โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )
เขียนโดย shilen
วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.
แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย
89) กระพรวนทองเหลือง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความดารีลได้ใช้ความพยายามอย่างหนัก เพื่อที่จะอธิบายสถานการณ์ให้เด็กชายเข้าใจ ถึงความเป็นไปในโลกทุกวันนี้ ถึงเหตุการณ์ในวันข้างหน้าที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งฟิโลโซเฟอร์ก็รับฟังและเข้าใจทุกอย่างแต่เขาก็ยังยืนยันที่จะเดินไปข้างๆ ดารีล ไม่ว่าปลายสุดของเส้นทางนั้นจะเป็นนรกขุมใดก็ตาม
“ บอกไว้ตอนเลยว่า ”
เด็กชายขู่
“ ถ้าวันหนึ่งเจ้าเกิดหายตัวไปโดยไร้สาเหตุ วันนั้นข้าก็จะออกจากโอรีเวียด้วยตัวคนเดียว ต่อให้ต้องพลิกแผ่นดินข้าก็จะหาเจ้าจนพบ ”
“ คิดว่าอย่างเจ้านี่ ออกพ้นประตูเมืองได้กี่วัน ก่อนจะมีคนพบว่ากลายเป็นศพไปแล้ว ”
ดารีลย้อน
“ ช่างสิ ข้ายอมตายดีกว่าปล่อยให้เจ้าต้องเผชิญชะตากรรมเพียงลำพัง ดารีลตอนนี้ข้าอาจยังไม่แกร่งพอ แต่ข้าจะขยันและอดทนให้มากกว่านี้ เราไม่จำเป็นต้องกลัวสตรีชุดแดง ข้าจะรับมือนางให้ได้ ”
ฟิโซเฟอร์ให้คำมั่น
“ เหตุใดจึงดื้อดึงนัก ข้าพยายามช่วยแท้ๆ แต่เจ้ากลับพยายามทำสิ่งใด ”
พ่อมดน้อยว่า
“ ข้าก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ใยเจ้าไม่เรียนรู้เรื่องมิตรภาพ เพื่อนแท้ย่อมไม่ปล่อยให้อีกคนอยู่รอความตาย ขณะที่ตนเองหนีเอาตัวรอดหรอก ”
“ สรุปว่าเจ้าไม่ไป ”
“ และข้าก็ไม่ให้เจ้าไปด้วย เว้นแต่เราจะไปด้วยกัน นางอยากให้เราอยู่ด้วยกันเราก็ควรทำตามนั้น บางทีมันอาจทำให้เราล่วงรู้แผนของนางก็ได้ ”
ดารีลได้แต่ถอนหายใจ
เขาคิดว่าสามารถจัดการปัญหาทั้งหมดได้ด้วยตัวคนเดียว
การที่มีเด็กคนนี้เข้ามายุ่งเกี่ยว
ทำให้รู้สึกวิตกกังวลอย่างน่าประหลาด
“ เราอย่าเพิ่งคิดถึงสิ่งที่ยังไม่มาถึงเลยนะ ตอนนี้มีสิ่งหนึ่งอยากเสนอแก่เจ้า ”
เด็กชายบอก
“ ว่ามา ”
“ ข้าจะให้คำมั่นไว้ตรงนี้ ว่าหากวันหนึ่งที่เราโตพอ ข้าจะเป็นคนพาเจ้ากลับบ้านเอง ”
“ รู้หรือว่าบ้านของข้าอยู่ที่ไหน ”
ดารีลถาม
“ ไม่จำเป็นต้องรู้ เราจะไปกันทุกหมู่บ้าน หาไม่เจอก็ให้รู้ไปสิ ”
“ เป็นความคิดที่บ้าบอที่สุด ข้าทำอะไรมีหลักการ ไม่เดาสุ่มแบบนั้นแน่ ”
“ ในบางโอกาสมันเป็นทางเลือกที่ดีนะข้าเคยลองมาแล้ว ”
เด็กชายยืนยันความคิดของตนเอง
พ่อมดน้อยส่ายหน้า
แต่ไม่พูดอะไรต่อ
“ ตกลงเจ้าจะยังอยู่ที่โอรีเวียใช่หรือไม่ ”
ฟิโลโซเฟอร์ถามย้ำด้วยความกังวล
แต่ดารีลก็ทำเป็นไม่ได้ยิน
เขาจึงจับไหล่คนอายุมากกว่าให้หันมาเผชิญหน้ากัน
“ อย่าแกล้งทำเป็นเมินใส่ข้า ตอบคำถามมาเดี๋ยวนี้ ”
“ ก็ได้ ถ้ายังไม่มีเหตุร้ายแรงข้าจะยังไม่ไปไหนทั้งนั้น ”
หนุ่มน้อยรับปาก
“ ถ้าเจ้าจะไปต้องบอกข้าด้วย ไม่ใช่หนีไปเฉยๆ ”
เด็กชายว่า
“ ข้าไม่สามารถรับปากเรื่องนั้นได้ แต่ในเมื่อเจ้าตัดสินใจลงเรือลำเดียวกันกับข้าแล้ว ข้าจะมอบสิ่งนี้ให้กับเจ้า ”
ดารีลยื่นกระพรวนทองเหลืองให้แก่เด็กชายชาวซีนาร์ย
ฟิโลโซเฟอร์รับมันมาด้วยความตื่นเต้น
ดูเหมือนทั้งคู่จะยอมสานต่อมิตรภาพกันแล้ว
“ ไม่ต้องคิดหาอะไรมาให้เป็นการตอบแทน ในเมื่อเจ้าก็เห็นชัดแล้วว่าห้องของข้านั้นรกเพียงใด เช่นนั้นจงอย่าเอาของแปลกปลอมอื่นเพิ่มเข้าไปให้รกตาเลย ”
“ แต่ว่า ”
“ ไม่มีแต่ทั้งนั้น ”
“ ก็ได้ กระพรวนนี่ข้าจะหากล่องสวยๆ มาใส่ไว้ สาบานเลยว่าจะเก็บรักษาเป็นอย่างดี ”
“ เจ้าต้องถือติดตัวไว้เท่านั้น มันไม่ใช่ของเล่น กระพรวนนี่จะทำให้ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ที่ไหน และหากเจ้าต้องการความช่วยเหลือจงสั่นกระพรวนนั่น ข้าจะได้ยินเสียงของเจ้า ฉะนั้นจงเลิกกังวลเสีย หากวันใดที่ข้าจากไปหรือเจ้าจากไปก็ตาม ตราบใดที่เจ้ายังถือกระพรวนอยู่ ข้าตามหาเจ้าพบแน่ ”
ดารีลอธิบาย
“ น่าเสียดายจริง ของล้ำค่าเช่นนี้สมควรเก็บในกล่องซ่อนให้พ้นจากฝุ่นธุลี แต่กลายเป็นว่าข้าต้องห้อยติดตัว ข้ากลัวเหลือเกินว่าจะแตกหักเสียหาย ”
“ มันไม่พังง่ายนักหรอก เจ้าก็ว่าไปนั่น แต่ถ้าเกิดพังขึ้นมาข้าทำให้ใหม่ได้อยู่แล้ว ส่วนเจ้า ควรใช้เมื่อจำเป็นจริงๆ เท่านั้น ข้าไม่อยากเดินทางไกล เพื่อมาฟังเจ้าพูดเพ้อเจ้อหรอกนะ ”
“ ข้ารู้น่า ”
เด็กชายยืนยัน
“ อ้อ มีอีกเรื่องในเมื่อเจ้าตัดสินใจจะเผชิญหน้ากับสตรีชุดแดง ข้ามีเรื่องหนึ่งต้องเตือนเจ้า ”
หนุ่มน้อยร่างงามกล่าว
“ สิ่งหนึ่งที่เห็นเด่นชัดในตัวตนของสตรีชุดแดงคือความยั่วยวน แต่นั่นคือเรื่องที่ต้องระวัง ผู้ใดได้จุมพิตกับนางผู้นั้นจะต้องมนต์สะกด ผู้ใดได้หลับนอนกับนางผู้นั้นจะตกเป็นทาสของนางชั่วนิรันดร์ หากเมื่อมีโอกาสได้อยู่กับนางตามลำพัง จงระลึกถึงคำพูดของข้าเอาไว้ ”
“ ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก ยังไงเสียนางก็ไม่ใช่รสนิยมของข้าอยู่แล้ว จริงสิข้ามีเรื่องหนึ่งอยากปรึกษาเจ้า ”
ดารีลยืดตัวขึ้นนั่งหลังตรง
“ ว่ามาสิ ”
“ ถ้าคนสองคนอยากพัฒนาความสัมพันธ์ให้ลึกซึ้งขึ้นต้องทำอย่างไรบ้าง ”
“ หมายความว่าอย่างไร ”
คำถามนั้นทำเอาพ่อมดน้อยถึงกับขมวดคิ้ว
“ โธ่เอ๋ย ก็สมติเจ้าเป็นเพื่อนกับคนๆ หนึ่งแต่เวลานี้ไม่อยากเป็นแล้ว อยากเป็นอย่างอื่นแทน อย่างเช่นคู่รักอะไรแบบนี้ ต้องทำอะไรบ้าง ”
ดารีลถึงกับยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก
เหลือบตาขึ้นมองไปยังช่อดอกไม้ด้านบน
“ บ้าจริง ข้าอุตส่าห์ตั้งใจฟัง นี่เจ้าคิดจะถามเรื่องนี้กับข้าจริงๆ หรือ ”
“ ก็แน่ล่ะสิ ข้าไม่รู้จะถามใครนี่ แล้วมีเพียงเจ้าเท่านั้นที่ข้าไว้ใจ จะให้ทำอย่างไรล่ะ อย่างน้อยตอนนี้เจ้าก็เป็นคู่รักของเจ้าหญิงลูเซียน่ามิใช่หรือ เจ้าก็แค่อธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเจ้าสองคน เท่านั้นเอง ”
เด็กชายว่า
“ ความรักมันไม่มีแบบแผน เรื่องราวเปลี่ยนแปลงไปตลอดในแต่ละวัน อนาคตเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ ไม่มีหลักการไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น เจ้าต้องเชื่อใจตัวเองเท่านั้น ”
ดารีลตอบ
“ แล้วกัน ข้าก็นึกว่ามีวิธี ”
เด็กชายบ่น
“ แต่จงระวัง ความรักมักจะทำให้เจ้าก่อเรื่องงี่เง่าได้เสมอ ใช้ชิวิตอย่างมีสติดีกว่า บางครั้งเหตุผลก็สำคัญกว่าความรู้สึก ถ้ามัวแต่ทำตามใจตัวเองมันสามารถพาอันตรายมาสู่ผู้อื่นได้ ”
คนอายุมากกว่าสอน
“ ยังไงล่ะ ”
เด็กชายไม่เข้าใจ
ดารีลไม่อธิบายข้อนี้
เขาคิดว่าฟิโลโซเฟอร์นั้นเยาว์วัยเกินกว่าจะเข้าใจ
“ ตอนนี้บ่ายคล้อยมากแล้ว เจ้าสมควรต้องกลับบ้านเสียที ตอนนี้กลับบ้านเองได้แล้วใช่ไหม ”
หนุ่มน้อยว่าพลางลุกขึ้น
กลีบดอกวิสทีเรียร่วงกราวลงมาราวกับสายฝน
สวยงามเหมือนห้วงแห่งความฝัน
ฟิโลโซเฟอร์ไม่ตอบว่าอะไร
เขามองดารีลที่กำลังจากไปเหมือนต้องมนต์สะกด
เขาก็หยิบกระพรวนอันนั้นขึ้นมา
สั่นมันเบาๆ ด้วยมือข้างหนึ่ง
เสียงกระพรวนนั้นหวานใสน่าฟัง
เกิดลมพัดมาวูบหนึ่ง
มันลูบไล้ผ่านร่างของฟิโลโซเฟอร์ไป
หนักหน่วงและมั่นคง
ทันใดนั้นดารีลก็หันกลับมา
ใบหน้าฉาบไปด้วยความฉงนฉงาย
จากนั้นค่อยๆ เปลี่ยนเป็นขุ่นข้องใจ
เหมือนในทุกๆ ครั้งที่เห็นเด็กชายคนนี้ทำตัวไม่เข้าท่า
“ ทำบ้าอะไรของเจ้าน่ะ ข้าไม่ได้บอกหรืออย่างไร ว่าให้สั่นกระพรวนเมื่อต้องการความช่วยเหลือ ”
เสียงพ่อมดน้อยนั้นเฉียบขาด
“ ข้ารู้ เพียงแต่อยากเห็นว่าสิ่งนี้ทำงานอย่างไร ”
ดารีลจ้องเด็กชายตรงหน้าอย่างไตร่ตรอง
“ ก็ได้ ข้าขอโทษเจ้า ทีหลังจะเชื่อใจและปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด ”
เด็กชายให้คำมั่น
และหวังว่าจะไม่โดนโกรธไปมากกว่านี้
“ ช่างเถอะ ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นการสั่นกระพรวนครั้งแรกของเจ้า ข้าสมควรต้องตอบสนองในทิศทางที่ถูกต้อง เพื่อเป็นนิมิตหมายว่าการสั่นกระพรวนในครั้งหน้า จะสามารถเปลี่ยนแปลงเรื่องร้ายให้กลายเป็นดีได้ ถ้าเช่นนั้นก็มานี่เถอะ ข้าจะไปส่งเจ้าที่บ้าน ”
ฟิโลโซเฟอร์กระโดดลุกขึ้น
แล้ววิ่งไปหาหนุ่มน้อยตรงหน้าอย่างร่าเริง
ถึงจะดูเข้มงวดแต่ดารีลก็ใจดีกับเด็กคนนี้เสมอ
และเขาเองก็เป็นดังโลกที่สวยงามของเด็กชายผู้พลัดถิ่น
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ