แก้วนพคุณ

-

เขียนโดย เวลา

วันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 16.59 น.

  38 บท
  0 วิจารณ์
  30.67K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

27) ขี้เมา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
พวกเขาแยกกันที่ร้านอาหาร อัมพวาและสาวิชแยกกลับไปอีกทาง           ส่วนพวกภารดีก็เดินกลับไปที่บ้านพัก เกือบสามทุ่มแล้วตลาดเริ่มวาย ผู้คนน้อยลงไปกว่าเมื่อตอนบ่าย แต่ยังมีนั่งอยู่บ้างประปราย ภารดีกับคุณนพรักษ์ เดินนำหน้าไปไกลแล้ว ทิ้งพวกเขาสี่คนไว้ข้างหลัง
“พี่พิมพ์กับคุณลุงถึงบ้านแล้วมั้งเนี้ย ไม่รู้จะรีบเดินไปไหนกัน?” ยามา ชะเง้อมองไปข้างหน้า
“สงสัยจะไปเข้าหอ หรือไม่ก็เข้าห้องฮันนีมูน” คอชนทร์พูดไปตอบไลน์โทรศัพท์ไปเลยไม่ได้สังเกตสีหน้าพริมากับนพคุณที่ทำหน้าไม่ถูกเวลามีใครมาแซวพ่อเขากับแม่หล่อน
“นี่นายคุยกับใคร ไหนมาดูหน่อยสิ!” ยามากำลังจะดึงโทรศัพท์จากมือ แต่คเชนทร์ไวกว่า เขาหลบพร้อมเอามือดันหัวหล่อนออกไป
“เป็นเด็กเป็นเล็กไม่ต้องมายุ่ง” คเชนทร์เอามือถือใส่กระเป๋ากางเกง
“ถ้าอยากดูก็มาล้วงเอาดิ”
“อย่าท้านะ!” ยามาทำท่าจะล้วงจริง
“เฮ้ย! เธอนี่มันห่ามชะมัด!” คเชนทร์หมุนตัวหลบพัลวัน
“เอ้า! สองคนนั่นหายไปไหนแล้ว?”ยามาชะงัก หล่อนมัวแต่ไล่จับโทรศัพท์จนลืมสังเกตว่าพริมากับนพคุณหายไปแล้ว
“พวกนั้นไปถึงห้องกันหมดแล้วมั้งเนี้ย เธอก็มาชวนวิ่งไล่จับอยู่ได้”
เหลืออยู่สี่คน...นพคุณหงุดหงิด ถ้าหงุดหงิดเป็นโรคประจำตัวได้   สองสามปีมานี้เขาคงเป็นโรคขี้หงุดหงิด เมื่อก่อนเขาไม่เป็นแบบนี้ เขาหงุดหงิดที่คเชนทร์แซวพ่อเขากับแม่พริมาหน้าตาเฉย พวกนั้นเฉยแต่เขาก็ยังทำใจไม่ได้อยู่ดี ไม่ขัดแต่ก็ยังไม่ยอมรับ พ่อเลี้ยง แม่เลี้ยง แล้วก็พี่เลี้ยง น้องเลี้ยงอย่างนั้นเหรอ?  ไม่มีอะไรเข้ากันสักอย่าง เขากับพริมาจะเป็นพี่น้องกัน?
“ไม่!!!” นพคุณเดินกลับที่พักไปอย่างไว เขาไม่อยากอยู่ตรงนี้         ไม่อยากยืนฟังพวกนี้คุยกันด้วย
“พี่คุณ!” พริมาวิ่งตามมา หล่อนสังเกตเห็นแล้วอยู่ๆ คุณชายใหญ่ก็เดินลิ่วหน้าหงิกออกมา พริมาหันไปมอง พวกเพื่อนๆ ของหล่อนยังไม่สังเกตด้วยซ้ำว่าหล่อนวิ่งตามนพคุณออกมา...ช่างเถอะยังไงก็มีเพื่อน แต่พี่คุณเดินไปคนเดียว
“พี่คุณ” พริมาวิ่งตามมาทัน หล่อนจับมือเขาอีกแล้ว นพคุณสะบัดออก...วันนี้ครั้งที่สองแล้วนะ!
“พี่คุณ...”
“ฉันบอกแล้วไง ว่าฉันไม่ใช่พี่เธอ!” นพคุณตวาดเสียงดัง พริมาตกใจ นพคุณเองก็ตกใจเหมือนกัน เขาไม่ได้ตั้งใจจะตวาดหล่อนแบบนั้น แต่เขาสับสนไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเป็นอะไร
“ค่ะ” เด็กสาวรับคำสั้นๆ หล่อนน้อยใจ ทำไมเขาต้องตวาดหล่อนเสียงดังแบบนี้ด้วย...เขารังเกียจหล่อนขนาดนั้นเลยหรือ?
“ไป...กลับกันเถอะ” นพคุณเสียงอ่อย เขารู้สึกผิด พริมาไม่ได้ทำผิดอะไร เด็กหนุ่มเอื้อมมือจะมาจับมือหล่อนให้เดินไปพร้อมกัน แต่พริมาเบี่ยงหลบ หล่อนวิ่งนำเขาไปก่อนแล้ว
“อะไรอีกวะเนี้ย!” นพคุณสบถเสียงดัง ข้างหลัง...สองคนนั่นก็เพิ่งเล่นไล่จับ นี่เขาก็ต้องมาเล่นวิ่งไล่จับไปด้วยอีกคนอย่างนั้นหรือ
“ลูกแก้ว!” นพคุณวิ่งตาม ออกแรงนิดเดียวเขาก็ตามหล่อนทันแล้ว   พริมากลั้นน้ำตาไว้ หล่อนไม่อยากให้เขาเห็น นพคุณคงจะชอบใจที่เขาทำให้หล่อนร้องไห้ได้ หล่อนหาเรื่องเอง ก็เหมือนทุกครั้งนั่นแหละ! เด็กหญิงออกวิ่งหล่อนอยากกลับบ้าน ถ้าพวกยามามาเห็นเดี๋ยวก็เป็นเรื่องใหญ่อีก แต่จะให้ไปกับนพคุณหล่อนกลัวกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
“ลูกแก้ว!” เสียงนพคุณเรียกตามหลัง เขาวิ่งเร็ว ใช่สิ! นพคุณเป็นนักกีฬา เขาเก่งทุกอย่าง หล่อนไม่มีทางชนะเขาได้หรอก ไม่ว่าเรื่องอะไร คนแพ้ก็คือพริมา อยู่วันยังค่ำ เด็กสาวหันหน้าไปดูด้านหลัง จังหวะนั้นเองหล่อนจึงชนเข้ากับใครบางคนเข้าอย่างจัง
“อะไรวะ!” เสียงคนที่พริมาชนโวยวายเสียงดัง พริมาได้กลิ่นเหล้าจากเขาชัดเจน...เด็กหญิงล้มกระเด็น
“เฮ้ย! ผู้หญิงเว้ย” อีกเสียงหนึ่ง...มันมีกี่คนกันนะ คนที่หล่อนวิ่งไปชนก็ล้มเหมือนกัน จังหวะนี้เองที่พริมาเพิ่งจะสังเกต พวกนั้นมากันสามคน อายุน่าจะรุ่นๆ นพคุณหรือไม่ก็แก่กว่า ดูท่าทางทุกคนจะเมาเสมอกันหมดไม่มีใครแพ้ใคร
“สวยด้วยเว้ย! มาน้องมา พี่ช่วยพยุงให้นะจ๊ะ” หนึ่งในสามเดินดุ่มๆ ตรงเข้ามาหา พริมาเขยิบถอยหนีแต่หล่อนลุกไม่ขึ้น
“โอ๊ย!” ข้อเท้าแพลงเสียแล้ว
“ยังไม่ได้ทำอะไรเลยจะร้องทำมายยย” พวกที่เหลือหันไปหัวเราะกัน  พริมากลัว ถ้าไม่เมาอาจจะคุยกันได้ แต่พวกเขาเมากันหมด แล้วมาเป็นกลุ่มแบบนี้...หล่อนกลัวจับใจ
“หนูขอโทษค่ะ เมื่อกี้หนูวิ่งไม่ทันดู ชนพี่ล้ม หนูขอโทษนะคะ” พริมายกมือไหว้คนที่หล่อนชนเขาล้ม เขาเองก็มองหล่อนอยู่เช่นกัน
“พวกผู้หญิง! พอจะหลอกล่อใช้ประโยชน์จากเรามันก็พูดดีแบบนี้แหละ”
“ห๊ะ?” พริมาไปต่อไม่ถูก หล่อนถามเขาเรื่องถนน เขาตอบท้องฟ้า แบบนี้น่าจะคุยกันไม่รู้เรื่องเสียแล้ว
“มันเพิ่งโดนแฟนทิ้งมาน่ะน้อง”
“ใช่ แต่ถ้าน้องจะช่วยดามหัวใจให้เพื่อนพี่ก็ยินดีนะ ฮ่าๆๆ” สองคนที่ยืนอยู่ช่วยชงเต็มที่ ส่วนคนที่พริมาพุ่งชนนั้นยังนั่งตาแดงกล่ำอยู่ที่เดิม เขาดูเหมือนจะไม่รับรู้อะไรแล้ว
“ลูกแก้ว” นพคุณวิ่งตามมาทันเขาเห็นทุกอย่าง ตั้งแต่พริมาวิ่งเข้าไปชนกับผู้ชายคนนั้น หล่อนเลี้ยวผิดทาง วิ่งออกไปอีกทางที่ไม่ใช่ทางไปบ้านพัก พริมาพลาดเสมอ ถ้าไม่มีเขาหล่อนคงวิ่งเตลิดไปไกลหลงทางอยู่ที่ไหนสักแห่ง นพคุณวิ่งเข้าไปดึงเด็กสาวให้ลุกขึ้นยืน
“โอ๊ย!” พริมาร้องลั่น นพคุณตกใจที่เขาทำหล่อนเจ็บ
“น้องเค้าขาแพลงงงงง” คนเมาถูกแฟนทิ้งยังนั่งมองอยู่ ดูเหมือน    พริมาจะทำเขาเจ็บอยู่เหมือนกัน
“มาๆ พี่ช่วย” อีกสองคนทำท่าเหมือนจะเข้ามาช่วย
“ไม่เป็นไรครับ ผมช่วยน้องเอง” นพคุณหันไปตอบเสียงเข้ม เมื่อกี้มองจากตรงที่วิ่งเขาเห็นพวกนี้ล้อมพริมาอยู่ มองจากตรงนั้นน่ากลัวเหลือเกิน ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับพริมาเขาจะทำอย่างไร!
“น้อง...คนนี้แฟนน้องรึเปล่า?” คนเมาหันมาถาม ตอนนี้เขาเองก็กำลังพยายามลุกขึ้น
“เอ่อ...ไม่” พริมาไม่รู้จะตอบอย่างไร
“ใช่!” นพคุณตอบแทนเสียงหนักแน่น
“ห๊ะ!” พริมาอุทานเสียงดัง
“ตกลงเขาใช่แฟนน้องรึเปล่า? น้องรู้จักเขารึเปล่า?” คนเมาถาม     อีกสองคนก็หยุดหัวเราะแล้วเหมือนกัน
“เดี๋ยวพวกพี่ไปส่ง บ้านอยู่ไหนมาวิ่งดึกๆ ดื่นๆ” หนึ่งในสองคนที่ยืนอยู่ก่อนแล้วพูดขึ้น
“ไม่เป็นไร ผมพาน้องกลับเอง” นพคุณเริ่มหงุดหงิด
“ตกลงแกรู้จักน้องเค้าจริงรึเปล่า? อย่ามามั่วเพราะเห็นพวกข้าเมานะเว้ย!”
“ใช่ๆ พวกข้าเมาแต่ก็ยังเป็นสุภาพบุหลุดดดด”
“ช่ายยยย แล้วน้องเค้าก็วิ่งหนีแกมา” กลายเป็นว่าตอนนี้คนเมาปกป้องผู้หญิงจากคนไม่เมาเสียแล้ว
“พวกพี่ๆ คะ คนนี้แฟนหนูเองค่ะ พอดีทะเลาะกันนิดหน่อยหนูเลยวิ่งหนีเขามา” ได้ยินจากปากพริมาคนเมาหรี่ตามอง
“มันเอามีดจี้น้องรึเปล่า ไหนถอยออกมาสิ” พวกนั้นพยายามจะดูว่านพคุณบีบบังคับพริมาให้พูดตามที่เขาต้องการหรือเปล่า
“ไม่ค่ะไม่ พี่คุณเป็นแฟนลูกแก้วจริงๆ ลูกแก้วผิดเองที่งอนพี่เขาแล้ววิ่งหนีมา จนมาชนพี่ล้มไปแบบนี้ ลูกแก้วขอโทษนะคะ” พริมายกมือไหว้คนเมาสามคนอีกรอบ นพคุณเผลอยิ้ม
“แฟนเค้าตามมาง้อก็คืนดีกันซะ ดูสิยืนยิ้มแก้มปริแล้ว” นพคุณหุบยิ้ม แทบไม่ทัน นึกไม่ถึงว่าจะโดนคนเมาแซวเข้าให้...พริมาแก้มแดง
“คงจะคืนดีกันแล้วแหละ เขินกันไปเขินกันมาอยู่ได้”
“เกิดอะไรขึ้น?” ยามาวิ่งตะโกนมาแต่ไกล มีคเชนทร์วิ่งตามมาติดๆ พวกคนเมาเห็นมีคนวิ่งตามมาสมทบก็หันไปถามพริมา
“นั่นเเพื่อนน้องเหรอ?” พริมาพยักหน้า พวกคนเมายังยืนยันจะไปส่ง เขาบอกว่าปล่อยเด็กๆ มาเดินดึกๆ ดื่นๆ ไม่ได้ ในฐานะคนพื้นที่ พวกเขาต้องดูแลแขกบ้านแขกเมือง พวกเขายังร่ายยาวถึงการเป็นเจ้าบ้านที่ดี และดูเหมือนจะยังต้องคุยหรือเถียงกันไปอีกนานถ้าพวกพริมาไม่ยอมให้ไปส่ง        ยามาที่ยืนฟังอยู่นานจึงตัดบท
“เอ้า! จะไปส่งก็ไป ไหนรถอยู่ไหนล่ะพี่?”
“เมาไม่ขับสิหนู! เมาแล้วเดิน เดินไป...ไปหมดนี่แหละ ไปๆๆๆๆ”
“โอ๊ย!” พริมากับคนเมาร้องพร้อมกัน ดูเหมือนจะขาแพลงเหมือนกันอีกด้วย
“มาๆ พี่ช่วย”
“ไม่เป็นไรครับ” นพคุณพูดจบก็ช้อนพริมาขึ้นหลังทันที เขาออกเดินนำหน้าคนเมาไปก่อนแล้ว ส่วนคนเมาขาแพลงก็ขึ้นหลังเพื่อนอีกคน คนปกติสี่คนเมาสามจึงเดินไปตามท้องถนนในเวลาเกือบสี่ทุ่ม ร้านรวงเริ่มปิดหมดแล้ว แต่ถ้าใครรู้เข้าว่าคนเมาสามคนเดินมาส่งคนไม่เมาสี่คนคงแปลกใจไม่น้อย            พริมาคิดตาม...ถ้าหล่อนวิ่งเลยไปไกลแล้วนพคุณไม่ได้วิ่งตามมา แล้วคนที่หล่อนไปเจอเป็นคนไม่ดี...หล่อนจะทำอย่างไร? ขนาดวิ่งกลับที่พักง่ายๆ        ยังเลี้ยวผิดทาง เด็กสาวตัวสั่นๆ นพคุณรู้สึกได้
“หนาวเหรอ?” วันนี้เป็นคำแรกกระมังที่เขาพูดดีกับหล่อน พริมาส่ายหน้า หล่อนคงลืมไปว่านพคุณมองไม่เห็น
“ไม่สบายรึเปล่า? เจ็บขามากไหม?”
“ไม่ค่ะ...ลูกแก้วกลัว...ลูกแก้วขอโทษ” พริมาตอบเสียงสั่น นพคุณชะงักเล็กน้อย...เขาเข้าใจ หล่อนคงจะกลัวมากแน่นอน
“ช่างเถอะ...ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว” ประโยคหลังนพคุณเหมือนพูดกับตัวเอง พริมากอดคอนพคุณแน่นกว่าเดิม หล่อนซบหัวลงกับไหล่ของเขาพร้อมกระซิบเสียงเบา
“ขอบคุณนะคะ” นพคุณชะงัก เขาลดฝีเท้าลง...บางทีเดินให้ช้าลงหน่อยก็ได้ เขาเดินช้าลงจนพวกยามาเดินตามมาทัน พวกคนเมาส่งเสียงไปตลอดทาง บางครั้งก็ร้องเพลง ยามาทั้งผลักทั้งดันให้พวกนั้นเดินเร็วๆ จะได้ไปส่งเสร็จแล้วรีบกลับ
“โอ้ย! พวกพี่ส่งตรงนี้แหละ จะถึงอยู่แล้ว” ยามาเท้าเอว เจอคนเมาหวังดีแบบนี้หล่อนด่าไม่ออกเลย
“ไม่ได้ๆ ต้องส่งตรงถึงตีนบันได” คเชนทร์เสียอีกที่ไม่พูดอะไร        เขาได้แต่ยิ้มขำ ดูพวกนี้เถียงกันก็ตลกดีเหมือนกัน เป็นอันว่าพวกนั้นมาส่งถึงโฮมสเตย์จริงๆ และความจริงแล้ว หนึ่งในสามคนนั้นบ้านอยู่ถัดไปจาก     โฮมสเตย์ไปแค่สามหลัง เมื่อพวกนั้นไปแล้วยามาบ่นยาว
“อยากรู้นัก พรุ่งนี้สร่างเมาจะจำได้ไม๊?”
“พรุ่งนี้เราก็ตามไปดูกันสิ บ้านอยู่ตรงนี้เอง” คเชนทร์เสนอ
“เออดิ ไปดูแน่” ยามาจำได้ว่าพวกเขาหายเข้าไปในบ้านหลังไหน
“ไขกุญแจด้วย” นพคุณหันมาบอก พริมาอยู่บนหลังเขา และดูเหมือนหล่อนจะผลอยหลับไปแล้วตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
“เด็กผู้หญิงตัวนิดเดียวก็ปล่อยให้ไปมีเรื่องได้ แบบนี้จะปล่อยหรือไว้ใจให้ดูแลได้ยังไง” ยามาพูดไม่ได้มองหน้าใครขณะไขกุญแจ นพคุณขมวดคิ้ว เขาแน่ใจยัยปลาทูพูดกับเขา...แต่เขาจะไปดูแลพริมาทำไม?
“เฮ้อ...ไอ้คนบางคนมันฉลาดมาก แต่เรื่องบางเรื่องมันก็โง่”
“เธอหมายถึงใคร?” นพคุณถามเสียงเข้ม
“ไม่รู้! คนที่ชอบสับสนมั้ง มันยังไม่รู้ความรู้สึกตัวเองเลย มันจะไปจัดการอะไรได้ เดี๋ยวก้าวเดี๋ยวถอยเหมือนยังไม่แน่ใจอะไรสักอย่าง คนพวกนี้น่าสงสาร” คเชนทร์ยืนกอดอกพยักหน้า นพคุณถอนใจ เอาแล้ว...พวกนี้สงบศึก เป้าหมายคือเขาสินะ ยามาหันมายิ้มเหยียด
“จะบอกอะไรให้นะ ถ้ามีคนดีๆ คนที่ชัดเจน คนที่มั่นคง แล้วก็รักลูกแก้วมากๆ นะ ถ้ามีคนคนนั้นโผล่มาเมื่อไหร่...และฉันก็คิดว่ามีแน่ๆ ฉันจะสู้สุดตัวเลยให้ลูกแก้วได้ลงเอยกับคนนั้น เมื่อถึงวันนั้นอย่ามาเสียใจก็แล้วกัน” คเชนทร์ชี้นิ้วไปที่ตัวเอง ยามากลอกตา
“นายเข้าห้องตัวเองไปเลยไป” คเชนทร์ยิ้มขำ เขายักไหล่แล้วหันหลังเดินออกไป ยามายืนมองจนนพคุณวางพริมาลงบนเตียงแล้ว จึงเดินตามคเชนทร์ออกไปเช่นกัน นพคุณใช้ความคิด....เขาเข้าใจที่ยามาพูดทุกอย่าง แต่เขาไม่เข้าใจว่าหล่อนจะมาพูดกับเขาทำไม?
ยามาเดินออกมานั่งสงบอารมณ์ข้างนอก ความจริงหล่อนไม่อยากทิ้งนพคุณกับพริมาไว้ให้อยู่ในห้องลำพังนัก แต่เห็นสภาพเพื่อนแล้วก็อดสงสารไม่ได้ พริมาจะต้องใช้ความอดทนอีกนานแค่ไหนนะ คเชนทร์ที่นั่งอยู่ก่อนยิ้มมองมา...หมอนี่ก็อีกคน น่าหมั่นไส้!
“ทำไมนายไม่จีบลูกแก้วไปเลย เอาจริงๆ นะ” ยามานั่งลงข้างเขา คเชนทร์เอียงคอมองวันนี้ยัยปลาทูไม่ได้พูดเล่น เขายิ้ม...
“แสดงว่าพี่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานของน้องปลาทูแล้วใช่ไหมจ๊ะ?”     ยามาขมวดคิ้วเป็นเชิงถาม
“ก็ถ้าน้องปลาทูยอมให้พี่จีบลูกแก้ว ก็แสดงว่าพี่เป็นคนดี ดี๊ดี ชัดเจนและมั่นคงด้วย...ที่สำคัญเลยอันนี้สำคัญมาก...พี่หล่อ” ยามาได้ยินแล้วอยากจะถอนคำพูด แต่ถ้าเอาเข้าจริงคเชนทร์จีบพริมาหล่อนจะยอมให้ เมื่อเห็นว่ายามาไม่พูดหรือว่าอะไร คเชนทร์ก็แค่ยักไหล่...อยากยักคิ้วด้วยแต่สาวเจ้าไม่ได้มองมา
“ไม่อยากเป็นพระรองหรอก...มันปวดใจ…เอาไว้เป็นพระเอกดีกว่า เรื่องนี้พี่จะไม่ยุ่งนะ” คเชนทร์ลุกขึ้นแล้วเอามือมายีหัวยามาเล่น...เพราะหล่อนไม่ได้ตั้งตัวผมเผ้าจึงรุงรังไปหมด
“โฮ้!!! แบบนี้มันไม่ใช่ปลาทูแล้ว นี่มันปลาดุฟู ฮ่าๆๆๆ ฟูฟ่องเลย”คเชนทร์นึกไปถึงเมื่อสองปีก่อนที่ผมของยามานั้นแสนประหลาด...เขาจำได้ดี...เด็กผู้หญิงผมรองทรง ต่างจากวันนี้ลิบลับ ยามาผมยาวและหล่อนโตเป็นสาวแล้ว ไม่ได้ดูกะโปโลเหมือนเมื่อก่อน แต่ที่ไม่เคยเปลี่ยนคือท่าทางเจ้าอารมณ์ของหล่อน คเชนทร์ชอบ เพราะมันสนุกดี
“โอ้ย! ไอ้เชน ผมฉัน! ปล่อยนะ” และก่อนที่ยามาจะสวนกลับเด็กหนุ่มก็ลุกเดินหนีเข้าห้องเขาไปแล้ว
 
นพคุณตื่นแล้ว เขาเหลือบมองนาฬิกา...เกือบแปดโมงแล้วหรือนี่              เมื่อคืนเขากลับเข้าห้องเห็นไอ้ตุลย์หน้าหมานอนคลุมโปงอยู่ก่อนแล้ว เขาคิดว่ามันไม่ได้อาบน้ำแน่นอน อยากให้สาวๆ มาเห็นเหลือเกิน ว่าคนหล่อของพวกหล่อนนั้น...หล่อแต่สกปรกขนาดไหน แต่คนสกปรกของนพคุณตื่นก่อนเขาและอาบน้ำแก้ตัวนำหน้าเขาไปก่อนแล้ว เพราะเขาได้ยินเสียงคเชนทร์หัวเราะอยู่นอกห้อง ดูเหมือนคนอื่นๆ ก็ตื่นกันหมดแล้วเหมือนกัน แต่ฟังเสียงจากตรงนี้เหมือนมีคนมากกว่าเดิม มีหลายเสียงที่เขาไม่คุ้นเคย นพคุณไม่รอช้า เขารีบเข้าห้องน้ำจัดแจงตัวเอง...อยากออกไปดูให้เห็นกับตา
พริมาตื่นมาก็เห็นยามานั่งหวีผมอยู่หน้ากระจก เพื่อนหล่อนเห็นแล้วว่ามีความเคลื่อนไหวบนเตียง หล่อนวางหวีลงและหันมายิ้มให้กับสาวน้อยบนเตียง
“เป็นไงจ๊ะ หลับสบายไหม? น้ำท่าไม่ต้องอาบกันเลย” พริมานอนส่งยิ้มหวานตอบกลับไป เมื่อคืนหล่อนหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้...แต่ตอนนี้สบายมากหลับเต็มตื่นดีจริงๆ เด็กสาวขยับตัวแต่ต้องนิ่วหน้าเล็กน้อย
“โอย...” พริมาลุกขึ้นมาดูขาตัวเอง หล่อนจำได้แล้ว เมื่อคืนหล่อนล้มแล้วขาก็แพลง ตอนนี้มันบวมเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
“โห...บวมมากเลยนะเนี้ย” ยามาที่ได้ยินเสียงเพื่อนโอดครวญชะโงกหน้ามามอง พริมาลองลุกขึ้นและขยับเดิน มันเดินได้แต่ก็โขยกเขยกนิดหน่อย
“เจ็บนิดหน่อย แต่ได้อยู่” สาวน้อยหันไปบอกเพื่อน เมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อนที่ดูเป็นกังวลไม่น้อย
“ไปอาบน้ำดีกว่า เมื่อคืนไม่ได้อาบ เดี๋ยวคนบางคนจะว่า”
“รีบเลยนะ เดี๋ยวจะไปตักบาตร” ยามาตะโกนตามหลังเพื่อนที่เดินโขยกเขยกหอบผ้าเข้าห้องน้ำไป
 
ที่พักจัดชุดใส่บาตรไว้ให้แขกที่มาพักคนละชุด และเพราะอยู่ติดริมแม่น้ำ         การใส่บาตรจึงนั่งใส่บาตรกันริมน้ำเหมือนกัน ตอนนพคุณออกมาจากห้องนั้น ทุกคนนั่งเล่นเดินเล่นกันอยู่ที่ริมน้ำแล้ว
“โฮ่! พระเอกต้องเปิดตัวทีหลัง จะได้เป็นที่สนใจ” ไอ้คเชนทร์หน้าหมาทักทายเขาเป็นคนแรก...และเช้านี้คเชนทร์ไม่ใช่แค่หน้าที่หมา...แต่ลามไปที่ปากด้วย นพคุณด่าเขาในใจอีกตามเคย เขานึกขำตัวเองจนเผลอยิ้มออกมา ทำเอาคนที่ทักพระเอกทำหน้างงด้วยความสงสัย
มองจากตรงนี้ไม่ได้มีแค่พวกภารดีเท่านั้นที่นั่งรอตักบาตรอยู่         แต่ที่น่าสนใจคือผู้ชายสามคนที่นั่งคุยอยู่กับภารดีและคุณนพรักษ์...คุ้นๆ      พอเดินเข้าไปใกล้ๆ ถึงได้เห็นว่าผู้ชายสามคนนั้นคือใคร
“พวกขี้เมา...” นพคุณพึมพำเบาๆ
“บ้านอยู่แถวนี้แหละฮะ ใกล้ๆ กันหมด เมื่อคืนเมามากเลย              ก็เลยนอนบ้านไอ้แจ๊คกันทั้งหมดนี่ กลับบ้านไปแม่ด่าแน่ฮะ ฮ่าๆๆๆ แต่เดี๋ยวทำบุญก่อน เผื่อจะช่วยให้แม่ด่าน้อยลง...ฝากถ่ายรูปให้พี่ด้วยนะน้อง”       หนึ่งในขี้เมาหันไปบอกคเชนทร์ เพราะเห็นเขาสะพายกล้องถ่ายรูปอยู่ใกล้ๆ คเชนทร์หันมายักคิ้วให้แล้วหันไปถ่ายรูปบรรยากาศรอบๆ ต่อ
“เมื่อคืนก็ได้พวกพี่เขานี่แหละโวยวายมาส่ง” ยามาที่นั่งอยู่ข้างๆ    เล่าถึงเหตุการณ์เมื่อคืน
“ขาเป็นยังไงบ้างล่ะน้อง? ล้มซะฝุ่นตลบเป็นหนุมานคลุกฝุ่นเลย” แจ๊คที่เพื่อนๆ เรียกหันไปถามพริมา ที่ตอนนี้นั่งฟังยิ้มๆ อยู่ข้างเพื่อนของหล่อน             “ก็เจ็บนิดหน่อยค่ะ แต่เดินได้อยู่นะ...ต้องเดินช้าๆ” นพคุณเดินมานั่งข้างพริมา เขาเหลือบมองดูข้อเท้าสาวน้อย เห็นมันบวมมากเอาการอยู่เหมือนกัน             “อย่าทะเลาะกันบ่อยนักล่ะ ถ้าทะเลาะกันก็คุยกันดีๆ จะได้ไม่ต้องวิ่งตามง้อแบบเมื่อคืน...แถมยังล้มเจ็บตัวอีก ดีนะหน้าไม่คว่ำ...ถ้าฟันฟางหักไปล่ะหมดสวยเลย” คเชนทร์ที่ยืนถ่ายรูปอยู่แถวนั้นถึงกับแอบขำ ยามาก็อดขำไม่ได้ หล่อนนึกภาพตามว่าถ้าพริมาฟันหักจะน่าสงสารหรือน่าขำก่อนดี พี่แจ๊คช่างใช้คำพูดที่ฟังแล้วคิดตามได้ดีทีเดียว
“แฟนสวยขนาดนี้...สงสัยไอ้น้องนี่จะขี้หึง” ทั้งหมดเงียบ นพคุณ       ทำหน้าไม่ถูก ส่วนพริมาตอนนี้แก้มหล่อนซับสีชมพูเล็กน้อย ภารดีกับคุณนพรักษ์ ไม่ได้ว่าอะไรเพียงแต่นั่งฟังเรื่องราวเมื่อคืนต่อไปอย่างเงียบๆ นพคุณแปลกใจ แม้กระทั่งยามาก็ไม่ขัด...ปกติเพื่อนพริมาคนนี้จะต้องขัดทุกอย่างที่เกี่ยวกับเขา
“ความจริงลูกแก้วกับพี่คุณไม่ใช่แฟนกันหรอกค่ะ ก็พวกพี่เมื่อคืน...เอ่อ...น่ากลัวนิดหน่อยลูกแก้วกับพี่คุณก็เลยต้องเลยตามเลย ความจริงแล้วเราเป็นพี่น้องกันค่ะ” แจ๊คกับอีกสองคนทำหน้าไม่เชื่อซะยิ่งกว่าที่รู้ว่าพริมากับนพคุณเป็นคนรักกันเสียอีก ไม่มีอะไรเหมือนกันเลย ไหนจะพ่อ แม่...ลูกยิ่งงงเฟ้ย! แต่ก่อนที่จะต้องมาอธิบายความสัมพันธ์กันยืดยาว เรือที่พวกเขารอก็พายเข้าเทียบฝั่งรับของที่ผู้คนรอใส่บาตรอยู่พอดี พวกขี้เมา บอกว่านพคุณกับพริมาเป็นแฟนกันและทะเลาะงอนกัน ถึงได้วิ่งตามง้อ จนสาวน้อยแก้มแดงต้องรีบออกตัวแก้ข่าวพัลวัน ว่าเรื่องเมื่อคืนเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ขณะที่คนอื่นๆ นั่งฟังเงียบๆ แต่ยามาเห็นนพคุณแอบยิ้ม ถึงเขาจะยิ้มแค่แวบเดียวแต่หล่อนเห็น
ฮึ! ท่าจะจริงอย่างพวกพี่ๆ ว่านั่นแหละ ถ้าพริมาเป็นแฟนไอ้คุณชายใหญ่        ขี้เก๊กนี่ล่ะก็ เขาต้องเป็นแฟนที่นอกจากจะขี้เก๊ก แล้วยังขี้หึง ขี้หวง ขี้เหวี่ยง     ขี้วีน ขี้บ่น...สารพัด!...แต่ตอนนี้คุณชายใหญ่ขี้เก๊กน่าหมั่นไส้ที่สุด เรือพระพายจากไปแล้ว ผู้คนก็เริ่มแยกย้ายกันไป พวกพริมายังนั่งกันอยู่แถวนี้     เพราะภารดีสั่งอาหารเช้าให้มาเสริ์ฟที่นี่
“อยู่กินข้าวด้วยกันนะ เด็กๆ“ ภารดีหันไปบอกสามหนุ่ม พวกนี้น่าจะแก่กว่านพคุณไม่กี่ปี หล่อนชอบ...พวกเขาคุยสนุกดี
“เด็กเดิกอะไรพี่...พวกผมอ่อนกว่าพี่ไม่กี่ปีหรอก...แต่น้องนี่ลูกสาวพี่จริงเหรอ?”
“นึกว่าน้องสาว นี่ถ้าไม่รู้ว่ามีลูกมีผัวแล้ว ผมเกือบจีบแล้วนะ...ทำไมรีบมีผัวจัง” ยามาแทบสำลักน้ำ หล่อนเพิ่งเข้าใจวันนี้...บางทีการพูดอะไรตรงตามความคิดตัวเอง...คนฟังอาจจะรู้สึกพิลึกเอาได้เหมือนกัน แต่ไม่มีใครโกรธกับคำถามของเด็กหนุ่ม เพราะดูเหมือนเขาไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร พวกเขานั่งกินข้าวด้วยกัน และกับข้าวนั้นมีมาเพิ่มจากบ้านของแจ๊คที่อยู่ถัดไปจากโฮมสเตย์นี้สามหลัง แม่เขาเอากับข้าวมาให้ เพราะได้ยินว่าลูกชายไปก่อเรื่องไว้เมื่อคืน
“พวกลูกๆ อยากจะได้อะไรหรือซื้ออะไรกันก่อนกลับรึเปล่า” ภารดีหันไปถามทุกคน
“ลูกแก้วอยากซื้ออยู่ค่ะ เห็นที่ตลาดเมื่อวานตอนเดินไปร้านอาหาร แต่ลูกแก้วไม่แน่ใจว่าตอนนี้จะมีขายรึเปล่า เดี๋ยวไปหาที่ร้านขายยาของสัตว์เลี้ยงก็ได้ค่ะ” พริมาบอกแม่
ของที่หล่อนอยากได้หล่อนเห็นคนขายร้องขายอยู่ในตลาด                        แต่ตอนนี้เป็นเวลาเช้า ตลาดน่าจะยังไม่มีคน และหล่อนก็ไม่แน่ใจว่าร้านค้าหรือคนขายเป็นร้านประจำหรือเปล่า ออกไปเดินหาอาจจะเสียเวลาและหล่อนก็เจ็บขาด้วย...น่าจะไม่เหมาะ
“อยากได้อะไรล่ะ บอกพี่ได้...ที่ตลาดน่ะรู้จักทุกร้านแหละ จะขาจรขาประจำรู้จักหมด” หนึ่งในสามหนุ่มสามมุมเสนอ เขาชอบแอบมองพริมา เพราะหล่อนน่ารักดี
“ยานกเขาขันค่ะ” พริมาหันไปยิ้มหวานให้คนถาม หล่อนได้ยินคนขายตะโกนบอกสรรพคุณเมื่อวาน ตอนนี้นพคุณ (ไก่แจ้) ของหล่อนเริ่มขันเก่งแล้ว แต่ถ้ามันได้ยาวิเศษอย่างที่คนขายโฆษณาไว้เมื่อวานก็อาจจะเป็นตัวช่วยมันได้ดี...ยาบำรุงจ้า! ใครนกเขาไม่ขันช่วยได้...ขันเช้า! ขันเย็น! ขันทันใจ ขันไว ขันไม่มีหยุด! พริมายิ้ม...หล่อนยังจำคำที่คนขายยาตะโกนบอกได้ดี
“ลูกแก้วจะเอาไปให้นพคุณ” สาวน้อยยิ้มตาใส
“พรืดดดด” คเชนทร์ปล่อยก๊ากหลุดขำ เขาเห็นนพคุณหันมาตาขวางใส่ เขายิ่งกลั้นขำไว้ไม่อยู่
“มันใช้กับไก่ได้ไหมคะ?...สัตว์ปีกเหมือนกัน” พริมายังไม่หยุด  ในขณะที่ทุกคนทำหน้าแตกต่างกันออกไป ภารดีกุมขมับ...โถ!ลูกสาวคนดีของหล่อน...มาเที่ยวทั้งทียังจะมีกะใจคิดถึงไก่!
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” สามหนุ่มหัวเราะประสานเสียงกัน
“ยานกเขาขันมันใช้กับไก่ไม่ได้น้อง...ใช้กับไก่ไม่ได้!!!”
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา