แก้วนพคุณ

-

เขียนโดย เวลา

วันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 16.59 น.

  38 บท
  0 วิจารณ์
  30.03K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

23) ลอยกระทง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

งานลอยกระทงของโรงเรียนสารสินทร์เป็นงานใหญ่ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี       เพื่อให้เด็กนักเรียนร่วมกันทำกิจกรรม มีการจัดซุ้มขายของ           วันนั้นทั้งวันจะไม่มีการเรียนการสอน แต่จะจัดบรรยากาศเป็นงานเทศกาล    ให้เด็กๆ ได้เข้าร่วมกันอย่างสนุกสนาน

            ในตอนเย็นจะมีเวทีการแสดงของนักเรียนและการประกวดนางนพมาศ จากตัวแทนของเด็กนักเรียนแต่ละห้อง สำหรับ ม.3 ห้อง 5 นั้นเสนอชื่อพริมา    ให้เป็นตัวแทนประกวดนางนพมาศประจำห้อง เด็กสาวไม่ชอบเลย แต่หล่อนไม่สามารถเถียงชนะเพื่อนๆ ได้

            “เอาน่า...ห้องเราก็มีลูกแก้วนี่แหละสวยสุดแล้ว” อัศวิน เด็กผู้ชายเพื่อนร่วมห้องให้ความเห็น

            “ใช่ๆ ลูกครึ่งโรงเรียนเรามีคนเดียว ถือว่าเป็นจุดขายของห้องเราเลย เดี๋ยวเราไปเกณฑ์เพื่อนๆ มาช่วยกันเชียร์นะลูกแก้ว เพื่อนเราชอบลูกแก้ว     อยู่หลายคน” พศินเข้าร่วมสมทบ

            “ฉันว่าส่งไอ้เก๋ดีกว่าว่ะ ถ้าอยากได้ของแปลกเป็นจุดขาย” อนาทินเสนอบ้าง ทำให้เป็นที่ขบขันของเพื่อนๆ แต่ศศิธรไม่สนุกด้วย หล่อนยืนขึ้นตั้งท่าจะปาหนังสือใส่เขา

                “หุบปากไปเลยไอ้แช็ป“ ศศิธรแหวใส่ หล่อนกลัวๆ เสียวๆ ว่าเพื่อนคนอื่น จะบ้าจี้ตามอนาทิน แต่สุดท้ายผลสรุปเป็นเอกฉันท์ให้พริมาเป็นตัวแทนของ  ม.3 ห้อง 5 ไปประกวดนางนพมาศ

            เด็กสาวมีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด หล่อนไม่ชอบการแข่งขันและ   ไม่ชอบการเป็นที่สนใจของคนหมู่มาก

            “เอาน่า! เดี๋ยวปลาทูช่วยเอง เรามาหาอะไรที่ลูกแก้วถนัดกัน” ยามา ให้กำลังใจ เพราะดูท่าแล้วงานนี้หล่อนก็ไม่สามารถเถียงช่วยพริมาได้

            “ทำไงได้ มติห้องเธอก็ยอมรับไปนะ” ศศิธรหันมาบอก หล่อนโล่งใจ ที่เพื่อนๆ ไม่บ้าจี้ตามอนาทิน ไม่งั้นหล่อนคงขายหน้าแย่ที่สาวหล่อต้องไปเดินนวยนาด ใส่ชุดไทยอยู่บนเวที

            เมื่อหาตัวแทนได้ก็ต้องมาช่วยกันคิดหาการแสดงให้พริมา งานนี้ทุกคนนั่งเงียบคิดหนัก เพราะพริมาไม่มีอะไรที่ทำได้โดดเด่นเลยสักอย่าง

รำไทย...ไม่! (แค่ตั้งวงก็ผิดแล้ว)

ร้องเพลง...ไม่! (ถ้าแข่งประกวดร้องเพี้ยนคงพอจะได้อยู่)

            เล่นกีฬา...ไม่! (เกรดกีฬาประเภทผ่านมาได้อย่างเฉียดฉิว) ทุกคนเสนอกันจนจะถอดใจหาตัวแทนคนใหม่อยู่แล้ว จู่ๆ ยามาก็นึกได้

“ลูกแก้วถนัดทำอาหารนี่นา” พริมาหันมาถลึงตาใส่เพื่อน นี่หล่อนจะรอดอยู่แล้วเชียว ยามาเหมือนเพิ่งจะนึกได้หล่อนยิ้มแหยๆ เป็นการขอโทษ

“จะให้ไปทำอะไรได้ล่ะบนเวที ตำน้ำพริก ส้มตำหรืออะไรดี” มาริสาเสนอ ให้เพื่อนๆ ช่วยกันคิด แต่หลายเมนูต้องเตรียมอุปกรณ์มากเกินไป อาจจะไม่สะดวก

“ผัดผักบุ้งไฟแดงสิ” ศศิธรเสนอ

“ก็น่าสนใจนะ เล่นท่าได้เยอะดีด้วย” ยามาพยักหน้า หล่อนเคยเห็นบ่อยๆ ยิ่งไฟลุกท่วมเยอะๆ ยิ่งน่าสนใจ การแสดงไม่ต้องใช้เอฟเฟคอะไรมากมาย  แต่แสงสีเสียงกลิ่นมาครบ

“จะบ้าเหรอปลาทู เดี๋ยวลูกแก้วก็ทำไฟไหม้เวทีกันพอดี” พริมาหวาดๆ หล่อนไม่มั่นใจว่าตัวเองจะทำได้

“เดี๋ยวปลาทูขึ้นไปช่วยเอง รับรองไม่พลาด” เห็นยามาเสนอตัว หลายคนก็เบาใจ เพราะไม่อยากปล่อยพริมาให้เล่นอะไรคนเดียว คราวก่อนแค่นำสวดมนต์ยังผิด มาคราวนี้เล่นกับไฟ...คิดแล้วหวาดเสียว

ส่วนงานในส่วนของห้องปีนี้จะตั้งซุ้มขายไอศกรีมกะทิสด เพราะเพื่อนในห้องมีกิจการขายไอศครีมอยู่แล้ว เลยทำให้หาวัตถุดิบได้ง่าย

“สรุปเราได้ตามนี้แหละนะ มีใครจะเสนออะไรเพิ่มเติมไหม? งั้นเย็นวันพรุ่งนี้เรามาซ้อมผัดผักบุ้งกัน เดี๋ยวจะลิสต์รายการให้นะว่าต้องเอาอะไรกันมาบ้าง แบ่งๆ กันไป ใครหาอะไรมาได้” มาริสาทำหน้าที่หัวหน้าห้องของหล่อนอย่างเต็มที่ พอถึงวันจริงพวกเด็กๆ ในส่วนของผู้ช่วยการแสดงออกไปดูเวที เพราะพริมาซ้อมโยนผักบุ้งที่สนามแต่ยังไม่เคยซ้อมกับสถานที่จริง เพื่อกันการผิดพลาด พวกเขาจึงต้องไปดูเวทีจริงๆ ให้เห็นกับตา

“โอ้โห...สูงเหมือนกันนะเนี้ย” ยามามองเวที

“ต้องสูงแหละ เดี๋ยวแถวหลังๆ มองเวทีไม่เห็น” มาริสาสำรวจรอบๆ ตอนนี้ มีเก้าอี้มาวางเรียงรายไว้เรียบร้อยแล้ว แต่หล่อนคำนวณดูจากที่เห็น เก้าอี้เหล่านี้ไม่น่าจะพอกับจำนวนคน พวกที่มาไม่ทันหรือมาช้าอาจจะต้องยืนดูรอบๆ

“ไปๆ งั้นไปลองโยนดู” ศศิธรหันมาบอกยามากับพริมาที่ตอนนี้เอากระทะและจานรับมาพร้อม ข้างในกระทะนั้นพวกเขาใส่เป็นผักบุ้งลวกให้มีน้ำเล็กน้อยแทนผัดผักบุ้งจริง เพราะกลัวจะเลอะเทอะเวที พริมามองลงมาด้านล่าง หล่อนเห็นเก้าอี้วางไว้มากมายและเวทีก็สูง ตอนนี้สาวน้อยสติกระเจิดกระเจิงไปหมดแล้ว...นี่ขนาดแค่ซ้อมและยังไม่มีคนดูจริงๆ ขายังสั่นได้ขนาดนี้...หล่อนกลัวทำพลาดอย่างที่สุด

“ทำอะไรกันวะ” ชัยยศนั่นเอง เขามาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีใครทันสังเกต ศศิธรหันไปบอก เด็กชายฟังเงียบๆ และหันไปมองพริมาที่ตอนนี้ยืนขาสั่น

“คราวนี้สงสัยได้ยอด Facebook Live ถล่มทลายแน่ๆ ว่ะ” ชัยยศหมายมั่นปั้นมือ คืนนี้เขาต้องได้ข่าวและภาพเด็ดๆ อย่างแน่นอน

“นี่หวังดีใช่ไหม? ไอ้ยศ” ศศิธรถาม แต่เด็กชายได้แต่ยืนยิ้ม เขาไม่ได้แช่ง แต่มันเป็นลางสังหรณ์ แล้วไหนจะเล่นใหญ่ถึงขนาดก่อไฟบนเวที...งานนี้มีลุ้น ระหว่างที่ชัยยศฝันกลางวันว่าเขาจะได้ข่าวเด็ดข่าวดังในชั่วข้ามคืน              ก็เกิดเสียงดังโวยวายมาจากเวที เด็กชายเห็นยามาวิ่งถือจานลงมาหน้าตาตื่น ส่วนพริมานั้นตกเวทีลอยปลิวไปกองอยู่บนกองผ้าที่พวกรุ่นที่เตรียมไว้จัดแต่งเวที ในคืนนี้พอดิบพอดี ถ้าหล่อนตกไปไกลกว่านั้นอีกนิดเดียวรับรองเจ็บหนักแน่นอน พวกเพื่อนๆ ที่อยู่รอบๆ ดูจะตกใจไม่น้อย เพราะภาพที่สาวน้อยตกลงมาจากเวทีนั้นน่ากลัวมาก

“ลูกแก้ว!!!!!” เสียงยามาตกใจสุดขีด หล่อนให้พริมาใส่รองเท้าส้นสูงที่ต้องใส่คืนนี้ขึ้นเวที และให้ลองเดินดูให้ชิน แต่ความเคยชินใช่ว่าจะฝึกกันได้ในเวลาไม่กี่นาที แค่เวลาปกติพริมาก็ล้มได้แบบธรรมดาๆ บนพื้นทั่วไปอยู่แล้ว นี่เจอร่องกระดานบนเวทีกับสติที่กระเจิดกระเจิง เพื่อนรักของหล่อนมีหรือจะควบคุมตัวเองได้ แล้วก็จริงตามคาด พริมาทำพลาดตามที่ใครหลายคนเป็นห่วงจริงๆ ดีเท่าไหร่แล้วที่เพื่อนหล่อนไม่ตกจากเวทีลงมาคอหักตาย

“โอ้ย! เสียดายวุ้ย” ชัยยศพึมพำคว้ากล้องมือถือในมือ เขาถ่ายตอนพริมาตกลงมาไม่ทัน

“เดี๋ยวฉันจะตบแกแล้วให้ไอ้พวกนี้ถ่ายไว้ แกจะได้มีข่าวเด็ดๆ เอาไปลงไงไอ้ยศ“ ยามาหันมาแหวใส่ ชัยยศยิ้มแหยๆ เขาไม่ได้ตั้งใจพูดให้พริมาเจ็บจริงๆ (แต่ก็เสียดายภาพจริงๆ )

“ลูกแก้วไม่เป็นไร โอ๊ย...” พริมาลุกขึ้นยืน แต่หล่อนยืนได้ไม่ถนัดนัก พวกเพื่อนๆ เข้าไปช่วยกันประคอง ส่วนชัยยศแก้ตัวด้วยการเดินไปหยิบกระทะที่ตอนนี้กระเด็นไปไกลพอสมควร...มันน่าจะหล่นลงมาพร้อมพริมา       เขาหยิบกระทะและหันไปมองบนเวที (เสียดายจังภาพทั้งคนทั้งกระทะที่ลอยละลิ่วลงจากเวทีคงจะงดงามไม่น้อย) แต่เขาก็โล่งใจ เพราะถ้าพริมาได้แสดงในคืนนี้ หล่อนอาจจะเผาเวทีจนเกิดเรื่องวุ่นวายได้มากกว่านี้อีกแน่ๆ (นี่หวังดีจริงๆ นะ) หลังจากพริมาตกเวทีตัวแทนห้อง 5 จึงต้องหาใหม่อย่างเร่งด่วน   ในห้องนี้ก็พอมีคนที่หน้าตาดีพอไปวัดไปวาได้บ้างอยู่เหมือนกัน แต่งานด่วนขึ้นไปก็ขายหน้าแบบนี้ ใครกันจะอยากทำ คนสวยๆ จนถึงไม่สวยไม่รู้พร้อมใจกันหายหน้าไปไหน จะเหลือที่เห็นก็มีพริมา (ที่ตอนนี้นั่งเดี้ยงยิ้มแหยๆ ) ศศิธรที่วันนี้แต่งตัวหล่อเป็นพิเศษเพราะหล่อนจะมาเป็นพ่อยกให้สาวๆ บนเวที    ในมือก็มีพวงมาลัยไว้แจกสาวตามสไตล์ทอมสายเปย์ ชัยยศที่ไม่เคยพลาดงานที่มีคนพลุกพล่าน...งานแบบนี้แหละที่ท้าทายความสามารถของเขา ยิ่งมีคนมาก ความต้องการสินค้าหายากหรือวัสดุขาดแคลนก็ยิ่งมีมาก เขาจึงต้องคอย สแตนบายอยู่ตลอดเวลา...ช่วงนาทีทำกำไรใครจะมีกะจิตกะใจทำอะไรกัน  มาริสามีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด หล่อนรับผิดชอบในฐานะหัวหน้าห้อง เพราะถ้าหาคนแทนไม่ได้ ห้อง 5 ก็พลาดการแข่งขัน ยามายืนเท้าเอวมองไปรอบๆ   ฮึ! อย่าให้เห็นนะไอ้พวกห้อง 5 พึ่งพาไม่ได้จริงๆ คราวหน้าอย่าได้หวังจะมาลอกการบ้านกันอีกเลย ไอ้เพื่อนทรยศ!

“สงสัยจะส่งไม่ทันแล้วแหละแก ช่างมันเถอะ” มาริสาเสียอีกที่เป็นคนพูดปลอบใจเพื่อน พริมาดูเสียใจมาก เพราะงานนี้ที่พลาดก็เป็นเพราะหล่อน

“ไม่ใช่ความผิดลูกแก้วซะหน่อย อุบัติเหตุใครมันจะมาห้ามได้” ยามา ช่วยปลอบ หางตาหล่อนเห็นชัยยศยืนซุบซิบอะไรบางอย่างกับศศิธรแล้วหันมามอง ทั้งสองยืนเถียงกันอยู่นานจนยามาเริ่มสงสัย

“อะไร? พวกแกคุยอะไรกันวะ?” ยามาที่กำลังอารมณ์ไม่ดี        เพราะเพื่อนในห้องไม่มีใครพึ่งพาได้สักคน หล่อนกำลังจะคิดว่าจะตัดชื่อใครออกจากการเปิดติวรอบพิเศษบ้าง เห็นไอ้สองคนนี่ซุบซิบกันแบบนี้ยิ่งหงุดหงิด

“อย่าเพิ่งโมโห...แกอยากรู้จริงอ่ะ ถ้าแกรู้ว่าฉันสองคนคุยอะไรกันมีหวังโมโหหนักกว่าเดิมน่ะสิ” ชัยยศให้คำตอบ เป็นคำตอบที่ทำให้คนถามอยากรู้หนักกว่าเดิมอีก

“บอกมาเลย ฉันจะโมโหหนักขึ้นไปเรื่อยๆ ถ้าพวกแกไม่รีบบอกมาเดี๋ยวนี้”

“ฉันรู้แล้วว่าจะส่งใครไปเป็นตัวแทนห้องประกวดนางนพมาศ” ศศิธรเป็นคนให้คำตอบ หล่อนเสนอความคิดนี้กับชัยยศ แต่ชัยยศไม่เห็นด้วยเพราะยามาเถื่อนเกินไป นางนพมาศตัวแทนห้องต้องเรียบๆ ร้อยๆ อ่อนด๋อยว่าง่าย

“เฮ้ย!!!!” ยามาอุทานลั่น

“ก็ฉันบอกแล้วไงว่าแกทำไม่ได้หรอก อย่างแกเนี้ยนะจะมาเดินสวยๆ สโลวโมชั่นอยู่บนเวทีต่อหน้าต่อตาคนนับร้อย ฉันถึงยืนเถียงกับไอ้เก๋อยู่นี่ไง” ชัยยศรีบออกตัว เขาไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรกแล้ว ถ้าหาใครไม่ได้แล้วจะเอายามา ขึ้นไปก็ไม่ต้องส่งไปให้เสียชื่อห้องน่าจะดีกว่า (ความจริงก็ไม่ใช่ห้องเขา)

“ฉันว่าปลาทูมันทำได้สิ แล้วไอ้ผัดผักบุ้งไฟแดงเนี้ย มันก็เป็นคนฝึกลูกแก้วเองกับมือ ให้มันทำแหละเหมาะแล้ว” ศศิธรรีบเถียง

“ได้ยังไง ปลาทูมันไม่ใช่ผู้หญิง ขึ้นไปก็ขายหน้าเขาเปล่าๆ ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่ต้องส่งหรอก เสียชื่อห้องนะแบบนี้” มาริสาช่วยเถียง ตอนนี้คนที่    อดรนทนไม่ได้คือยามานั่นเอง

“พอๆ พวกแกเลิกเถียงกันได้แล้ว ฉันจะไปประกวดนางนพมาศแทนลูกแก้วเอง” ยามาทนไม่ได้เวลามีใครมาว่า แถมพวกนี้มันว่าต่อหน้าหล่อนเลย พวกมันกล้ามาก แล้วไอ้ยศ...มันรู้ได้ยังไงว่าหล่อนทำไม่ได้ มีอะไรที่ยามาคนนี้ พยายามแล้วจะทำไม่ได้กัน ดูถูกกันแบบนี้ยอมไม่ได้เด็ดขาด

“งั้นสรุปว่าแกยอมนะ ฉันจะได้ไปแจ้งเปลี่ยนชื่อที่กรรมการ” มาริสารีบขอตัว

“ไปๆ เราไปแต่งหน้ากัน...ไอ้ยศ!!! ไปหาของมาตามที่ตกลงกันไว้ได้เลย” ศศิธรหันไปยักคิ้วให้กับชัยยศ พริมาสังเกตตาม แม้หล่อนจะไม่ฉลาดทันคน แต่งานนี้ยามาโดนความโกรธบังตาเสียจนคิดไม่ทันไอ้คนพวกนี้ พวกนี้ถ้าร่วมมือกันทำเรื่องไม่ดีคงจะเป็นมิจฉาชีพมือฉมัง เพราะมันร่วมกันหลอกคนได้อย่างแนบเนียน มันทำงานกันเป็นทีม ขนาดคนที่ฉลาดแบบยามายังโดนพวกนี้รวมหัวกันเล่นละครชุดใหญ่หลอกได้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่โชคดีที่งานนี้ สิ่งที่พวกนี้ร่วมมือกันทำก็ทำเพื่อห้อง (แม้ชัยยศจะอยู่ ม.2 และไม่ได้อยู่ห้อง 5 ก็ตาม) ศศิธรกับชัยยศรู้จุดอ่อนยามาดี...ถ้าโดนดูถูกว่าทำไม่ได้แล้ว นั่นยิ่งเป็นแรงผลักดันให้ยามาพยายามทำเรื่องนั้นๆ ให้สำเร็จจนได้ ส่วนมาริสา หล่อนฉลาดอยู่แล้ว แค่ดูแวบเดียวก็จับทางถูกสามารถเข้าร่วมผสมโรงได้อย่างแนบเนียน นี่แหละน้า!!! เขาถึงบอกว่าความโกรธจะนำพาความเดือดร้อนมาให้ พริมาสงสารยามา แต่มาถึงขั้นนี้ และเพื่อนหล่อนก็ออกตัวจะประกวดเอง หล่อนไม่พูดน่าจะดีกว่า พอได้ตัวแทนห้องเข้าประกวดนางนพมาศ แบบเร่งด่วนเป็นที่เรียบร้อย พวกเพื่อนๆ ที่หายหน้าหายหัวกันไป โดยไม่ได้นัดหมายก็กลับมารวมตัวกันอย่างพร้อมเพรียง แม้พวกเด็กผู้ชายจะเข้าไปในห้องไม่ได้ พวกเขาก็ยังนั่งกันหน้าสลอนเต็มทางเดินหน้าห้อง...พริมาไม่แน่ใจว่าพวกเด็กผู้ชายตั้งใจมาให้กำลังใจหรือจะมาดูของแปลกกันแน่ เพราะหน้าห้องไม่ได้มีแค่เด็กผู้ชายห้อง 5 ยังมีห้องอื่นๆ อีกด้วย ดูท่าว่างานประกวดนางนพมาศคืนนี้ คนคงจะเต็มหน้าเวทีอย่างแน่นอน ชัยยศแหวกคนเข้ามา      เขาเคาะประตู...ในมือก็ถือชุดที่จะใช้ประกวดในคืนนี้ ยามาใช้ชุดของพริมาไม่ได้เพราะขนาดตัวของสองสาวต่างกันลิบลับ ข้างๆ ชัยยศตอนนี้มีสาวสวยคนหนึ่งเดินมาด้วย เรียกความสนใจจากเด็กผู้ชายที่นั่งอยู่ตลอดทางเดิน

“ใครวะนั่น สวยฉิบหาย” เด็กผู้ชายคนหนึ่งกระซิบบอกเพื่อน

“ใช่ๆ สวยเนอะ หรือพี่เค้าจะเป็นครูคนใหม่วะ ไม่เคยเห็น” เด็กๆ   เดาไปเรื่อย เพราะคนที่มาเที่ยวงานคงจะไม่มาเที่ยวไกลถึงบนตึกเรียน

“แม่!!!” พริมาตะโกนเรียกภารดีด้วยความแปลกใจ

“แม่มาได้ยังไงคะ?” จากที่เป็นที่สนใจอยู่แล้ว คราวนี้พอได้คำตอบว่าสาวสวยคนนี้เป็นแม่พริมา หล่อนยิ่งเป็นที่จับตามองมากกว่าเดิม

“ก็เจ้ายศโทรไปรายงาน เรื่องแบบนี้แม่จะพลาดได้ยังไง” ภารดี       ชูกระเป๋าเครื่องสำอางในมือ

“เข้ามาเลยค่ะ แม่มาแบบนี้ดีเลย ลูกแก้วค่อยเบาใจหน่อย” พริมากังวลตั้งแต่เห็นเพื่อนในห้องช่วยกันแต่งหน้าทำผมยามากันอย่างทุลักทุเลแล้ว เด็ก ม.3 ในห้อง ยังไม่มีใครโตเป็นสาวสักคน จากแต่งหน้าคนพริมากลัวจะกลายเป็นแต่ง  หน้าศพ...ลืมนึกถึงแม่ไปได้อย่างไรนะ หล่อนนับถือความรอบรู้และรอบคอบของชัยยศจริงๆ งานนี้ชัยยศเป็นพระเอกเลยก็ว่าได้ เขาแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ทุกอย่างจริงๆ

ผมของยามาตอนนี้ยาวระต้นคอ การรวบเกล้าก็ทำได้ง่าย...ปีนี้                 ยามากลายเป็นสาวแล้ว และพริมาก็เห็น...เห็นแบบไม่ได้เข้าข้างยามาเลยว่าเพื่อนของหล่อนสวย ให้ภารดีเป็นคนแต่งหน้าให้น่ะดีแล้ว เพราะยามากับภารดีสีผิวใกล้เคียงกัน แม่ต้องมีวิธีแต่งหน้าเพื่อนของหล่อนออกมาได้สวยแน่ๆ มาริสาออกมาไล่พวกผู้ชายที่นั่งรออยู่ตรงระเบียงให้กลับไปที่หน้าเวที     เพราะตอนนี้คนเริ่มไปที่หน้าเวทีกันแล้ว

“ไปกันให้หมดเลยนะไม่ต้องมานั่งหน้าสลอนกันอยู่ตรงนี้ และพวกแกไปซื้อพวงมาลัยเตรียมไว้เลย ถ้าไม่รีบไปตอนนี้เดี๋ยวไม่มีที่นั่ง” หัวหน้าห้องออกมาไล่ พวกเขาก็เลยจำใจต้องไป แต่ก็จริงอย่างที่มาริสาพูด ถ้าไม่รีบไปจองที่ก็จะไม่มีที่ดูนางงามใกล้ๆ ไม่ใช่แค่ดูยามาแต่พวกเขาอยากดูสาวๆ สวยๆ ชั้นอื่นด้วย

คนหน้าเวทีหนาแน่นจริงอย่างที่มาริสาว่า ตอนนี้วงดนตรีของโรงเรียนกำลังบรรเลงเพลงให้ความบันเทิงกับผู้คนด้านล่างกันอย่างสนุกสนาน นักเรียนหญิงหลายคนไปร้องกรี๊ดๆ กันอยู่หน้าเวที เพราะพี่ป๊อกนักร้องนำชายประจำวงดนตรีของโรงเรียนหล่อและเสียงดีหยั่งกะนักร้องมืออาชีพ

“แหม พ่อหนุ่มนี่หล่อ เสียงดีแบบนี้น่าจะไปประกวดรายการชุมทางเสียงทอง” คุณนพรักษ์หันไปพูดกับนพคุณ พวกเขาได้ที่นั่งอยู่แถวกลางๆ ขนาดว่ารีบมาแล้วยังไม่ได้ที่นั่งแถวหน้าๆ เลย

“พ่อได้ข่าวว่าลูกแก้วตกเวทีนะ แต่น่าจะไม่เป็นอะไรมาก” นพคุณหมดความสนใจกับเวทีด้านหน้าทันที ยัยฝรั่งแคระตกเวทีก็แสดงว่าประกวดนางนพมาศไม่ได้ แล้วห้องหล่อนใครประกวดแทนกัน วันนี้เขาอุตส่าห์ใจดีตั้งใจว่าจะคล้องพวกมาลัยสาวน้อยสักพวงสองพวง พวงมาลัยก็ซื้อมาแล้ว

“พ่อรู้ได้ยังไงครับ?” นพคุณยังไม่รู้เลยว่าพริมาตกเวทีตอนไหน วันนี้ช่วงเย็นเขาติดเวรดูแลซุ้มสาวน้อยตกน้ำที่ห้องเขาเป็นคนคิดขึ้นมา เพิ่งสลับเวรกับคนอื่นมาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง

“คุณพิมพ์บอกเมื่อกี้” นพคุณไม่เห็นภารดีเลยตั้งแต่เขาเดินตามบิดาเข้ามานั่ง พ่อเขาจองที่ไว้ให้และนั่งรอเขาสลับเวรสาวน้อยตกน้ำอยู่ตรงนี้     แต่ตอนที่เขามาถึงแม่เลี้ยงคนสวยก็หายตัวไปแล้ว เห็นแต่กระเป๋าหล่อนวางอยู่ แต่จากที่เห็นพ่อนั่งสบายใจดูคอนเสิร์ตนักเรียนอยู่ในตอนนี้ก็พอจะเดาได้ว่า พริมาไม่น่าจะเป็นอะไรมาก ตอนนี้ผู้คนเริ่มมากันหนาแน่นจับจองเก้าอี้       จนเต็มหมดแล้ว พวกที่ไม่มีที่นั่งก็ยืนดูกันอยู่รอบๆ

พริมาโขยกเขยกเดินมากับภารดี แม่เลี้ยงเขาไปนั่งข้างพ่อ ส่วนตัวลูกสาวนั่งลงข้างนพคุณ

“ได้ข่าวว่าตกเวที?”

“...ค่ะ” พริมาไม่แน่ใจว่าจะเป็นคำถามหรือคำตำหนิ

“...เจ็บไหม?” นพคุณถามแต่ไม่มองหน้า...เขามองไปทางเวที พริมาเลยไม่ได้ตอบเพราะไม่แน่ใจว่าเขาถามจริงหรือหล่อนหูฝาดไปเองกันแน่

“....” อะไรกันวันนี้เขาอุตส่าห์ชวนคุยก่อน แต่เด็กนี่กลับไม่ตอบ หงุดหงิด!!! นพคุณหันจะไปดูหน้าพริมา หล่อนคงกำลังนั่งยิ้มลำพองใจที่       หักหน้าเขาได้ แต่พริมามองเขาอยู่ก่อนแล้ว หล่องมองมาด้วยสีหน้าสงสัย   พอเห็นเขาหันมาก็ยิ้มสดใสส่งมาให้...น่ารัก!

“เมื่อกี้พี่คุณคุยกับลูกแก้วรึเปล่าคะ? ลูกแก้วไม่แน่ใจ” เมื่อเห็นว่าพริมา ไม่แน่ใจอย่างที่พูดจริงๆ เขาจึงไม่ได้ว่าอะไร นพคุณหันกลับไปทำเหมือนสนใจอยู่กับการแสดงบนเวทีเสียเหลือเกิน หางตาเขาเหลือบเห็นว่าหล่อนยังเอียงคอมองเขาอยู่...ทำไมมันร้อนๆ ที่แก้มที่หูฟระ!!!

เด็กสาวแปลกใจ นพคุณพูดกับหล่อนหรือเปล่า? แต่เขาไม่มองหน้าหล่อนเลยด้วยซ้ำ น่าจะไม่ใช่...แต่นพคุณก็คือนพคุณ เขาหาเรื่องหงุดหงิดและโมโหหล่อนได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว อากาศร้อน...เขาแพ้อะไรหรือเปล่า? ทำไม  หูแดงแบบนั้น พริมาเอามือแตะหูนพคุณเบาๆ เขาผงะหันมามองหล่อนตาขวาง

“ขอโทษค่ะ...แต่ลูกแก้วเห็นหูพี่คุณแดงไปหมดเลย พี่คุณแพ้อะไรรึเปล่า?” เด็กสาวยื่นหน้าเข้ามาใกล้เขามากกว่าเดิมอีก

“แพ้เธอนั่นแหละ...เอ้ย! ไม่ใช่ ออกไปห่างๆ เลย” นพคุณเอาแขนดันพริมาออกไป...หัวใจมันจะเต้นแรงทำไมนักหนาวะ!

พริมาหน้าเสีย หล่อนเสียใจ ทำอะไรก็ผิดไปหมดจริงๆ นั่นแหละ             นี่ขนาดหล่อนเป็นห่วงเขาก็ยังผิด คิดมาถึงตรงนี้น้ำตาคลออีกแล้ว ไม่ได้! ห้ามร้องเด็ดขาด จะร้องไห้ตรงนี้ได้ยังไง คนเยอะแยะไปหมด แต่ถ้ายังนั่งอยู่ตรงนี้ หล่อนต้องร้องไห้ออกมาแน่ๆ

นพคุณเห็นพริมาหน้าเสีย เขาก็รู้สึกผิด เด็กสาวไม่ได้ทำอะไรผิดเลย เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงชอบหงุดหงิดใส่หล่อนนัก...กับคนอื่นก็ไม่เป็น นพคุณไม่เคยทำพฤติกรรมแบบนี้กับผู้หญิงไม่ว่าใครก็ตาม (อ้อ...มียามาอีกคน แต่คนนั้นเกินเยียวยาจริงๆ) แต่กับพริมานั้นแปลก...เขาทำทุกอย่างที่อยากทำพูดทุกอย่างที่อยากพูด...เหมือนอยู่กับหล่อนเขาไม่ต้องสร้างภาพหรือเกรงใจเลยแม้แต่น้อย...พริมาขยับตัวลุกขึ้น...หล่อนจะไปไหน

“ไปไหน?” นพคุณถาม แต่พริมาไม่ตอบหล่อนทำท่าจะเดินไปทางภารดี เขาเดาได้หล่อนจะเปลี่ยนที่นั่ง...ใครจะยอม!!!

“นั่งนี่แหละจะไปไหน แล้วยืนแบบนี้มันบังคนข้างหลัง นั่งลง!”       นพคุณดึงมือพริมาให้นั่งลง หล่อนขัดขืนแต่ก็สู้แรงเขาไม่ได้ จึงจำเป็นต้องนั่งลงตามเดิม ภารดีหันมามองว่าเกิดอะไรขึ้น หล่อนนั่งอยู่ริมสุดฝั่งซ้าย ถัดมาคือคุณนพรักษ์ นพคุณและก็พริมานั่งริมสุดฝั่งขวา ถ้าจะเปลี่ยนพริมาไปนั่งกับแม่ ถัดมาก็พ่อและเขานั่งริมสุดแทนที่พริมา...ติดกับใครก็ไม่รู้ นพคุณชะโงกหน้าไปดู...คนที่นั่งติดกับพริมาเป็นเด็กผู้ชายหน้าตาดี เขานั่งอยู่กับเพื่อนๆ ในมือพวกเขามีพวงมาลัยคนละพวง และตอนนี้พวกนั้นหันมามอง     นพคุณด้วยความสนใจ นพคุณไม่ได้สังเกตมาก่อน พอเห็นแบบนี้ยิ่งหงุดหงิด! นี่นั่งติดอยู่กับผู้ชายตั้งนานแล้วหรือนี่

“มีอะไรกันเหรอตาคุณ?” คุณนพรักษ์หันมาถามเพราะเห็นพริมาลุกขึ้นยืน

“ไม่มีอะไรครับพ่อ น้องอยากเปลี่ยนที่นั่งเฉยๆ“ นพคุณลุกขึ้นและพยุงพริมาที่ขาเจ็บให้ลุกขึ้นไปนั่งข้างคุณนพรักษ์ ส่วนเขาไปนั่งแทนที่หล่อนข้างๆ เด็กผู้ชายคนนั้น เป็นอันว่าพริมาโดนขนาบข้างด้วยคุณนพรักษ์        และนพคุณ...นั่งตรงกลางนี่แหละจะได้ไม่ต้องไปนั่งติดกับใครทั้งนั้น          นพคุณหันไปมอง เห็นเด็กชายนั่งมองอยู่เหมือนกัน แต่พอเห็นเขาหันไป     พวกนั้นก็หลบตา เขาได้ยินแว่วๆ พวกเด็กๆ คุยกัน

“สงสัยพี่เขาจะหึงแฟนว่ะ ก็มึงดันหล่อ” เด็กคนที่อยู่ริมสุดเป็นคนพูด

“กูยังไม่ทันดูหน้าพี่ผู้หญิงด้วยซ้ำ เพิ่งเห็นเมื่อกี้ตอนลุกขึ้นยืนนี่แหละ ว่าแต่รุ่นพี่เหรอวะ...น่ารักว่ะ”

“อ่ะแฮ่ม” นพคุณทำเสียงให้พวกเด็กผู้ชายรู้ว่าเขาได้ยินที่พวกนั้นคุยกัน เสียงพวกนั้นจึงเงียบไป เขาเหลือบไปดูพริมาที่ตอนนี้นั่งหน้าหงิกเพราะโดนขัดใจไม่ให้ไปนั่งกับแม่ เขาไม่เห็นหน้านี้บ่อยนักเพราะปกติหล่อนไม่ค่อยโกรธ แต่ทำหน้างอแบบนี้ก็น่ารักไปอีก คิ้วหล่อนขมวดเล็กน้อยแต่ที่น่าเอ็นดูคือปากที่ยื่นออกมาอย่างลืมตัว

“ลูกแก้วตกเวทีประกวดไม่ได้ แล้วใครประกวดแทนล่ะลูก?”         คุณนพรักษ์หันมาชวนคุย เขาเห็นแล้วว่าสองคนนี่น่าจะมีปัญหาอะไรกัน     สักอย่าง แต่เขาไม่ได้ยินตั้งแต่แรก

“ไม่บอกค่ะ อันนี้ไฮไลท์ของงานเลย คุณลุงต้องรอดู” เด็กสาวหันไปคุยยิ้มสดใสกับคุณนพรักษ์ แต่หล่อนไม่หันมาคุยกับเขาอีกเลย หงุดหงิดอีกแล้ว!!! งานประกวดเริ่มขึ้นแล้ว พวกเขาเลยหยุดคุยกัน พริมามองบนเวที แต่นพคุณไม่รู้ตัว...เขามองพริมา ปีนี้หล่อนเหมือนจะโตขึ้น พริมาเริ่มเป็นสาวแล้วและหล่อนก็น่ารักเหลือเกิน เด็กผู้ชายในห้องหลายคนพูดถึงหล่อน และเขาไม่ชอบใจเลย...แต่ถึงจะไม่ชอบใจเขาก็ทำอะไรไม่ได้ และไอ้คนที่ขัดใจเขาอย่างที่สุดคือไอ้ตุลย์หน้าหมา! พวกนี้รู้จักกันทีหลังเขาอีกแต่ทำไมถึงได้สนิทกันขนาดนี้ สองคนนี่รู้สึกต่อกันอย่างไรกันแน่เขาอยากรู้

“เอ๊ะ!!!!” เสียงคุณนพรักษ์อุทานและเสียงภารดีหัวเราะชอบใจ    เรียกความสนใจของนพคุณให้กลับมาอยู่บนเวทีอีกครั้ง

“เอ๊ะ!!!” แม้จะได้ยินพ่ออุทานไปแล้ว แต่พอเขาเห็นคนบนเวทีเองกับตา เขาก็ลืมตัวอดอุทานออกมาบ้างไม่ได้ พริมาหันมามอง...ดูเหมือนความตื่นเต้นที่เห็นคนบนเวทีจะทำให้หล่อนลืมและหายงอนเขาไปชั่วขณะ

“สวยใช่ไหมคะ? แม่เป็นคนแต่งหน้าทำผมให้ปลาทู ส่วนชุดนั่นชัยยศ หามาให้ ลูกแก้วไม่รู้ว่าเขาทำได้ยังไง ไปหาเช่าชุดไทยไซส์ปลาทูมาได้พอดิบพอดี” นพคุณรู้จักชัยยศ เด็ก ม.2 นั่นไปส่งของที่ห้องของเขาทุกวัน จะว่าไปไม่มีใครที่ไม่รู้จักชัยยศและนพคุณก็ไม่แปลกใจนักเพราะชัยยศหาได้ทุกอย่างจริงๆ เขาเห็นมากับตา ขนาดเพื่อนในห้องเขาสั่งของแปลกๆ ประหลาดๆ เด็กนั่นก็ยังหาเอามาขายจนได้ (ดูเหมือนเขาจะขายได้กำไรไปมากทีเดียว) ไม่ใช่แค่เขาที่แปลกใจเพราะนพคุณเห็นคนชี้มือชี้ไม้ไปที่ยามาเหมือนกำลังเดากันว่าคนที่อยู่บนเวทีใช่คนที่พวกเขาคิดหรือเปล่า วันนี้ยามาใส่ชุดไทยสีครีมงาช้าง พริมาสงสัยว่าชัยยศเลือกสีชุดเองด้วยหรือเปล่า ถ้าเขาเลือกเองจริงๆ ก็ถือว่าเขาเลือกได้อย่างคนมีรสนิยมทีเดียว เพราะเลือกชุดออกมาได้เหมาะกับคนใส่ยิ่งนัก ยามาตัวสูง ทำให้เวลาหล่อนใส่ชุดไทยนั้นดูสวยสง่ายิ่งนัก พริมายิ้ม        หล่อนแน่ใจว่าหลายๆ คน แม้แต่เพื่อนห้อง 5 เองบางคนก็ยังเดาไม่ออกว่าผู้หญิงในชุดสีครีมงาช้างคนนั้นคือใคร เมื่อเปิดตัวผู้เข้าประกวดครบทุกห้องแล้ว บนเวทีมีนางงามทั้งหมดเกือบ 40 คน แต่เพียงแค่ไม่กี่นาทีก็คัดออกเหลือแค่ 10 คน และหนึ่งในนั้นคือยามา!!! พริมาดีใจมาก หล่อนอยากไปยืนเกาะหน้าเวทีด้วยซ้ำ ติดอยู่ตรงขาเจ็บเดินไม่ถนัด รอบต่อไปเป็นการแสดงความสามารถพิเศษ บางคนรำไทย ร้องเพลง เล่นมายากล...พอถึงคิวของยามาหล่อนแสดงโชว์การทำอาหาร...ผัดผักบุ้งไฟแดง! ลีลาผัดผักบุ้งไฟแดงที่ซ้อมกันมาอย่างดีนั้น ยามาทำได้ไม่ขาดตกบกพร่อง และคนที่ยอมเสี่ยงชีวิตขึ้นมาถือจาน รอรับผักบุ้งก็คือชัยยศนั่นเอง!!! หมอนั่นยอมทำทุกอย่าง เพียงเพื่อให้เขาเป็นที่รู้จัก และเป็นที่จดจำ การขึ้นมารับผักบุ้งไฟแดงที่ลอยละลิ่วมานั้น...ชัยยศเชื่อว่าภาพนี้จะอยู่ในความทรงจำของใครต่อใครไปอีกนาน เป็นหลักการตลาด   อย่างหนึ่ง...การสร้างการรับรู้!!!

พริมาเห็นเพื่อนสาธิตวิธีการทำผัดผักบุ้งไฟแดงแล้วก็ตกใจ ยามาอธิบายวิธีทำเหมือนหล่อนเป็นพิธีกรรายการอาหารก็ไม่ปาน แต่พริมารู้ว่ายามา พูดสลับกันไปหมด...พอกระทะร้อนแล้วใส่น้ำมันหอยใส่กระเทียม พริกและผักบุ้งลงไปผัดก่อน แล้วค่อยใส่น้ำมันพืชตามลงไปทีหลัง...แค่นี้ก็ประหลาดแล้ว แต่ถ้าคนทำอาหารไม่เป็นหรือไม่ทันสังเกตไม่มีทางรู้ได้เลย เพราะยามานำเสนอออกมาได้พลิ้วและลื่นไหลน่าฟัง ท่าทางของหล่อนคล่องแคล่ว    หล่อนพูดได้ไม่ติดขัดเลย...เพียงแต่ให้ข้อมูลไม่ถูกต้อง!!! พริมาแน่ใจว่าผัดผักบุ้ง ไฟแดงของยามาไม่น่าจะกินได้...แต่ที่รู้ๆ ลีลากินขาด!!! โยนผักบุ้งไปแล้ว      ทุกคนลุ้นตาม...และชัยยศก็มืออาชีพ เขารับได้อย่างสวยงาม เรียกเสียงปรบมือดังไปรอบเวที ตอนนี้เด็กห้อง 5 กำลังโห่ร้องเสียงดังเสียยิ่งกว่าเชียร์มวย ยามายิ้มตลอดเวลา ยิ่งทำให้หล่อนดูสวยสะดุดตา เด็กชายที่นั่งอยู่ข้างๆ     นพคุณหันไปปรึกษาเพื่อน ว่าถ้าเขาเอาพวงมาลัยไปให้ยามาเพื่อนในห้องจะเห็นไหม? นพคุณมองพวงมาลัยในมือตัวเองที่เขาซื้อมา มันต้องเป็นของยามา อย่างแน่นอน ...คืนนี้สงบศึกชั่วคราว

คัดรอบ 5 คนสุดท้าย เพื่อนรักพริมาทำได้ หล่อนเข้ามาถึงรอบสุดท้ายได้อย่างไม่ค้านสายตาใครเลย นพคุณไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะคืนนี้หล่อนสวยหรือว่าเป็นเพราะลีลาผัดผักบุ้งไฟแดงที่ดูเหมือนจะถูกใจใครต่อใครหลายคนรวมถึงกรรมการ

“ถ้าเป็นลูกแก้วนะ ตกรอบตั้งแต่ 40 คนแล้วค่ะ” พริมาหันมาคุยกับเขา ตอนนี้หล่อนยิ้มไม่หุบ

“ลูกแก้วอยากเอาพวงมาลัยไปให้ปลาทู” สาวน้อยพูดพลางมองเท้าตัวเองที่ตอนนี้เดินไม่ถนัด

“ไปสิ...เดี๋ยวพาไป” นพคุณทำจริง คืนนี้เขาสงบศึกและเขายังใจดีพา   พริมาไปหน้าเวทีให้ด้วย วันนี้เขาใจดีสุด ๆ ไปเลย ยัยปลาทูควรจะจดจำเอาไว้!
                “ขอบคุณมากค่ะ งั้นเราเดินกันไปเลยนะคะ ลูกแก้วขาเจ็บเดี๋ยวไปไม่ทัน” พริมาจับมือเขาและหันไปบอกภารดี ภารดีกับคุณนพรักษ์หยิบพวงมาลัยของพวกเขามาฝากหล่อนไปให้ยามาด้วย นพคุณไม่ได้มองไปทางนั้นเขาหน้าร้อนผ่าวๆ ยัยเด็กนี่แต๊ะอั๋งเขาอีกแล้ว

“อ่ะแฮ่ม!” เสียงมาจากข้างตัว...นพคุณหันไปมองข้างๆ เห็นเด็กชายที่เขาสลับที่กับพริมานั่งมองอยู่ เขากำลังทำสีหน้าล้อเลียน นพคุณถลึงตาใส่ แต่ดูเหมือนจะยิ่งทำให้พวกนั้นสนใจมากขึ้น เพราะเด็กนั่นเอาข้อศอกถองเพื่อนให้หันมามองตาม

“โว้...” พวกนั้นทำเสียงเหมือนล้อเลียนเขา...ไอ้พวกนี้ปีนเกลียว!!! พริมายังไม่รู้ตัวว่าหล่อนกลายเป็นที่สนใจของพวกเด็กปีนเกลียวเข้าให้แล้ว หล่อนลุกขึ้นยืนและลากมือนพคุณให้เดินตาม พวกเด็กผู้ชายเขยิบตัวให้เพราะเห็นว่าพริมาเดินไม่ถนัดนัก

“ขอบคุณค่ะ” เด็กสาวหันมายิ้มสดใสให้รุ่นน้อง เล่นเอาหนุ่มน้อยทั้งหลายยิ้มเขินกันไปเลย

“แฮ่ม!!!” นพคุณเอาคืน คราวนี้พวกนั้นยิ้มเขินเกาหัวเกาหูแก้เขินกันไปทีเดียว เขาจึงยิ้มให้รุ่นน้อง

“ขอบคุณครับ” เขาบอกพวกเด็กๆ และยักคิ้วให้เด็กเกรียน       พร้อมกระชับมือพริมาประคองสาวน้อยเดินไปที่หน้าเวที การจะแหวกคนไป     ที่หน้าเวทีนั้นค่อนข้างลำบาก

ตอนนี้บนเวทีอยู่ในช่วงการตอบคำถามของนางนพมาศแต่ละคน พอทุกคนตอบคำถามหมดแล้วถึงจะเปิดให้แฟนนางงามไปคล้องพวงมาลัย พริมาจึงยังพอมีเวลาเดินโขยกเขยกไปที่หน้าเวที ไปเกือบถึงหน้าเวที แต่ก็ไม่มีที่ให้แทรกเข้าไป พวกเขาจึงไปยืนรออยู่รอบนอกใกล้ๆ กับหน้าเวทีแทน     ชัยยศ มาริสา และศศิธรที่ยืนอยู่หลังเวทีโบกมือเรียกพริมา ดูเหมือนพวกนั้นจะแปลกใจไม่น้อยที่เห็นนพคุณจูงมือพริมามาถึงนี่  นพคุณสังเกตและเดาได้แล้ว แต่เขาก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้...ไม่ปล่อยมือ ส่วนพริมายังไม่รู้เรื่องอะไรเหมือนเคย ก็ดี!!!

“พี่คุณ...ไปหลังเวทีกันค่ะ” พริมาหันมาบอก นพคุณแค่พยักหน้าแล้วช่วยประคองพริมาไปยังที่พวกเพื่อนๆ หล่อนยืนอยู่

“กว่าจะแหวกคนมาได้ ลูกแก้วแทบจะแบนเป็นกล้วยทับแหน่ะ” เด็กสาว คุยกับเพี่อนๆ

“เดี๋ยวจะถึงเวลามอบพวงมาลัยแล้ว เหลือเชื่อไอ้ปลาทูมันเก่งเว้ย” ศศิธรออกปากชม วันนี้หล่อนเป็นคนตั้งใจเสนอชื่อให้ยามาลงประกวดแทน พริมา...ตอนแรกกะจะสกัดดาว (ทอม) รุ่งนิดหน่อย แต่ตอนนี้หล่อนก็ภูมิใจอยู่มิใช่น้อย

“พวกเราไปซื้อพวงมาลัยมากันคนละพวงแล้วล่ะ “ มาริสาหันมาบอก

“อาจารย์ก็ฝากมาด้วยนะ“ ชัยยศรายงาน นพคุณแปลกใจ ชัยยศอยู่ ม.2 แต่ทำไมถึงชอบมาสุงสิงกับเด็ก ม.3 ห้องพริมา แต่ความจริงเขาก็เห็นชัยยศอยู่ทุกที่นั่นแหละ ยิ่งถ้าที่ไหนมีเรื่องแล้วรับรองว่าต้องเจอชัยยศอยู่ด้วย       ทุกสถานการณ์ ตอนนี้นางงามทุกคนเดินมาหลังเวทีแล้ว พริมาเรียกยามาที่อยู่บนเวทีให้รู้ว่าหล่อนยืนเชียร์อยู่ตรงนี้ ยามาหันมายิ้มสดใสให้เพื่อนของหล่อน นพคุณยอมรับว่าคืนนี้ยามาสวย...ลูกกาดำกลายเป็นหงส์แล้ว อืม...แต่ก็ยังเป็นหงส์ดำๆ อยู่ล่ะนะ

“ปลาทูสวยมากๆๆๆ เลย” พริมาตะโกนบอก ยามาชูสองนิ้วกลับมา เสียงพิธีกรบอกว่าถึงเวลาคล้องพวงมาลัยแล้ว และคะแนนพวงมาลัยจะเป็นส่วนหนึ่งของคะแนนในคืนนี้ด้วย ยามาจึงตั้งแถวรอเพื่อกลับไปยืนหน้าเวที รอรับพวงมาลัยจากแฟนนางงามทั้งหลาย พิธีกรประกาศให้แฟนนางงามเข้ามาคล้องพวงมาลัยนางงามทีละคน ไม่ได้เข้ามาพร้อมกันทีเดียว เพราะว่าคนหน้าเวทีมากมายเหลือเกิน พวกพริมาเลยยืนรอให้ถึงคิวของยามาพวกเขาถึงเข้าไปคล้องพวงมาลัย ไม่ได้มีแค่เด็ก ม.3 ห้อง 5 ที่เข้ามาคล้องพวกมาลัยให้ยามา มีเด็กชั้นอื่นๆ ด้วย พริมาเดาว่าเป็นพวงมาลัยของพวกเด็กที่ตกรอบ 40 คนแน่ๆ ห้องพวกเขาตกรอบก็เลยหันมาเชียร์ห้องที่พวกเขาชอบแทน และที่น่าแปลกใจ พวงมาลัยเหล่านั้นมาอยู่ที่ยามาไม่น้อยเลย พริมาคล้องพวงมาลัยเสร็จแล้วกลับมายืนสมทบกับพวกเพื่อนๆ ที่หลังเวที ถึงเวลาประกาศผลยามาไม่ได้ตำแหน่ง 3 คนสุดท้าย แต่หล่อนได้คะแนนป๊อบปูล่าโหวต เท่านี้ก็เรียกเสียงกรี๊ด ได้มากพอแล้ว พวกห้อง 5 ดีใจกันยกใหญ่ ส่วนคนที่ได้รางวัลเป็นนางนพมาศในปีนี้คือแพรวพณิตนั่นเอง วันนี้หล่อนสวยทีเดียว แต่ดูเหมือนหล่อนจะไม่พอใจอะไรสักอย่าง

“ยัยนั่นอยากได้ป๊อบปูล่าโหวตด้วยยังไงล่ะ แอบหน้าหงิกเลยสิ สมน้ำหน้า!!!” คเชนทร์มายืนข้างๆ พริมา ในมือเขาถือพวงมาลัยแต่ไม่ได้ไปคล้องให้ใคร

“พี่ตุลย์!” พริมาเรียกคเชนทร์เสียงดังจนนพคุณที่ยืนข้างๆ หล่อนชักสีหน้า

“พี่ตุลย์ไปไหนมาคะ ทำไมไม่มาดูประกวดนางนพมาศ วันนี้ปลาทูขึ้นประกวดด้วยนะพี่ตุลย์รู้รึเปล่า?” พริมาถามไปก่อนแล้วจึงค่อยเห็นพวงมาลัยในมือเขา

“อ้าว...”

“ก็จะมาดูแหละ แต่ติดเวรเฝ้าซุ้มสาวน้อยตกนรก” เขาตั้งชื่อกิจกรรมประจำห้องให้ใหม่

“นี่พลาดอะไรไปหลายอย่างเลย รีบเดินมาดูตามเสียงโห่นะเนี้ย” สายตาเขามองไปยังเวที เห็นยามาโบกมือทักทายคนที่อยู่ข้างล่าง ดูเหมือนหล่อนจะตั้งใจเอาถ้วยรางวัล “ป๊อบปูล่าโหวต” ไปโบกใกล้ๆ หน้าแพรวพณิต  ยามาไม่ได้เสียใจที่หล่อนไม่ได้ตำแหน่ง หล่อนเป็นนางงามจำเป็น ได้เท่านี้ก็ถือว่าดีเลิศประเสริฐศรีแล้ว ไม่ได้เตรียมตัวแถมยังได้รางวัลอีก แบบนี้ต้องฉลอง

“เป็นไง...เอ้า! เอาไปเลย” ยามาลงมาจากเวที หล่อนยื่นถ้วยรางวัลให้มาริสา ที่ตอนนี้ยืนขยับแว่นรับถ้วยรางวัลมาอ่าน

“อ่ะ...ให้ มาช้าไปหน่อยตั้งใจเอามาให้เลยนะเนี้ย แต่เข้ามาไม่ทัน” คเชนทร์ยื่นพวงมาลัยให้ยามา เด็กสาวเบะปาก เขาตั้งใจเอามาให้พริมาน่ะสิ ไม่มีใครรู้ว่าหล่อนจะประกวดแทนพริมา นี่มันข่าววงในสุดๆ แต่ถึงอย่างไรหล่อนก็รับเอาไป...เป็นมารยาท

“เหลือเชื่อน้องปลาทูไหม้ของพี่ได้รางวัลกับเขาด้วย สงสัยกรรมการจะนับคะแนนผิด” ยามาเท้าเอว...นี่ไง คเชนทร์ตัวจริง มันต้องเป็นแบบนี้

“ไปไกลๆ เลยไป อย่ามากวนประสาท”

“นี่ถ้าได้รางวัลนะ พี่จะมีรางวัลให้....ไม่ขอเยอะเลย ขอแค่ลำดับ ไหนก็ได้ใน 3 คน” คเชนทร์ยังไม่เลิก ดูเหมือนเขากำลังสนุก

“ถ้าฉันชนะนายจะให้อะไร?” ยามาหรี่ตามอง

“ก็พาไปเลี้ยงข้าวนะ ดูหนังด้วย...และก็ยอมเป็นทาส 3 วันทำการเลย” คเชนทร์ยิ้มแฉ่ง

“ปีหน้านะ นายเตรียมรางวัลไว้เลยกล้าไหมล่ะ?” ยามาท้า

“ได้ๆ ปีหน้าก็ได้ พี่จะมายืนชิดติดเวทีเลยนะจ๊ะ” สองคนมองหน้ากันอย่างท้าทาย

“เตรียมตัวเป็นทาส 3 วันทำการได้เลย”

“แต่ตอนนี้พี่ต้องขอถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานก่อนนะ” คเชนทร์คว้าคอยามามาถ่ายรูปเซลฟี่กับเขา สาวน้อยไม่ทันตั้งตัวหน้าหล่อนในรูปจึงดูตลก คเชนทร์ขำรูปในมือถือคนเดียวไม่พอยังเอาไปให้คนอื่นๆ ดูด้วย ยามาไล่ตามสั่งให้เขาลบรูป แต่ดูเหมือนจะไม่สำเร็จ

“เอาๆ มาๆ ถ่ายดีๆ “ คเชนทร์ส่งมือถือให้พริมาเป็นคนถ่าย ส่วนเขาก็ล็อคคอยามาที่ออกท่าทางกระฟัดกระเฟียดอยู่ข้างๆ แต่สุดท้ายก็ยอมถ่ายรูปด้วยโดยดี หลังจากนั้นหล่อนก็ต้องยืนถ่ายรูปกับคนอื่นๆ อีกหลายคน (บางคนก็ไม่รู้จัก) นพคุณก็โดนพริมาลากเข้ามาถ่ายด้วยหลายรูป

“คุณ! มาถ่ายรูปกัน” เสียงแพรวพณิตแหวกฝูงชนเข้ามาแต่ไกล หล่อนเดินเข้ามาแทรกกลางระหว่างพริมากับนพคุณ เล่นเอาพริมาเซไปเหมือนกัน ดีที่คเชนทร์รับไว้ทัน

“โอ้ว...ยัยนี่” คเชนทร์ออกปาก ปกติเขาไม่ค่อยจะว่าผู้หญิงคนไหน ยกเว้นยามาที่เถียงกันได้อย่างออกรส และแพรวพณิตที่มักจะเหน็บกันไปมาได้เสมอ แต่รายหลังนี่เพราะเขาไม่ชอบหล่อนจริงๆ

“ยัยนี่เก่งทุกอย่างรอบด้านน่ะแหละ ได้หมด...ถึงขนาดแย่งผู้ชายก็เอาด้วยแฮะ” ยามาส่งสายตารังเกียจอย่างเปิดเผย นพคุณยืนถ่ายรูป       ตามมารยาท เขาไม่ชอบเป็นที่สนใจและปกติเขาไม่ถ่ายรูปคู่กับผู้หญิงที่ไหน (ถ้าตั้งตัวทัน) ยกเว้นถ่ายกันหลายๆ คน แต่แพรวพณิตก็เป็นเพื่อนร่วมห้องวันนี้เขาจึงหยวนๆ

“พี่ครับขอถ่ายรูปกับพี่สองคนหน่อยได้ไหม?” พวกเด็กผู้ชายที่นั่งอยู่แถวเดียวกับพริมานั่นเองหล่อนจำได้ พริมาพยักหน้าแล้วดึงยามามาถ่ายรูปด้วยกัน

“โว้...ได้รูปคู่แล้วโว้ย รูปคู่กับสาวสวยสองคนเลย” หนึ่งในกลุ่มนั้น   ชูรูปในมือถือให้เพื่อนดู แต่สายตาเขามองไปที่นพคุณที่ตอนนี้ติดอยู่กับแพรวพณิต...ไอ้เด็กปีนเกลียวพวกนี้เล่นไม่เลิก นพคุณถลึงตาใส่ พวกนั้นหัวเราะแล้ววิ่งหายไป

“กลับบ้านกันเถอะ” นพคุณเดินมาบอกพริมา พวกเพื่อนๆ มองงงว่านพคุณพูดกับใคร วันนี้พวกเขาก็แปลกใจทีหนึ่งแล้วที่เห็นนพคุณเดินมากับ พริมา...สองคนนี่ไปรู้จักกันตอนไหน? ชัยยศมองเขม็ง...เขาพลาดอะไรไปหนอ?

“ไปค่ะ ไปปลาทูเดี๋ยวลูกแก้วไปส่งที่บ้าน” พริมาหันไปตอบนพคุณ แล้วก็หันไปบอกยามาที่ตอนนี้ยืนยิ้มถ่ายรูปจนเหงือกจะแห้งอยู่แล้ว

“ไปๆ กลับเลยตอนนี้เลยได้ไหม?” หล่อนเหนื่อยเต็มทีแล้ว มีแต่คนมาขอถ่ายรูป ใครก็ไม่รู้เต็มไปหมดบางคนก็ไม่รู้จัก พวกเขาเดินห่างออกไปแล้ว ศศิธรหันมาหาชัยยศที่ตอนนี้หรี่ตามองอยู่ พวกเขาสงสัยเหมือนกัน

“ไอ้ยศ ฉันว่าแกจะได้ข่าวเด็ดนะ” ศศิธรออกความเห็น

“ใช่สิ ฉันต้องรีบหน่อยล่ะ ดูเหมือนมีคนสังเกตเยอะอยู่เหมือนกัน” แต่คืนนี้เขามีข่าวสำคัญต้องลงก่อน เมี่อกี้เขาเพิ่งได้รูปจากแฟนเพจที่ส่งรูปเข้าประกวด...ใครถ่ายรูปเขาตอนรับผักบุ้งไฟแดงได้สวยถูกใจ เขามีรางวัลให้ และดูเหมือนจะมีลูกเพจเข้าร่วมส่งภาพกันกว่า 300 รูป (ขนาดอาจารย์ยังเข้าร่วมด้วยเลย) คืนนี้เขาต้องนั่งดูรูป ตัดสิน และประกาศผลรางวัลในวันพรุ่งนี้เวลา 8 โมงเช้า หลักการตลาดของเขาได้ผลดีในคืนนี้ เขาเป็นที่รับรู้และจดจำ นอกจากรางวัลให้ลูกเพจแล้ว ชัยยศคงต้องแสดงน้ำใจให้รางวัลยามาสักชิ้นในฐานะที่หล่อนปลุกปั้นและผลักดันเขาให้ดังไปด้วยในคืนนี้ ยามาประคองพริมาเดินไปหาภารดีและคุณนพรักษ์ที่นั่งรออยู่ คนเริ่มกระจายตัวออกไปจากเวทีกันแล้ว เหลือก็แต่พวกที่อยู่ดูการแสดงอย่างอื่นต่อ การเดินกลับมาจึงสะดวกกว่าตอนเข้าไปมาก

“เราไปลอยกระทงกันก่อนกลับนะครับพี่พิมพ์ คุณลุง” คเชนทร์หันไปชวน นพคุณขมวดคิ้ว...ไอ้หมอนี่ยังไม่ไปอีกเหรอ

“ไปสิ ครบคู่พอดีเลย ฮ่าๆ” ภารดีหันไปหัวเราะกับสามี แต่พวกที่เหลือ 4 คน มองดูกันเองอย่างคิดวิเคราะห์...ใครคู่ใคร? พริมากับยามา คเชนทร์กับนพคุณ...ไม่น่าจะดี งั้นพริมากับคเชนทร์ แล้วก็ยามากับนพคุณ โอ้ย! ไม่ไหวๆ

“ตามมาเร็วๆ” ภารดีกวักมือเรียก พวกเด็กๆ จึงเดินตามไป แต่ละคนก็คิดกันไปต่างๆ นาๆ ภารดีซื้อกระทงเตรียมไว้แล้ว 3 กระทง หล่อนจัดแจงถ่ายรูปเด็กสี่คนพร้อมจัดท่าทางให้ยืน...นพคุณ พริมา คเชนทร์ ยามา ทั้งหมดยืนเรียงกัน ภารดีเอากระทงให้นพคุณกับพริมา และคเชนทร์กับยามา          (ที่ดูเหมือนจะไม่เต็มใจเท่าไหร่) และถ่ายรูปคู่ 6 คนมีภารดีกับคุณนพรักษ์ด้วย หล่อนวานให้เด็กนักเรียนแถวๆ นั้น ถ่ายรูปให้

“เอ้า! ไปลอยเลย” ภารดีหันไปบอกเด็กๆ ส่วนหล่อนจูงมือสามีแยกออกไปแล้ว นพคุณตาไวเขาเห็นยามาทำท่าจะเข้ามาหาพริมา เขาจึงตัดหน้าหล่อนอย่างไว

“ไป!” นพคุณจูงมือลากพริมาเดินห่างออกมา ยามายืนฮึดฮัด...เหลือหล่อนกับไอ้เชนหน้าหมา

“เอาน่า! ปีนี้ได้ลอยกระทงกับผู้ชายเลยนะ หล่อด้วย” คเชนทร์เดินมายืนข้างๆ เขายักไหล่แล้วกอดคอยามาลากลงไปริมตลิ่ง เด็กสาวขัดขืน     แต่ก็สู้แรงเขาไม่ได้ จึงต้องยอมตามลงไป

“นายอย่าไปบอกใครเชียว” ยามาหันไปแหวใส่ คเชนทร์แค่ยิ้มขำๆ

“ใครมันจะไปบอกกันเล่า!”

นพคุณลากพริมาเดินห่างออกมา พริมาเดินขโยกเขยกไม่ถนัดนัก เขาจึงหยุดเดินเพราะเห็นว่าห่างออกมาพอสมควรแล้ว (ยามาไม่น่าจะตามมาทัน)

“ลงไปไหวไหม?”

“ก็...ได้ค่ะ” ตอนนี้หล่อนหน้าแดง พริมาเพิ่งนึกขึ้นได้...คืนนี้หล่อนจับมือนพคุณเดินไปทั่วงานเลย เด็กสาวใจเต้นแรงก้มหน้างุด นพคุณมองอยู่แล้ว เขารู้ทัน...พริมาเขิน เด็กนี่ความรู้สึกช้าชะมัด

“งั้นลงไปตรงนั้นกัน” นพคุณยื่นมือให้พริมา สาวน้อยลังเลอยู่นิดหน่อย ก็ยื่นมือออกไป มีเด็กนักเรียนกระจายตัวอยู่รอบสระน้ำในโรงเรียน บางคนมากับแฟน บางคนก็มากันกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ และมีผู้ปกครองปะปนอยู่ด้วย พวกเขาลงไปลอยกระทงเสร็จแล้วก็ปีนขึ้นมาบนฝั่ง และพริมาไม่ทำให้ผิดหวัง        หล่อนสะดุดขอบหิน แต่นพคุณคำนวณและเฝ้าระวังอยู่ก่อนแล้ว เขาจึงรอรับตัวสาวน้อยได้อย่างพอดิบพอดี

“โอ้ว...กอดกันด้วย” เด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่งเดินผ่านมาแซวพวกเขาเสียงดัง นพคุณหันไปมองตามเสียง เขาคงทำกรรมกับเด็กพวกนี้มาแน่นอน เพราะมันเป็นไอ้กลุ่มเด็กเกรียนที่ปีนเกลียวเขามาตั้งแต่หัวค่ำ

“ไปให้พ้นเลยนะ ไม่เห็นรึไงว่าพี่เขาขาเจ็บ” นพคุณหันไปปราม    เด็กพวกนั้นหัวเราะเสียงดังแล้วพร้อมหน้ากันวิ่งหายไปในฝูงชน

ขึ้นมาจากริมตลิ่ง แสงไฟมากพอให้เห็นหน้าพริมาชัดเจน ตอนนี้สาวน้อย แก้มแดงเป็นลูกตำลึง...เออ! อย่าไปโกรธไอ้เด็กเกรียนพวกนั้นเลย มันทำความดีความชอบ

            “อยู่นี่เอง ไปจ้ากลับบ้านกันดีกว่า” ภารดีมาได้เวลาพอดี พริมาจึงรีบแยกตัวออกไปเดินกับแม่ นพคุณมองตามสองแม่ลูกที่เดินจูงมือกันไป         ในหัวเขากำลังคิดอะไรหลายอย่าง สับสน...หงุดหงิดจริง! คเชนทร์เดินไปส่ง พริมาและภารดีที่รถ เขาไหว้ลาภารดีกับคุณนพรักษ์ และหันไปบอกยามาด้วยสายตาล้อเลียน

            “ปีหน้าพี่จะรอนะจ๊ะ น้องปลาทูไหม้คนสวยจะเป็นนางนพมาศ”    ยามามองจ้องตาเขาตลอดเวลา พริมารู้ว่าคเชนทร์พูดเล่นสนุกๆ แต่หล่อนก็รู้อีกว่ายามาไม่สนุก ปีหน้าเพื่อนหล่อนจะลงประกวดนางนพมาศแน่นอน

            “ถ้าปีหน้าปลาทูลงอีก เดี๋ยวพี่จะเป็นสปอนเซอร์...รับรองเสื้อผ้าหน้าผมเริ่ดกว่าปีนี้หลายเท่า” ภารดีหันมาบอกอย่างหมายมั่นปั้นมือ

            “ต้องรบกวนพี่พิมพ์แน่นอนค่ะ” ยามาตอบด้วยสายตามุ่งมั่น                    ถึงจะเป็นห่วงเพื่อนแต่พริมาก็รู้ว่ายามาต้องทำได้ และหล่อนเบาใจ เพราะหล่อนจะหลุดโผนางนพมาศปีหน้าอย่างแน่นอน

            กว่าจะถึงบ้านก็เกือบสี่ทุ่ม พวกเขาแวะไปส่งยามาที่บ้านก่อน        พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียน ภารดีหันมากำชับลูกสาวให้รีบเข้านอน พริมารับคำ      แต่ขอแวะคุยกับไก่แสนรักของหล่อนก่อนจะขึ้นห้องตัวเอง

            “สิบห้านาทีค่ะแม่ ลูกแก้วไม่อยู่นานค่ะ” พริมาขออนุญาตและให้สัญญาก่อนวิ่งหายไปทางหลังบ้าน ภารดีส่ายหน้าถ้าพริมาเอาไก่ของหล่อนไปนอนในห้องได้ลูกสาวคนดีคงทำไปแล้ว

            “ไปคุณพิมพ์เราไปนอนกันดีกว่า เดี๋ยวลูกแก้วก็ขึ้นบ้านเองแหละคุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอก” ภารดีหัวเราะคิกคักที่สามีเดินเข้าไปโอบเอวหล่อน เพราะปกติเขาไม่ค่อยแสดงออกต่อหน้าคนอื่นมากนัก นพคุณได้ยินเสียงแว่วๆ ข้างล่าง และได้ยินเสียงพ่อเขากับภารดีเข้าห้องไปแล้ว เด็กหนุ่มคิดอะไรได้จึงเดินไปหยิบของในกระเป๋า แล้วเดินลงไปทางสวนหลังบ้าน

            “ฝันดีนะ นพคุณ” เสียงพริมาบอกลาไก่แจ้ของหล่อน เด็กสาวน่าจะคุยกับไก่ของหล่อนจนพอใจแล้ว และกำลังจะกลับขึ้นห้องพอดีตอนที่เขาตามลงไป

“อ้าว...พี่คุณ!” พริมาแปลกใจ เพราะตอนเข้าบ้านมานั้นเขาขึ้นบ้านไปเป็นคนแรก อยู่ๆ เขาลงมาข้างล่างทำไมนะ? และก็ต้องแปลกใจอีกเป็นครั้งที่สองที่จูๆ นพคุณก็ยื่นกล่องเล็กๆ ให้หล่อน พริมารับมาแบบงงๆ มันเป็นกล่องของขวัญเล็กๆ ไม่ได้ห่อแต่เป็นกล่องของขวัญแบบฝาเปิดได้

“วันเกิดพี่...ลูกแก้วให้ของขวัญ แต่พี่ยังไม่ได้ให้ ตอนแรกกะว่าจะให้วันนี้ตอนที่ลูกแก้วได้รางวัลประกวดนางนพมาศ...ไม่คิดว่าจะไม่ได้ประกวด” นพคุณเหลือบมองข้อเท้าสาวน้อย วันนี้หล่อนตกเวที เขาเห็นเวทีแล้วเมื่อตอนหัวค่ำ มันสูงทีเดียว พริมาตกลงมาและเจ็บแค่นี้ถือว่าหล่อนโชคดีเหลือเกิน

“ให้ลูกแก้วเหรอคะ?” พริมายิ้มสดใสหล่อนจับกล่องของขวัญในมือเขย่าเบาๆ

“แต่พี่คุณคิดผิดนะคะ ถึงลูกแก้วได้ประกวดวันนี้ก็คงไม่ได้รางวัลหรอกค่ะ ดีนะที่เป็นปลาทู...ปลาทูเก่ง” นพคุณหัวใจกระตุกเขามองพริมาคุยเจื้อยแจ้ว สีหน้าเด็กสาวตอนนี้น่ามองยิ่งนัก หล่อนกำลังยิ้มให้เขาและสีแก้มหล่อนก็ระเรื่อเล็กน้อย...น่ารัก!

“ของขวัญวันเกิดน่ะ”

“โห...ลูกแก้วลืมไปแล้ว พี่คุณไม่ต้องให้ก็ได้”

“แกะดูสิ!” นพคุณยิ้มให้หล่อน พริมาเขิน...หล่อนไม่ค่อยเห็นรอยยิ้มเขาบ่อยนักและวันนี้เขายิ้มให้หล่อน ไม่รอช้าสาวน้อยเปิดฝากล่องออกดู...ข้างในเป็นสร้อยเส้นเล็กพร้อมจี้เพชร...น่ารักเหมาะกับเจ้าของ

“อุ้ย! น่ารักจัง” พริมายืนมองสร้อยแสนสวยในมือ หล่อนยิ้มให้สร้อยและยิ้มให้เขา นพคุณคิดว่ารอยยิ้มสาวน้อยน่ามองยิ่งกว่ามันสวยกว่าสร้อยในมือหล่อนเสียอีก เขาดึงสร้อยมาจากมือเด็กสาว

“มา...พี่ใส่ให้” นพคุณใส่สร้อยให้พริมา ถ้าใครมาเห็นเข้าคงนึกว่าพวกเขากอดกัน สาวน้อยก้มหน้างุด หัวใจหล่อนเต้นแรงจนมันจะทะลุออกมานอกอกอยู่แล้ว วันนี้นพคุณมาแปลกกว่าทุกวัน เขาพูดดีและทำดีกว่าปกติ...ใกล้แบบนี้ได้กลิ่นจากตัวเขาชัดทีเดียว กลิ่นเดียวกันกับที่ทะเล...กลิ่นมิ้นต์! นพคุณยืนมองผลงานตัวเอง สร้อยเส้นนี้เขาเลือกอยู่นาน จนพนักงานสาวๆ ต้องมาช่วยออกความเห็น...ของผู้หญิงก็ต้องให้ผู้หญิงช่วยเลือก เขาอยากได้แบบเรียบๆ ที่ใช้ไปได้ตลอดไม่ใช่แบบแฟชั่นที่ใส่ไปได้สักพักก็เบื่อหรือล้าสมัย สร้อยเส้นนี้ก็เหมือนเจ้าของของมัน คนที่เขาใส่สร้อยให้อยู่ในตอนนี้ พริมายืนหลับตาพริ้มแก้มของหล่อนแดงระเรื่อฟ้องความรู้สึกของเจ้าของเหมือนทุกครั้ง แต่ท่าทางของหล่อนนี่สิที่ประหลาด นพคุณเขย่าตัวหล่อนเบาๆ

            “เป็นอะไร?” ยัยนี่ทำตัวประหลาดอีกแล้ว

            “ตัวพี่คุณหอมจังค่ะ...กลิ่นเหมือนมิ้นต์เลย ลูกแก้วชอบ” ไม่พูดเปล่า หล่อนทำท่าจะเข้ามาใกล้เขามากขึ้นอีก นพคุณถอยหลบ หมดอารมณ์       ยัยเพี้ยนอาการกำเริบอีกแล้ว แต่ถ้าปล่อยให้หล่อนเข้ามาใกล้เขามากกว่านี้คงไม่ดีแน่ อันตรายเกินไป! สาวน้อยมองเขาตาแป๋วสงสัยว่าเขาจะหนีหล่อนทำไม? นพคุณหนีกลับขึ้นห้องไปแล้วทิ้งพริมาให้ยืนมองตามเขาขึ้นไปจากตีนบันได...กี่ครั้งแล้วนะที่หล่อนมองตามเขาขึ้นบันไดไปแบบนี้ ทุกครั้งเขาจะฮึดฮัดและปึงปังขึ้นห้องไป แต่วันนี้แตกต่าง และเพิ่งนึกขึ้นได้ เมื่อกี้ถ้าหล่อน          หูไม่ฝาด เขาแทนตัวเองว่า “พี่” นพคุณแทนตัวเองว่าพี่กับหล่อนอย่างนั้นหรือ?

            “ว้าว...นี่สิของขวัญที่แท้จริง” สาวน้อยจับจี้ที่คออย่างใจลอยแล้วมองขึ้นไปข้างบน หล่อนยิ้มออกมา...คุ้มแล้วลูกแก้วเอ๋ย นี่แหละรางวัล                        ของคนอดทน บางทีคุณชายใหญ่อาจจะใจอ่อนยอมรับหล่อนเป็นน้องเสียที   คราวนี้ทุกคนก็จะได้มีความสุข คุณลุง แม่...และตัวหล่อนเองด้วย...ใช่แล้ววันนี้พริมามีความสุข!

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา