โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )
เขียนโดย shilen
วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.
แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย
129) เขาเป็นใครกันแน่
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความครูใหญ่วีแกนนั้นเอาแต่ก้มหน้า หลบสายตาดุดันของพ่อมดน้อย เมื่อคำถามหลายข้อไม่มีคำตอบที่น่าพอใจ ดารีลก็ลุกขึ้นเขาเดินไปรอบๆ ห้อง สุดท้ายก็ไปหยุดที่หน้าต่าง เขาหันกลับมาจ้องคู่สนทนาอีกครั้งพลางยกมือขึ้นกอดอก
“ ตกลงท่านเมาสุราหรือเมายากันแน่ ”
“ วันนี้ข้าไม่ได้ดื่มสุรา ”
วีแกนตอบด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
“ เช่นนั้นท่านคงป่วยไม่คิดว่าข้าควร ”
“ ข้าไม่ได้ป่วย ”
ดารีลพูดยังไม่จบวีแกนก็สวนขึ้นก่อน
“ เหตุใจเจ้าไม่สนใจในสิ่งที่ข้าอยากให้สนใจ ”
พ่อมดน้อยได้ฟังแล้วก็ส่ายหน้า
เขาหรี่ตามองหม้อต้มยาที่เดือดพล่านอยู่กลางห้อง
สีหน้าไม่ไว้วางใจอย่างเห็นได้ชัด
“ ท่านทำทั้งหมดนี่ด้วยตัวเองจริงๆ น่ะหรือ ”
“ ทำไมล่ะ หรือเจ้าไม่เชื่อข้า ”
“ แน่นอนว่าไม่ ข้าได้กลิ่นมนต์ดำท่านวีแกน แม้แต่จอมเวทวาลานยังทำสิ่งนี้ไม่ได้แล้วท่านเป็นใคร ชาวเมืองคาเลที่เขาล่ำลือว่าหลงเหลืออยู่อย่างนั้นหรือ ข้าจะไม่ทำอะไรทั้งนั้นจนกว่าท่านจะอธิบายเรื่องนี้ให้กระจ่าง เรื่องนี้ใหญ่โตไม่น้อย ท่านกล้าเสี่ยงได้อย่างไร ”
ดารีลว่า
“ เจ้าเองยังศึกษามนต์ดำ ข้าจะทำบ้างไม่ได้หรือ ”
วีแกนยังเถียง
หนุ่มน้อยรูปงามจึงได้แต่ถอนหายใจยาว
เขาเปิดหน้าต่างออกให้สายลมโกรกเข้ามา
พัดพาเอากลิ่นแปลกประหลาดของหม้อต้มยาให้จางลง
“ ตกลง ให้ตายอย่างไรท่านก็จะไม่บอกข้าว่าใครกันที่ทำสิ่งนี้ ”
“ ข้าจะบอกต่อเมื่อเจ้ารับปากจะสานต่อให้เสร็จ ”
ครูใหญ่วีแกนต่อรอง
“ ช่วยทำเรื่องพิลึกเยี่ยงนี้ ให้ข้าแจ้งข่าวไปยังสภาไม่งายกว่าหรือ วีแกนท่านรู้ตัวหรือเปล่าว่าทำอะไรลงไป ใครกันที่ท่านแอบคบหาอยู่บอกข้ามาตามตรงดีกว่า บางทีข้าอาจช่วยท่านจบเรื่องนี้ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินกว่าที่ใครจะแก้ไขได้ ”
“ ใช่ว่าผู้ใช้มนต์ดำทุกคนจะชั่วร้าย ดารีลถ้าเจ้าเก่งจริงก็บอกมาสิว่าในหม้อนั้นคืออะไร ก่อนจะตัดสินคนอื่นน่ะเจ้ารู้ดีแค่ไหนกัน ”
หนุ่มน้อยตีหน้าย่น
“ ท่านไปเอาคำพูดเผ็ดร้อนแบบนี้มาจากใครนะ เมื่อก่อนไม่เคยพูดกับข้าเช่นนี้ วีแกนท่านคิดดูให้ดีใครบางคนที่ท่านแอบไปพบน่ะ เขามีเจตนาอะไร ”
“ เจตนาของเขาก็อยู่ในหม้อต้มนั่น บอกข้ามาสิว่ามันคืออะไร เจ้าเอาแต่คิดเล็กคิดน้อยคอยจับผิดข้าอยู่ได้ แล้วสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเจ้าเหตุใดไม่ให้คำตอบแก่ข้า ดีหรือร้ายค่อยอธิบายทีหลัง แต่นี่อะไรกันเจ้ามาบอกว่ามนต์ดำๆ ใครทำสิ่งนี้ แล้วสิ่งนี้คืออะไร ใยไม่พูดออกมา ”
ครูใหญ่วีแกนเริ่มมีโมโห
“ ท่านยอมรับแล้วสินะว่ามีคนอื่นเข้ามาที่นี่ แล้วยังเป็นผู้ใช้มนต์ดำอีกด้วย ”
“ ถ้าใช่แล้วอย่างไรล่ะจะไปฟ้องวาลานอย่างนั้นหรือ คิดว่าคนแก่บ้าอำนาจอย่างเจ้านั่นจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ ”
ดารีลไม่ตอบ
เขาเดินมาที่หม้อต้มยา
ตักชิ้นส่วนในหม้อขึ้นมาดูอย่างระมัดระวัง
สีหน้านั้นขุ่นข้องใจ
“ มันเป็นศาสตร์เก่าแก่ หม้อนี้ถูกล้อมกรอบด้วยมนต์ดำส่วนผสมในหม้อบางส่วนก็ไม่เป็นมงคล ข้าเคยอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งนี้โดยละเอียดจากตำราหลายเล่ม มันคือยาแห่งชีวิตอมตะ ”
“ แล้วมีอะไรผิดเพี้ยนไปหรือเปล่า ”
ครูใหญ่วีแกนถาม
ด้วยท่าทีกระตือรือร้น
“ เท่าที่ดูตอนนี้ก็ไม่ได้มีอะไรผิดไปจากตำรา แต่รู้หรือไม่ ยาชนิดนี้ผิดเพี้ยนได้ง่ายมากและไม่เคยมีใครปรุงสำเร็จมาก่อน ผลข้างเคียงนั้นร้ายแรงนัก ”
“ เห็นหรือยังล่ะว่าคนผู้นั้นเขาหวังดีกับข้าจริงๆ ตัวยาน่ะไม่ได้หามาง่ายๆ เลยแต่เขาก็ยอมสละให้ข้า เจ้ามองคนในแง่ร้ายเกินไป ”
เสียงของวีแกนนั้นลิงโลด
ดูเหมือนเขาจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ดารีลพยายามอธิบายเลย
“ เขาน่ะใคร จะยอมบอกข้าดีๆ หรือจะให้ลงมือเสียก่อน ข้าบอกท่านแล้วถึงตาที่ท่านต้องบอกข้าบ้าง ”
คราวนี้ดารีลเอาจริง
ครูใหญ่วีแกนมีท่าทีอึกอักอย่างเห็นได้ชัด
“ อย่าคิดเล่นตลกกับข้า โอรีเวียเพิ่งถูกโจมตีท่านอย่าทำให้เรื่องยุ่งยากเลย ”
“ นั่นมันเคอร์คารอล ไม่ได้เกี่ยวกับคนผู้นั้นเลย เจ้าอย่าใส่ร้ายคนส่งเดชสิ ”
“ ในเมื่อไม่เกี่ยวก็บอกมาสิ หรือคิดว่าคนอย่างข้าจะตัดคอใครง่ายๆ เพียงเพราะเขาเป็นชาวเมืองคาเลเท่านั้น ”
ครูใหญ่วีแกนนิ่งอึ้งไปนาน
“ ว่าอย่างไรล่ะ ”
ดารีลเร่ง
“ คนผู้นั้นคือ คือ คือ ”
“ กรรมแท้ แค่บอกชื่อมามันจะยากอะไร ที่เหลือข้าจัดการเอง รับรองว่าข้าถามความเห็นก่อนลงมือแน่นอน ”
“ เขาคือสตรีสุดแดง ”
วีแกนตอบเบาหวิว
พร้อมทั้งหลบสายตามองไปที่พื้น
เพราะเขากำลังโกหก
หนุ่มน้อยถึงกับสำลัก
“ ท่านบอกว่าพบนางในความฝันมิใช่หรือ แล้วนี่คืออะไร ”
ดารีลชี้ไปที่หม้อ
สายตาหรี่ลง
“ นางคือตำนานที่มีชีวิต ถ้าเจ้าได้พบนาง ”
“ เลิกพูดถึงนางเสียที เหมือนข้าจะเคยเตือนแล้วว่าอย่าไปยุ่งกับสตรีชุดแดง นางไม่จริงใจกับใครทั้งนั้น ”
หนุ่มน้อยตัดบท
“ เจ้าไม่รู้ก็อย่าพูดเลยดารีล เพราะนางข้าจึงมายืนจุดนี้ได้ ส่วนเจ้าน่ะคอยห้ามข้าอยู่เรื่อย ความจริงแล้วเจ้าหวังดีหรือคิดริษยาข้าอยู่กันแน่ ”
วีแกนว่าบ้าง
ดารีลถึงกับถอนหายใจอย่างหนัก
แต่ก็ไม่ได้กล่าวอะไรต่อ
“ ตกลงแล้วเจ้าจะทำอย่างไรกับหม้อใบนี้ ”
เงียบไปนานกว่าดารีลจะพูด
“ ถ้าข้าไม่ยุ่งท่านก็จะทำมันต่อสินะ ทั้งที่รู้ว่าโอกาสผิดพลาดมีมากมายแต่ท่านก็จะเสี่ยง ข้าเดาถูกใช่หรือไม่ ”
“ เจ้าน่ะหลงตัวเองเกินไปแล้ว คิดว่าเก่งอยู่คนเดียว แท้จริงแล้วยังมีผู้ที่เก่งกว่าและพร้อมช่วยเหลือข้าเสมอ ดังนั้นต่อให้ไม่มีเจ้าข้าก็จะทำต่อ เว้นแต่หากเจ้ายังมีจิตใจที่ดีเห็นแก่มิตรภาพคิดอยากจะช่วย ข้าก็ใจกว้างพอที่จะไม่ปฏิเสธ ”
ดารีลหยิบผงกำยานมาโรยรอบๆ หม้อต้มยา
สีหน้านั้นเคร่งขรึม
“ ดารีลเจ้าน่ะเด็กนัก ตอนนี้คำสาปยังดำเนินอยู่อายุผู้คนก็ไหลไปเรื่อย จนกว่าจะหาทางถอนคำสาปได้ สิ่งนี้ก็จำเป็นมิใช่หรือ เรื่องนี้เจ้าอาจไม่เข้าใจ จริงอยู่ทุกคนเกิดมาต้องตายแต่ตอนนี้มีใครเกิดบ้าง ในขณะที่คนตายมีทุกวัน คนฉลาดเช่นเจ้าน่าจะเดาออกไม่ยาก ว่าสุดท้ายมันจะจบอย่างไร ”
“ ข้ายังยืนยันว่ายานี้เป็นสิ่งต้องห้าม ในเมื่อท่านดึงดันที่จะทำให้ได้ข้าก็คงไม่มีทางเลือก แต่มีข้อแม้อยู่ว่าท่านต้องเชื่อฟังข้าอย่างเคร่งครัดห้ามผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว ”
“ ข้าก็เชื่อฟังเจ้ามาตลอดนี่นา ”
วีแกนว่าพลางวิ่งไปหยิบม้วนกระดาษสีน้ำตาลมาให้
“ นี่เป็นตำรายาที่ถูกต้อง ”
ท่าทางของครูใหญ่ร่างอ้วนนั้นยินดีเป็นที่สุด
ดารีลรับมาอ่าน
คิ้วเรียวงามนั้นขมวดมุ่น
“ ยาพวกนี้อ่อนไหวมาก รู้หรือไม่ หากมีคนคิดไม่ซื่อ แอบเอาส่วนผสมแปลกปลอมปนลงไปแม้แต่นิดเดียว ผลที่ตามมานั้นน่ากลัวนัก และบางตำรายังบอกว่าผู้ที่ดื่มยานี้จะไม่เหมือนเดิม เขาต้องใช้ชีวิตของผู้อื่นเพื่อต่อชีวิตของตนเอง ฟังดูประหลาดหรือไม่ ข้าว่าเราต้องใจเย็นให้มาก นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ”
“ เจ้าน่ะกังวลเกินไปแล้ว สิ่งชั่วร้ายยังมาไม่ถึง จ้าก็คิดหาทางป้องกันเสียแล้ว แบบนี้คงไม่ต้องทำอะไรกันพอดี ”
เสียงระฆังดังขึ้นสิบเอ็ดครั้ง
หนุ่มน้อยรูปงามถึงกับผงะ
“ แย่ละสิข้ามีนัดกับอาจารย์โดเฮเกน แต่ช่างเถิดข้าบอกว่าหลังสามทุ่มนี่นา ตอนนี้ห้าทุ่มยังไงก็ถือว่าหลังสามทุ่มอยู่ดี ”
“ เขาเรียกเจ้าไปพบทำไมกัน ”
วีแกนเสียงขุ่น
แสดงออกว่าไม่ค่อยพอใจ
“ วันนี้ในชั่วโมงเรียนวิชาประวัติศาสตร์ ข้าเผลอไปกวนโมโหเข้าให้ เลยโดนเรียกตัวก็เท่านั้นเอง ”
ดารีลตอบ
“ ชิชะ โดเฮเกนเจ้าคนขี้โอ่ กล้าดีอย่างไร เจ้าไม่ต้องไปหรอกเดี๋ยวข้าจัดการเอง ”
“ เรื่องเล็กน้อยน่า ข้าแค่ไปขอโทษเรื่องก็จบแล้ว อย่าวุ่นวายเลย ”
หนุ่มน้อยว่าพลางลุกขึ้นยืน
เขาหมุนม้วนกระดาษด้วยปลายนิ้ว
“ ส่วนนี่ข้าเก็บไว้ก่อนนะ แล้วอย่าลืมคำเตือนล่ะ ”
“ เอาสิ เอาไปเลยข้ายกให้เจ้า ”
ดารีลจ้องมองหม้อต้มยานั้น
ด้วยแววตาสุดหยั่งคะเน
แต่สุดท้ายเขาก็หมุนตัวจากไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ