โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )
เขียนโดย shilen
วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.
แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย
70) กษัตริย์แฮโรด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเมื่อเจ้าชายเอลานอสผู้เย่อหยิ่งกลับเข้ามาในห้องพัก เขาพบว่ามีผู้คนมากมายอยู่ในห้องนั้น บิดาของเขาที่เป็นถึงกษัตริย์แห่งโอรีออนยืนกอดอกอยู่ริมหน้าต่าง และสตรีผมทองผู้มีดวงตาคมกริบเหมือนเหยี่ยวนั่งอยู่บนเตียงของเขา
“ ท่านพ่อมาเยี่ยมข้าทั้งทีเหตุใดจึงไม่แจ้งข่าวข้าล่วงหน้า ”
องค์ชายว่า
สมุนทั้งสองของเขาค่อยๆ ถอยไปด้านหลังเมื่อเห็นสีหน้ากษัตริย์
“ ไม่มีความจำเป็นใดที่ต้องแจ้งเจ้า และที่ข้ามานี่หาใช่ความคิดถึง แต่เป็นเพราะพฤติกรรมน่าละอายของเจ้า ”
พระสุรเสียงนั้นเกรี้ยวกราดจนน่าตกใจ
สายพระเนตรก็วาวโรจขึ้นตามอารมณ์
“ ใครกล่าวข้าเช่นนั้น คงจะเป็นพ่อมดดารีลเจ้าคนขี้ฟ้องนั่นอย่างแน่นอน บิดาข้าจงอย่าเชื่อเขา เจ้าคนชั่วนั้นมีใจริษยาข้า ”
เข้าชายเอลานอสรัชทายาทแห่งโอรีออนกล่าว
“ พวกเราได้รับจดหมายประณามการกระทำของเจ้ามากมาย จากหลายผู้หลายคนและหลากหลายเมืองหลายเมือง แต่ข้าแน่ใจว่าไม่มีผู้ใดใช้ชื่อว่าดารีล ว่าแต่คนผู้นั้นเป็นใครเหตุใดท่านจึงคิดว่าเป็นเขา หรือเป็นเพราะท่านคิดไม่ดีกับคนผู้นั้นอยู่ ”
สตรีนางนั้นพูดด้วยเสียงนุ่มนวล
“ ท่านพ่อข้ามิได้ทำสิ่งใดผิด ”
เอลานอสวิงวอน
“ เจ้าคือบุตรคนเดียวของข้า ทายาทแห่งปราสาทสีทองแต่กลับทำตัวเช่นนี้ ระรานผู้อื่นข่มเหงผู้อ่อนแอกว่าเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ข้าจะไว้ใจให้เจ้าดูแลประชาชนได้อย่างไร อะไรคือสิ่งที่กษัตริย์ควรทำอะไรคือสิ่งต้องห้าม ข้าส่งเจ้ามาที่นี่แต่เจ้ากลับไม่เรียนรู้สิ่งเหล่านี้เลย ตลอดหลายปีมานี้ข้าไม่เคยได้ยินข่าวดีเกี่ยวกับเจ้า มีแต่ความหยิ่งผยองถือดีว่าเป็นบุตรกษัตริย์ อนาคตคงเป็นได้แค่ทรราชเท่านั้นเอง ”
“ ท่านพ่อจงเชื่อใจข้าว่าข้าจะเป็นกษัตริย์ที่ดี ทั้งหมดที่ข้าทำเป็นเพราะคนพวกนั้นจงใจหยามเกียรติข้า ซึ่งนั่นก็เท่ากับหยามหยามเกียรตินครอันเกรียงไกรของเรา เพราะว่าข้าเป็นถึงรัชทายาท ผู้ใดกล้าลบหลู่ก็สมควรแล้วที่ต้องถูกลงโทษ ”
“ เกียรติของเจ้าอย่างนั้นหรือ เกียรติของเจ้าคือสิ่งใด ใช่โลหะสีทองที่สวมบนหัวเจ้าหรือไม่ สิ่งนี้เองที่ทำให้เจ้าลำพองตนว่าสูงกว่าผู้อื่น เหยียบย่ำผู้อื่นดังของไร้ค่า ”
กษัตริย์แฮโรดชี้ที่มงกุฎทอง
แล้วพระองค์ก็กระชากมันลงมากระทืบด้วยพระบาทจนบิดเบี้ยว
องค์ชายทรุดกายลงนั่งด้วยตกพระทัย
“ หยุดเถอะเสด็จพ่อ อย่าทำลายมันเลย ของสิ่งนี้เสด็จแม่มอบให้แก่ข้า ”
“ ใช่สินางมันแค่หญิงโง่เลี้ยงเจ้ามาแบบผิดๆ เจ้าจึงกลายเป็นคนไร้ค่าเช่นนี้ น่าผิดหวังนักจงจำเอาไว้นับจากวันนี้ไปหากเจ้าไม่อาจกลับตัวเป็นคนดีได้ ก็จงอย่ากลับไปให้ข้าเห็นและอย่าหวังว่าจะได้สิ่งใดจากข้าอีก ”
ตรัสดังนั้นแล้วกษัตริย์แฮโรดก็เดินจากไปด้วยอารมณ์รุนแรง
บ่าวขององค์ชายต่างหมอบลงแนบพื้นด้วยหวาดกลัวต่อความพิโรธนั้น
“ ไม่เป็นไรนะที่รัก ”
สตรีแสนงามที่นั่งบนเตียงคนนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ กษัตริย์เพียงแค่อยู่ในอารมณ์ขุ่นมัวข้าจะไปปลอบโยนเขาเอง ”
นางว่าพลางลูบเกศาขององค์ชาย
แต่เขาได้ปัดออกโดยแรง
“ อย่าเอามือโสโครกของเจ้ามาแตะต้องข้า ”
“ ตายจริงองค์ชายผู้สูงศักดิ์ของข้า เหตุใดทำกิริยาเช่นนี้ พระบิดาของท่านก็เพิ่งสั่งสอนไป หรือท่านไม่มีใจอยากเป็นกษัตริย์แล้ว ”
นางทำเสียงละห้อยพลางก้มลงหยิบมงกุฎที่บิดเบี้ยวขึ้นมา
“ โถ่เกียรติของท่านถูกเหยียบย่ำเสียป่นปี้ แต่อย่ากังวลไปเลยข้าจะสั่งให้ช่างทำขึ้นใหม่สักร้อยอันคราวนี้ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเกียรติกันแล้ว เพราะท่านจะมีสวมไม่ขาดมือ ”
เจ้าของร่างสง่างามยังฉอเลาะ
แต่แผงไปด้วยอารมณ์เย้ยหยัน
“ หุบปากเสียนางแพศยา ”
เอลานอสตวาด
“ ตายจริง ท่านพูดกับราชินีแห่งโอรีออน ผู้มีศักดิ์เป็นพระราชมารดาของท่านด้วยถ้อยคำเช่นนี้ได้อย่างไร ”
พระนางวิเวียร่าตรัส
“ มารดาของข้าสิ้นแล้วด้วยน้ำมือของหญิงชั่วช้าเช่นเจ้า ”
“ เป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายกาจเหลือเกิน แต่ข้าไม่เอาความท่านหรอกเพราะผู้สูงส่งแล้วจะไม่ถือสาผู้อ่อนด้อยกว่า ”
“ ตราบใดที่ข้ายังอยู่ข้าจะต้องสังหารเจ้าให้จงได้ ”
“ โอ้ องค์ชายเหตุใดจึงกล่าววาจาน่ากลัวเช่นนั้น หรือว่าท่านวิปลาสไปแล้วท่านจึงได้เที่ยวระรานคนอื่นไปทั่ว เป็นอย่างนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่ ข้าเกรงว่ามีอีกหลายสิ่งที่ท่านต้องสูญเสียอีก องค์ชายตัวน้อยๆ ของข้าต้องตั้งสติและรักษาสุขภาพให้ดี ไม่อย่างนั้นบัลลังกษัตริย์ท่านจะเอื้อมไม่ถึง ”
“ เจ้าอย่าหวังว่าบุตรนอกสมรสจะขึ้นครองบัลลังได้ ”
เอลานอสกล่าวอย่างรู้ทัน
“ ตามหลักก็คงเป็นเช่นนั้น แต่หากเมืองใดไร้รัชทายาทแล้วแม้บุตรชาวบ้านธรรมดาขึ้นบัลลังได้ ท่านอย่าห่วงบุตรนอกสมรสเลย เพราะตอนนี้ท่านไร้ค่ากว่าเม็ดกรวดเสียอีก ”
พูดจบนางก็ออกไปพร้อมคนของนางทิ้งเจ้าชายไว้กับบ่าวทั้งสาม
เจ้าชายยังเอลานอสนั่งนิ่งไม่ไหวติง
บ่าวคนหนึ่งจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหวาดๆ
“ องค์ชายพวกเขาไปกันหมดแล้วลุกขึ้นเถิด ”
แต่องค์ชายก็ไม่ตอบโต้
“ องค์ชายไม่เป็นไรใช่หรือไม่ข้าจะไปหาชาร้อนๆ กับอาหารอร่อยๆ มาไห้ ”
“ พอกันที ”
เจ้าชายตวาด
“ พวกเจ้าทั้งสามคนมีก็เหมือนไม่มี ข้าได้แต่สงสัยเจ้าเป็นคนของผู้ใดกันแน่ ”
“ อย่าได้กล่าวเช่นนั้นพวกเรามาที่นี่เพื่อรับใช้ท่าน ”
บ่าวคนหนึ่งมีสีหน้าตื่นตระหนก
“ ข้าไม่ต้องการอีกต่อไปแล้วเก็บของแล้วใสหัวไปเสียให้พ้นหน้าข้า แล้วอย่ากลับมาให้ข้าเห็นหน้าอีก ”
“ แต่เจ้าชายให้พวกเราไปแล้วจะให้เราไปที่ไหนพวกเรามีเพียงแค่ท่าน ”
“ ช่างหัวพวกเจ้าสิ ”
เจ้าชายตะโกนพลางชักดาบออกมาฟาดฟันข้าวของกระจุยกระจาย
บ่าวไพร่ทั้งสองต่างหลบกันอลหม่าน
เขาฟาดเอาเชิงเทียนล้มลงแล้วห้องทั้งห้องก็ตกสู่ความมืด
“ ถ้าขืนยังไม่ไปข้าจะบั่นคอพวกเจ้าทุกคน ”
เมื่อเป็นดังนั้นจึงเหลือเจ้าชายเพียงองค์เดียว
เขาฟุบกายลงท่ามกลางความเงียบงันแล้วเริ่มกันแสงออกมา
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ