โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )

7.3

เขียนโดย shilen

วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.

  188 บทที่
  11 วิจารณ์
  137.50K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

129) เขาเป็นใครกันแน่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ครูใหญ่วีแกนนั้นเอาแต่ก้มหน้า   หลบสายตาดุดันของพ่อมดน้อย   เมื่อคำถามหลายข้อไม่มีคำตอบที่น่าพอใจ   ดารีลก็ลุกขึ้นเขาเดินไปรอบๆ ห้อง   สุดท้ายก็ไปหยุดที่หน้าต่าง   เขาหันกลับมาจ้องคู่สนทนาอีกครั้งพลางยกมือขึ้นกอดอก

 

“ ตกลงท่านเมาสุราหรือเมายากันแน่ ”

 

“ วันนี้ข้าไม่ได้ดื่มสุรา ”

 

วีแกนตอบด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

 

“ เช่นนั้นท่านคงป่วยไม่คิดว่าข้าควร ”

 

“ ข้าไม่ได้ป่วย ”

 

ดารีลพูดยังไม่จบวีแกนก็สวนขึ้นก่อน

 

“ เหตุใจเจ้าไม่สนใจในสิ่งที่ข้าอยากให้สนใจ ”

 

พ่อมดน้อยได้ฟังแล้วก็ส่ายหน้า

เขาหรี่ตามองหม้อต้มยาที่เดือดพล่านอยู่กลางห้อง

สีหน้าไม่ไว้วางใจอย่างเห็นได้ชัด

“ ท่านทำทั้งหมดนี่ด้วยตัวเองจริงๆ น่ะหรือ ”

 

“ ทำไมล่ะ   หรือเจ้าไม่เชื่อข้า ”

 

“ แน่นอนว่าไม่   ข้าได้กลิ่นมนต์ดำท่านวีแกน   แม้แต่จอมเวทวาลานยังทำสิ่งนี้ไม่ได้แล้วท่านเป็นใคร   ชาวเมืองคาเลที่เขาล่ำลือว่าหลงเหลืออยู่อย่างนั้นหรือ   ข้าจะไม่ทำอะไรทั้งนั้นจนกว่าท่านจะอธิบายเรื่องนี้ให้กระจ่าง   เรื่องนี้ใหญ่โตไม่น้อย   ท่านกล้าเสี่ยงได้อย่างไร ”

 

ดารีลว่า

 

“ เจ้าเองยังศึกษามนต์ดำ   ข้าจะทำบ้างไม่ได้หรือ ”

 

วีแกนยังเถียง

 

หนุ่มน้อยรูปงามจึงได้แต่ถอนหายใจยาว

 

เขาเปิดหน้าต่างออกให้สายลมโกรกเข้ามา

พัดพาเอากลิ่นแปลกประหลาดของหม้อต้มยาให้จางลง

 

“ ตกลง   ให้ตายอย่างไรท่านก็จะไม่บอกข้าว่าใครกันที่ทำสิ่งนี้ ”

 

“ ข้าจะบอกต่อเมื่อเจ้ารับปากจะสานต่อให้เสร็จ ”

 

ครูใหญ่วีแกนต่อรอง

 

“ ช่วยทำเรื่องพิลึกเยี่ยงนี้   ให้ข้าแจ้งข่าวไปยังสภาไม่งายกว่าหรือ   วีแกนท่านรู้ตัวหรือเปล่าว่าทำอะไรลงไป   ใครกันที่ท่านแอบคบหาอยู่บอกข้ามาตามตรงดีกว่า   บางทีข้าอาจช่วยท่านจบเรื่องนี้ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินกว่าที่ใครจะแก้ไขได้ ”

 

“ ใช่ว่าผู้ใช้มนต์ดำทุกคนจะชั่วร้าย   ดารีลถ้าเจ้าเก่งจริงก็บอกมาสิว่าในหม้อนั้นคืออะไร   ก่อนจะตัดสินคนอื่นน่ะเจ้ารู้ดีแค่ไหนกัน ”

 

หนุ่มน้อยตีหน้าย่น

 

“ ท่านไปเอาคำพูดเผ็ดร้อนแบบนี้มาจากใครนะ   เมื่อก่อนไม่เคยพูดกับข้าเช่นนี้   วีแกนท่านคิดดูให้ดีใครบางคนที่ท่านแอบไปพบน่ะ   เขามีเจตนาอะไร ”

 

“ เจตนาของเขาก็อยู่ในหม้อต้มนั่น   บอกข้ามาสิว่ามันคืออะไร   เจ้าเอาแต่คิดเล็กคิดน้อยคอยจับผิดข้าอยู่ได้   แล้วสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเจ้าเหตุใดไม่ให้คำตอบแก่ข้า   ดีหรือร้ายค่อยอธิบายทีหลัง   แต่นี่อะไรกันเจ้ามาบอกว่ามนต์ดำๆ ใครทำสิ่งนี้   แล้วสิ่งนี้คืออะไร   ใยไม่พูดออกมา ”

 

ครูใหญ่วีแกนเริ่มมีโมโห

 

“ ท่านยอมรับแล้วสินะว่ามีคนอื่นเข้ามาที่นี่   แล้วยังเป็นผู้ใช้มนต์ดำอีกด้วย ”

 

“ ถ้าใช่แล้วอย่างไรล่ะจะไปฟ้องวาลานอย่างนั้นหรือ   คิดว่าคนแก่บ้าอำนาจอย่างเจ้านั่นจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ ”

 

ดารีลไม่ตอบ

เขาเดินมาที่หม้อต้มยา

 

ตักชิ้นส่วนในหม้อขึ้นมาดูอย่างระมัดระวัง

สีหน้านั้นขุ่นข้องใจ

 

“ มันเป็นศาสตร์เก่าแก่   หม้อนี้ถูกล้อมกรอบด้วยมนต์ดำส่วนผสมในหม้อบางส่วนก็ไม่เป็นมงคล   ข้าเคยอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งนี้โดยละเอียดจากตำราหลายเล่ม   มันคือยาแห่งชีวิตอมตะ ”  

 

“ แล้วมีอะไรผิดเพี้ยนไปหรือเปล่า ”

 

ครูใหญ่วีแกนถาม

ด้วยท่าทีกระตือรือร้น

 

“ เท่าที่ดูตอนนี้ก็ไม่ได้มีอะไรผิดไปจากตำรา   แต่รู้หรือไม่   ยาชนิดนี้ผิดเพี้ยนได้ง่ายมากและไม่เคยมีใครปรุงสำเร็จมาก่อน   ผลข้างเคียงนั้นร้ายแรงนัก ”

 

“ เห็นหรือยังล่ะว่าคนผู้นั้นเขาหวังดีกับข้าจริงๆ ตัวยาน่ะไม่ได้หามาง่ายๆ เลยแต่เขาก็ยอมสละให้ข้า   เจ้ามองคนในแง่ร้ายเกินไป ”  

 

เสียงของวีแกนนั้นลิงโลด

ดูเหมือนเขาจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ดารีลพยายามอธิบายเลย

 

“ เขาน่ะใคร   จะยอมบอกข้าดีๆ หรือจะให้ลงมือเสียก่อน   ข้าบอกท่านแล้วถึงตาที่ท่านต้องบอกข้าบ้าง  ”

 

คราวนี้ดารีลเอาจริง

 

ครูใหญ่วีแกนมีท่าทีอึกอักอย่างเห็นได้ชัด

 

“ อย่าคิดเล่นตลกกับข้า   โอรีเวียเพิ่งถูกโจมตีท่านอย่าทำให้เรื่องยุ่งยากเลย ”

 

“ นั่นมันเคอร์คารอล   ไม่ได้เกี่ยวกับคนผู้นั้นเลย   เจ้าอย่าใส่ร้ายคนส่งเดชสิ ”

 

“ ในเมื่อไม่เกี่ยวก็บอกมาสิ   หรือคิดว่าคนอย่างข้าจะตัดคอใครง่ายๆ เพียงเพราะเขาเป็นชาวเมืองคาเลเท่านั้น ”

 

ครูใหญ่วีแกนนิ่งอึ้งไปนาน

 

“ ว่าอย่างไรล่ะ ”

 

ดารีลเร่ง

 

“ คนผู้นั้นคือ   คือ   คือ ”

 

“ กรรมแท้   แค่บอกชื่อมามันจะยากอะไร   ที่เหลือข้าจัดการเอง   รับรองว่าข้าถามความเห็นก่อนลงมือแน่นอน ”

 

“ เขาคือสตรีสุดแดง ”

 

วีแกนตอบเบาหวิว

พร้อมทั้งหลบสายตามองไปที่พื้น

เพราะเขากำลังโกหก

 

หนุ่มน้อยถึงกับสำลัก

 

“ ท่านบอกว่าพบนางในความฝันมิใช่หรือ   แล้วนี่คืออะไร ”

 

ดารีลชี้ไปที่หม้อ

สายตาหรี่ลง

 

“ นางคือตำนานที่มีชีวิต   ถ้าเจ้าได้พบนาง ”

 

“ เลิกพูดถึงนางเสียที   เหมือนข้าจะเคยเตือนแล้วว่าอย่าไปยุ่งกับสตรีชุดแดง   นางไม่จริงใจกับใครทั้งนั้น ”

 

หนุ่มน้อยตัดบท

 

“ เจ้าไม่รู้ก็อย่าพูดเลยดารีล   เพราะนางข้าจึงมายืนจุดนี้ได้   ส่วนเจ้าน่ะคอยห้ามข้าอยู่เรื่อย   ความจริงแล้วเจ้าหวังดีหรือคิดริษยาข้าอยู่กันแน่ ”

 

วีแกนว่าบ้าง

 

ดารีลถึงกับถอนหายใจอย่างหนัก

แต่ก็ไม่ได้กล่าวอะไรต่อ

 

“ ตกลงแล้วเจ้าจะทำอย่างไรกับหม้อใบนี้ ”

 

เงียบไปนานกว่าดารีลจะพูด

 

“ ถ้าข้าไม่ยุ่งท่านก็จะทำมันต่อสินะ   ทั้งที่รู้ว่าโอกาสผิดพลาดมีมากมายแต่ท่านก็จะเสี่ยง   ข้าเดาถูกใช่หรือไม่ ”

 

“ เจ้าน่ะหลงตัวเองเกินไปแล้ว   คิดว่าเก่งอยู่คนเดียว   แท้จริงแล้วยังมีผู้ที่เก่งกว่าและพร้อมช่วยเหลือข้าเสมอ   ดังนั้นต่อให้ไม่มีเจ้าข้าก็จะทำต่อ   เว้นแต่หากเจ้ายังมีจิตใจที่ดีเห็นแก่มิตรภาพคิดอยากจะช่วย   ข้าก็ใจกว้างพอที่จะไม่ปฏิเสธ ”

 

ดารีลหยิบผงกำยานมาโรยรอบๆ หม้อต้มยา

สีหน้านั้นเคร่งขรึม

 

“ ดารีลเจ้าน่ะเด็กนัก   ตอนนี้คำสาปยังดำเนินอยู่อายุผู้คนก็ไหลไปเรื่อย   จนกว่าจะหาทางถอนคำสาปได้   สิ่งนี้ก็จำเป็นมิใช่หรือ   เรื่องนี้เจ้าอาจไม่เข้าใจ   จริงอยู่ทุกคนเกิดมาต้องตายแต่ตอนนี้มีใครเกิดบ้าง   ในขณะที่คนตายมีทุกวัน   คนฉลาดเช่นเจ้าน่าจะเดาออกไม่ยาก   ว่าสุดท้ายมันจะจบอย่างไร ”

 

“ ข้ายังยืนยันว่ายานี้เป็นสิ่งต้องห้าม   ในเมื่อท่านดึงดันที่จะทำให้ได้ข้าก็คงไม่มีทางเลือก   แต่มีข้อแม้อยู่ว่าท่านต้องเชื่อฟังข้าอย่างเคร่งครัดห้ามผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว ” 

 

“ ข้าก็เชื่อฟังเจ้ามาตลอดนี่นา ”

 

วีแกนว่าพลางวิ่งไปหยิบม้วนกระดาษสีน้ำตาลมาให้

 

“ นี่เป็นตำรายาที่ถูกต้อง ”

 

ท่าทางของครูใหญ่ร่างอ้วนนั้นยินดีเป็นที่สุด

 

ดารีลรับมาอ่าน

คิ้วเรียวงามนั้นขมวดมุ่น

 

“ ยาพวกนี้อ่อนไหวมาก   รู้หรือไม่   หากมีคนคิดไม่ซื่อ   แอบเอาส่วนผสมแปลกปลอมปนลงไปแม้แต่นิดเดียว   ผลที่ตามมานั้นน่ากลัวนัก   และบางตำรายังบอกว่าผู้ที่ดื่มยานี้จะไม่เหมือนเดิม   เขาต้องใช้ชีวิตของผู้อื่นเพื่อต่อชีวิตของตนเอง   ฟังดูประหลาดหรือไม่   ข้าว่าเราต้องใจเย็นให้มาก   นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ”  

 

“ เจ้าน่ะกังวลเกินไปแล้ว   สิ่งชั่วร้ายยังมาไม่ถึง   จ้าก็คิดหาทางป้องกันเสียแล้ว   แบบนี้คงไม่ต้องทำอะไรกันพอดี ”

 

เสียงระฆังดังขึ้นสิบเอ็ดครั้ง

หนุ่มน้อยรูปงามถึงกับผงะ

 

“ แย่ละสิข้ามีนัดกับอาจารย์โดเฮเกน   แต่ช่างเถิดข้าบอกว่าหลังสามทุ่มนี่นา   ตอนนี้ห้าทุ่มยังไงก็ถือว่าหลังสามทุ่มอยู่ดี ”

 

“ เขาเรียกเจ้าไปพบทำไมกัน ”

 

วีแกนเสียงขุ่น

แสดงออกว่าไม่ค่อยพอใจ

 

“ วันนี้ในชั่วโมงเรียนวิชาประวัติศาสตร์   ข้าเผลอไปกวนโมโหเข้าให้   เลยโดนเรียกตัวก็เท่านั้นเอง ”

 

ดารีลตอบ

 

“ ชิชะ   โดเฮเกนเจ้าคนขี้โอ่   กล้าดีอย่างไร   เจ้าไม่ต้องไปหรอกเดี๋ยวข้าจัดการเอง ”

 

“ เรื่องเล็กน้อยน่า   ข้าแค่ไปขอโทษเรื่องก็จบแล้ว   อย่าวุ่นวายเลย ”

 

หนุ่มน้อยว่าพลางลุกขึ้นยืน

เขาหมุนม้วนกระดาษด้วยปลายนิ้ว

 

“ ส่วนนี่ข้าเก็บไว้ก่อนนะ   แล้วอย่าลืมคำเตือนล่ะ ”

 

“ เอาสิ   เอาไปเลยข้ายกให้เจ้า ”

 

ดารีลจ้องมองหม้อต้มยานั้น

ด้วยแววตาสุดหยั่งคะเน

แต่สุดท้ายเขาก็หมุนตัวจากไป

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา