Mention Of Love (รัก)
-
เขียนโดย Nanpm
วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เวลา 20.52 น.
12 ตอน
0 วิจารณ์
10.47K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 21.03 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) บังเอิญ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ “อิง มาทำอะไรแถวนี้อะ”
หญิงสาวที่กำลังจะเดินเข้าตึกเพื่อไปเรียน แต่ต้องหยุดชะงักกลางคันเมื่อพบเข้ากับใครบางคนที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี
“อ้าว พัท เราแวะมาหาพี่ไผ่ พอดีเขาจะให้เรามาวาดโปสเตอร์ละครเวทีให้”
“ละครเวที ของรุ่นพี่ปีสามคณะเราอะนะ” พัททำท่าตื่นเต้นเมื่อได้ยินสิ่งที่อิงบอก
ชายหนุ่มยิ้มพร้อมพยักหน้าเป็นการตอบ
“สงสัยเราต้องไปสมัครเป็นนางเอกเสียแล้วล่ะ”
พัทพูดแล้วก็หัวเราะออกมา ซึ่งทำให้ชายหนุ่มขำในท่าทางของเธอไปด้วย
“มองหาใครเหรอ”
หญิงสาวถามขึ้นด้วยความสงสัยเมื่อเห็นเพื่อนชายของเธอ กำลังทำท่ามองหาใครอยู่
“พัทมาคนเดียวเหรอวันนี้”
อิงไม่ตอบคำถามแต่ถามหญิงสาวแทน เมื่อเขามองไปในรอบๆ แล้วไม่เจอคนที่เขาอยากเจอ
“จะถามหาใครหรือเปล่า แน่ะ! อย่าบอกนะว่าสนใจเพื่อนสาวคนสวยของเรา”
พัทแซวขึ้นมา แต่ชายหนุ่มยืนยิ้มเฉย ๆ ไม่ตอบอะไร
หญิงสาวกำลังจะอ้าปากถามเพื่อนชายของเธอต่อ อยู่ ๆ พี่ไผ่รุ่นพี่ปีสามซึ่งเป็นลุงรหัสของเธอเดินเข้ามาพอดี ทำให้ทั้งคู่ต้องหยุดการสนทนาเลยทันที แล้วหันมาทักทายรุ่นพี่
“โทษทีนะน้อง พี่มาช้าไปหน่อย เดี๋ยวไปเรานั่งคุยกันที่โต๊ะกลุ่มดีกว่า ยืนคุยมันเมื่อย”
พี่ไผ่เดินนำพัทกับอิงไปหาที่นั่งที่ม้านั่ง ยังไม่ทันที่พี่ไผ่จะเอ่ยปากพูดรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องวาดโปสเตอร์กับอิง พัทซึ่งสนใจเกี่ยวงานละครเวทีที่พี่ไผ่จะทำขึ้น ก็เริ่มเปิดประเด็นซักถามรุ่นพี่ของเธอขึ้นมา
“การแสดงจะมีเมื่อไหร่คะ แล้วจะทำเรื่องอะไร พระเอกนางเอกเป็นใคร แล้วคัดเลือกตัวแสดงหรือยังคะ”
หญิงสาวตั้งถามเป็นชุดจนรุ่นพี่ของเธอเวียนหัว ตอบคำถามเธอไม่ทัน ต้องยกมือเป็นการบอกให้เธอหยุดถามก่อน
“พอ ๆ น้อง เดี๋ยวพี่จะบอกรายละเอียดให้ฟังเดี๋ยวนี้ล่ะ ถามซะจนไม่มีช่องว่างให้พี่ได้หายใจเลย”
“ก็คนมันอยากรู้นี่คะ” หญิงสาวทำเสียงอ้อนและทำหน้าเว้าวอนชายหนุ่มรุ่นพี่ร่วมคณะของเธอ
“พี่จะจัดการคัดเลือกตัวแสดงจากพวกรุ่นน้องในคณะนี่ล่ะ เราสนใจก็มาลองดู”
“แน่นอนค่ะ อย่างพัทต้องนางเอกอยู่แล้ว” พัทเอามือทั้งสองข้างแนบหน้าของเธอแล้วเอียงหน้าทำหน้าตาน่ารักใส่ทั้งสองหนุ่ม
“เรานี่มันสุดยอดจริง ๆ” พี่ไผ่ขำในท่าทีของหญิงสาวรุ่นน้อย
“อ่ะแน่นอน” พัทพูดพร้อมทำทางยักไหล่
ชายหนุ่มทั้งสองคนที่นั่งอยู่กับเธอถึงกับหัวเราะออกมาพร้อมกัน เมื่อท่าทางและคำพูดดังกล่าวของหญิงสาว
ขณะที่ทั้งสามคนกำลังพูดคุยกันเกี่ยวกับรายละเอียดของละครเวที ว่านเดินมาพร้อมกับเต้ทั้งสองคนกำลังเดินเข้าห้องเรียนไป อิงมองเห็นหญิงสาวมาแต่ไกลเขาได้แต่มองอยู่เงียบ ๆ จนหญิงสาวเดินลับตาไป โดยไม่รู้ตัวเลยว่าพัทเองกำลังแอบจับตามองเขาอยู่เช่นกัน ในที่สุดพี่ไผ่ก็สรุปรายละเอียดเกี่ยวกับการวาดรูปที่ต้องการให้อิงฟังเรียบร้อย พี่ไผ่จึงขอตัวแยกไปก่อนเพราะต้องไปคุยงานกับเพื่อน ๆ ในคณะต่อ ส่วนอิงกำลังลุกขึ้นเดินกลับคณะ แต่โดนเพื่อนสาวตัวแสบดึงแขนเสื้อของเขาไว้
“มีอะไรเหรอพัท”
ชายหนุ่มถามออกมาด้วยความรู้สึกแปลกใจเมื่อพัทดึงแขนเสื้อเขาไว้เหมือนจะบอกอะไร
“ถามอะไรหน่อยสิ นายสนใจว่านเพื่อนเราเหรอ เห็นนะว่าแอบมองตั้งแต่ว่านเดินเข้ามาจนเข้าห้องเรียนไปแล้ว”
“อืม” ชายหนุ่มตอบสั้น ๆ แสดงถึงการตอบรับในสิ่งที่พัทพูด
“โอเค เดี๋ยวเพื่อนช่วยเอง
พัทพูดจบก็รีบลุกขึ้นเพื่อรีบไปเรียน ปล่อยให้ชายหนุ่มยืนงงกับสิ่งที่เพื่อนสาวของเขาบอกว่าจะช่วย
“ทำไมมาช้าล่ะวันนี้” ว่านเอ่ยถามขึ้นเมื่อพัทเดินมานั่งเก้าอี้ในห้องเรียนข้าง ๆ เธอ
“เรามานานแล้ว แต่เจออิงกับพี่ไผ่ คุยกันเรื่องละครเวที เลยนั่งฟังด้วย พึ่งแยกย้ายกันไปเมื่อกี้นี้เอง”
พัทตอบพร้อมกับแอบสังเกตอาการของเพื่อนสาวของเธอ
“มัวแต่ไปทำเรื่องไรสาระอยู่ รายงานส่วนของเธอเสร็จหรือยัง”
เต้พูดขัดขึ้น เมื่อได้ยินพัทเอ่ยชื่อถึงชายหนุ่มที่เขาไม่ค่อยจะชอบหน้าสักเท่าไหร่
“นายเต้ จะมีสักวันไหมที่จะพูดดี ๆ กับสาวสวยคนนี้เนี่ย”
“ถ้าสวยจริงก็จะพูดดีด้วย แต่นี่”
ชายหนุ่มพูดจบก็แลบลิ้นใส่หญิงสาวที่กำลังจะหยิบหนังสือขึ้นฟาดเข้า แต่เธอยังไม่ได้ทำอย่างที่ตั้งใจอาจารย์เดินเข้าในห้องมาพอดี ทำให้ทั้งคู่ต้องหยุดเถียงกันชั่วคราว
“ว่าน เบื่อบ้างไหมที่มีผู้ชายหน้าตาแย่ ๆ เดินตามตลอดเวลา
พัทเริ่มเปิดศึกอีกครั้งหลังเลิกเรียน
“พัท ไม่เอาน่าจะหาเรื่องกันทำไม เป็นเพื่อนกัน พูดกันดี ๆ สิ”
ว่านดุพัทเล็กน้อยที่หาเรื่องชวนเต้ทะเลาะขึ้นมาอีก
“ว่านกลับกันดีกว่า เต้เบื่อหน้าผู้หญิงบางคนแถวนี้ขึ้นมาแล้วเหมือนกัน”
เต้พูดขึ้นมาบ้าง ทำให้พัทหันมามองค้อนชายหนุ่ม ว่านมองหน้าพัทแล้วก็ขำออกมา
“ป่ะ กลับก็กลับ พัทเราไปก่อนนะ ไว้พรุ่งนี้เจอกัน”
ว่านบอกลาเพื่อนสาวของเธอแล้วเดินไปพร้อมกับเต้ หญิงสาวกำลังเดินผ่านหน้าคณะจิตรกรรม ทำให้เธอนึกถึงวันที่เธอเดินตามพัทมา แล้วพัทก็แนะนำให้เธอรู้จักกับใครคนหนึ่งเมื่อเช้าวานนี้ และเธอก็หวังอยู่ในใจว่าวันนี้อาจจะได้พบเขาอีก หญิงสาวพยายามมองไปรอบ ๆ บริเวณดังกล่าว แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะได้เจอชายหนุ่มคนนั้น
เต้หันมาเห็นหน้าว่านที่ดูเหมือนว่ากำลังมองหาใครบางคนอยู่
“มองหาใครเหรอว่าน”
“เปล่านี่ ไปกันเถอะ”
หญิงสาวตอบด้วยความรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ในขณะที่หญิงสาวกำลังยืนรอรถเมล์อยู่นั่นเอง แต่แล้วสายตาของเธอก็ไปประสานเข้ากับสายตาของใครคนหนึ่งโดยบังเอิญ คนที่เธอพยายามมองหาอยู่เมื่อครู่เขากำลังนั่งอยู่บนรถเมล์ที่แล่นมาจอดอยู่ตรงหน้าของเธอ อิงโบกมือพร้อมกับยิ้มการทักทายเธอแล้วรถคันก็แล่นผ่านหน้าเธอไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในสายตาของเต้ตลอด มันทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเสียใจอย่างบอกไม่รู้ เขารู้สึกว่าเขากำลังหมดความสำคัญและไม่เป็นที่สนใจของหญิงสาวข้าง ๆ เขาอีกต่อไป
“แม่ค่ะ พี่หว้าจะกลับมาเมืองไทยเมื่อไหร่คะ ว่านไม่ทันฟังที่แม่บอกเมื่อวาน”
“วันเสาร์นี้จ้ะ แต่แม่ไม่แน่ใจว่าจะมาถึงบ้านกี่โมง อย่าไปเที่ยวเล่นไหนล่ะรอรับพี่เขาที่บ้านล่ะ”
“แม่ล่ะก็ พูดเหมือนว่านเที่ยวเก่ง วัน ๆ ก็อยู่กับเต้ อ่านหนังสือ ติวหนังสือ ทำรายงาน เห็นไหมคะ ลูกสาวแม่ออกจากขยัน” หญิงสาวทำเสียงอ้อนแม่ของเธอแล้วเดินเข้าไปกอด
พี่หว้าหรือพี่ลูกหว้าเป็นพี่สาวต่างพ่อของว่าน พ่อของพี่หว้าเป็นชาวอังกฤษ ดังนั้นหน้าตาของพี่หว้าจะออกแนวฝรั่งลูกครึ่ง ผิดกับว่านที่หน้าตาไทย ๆ เหมือนพ่อกับแม่ พ่อของพี่หว้าหย่ากับแม่แล้วเดินทางกลับไปทำงานที่อังกฤษเพียงคนเดียว โดยให้พี่หว้าอยู่กับแม่ หลังจากนั้นไม่นานแม่ได้มารู้จักกับพ่อของว่านแล้วแต่งงานกันจนมีว่าน ว่านสนิทกับพี่หว้ามาก พี่หว้าเรียนจบมัธยมปลาย คุณแม่ก็ส่งพี่หว้าไปอยู่กับคุณพ่อของพี่หว้าที่อังกฤษ ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงวิกฤตของครอบครัวเพราะพ่อของว่านพึ่งเสียไปเนื่องมาจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ แม่ไม่สามารถส่งเสียเลี้ยงดูลูกสองคนเพียงคนเดียวไหว พี่หว้าเลยต้องไปอยู่กับพ่อที่อังกฤษ แต่จะมีโอกาสกลับมาหาแม่กับว่านที่เมืองไทยปีละครั้ง ว่านจะดีใจและเฝ้ารอการกลับมาของพี่สาวคนสวยของเธอเสมอ
ช่วงเย็นของวันเดียวกัน อิงกำลังนั่งวาดภาพใครบางคนอยู่ ทำให้ชายหนุ่มไม่ได้ยินเสียงรถที่มาจอดอยู่ที่หน้าบ้านของเขา หญิงสาวคนหนึ่งลงจากรถในมือของเธอถือถุงขนมมาด้วย อิงยังคงตั้งใจวาดรูปอยู่อย่างนั้น โดยไม่ทันยินเสียงของใครบางคนที่เปิดประตูเดินเข้ามายืนอยู่ข้างหลังเขา
“วาดรูปใครอยู่ค่ะ น่ารักดีเนอะ”
เสียงหวาน ๆ จากหญิงสาวที่เข้ามาเยือนส่งเสียงขึ้น
“ดีนะ อิงไม่ใช่คนฝันอ่อน ไม่อย่างงั้นคงตกใจแย่เลย” ชายหนุ่มหันมายิ้มให้กับหญิงสาวที่ยืนดูรูปที่เขากำลังวาดอยู่
“เสียใจจัง อิงไม่เห็นวาดรูปเราบ้างเลย มีแฟนเป็นนักวาดรูปฝีมือระดับโลกทั้งที”
หญิงสาวตัดพ้อทำเสียงน้อยใจ เขามองหน้าหญิงสาวแล้วก็ยิ้ม
“รูปเพื่อนเราน่ะ เห็นเขาน่ารัก โครงหน้ามีเอกลักษณ์ ดูชัดและจำง่ายดี เลยลองวาดดูว่าจะวาดออกมาง่ายเหมือนที่ตาเห็นหรือเปล่า”
“ศิลปินนี่เข้าใจยากนะคะ”
“แต่ลินก็เข้าใจนี่คะ” อิงพูดขึ้น
“ค่ะ ลินเข้าใจค่ะ”
คนทั้งคูหันมายิ้มให้กัน
“ลงไปทานข้าวกันดีกว่า พ่อกับแม่คงรออยู่แล้ว”
ลินยิ้มและพยักหน้าเป็นการเห็นด้วย
เมื่อหญิงสาวคนรักของอิงรับประทานอาหารเย็นร่วมกันกับครอบครัวของเขาเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มเดินมาส่งหญิงสาวขึ้นรถ
“ขับรถดี ๆ นะ”
“ค่ะ” หญิงสาวรับคำ
อิงจูบหน้าผากของหญิงสาวเป็นบอกลา หลังจากนั้นชายหนุ่มก็เดินกลับเข้าบ้านขึ้นไปบนห้องนอนของเขาเพื่อนั่งมองภาพวาดต่อจนเสร็จ ชายหนุ่มมองกระดาษที่อยู่ในมือของเขา แล้วค่อย ๆ ม้วนกระดาษที่มีภาพวาดของหญิงสาวคนหนึ่งอย่างระมัดระวัง เขาหยิบโบว์สีฟ้ามาผูกกระดาษม้วนนั้นไว้ แล้ววางเอาไว้บนหัวเตียงนอนของเขา ซึ่งชายหนุ่มตั้งใจไว้ว่าพรุ่งนี้จะนำไปให้คนในภาพเป็นของขวัญที่ได้รู้จักกัน
หญิงสาวที่กำลังจะเดินเข้าตึกเพื่อไปเรียน แต่ต้องหยุดชะงักกลางคันเมื่อพบเข้ากับใครบางคนที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี
“อ้าว พัท เราแวะมาหาพี่ไผ่ พอดีเขาจะให้เรามาวาดโปสเตอร์ละครเวทีให้”
“ละครเวที ของรุ่นพี่ปีสามคณะเราอะนะ” พัททำท่าตื่นเต้นเมื่อได้ยินสิ่งที่อิงบอก
ชายหนุ่มยิ้มพร้อมพยักหน้าเป็นการตอบ
“สงสัยเราต้องไปสมัครเป็นนางเอกเสียแล้วล่ะ”
พัทพูดแล้วก็หัวเราะออกมา ซึ่งทำให้ชายหนุ่มขำในท่าทางของเธอไปด้วย
“มองหาใครเหรอ”
หญิงสาวถามขึ้นด้วยความสงสัยเมื่อเห็นเพื่อนชายของเธอ กำลังทำท่ามองหาใครอยู่
“พัทมาคนเดียวเหรอวันนี้”
อิงไม่ตอบคำถามแต่ถามหญิงสาวแทน เมื่อเขามองไปในรอบๆ แล้วไม่เจอคนที่เขาอยากเจอ
“จะถามหาใครหรือเปล่า แน่ะ! อย่าบอกนะว่าสนใจเพื่อนสาวคนสวยของเรา”
พัทแซวขึ้นมา แต่ชายหนุ่มยืนยิ้มเฉย ๆ ไม่ตอบอะไร
หญิงสาวกำลังจะอ้าปากถามเพื่อนชายของเธอต่อ อยู่ ๆ พี่ไผ่รุ่นพี่ปีสามซึ่งเป็นลุงรหัสของเธอเดินเข้ามาพอดี ทำให้ทั้งคู่ต้องหยุดการสนทนาเลยทันที แล้วหันมาทักทายรุ่นพี่
“โทษทีนะน้อง พี่มาช้าไปหน่อย เดี๋ยวไปเรานั่งคุยกันที่โต๊ะกลุ่มดีกว่า ยืนคุยมันเมื่อย”
พี่ไผ่เดินนำพัทกับอิงไปหาที่นั่งที่ม้านั่ง ยังไม่ทันที่พี่ไผ่จะเอ่ยปากพูดรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องวาดโปสเตอร์กับอิง พัทซึ่งสนใจเกี่ยวงานละครเวทีที่พี่ไผ่จะทำขึ้น ก็เริ่มเปิดประเด็นซักถามรุ่นพี่ของเธอขึ้นมา
“การแสดงจะมีเมื่อไหร่คะ แล้วจะทำเรื่องอะไร พระเอกนางเอกเป็นใคร แล้วคัดเลือกตัวแสดงหรือยังคะ”
หญิงสาวตั้งถามเป็นชุดจนรุ่นพี่ของเธอเวียนหัว ตอบคำถามเธอไม่ทัน ต้องยกมือเป็นการบอกให้เธอหยุดถามก่อน
“พอ ๆ น้อง เดี๋ยวพี่จะบอกรายละเอียดให้ฟังเดี๋ยวนี้ล่ะ ถามซะจนไม่มีช่องว่างให้พี่ได้หายใจเลย”
“ก็คนมันอยากรู้นี่คะ” หญิงสาวทำเสียงอ้อนและทำหน้าเว้าวอนชายหนุ่มรุ่นพี่ร่วมคณะของเธอ
“พี่จะจัดการคัดเลือกตัวแสดงจากพวกรุ่นน้องในคณะนี่ล่ะ เราสนใจก็มาลองดู”
“แน่นอนค่ะ อย่างพัทต้องนางเอกอยู่แล้ว” พัทเอามือทั้งสองข้างแนบหน้าของเธอแล้วเอียงหน้าทำหน้าตาน่ารักใส่ทั้งสองหนุ่ม
“เรานี่มันสุดยอดจริง ๆ” พี่ไผ่ขำในท่าทีของหญิงสาวรุ่นน้อย
“อ่ะแน่นอน” พัทพูดพร้อมทำทางยักไหล่
ชายหนุ่มทั้งสองคนที่นั่งอยู่กับเธอถึงกับหัวเราะออกมาพร้อมกัน เมื่อท่าทางและคำพูดดังกล่าวของหญิงสาว
ขณะที่ทั้งสามคนกำลังพูดคุยกันเกี่ยวกับรายละเอียดของละครเวที ว่านเดินมาพร้อมกับเต้ทั้งสองคนกำลังเดินเข้าห้องเรียนไป อิงมองเห็นหญิงสาวมาแต่ไกลเขาได้แต่มองอยู่เงียบ ๆ จนหญิงสาวเดินลับตาไป โดยไม่รู้ตัวเลยว่าพัทเองกำลังแอบจับตามองเขาอยู่เช่นกัน ในที่สุดพี่ไผ่ก็สรุปรายละเอียดเกี่ยวกับการวาดรูปที่ต้องการให้อิงฟังเรียบร้อย พี่ไผ่จึงขอตัวแยกไปก่อนเพราะต้องไปคุยงานกับเพื่อน ๆ ในคณะต่อ ส่วนอิงกำลังลุกขึ้นเดินกลับคณะ แต่โดนเพื่อนสาวตัวแสบดึงแขนเสื้อของเขาไว้
“มีอะไรเหรอพัท”
ชายหนุ่มถามออกมาด้วยความรู้สึกแปลกใจเมื่อพัทดึงแขนเสื้อเขาไว้เหมือนจะบอกอะไร
“ถามอะไรหน่อยสิ นายสนใจว่านเพื่อนเราเหรอ เห็นนะว่าแอบมองตั้งแต่ว่านเดินเข้ามาจนเข้าห้องเรียนไปแล้ว”
“อืม” ชายหนุ่มตอบสั้น ๆ แสดงถึงการตอบรับในสิ่งที่พัทพูด
“โอเค เดี๋ยวเพื่อนช่วยเอง
พัทพูดจบก็รีบลุกขึ้นเพื่อรีบไปเรียน ปล่อยให้ชายหนุ่มยืนงงกับสิ่งที่เพื่อนสาวของเขาบอกว่าจะช่วย
“ทำไมมาช้าล่ะวันนี้” ว่านเอ่ยถามขึ้นเมื่อพัทเดินมานั่งเก้าอี้ในห้องเรียนข้าง ๆ เธอ
“เรามานานแล้ว แต่เจออิงกับพี่ไผ่ คุยกันเรื่องละครเวที เลยนั่งฟังด้วย พึ่งแยกย้ายกันไปเมื่อกี้นี้เอง”
พัทตอบพร้อมกับแอบสังเกตอาการของเพื่อนสาวของเธอ
“มัวแต่ไปทำเรื่องไรสาระอยู่ รายงานส่วนของเธอเสร็จหรือยัง”
เต้พูดขัดขึ้น เมื่อได้ยินพัทเอ่ยชื่อถึงชายหนุ่มที่เขาไม่ค่อยจะชอบหน้าสักเท่าไหร่
“นายเต้ จะมีสักวันไหมที่จะพูดดี ๆ กับสาวสวยคนนี้เนี่ย”
“ถ้าสวยจริงก็จะพูดดีด้วย แต่นี่”
ชายหนุ่มพูดจบก็แลบลิ้นใส่หญิงสาวที่กำลังจะหยิบหนังสือขึ้นฟาดเข้า แต่เธอยังไม่ได้ทำอย่างที่ตั้งใจอาจารย์เดินเข้าในห้องมาพอดี ทำให้ทั้งคู่ต้องหยุดเถียงกันชั่วคราว
“ว่าน เบื่อบ้างไหมที่มีผู้ชายหน้าตาแย่ ๆ เดินตามตลอดเวลา
พัทเริ่มเปิดศึกอีกครั้งหลังเลิกเรียน
“พัท ไม่เอาน่าจะหาเรื่องกันทำไม เป็นเพื่อนกัน พูดกันดี ๆ สิ”
ว่านดุพัทเล็กน้อยที่หาเรื่องชวนเต้ทะเลาะขึ้นมาอีก
“ว่านกลับกันดีกว่า เต้เบื่อหน้าผู้หญิงบางคนแถวนี้ขึ้นมาแล้วเหมือนกัน”
เต้พูดขึ้นมาบ้าง ทำให้พัทหันมามองค้อนชายหนุ่ม ว่านมองหน้าพัทแล้วก็ขำออกมา
“ป่ะ กลับก็กลับ พัทเราไปก่อนนะ ไว้พรุ่งนี้เจอกัน”
ว่านบอกลาเพื่อนสาวของเธอแล้วเดินไปพร้อมกับเต้ หญิงสาวกำลังเดินผ่านหน้าคณะจิตรกรรม ทำให้เธอนึกถึงวันที่เธอเดินตามพัทมา แล้วพัทก็แนะนำให้เธอรู้จักกับใครคนหนึ่งเมื่อเช้าวานนี้ และเธอก็หวังอยู่ในใจว่าวันนี้อาจจะได้พบเขาอีก หญิงสาวพยายามมองไปรอบ ๆ บริเวณดังกล่าว แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะได้เจอชายหนุ่มคนนั้น
เต้หันมาเห็นหน้าว่านที่ดูเหมือนว่ากำลังมองหาใครบางคนอยู่
“มองหาใครเหรอว่าน”
“เปล่านี่ ไปกันเถอะ”
หญิงสาวตอบด้วยความรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ในขณะที่หญิงสาวกำลังยืนรอรถเมล์อยู่นั่นเอง แต่แล้วสายตาของเธอก็ไปประสานเข้ากับสายตาของใครคนหนึ่งโดยบังเอิญ คนที่เธอพยายามมองหาอยู่เมื่อครู่เขากำลังนั่งอยู่บนรถเมล์ที่แล่นมาจอดอยู่ตรงหน้าของเธอ อิงโบกมือพร้อมกับยิ้มการทักทายเธอแล้วรถคันก็แล่นผ่านหน้าเธอไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในสายตาของเต้ตลอด มันทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเสียใจอย่างบอกไม่รู้ เขารู้สึกว่าเขากำลังหมดความสำคัญและไม่เป็นที่สนใจของหญิงสาวข้าง ๆ เขาอีกต่อไป
“แม่ค่ะ พี่หว้าจะกลับมาเมืองไทยเมื่อไหร่คะ ว่านไม่ทันฟังที่แม่บอกเมื่อวาน”
“วันเสาร์นี้จ้ะ แต่แม่ไม่แน่ใจว่าจะมาถึงบ้านกี่โมง อย่าไปเที่ยวเล่นไหนล่ะรอรับพี่เขาที่บ้านล่ะ”
“แม่ล่ะก็ พูดเหมือนว่านเที่ยวเก่ง วัน ๆ ก็อยู่กับเต้ อ่านหนังสือ ติวหนังสือ ทำรายงาน เห็นไหมคะ ลูกสาวแม่ออกจากขยัน” หญิงสาวทำเสียงอ้อนแม่ของเธอแล้วเดินเข้าไปกอด
พี่หว้าหรือพี่ลูกหว้าเป็นพี่สาวต่างพ่อของว่าน พ่อของพี่หว้าเป็นชาวอังกฤษ ดังนั้นหน้าตาของพี่หว้าจะออกแนวฝรั่งลูกครึ่ง ผิดกับว่านที่หน้าตาไทย ๆ เหมือนพ่อกับแม่ พ่อของพี่หว้าหย่ากับแม่แล้วเดินทางกลับไปทำงานที่อังกฤษเพียงคนเดียว โดยให้พี่หว้าอยู่กับแม่ หลังจากนั้นไม่นานแม่ได้มารู้จักกับพ่อของว่านแล้วแต่งงานกันจนมีว่าน ว่านสนิทกับพี่หว้ามาก พี่หว้าเรียนจบมัธยมปลาย คุณแม่ก็ส่งพี่หว้าไปอยู่กับคุณพ่อของพี่หว้าที่อังกฤษ ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงวิกฤตของครอบครัวเพราะพ่อของว่านพึ่งเสียไปเนื่องมาจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ แม่ไม่สามารถส่งเสียเลี้ยงดูลูกสองคนเพียงคนเดียวไหว พี่หว้าเลยต้องไปอยู่กับพ่อที่อังกฤษ แต่จะมีโอกาสกลับมาหาแม่กับว่านที่เมืองไทยปีละครั้ง ว่านจะดีใจและเฝ้ารอการกลับมาของพี่สาวคนสวยของเธอเสมอ
ช่วงเย็นของวันเดียวกัน อิงกำลังนั่งวาดภาพใครบางคนอยู่ ทำให้ชายหนุ่มไม่ได้ยินเสียงรถที่มาจอดอยู่ที่หน้าบ้านของเขา หญิงสาวคนหนึ่งลงจากรถในมือของเธอถือถุงขนมมาด้วย อิงยังคงตั้งใจวาดรูปอยู่อย่างนั้น โดยไม่ทันยินเสียงของใครบางคนที่เปิดประตูเดินเข้ามายืนอยู่ข้างหลังเขา
“วาดรูปใครอยู่ค่ะ น่ารักดีเนอะ”
เสียงหวาน ๆ จากหญิงสาวที่เข้ามาเยือนส่งเสียงขึ้น
“ดีนะ อิงไม่ใช่คนฝันอ่อน ไม่อย่างงั้นคงตกใจแย่เลย” ชายหนุ่มหันมายิ้มให้กับหญิงสาวที่ยืนดูรูปที่เขากำลังวาดอยู่
“เสียใจจัง อิงไม่เห็นวาดรูปเราบ้างเลย มีแฟนเป็นนักวาดรูปฝีมือระดับโลกทั้งที”
หญิงสาวตัดพ้อทำเสียงน้อยใจ เขามองหน้าหญิงสาวแล้วก็ยิ้ม
“รูปเพื่อนเราน่ะ เห็นเขาน่ารัก โครงหน้ามีเอกลักษณ์ ดูชัดและจำง่ายดี เลยลองวาดดูว่าจะวาดออกมาง่ายเหมือนที่ตาเห็นหรือเปล่า”
“ศิลปินนี่เข้าใจยากนะคะ”
“แต่ลินก็เข้าใจนี่คะ” อิงพูดขึ้น
“ค่ะ ลินเข้าใจค่ะ”
คนทั้งคูหันมายิ้มให้กัน
“ลงไปทานข้าวกันดีกว่า พ่อกับแม่คงรออยู่แล้ว”
ลินยิ้มและพยักหน้าเป็นการเห็นด้วย
เมื่อหญิงสาวคนรักของอิงรับประทานอาหารเย็นร่วมกันกับครอบครัวของเขาเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มเดินมาส่งหญิงสาวขึ้นรถ
“ขับรถดี ๆ นะ”
“ค่ะ” หญิงสาวรับคำ
อิงจูบหน้าผากของหญิงสาวเป็นบอกลา หลังจากนั้นชายหนุ่มก็เดินกลับเข้าบ้านขึ้นไปบนห้องนอนของเขาเพื่อนั่งมองภาพวาดต่อจนเสร็จ ชายหนุ่มมองกระดาษที่อยู่ในมือของเขา แล้วค่อย ๆ ม้วนกระดาษที่มีภาพวาดของหญิงสาวคนหนึ่งอย่างระมัดระวัง เขาหยิบโบว์สีฟ้ามาผูกกระดาษม้วนนั้นไว้ แล้ววางเอาไว้บนหัวเตียงนอนของเขา ซึ่งชายหนุ่มตั้งใจไว้ว่าพรุ่งนี้จะนำไปให้คนในภาพเป็นของขวัญที่ได้รู้จักกัน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ