วยครับ” เต้กล่าวขอโทษแล้วรีบเดินไปหาแม่ของเขาที่รออยู่ชั้นล่าง
เต้พาแม่ขึ้นแท็กซี่กลับบ้านระหว่างทางเขานั่งครุ่นคิดว่าหญิงสาวที่นอนป่วยอยู่ในห้องนั้นเป็นใครแล้วเกี่ยวข้องอะไรกับอิง เขาก็หวังว่าคงไม่เป็นอย่างที่เขาสังหรณ์ใจ
ว่านได้ยินกริ่งดังที่หน้าบ้าน หญิงสาวชะโงกหน้าออกไปดูก็พบว่าเป็นชายหนุ่มที่นัดกันไว้มารับเธอแล้ว ว่านรีบหยิบกระเป๋าสะพายแล้วเดินออกมาที่หน้าบ้านโดยมีพี่หว้าเดินตามมาส่ง
“สวัสดีครับ” อิงยกมือไหว้แล้วทักทายพี่หว้า
“พี่หว้านี่อิงค่ะ อิงนี่พี่สาวว่านชื่อพี่ลูกหว้า” หญิงสาวแนะนำให้พี่สาวและชายหนุ่มได้รู้จักกัน
“ว่านไปก่อนนะคะ” ว่านบอกลาแล้วโบกมือลาพี่สาวของเธอ
อิงพาหญิงสาวแวะรับประทานอาหารระหว่างทางแล้วจากนั้นเขาก็ขับรถต่อเพื่อมุ่งหน้าสู่พัทยา และเมื่อมาถึงจุดหมายอิงพาว่านเดินเข้ามาในรีสอร์ตของเพื่อนพ่อซึ่งเขาขออนุญาตเปิดหนึ่งห้องเผื่อไว้เปลี่ยนเสื้อผ้าหลังจากเล่นน้ำทะเล
“ว่านยืนตรงนั้นนะ” อิงจัดอุปกรณ์สำหรับวาดภาพทุกอย่างเรียบร้อยก็บอกให้หญิงสาวไปยืนตรงจุดที่เขาบอก
ชายหนุ่มเริ่มลงมือวาดภาพของหญิงสาวที่ยืนอยู่ริมทะเล ว่านยืนเป็นแบบเกือบชั่วโมงท่ามกลางแดดอันร้อน อิงเห็นว่าว่านยืนนานแล้วน่าจะร้อนและเมื่อยจึงให้หญิงสาวมานั่งพักในร่มก่อน
“อะไรเนี่ย เห็นอิงวาดตั้งนาน ทำไมเห็นแค่ด้านข้าง” ว่านพูดแล้วทำหน้าเหมือนเซ็ง ๆ แล้วทรุดตัวนั่งลงไปกับพื้นทราย
ชายหนุ่มหัวเราะชอบใจเมื่อเห็นอาการหญิงสาวงอน ๆ
“ลุกขึ้นเร็ว เราไปขับเจ็ทสกีเล่นกันดีกว่า” ชายหนุ่มยื่นมือให้หญิงสาวจับเพื่อดึงให้เธอลุกขึ้นยืน หญิงสาวยิ้มแล้วยื่นมือออกไปจับมือของชายหนุ่ม แล้วทั้งคู่ก็เดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้อง
“ว่านขับไม่เป็นนะ” หญิงสาวเอ่ยขึ้น
“ง่ายนิดเดียวเอง เดี๋ยวเราสอนให้” อิงพูดแล้วให้หญิงสาวนั่งซ้อนท้ายเขาก่อนแล้วขับออกไปในทะเล
“ว่านขอลองดูได้ไหม” ว่านอยากลองขับบ้าง
ทั้งคู่ขับเจ็ทสกีกันได้สักพักก็ลงมาวิ่งเล่นไล่จับกันริมทะเล ชายหนุ่มเผลอวิ่งสะดุดทำให้ล้มไปโดนว่าน ด้วยความที่เขากลัวว่าตัวหญิงสาวจะกระแทกพื้นก็รีบคว้าตัวเธอไว้ แล้วทั้งคู่ก็นอนลงบนพื้นทรายโดยที่ตัวของหญิงสาวอยู่ด้านบนตัวของชายหนุ่ม เธอและเขาสัมผัสได้ถึงหัวใจของคนทั้งคู่ที่กำลังเต้นแรง หญิงสาวเงยหน้ามองหน้าชายหนุ่มที่นอนกอดเธออยู่ เธอสบตากับเขาอยู่พักหนึ่ง
“หนักไหม” หญิงสาวพูดขึ้นมา
“ว่าน” ชายหนุ่มเรียกชื่อหญิงสาวเพราะรู้สึกว่าเวลากำลังซึ้งเช่นนี้เธอกลับทำให้เขารู้สึกขำแทนได้อย่างไร แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน
ว่านรีบลุกขึ้นยืนแล้วยื่นมือให้ชายหนุ่มจับเพื่อให้เขาลุกขึ้นมาเช่นกัน
“ไปอาบน้ำกัน” อิงพูดขึ้นทำให้ว่านหยุดเดินแล้วหันมามองหน้าเขาด้วยความรู้สึกตกใจ
“ไม่ใช่อย่างงั้น เราหมายถึงต่างคนต่างอาบ จะได้กลับกัน” ชายหนุ่มรีบแก้เมื่อเห็นว่าหญิงสาวน่าจะเข้าใจคำพูดของเขาผิด
“อ๋อ! แต่เราไม่ได้ว่าอะไรเลยนะ” หญิงสาวพูดแล้วอมยิ้ม
หลังจากที่ว่านกับอิงอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและเก็บอุปกรณ์วาดรูปใส่รถเรียบร้อย ระหว่างทางขับรถกลับพวกเขาก็แวะซื้อของฝากเพื่อนำไปฝากคนที่บ้านของตน
“อิง จอดใกล้สะพานตรงนั้นก่อนนะ” ว่านบอกให้ชายหนุ่มหยุดรถ แล้วเธอก็เดินลงจากรถโดยมีชายหนุ่มเดินตามหลังเธอมา
หญิงสาวยืนมองเรือที่แล่นผ่านไปในแม่น้ำ ชายหนุ่มมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
“พระจันทร์สวยดีนะ” อิงพูดขึ้นเมื่อเห็นพระจันทร์ดวงกลมโตอยู่บนท้องฟ้า
“อืม ใช่ สวยมากเลย” ว่านเห็นด้วย
หญิงสาวก้มมองที่มือของตัวเอง แล้วค่อย ๆ ถอดแหวนเงินเกลี้ยงที่นิ้วนางข้างขวาเธอออกมาและชูมันขึ้นเทียบกับพระจันทร์บนฟ้า
“แหวนวงนี้เป็นแหวนวงแรกที่ว่านได้เป็นของขวัญ เมื่อก่อนเราใส่ไม่ได้มันหลวมมาก แต่เราเห็นแล้วอยากได้มาก พ่อก็เลยซื้อให้แต่เอามันใส่ที่สร้อยแล้วห้อยคอแทน” ชายหนุ่มหันมามองหญิงสาวที่กำลังพูดถึงแหวนในมือของเธอด้วยความรู้สึกมีความสุข
“มันดูไม่ค่อยมีราคาเท่าไหร่ แต่มันมีค่าทางจิตใจของเรามากเลยนะ” หญิงสาวหยุดนิ่งครู่หนึ่งแล้วยิ้มออกมา
ว่านหันมาหาชายหนุ่มที่ยืนข้าง ๆ เธอ แล้วจับมือของเขาแบออกและวางแหวนไว้ในมือของเขา
“เราอยากให้กับคนที่มีค่ากับเรา เก็บไว้ดี ๆ นะ มันคือหัวใจของเรา”
ชายหนุ่มยืนอึ้งกับสิ่งที่หญิงสาวมอบให้และคำพูดที่เธอได้พูดเมื่อครู่ ก่อนที่ยิ้มให้กับเธอแล้วกำแหวนนั้นไว้
“เราจะเก็บรักษามันไว้อย่างดี” ชายหนุ่มตอบรับหญิงสาวด้วยความรู้สึกไม่ต่างจากเธอ
“กลับกันเถอะ ว่านกลัวพี่หว้ารอนาน” หญิงสาวพูดขึ้น
“ไปสิ” อิงพยักหน้ารับแล้วเดินจับมือหญิงสาวแล้วพาเธอกลับไปที่รถเพื่อจะไปส่งเธอที่บ้าน
“ว่าไงไปเที่ยวกับหนุ่มหล่อมาสนุกไหม” ลูกหว้าถามน้องสาวของเธอขึ้นมา
“สนุกดีนะคะ” ว่านตอบแล้วยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงเรื่องราวดี ๆ ในวันนี้
“ยิ้มหวานคนเดียว คืนนี้ฝันหวานแน่ ๆ” ลูกหว้าแซวน้องสาวของเธอ ทำให้หญิงสาวรู้สึกเขินขึ้นมา
“พี่หว้า ว่านง่วงแล้วนอนดีกว่า” หญิงสาวรีบล้มตัวลงนอนเพื่อแก้เขินแต่เธอยังคงนอนยิ้มอยู่คนเดียว
สำหรับอิงเมื่อถึงบ้านก็หยิบแหวนมาลองใส่นิ้วของเขาซึ่งมันคงดูเล็กไปสำหรับนิ้วนางของเขา ดังนั้นชายหนุ่มจึงเอาใส่ไว้ที่สร้อยแล้วห้อยคอของเขา อิงยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงหน้าของหญิงสาวที่ให้แหวนวงนี้มา
ถึงแม้มันจะดึกแล้วชายหนุ่มยังไม่อยากนอนเลยหยิบเปลือกหอยที่เก็บมาร้อยเป็นโมบายเพื่อนำไปเป็นของฝากสำหรับลินที่ยังนอนพักอยู่ที่โรงพยาบาล
แล้วความรักของชายหนุ่มจะเป็นยังไงต่อ ในเมื่อตอนนี้เขามีผู้หญิงที่รักเขาถึงสองคน แล้วเขารักใครและจะเลือกใคร เฮ้อ!
“เป็นอะไรหรือเปล่าว่าน” ชายหนุ่มถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“ไม่มีอะไร แต่จริง ๆ ก็มีนะ เรากำลังคิดว่าเราเป็นเพื่อนกัน แล้วทำไมต้องโกหกกันด้วย” หญิงสาวตอบแล้วหยุดเดินหันมาจ้องหน้าชายหนุ่มด้วยความรู้สึกไม่พอใจ
“ว่านพูดถึงอะไร เราไม่เข้าใจ” ชายหนุ่มถามกลับเพราะไม่รู้ว่าเขาทำอะไรให้หญิงสาวไม่พอใจ
“ก็เรื่องเมื่อเช้า เราเห็นนะ ว่าพัทเดินมาแต่เต้กลับดึงพัทไปที่อื่น ตอบมาตามตรงว่าเต้ไปคุยอะไรกับพัท มันเกี่ยวอะไรกับเราหรือเปล่าถึงไม่ยอมคุยต่อหน้าเรา” ว่านเริ่มถามชุดใหญ่
“ไม่มีอะไรหรอก ไม่มีเรื่องอะไรเกี่ยวกับว่านเลย อย่าคิดมาก” เต้ตอบปฏิเสธแต่ดูเหมือนจะไม่เนียน
“เอาเถอะ ถึงเราจะรู้ว่านายโกหก แต่ไม่เป็นไร เราก็หวังว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้ายนะ” ว่านพูดขึ้น ทำให้เต้รู้สึกละอายใจอย่างบอกไม่ถูก แต่เขาไม่อยากให้หญิงสาวรู้เรื่องนี้เพราะมันอาจจะทำให้เธอไม่พอใจเขามากยิ่งขึ้น
ว่านไม่ยอมพูดกับเต้อีกเลยจนเดินถึงบ้านของเธอ หญิงสาวรีบเดินเข้าบ้านโดยไม่หันกลับมามองชายหนุ่มที่ยืนทำหน้าเศร้า ซึ่งเขารู้ว่าตอนนี้หญิงสาวกำลังโกรธเขาอยู่
ลูกหว้าและว่านกำลังช่วยแม่ของพวกเธอจัดกระเป๋าเสื้อผ้าเพื่อไปเชียงใหม่ ว่านยังบ่นอยู่ว่าอยากไปกับแม่ด้วย พี่หว้าหันมายิ้มด้วยความเอ็นดูน้องสาวของเธอที่ยังไม่ยอมรู้จักโตเสียที
“เสร็จแล้วค่ะ เดี๋ยวว่านลงไปหาอะไรกินเล่นข้างล่างก่อนนะคะ” ว่านบอกแม่และพี่สาวของเธอ แล้วหญิงสาวก็เดินลงมาที่ชั้นล่างเพื่อหาอะไรในตู้เย็นออกมารับประทาน เธอเดินกลับมานั่งที่โซฟาหน้าทีวี แล้วเสียงมือถือของเธอก็ดังขึ้น
“ฮัลโหลว่าน อิงเองนะ” เสียงปลายสายพูดขึ้นหลังจากที่ว่านรับสาย
“อะไรนะ จะไปพัทยาเหรอคะ เอ่อ! ว่านต้องขออนุญาตแม่กับพี่สาวก่อนนะ” หญิงสาวตอบเมื่อชายหนุ่มชวนเธอไปเป็นแบบวาดภาพที่พัทยา
“แล้วพรุ่งนี้ เราจะไปรับคำตอบที่มหาวิทยาลัยนะ ฝันดีนะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยลาแล้ววางสายไป
หญิงสาวนั่งคิดอยู่พักหนึ่งว่าจะขออนุญาตยังไงกับแม่และพี่สาว เพราะเธออยากไปเป็นแบบให้ชายหนุ่มแต่ก็กลัวแม่กับพี่หว้าจะไม่อนุญาต
“แม่คะ เสาร์นี้เพื่อนว่านอยากชวนไปพัทยาไปวาดภาพส่งอาจารย์ค่ะ แต่ไปเช้าเย็นกลับนะคะ แล้วไปกันหลายคนด้วย ว่านไปได้ใช่ไหมคะ” ว่านพยายามอธิบายและขอร้องให้แม่ของเธอ
“เต้ไปด้วยไหม” แม่ของหญิงสาวถามขึ้น
“เต้ไม่ได้ไปค่ะ พอดีเป็นเพื่อน ๆ ต่างคณะน่ะค่ะ สัญญานะคะว่าว่านจะดูแลตัวเองให้ดี ไม่ได้ค้างคืนด้วย” ว่านยังคงทำหน้าเว้าวอน
“แม่ให้ว่านไปเถอะค่ะ น้องก็โตแล้ว ลองให้อิสระดูบ้างก็ได้ค่ะ ยังไงก็คอยโทรรายงานพี่ด้วยทุกระยะนะจ๊ะสาวน้อย” ลูกหว้าช่วยขอร้องและย้ำให้หญิงสาวปฏิบัติตามที่เธอบอก แม่จึงใจอ่อนอนุญาตให้ว่านไปเที่ยวพัทยากับเพื่อนได้
“เดินทางดี ๆ นะคะแม่ อย่าลืมของฝากว่านด้วยนะ”
ว่านกับลูกหว้ายืนส่งแม่ของเธอขึ้นรถไปเชียงใหม่กับเพื่อน ๆ ของแม่ หญิงสาวทั้งสองโบกมือลาแล้วเดินกลับเข้าบ้าน
“พี่ถามจริง ๆ ว่านไม่ได้ไปกับเต้ ว่านไปกับเพื่อนคนไหน” ลูกหว้าเริ่มเปิดประเด็นขึ้นมา
“พี่หว้า ว่านขอโทษที่ต้องโกหกแม่ว่าไปกันหลายคน คือว่านจะไปกับอิงน่ะค่ะ แต่ว่านรับรองว่าจะไม่มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแน่นอน” ว่านรีบยืนยันกับพี่สาวของเธอ
“ระวังตัวหน่อยแล้วกัน ถ้าว่าง ๆ ก็พาเขามาที่บ้านบ้างสิ” ลูกหว้าพอรู้ว่าน้องสาวน่าจะชอบพอกับผู้ชายคนนี้จึงอยากให้น้องสาวพามาแนะนำให้รู้จักไว้บ้าง
“ค่ะ เต้มาแล้ว ว่านไปเรียนก่อนนะคะ” ว่านรับคำแล้วเดินออกไปหาเต้ที่หน้าบ้าน
เมื่อว่านและเต้มาถึงมหาวิทยาลัยพัทก็วิ่งมาขวางทางทั้งคู่ไว้ที่หน้าคณะ และบอกว่ามีคนมารอพบว่าน ซึ่งก็คือชายหนุ่มที่เดินตามหลังพัทมานั่นเอง หญิงสาวมองไปที่ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างหลังเพื่อนสาวของเธอแล้วยิ้มให้กับเขา
“เดี๋ยวเราขอไปคุยกับอิงก่อนนะ พวกเธอเข้าห้องเรียนไปก่อนก็ได้” ว่านรีบบอกเพื่อนทั้งสองของเธอ
“โอเค รีบตามมานะ” พัทตอบตกลงแล้วพยายามดึงแขนเต้ให้รีบเดินตามเธอเข้าห้องเรียน
“เราไปนั่งคุยตรงนู้นไหม” อิงชี้มือไปตรงเก้าอี้ใต้ต้นไม้ข้าง ๆ คณะเรียน แล้วทั้งคู่ก็พากันเดินไปนั่ง
“เรามาเอาคำตอบจากว่าน ตกลงพรุ่งนี้ไปได้ใช่ไหม” อิงรีบถามเพราะต้องการคำตอบจากหญิงสาว ซึ่งในใจก็หวังว่าจะได้รับคำตอบที่ดี
“วันเสาร์จะไปรับกี่โมงคะ” ว่านไม่ตอบแต่เธอถามชายหนุ่มกลับ
“แสดงว่าตกลงไปได้ใช่ไหมครับ” อิงพูดออกมาด้วยความดีใจ
หญิงสาวพยักหน้าแล้วยิ้มออกมา และเมื่อทั้งคู่นัดเวลากันเรียบร้อยแล้ว ก็ต่างแยกย้ายกันไปเข้าเรียน
หลังเลิกเรียนเต้ขอตัวกลับก่อนเพราะต้องรีบไปรับแม่ของเขาที่โรงพยาบาล เนื่องจากวันนี้แม่มีนัดกับอาหมอเพื่อเช็กอาการอีกรอบ ชายหนุ่มจึงบอกขอโทษที่ไม่ได้กลับบ้านพร้อมกับว่านวันนี้
“รีบไปเถอะเดี๋ยวคุณน้ารอนาน ว่านขอนั่งอ่านหนังสือกับพัทสักพักเดี๋ยวก็กลับแล้ว” ว่านบอกให้เต้รีบไป
พอชายหนุ่มแยกตัวออกไปแล้ว พัทรีบถามว่านขึ้นมาทันที
“เมื่อเช้านี้ อิงมาคุยเรื่องกับว่านอะไรเหรอ บอกกันบ้างสิ” พัททำหน้าอยากรู้อยากเห็นจนว่านขำออกมา
“อิงชวนเราให้ไปเป็นแบบที่ทะเลแถวพัทยาวันเสาร์นี้น่ะ” ว่านตอบเพื่อนของเธอ
“อะไรนะ! อิงให้เธอไปเป็นแบบ แล้วไปกันสองคนเหรอ ยังไง ๆ” พัทส่งเสียงดังออกมา
“เบา ๆ ก็ได้ยั้ยพัท คนมองกันใหญ่แล้ว แค่ไปเช้าเย็นกลับเอง ไม่มีอะไรหรอก” ว่านพูดขึ้นเมื่อเห็นพัทพูดเสียงดังจนคนแถวนั้นหันมามอง
“แหม! ไปสวีทกันไม่คิดจะชวนเราเลย” พัทพูดแล้วทำท่าเหมือนน้อยใจ
“ไปด้วยกันไหมล่ะ เดี๋ยวเราบอกอิงให้” ว่านหันมาง้อเพื่อนสาว
“ไม่เอาอะ ไม่อยากเป็นก้าง” พัทพูดแล้วหัวเราะเมื่อเห็นว่านทำหน้าเหมือนเขินที่เธอแซว
เต้มาถึงโรงพยาบาล พอดีกับที่ชายหนุ่มคนหนึ่งมาเยี่ยมใครบางคน เต้รีบแอบเดินตามเขาไปห่าง ๆ โดยที่ชายหนุ่มคนนั้นไม่ทันสังเกตจนเขาเดินเข้าห้องไป เต้จึงเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องนั้นแล้วอ่านชื่อคนไข้ที่ติดอยู่ที่หน้าห้อง “นางสาวลินลดา จินดา”
“ขอโทษนะคะ มาเยี่ยมคนไข้หรือเปล่าคะ” พยาบาลสาวเข็นรถยามาที่หน้าห้องที่เต้ยืนอยู่
“น่าจะมาผิดห้องน่ะครับ ขอโทษด้วยครับ” เต้กล่าวขอโทษแล้วรีบเดินไปหาแม่ของเขาที่รออยู่ชั้นล่าง
เต้พาแม่ขึ้นแท็กซี่กลับบ้านระหว่างทางเขานั่งครุ่นคิดว่าหญิงสาวที่นอนป่วยอยู่ในห้องนั้นเป็นใครแล้วเกี่ยวข้องอะไรกับอิง เขาก็หวังว่าคงไม่เป็นอย่างที่เขาสังหรณ์ใจ
ว่านได้ยินกริ่งดังที่หน้าบ้าน หญิงสาวชะโงกหน้าออกไปดูก็พบว่าเป็นชายหนุ่มที่นัดกันไว้มารับเธอแล้ว ว่านรีบหยิบกระเป๋าสะพายแล้วเดินออกมาที่หน้าบ้านโดยมีพี่หว้าเดินตามมาส่ง
“สวัสดีครับ” อิงยกมือไหว้แล้วทักทายพี่หว้า
“พี่หว้านี่อิงค่ะ อิงนี่พี่สาวว่านชื่อพี่ลูกหว้า” หญิงสาวแนะนำให้พี่สาวและชายหนุ่มได้รู้จักกัน
“ว่านไปก่อนนะคะ” ว่านบอกลาแล้วโบกมือลาพี่สาวของเธอ
อิงพาหญิงสาวแวะรับประทานอาหารระหว่างทางแล้วจากนั้นเขาก็ขับรถต่อเพื่อมุ่งหน้าสู่พัทยา และเมื่อมาถึงจุดหมายอิงพาว่านเดินเข้ามาในรีสอร์ตของเพื่อนพ่อซึ่งเขาขออนุญาตเปิดหนึ่งห้องเผื่อไว้เปลี่ยนเสื้อผ้าหลังจากเล่นน้ำทะเล
“ว่านยืนตรงนั้นนะ” อิงจัดอุปกรณ์สำหรับวาดภาพทุกอย่างเรียบร้อยก็บอกให้หญิงสาวไปยืนตรงจุดที่เขาบอก
ชายหนุ่มเริ่มลงมือวาดภาพของหญิงสาวที่ยืนอยู่ริมทะเล ว่านยืนเป็นแบบเกือบชั่วโมงท่ามกลางแดดอันร้อน อิงเห็นว่าว่านยืนนานแล้วน่าจะร้อนและเมื่อยจึงให้หญิงสาวมานั่งพักในร่มก่อน
“อะไรเนี่ย เห็นอิงวาดตั้งนาน ทำไมเห็นแค่ด้านข้าง” ว่านพูดแล้วทำหน้าเหมือนเซ็ง ๆ แล้วทรุดตัวนั่งลงไปกับพื้นทราย
ชายหนุ่มหัวเราะชอบใจเมื่อเห็นอาการหญิงสาวงอน ๆ
“ลุกขึ้นเร็ว เราไปขับเจ็ทสกีเล่นกันดีกว่า” ชายหนุ่มยื่นมือให้หญิงสาวจับเพื่อดึงให้เธอลุกขึ้นยืน หญิงสาวยิ้มแล้วยื่นมือออกไปจับมือของชายหนุ่ม แล้วทั้งคู่ก็เดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้อง
“ว่านขับไม่เป็นนะ” หญิงสาวเอ่ยขึ้น
“ง่ายนิดเดียวเอง เดี๋ยวเราสอนให้” อิงพูดแล้วให้หญิงสาวนั่งซ้อนท้ายเขาก่อนแล้วขับออกไปในทะเล
“ว่านขอลองดูได้ไหม” ว่านอยากลองขับบ้าง
ทั้งคู่ขับเจ็ทสกีกันได้สักพักก็ลงมาวิ่งเล่นไล่จับกันริมทะเล ชายหนุ่มเผลอวิ่งสะดุดทำให้ล้มไปโดนว่าน ด้วยความที่เขากลัวว่าตัวหญิงสาวจะกระแทกพื้นก็รีบคว้าตัวเธอไว้ แล้วทั้งคู่ก็นอนลงบนพื้นทรายโดยที่ตัวของหญิงสาวอยู่ด้านบนตัวของชายหนุ่ม เธอและเขาสัมผัสได้ถึงหัวใจของคนทั้งคู่ที่กำลังเต้นแรง หญิงสาวเงยหน้ามองหน้าชายหนุ่มที่นอนกอดเธออยู่ เธอสบตากับเขาอยู่พักหนึ่ง
“หนักไหม” หญิงสาวพูดขึ้นมา
“ว่าน” ชายหนุ่มเรียกชื่อหญิงสาวเพราะรู้สึกว่าเวลากำลังซึ้งเช่นนี้เธอกลับทำให้เขารู้สึกขำแทนได้อย่างไร แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน
ว่านรีบลุกขึ้นยืนแล้วยื่นมือให้ชายหนุ่มจับเพื่อให้เขาลุกขึ้นมาเช่นกัน
“ไปอาบน้ำกัน” อิงพูดขึ้นทำให้ว่านหยุดเดินแล้วหันมามองหน้าเขาด้วยความรู้สึกตกใจ
“ไม่ใช่อย่างงั้น เราหมายถึงต่างคนต่างอาบ จะได้กลับกัน” ชายหนุ่มรีบแก้เมื่อเห็นว่าหญิงสาวน่าจะเข้าใจคำพูดของเขาผิด
“อ๋อ! แต่เราไม่ได้ว่าอะไรเลยนะ” หญิงสาวพูดแล้วอมยิ้ม
หลังจากที่ว่านกับอิงอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและเก็บอุปกรณ์วาดรูปใส่รถเรียบร้อย ระหว่างทางขับรถกลับพวกเขาก็แวะซื้อของฝากเพื่อนำไปฝากคนที่บ้านของตน
“อิง จอดใกล้สะพานตรงนั้นก่อนนะ” ว่านบอกให้ชายหนุ่มหยุดรถ แล้วเธอก็เดินลงจากรถโดยมีชายหนุ่มเดินตามหลังเธอมา
หญิงสาวยืนมองเรือที่แล่นผ่านไปในแม่น้ำ ชายหนุ่มมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
“พระจันทร์สวยดีนะ” อิงพูดขึ้นเมื่อเห็นพระจันทร์ดวงกลมโตอยู่บนท้องฟ้า
“อืม ใช่ สวยมากเลย” ว่านเห็นด้วย
หญิงสาวก้มมองที่มือของตัวเอง แล้วค่อย ๆ ถอดแหวนเงินเกลี้ยงที่นิ้วนางข้างขวาเธอออกมาและชูมันขึ้นเทียบกับพระจันทร์บนฟ้า
“แหวนวงนี้เป็นแหวนวงแรกที่ว่านได้เป็นของขวัญ เมื่อก่อนเราใส่ไม่ได้มันหลวมมาก แต่เราเห็นแล้วอยากได้มาก พ่อก็เลยซื้อให้แต่เอามันใส่ที่สร้อยแล้วห้อยคอแทน” ชายหนุ่มหันมามองหญิงสาวที่กำลังพูดถึงแหวนในมือของเธอด้วยความรู้สึกมีความสุข
“มันดูไม่ค่อยมีราคาเท่าไหร่ แต่มันมีค่าทางจิตใจของเรามากเลยนะ” หญิงสาวหยุดนิ่งครู่หนึ่งแล้วยิ้มออกมา
ว่านหันมาหาชายหนุ่มที่ยืนข้าง ๆ เธอ แล้วจับมือของเขาแบออกและวางแหวนไว้ในมือของเขา
“เราอยากให้กับคนที่มีค่ากับเรา เก็บไว้ดี ๆ นะ มันคือหัวใจของเรา”
ชายหนุ่มยืนอึ้งกับสิ่งที่หญิงสาวมอบให้และคำพูดที่เธอได้พูดเมื่อครู่ ก่อนที่ยิ้มให้กับเธอแล้วกำแหวนนั้นไว้
“เราจะเก็บรักษามันไว้อย่างดี” ชายหนุ่มตอบรับหญิงสาวด้วยความรู้สึกไม่ต่างจากเธอ
“กลับกันเถอะ ว่านกลัวพี่หว้ารอนาน” หญิงสาวพูดขึ้น
“ไปสิ” อิงพยักหน้ารับแล้วเดินจับมือหญิงสาวแล้วพาเธอกลับไปที่รถเพื่อจะไปส่งเธอที่บ้าน
“ว่าไงไปเที่ยวกับหนุ่มหล่อมาสนุกไหม” ลูกหว้าถามน้องสาวของเธอขึ้นมา
“สนุกดีนะคะ” ว่านตอบแล้วยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงเรื่องราวดี ๆ ในวันนี้
“ยิ้มหวานคนเดียว คืนนี้ฝันหวานแน่ ๆ” ลูกหว้าแซวน้องสาวของเธอ ทำให้หญิงสาวรู้สึกเขินขึ้นมา
“พี่หว้า ว่านง่วงแล้วนอนดีกว่า” หญิงสาวรีบล้มตัวลงนอนเพื่อแก้เขินแต่เธอยังคงนอนยิ้มอยู่คนเดียว
สำหรับอิงเมื่อถึงบ้านก็หยิบแหวนมาลองใส่นิ้วของเขาซึ่งมันคงดูเล็กไปสำหรับนิ้วนางของเขา ดังนั้นชายหนุ่มจึงเอาใส่ไว้ที่สร้อยแล้วห้อยคอของเขา อิงยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงหน้าของหญิงสาวที่ให้แหวนวงนี้มา
ถึงแม้มันจะดึกแล้วชายหนุ่มยังไม่อยากนอนเลยหยิบเปลือกหอยที่เก็บมาร้อยเป็นโมบายเพื่อนำไปเป็นของฝากสำหรับลินที่ยังนอนพักอยู่ที่โรงพยาบาล
แล้วความรักของชายหนุ่มจะเป็นยังไงต่อ ในเมื่อตอนนี้เขามีผู้หญิงที่รักเขาถึงสองคน แล้วเขารักใครและจะเลือกใคร เฮ้อ!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ