แก้วนพคุณ

-

เขียนโดย เวลา

วันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 16.59 น.

  38 บท
  0 วิจารณ์
  31.20K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

37) แก้วกลางดอย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

อาหารเที่ยงทำเสร็จแล้วแต่พริมาต้องเตรียมอาหารเย็นต่อ                    หล่อนฝากมาริสาเอาเก๊กฮวยเย็นไปให้นพคุณ เพราะรีบออกมาเลยไม่ได้วางไว้ให้เขา สาวน้อยใจลอย...ทำไมแพรวพณิตไม่มาด้วยหนอ หล่อนเห็นนพคุณไปไหนจะเห็นแพรวพณิตไปด้วยเสมอ ยามาชอบเอารูปใน Facebook ให้หล่อนดูเป็นประจำ เห็นยามากับแพรวพณิตไม่ถูกกัน แต่สองคนนั่นกลับเป็นเพื่อนกันใน Facebook...พริมาคิดว่าสองคนนั่นคงถือคติรู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง และตั้งแต่ยามาโค่นบัลลังก์เวทีนางนพมาศของแพรวพณิต ดูเหมือนรุ่นพี่สาวสวยคนนั้นจะเกลียดเพื่อนของหล่อนยิ่งกว่าเก่า             (เดิมทีก็เกลียดกันมากอยู่แล้ว) แพรวพณิตเรียนที่เดียวกับนพคุณและหล่อนจะลงรูปบ่อยๆ เวลาพวกเขามีกิจกรรม และในรูปเหล่านั้น ต้องมีนพคุณเสมอ ยามาชอบเอามาให้พริมาดู

“ดูดิ! หมั่นไส้เอารูปมาลงเรียกกระแส เห็นก็รู้แล้วไอ้ขี้เก๊กไม่รู้ต้ว  ถ่ายให้ติดนิดหนึ่ง แสดงตัวประมาณว่าสนิทกันว่างั้น” และมันเรียกกระแสได้มากทีเดียว เพราะมีคนกดไลค์เป็นร้อย ๆ

“คงลงรูปดักคอพวกสาวๆ ล่ะซิ คิดว่าฉันไม่รู้รึไงยัยแพรวพาณิชย์” ยามาเปลี่ยนชื่อให้ศัตรูใหม่ แพรวพาณิชย์น่ะเหมาะแล้ว เร่ขายไปทั่ว      ผู้ชายเขาไม่ซื้อก็จะขาย...พริมาตาโตเพื่อนหล่อนปากร้ายไปหน่อยว่ากันขนาดนี้ก็เกินไป

“ปลาทูอย่าไปว่าพี่เขาแบบนั้น” ยามาทำท่าจะเถียง แต่หล่อนก็คิดได้ว่าพูดเกินจริงไปจริงๆ จึงไม่ได้เถียงเพื่อนกลับไป แต่หล่อนจะไม่เปลี่ยนฉายาให้หรอกนะรู้กันแค่นี้ก็ได้ว่าหมายถึงอะไร สาวน้อยกำลังนั่งหั่นผัก      แต่ตาหล่อนไม่ได้มองผัก นพคุณเดินเข้ามาในครัว พอหายงอน (ก็บอกว่าไม่ได้งอนไง) ก็อยากจะคุยด้วยเสียหน่อย เขายืนมองอยู่ตรงนี้นานแล้ว       แต่สาวน้อยดูเหมือนจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามีใครเข้าออกหรือผ่านเข้ามาในครัวบ้าง หล่อนกำลังคิดอะไรอยู่ถึงใจลอยแบบนี้ เมื่อกี้ผ่านมาก่อนถึงครัวเขาเห็นพลอยใสกับคเชนทร์ยืนคุยกันอยู่...เห็นแล้วก็ตลกดี คเชนทร์เดินตามยามา ส่วนพลอยใสเดินตามคเชนทร์...เวียนหัวดีแท้

“อุ๊ย!” พริมาอุทานเสียงดัง นพคุณตกใจ เขารีบเขาไปดูว่าหญิงสาวเป็นอะไร

“มีดบาดค่ะ สงสัยใจลอยไปหน่อย” นพคุณขมวดคิ้ว พริมามีเรื่องอะไรให้คิดถึงขนาดทำให้หล่อนใจลอยจนมีดบาดได้นะ หรือเพราะพลอยใส? ถ้าเขาจำไม่ผิดคเชนทร์เป็นคนชวนพริมาให้มาออกค่ายด้วยกัน แต่หมอนั่น วันนี้ไม่สนใจหล่อนเลยด้วยซ้ำ และเมื่อกี้เขาผ่านมาหมอนั่นกำลังคุยกับสาวแฟนเก่าหน้าระรื่น

“มาล้างแผลก่อน” นพคุณจับมือพริมาเดินมาล้างน้ำสะอาด โชคดีที่แผลไม่ลึก และไม่นานเลือดก็หยุดไหล เขายืนกดแผลให้สาวน้อยอยู่นาน     จนใครต่อใครที่ผ่านมาอดส่งสายตามองมาไม่ได้ พริมาเขินแต่นพคุณไม่สนใจใครจะมองก็ช่างสิ...ดีเสียอีกพวกนั้นจะได้ไม่เข้ามายุ่ง! ไม่ต้องมาชวน        ยัยเพี้ยนคุยด้วย...เมื่อเช้าเขาเห็นพวกศิษย์เก่าศิษย์ใหม่หลายคนกุลีกุจอช่วยยัยเพี้ยนขนน้ำแจกน้ำกันยกใหญ่ เห็นแล้วไม่ชอบใจเลย คราวนี้พวกนี้จะได้รู้...แล้วรู้อะไร? นพคุณเริ่มสับสนเขาอยากให้คนพวกนั้น เข้าใจว่าอย่างไรนะ?

“เลือดหยุดแล้วค่ะ” พริมาดึงมือออก ตอนนี้แก้มของสาวน้อยซับสีชมพูมองแล้วเพลินตาดี นพคุณเอียงคอมอง...เขาชอบ ชายหนุ่มขมวดคิ้วอีกครั้ง...แล้วเขาชอบอะไร? พริมาเดินกลับไปหั่นผักอีกรอบ มาริสาที่นั่งอยู่ขยับตัว หล่อนเห็นฉากเด็ด เสียดายไอ้ยศไม่อยู่ ถ้ามันรู้ว่าพลาดอะไรไปมันคงอกแตกตาย ฮึ! สมน้ำหน้ามัวไปปาร์ตี้อยู่ข้างนอก อดได้ข่าวเลยไอ้ยศเอ้ย! และเพราะเป็นมาริสาที่ไม่ชอบพูดเรื่องของคนอื่น ฉากเด็ดวันนี้ถ้ารู้ไปก็คงไม่ได้มาจากหล่อนแน่ หล่อนเห็นมีหลายคนที่เดินผ่านไปผ่านมาก็เห็นเหมือนกัน สองคนนี่นึกว่าอยู่กันสองคนบนโลกรึยังไงนะ ไม่สนใจสิ่งรอบข้างบ้างเลย หล่อนสงสัยอยู่เหมือนกันว่าพริมากับนพคุณรู้จักกันได้อย่างไร? และเพิ่งรู้ไม่นานว่าพ่อแม่ของสองคนนี่เป็นแฟนกัน...เรื่องมันซับซ้อนดีแท้ แต่หล่อนก็สังเกตมาหลายปีแล้ว เวลานพคุณมองเพื่อนของหล่อนนั้นไม่เหมือนเวลาเขามองคนอื่น และหลังๆ มานี่รุ่นพี่คนนี้แทบไม่ละสายตาจากเพื่อนสาวตัวเล็กของหล่อนเลย ใครที่ลือว่านพคุณเป็นแฟนกับแพรวพณิตนั้น สำหรับมาริสาแล้วหล่อนเห็นต่าง       อีกคนที่รู้ดีก็น่าจะเป็นยามา คนนั้นฉลาดมองคนเก่ง

“จะทำอะไร?” นพคุณตามลงมานั่งข้างๆ เขาเห็นพริมาถืออุปกรณ์ที่ทำให้ตัวเองเลือดตกยางออกอย่างสงสัย

“หั่นผักค่ะ ยังไม่เสร็จ” พริมายิ้มตอบ

“เอามานี่” นพคุณแย่งมีดไปจากมือพริมาแล้วหั่นผักเองอย่างเก้ๆ กังๆ

“พี่คุณ...เดี๋ยวมีดบาด” พริมาเป็นห่วง เพราะดูจากท่าทางของเขาแล้ว นพคุณน่าจะไม่ถนัดงานครัว แต่ชายหนุ่มก็ไม่ยอมคืนมีดให้...ระหว่างนั้นศศิธรกลับมาพอดี หล่อนออกไปแจกน้ำให้พวกใช้แรงงานทั้งหลาย และใกล้เวลาเที่ยงแล้ว เดี๋ยวจะต้องขนของออกไปข้างนอกเตรียมเสริ์ฟแขกผู้มีเกียรติอีก แต่ที่ไม่คาดคิดคือกลับมาขนของแต่ดันมาเจอ “แรร์ไอเท็ม” นั่งหั่นผักอยู่ข้างหน้า ศศิธรส่งสายตาพยักเพยิดถามมาริสาที่นั่งอยู่ที่นี่ตลอด...นี่หล่อนพลาดอะไรไปบ้างหนอ และมือไวเท่าความคิดสาวหล่อแอบถ่ายรูปส่งไปให้ชัยยศทันที ไม่สนสายตาด่าทอของอดีตหัวหน้าห้องที่ปรามมา นพคุณเห็นแล้วว่าสาวหล่อแอบถ่ายรูปเขา แต่เขาไม่สน...ดี! เอาไปลงโซเชียลด้วยนะ    ให้เห็นกันหมดทั้งโรงเรียนนั่นแหละ เขาไม่อยู่ที่โรงเรียนแล้ว แต่ได้เป็นข่าวเสียหน่อยจะเป็นไรไป มาริสาที่สังเกตอยู่ตลอดเลิกคิ้ว หล่อนก็เหมือนยามา ฉลาดดูคนเก่ง ถ้าพี่ต้องการงั้นหล่อนก็จะไม่ห้ามล่ะนะ

“เรียบร้อยแล้วค่ะ พี่คุณเก่งเหมือนกันนะเนี้ย ลูกแก้วบอกแป๊บเดียวก็ทำได้เลย” พริมาชมชายหนุ่มที่ตอนนี้นั่งยิ้มภูมิใจกับกองผักตรงหน้า ศศิธรเบะปากจะเก่งอะไรนักหนากะอีแค่หั่นผัก ไอ้คนชมก็เว่อร์ส่วนคนถูกชมก็บ้ายอ สมัยที่นพคุณยังเรียนอยู่หล่อนเคยเห็นเขาบ้าง แต่ไม่เคยคลุกคลี มาวันนี้ได้เห็นคนดังในอีกมุมก็แปลกตาดีเหมือนกัน ผิดกับคเชนทร์ที่เจอบ่อย แต่เอ้?แล้วแบบนี้ใครกันแน่ที่เป็นตัวจริง หรือที่แท้แล้ว “แรร์ไอเท็ม” อีกคนจะเป็นตัวหลอก เพราะพริมาไม่เคยหน้าแดงแบบคนนี้ ฮุ้ย! ปวดหัววุ้ย

ชัยยศวิ่งมาแล้ว...มาถึงช้านะ ศศิธรส่งสายตาไปบอกประมาณนั้น เขานั่งลงข้างสาวหล่อ เหมือนลองหยั่งเชิง ก่อนจะถามเสียงดังว่า

“พี่ๆ ถ้าตลอดทริปนี้ผมลงรูปแล้วมีรูปพี่ติดไปด้วยพี่โอเคป่ะ?” ถือว่าขอรวมๆ ล่ะวะ มาริสาเลิกคิ้ว...ไอ้ยศหัวหมอ นพคุณยิ้มมุมปาก ถ้าไม่ทันสังเกตคงไม่เห็น แต่สามคนตรงหน้าเป็นพวกตาเหยี่ยวพวกเขาเห็นพร้อมกันสามคน

“ลงได้ทุกรูปเลย...ถือว่าเป็นเกียรติที่จะได้เป็นข่าวในหน้าเพจชัยยศคนดัง” ชัยยศตบมือดีใจ เขาไม่ต้องกลัวว่าจะถูกฟ้อง เพราะเขาขอเอากับคนต้นข่าวขนาดนี้ น่าแปลกเมื่อก่อนนพคุณจะหลบหรือระวังตัวทุกครั้งที่เห็นเขา แต่วันนี้เขาเปิดทาง เรียกว่าชี้ทางน่าจะดีกว่า ยิ่งเห็นเขามาโผล่ที่งานออกค่ายแบบนี้ยิ่งแล้วใหญ่ ไอ้พวกที่ไม่ได้มา เพราะไม่รู้ข่าวมาก่อนน่าจะเสียดายน่าดู ฮี่ๆๆ ศศิธรกับมาริสาตาโต...ชัดเจนแล้วแบบนี้ แต่ดูเหมือนยัยลูกแก้วจะยังไม่รู้เรื่องอะไร เฮ้อ...ลูกแก้วสไตล์ของแท้ นพคุณยิ้มอารมณ์ดีตลอดเวลาที่อยู่ในครัว    เขาช่วยพริมาทำทุกอย่างท่ามกลางสายตาของดงเผือก ชัยยศถ่ายรูปอย่างเปิดเผย ดูเขาจะมีความสุขที่สุดในนี้แล้วก็ว่าได้ พวกเขาช่วยกันขนอาหารกลางวันออกไปข้างนอก และแบ่งหน้าที่กันออกไปตามพวกเพื่อนๆ ให้มากินข้าว ยามาเดินหน้าหงิกมาที่โรงอาหาร ด้านหลังมีคเชนทร์ตามติดเป็นเงาพร้อมพูดอะไรสักอย่างชี้ไม้ชี้มือประกอบ พริมามองอยู่จากตรงนี้ก็อดขำคเชนทร์ไม่ได้ หล่อนไม่เคยเห็นคเชนทร์ทำหน้าเมื่อยแบบนี้มาก่อน ถัดไปไกลๆ หล่อนเห็นพลอยใสยืนนิ่งมองอยู่ เห็นแบบนี้แล้วอยากจะจัดเวทีให้สามคนนี่คุยกันให้จบๆ ไปเลยจะได้ไม่เดือดร้อนลำบากมาถึงหล่อน พริมาถอนใจจนนพคุณที่ยืน      อยู่ข้างๆ ต้องหันมามอง เขาหรี่ตามอง...พริมากลุ้มใจอะไร?

“มีอะไรกินบ้างหิวจะแย่” ยามาเดินมาถึงแล้ว หล่อนไม่สนใจคเชนทร์ แต่ก็ไม่ได้ดูหงุดหงิดมากเหมือนตอนที่ขึ้นรถมาครั้งแรก” ไอ้นี่ก็อีกคน...เว่อร์” ศศิธรที่ยืนมองอยู่คิดในใจ หล่อนอยู่ในเหตุการณ์วันที่พวกนี้ตีกัน    แต่นี่มันก็นานมาแล้ว ไอ้ปลาทูนี่มันจะแค้นอะไรนักหนา ทำนิสัยผู้หญิงไปได้ เออ! ก็มันเป็นผู้หญิงนี่หว่าไม่ใช่ผู้หญิงอกสามศอกแบบหล่อนที่ไม่เอาเรื่องหยุมหยิมมาคิดให้รำคาญใจ เอ้หรือมันจะเล่นตัวเล่นท่าไปอย่างนั้นเอง      เห็นผู้ชายหล่อๆ เดินตามเข้าหน่อย ร้าย...ร้าย! ไอ้ปลาทูนี่มันร้าย! จังหวะนั้นยามาหันมาพอดี ศศิธรรีบหลบตา ไอ้นี่มันมีพรายกระซิบหรือไงนะ?               รู้แม้กระทั่งตอนที่หล่อนแอบนินทาในใจ

“อะไรไอ้เก๋?” ยามาเท้าเอว ท่านี้หล่อนทำประจำจนคนที่สนิทกันไม่มีใครกลัว ขนาดนพคุณยังชินเพราะเขาเห็นจนชินตา คเชนทร์เห็นท่าทางแม่สาวจอมเหวี่ยง เขาก็เลี่ยงไปนั่งกับพวกศิษย์เก่าที่นั่งกินข้าวกันอยู่ก่อนแล้ว ปล่อยให้ยัยปลาดุกฟูปล่อยพลังไปก่อนดีแล้ว หล่อนจะได้ไม่เหลือพลังมาเหวี่ยงเขามากนัก เหมือนหมาที่เราต้องพาออกไปวิ่งให้มันได้ปลดปล่อยพลังนั่นแหละ...จะได้ไม่ก้าวร้าว นพคุณแปลกใจ คเชนทร์เป็นคนที่ชวนพริมามาออกค่ายเองแท้ๆ แต่ทำไมเขาดูจะไม่ใส่ใจสาวน้อยเลย แต่กลับไปวิ่งตาม    ยามามากกว่าเสียด้วยซ้ำ...ยัยปลาทูนี่ก็เรื่องมาก จะโกรธอะไรนักหนา       ทำตัวหยั่งกะพวกน้อยใจแฟน หรือไม่ก็คนที่โดนทำให้เจ็บช้ำน้ำใจเสียเต็มประดา ทีกับเขาหล่อนก็โมโหแต่ไม่เคยจริงจังหรือนานแบบนี้ อย่างมากก็เหน็บ       ให้เจ็บใจเล่น...แบบนี้มันแปลก ถ้าเป็นแบบนี้จริง แล้วมันจะเป็นรักกี่เศร้ากัน...สามหรือสี่หรือห้า? เขามองพลอยใสที่ตอนนี้ยังมองมาทางนี้อยู่ ถ่านไฟเก่าก็รอคุ ไหนจะเพื่อนรักอีก พริมาจะทำอย่างไร? แล้วเขาล่ะ เขาจะทำอย่างไร?

 

เวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็วและงานก็คืบหน้าไปมาก จนวันนี้         น่าจะเสร็จหมดทุกอย่าง นพคุณนับถือ พวกที่มาออกค่ายกันตอนแรก ดูเหมือนจะมาเที่ยวเล่นสนุกๆ แต่เอาเข้าจริงกลับได้งานอย่างไม่น่าเชื่อ       พริมาบอกว่าคืนนี้หล่อนนัดกับยามาไว้ว่าจะออกมาดูดาว เพราะท้องฟ้าที่นี่สวยไม่เหมือนท้องฟ้าที่กรุงเทพฯ พวกหล่อนนัดกันว่าจะไม่นอน จะอยู่ให้ถึงเช้าไปเลย แล้วค่อยไปนอนบนรถ หล่อนชวนเขาให้ไปดูดาวด้วยกันนพคุณไม่ได้ตอบรับ (แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ) ยามาได้ยินพอดี ตอนที่พริมาชวนเขา         ไอ้ขี้เก๊กไม่ตอบแต่มันไปแน่นอน! ไอ้นี่มันท่าเยอะ น่าหมั่นไส้! ตกกลางคืนนอกจากอาหารที่พวกพริมาทำแล้ว ยังมีอาหารจากชาวบ้านที่นำมาให้พวก ใช้แรงงานอีกมากมาย คืนนี้พริมาจึงเสร็จงานไวเพราะไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม แค่ที่มีก็กินกันไม่หมดแล้ว พวกเขาตั้งเวทีเล็กๆ ร้องเพลงกันอย่างสนุกสนาน ผู้ใหญ่บ้านบอกว่าพวกเขาจะร้องกันถึงเช้าหรือจะร้องกันดังแค่ไหนก็ไม่มีใครว่า เพราะเสียงจากโรงเรียนดังไปไม่ถึงบ้านคน พวกคเชนทร์กินดื่มกันตั้งแต่เย็น งานของพวกเขาคือทาสีโรงเรียนทั้งหมด และมันก็เสร็จตั้งแต่เที่ยง             แต่ไอ้ครั้นจะดื่มเที่ยงก็ยังมีความเกรงใจอยู่

คืนนี้ยามารับหน้าที่อยู่หน้าเวที...หล่อนเล่นกีต้าร์และร้องเพลง      ให้ทุกคนฟัง...พวกเพื่อนๆ ยืมเครื่องดนตรีมาจากโรงเรียน ไม่น่าเชื่อเลยว่าโรงเรียนบนดอยจะมีเครื่องดนตรีกับเครื่องเสียงเพียบพร้อมขนาดนี้            และดูเหมือนกว่ายามาจะปลีกตัวลงมาจากเวทีได้คงอีกนาน พริมานั่งฟังเพลงที่เพื่อนร้องอย่างเพลิดเพลิน ศศิธรรบเร้าให้พริมาขึ้นไปร้องบ้าง...นพคุณส่ายหน้าส่งสัญญาณปรามไม่ให้ยัยเพี้ยนบ้าจี้ตามเพื่อนคิดอุตริขึ้นไปร้องเพลงเชียว เพราะเขาเคยได้ยินหล่อนร้องเพลงกล่อมไก่มาแล้ว...ขนาดไก่แจ้ยังเพลียแล้วคนจะไปเหลืออะไร

“ไม่ไหวนะ ไอ้พวกกิจกรรมเข้าจังหวะลูกแก้วไม่ถนัดจริงๆ“ พริมา ส่ายหัวดิกรีบปฏิเสธ และสาวหล่อก็เลิกรบเร้าเพราะ “กิจกรรม” เข้าจังหวะของพริมานั้น หล่อนเคยเห็นมากับตาแล้ว นั่งไปสักพักดูแล้วคงอีกนาน      กว่าเพื่อนหล่อนจะได้ลงจากเวที พริมาจึงปลีกตัวล่วงหน้าไปนั่งดูดาวตรงจุดที่นัดกันไว้ก่อน และอย่างที่ยามาคิด นพคุณก็เดินตามไปอย่างเงียบๆ        เขาไม่ได้ถามหรือพูดอะไรแต่เดินไปด้วยกันหน้าตาเฉย พริมาเห็นแล้วก็เฉยเสีย นพคุณก็เป็นแบบนี้แหละรู้ใจกันซะแล้ว เกือบห้าทุ่มแล้วพริมามองดูนาฬิกา เสียงแว่วๆ จากเวทีไม่มีเสียงยามาแล้ว เพื่อนหล่อนคงกำลังตามมา           ดาวคืนนี้สวยจริงๆ คุ้มแล้วที่นอนดึก

“หนาวรึเปล่า?” นพคุณถามเบาๆ ช่วงนี้อากาศเย็นและยิ่งดึกอากาศก็ยิ่งเย็น มีคนนั่งดูดาวอยู่แถวนี้เยอะอยู่เหมือนกัน หลายคนมองมาทางพวกเขา นพคุณเห็นแล้วแต่เขาเฉยเสีย ความจริงเขาอยากให้ชัยยศ อยู่แถวนี้ด้วยซ้ำ...จะได้มีรูป แหม! ก็ดาวสวยน่าจะเก็บภาพไว้สิถึงจะถูก พริมาเล่าเรื่องที่บ้านให้เขาฟังระหว่างที่นพคุณไม่อยู่ว่าหล่อนอยู่บ้านคนเดียวบ่อยๆ แม่กับพ่อเลี้ยงนั้นไม่ค่อยอยู่บ้าน หล่อนเป็นห่วงแม่กับคุณลุง ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรที่สำคัญรึเปล่า พริมาไม่ได้กลับไปบ้านตากับยายมานานแล้ว

“ลูกแก้วคิดถึงบ้านโน้นอยู่เหมือนกันค่ะ ไม่ได้ไปนานแล้ว”

“ที่โน่นมีใครบ้างเหรอ?” นี่เป็นครั้งแรกที่นพคุณถามเรื่องของหล่อน พริมายิ้มช่วงนี้นพคุณคุยกับหล่อนมากขึ้น ถึงแม้เวลาหล่อนชวนหรือขอให้เขาทำอะไรเขาจะไม่ตอบรับ...แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ยอมทำแต่โดยดี

“ไม่มีใครเลยค่ะ พอตากับยายตายเมื่อสี่ห้าปีก่อนที่บ้านก็เหลือ      แต่แม่กับลูกแก้ว แต่อยู่กันสองคนได้แป๊บเดียวก็ย้ายมาอยู่บ้านคุณลุงนี่แหละ แต่ตอนนี้ลูกแก้วโตแล้วดูแลตัวเองได้ บางที...ลูกแก้วอาจจะไปอยู่บ้านโน้นก็ได้ เอานพคุณไปด้วยจะได้เจอแม่บ่อยๆ เพราะบ้านอยู่ใกล้ตลาดเลยค่ะ ลูกแก้วก็ไม่เข้าใจ แม่บอกว่ามันอันตรายให้ลูกแก้วอยู่ที่นี่...หมายถึงอยู่บ้านคุณลุงล่ะนะ มันจะอันตรายได้ยังไง คนก็เยอะแยะเต็มไปหมด ทุกคนก็รู้จักลูกแก้วดี    เพราะลูกแก้วเกิด เอ้ย! ไม่ใช่สิ ลูกแก้วโตที่นั่น”นพคุณ ไม่ได้ฟังต่อ เพราะเขาหยุดฟังตั้งแต่ตอนที่หล่อนบอกว่ากลับไปอยู่ที่บ้านของหล่อน...ถ้าพริมากับ   ไอ้ไก่บ้านั่นไปจริง? เมื่อก่อนเขาอยากให้หล่อนไปใจจะขาด แต่ตอนนี้ล่ะ?

“พี่คุณ พี่คุณ” พริมาเขย่าแขนเขาเบาๆ จนนพคุณรู้สึกตัว หล่อนยิ้ม และเล่าต่อ เมื่อเห็นว่าเขากลับมาฟังอีกครั้ง

“คราวนี้พี่คุณก็จะได้พื้นที่บ้านคืนแล้ว ลูกแก้วอยากจะบอกพี่คุณนานแล้ว ว่าพี่คุณไม่ต้องเป็นห่วงเลย ลูกแก้วกับแม่ไม่เคยคิดจะมาแย่งอะไรไปจากพี่คุณเลยนะคะ” พริมาทำท่าคิดอะไรบางอย่าง เหมือนหล่อนกำลังเรียบเรียงคำพูด

“ถึงจะมีแม่กับลูกแก้ว แต่ที่สุดแล้วคุณลุงรักพี่คุณมากกว่าใครเลยค่ะ ลูกแก้วยืนยันได้ ทุกคนรักพี่คุณนะ แม่ก็รัก ลูกแก้วก็รัก” นพคุณดึงพริมา    เข้ามากอดหล่อนแปลกใจเล็กน้อย แต่พอนึกได้เด็กสาวกอดตอบเขา

พริมาพูดจริงๆ ว่าทุกคนรักเขา และช่วงนี้บางทีเขาก็ไม่ได้กลับบ้าน...ไม่เจอใครเหมือนเมื่อก่อนเขาอาจจะเหงาก็ได้ นพคุณอาจจะคิดว่าพวกพริมาได้อยู่บ้านกับพ่อเขา...และเขากลายเป็นส่วนเกิน หล่อนไม่อยากให้เขารู้สึกแบบนั้น

นพคุณคิดได้วันนี้...ตอนที่พริมาบอกว่าจะกลับไปอยู่ที่บ้านของหล่อน ความรู้สึกของเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ถ้าพริมาไปจริงเขาคงทำใจไม่ได้ เขานึกภาพที่ไม่มีไอ้ไก่บ้านั่น กับเด็กสาวเพี้ยนๆ เดินไปทั่วบ้านของเขาไม่ออก และภารดี...หล่อนทำให้พ่อเขามีความสุข มันจะดียังไงถ้าให้พ่อเขาจมอยู่กับความทุกข์ทุกวัน แม่ก็จากไปนานแล้วไม่มีทางเลยที่แม่จะฟื้นกลับมา ทำไมเขาถึงไม่ปล่อยแม่ไปแล้วหันมาดูหรือมีความสุขกับสิ่งที่มีอยู่ตอนนี้แทน ตอนนี้ถ้าเขาเปิดใจยอมรับได้...เขาจะเห็นว่าครอบครัวเขาสมบูรณ์แล้ว     และไม่ใช่แค่พริมาที่รักเขา เขาเองก็รักหล่อนเหมือนกัน ไม่ใช่แบบน้องสาวเหมือนที่เขาเคยบอก...พริมาไม่มีทางเป็นน้องสาวได้ เพราะเขาไม่เคยรักหล่อนแบบพี่น้องเลยสักครั้ง พอทำใจยอมรับได้ เขาก็ได้รู้ความรู้สึกตัวเองสักที และถึงเวลาแล้วที่เขาจะบอกหล่อน

“ลูกแก้ว...”นพคุณกระซิบบอกอยู่ข้างหูสาวน้อยของเขา ใช่! หล่อนเป็นสาวน้อยของเขา ตอนนี้เขาเห็นมีหลายคนมองมา ช่างสิ! เขาไม่สนอะไรทั้งนั้น

“ลูกแก้วพี่...” กำลังจะบอกว่ารัก...แต่จังหวะนั้นเขาเห็นเพื่อนรัก    พริมาเดินกระฟัดกระเฟียดออกมาจากป่าที่อยู่ใกล้ๆ นั้น ยามามาได้ขัดจังหวะพอดี ฮึ! เห็นจากท่าทางของเจ้าหล่อนแล้ว เขาควรจะหลีกทางให้หล่อนก่อนดีกว่า ไม่รู้ไปกินรังแตนมาจากไหน แต่ยัยปลาทูก็โมโหได้ตลอดเวลานั่นแหละ ยามาเดินฮึดฮัดเข้ามานั่งข้างๆ เพื่อน พริมาเห็นหน้าเพื่อนแล้วอดสงสัยไม่ได้ นพคุณเองก็สังเกตเห็นเหมือนกัน แต่เขาไม่ต้องเก็บความสงสัยไว้นานเพราะพริมาถามเพื่อนทันทีที่เห็นหน้า

“ปลาทูเป็นอะไร...หืม? กินเหล้ามารึเปล่าหน้าแดงมากเลย?” ยามา เผลอเอามือจับแก้มแล้วก็เลยมาแตะที่ปากตัวเองอย่างลืมตัว พริมารอฟังคำตอบ แต่เห็นหน้าเพื่อนแดงๆ ตาลอยๆ แบบนี้หล่อนก็เดาเอาเองว่ายามาน่าจะ    ดื่มมาบ้าง เพราะหล่อนนั่งรอเพื่อนตรงนี้เป็นชั่วโมงแล้วกว่าเพื่อนจะตามมา

“ไหวรึเปล่า? งั้นเราเข้านอนกันเลยก็ได้” พริมาเอียงคอถาม           ยามาเหลือบเห็นไอ้ขี้เก๊กชักสีหน้าไม่พอใจ...เหมือนหล่อนช่างไม่รู้เวลา       มาขัดบรรยากาศอันแสนโรแมนติกของเขาได้ลงคอ

“เปล่าๆ ไม่มีอะไรหรอก อากาศมันร้อนน่ะ” พริมางงกับคำตอบของเพื่อน บนดอยอากาศเย็นแบบนี้ทำไมเพื่อนหล่อนถึงบอกว่าร้อนกันนะ? สองสาวนั่งดูดาวกันไปเรื่อยๆ บรรยากาศแบบนี้ที่กรุงเทพไม่มีแน่นอน ยามาได้นั่งดูดาวและคุยกับพริมาไปสักพักอารมณ์ค่อยดีขึ้นหน่อย รอบๆ มีเพื่อนๆ มานั่งดูดาวอยู่เหมือนกัน

“อุ้ย! ดาวตก” พริมาอุทาน หล่อนรีบหลับตาอธิฐานแบบที่เคยได้ยินมาว่าถ้าเห็นดาวตกให้อธิฐานขอสิ่งที่ปรารถนา แล้วสิ่งนั้นจะกลายเป็นจริง ยามานั่งยิ้มให้เพื่อน พริมาหลอกง่ายและเชื่อไปหมดทุกอย่าง ต่างกับหล่อนที่ไม่ค่อยจะเชื่ออะไรแบบนี้นัก หล่อนเห็นนพคุณก็มองเพื่อนหล่อนอยู่เหมือนกัน

“ขออะไรเหรอลูกแก้ว” ยามาอดถามเพื่อนไม่ได้ เพราะพริมานั่งขอดาวอยู่นาน เหมือนที่คนชอบล้อกันเวลาใส่ซองกฐิน...ว่าใส่แค่ยี่สิบขอเสียเหมือนใส่สักร้อย

“ลูกแก้วขอให้แม่กับคุณลุงมีความสุข อยู่กับลูกแก้วไปนานๆ อืมให้ทุกคนมีความสุขทั้งพี่คุณ ปลาทู และก็พี่ตุลย์ด้วยนะ” พริมาเล่าให้เพื่อนฟังว่าหล่อนขออะไรบ้าง

“แล้วมาบอกแบบนี้รู้ไหมว่ามันจะไม่สำเร็จ” ยามาแกล้งเย้าเพื่อน

“จริงด้วย! ลูกแก้วเคยได้ยินว่าเขาไม่ให้บอกใคร” เห็นพริมาเสียใจจริง ยามาเริ่มรู้สึกผิด

“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร วันนี้ปลาทูว่าง เดี๋ยวเราอยู่รอกันจนกว่าดาวจะตกอีกนะ แล้วขอใหม่ คราวนี้ปลาทูไม่ถามแล้ว และลูกแก้วก็ห้ามบอกใครเด็ดขาดว่าขออะไรโอเคไหม?” นั่นแหละสีหน้าเพื่อนถึงดีขึ้น หล่อนหันไปบอกนพคุณว่าถ้าง่วงก็ให้เข้านอนได้เลย หล่อนกับยามายังอยู่ตรงนี้อีกนาน         แต่ไอ้ขี้เก๊กของยามาแค่ฟังเฉยๆ แล้วทำเนียนนั่งดูดาวต่อไป ชิ! หมั่นไส้ ระหว่างรอดูดาวตกทั้งสามคนก็นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย พริมานั่งดูดาวอย่างตั้งใจ นพคุณก็ตั้งใจดูพริมาอย่างตั้งใจอีกต่อหนึ่ง เขายิ้มขันกับท่าทางของสาวน้อยที่ตั้งใจมองหาดาวตกอย่างเอาจริงเอาจัง ส่วนยามานั่งกอดเข่าตามองออกไปไกล...ไกลกว่าท้องฟ้าและดวงดาว

“จูบ...คุณคิดว่าไม่สำคัญ แต่เมื่อคุณจูบฉันทำไมฉันสั่นไปถึงหัวใจ...คุณเป็นคนจูบคุณรู้บ้างไหม ฉันหนาวฉันร้อนเหมือนดังเป็นไข้ ทุกที ทุกที” เสียงเพลงที่แว่วมาทำเอาคนนั่งเหม่อสะดุ้ง เสียงร้องเพลงดังมาจากวงเหล้า...เหมือนมันดังกว่าทุกครั้ง เพราะพวกนั้นร้องเพลงกันมาตั้งนานแล้ว             แต่เสียงเพลงนี้ได้ยินชัดเจนยิ่งกว่าทุกเพลง และพริมาจำเสียงได้ คเชนทร์นั่นเอง! หญิงสาวเห็นพวกที่นั่งดูดาวอยู่แถวๆ นั้นหัวเราะคิกคัก มีสาวๆ หลายคนชอบคเชนทร์ บางคนเพิ่งเข้าเรียนปีนี้จึงไม่รู้จักเขา แต่มีหลายคนรู้จักและยังปลื้มรุ่นพี่ศิษย์เก่าที่แม้จะจบไปแล้วแต่ก็ยังเป็นที่ร่ำลืออยู่ และฟังจากเสียงของคเชนทร์ตอนนี้น่าจะเมาได้ที่ทีเดียว ยามาสูดหายใจแรงจนพริมาต้องเลิกคิ้วเป็นคำถาม...สงสัยเพื่อนหล่อนจะยังไม่หายโกรธพี่ตุลย์...เห็นง้อมาตั้งหลายวันแล้วเพื่อนหล่อนก็ยังไม่ยอมใจอ่อนเสียที สงสัยจะโกรธ...แม้กระทั่งได้ยินเสียงก็ยัง “ขึ้น” ได้แบบนี้ เฮ้อ! พี่ตุลย์ ลูกแก้วก็ช่วยได้เท่านี้แหละนะ

“คุณจูบฉันรอยจูบนั้นย่อมติดจนตาย จะลบรอยจูบอย่างไรไม่หาย   อย่าลืม อย่าเลือน” คเชนทร์ร้องมาถึงท่อนนี้ยามาลุกขึ้นยืน นพคุณเริ่มสังเกตเหมือนกันเพื่อนพริมาดูหงุดหงิดแปลกๆ

“ปลาทูไปนอนก่อนนะลูกแก้ว ฝากไปส่งลูกแก้วที่ห้องด้วย” ยามาบอกพริมาและหันไปบอกไอ้ขี้เก๊ก นพคุณพยักหน้าเบาๆ อย่างงงๆ ยัยปลาทูเป็นอะไรหนอ ปกติหล่อนไม่มีทางทิ้งพริมาไว้กับเขาตามลำพังแน่ ยัยนี่ขวางได้เป็นขวาง...แต่ก็ดีเหมือนกัน...หลังจากที่ยามาแยกตัวไปนอนก่อนแล้ว    พริมาก็ตามไปติดๆ นพคุณเดินมาส่ง...เรียกว่าเดินจูงมือมาส่งดีกว่า เขาบอกว่ามันมืดและพริมาก็ชอบล้มเป็นงานอดิเรก วันนี้เขาเหนื่อยแล้ว คอยระวังให้ไม่ไหว พริมายิ้มหน้าแดง แต่ก็ยอมให้เขาเดินจูงมือไปส่งแต่โดยดี ทางกลับไปห้องก็ไม่ได้ไกล แต่ไม่รู้ทำไมนพคุณถึงพาเดินอ้อมไปทางที่พวกเพื่อนๆ นั่งร้องเพลงกันอยู่

“ทางนี้สว่างกว่า” เขาหันมาบอก แต่พริมาหันกลับไปมอง...มันก็ไม่ได้สว่างกว่ากันสักเท่าไหร่เลย ชัยยศและหลายๆ คนมองอยู่...เขาถ่ายรูปด้วยหรือเปล่าหล่อนไม่แน่ใจ แต่เขาเห็นแน่นอน คเชนทร์ผิวปากขณะที่คนอื่นๆ หัวเราะชอบใจ แต่นพคุณไม่ได้ตอบอะไรแค่หันไปยักคิ้วให้คเชนทร์แบบที่คเชนทร์ชอบทำใส่เขาบ่อยๆ คเชนทร์อ้าปากหวอ วันนี้เพราะเขาเมาหรือเปล่าถึงทำให้เห็นภาพหลอน ไอ้ขี้เก๊กยักคิ้วให้เขา

 

ถึงแม้หลายคนจะนอนดึกหรืออาจจะมีบางคนไม่ได้นอน แต่พวกเขาก็    มารวมตัวกันได้ตรงเวลา เช้านี้พวกห้องครัวไม่ต้องทำกับข้าวเพราะถ้ามัวมาเก็บกวาดคงจะเสียเวลา อาจารย์เอาข้าวเหนียวไก่ทอดมาแจกให้ไปกินบนรถแทน ขากลับพริมาสบายตัว เพราะเหลือกระเป๋าเป้แค่ใบเดียว ส่วนถุงขนมที่หล่อนหอบมาตอนขามานั้น พวกเพื่อนๆ ช่วยกันจัดการให้เรียบร้อยหมดแล้ว ยามายืนอยู่ข้างๆ ตั้งแต่ตื่นนอนจนตอนนี้เพื่อนรักไม่ค่อยจะพูดนัก         หล่อนเงียบผิดปกติ พริมาดูแล้วเหมือนเพื่อนหล่อนไม่ได้นอน...สงสัยจะนอนไม่หลับ...จะว่าแปลกที่ก็น่าแปลกเพราะจะมาแปลกที่อะไรเอาคืนสุดท้าย และเพราะนอนน้อยยามาเลยดูเหมือนคนใจลอยตลอดเวลา ระหว่างทางเดินไปขึ้นรถยามาชนกับพลอยใส พริมาเห็นแล้วเพื่อนหล่อนไม่ได้มองทาง                  และพลอยใสเหมือนจะเดินเข้ามาอย่างเร็ว...จังหวะที่เห็นจึงหลบไม่ทันหล่อนจึงล้มหงายหลัง และถ้าคเชนทร์ไม่เข้ามารับไว้เพื่อนรักพริมาคงลงไปนอนแผ่แน่นอน ยามาดูจะยังงงๆ ในขณะที่คเชนทร์ยืนยิ้มกริ่มกอดเพื่อนรักพริมาไว้แน่น หลายคนผิวปากแซว คเชนทร์หันไปยิ้มให้คนพวกนั้น อยากล้อก็ล้อไปเขาชอบเป็นจุดสนใจ นพคุณเห็นยามากระทืบเท้าคเชนทร์เต็มรัก คงจะเจ็บน่าดูเพราะเขาปล่อยทันทีและร้องเสียงหลง เพื่อนรักพริมาเดินกระทืบเท้าปึงปังขึ้นรถไปแล้ว และพริมาวิ่งขึ้นรถตามเพื่อนไปติดๆ นพคุณส่ายหัว คเชนทร์ชอบแกล้งและเขาดูสนุกเสมอถ้าทำให้เพื่อนพริมาโมโหได้ ไหนบอกว่าจะง้อให้หายโกรธ...ดูๆ แล้วสงสัยจะโกรธหนักกว่าเก่าเสียอีก ชายหนุ่มเดินตามพริมาไปขึ้นรถ ทันได้ยินพวกเพื่อนๆ แซวไอ้หน้าหมาพอดี

“ไงไอ้ตุลย์...เมื่อคืนเมาหัวทิ่มเลยสิแก”

“ไอ้นี่มันสุดยอด เมารั่วขนาดนั้นยังตื่นเช้ามาขึ้นรถได้ปกติ แถมมันยังใจดีปลุกคนอื่นเสียอีก” คเชนทร์ยิ้มกริ่ม เขาตั้งใจพูดเสียงดัง เหมือนให้   ได้ยินไปทั่ว...ทั้งคนในรถและคนนอกรถ

            “ไม่ได้เม้า!...เออๆ อาจจะเมานิดหน่อย แต่ไม่ถึงขั้นเมาไม่รู้เรื่องจำอะไรไม่ได้ จำได้ทุกอย่างเลยเว้ย”

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา