โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )

7.3

เขียนโดย shilen

วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.

  188 บทที่
  11 วิจารณ์
  141.48K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

65) เอลฟ์สโนว์

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ปุยหิมะร่วงปรอยๆ ลงมาตั้งแต่เช้ามืด   หลังคาตึกบางส่วนจึงมีสีขาวบางๆ คลุมอยู่   ฟิโลโซเฟอร์เดินนำหน้า   เขาสวมเสื้อคลุมบุสำลีตัวหนามือข้างหนึ่งถือถุงผ้าใส่หนังสืออีกข้างหิ้วกระป๋องใส่อาหาร   อากาศเย็นลงทุกวันรองเท้าบูทของเขาย่ำลงไปบนพื้นหินที่เย็นเฉียบ   พวกเขาเดินฝ่าอากาศหนาวเหน็บเข้าไปในตัวปราสาทเตาผิงขนาดใหญ่ลุกโชตช่วงอยู่ก่อนแล้ว   เด็กๆ ต่างไปออกันอยู่ตรงนั้น   ฟิโลโซเฟอร์แขวนเสื้อคลุมไว้เขาถอดถุงมือออกแล้วเดินไปยังเตาผิงเพื่ออังมืออันหนาวเหน็บกับกองไฟ

 

“ ไงได้ยินว่าย้ายไปเรียนฟันดาบแล้วหรือ ”

 

อีเลียสทัก

 

“ คงงั้นมั้ง   ข้ายังไม่แน่ใจเลยว่าคิดถูกหรือเปล่าบางทีอาจต้องย้ายอีก ”

 

เด็กชายจากเมืองซีนาร์ยตอบ

 

“ ไม่เป็นไรหรอก   ดูอย่างฟีไลร่าสิ   เรียนเรื่องการใช้มีดสั้นอยู่หลายปีดีดักแต่ก็ไม่คืบหน้าเสียที   เป็นข้าคงย้ายนานแล้ว   เป็นสตรีแท้ๆ กลับอยากจับอาวุธไม่รู้คิดอะไรอยู่ ”

 

ฟิโลโซเฟอร์หันไปทางฟีไลร่าแต่นางไม่ได้สนใจ

เด็กหญิงนัยน์ตางามกำลังกระซิบกระซาบอะไรบางอย่างกับเลโอน่า

ผมสีเงินของนางต้องประกายกับกองไฟทอประกายวูบวาบ

 

เสียงระฆังดังขึ้นเด็กๆ เริ่มแยกย้ายไปที่โต๊ะเรียน 

โลธอร์โยนถ่านหินเข้าไปในเตาอีกก้อนก่อนจะผละออกมา

 

“ ขอต้อนรับกลับสู่วิชาศาสตร์แห่งสมุนไพร ”

 

อาจารย์พาเนลาปีเดินเข้ามาในห้อง

มือข้างหนึ่งถือโถแก้วบรรจุของเหลวสีขาวคล้ายน้ำนมมาวางบนโต๊ะ

 

“ ไหนใครตอบได้ว่าที่อยู่ในนี้คืออะไร ”

 

นางกวาดตาไปทั่วห้องทั้งห้องเงียบกริบแต่ทุกสายตาก็จองมาด้วยความสนใจ

 

“ เอาละเข้ามาดูใกล้ๆ สิ ”

 

เด็กๆ ต่างเข้าไปรุมล้อมโต๊ะครู

ในโถนั้นเต็มไปด้วยนมขาวขุ่นมีสิ่งมีชีวิตเล็กๆ สีขาวกำลังดำผุดดำว่ายอยู่ในนั้น

 

“ มันคือเอลฟ์สโนว์ค่ะอาจารย์ ”

 

ลินดาให้คำตอบ

 

“ ใช่แล้วมันคือเอลฟ์สโนว์สิ่งมีชีวิตตัวน้อยที่ดื่มนมเป็นอาหาร ”

 

“ เจ้าตัวนี้ที่เขาใช้หมักเครื่องดื่มนี่ ”

 

โธมัสว่าเขาเคยเห็นบางคนเติมมันลงในเหล้าผลไม้  

 

 “ ถูกแล้วน้ำนมที่เหลือหลังจากกรองเอาเอลฟ์สโนว์ออกช่วยชูรสในอาหารหมักดอง   นอกจากนั้นแล้วยังใช้รักษาโรคได้ด้วย   แต่นั่นจะเป็นการบ้านที่พวกเจ้าต้องไปค้นที่ห้องสมุด   ตอนนี้ข้าต้องการให้พวกเจ้าทุกคนกรองเอาน้ำนมที่เหลือออกมา ”

 

อาจารย์พาเนลาปีเสริม

นางเทนมในเหยือกใส่แก้วส่งให้นักเรียนคู่ละหนึ่งใบ 

ฟิโลโซเฟอร์นั่งคู่กับฟีไลร่านางเลื่อนแก้วมาไว้กลางโต๊ะ

เด็กๆ เริ่มถกกันว่าจะทำอย่างไรกับแก้วใบนี้ดี

 

“ เงียบๆ กันหน่อย   น้ำนมคงจะไม่ใสขึ้นเพราะพวกเจ้าเอาแต่คุยกันอยู่อย่างนี้หรอก ”

 

พาเนราปีดุพวกเด็กๆ จึงกรูกันไปหยิบเครื่องมือที่อยู่ในตู้หลังห้อง 

เมื่อฟิโลโซเฟอร์ไปถึงตะแกรงร่อนก็หายไปเกลี้ยงตู้เสียแล้ว

ฟีไลร่าหยิบผ้าขาวบางขึ้นมา

 

“ นี่คงพอใช้ได้ ”

 

นางเทนมใส่ในผ้าแล้วจับปลายผ้าผูกเข้าด้วยกัน

ทำเป็นถุงห้อยไว้รอให้น้ำใสๆ หยดลงมาใส่แก้วอีกใบ 

 

ฟิโลโซเฟอร์เฝ้ามองอย่างเบื่อหน่าย

เขาต้องคอยให้น้ำแต่ละหยดไหลรวมกันจนมากพอที่จะหยดลงก้นแก้ว

 

อันที่จริงเขาไม่ได้สนใจวิชาสมุนไพรศาสตร์

แต่ทนการเกลี้ยกล่อมของฟีไลร่าไม่ไหว

สุดท้ายเลยต้องมานั่งบื้ออยู่ที่นี่

 

พาเนลาปีเลิกสนใจนักเรียนในชั้นทันทีที่มีเด็กคนหนึ่งนำจดหมายเข้ามา 

ทันทีที่นางอ่านจดหมายเสร็จนางก็รีบออกจากห้องโดยไม่ได้บอกกล่าวอะไร

 

“ หมู่นี้อาจารย์ดูแปลกๆ ไปนะ ”

 

ฟิโลโซเฟอร์ชวนคุย

 

“ คงจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับกัลป์ทีลอทล่ะมั๊ง   ข้าได้ยินมาว่าทางสภาพ่อมดพยายามจะฟื้นฟูเมืองนั้นหลังจากที่ถูกฝูงมังกรดำโจมตี   แต่ก็มาเกิดโรคละบาดขึ้นเสียก่อน   กัลป์ทีลอทก็อยู่ใกล้แค่นี้ข้ายังสงสัยว่าโอรีเวียจะรับมือกับโรคละบาดไหวหรือเปล่า ”

 

ฟีไลร่าว่า

 

“ มันคงไม่ลามมาถึงนี่หรอก   ก็เขาส่งพ่อมดเก่งๆ ไปหลายคนแล้วนี่   ต้องมีสักคนละที่จัดการเรื่องนี้ได้ ”

 

อีเลียสยื่นหน้าเข้าโดยไม่บอกกล่าว

เด็กทั้งสองจึงผละจากกันด้วยความตกใจ

 

“ ให้ตายสิอีเลียสทำอะไรของเจ้านี่ ”

 

ฟิโลโซเฟอร์บ่น

 

“ ตอนแรกข้าก็คิดเหมือนเจ้าอีเลียส   แต่ตอนนี้ชักไม่แน่ใจ   เคยมีสักครั้งไหมที่ทางสภาปล่อยปัญหาไว้ยืดเยื้อ   นอกซะจากว่าเจอทางตันเข้าให้แล้ว ”

 

ฟีไลร่ามีสีหน้าครุ่นคิด

 

“ ว่าแต่อาจารย์พาเนลาปีของเราไปวุ่นวายอะไรกับเขาล่ะ ”

 

โลธอร์ยืดคอเข้ามาบ้าง

เขานั่งอยู่ข้างๆ เลโอน่าที่บูดบึ้งอยู่ตลอดเวลา

 

“ นั่นนะมือหนึ่งทางด้านสมุนไพรของเมืองนี้เชียวนะ ”

 

อีเลียสโผล่หน้ามาบ้าง

 

“ โอ๊ยอย่ารุมกันสิเดี๋ยวก็โดนทำโทษเท่านั้น ”

 

เลโอน่าบ่นอุบ

 

“ ใครจะทำโทษล่ะ ”

 

โลธอร์พยักพเยิดไปทางโต๊ะอาจารย์ที่ว่างเปล่า

แล้วเอาช้อนแก้วคนๆ ในตะแกรงร่อน 

 

เอลฟ์สโนว์ต่างกระดืบตัวขึ้นมาตามช้อน

พอเด็กร่างอ้วนทำท่าจะฟาดมันลง

 

เลโอน่าก็คว้ามือของเขาเอาไว้ 

นางดีดที่ปลายช้อนเจ้าตัวน้อยๆ ก็ร่วงลงไป

 

มันจับกลุ่มเบียดเสียดกัน

พลางเงยหน้าขึ้นมามองเขาตาใสแป๋ว

 

“ ร่างกายมันบอบบางเจ้าก็อย่ารุนแรงนักสิ ”

 

เด็กสาวผิวเข้มตำหนิ

 

หลังจากกรองเอานมออกหมดแล้ว

พวกเขาก็เติมน้ำนมสดใหม่ลงไปเป็นอาหารของมัน

 

เอลฟ์สโนว์จำเป็นต้องแช่อยู่ในอาหารตลอด

ไม่อย่างนั้นมันจะกลายเป็นแค่ผงแห้งๆ

 

อาจารย์พาเนลาปีกลับเข้ามาอีกครั้งตอนเกือบหมดชั่วโมง

 

“ เอาละถ้าใครเสร็จแล้วก็เขียนชื่อวางใต้ก้นแก้ว   แล้วเอามาส่ง   จากนั้นก็ไปได้อย่าลืมทำการบ้านล่ะ ”

 

ขณะถือแก้วไปส่งฟิโลโซเฟอร์ได้ชนเข้ากับใครคนหนึ่ง 

เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบว่าเป็นเจ้าชายเอลานอสที่จ้องจะเอาเรื่อง

เขาจึงยืดตัวขึ้นแล้วจ้องหน้ากลับไปตรงๆ

 

“ รีบไปกันเถอะ ”

 

ฟีไลร่าเรียกพลางดึงเขาออกมานอกห้อง

 

“ จริงๆ เลยนะไม่มีประโยชน์หรอกที่จะไปยุ่งกับคนแบบนั้น   ปล่อยให้เขาบ้าไปคนเดียวดีกว่า ”

 

นางบอกขณะเดินมาด้วยกันตามระเบียงเพื่อไปเรียนวิชาต่อไป 

พอถึงทางแยกนางกับเลโอน่าก็เลี้ยวไปด้วยกัน

ก่อนจะลับตาฟีไลร่าก็หันมาทางเขา

 

“ แล้วเจอกันชั่วโมงพัก ”

 

นางตะโกนบอก

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา