โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )
7.3
เขียนโดย shilen
วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.
188 บทที่
11 วิจารณ์
137.74K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย
133) กลัว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความครูฝึกนักดาบเฮอร์เมสถูกพาเข้ามาในห้องที่เกิดเหตุด้วยอาการงุนงง เพราะไม่มีใครแจ้งให้รู้ว่าด้วยเหตุผลใด แต่เมื่อมองเห็นดารีลกำลังถือดาบสุดรักสุดหวงของตน ก็เกิดอารมณ์เกรี้ยวกราด
“ เจ้าคนชั่วกล้าดีอย่างไรขโมยดาบของข้า ชิชะจับได้คาหนังคาเขาแบบนี้ ฝ่าบาทท่านต้องให้ความเป็นธรรมกับข้านะ ผู้ใช้เวทมนต์ทำตัวเยี่ยงนี้น่ารังเกียจยิ่งนัก เป็นเพราะมีท่านคอยให้ท้ายจึงได้เกิดเหตุขึ้น ขอท่านจงลงโทษให้หนักไม่เช่น… ”
คำพูดของเขาสะดุดลง
เมื่อหันไปเห็นร่างอันไร้วิญญาณ
ของอาจารย์โดเฮเกน
อารมณ์ขุ่นมัวก็เปลี่ยนเป็นตื่นตระหนกโดยพลัน
“ นั่นๆ นั่นมันอะไรกัน ”
เฮอร์เมสกลัวลนลาน
เขาเพิ่งสังเกตเห็นดาวหกแฉกที่วาดบนผนัง
เป็นเพราะในตอนแรก
เขาพุ่งเป้าไปที่ดารีลมากเกินไป
เลยมองข้าม
สิ่งแปลกปลอมเหล่านี้
“ แปลกใจอะไรเล่าเฮอร์เมส เจ้าคนสองหน้าสุนัขป่าแปลงโฉม เจ้าลงมือคนเดียวหรือมีใครคอยช่วยเหลือ เชื้อสายชาวคาเลคนสุดท้าย คิดหรือจะตบตาข้าได้ ”
โธรินว่าพลางย่างสามขุมเข้ามา
แต่ดารีลเอาตัวเข้ามาขวางไว้เสียก่อน
“ ดาบของท่านหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ หายยังไงที่ไหน ท่านจำได้หรือไม่ ”
หนุ่มน้อยถาม
ในตอนแรกครูนักดาบคนนั้นทั้งหวาดกลัวทั้งลนลาน
แต่เมื่อตั้งสติได้เขาก็ตอบว่า
“ เมื่อสามวันที่แล้วข้าตื่นขึ้นมาก็พบว่าดาบหายไปทั้งๆ ที่วางอยู่ข้างเตียงแท้ๆ แล้วดาบนี่เกี่ยวข้องกับเหตุร้ายหรือไม่อย่างไร ”
เมื่อได้ยินคำตอบดารีลก็ถามต่อ
“ ที่ไหนล่ะ ท่านยังไม่ตอบว่าหายจากที่ไหน ”
“ นี่เจ้าโง่หรือแกล้งโง่กันแน่ ข้าก็บอกแล้วไงว่าอยู่ข้างเตียงมันก็ต้องเป็นห้องนอนสิ ”
“ ในหอนอนของปราสาทขาวนี่นะ ”
ดารีลถามต่อ
เขายังสามารถทำใจเย็นต่อไปได้อยู่
“ ก็ใช่น่ะสิ ผู้คุมกฎแห่งปราสาทขาวเช่นเจ้าด้อยสามารถนัก ปล่อยคนชั่วเข้ามาขโมยของสำคัญของข้าเสียได้ ถ้าเกิดมันหายสาบสูญไปจริงๆ น้ำหน้าอย่างเจ้ารับผิดชอบได้หรือ ”
“ คงจริง เรื่องหละหลวมข้าคงแย้งไม่ไหว แต่แน่ใจนะว่าท่านไม่ได้พาดาบเล่มนี้ไปหายที่อื่น ”
“ พูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร คิดว่าข้าเป็นคนแบบไหนกัน ”
เฮอร์เมสขึ้นเสียง
“ ข้าแค่อยากแน่ใจว่าคนร้ายเพ่นพ่านอยู่ที่ใดกันแน่ เมื่อท่านยืนยันว่าเป็นในเขตปราสาทขาว ข้าก็พร้อมเชื่อตามนั้น ”
ดารีลกล่าวเรียบๆ
“ เช่นนั้นแล้วข้าจึงอยากแนะนำท่าน ถ้าจะหลับฝันดีถึงขนาดว่า มีคนย่องเข้าถึงปลายเตียงแล้วยังไม่รู้สึกตัวล่ะก็ คราวหลังให้ย้ายที่นอนบ่อยๆ เพราะวันข้างหน้าสิ่งที่หายอาจไม่ใช่ดาบ ”
หนุ่มน้อยว่า
พลางชี้หัวแม่มือไปที่ศีรษะของโดเฮเกน
“ ข้ายอมรับเรื่องไร้ความสามารถ ดังนั้นอย่าฝากความหวังไว้กับข้าเลย ”
เฮอร์เมสมองร่างเพื่อนร่วมอาชีพแล้วรู้สึกเย็นหลังวาบ
เด็กหนุ่มคนนี้อาจมีวาจากวนประสาท
แต่คำพูดของเขา
เชื่อถือได้พอสมควร
“ เฮอร์เมส ”
ท่านที่ปรึกษาเรียกเขาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“ ข้ารู้มาว่าท่านมีชื่อเสียงพอสมควรในแหล่งเริงรมย์ ขอเตือนท่านเป็นครั้งสุดท้าย การโกหกผู้ใช้เวทมนตร์นั้นไม่ใช่เรื่องดีหรอกนะ ครั้งนี้ดารีลไม่ถือสาครั้งหน้าคนอื่นอาจถือสาก็ได้ ”
ครานี้เฮอร์เมสต้องก้มหน้า
เบรนทรัสนั้นสุขุมก็จริง
แต่มิใช่คนที่ใครจะล้อเล่นด้วยได้
ดาบบาเรียนถูกส่งคืนให้แก่เจ้าของ
หลังจากผู้ใช้เวทมนตร์ตรวจสอบดูแล้ว
ว่ามันไม่ได้ต้องคำสาปใด
ดารีลเปิดหน้าต่างออก
เขามองไปที่อนุสาวรีย์แห่งภราดรภาพ
ซึ่งเห็นปริแตกอย่างชัดเจน
ตั้งแต่ปลายยอดจนถึงฐาน
สีหน้าของเขานิ่งงัน
แต่แววตานั้นร้าวลึก
“ เจ้าคิดอย่างไร ”
เสียงเบรนทรัสเอ่ยเบาๆ จากด้านหลัง
“ เกี่ยวกับเรื่องอะไรล่ะ ”
หนุ่มน้อยนั้นถามกลับ
“ ข้าไม่ได้ถามหาความเห็น แต่ถามถึงสิ่งที่เจ้ากำลังคิดอยู่ในตอนนี้ ”
ดารีลถอยออกมาก้าวหนึ่งแล้วก้มหน้าลง
“ ข้าไม่ได้อยากจะคิด ”
เขาบอก
“ เจ้าตอบคำถามของข้าไม่ได้ ทำไมกัน ”
คนแก่ชรายังไล่ต้อนไม่หยุด
ดารีลหันกลับมาเผชิญหน้ากับคู่สนทนา
เขาสูดลมหายใจเข้าลึกยาว
แล้วค้างไว้อย่างนั้น
“ อ้อ เจ้ากำลังกลัว ”
เบรนทรัสว่า
“ ไม่น่าเชื่อ คนเช่นเจ้ากลัวเป็นกับเขาด้วยหรือ ”
กล่าวจบเขาก็เดินจากไป
โดยทิ้งดารีลเอาไว้อย่างนั้น
หนุ่มน้อยจ้องคทาสีเงินในมือของตน
เขาค่อยๆ ปล่อยให้มันร่วงหล่นไป
ร่างงดงามในชุดคลุมยาวสีดำ
ถอยร่นไปจนชิดกรอบหน้าต่าง
หลับตาลงอีกครั้ง
ด้วยความรู้สึกขมขื่น
“ เจ้าคนชั่วกล้าดีอย่างไรขโมยดาบของข้า ชิชะจับได้คาหนังคาเขาแบบนี้ ฝ่าบาทท่านต้องให้ความเป็นธรรมกับข้านะ ผู้ใช้เวทมนต์ทำตัวเยี่ยงนี้น่ารังเกียจยิ่งนัก เป็นเพราะมีท่านคอยให้ท้ายจึงได้เกิดเหตุขึ้น ขอท่านจงลงโทษให้หนักไม่เช่น… ”
คำพูดของเขาสะดุดลง
เมื่อหันไปเห็นร่างอันไร้วิญญาณ
ของอาจารย์โดเฮเกน
อารมณ์ขุ่นมัวก็เปลี่ยนเป็นตื่นตระหนกโดยพลัน
“ นั่นๆ นั่นมันอะไรกัน ”
เฮอร์เมสกลัวลนลาน
เขาเพิ่งสังเกตเห็นดาวหกแฉกที่วาดบนผนัง
เป็นเพราะในตอนแรก
เขาพุ่งเป้าไปที่ดารีลมากเกินไป
เลยมองข้าม
สิ่งแปลกปลอมเหล่านี้
“ แปลกใจอะไรเล่าเฮอร์เมส เจ้าคนสองหน้าสุนัขป่าแปลงโฉม เจ้าลงมือคนเดียวหรือมีใครคอยช่วยเหลือ เชื้อสายชาวคาเลคนสุดท้าย คิดหรือจะตบตาข้าได้ ”
โธรินว่าพลางย่างสามขุมเข้ามา
แต่ดารีลเอาตัวเข้ามาขวางไว้เสียก่อน
“ ดาบของท่านหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ หายยังไงที่ไหน ท่านจำได้หรือไม่ ”
หนุ่มน้อยถาม
ในตอนแรกครูนักดาบคนนั้นทั้งหวาดกลัวทั้งลนลาน
แต่เมื่อตั้งสติได้เขาก็ตอบว่า
“ เมื่อสามวันที่แล้วข้าตื่นขึ้นมาก็พบว่าดาบหายไปทั้งๆ ที่วางอยู่ข้างเตียงแท้ๆ แล้วดาบนี่เกี่ยวข้องกับเหตุร้ายหรือไม่อย่างไร ”
เมื่อได้ยินคำตอบดารีลก็ถามต่อ
“ ที่ไหนล่ะ ท่านยังไม่ตอบว่าหายจากที่ไหน ”
“ นี่เจ้าโง่หรือแกล้งโง่กันแน่ ข้าก็บอกแล้วไงว่าอยู่ข้างเตียงมันก็ต้องเป็นห้องนอนสิ ”
“ ในหอนอนของปราสาทขาวนี่นะ ”
ดารีลถามต่อ
เขายังสามารถทำใจเย็นต่อไปได้อยู่
“ ก็ใช่น่ะสิ ผู้คุมกฎแห่งปราสาทขาวเช่นเจ้าด้อยสามารถนัก ปล่อยคนชั่วเข้ามาขโมยของสำคัญของข้าเสียได้ ถ้าเกิดมันหายสาบสูญไปจริงๆ น้ำหน้าอย่างเจ้ารับผิดชอบได้หรือ ”
“ คงจริง เรื่องหละหลวมข้าคงแย้งไม่ไหว แต่แน่ใจนะว่าท่านไม่ได้พาดาบเล่มนี้ไปหายที่อื่น ”
“ พูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร คิดว่าข้าเป็นคนแบบไหนกัน ”
เฮอร์เมสขึ้นเสียง
“ ข้าแค่อยากแน่ใจว่าคนร้ายเพ่นพ่านอยู่ที่ใดกันแน่ เมื่อท่านยืนยันว่าเป็นในเขตปราสาทขาว ข้าก็พร้อมเชื่อตามนั้น ”
ดารีลกล่าวเรียบๆ
“ เช่นนั้นแล้วข้าจึงอยากแนะนำท่าน ถ้าจะหลับฝันดีถึงขนาดว่า มีคนย่องเข้าถึงปลายเตียงแล้วยังไม่รู้สึกตัวล่ะก็ คราวหลังให้ย้ายที่นอนบ่อยๆ เพราะวันข้างหน้าสิ่งที่หายอาจไม่ใช่ดาบ ”
หนุ่มน้อยว่า
พลางชี้หัวแม่มือไปที่ศีรษะของโดเฮเกน
“ ข้ายอมรับเรื่องไร้ความสามารถ ดังนั้นอย่าฝากความหวังไว้กับข้าเลย ”
เฮอร์เมสมองร่างเพื่อนร่วมอาชีพแล้วรู้สึกเย็นหลังวาบ
เด็กหนุ่มคนนี้อาจมีวาจากวนประสาท
แต่คำพูดของเขา
เชื่อถือได้พอสมควร
“ เฮอร์เมส ”
ท่านที่ปรึกษาเรียกเขาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“ ข้ารู้มาว่าท่านมีชื่อเสียงพอสมควรในแหล่งเริงรมย์ ขอเตือนท่านเป็นครั้งสุดท้าย การโกหกผู้ใช้เวทมนตร์นั้นไม่ใช่เรื่องดีหรอกนะ ครั้งนี้ดารีลไม่ถือสาครั้งหน้าคนอื่นอาจถือสาก็ได้ ”
ครานี้เฮอร์เมสต้องก้มหน้า
เบรนทรัสนั้นสุขุมก็จริง
แต่มิใช่คนที่ใครจะล้อเล่นด้วยได้
ดาบบาเรียนถูกส่งคืนให้แก่เจ้าของ
หลังจากผู้ใช้เวทมนตร์ตรวจสอบดูแล้ว
ว่ามันไม่ได้ต้องคำสาปใด
ดารีลเปิดหน้าต่างออก
เขามองไปที่อนุสาวรีย์แห่งภราดรภาพ
ซึ่งเห็นปริแตกอย่างชัดเจน
ตั้งแต่ปลายยอดจนถึงฐาน
สีหน้าของเขานิ่งงัน
แต่แววตานั้นร้าวลึก
“ เจ้าคิดอย่างไร ”
เสียงเบรนทรัสเอ่ยเบาๆ จากด้านหลัง
“ เกี่ยวกับเรื่องอะไรล่ะ ”
หนุ่มน้อยนั้นถามกลับ
“ ข้าไม่ได้ถามหาความเห็น แต่ถามถึงสิ่งที่เจ้ากำลังคิดอยู่ในตอนนี้ ”
ดารีลถอยออกมาก้าวหนึ่งแล้วก้มหน้าลง
“ ข้าไม่ได้อยากจะคิด ”
เขาบอก
“ เจ้าตอบคำถามของข้าไม่ได้ ทำไมกัน ”
คนแก่ชรายังไล่ต้อนไม่หยุด
ดารีลหันกลับมาเผชิญหน้ากับคู่สนทนา
เขาสูดลมหายใจเข้าลึกยาว
แล้วค้างไว้อย่างนั้น
“ อ้อ เจ้ากำลังกลัว ”
เบรนทรัสว่า
“ ไม่น่าเชื่อ คนเช่นเจ้ากลัวเป็นกับเขาด้วยหรือ ”
กล่าวจบเขาก็เดินจากไป
โดยทิ้งดารีลเอาไว้อย่างนั้น
หนุ่มน้อยจ้องคทาสีเงินในมือของตน
เขาค่อยๆ ปล่อยให้มันร่วงหล่นไป
ร่างงดงามในชุดคลุมยาวสีดำ
ถอยร่นไปจนชิดกรอบหน้าต่าง
หลับตาลงอีกครั้ง
ด้วยความรู้สึกขมขื่น
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ