ก่อนตะวันจะลับตา(Y)
-
เขียนโดย Shinman33
วันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 22.31 น.
3 ตอน
0 วิจารณ์
3,992 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 24 เมษายน พ.ศ. 2563 23.16 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) พิรุธ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่3 พิรุธ
“ฮัลโหล ไอ้อาทิตย์ มึงมีนัดอะไรกับเพื่อนมึงในกลุ่มไลน์วะ กูไปไม่ถูกแล้วนะเว้ย” ตะวันเอ่ยถามอาทิตย์ในสายขณะรีบเดินออกมายังลานจอดรถโดยไม่ทันสังเกตว่ากำลังเดินตัดหน้าใคร
“มึงต้องบอกกูด้วยดิเวลาเพื่อนมึงนักแนะกันอ่ะ กูไม่ได้อยู่ในกลุ่มกูก็ไม่รู้ โอะ!! ขอโทษครับ” ขณะกำลังเดินไปยังลานจอดรถตะวันก็ชนเข้ากับใครบางคนจนโทรศัพท์หลุดมือร่วงลงพื้น
“น้องตะวัน คุยกับใครหรอครับ” คนที่ถูกตะวันเดินชนเอ่ยพร้อมกับเหลือบมองไปยังชื่อที่ปรากฏบนจอโทรศัพท์ที่อยู่บนพื้น
“เอ่อออ คุยกับ.. พี่ชายครับ แฮ่ๆๆ”
.”ออ ครับ” เจ้าของคำถามตอบแต่ยังมิวายเหลือบมองโทรศัพท์ในมือของตะวัน จนตะวันต้องไขว้มองไว้ข้างหลังแทน
“พี่กอล์ฟมีอะไรรึปล่าวครับ พอดีผมลืมของอ่ะ จะรีบไปเอาของครับ” ตะวันรีบตัดบทกับรุ่นพี่
“อ้อ ป่าวครับ เชิญน้องตะวันตามสบายเลย พี่ไปละ” กอล์ฟเอ่ยพร้อมส่งยิ้มให้ ตะวันเห็นได้โอกาสจึงรีบยกมือสวัสดีก่อนจะเดินชิ่งออกมาพร้อมยกโทรศัพท์คุยกับปลายสายอีกครั้ง
............................................................................
ณ หน้าห้องสโมสร หลังเวลาเลิกเรียน.....
“ไปเอาของแค่นี้หายไปเป็นวันเลยนะมึง โทรไปก็ไม่รับ” บอสเอ่ยลอยๆ เมื่อเห็นเพื่อนตัวแสบพึ่งจะมาหลังจากที่เจ้าตัวบอกจะไปเอาของแล้วหายไปทั้งวัน
“ออ กูแวะไปบ้านมาด้วย พอดีมีธุระที่บ้านต่อนิดหน่อย” ตะวันเอ่ย
“มาแล้วก็ดี งั้นเดี๋ยวเราเริ่มเลยนะ เพื่อนๆคนอื่นในสาขาเรากำลังมาสมทบ” เมษที่พึ่งได้รับเลือกจากเพื่อนๆในสาขาให้เมษเป็นประธานสาขาออกคำสั่งกับกลุ่มของตน
“พวกมึง กุว่าเราเปลี่ยนแผนนิดหน่อยก็ดีนะ” ตะวันเสนอความคิด ซึ่งนั่นสร้างความแปลกใจให้เพื่อนๆ ที่อยู่ไม่น้อยเพราะในครั้งแรก ตะวันไม่สนใจจะช่วยอะไรเลย มีแต่เมษที่คอยเสนอไอเดีย มาวันนี้ตะวันคนที่เฉยๆ กับกิจกรรมกลับมาขายความคิดใหม่ซะได้
“ยังไง ไหนไปได้ความคิดอะไรมาอีก ว่ามาดิ้” บอสถามเพราะอยากรู้
“ก็แทนที่มึงจะทำงานปติมากรรมงานประดิษฐ์ขึ้นมาให้พี่ๆ แม่งเดี๋ยวเขาก็พังมันลงมึงเชื่อดิ กุว่าทำอะไรที่พี่ๆ มันไม่กล้าทำลายดีกว่า ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นของที่มีคุณค่าทางใจมากๆ” ตะวันเอ่ยพร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์
“พูดมาให้จบ” ออยที่หมั่นไส้ในหน้าตาอันยียวนของตะวันเอ่ยเร่งเพื่อน
“เราสาขาเกษตรไช่ม้ะ? กูเสนอว่าชิ้นงานเราควรจะเป็นการปลูกต้นไม้”
“เยี่ยม!!” เสียงของเพื่อนคนนึงในสาขาเอ่ยออกมาอย่างเห็นด้วยกับไอเดียนี้ อีกทั้งคนอื่นๆ ก็พยักหน้าคล้อยตามว่าเห็นด้วย ตะวันจึงกล่าวต่อพร้อมกับเก๊กหน้ามั่นตามแบบฉบับของอาทิตย์ที่ตนสังเกตมา
“เราจะมีกล้าต้นไม้คนละ 1 ต้น วางรวมกันไว้เป็นเลขรุ่นของพวกเรา เราจะปลูกต้นไม้ของเราโดยมีรุ่นพี่มาจับคูปลูกกับเรา ต้นไม้นี้หมายถึงตัวตนของเรา 1 คน 1 ต้น ไม้เติบโตเหมือนเราที่โตขึ้น ส่วนเหตุผลที่รุ่นพี่จะต้องมาร่วมกับเรานั่นก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดีของรุ่นพี่รุ่นน้องไงล่ะ”
“วิธีนี้ก็ดีนะ เตรียมแค่ต้นไม้ กับหลุ่มสำหรับปลูกต้นไม้ ที่เหลือต่อจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของคนปลูกทั้ง2 คนจะต้องคอยดูแลมันต่อ แบบว่าทำแล้วต้องรักษา ดูแลไม่ทิ้งขว้าง โหยยย ความคิดสร้างสรรค์ดีมากเลยอ่ะตะวัน” สาวๆ ในสาขาเอ่ยเสริมและเพื่อนๆ ก็เห็นด้วย
“ดีมากเลยตะวัน ทำไมไม่เสนอความคิดนี้แต่แรกล่ะ จะได้ไม้ต้องเสียเวลาเตรียมของมากมาย” ออยเสริมต่อ
“อ่ะๆๆ งั้นเอาตามที่ไอ้ตะวันว่านะ เราจะเปลี่ยนแผนไปขุดหลุมปลูกต้นไม้แทนแต่คงต้องเริ่มพรุ่งนี้นะ เราต้องปรึกษาอาจารย์กันก่อนว่าจะปลูกต้นไม้ตรงไหนได้บ้าง งั้นพรุ่งนี้เย็นเจอกันที่ฟาร์มคณะเลยนะ” บอสเห็นว่าเมษที่เอาแต่จ้องตะวันไม่ยอมเอ่ยอะไร ตนจึงสรุปให้แต่ก็ยังคงงุนงงกับอาการของเมษ เพียงแต่ไม่พูดอะไรเท่านั้น
‘มึงเปลี่ยนไปนะไอ้อาทิตย์ นี่ใช่มึงจริงๆ หรอวะ?’ ความสงสัยของเมษเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ ตั้งแต่เพื่อนเขาแปลกไป เพราะอาทิตย์ที่เขารู้จักมันไม่ใช่คนแบบนี้
22.30 น. ณ หอพักของตะวัน
ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้เจ้าของห้องอดสงสัยไม่ได้ถึงแขกผู้มาเยือน แต่ก็ตัดสินใจลุกไปเปิดประตูให้
“อ่าว มึงเองรึไอ้เมษ”
“ห้องกูแอร์พังอ่ะ ขอค้างด้วยนะ” เมษที่ยืนหอบผ้าห่มอยู่หน้าห้องเอ่ยพร้อมถือวิสาสะเดินเข้าห้องดื้อๆ
“หอบผ้ามาหากูแบบนี้...” ตะวันเอ่ยยิ้มๆ
“กูก็ทำออกจะบ่อย ลืมแล้วหรอ?” เมษยื่นหน้าเข้ามากระซิบใกล้ๆตะวันจนเจ้าตัวรีบถอยหนี
“ออ อื้มม เอาดิ ตามสบายเลยนะกูขออาบน้ำก่อน” ตะวันเอ่ยพร้อมกับหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วรีบเข้าห้องน้ำไป ในขณะที่ตะวันอาบน้ำ นักสืบเมษก็เริ่มปฏิบัติการทันที เมษเริ่มสำรวจข้าวของภายในห้องและของใช้ส่วนตัวต่างๆ ตามที่ตนเองสงสัย
“ของใช้ยังเหมือนเดิมทั้งแป้ง ครีม น้ำหอมและเสื้อผ้า” ร่อยรอยแรกถูกไขความสงสัยไปแล้วแต่เจ้าตัวก็ยังคงสืบเสาะต่อไป
“เคสเหมือนเดิม แต่มึงเปลี่ยนตัวโทรศัพท์ใหม่เมื่อไหร่วะ” เมษที่หันมาสังเกตของใช้ส่วนตัวแล้วพบกับโทรศัพท์ที่ไม่คุ้นตาก็เริ่มสงสัยต่อทันทีก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบบางอย่างของตะวันขึ้นมา
“นายอาทิตย์ พิพัฒน์สกุล นี่กูคิดเยอะไปหรอวะ” เมษที่แอบเปิดกระเป๋าตังค์ตะวันเพราะสงสัยบางอย่างแต่กลับต้องผิดหวังเพราะดูเหมือนว่าเขาเองจะเข้าใจผิดไปเพียงเพราะบางคำที่อาทิตย์เคยพูดไว้นั่นเอง
“เออ ไอ้เมษ พรุ่งนี้วันหยุดมึงไปซื้อของกับกูหน่อยนะ” ตะวันที่พึ่งออกมาจากห้องน้ำเอ่ยหลังจากที่แอบเห็นว่าเมษเปิดกระเป๋าตังค์ของตน ...โชคดีที่เรื่องนี้เขาและอาทิตย์เตรียมตัวมาแล้ว
“อื้ม เอาดิ”
“ไม่ได้จะเอา แค่ชวนไปซื้อของ” ตะวันแซวกลับอารมณ์ดี
“เมื่อก่อนมึงไม่พูดอะไรแบบนี้นะรู้ตัวป่าว” คำพูดของเมษทำให้ตะวันชะงักไป
“มึงมีอะไรอยากบอกกูป่าววะ” เมษถามกลับเรียบๆ แต่จ้องมองตะวันอย่างจริงจัง
“เวลาเปลี่ยนคนเราก็เปลี่ยน มึงยังไม่รู้จักกูอีกเยอะ” ตะวันตอบตามที่คิดเพราะเมษไม่รู้จักเขาจริงๆ นั้นแหละ
“กูสนิทกับมึงมาหลายปี เมื่อก่อนกูพูดเล่นกับมึงแบบนี้ไม่ได้ มึงจะโกรธกู มึงไม่ใช่คนที่ปฏิสัมพันธ์ดีขนาดที่ว่าจะเสนอไอเดียแลกเปลี่ยนความคิดกับเพื่อนๆ ได้และมึงไม่ได้อารมณ์ดียิ้มแย้มบ่อยขนาดนี้” เมษพูดในสิ่งที่สังเกตุออกมาและเป็นตะวันเองที่เงียบไปอึดใจนึง ก่อนจะเอ่ยออกมาในที่สุด
“กูไม่ได้เป็นอะไรและไม่ได้แปลกหรือเปลี่ยนไปหรอก มึงแค่ยังไม่รู้จักกูดีพอแค่นั้นเอง” ตะวันเอ่ยจริงจังก่อนจะเดินมาล้มตัวลงนอนบนที่นอน คืนนั้นตะวันนอนไม่หลับเกือบทั้งคืนเพราะคำพูดของเมษที่ดูเหมือนว่าเมษจะสงสัยในตัวของเขาแล้วและอีกส่วนหนึ่งคงเพราะคนที่กำลังนอนหลับอยู่ข้างๆ เขานี่เอง ในชีวิตนี้นอกจากอาทิตย์และตะวันก็ไม่เคยนอนภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับใครมาก่อน ยิ่งกับเมษด้วยแล้วต้องยอมรับว่าเมษเป็นคนมีเสน่ห์มากคนนึง ใครอยู่ใกล้เป็นต้องยิ้มตามไปกับพฤติกรรมเขาได้แน่ๆ แต่ที่น่าสงสัยคือทำไมเมษถึงรู้จักอาทิย์ดีมากมายขนาดนี้ ชักอยากจะรู้ซะแล้วซิว่าเมษเป็นเพื่อนแบบไหนของอาทิตย์กันแน่นะ
เช้าวันรุ่งขึ้น....
“เมษ ไอ้เมษ” ตะวันเอ่ยปลุกเมษตั้งแต่หกโมงเช้า ทันทีที่ตื่นขึ้นก็ปรากฏว่าเมษนอนก่ายเขาอยู่แม้จะพยายามแกะขาแกะมือเขาออกแต่ก็ไม่เป็นผลจนต้องตัดสินใจปลุก
“อือออ” เมษส่งเสียงงัวเงียออกมาก่อนจะกระชับแขนแน่นขึ้นจนตะวันถอนหายใจออกมาอยางเหนื่อยอ่อน
“ไอ้เมษ ถ้ามึงไม่ตื่นกูถีบมึงตกเตียงจริงนะ” ทันทีที่ตะวันพูดจบเมษก็ลืมตาขึ้นอัตโนมัติพร้อมกับเด้งตัวลุกขึ้นนั่งอย่างไวจนตะวันอดที่จะแอบขำไม่ได้
“เห็นกูไม่ว่าเหมือนก่อนมึงนี่เอาใหญ่เลยนะ” ตะวันเอ่ยแซวเพื่อน
“โทษที เมื่อคืนกูฝันดีไปหน่อยเลยเผลอนอนก่ายมึง” เมษไม่กล้าพูดว่ากอดแม้ว่าสิ่งที่ตนเองทำนั้นมันคือนอนกอดมากกว่านอนก่ายก็ตาม
“กูหวงไว้ให้แค่พี่คิมคนเดียวเว้ย มึงอย่ามาเนียน” ตะวันเอ่ยต่อแต่ทว่าไม่ทันได้สังเกตุสีหน้าของเมษซึ่งบัดนี้เมษมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป
“งั้นกูกลับห้องก่อนนะ อีกชั่วโมงนึงไปรับกูที่หอแล้วกัน” เมษเอ่ยพร้อมกับลุกเดินออกไปโดยไม่รอคำตอบจากเพื่อน
“เอ้า เชี่ยไรของมันวะ” ตะวันที่กำลังงงกับเพื่อนก็ได้แต่บ่นลับหลังก่อนจะลุกไปอาบน้ำแต่งตัว
1 ชั่วโมงต่อมา...
“แหม วันนี้เพื่อนกูแต่งตัวซะหล่อเชียวนะ” เมษที่ยืนรอตะวันอยู่หน้าหอเอ่ยทันทีเมื่อตะวันเดินลงมาจากรถ ใช่แล้ววันนี้ตะวันแต่งตัวสบายๆ ด้วยเสื้อเชิ๊ตสีขาวกับกางเกงสีครีมพร้อมแว่นตากันแดดสีชาและกระเป๋าสะพายอีกหนึ่งใบแต่แค่นี้ก็ดูดีมากเลยทีเดียว
“จะแซวแว่นกูใช่ม้ะ ช่วงนี้กูแสบๆตาหน่ะ ป่ะ ไปกันได้ยัง” ตะวันเอ่ยพร้อมลากเมษขึ้นรถก่อนจะขับออกไปยังปลายทาง
“เออ ไอ้อาทิตย์ จนป่านนี้กูยังไม่เห็นมึงจะรุกพี่คิมของมึงเลย” เมษถามขณะนั่งรถ
“มึงว่ากูไปวุ่นวายไปกับแล้ววันนึงกูหายไปเขาจะรู้สึกอะไรมั๊ยวะ?”
“มึงพึ่งเจอพี่เขา2-3 ครั้งเอง เขายังไม่ทันรู้สึกอะไรกับมึงหรอก” เมษเอ่ยยิ้มๆ
“อ่าวหรอ งั้นกิจกรรมปลูกต้นไม้นี้มึงต้องช่วยกูนะ” ตะวันเอ่ย
“ยังไงวะ?”
“ก็ทำให้กูกับพี่คิมได้ปลูกต้นไม้ร่วมกันไง” ตะวันเอ่ยพร้อมยิ้มอารมณ์ดี
‘มีแค่พี่คิมคนเดียวที่ทำมึงยิ้มได้สินะ ไอ้อาทิตย์’
ณ ห้างสรรพสินค้า...
หลังจากตะวันและอาทิตย์เดินซื้อของกันกว่าสองชั่วโมงทั้งคู่ก็มาจบที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งบนห้างสรรพสินค้า ตลอดเวลาที่ผ่านมาตะวันจะถือโทรศัพท์ตลอดเวลา มีการตอบแชทอยู่ตลอดจนเมษอดสงสัยไม่ได้ว่าตะวันคุยกับใครนักหนา
“เอสเพรสโซ่แก้วนึงครับ มึงล่ะเอาอะไร?” เมษหันมาถามเพื่อน
“เหมือนมึงเลย” เอ่ยตอบขณะกดโทรศัพท์ แต่ทว่าคำตอบของตะวันทำให้คิ้วเมษกระตุกทันที แต่เพียงชั่วครูก็ยิ้มออกมา
‘ทุกทีมึงไม่กินนะ ไอ้อาทิตย์’
“เพิ่มเป็น 2 แก้วเลยนะครับ” เมษหันไปเอ่ยกับพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ก่อนจะพากันมานั่ง
“มึง เดี๋ยวกูไปห้องน้ำแป้บนะ” เมษเอ่ยพร้อมกับลุกขึ้นเดินออกไป เมษได้แต่มองตามหลังเพื่อนราวกับว่ากำลังเก็บรายละเอียดทุกอย่างของเพื่อนให้ชัดอย่างไรอย่างนั้น
10 นาทีผ่านไป..
“รอนานป่าววะ” น้ำเสียงที่เอ่ยถามของคนที่กำลังหย่อนก้นนั่งลงตรงหน้าช่างคุ้นเคยเสียจริงๆ แต่ทว่ามันต่างกันกับเสียงของคนที่พึ่งจะออกไปเมื่อครู่นี้นี่สิ
“ไม่นานๆ อ่ะ นี่กาแฟมึงจะละลายหมดแล้ว” เมษยื่นแก้วกาแฟให้เพื่อน
“หืม เชี่ยไรเนี่ย” เสียงอุทานดังขึ้นทันทีหลังจากที่ดูดกาแฟได้เพียงนิดเดียว
“ก็เอสเพรสโซ่ของมึงไง มึงสั่งเองนะ” เมษเอ่ยยิ้มๆ
“กูสั่งหรอ มึงก็รู้ว่ากู.... ช่างเหอะ” เอ่ยยังไม่ทันจบก็เงียบไปทันทีแล้วก้มหน้าก้มตาดูดกาแฟ แต่ทว่าสีหน้าช่างดูไม่ดีเอาเสียเลย
“เออมึง เดี๋ยวเสร็จแล้วไปไหนต่อป่าววะ กูว่าจะ”
“กูอยากกลับหอ” ยังไม่ทันที่เมษจะเอ่ยจบอาทิตย์ก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน
“ก็ได้ งั้นกลับเลยดีกว่า ดูๆ สีหน้ามึงไม่ค่อยดีเลยนะ” เมษถามเพราะเป็นห่วง ในระหว่างเดินออกมายังโรงจอดรถ เหมือนอาทิตย์จะรู้ว่าเขาไม่รู้ว่าตะวันรถจอดอยู่ที่ไหนเพราะล่าสุดตอนเปลี่ยนตัวกันตะวันก็ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเขา
“เมษ ขับรถให้หน่อยนะ กูมึนๆ หัวว่ะ” เอ่ยพร้อมสงกุญแจรถให้
“เฮ้อ ก็ใครใช้ให้กินกาแฟตามกูละ ร้อยวันพันปีไม่เยแดกวันนี้เสือกจะมาแดกตามกู 555” เมษที่เข้าใจว่าอาทิตย์มึนหัวเพราะกินกาแฟก็เอ่ยไปเรื่อยแต่ก็มิวายคว้ากุญแจรถจากมือเพื่อนมาถือไว้แล้วเดินนำไป
‘รอดตัวไป’ อาทิตย์ถอนหายใจก่อนจะเดินตามหลังเพื่อนไป
...........................................................
22.00 น.
ก๊อกๆๆ เสียงเคาะปรตูห้องดังขึ้น
“อ่าว ว่าไงเมษ”
“คือ วันนี้กูไปกับมึงไง เลยลืมตามช่างมาซ่อมแอร์”
“แล้ว?”
“กูขอค้างด้วยอีกคืนนะ” เมษอ้อน
“เอาดิ นอนโซฟาได้นะมึงอ่ะ” อาทิตย์เอ่ยขณะเดินกลับเข้าห้อง
“อ่าว ทีเมื่อคืนมึงไม่เห็นว่าแบบนี้เลย” เมษโวยวายแต่เหมือนอาทิตย์จะฉุกคิดอะไรได้บางอย่าง
“เมื่อคืน....”
“ก็เมื่อคืนก็ก็นอนที่เตียงมึงไง โถ่ กูก็หลงดีใจว่ามึงเลิกกลัวแล้วถึงยอมให้กูนอนด้วยได้” เมษเอ่ยเหมือนคนชนะ ใช่เพราะบัดนี้เขาถือไพ่เหนือกว่ามาก
“ก็... เมื่อคืนส่วนเมื่อคืน แต่คืนนี้ไม่ได้ไง” อาทิตย์รีบตัดบท
“มึงกลัวกูหรอ?” เมษพูดพร้อมยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์
“สัส พูดมาก จะนอนก็นอน” อาทิตย์รีบตัดบทและนั่นทำให้เมษที่ยืนหอบผ้าห่มอยู่นั้นยิ้มแป้นออกมาด้วยความดีใจก่อนจะทิ้งตัวลงบนที่นอน
“แอร์เย็นจัง อื้มมมม” เอ่ยพร้อมหลับตาพริ้มและทันทีที่อาทิตย์ปิดไฟแล้วเดินมานอนเมษก็เริ่มดำเนินการตามแผนทันที
หมับ!! ขาของเมษยกก่ายพาดลำตัวของอาทิตย์ แต่ทว่าผู้ที่ถูกกระทำยังคงนอนนิ่งอยู่
“อื้มมม” เห็นดังนั้นทำให้เมษได้ใจจึงตวัดมือไปพาดบนอกของอาทิตย์อีกครั้ง แต่ทว่าครั้งนี้...
“เห้ย!! โอ้ยย” อาทิตย์พลิกตัวออกแล้วถีบเมษอย่างเต็มแรงจนเมษกลิ้งลงมากองอยู่กับพื้นพร้อมส่งเสียงร้องโอดครวญ
“ทะลึ่งแล้วมึงอ่ะ ไปนอนที่เดิมมึงเลย โน่นโซฟาของมึง” อาทิตย์เอ่ยเสียงดุจนเมษได้แต่บ่นงึมงำก่อนจะคว้าผ้าห่มตัวเองแล้วลากไปยังโซฟาก่อนจะล้มตัวลงนอนในที่สุด แต่เมื่อนอนลงแล้ว ในความมืดนั้นเมษกลับยิ้มออกมาอย่างคนที่สมหวังในอะไรบางอย่าง
“แบบนี้ค่อยเป็นอาทิตย์ที่กูคุ้นเคยหน่อย หึหึ”
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
“ฮัลโหล ไอ้อาทิตย์ มึงมีนัดอะไรกับเพื่อนมึงในกลุ่มไลน์วะ กูไปไม่ถูกแล้วนะเว้ย” ตะวันเอ่ยถามอาทิตย์ในสายขณะรีบเดินออกมายังลานจอดรถโดยไม่ทันสังเกตว่ากำลังเดินตัดหน้าใคร
“มึงต้องบอกกูด้วยดิเวลาเพื่อนมึงนักแนะกันอ่ะ กูไม่ได้อยู่ในกลุ่มกูก็ไม่รู้ โอะ!! ขอโทษครับ” ขณะกำลังเดินไปยังลานจอดรถตะวันก็ชนเข้ากับใครบางคนจนโทรศัพท์หลุดมือร่วงลงพื้น
“น้องตะวัน คุยกับใครหรอครับ” คนที่ถูกตะวันเดินชนเอ่ยพร้อมกับเหลือบมองไปยังชื่อที่ปรากฏบนจอโทรศัพท์ที่อยู่บนพื้น
“เอ่อออ คุยกับ.. พี่ชายครับ แฮ่ๆๆ”
.”ออ ครับ” เจ้าของคำถามตอบแต่ยังมิวายเหลือบมองโทรศัพท์ในมือของตะวัน จนตะวันต้องไขว้มองไว้ข้างหลังแทน
“พี่กอล์ฟมีอะไรรึปล่าวครับ พอดีผมลืมของอ่ะ จะรีบไปเอาของครับ” ตะวันรีบตัดบทกับรุ่นพี่
“อ้อ ป่าวครับ เชิญน้องตะวันตามสบายเลย พี่ไปละ” กอล์ฟเอ่ยพร้อมส่งยิ้มให้ ตะวันเห็นได้โอกาสจึงรีบยกมือสวัสดีก่อนจะเดินชิ่งออกมาพร้อมยกโทรศัพท์คุยกับปลายสายอีกครั้ง
............................................................................
ณ หน้าห้องสโมสร หลังเวลาเลิกเรียน.....
“ไปเอาของแค่นี้หายไปเป็นวันเลยนะมึง โทรไปก็ไม่รับ” บอสเอ่ยลอยๆ เมื่อเห็นเพื่อนตัวแสบพึ่งจะมาหลังจากที่เจ้าตัวบอกจะไปเอาของแล้วหายไปทั้งวัน
“ออ กูแวะไปบ้านมาด้วย พอดีมีธุระที่บ้านต่อนิดหน่อย” ตะวันเอ่ย
“มาแล้วก็ดี งั้นเดี๋ยวเราเริ่มเลยนะ เพื่อนๆคนอื่นในสาขาเรากำลังมาสมทบ” เมษที่พึ่งได้รับเลือกจากเพื่อนๆในสาขาให้เมษเป็นประธานสาขาออกคำสั่งกับกลุ่มของตน
“พวกมึง กุว่าเราเปลี่ยนแผนนิดหน่อยก็ดีนะ” ตะวันเสนอความคิด ซึ่งนั่นสร้างความแปลกใจให้เพื่อนๆ ที่อยู่ไม่น้อยเพราะในครั้งแรก ตะวันไม่สนใจจะช่วยอะไรเลย มีแต่เมษที่คอยเสนอไอเดีย มาวันนี้ตะวันคนที่เฉยๆ กับกิจกรรมกลับมาขายความคิดใหม่ซะได้
“ยังไง ไหนไปได้ความคิดอะไรมาอีก ว่ามาดิ้” บอสถามเพราะอยากรู้
“ก็แทนที่มึงจะทำงานปติมากรรมงานประดิษฐ์ขึ้นมาให้พี่ๆ แม่งเดี๋ยวเขาก็พังมันลงมึงเชื่อดิ กุว่าทำอะไรที่พี่ๆ มันไม่กล้าทำลายดีกว่า ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นของที่มีคุณค่าทางใจมากๆ” ตะวันเอ่ยพร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์
“พูดมาให้จบ” ออยที่หมั่นไส้ในหน้าตาอันยียวนของตะวันเอ่ยเร่งเพื่อน
“เราสาขาเกษตรไช่ม้ะ? กูเสนอว่าชิ้นงานเราควรจะเป็นการปลูกต้นไม้”
“เยี่ยม!!” เสียงของเพื่อนคนนึงในสาขาเอ่ยออกมาอย่างเห็นด้วยกับไอเดียนี้ อีกทั้งคนอื่นๆ ก็พยักหน้าคล้อยตามว่าเห็นด้วย ตะวันจึงกล่าวต่อพร้อมกับเก๊กหน้ามั่นตามแบบฉบับของอาทิตย์ที่ตนสังเกตมา
“เราจะมีกล้าต้นไม้คนละ 1 ต้น วางรวมกันไว้เป็นเลขรุ่นของพวกเรา เราจะปลูกต้นไม้ของเราโดยมีรุ่นพี่มาจับคูปลูกกับเรา ต้นไม้นี้หมายถึงตัวตนของเรา 1 คน 1 ต้น ไม้เติบโตเหมือนเราที่โตขึ้น ส่วนเหตุผลที่รุ่นพี่จะต้องมาร่วมกับเรานั่นก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดีของรุ่นพี่รุ่นน้องไงล่ะ”
“วิธีนี้ก็ดีนะ เตรียมแค่ต้นไม้ กับหลุ่มสำหรับปลูกต้นไม้ ที่เหลือต่อจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของคนปลูกทั้ง2 คนจะต้องคอยดูแลมันต่อ แบบว่าทำแล้วต้องรักษา ดูแลไม่ทิ้งขว้าง โหยยย ความคิดสร้างสรรค์ดีมากเลยอ่ะตะวัน” สาวๆ ในสาขาเอ่ยเสริมและเพื่อนๆ ก็เห็นด้วย
“ดีมากเลยตะวัน ทำไมไม่เสนอความคิดนี้แต่แรกล่ะ จะได้ไม้ต้องเสียเวลาเตรียมของมากมาย” ออยเสริมต่อ
“อ่ะๆๆ งั้นเอาตามที่ไอ้ตะวันว่านะ เราจะเปลี่ยนแผนไปขุดหลุมปลูกต้นไม้แทนแต่คงต้องเริ่มพรุ่งนี้นะ เราต้องปรึกษาอาจารย์กันก่อนว่าจะปลูกต้นไม้ตรงไหนได้บ้าง งั้นพรุ่งนี้เย็นเจอกันที่ฟาร์มคณะเลยนะ” บอสเห็นว่าเมษที่เอาแต่จ้องตะวันไม่ยอมเอ่ยอะไร ตนจึงสรุปให้แต่ก็ยังคงงุนงงกับอาการของเมษ เพียงแต่ไม่พูดอะไรเท่านั้น
‘มึงเปลี่ยนไปนะไอ้อาทิตย์ นี่ใช่มึงจริงๆ หรอวะ?’ ความสงสัยของเมษเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ ตั้งแต่เพื่อนเขาแปลกไป เพราะอาทิตย์ที่เขารู้จักมันไม่ใช่คนแบบนี้
22.30 น. ณ หอพักของตะวัน
ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้เจ้าของห้องอดสงสัยไม่ได้ถึงแขกผู้มาเยือน แต่ก็ตัดสินใจลุกไปเปิดประตูให้
“อ่าว มึงเองรึไอ้เมษ”
“ห้องกูแอร์พังอ่ะ ขอค้างด้วยนะ” เมษที่ยืนหอบผ้าห่มอยู่หน้าห้องเอ่ยพร้อมถือวิสาสะเดินเข้าห้องดื้อๆ
“หอบผ้ามาหากูแบบนี้...” ตะวันเอ่ยยิ้มๆ
“กูก็ทำออกจะบ่อย ลืมแล้วหรอ?” เมษยื่นหน้าเข้ามากระซิบใกล้ๆตะวันจนเจ้าตัวรีบถอยหนี
“ออ อื้มม เอาดิ ตามสบายเลยนะกูขออาบน้ำก่อน” ตะวันเอ่ยพร้อมกับหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วรีบเข้าห้องน้ำไป ในขณะที่ตะวันอาบน้ำ นักสืบเมษก็เริ่มปฏิบัติการทันที เมษเริ่มสำรวจข้าวของภายในห้องและของใช้ส่วนตัวต่างๆ ตามที่ตนเองสงสัย
“ของใช้ยังเหมือนเดิมทั้งแป้ง ครีม น้ำหอมและเสื้อผ้า” ร่อยรอยแรกถูกไขความสงสัยไปแล้วแต่เจ้าตัวก็ยังคงสืบเสาะต่อไป
“เคสเหมือนเดิม แต่มึงเปลี่ยนตัวโทรศัพท์ใหม่เมื่อไหร่วะ” เมษที่หันมาสังเกตของใช้ส่วนตัวแล้วพบกับโทรศัพท์ที่ไม่คุ้นตาก็เริ่มสงสัยต่อทันทีก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบบางอย่างของตะวันขึ้นมา
“นายอาทิตย์ พิพัฒน์สกุล นี่กูคิดเยอะไปหรอวะ” เมษที่แอบเปิดกระเป๋าตังค์ตะวันเพราะสงสัยบางอย่างแต่กลับต้องผิดหวังเพราะดูเหมือนว่าเขาเองจะเข้าใจผิดไปเพียงเพราะบางคำที่อาทิตย์เคยพูดไว้นั่นเอง
“เออ ไอ้เมษ พรุ่งนี้วันหยุดมึงไปซื้อของกับกูหน่อยนะ” ตะวันที่พึ่งออกมาจากห้องน้ำเอ่ยหลังจากที่แอบเห็นว่าเมษเปิดกระเป๋าตังค์ของตน ...โชคดีที่เรื่องนี้เขาและอาทิตย์เตรียมตัวมาแล้ว
“อื้ม เอาดิ”
“ไม่ได้จะเอา แค่ชวนไปซื้อของ” ตะวันแซวกลับอารมณ์ดี
“เมื่อก่อนมึงไม่พูดอะไรแบบนี้นะรู้ตัวป่าว” คำพูดของเมษทำให้ตะวันชะงักไป
“มึงมีอะไรอยากบอกกูป่าววะ” เมษถามกลับเรียบๆ แต่จ้องมองตะวันอย่างจริงจัง
“เวลาเปลี่ยนคนเราก็เปลี่ยน มึงยังไม่รู้จักกูอีกเยอะ” ตะวันตอบตามที่คิดเพราะเมษไม่รู้จักเขาจริงๆ นั้นแหละ
“กูสนิทกับมึงมาหลายปี เมื่อก่อนกูพูดเล่นกับมึงแบบนี้ไม่ได้ มึงจะโกรธกู มึงไม่ใช่คนที่ปฏิสัมพันธ์ดีขนาดที่ว่าจะเสนอไอเดียแลกเปลี่ยนความคิดกับเพื่อนๆ ได้และมึงไม่ได้อารมณ์ดียิ้มแย้มบ่อยขนาดนี้” เมษพูดในสิ่งที่สังเกตุออกมาและเป็นตะวันเองที่เงียบไปอึดใจนึง ก่อนจะเอ่ยออกมาในที่สุด
“กูไม่ได้เป็นอะไรและไม่ได้แปลกหรือเปลี่ยนไปหรอก มึงแค่ยังไม่รู้จักกูดีพอแค่นั้นเอง” ตะวันเอ่ยจริงจังก่อนจะเดินมาล้มตัวลงนอนบนที่นอน คืนนั้นตะวันนอนไม่หลับเกือบทั้งคืนเพราะคำพูดของเมษที่ดูเหมือนว่าเมษจะสงสัยในตัวของเขาแล้วและอีกส่วนหนึ่งคงเพราะคนที่กำลังนอนหลับอยู่ข้างๆ เขานี่เอง ในชีวิตนี้นอกจากอาทิตย์และตะวันก็ไม่เคยนอนภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับใครมาก่อน ยิ่งกับเมษด้วยแล้วต้องยอมรับว่าเมษเป็นคนมีเสน่ห์มากคนนึง ใครอยู่ใกล้เป็นต้องยิ้มตามไปกับพฤติกรรมเขาได้แน่ๆ แต่ที่น่าสงสัยคือทำไมเมษถึงรู้จักอาทิย์ดีมากมายขนาดนี้ ชักอยากจะรู้ซะแล้วซิว่าเมษเป็นเพื่อนแบบไหนของอาทิตย์กันแน่นะ
เช้าวันรุ่งขึ้น....
“เมษ ไอ้เมษ” ตะวันเอ่ยปลุกเมษตั้งแต่หกโมงเช้า ทันทีที่ตื่นขึ้นก็ปรากฏว่าเมษนอนก่ายเขาอยู่แม้จะพยายามแกะขาแกะมือเขาออกแต่ก็ไม่เป็นผลจนต้องตัดสินใจปลุก
“อือออ” เมษส่งเสียงงัวเงียออกมาก่อนจะกระชับแขนแน่นขึ้นจนตะวันถอนหายใจออกมาอยางเหนื่อยอ่อน
“ไอ้เมษ ถ้ามึงไม่ตื่นกูถีบมึงตกเตียงจริงนะ” ทันทีที่ตะวันพูดจบเมษก็ลืมตาขึ้นอัตโนมัติพร้อมกับเด้งตัวลุกขึ้นนั่งอย่างไวจนตะวันอดที่จะแอบขำไม่ได้
“เห็นกูไม่ว่าเหมือนก่อนมึงนี่เอาใหญ่เลยนะ” ตะวันเอ่ยแซวเพื่อน
“โทษที เมื่อคืนกูฝันดีไปหน่อยเลยเผลอนอนก่ายมึง” เมษไม่กล้าพูดว่ากอดแม้ว่าสิ่งที่ตนเองทำนั้นมันคือนอนกอดมากกว่านอนก่ายก็ตาม
“กูหวงไว้ให้แค่พี่คิมคนเดียวเว้ย มึงอย่ามาเนียน” ตะวันเอ่ยต่อแต่ทว่าไม่ทันได้สังเกตุสีหน้าของเมษซึ่งบัดนี้เมษมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป
“งั้นกูกลับห้องก่อนนะ อีกชั่วโมงนึงไปรับกูที่หอแล้วกัน” เมษเอ่ยพร้อมกับลุกเดินออกไปโดยไม่รอคำตอบจากเพื่อน
“เอ้า เชี่ยไรของมันวะ” ตะวันที่กำลังงงกับเพื่อนก็ได้แต่บ่นลับหลังก่อนจะลุกไปอาบน้ำแต่งตัว
1 ชั่วโมงต่อมา...
“แหม วันนี้เพื่อนกูแต่งตัวซะหล่อเชียวนะ” เมษที่ยืนรอตะวันอยู่หน้าหอเอ่ยทันทีเมื่อตะวันเดินลงมาจากรถ ใช่แล้ววันนี้ตะวันแต่งตัวสบายๆ ด้วยเสื้อเชิ๊ตสีขาวกับกางเกงสีครีมพร้อมแว่นตากันแดดสีชาและกระเป๋าสะพายอีกหนึ่งใบแต่แค่นี้ก็ดูดีมากเลยทีเดียว
“จะแซวแว่นกูใช่ม้ะ ช่วงนี้กูแสบๆตาหน่ะ ป่ะ ไปกันได้ยัง” ตะวันเอ่ยพร้อมลากเมษขึ้นรถก่อนจะขับออกไปยังปลายทาง
“เออ ไอ้อาทิตย์ จนป่านนี้กูยังไม่เห็นมึงจะรุกพี่คิมของมึงเลย” เมษถามขณะนั่งรถ
“มึงว่ากูไปวุ่นวายไปกับแล้ววันนึงกูหายไปเขาจะรู้สึกอะไรมั๊ยวะ?”
“มึงพึ่งเจอพี่เขา2-3 ครั้งเอง เขายังไม่ทันรู้สึกอะไรกับมึงหรอก” เมษเอ่ยยิ้มๆ
“อ่าวหรอ งั้นกิจกรรมปลูกต้นไม้นี้มึงต้องช่วยกูนะ” ตะวันเอ่ย
“ยังไงวะ?”
“ก็ทำให้กูกับพี่คิมได้ปลูกต้นไม้ร่วมกันไง” ตะวันเอ่ยพร้อมยิ้มอารมณ์ดี
‘มีแค่พี่คิมคนเดียวที่ทำมึงยิ้มได้สินะ ไอ้อาทิตย์’
ณ ห้างสรรพสินค้า...
หลังจากตะวันและอาทิตย์เดินซื้อของกันกว่าสองชั่วโมงทั้งคู่ก็มาจบที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งบนห้างสรรพสินค้า ตลอดเวลาที่ผ่านมาตะวันจะถือโทรศัพท์ตลอดเวลา มีการตอบแชทอยู่ตลอดจนเมษอดสงสัยไม่ได้ว่าตะวันคุยกับใครนักหนา
“เอสเพรสโซ่แก้วนึงครับ มึงล่ะเอาอะไร?” เมษหันมาถามเพื่อน
“เหมือนมึงเลย” เอ่ยตอบขณะกดโทรศัพท์ แต่ทว่าคำตอบของตะวันทำให้คิ้วเมษกระตุกทันที แต่เพียงชั่วครูก็ยิ้มออกมา
‘ทุกทีมึงไม่กินนะ ไอ้อาทิตย์’
“เพิ่มเป็น 2 แก้วเลยนะครับ” เมษหันไปเอ่ยกับพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ก่อนจะพากันมานั่ง
“มึง เดี๋ยวกูไปห้องน้ำแป้บนะ” เมษเอ่ยพร้อมกับลุกขึ้นเดินออกไป เมษได้แต่มองตามหลังเพื่อนราวกับว่ากำลังเก็บรายละเอียดทุกอย่างของเพื่อนให้ชัดอย่างไรอย่างนั้น
10 นาทีผ่านไป..
“รอนานป่าววะ” น้ำเสียงที่เอ่ยถามของคนที่กำลังหย่อนก้นนั่งลงตรงหน้าช่างคุ้นเคยเสียจริงๆ แต่ทว่ามันต่างกันกับเสียงของคนที่พึ่งจะออกไปเมื่อครู่นี้นี่สิ
“ไม่นานๆ อ่ะ นี่กาแฟมึงจะละลายหมดแล้ว” เมษยื่นแก้วกาแฟให้เพื่อน
“หืม เชี่ยไรเนี่ย” เสียงอุทานดังขึ้นทันทีหลังจากที่ดูดกาแฟได้เพียงนิดเดียว
“ก็เอสเพรสโซ่ของมึงไง มึงสั่งเองนะ” เมษเอ่ยยิ้มๆ
“กูสั่งหรอ มึงก็รู้ว่ากู.... ช่างเหอะ” เอ่ยยังไม่ทันจบก็เงียบไปทันทีแล้วก้มหน้าก้มตาดูดกาแฟ แต่ทว่าสีหน้าช่างดูไม่ดีเอาเสียเลย
“เออมึง เดี๋ยวเสร็จแล้วไปไหนต่อป่าววะ กูว่าจะ”
“กูอยากกลับหอ” ยังไม่ทันที่เมษจะเอ่ยจบอาทิตย์ก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน
“ก็ได้ งั้นกลับเลยดีกว่า ดูๆ สีหน้ามึงไม่ค่อยดีเลยนะ” เมษถามเพราะเป็นห่วง ในระหว่างเดินออกมายังโรงจอดรถ เหมือนอาทิตย์จะรู้ว่าเขาไม่รู้ว่าตะวันรถจอดอยู่ที่ไหนเพราะล่าสุดตอนเปลี่ยนตัวกันตะวันก็ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเขา
“เมษ ขับรถให้หน่อยนะ กูมึนๆ หัวว่ะ” เอ่ยพร้อมสงกุญแจรถให้
“เฮ้อ ก็ใครใช้ให้กินกาแฟตามกูละ ร้อยวันพันปีไม่เยแดกวันนี้เสือกจะมาแดกตามกู 555” เมษที่เข้าใจว่าอาทิตย์มึนหัวเพราะกินกาแฟก็เอ่ยไปเรื่อยแต่ก็มิวายคว้ากุญแจรถจากมือเพื่อนมาถือไว้แล้วเดินนำไป
‘รอดตัวไป’ อาทิตย์ถอนหายใจก่อนจะเดินตามหลังเพื่อนไป
...........................................................
22.00 น.
ก๊อกๆๆ เสียงเคาะปรตูห้องดังขึ้น
“อ่าว ว่าไงเมษ”
“คือ วันนี้กูไปกับมึงไง เลยลืมตามช่างมาซ่อมแอร์”
“แล้ว?”
“กูขอค้างด้วยอีกคืนนะ” เมษอ้อน
“เอาดิ นอนโซฟาได้นะมึงอ่ะ” อาทิตย์เอ่ยขณะเดินกลับเข้าห้อง
“อ่าว ทีเมื่อคืนมึงไม่เห็นว่าแบบนี้เลย” เมษโวยวายแต่เหมือนอาทิตย์จะฉุกคิดอะไรได้บางอย่าง
“เมื่อคืน....”
“ก็เมื่อคืนก็ก็นอนที่เตียงมึงไง โถ่ กูก็หลงดีใจว่ามึงเลิกกลัวแล้วถึงยอมให้กูนอนด้วยได้” เมษเอ่ยเหมือนคนชนะ ใช่เพราะบัดนี้เขาถือไพ่เหนือกว่ามาก
“ก็... เมื่อคืนส่วนเมื่อคืน แต่คืนนี้ไม่ได้ไง” อาทิตย์รีบตัดบท
“มึงกลัวกูหรอ?” เมษพูดพร้อมยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์
“สัส พูดมาก จะนอนก็นอน” อาทิตย์รีบตัดบทและนั่นทำให้เมษที่ยืนหอบผ้าห่มอยู่นั้นยิ้มแป้นออกมาด้วยความดีใจก่อนจะทิ้งตัวลงบนที่นอน
“แอร์เย็นจัง อื้มมมม” เอ่ยพร้อมหลับตาพริ้มและทันทีที่อาทิตย์ปิดไฟแล้วเดินมานอนเมษก็เริ่มดำเนินการตามแผนทันที
หมับ!! ขาของเมษยกก่ายพาดลำตัวของอาทิตย์ แต่ทว่าผู้ที่ถูกกระทำยังคงนอนนิ่งอยู่
“อื้มมม” เห็นดังนั้นทำให้เมษได้ใจจึงตวัดมือไปพาดบนอกของอาทิตย์อีกครั้ง แต่ทว่าครั้งนี้...
“เห้ย!! โอ้ยย” อาทิตย์พลิกตัวออกแล้วถีบเมษอย่างเต็มแรงจนเมษกลิ้งลงมากองอยู่กับพื้นพร้อมส่งเสียงร้องโอดครวญ
“ทะลึ่งแล้วมึงอ่ะ ไปนอนที่เดิมมึงเลย โน่นโซฟาของมึง” อาทิตย์เอ่ยเสียงดุจนเมษได้แต่บ่นงึมงำก่อนจะคว้าผ้าห่มตัวเองแล้วลากไปยังโซฟาก่อนจะล้มตัวลงนอนในที่สุด แต่เมื่อนอนลงแล้ว ในความมืดนั้นเมษกลับยิ้มออกมาอย่างคนที่สมหวังในอะไรบางอย่าง
“แบบนี้ค่อยเป็นอาทิตย์ที่กูคุ้นเคยหน่อย หึหึ”
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ