โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )
เขียนโดย shilen
วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.
แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย
145) ป้อมยามที่ว่างเปล่า
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเมื่อพวกเขามาถึงกำแพงปราสาทก็เป็นเวลาดึกพอสมควร ที่ซุ้มประตูโค้งดูเงียบเหงาผิดปรกติ โคมไฟจากเสาสูงส่องแสงสีเหลืองนวลเล่นเงาใบไม้ เกิดเป็นรูปร่างประหลาดสีดำเคลื่อนไหวไปมาตามแรงลม ชวนหลอกหลอนจิตให้คิดไปไกล ภายในป้อมยามกลับว่างเปล่าไร้ผู้คน
ดารีลยืนขมวดคิ้วให้กับสิ่งเหล่านี้ เขาเขม้นมองเข้าไปในป้อมยามนั้นรู้สึกถึงความผิดปรกติขั้นรุนแรง เป็นไปได้ยากที่ป้อมหน้าปราสาทจะไม่มีคนเฝ้า
เขาดึงฟีไลร่าให้มายืนใต้แสงไฟ หักกิ่งไม้ขีดเป็นวงกลมล้อมรอบนางเอาไว้
“ ถ้าเกิดเหตุร้ายอย่าก้าวขาออกมานอกวง เว้นแต่เจ้ามั่นใจว่าสามารถหนีได้เร็วพอ ก็ให้หนีเข้าปราสาทไป ”
พ่อมดน้อยเตือน
“ ท่านจะทำอะไร ”
ฟีไลร่ารู้สึกหวั่นใจขึ้นมา
“ ไม่ทำอะไรหรอก แค่จะเข้าไปในป้อมยามนั้น ”
“ มีอันตรายหรือเปล่า ”
เสียงของนางเริ่มสั่น
หนุ่มน้อยนั้นยิ้ม
เป็นรอยยิ้มที่ปลอบประโลม
“ เจ้าคิดมากไปแล้ว แค่มีคนหลับยามและข้าต้องไปปลุก บางทีอาจมีบทลงโทษบ้างเล็กน้อย ถ้าเจ้ากังวลก็หันหลังไปเสียอย่ามองดูเลย และจำเอาไว้ว่าคนที่ข้ามเส้นขีดนี้ไม่ได้คนนั้นไม่ใช่ข้าต่อให้หน้าเหมือนแค่ไหนก็อย่าตามไป ”
“ ข้าว่าเรียกคนมาช่วยไม่ดีกว่าหรือ ตอนนี้ท่านไม่ได้ถืออาวุธใดๆ เลยข้าเกรงว่า ”
ดารีลทำเป็นตกใจ
“ แค่ปลุกคนหลับนี่นะต้องเรียกคนมาช่วย เจ้าคิดว่าข้าง่อยขนาดนั้นเลยหรือ ”
“ ดารีลข้าขอล่ะท่านอย่าเข้าไปดูเลยนะ ให้คนอื่นทำเถอะ ”
เด็กหญิงวิงวอน
“ นอกจากเราตรงนี้มีใคร ข้าคงไม่เรียกผู้พิทักษ์หน้ากากทองหรอก จนกว่าจะแน่ใจว่าอะไรเป็นอะไร ”
“ แต่ ”
นางพูดแค่นั้นก็ชะงักไป
เมื่อเห็นร่างหนึ่งเคลื่อนไหวอยู่หลังป้อม
ดารีลสังเกตเห็นจึงหันไปมองบ้าง
เขาหรี่ตาให้กับสิ่งนั้น
ครู่หนึ่งจึงเอ่ยขึ้นว่า
“ ท่านวีแกน ทำอะไรของท่านน่ะ เวลานี้ต้องเฝ้าหม้อต้มยามิใช่หรือ ออกมาเดินทำอะไรแบบนี้ความรับผิดชอบของท่านหมดไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ”
ไม่พูดเปล่า
หนุ่มน้อยเดินตรงเข้าไปหา
เจ้าของร่างประหลาดนั้นก็มุ่งเข้ามาหาเขาเช่นกัน
ด้วยการเคลื่อนไหวที่พิลึกพิลั่นราวกับคนพิการ
ฟีไลร่าวิ่งตามหลังไป
โดยไม่บอกกล่าวผู้ใด
เมื่อร่างนั้นปรากฏชัดตรงหน้า
ดารีลถึงกับต้องผงะ
“ นี่ท่านไปเมาสุราอาละวาดที่ไหนมา สภาพดูไม่ได้เลยเป็นถึงครูใหญ่ทำเช่นนี้ได้อย่างไร ถึงไม่เห็นแก่หน้าข้าก็ควรให้เกียรติตำแหน่งตัวเองบ้าง ข้ายังสงสัยตัวเองไม่หายว่าสามารถพาท่านมายืนจุดนี้ได้อย่างไร ทั้งที่ท่านเป็นเอามากอย่างนี้ ”
หนุ่มน้อยทำจมูกย่น
น้ำเสียงขุ่นเคือง
เพราะวีแกนนั้นยืนโงนเงน
เสื้อผ้าขาดวิ่นซ้ำยังเปรอะเปื้อนดินโคลนและมีคราบเลือดติดเป็นจุดๆ
“ ข้าไม่ได้เมา ”
วีแกนปฏิเสธเสียงแหบแห้ง
ราวกับคนขาดน้ำมาหลายวัน
“ แล้วท่านมาทำอะไรตรงนี้ คนเฝ้ายามล่ะท่านเห็นหรือไม่ ”
ถึงจะไม่เชื่อคำพูดของวีแกน
แต่หนุ่มน้อยก็ยังใจเย็นอยู่
“ คนเฝ้ายามหรือ กลับไปแล้ว เห็นบอกว่าไม่สบายข้าเลยอาสาเฝ้ายามแทน จนกว่าจะมีคนมาเปลี่ยน ”
ดารีลเดินเข้าไปในป้อม
แล้วกลับออกมา
“ ท่านยังไม่บอกข้าเลย ว่าทิ้งหม้อต้มยาด้วยเหตุผลใด ”
“ ข้าไปหาซื้อกำยาน ที่เจ้ามอบให้มันหมดแล้ว ”
วีแกนตอบ
“ กำยานที่ใช้นั้นไม่ใช่จะมีขายทั่วไปหรอกนะ ที่หาได้ตามตลาดน่ะมันใช้ไม่ได้ผลหรอก แล้วท่านเผาเกินปริมาณที่บอกหรืออย่างไรจึงได้หมดไวอย่างนั้น ”
“ เป็นเพราะเจ้าให้น้อยเกินไปต่างหากล่ะ อย่ามาโทษข้าเพราะเรื่องนี้นะ ”
ครูใหญ่ร่างอ้วนเถียง
ดารีลส่ายหน้า
ถอนหายใจยาว
“ เล่นกับของอันตรายยังกล้าเลินเล่อ วีแกนท่านป่วยแล้ว ไปห้องพยาบาลเสียเถอะ ”
“ ข้าไม่ได้ป่วย อันที่จริงข้ารู้สึกแข็งแกร่งและทรงอำนาจมากกว่าที่เคยเป็นเสียด้วยซ้ำ ”
วีแกนยังดื้อดึง
ทันใดก็เหลือบไปเห็นฟีไลร่า
พร้อมกับตะเกียงที่แตกดับ
“ นั่นตะเกียงส่งวิญญาณ เรื่องผิดบาป ลางร้าย เจ้าต้องนำสิ่งชั่วร้ายเข้ามาในปราสาทขาวด้วยแน่เลย ของสำคัญเช่นนี้กล้าทำเสียหายได้อย่างไร ”
เขาชี้ไปยังเด็กหญิงผมสีเงิน
“ ของข้าเองข้าทำหล่นระหว่างทาง จึงยืมของนางมาใช้ ถ้าอย่างนั้นคืนนี้คงต้องไปคุกเข่าในหอสำนึกบาป ส่วนท่านไปรอข้าที่ห้องพยาบาล ”
ว่าแล้วก็สลับตะเกียงกับนางแบบหน้าตาเฉย
“ เอาล่ะเจ้าไปได้แล้ว นำตะเกียงไปรวมกันที่หน้าอนุสาวรีย์ ถ้าเจ้าเร็วพออาจจะทันอาหารมื้อค่ำ แต่ถ้าพลาดก็อดโดยที่ข้าช่วยอะไรไม่ได้ เพราะฉะนั้นอย่าโอ้เอ้วิ่งไปเสียในตอนนี้ที่ยังมีโอกาส ”
“ แต่ ”
“ อย่ามาแต่กับข้า หนึ่งในผู้คุมกฎก็ข้านี่แหละ จะยั่วโมโหช่วยดูสถานการณ์ด้วย คิดว่าข้าเป็นเพื่อนเล่นหรืออย่างไร ”
ดารีลตวาด
“ ช่างนางเถิด ก็แค่เด็กไร้ค่าคนหนึ่ง นางอยากไปตายที่ไหนก็ปล่อยไป อย่าใส่ใจเลย ”
ครูใหญ่วีแกนเริ่มรำคาญ
“ ยังไงล่ะ ไม่ใช่สายลับแต่ชอบสอดรู้สอดเห็นในเรื่องสำคัญ ถ้าไม่ติดว่าเจ้าอ่อนด้อยเกินไปข้าขุดหลุมฝังนานแล้ว กลับไปอยู่ในที่ของเจ้าเสีย ก่อนที่ข้าจะหมดความอดทน ”
หนุ่มน้อยรูปงามกระซิบเสียงเย็น
เขาคว้าหิงห้อยตัวหนึ่งยัดใส่มือนาง
“ รีบไปเสีย เมื่อถึงปราสาทขาวแล้วจงปล่อยหิงห้อยตัวนี้ อย่ากลัวไปเลยถ้าเกิดเหตุร้ายข้าจะรู้ จนกว่าหิงห้อยตัวนี้จะเป็นอิสระทุกย่างก้าวของเจ้าอยู่ในสายตาของข้าตลอด ”
เมื่อเป็นดังนั้นฟีไลร่าจึงต้องไป
โดยไม่อาจโต้แย้งได้
“ ดูท่านไม่สบายเอาหนักควรไปพักได้แล้ว ว่าแต่ท่านจะให้ข้าไปรับโทษหรือจะให้ข้ายืนยามแทน ต้องรออีกนานเท่าใด กว่าผลัดต่อไปจะมาเปลี่ยน ”
ดารีลหันไปพูดกับครูใหญ่
เมื่อเห็นว่าฟีไลร่าไปพ้นแล้ว
“ รับโทษเรื่องอะไร ”
วีแกนสงสัย
“ ก็ที่ข้าทำตะเกียงแตกอย่างไรล่ะ ”
ครูใหญ่จะหัวเราะ
แต่กลายเป็นส่งเสียงไอออกมาแทน
“ นี่เจ้าเชื่อเรื่องโชครางแบบนั้นด้วยหรือ ไร้สาระสิ้นดีของที่แตกได้ก็ย่อมแตกเป็นธรรมดา ปล่อยมันไปเถอะ ข้าว่าเจ้ากับข้ามีงานต้องทำกันแล้วคืนนี้ ส่วนคนยืนยามแจ้งผู้คุมกฎให้มาจัดการ ”
“ ข้าจะไปหอสำนึกบาป ส่วนท่านไปห้องพยาบาล หลังจากนั้นค่อยดูว่าหม้อต้มยามีสิ่งใดผิดปรกติ ”
พ่อมดน้อยสรุป
“ เจ้าไม่จำเป็นต้องทำตามกฎก็ได้นี่นา ”
ดารีลไม่ตอบแต่เขาเดินนำเข้าไปในอาคาร
ใหญ่ได้แต่วิ่งตามพร้อมกับครางหงิงๆ
“ ขอทีเถอะ ท่านอย่าทำเรื่องให้ข้าต้องกังวล เพราะตอนนี้ข้าวิ่งพล่านรอบปราสาทจนแทบจะแยกร่างได้แล้ว ”
ดารีลกล่าวตำหนิ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ