ก่อนตะวันจะลับตา(Y)

-

เขียนโดย Shinman33

วันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 22.31 น.

  3 ตอน
  0 วิจารณ์
  3,992 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 เมษายน พ.ศ. 2563 23.16 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) พิรุธ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ตอนที่3 พิรุธ
 
 
“ฮัลโหล  ไอ้อาทิตย์   มึงมีนัดอะไรกับเพื่อนมึงในกลุ่มไลน์วะ  กูไปไม่ถูกแล้วนะเว้ย”  ตะวันเอ่ยถามอาทิตย์ในสายขณะรีบเดินออกมายังลานจอดรถโดยไม่ทันสังเกตว่ากำลังเดินตัดหน้าใคร
“มึงต้องบอกกูด้วยดิเวลาเพื่อนมึงนักแนะกันอ่ะ  กูไม่ได้อยู่ในกลุ่มกูก็ไม่รู้   โอะ!!  ขอโทษครับ”  ขณะกำลังเดินไปยังลานจอดรถตะวันก็ชนเข้ากับใครบางคนจนโทรศัพท์หลุดมือร่วงลงพื้น
“น้องตะวัน  คุยกับใครหรอครับ”   คนที่ถูกตะวันเดินชนเอ่ยพร้อมกับเหลือบมองไปยังชื่อที่ปรากฏบนจอโทรศัพท์ที่อยู่บนพื้น
“เอ่อออ  คุยกับ..  พี่ชายครับ แฮ่ๆๆ” 
.”ออ  ครับ”  เจ้าของคำถามตอบแต่ยังมิวายเหลือบมองโทรศัพท์ในมือของตะวัน   จนตะวันต้องไขว้มองไว้ข้างหลังแทน
“พี่กอล์ฟมีอะไรรึปล่าวครับ  พอดีผมลืมของอ่ะ จะรีบไปเอาของครับ” ตะวันรีบตัดบทกับรุ่นพี่
“อ้อ  ป่าวครับ  เชิญน้องตะวันตามสบายเลย  พี่ไปละ”  กอล์ฟเอ่ยพร้อมส่งยิ้มให้   ตะวันเห็นได้โอกาสจึงรีบยกมือสวัสดีก่อนจะเดินชิ่งออกมาพร้อมยกโทรศัพท์คุยกับปลายสายอีกครั้ง
                                              ............................................................................
 
ณ หน้าห้องสโมสร หลังเวลาเลิกเรียน.....
“ไปเอาของแค่นี้หายไปเป็นวันเลยนะมึง   โทรไปก็ไม่รับ”  บอสเอ่ยลอยๆ เมื่อเห็นเพื่อนตัวแสบพึ่งจะมาหลังจากที่เจ้าตัวบอกจะไปเอาของแล้วหายไปทั้งวัน
“ออ  กูแวะไปบ้านมาด้วย  พอดีมีธุระที่บ้านต่อนิดหน่อย”  ตะวันเอ่ย
“มาแล้วก็ดี  งั้นเดี๋ยวเราเริ่มเลยนะ  เพื่อนๆคนอื่นในสาขาเรากำลังมาสมทบ”  เมษที่พึ่งได้รับเลือกจากเพื่อนๆในสาขาให้เมษเป็นประธานสาขาออกคำสั่งกับกลุ่มของตน
“พวกมึง  กุว่าเราเปลี่ยนแผนนิดหน่อยก็ดีนะ”  ตะวันเสนอความคิด   ซึ่งนั่นสร้างความแปลกใจให้เพื่อนๆ ที่อยู่ไม่น้อยเพราะในครั้งแรก   ตะวันไม่สนใจจะช่วยอะไรเลย   มีแต่เมษที่คอยเสนอไอเดีย   มาวันนี้ตะวันคนที่เฉยๆ กับกิจกรรมกลับมาขายความคิดใหม่ซะได้
“ยังไง  ไหนไปได้ความคิดอะไรมาอีก  ว่ามาดิ้”  บอสถามเพราะอยากรู้
“ก็แทนที่มึงจะทำงานปติมากรรมงานประดิษฐ์ขึ้นมาให้พี่ๆ  แม่งเดี๋ยวเขาก็พังมันลงมึงเชื่อดิ   กุว่าทำอะไรที่พี่ๆ มันไม่กล้าทำลายดีกว่า   ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นของที่มีคุณค่าทางใจมากๆ”  ตะวันเอ่ยพร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์
“พูดมาให้จบ”  ออยที่หมั่นไส้ในหน้าตาอันยียวนของตะวันเอ่ยเร่งเพื่อน
“เราสาขาเกษตรไช่ม้ะ?  กูเสนอว่าชิ้นงานเราควรจะเป็นการปลูกต้นไม้”
“เยี่ยม!!”  เสียงของเพื่อนคนนึงในสาขาเอ่ยออกมาอย่างเห็นด้วยกับไอเดียนี้   อีกทั้งคนอื่นๆ ก็พยักหน้าคล้อยตามว่าเห็นด้วย   ตะวันจึงกล่าวต่อพร้อมกับเก๊กหน้ามั่นตามแบบฉบับของอาทิตย์ที่ตนสังเกตมา
“เราจะมีกล้าต้นไม้คนละ 1 ต้น  วางรวมกันไว้เป็นเลขรุ่นของพวกเรา   เราจะปลูกต้นไม้ของเราโดยมีรุ่นพี่มาจับคูปลูกกับเรา  ต้นไม้นี้หมายถึงตัวตนของเรา  1 คน 1 ต้น  ไม้เติบโตเหมือนเราที่โตขึ้น   ส่วนเหตุผลที่รุ่นพี่จะต้องมาร่วมกับเรานั่นก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดีของรุ่นพี่รุ่นน้องไงล่ะ”
“วิธีนี้ก็ดีนะ  เตรียมแค่ต้นไม้  กับหลุ่มสำหรับปลูกต้นไม้   ที่เหลือต่อจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของคนปลูกทั้ง2 คนจะต้องคอยดูแลมันต่อ  แบบว่าทำแล้วต้องรักษา  ดูแลไม่ทิ้งขว้าง   โหยยย ความคิดสร้างสรรค์ดีมากเลยอ่ะตะวัน”  สาวๆ ในสาขาเอ่ยเสริมและเพื่อนๆ ก็เห็นด้วย
“ดีมากเลยตะวัน  ทำไมไม่เสนอความคิดนี้แต่แรกล่ะ   จะได้ไม้ต้องเสียเวลาเตรียมของมากมาย”  ออยเสริมต่อ
“อ่ะๆๆ  งั้นเอาตามที่ไอ้ตะวันว่านะ   เราจะเปลี่ยนแผนไปขุดหลุมปลูกต้นไม้แทนแต่คงต้องเริ่มพรุ่งนี้นะ  เราต้องปรึกษาอาจารย์กันก่อนว่าจะปลูกต้นไม้ตรงไหนได้บ้าง   งั้นพรุ่งนี้เย็นเจอกันที่ฟาร์มคณะเลยนะ”  บอสเห็นว่าเมษที่เอาแต่จ้องตะวันไม่ยอมเอ่ยอะไร  ตนจึงสรุปให้แต่ก็ยังคงงุนงงกับอาการของเมษ   เพียงแต่ไม่พูดอะไรเท่านั้น
‘มึงเปลี่ยนไปนะไอ้อาทิตย์   นี่ใช่มึงจริงๆ หรอวะ?’   ความสงสัยของเมษเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ ตั้งแต่เพื่อนเขาแปลกไป   เพราะอาทิตย์ที่เขารู้จักมันไม่ใช่คนแบบนี้ 
 
 22.30 น.  ณ หอพักของตะวัน
ก๊อกๆๆ  เสียงเคาะประตูดังขึ้น  ทำให้เจ้าของห้องอดสงสัยไม่ได้ถึงแขกผู้มาเยือน   แต่ก็ตัดสินใจลุกไปเปิดประตูให้
“อ่าว  มึงเองรึไอ้เมษ”
“ห้องกูแอร์พังอ่ะ  ขอค้างด้วยนะ” เมษที่ยืนหอบผ้าห่มอยู่หน้าห้องเอ่ยพร้อมถือวิสาสะเดินเข้าห้องดื้อๆ
“หอบผ้ามาหากูแบบนี้...”  ตะวันเอ่ยยิ้มๆ
“กูก็ทำออกจะบ่อย  ลืมแล้วหรอ?”  เมษยื่นหน้าเข้ามากระซิบใกล้ๆตะวันจนเจ้าตัวรีบถอยหนี
“ออ  อื้มม  เอาดิ  ตามสบายเลยนะกูขออาบน้ำก่อน”  ตะวันเอ่ยพร้อมกับหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วรีบเข้าห้องน้ำไป   ในขณะที่ตะวันอาบน้ำ   นักสืบเมษก็เริ่มปฏิบัติการทันที   เมษเริ่มสำรวจข้าวของภายในห้องและของใช้ส่วนตัวต่างๆ ตามที่ตนเองสงสัย
“ของใช้ยังเหมือนเดิมทั้งแป้ง ครีม น้ำหอมและเสื้อผ้า”  ร่อยรอยแรกถูกไขความสงสัยไปแล้วแต่เจ้าตัวก็ยังคงสืบเสาะต่อไป
“เคสเหมือนเดิม  แต่มึงเปลี่ยนตัวโทรศัพท์ใหม่เมื่อไหร่วะ”   เมษที่หันมาสังเกตของใช้ส่วนตัวแล้วพบกับโทรศัพท์ที่ไม่คุ้นตาก็เริ่มสงสัยต่อทันทีก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบบางอย่างของตะวันขึ้นมา
“นายอาทิตย์  พิพัฒน์สกุล   นี่กูคิดเยอะไปหรอวะ”  เมษที่แอบเปิดกระเป๋าตังค์ตะวันเพราะสงสัยบางอย่างแต่กลับต้องผิดหวังเพราะดูเหมือนว่าเขาเองจะเข้าใจผิดไปเพียงเพราะบางคำที่อาทิตย์เคยพูดไว้นั่นเอง
“เออ  ไอ้เมษ  พรุ่งนี้วันหยุดมึงไปซื้อของกับกูหน่อยนะ”  ตะวันที่พึ่งออกมาจากห้องน้ำเอ่ยหลังจากที่แอบเห็นว่าเมษเปิดกระเป๋าตังค์ของตน   ...โชคดีที่เรื่องนี้เขาและอาทิตย์เตรียมตัวมาแล้ว
“อื้ม  เอาดิ”
“ไม่ได้จะเอา  แค่ชวนไปซื้อของ”  ตะวันแซวกลับอารมณ์ดี
“เมื่อก่อนมึงไม่พูดอะไรแบบนี้นะรู้ตัวป่าว”  คำพูดของเมษทำให้ตะวันชะงักไป
“มึงมีอะไรอยากบอกกูป่าววะ”  เมษถามกลับเรียบๆ แต่จ้องมองตะวันอย่างจริงจัง
“เวลาเปลี่ยนคนเราก็เปลี่ยน   มึงยังไม่รู้จักกูอีกเยอะ”  ตะวันตอบตามที่คิดเพราะเมษไม่รู้จักเขาจริงๆ นั้นแหละ
“กูสนิทกับมึงมาหลายปี  เมื่อก่อนกูพูดเล่นกับมึงแบบนี้ไม่ได้  มึงจะโกรธกู   มึงไม่ใช่คนที่ปฏิสัมพันธ์ดีขนาดที่ว่าจะเสนอไอเดียแลกเปลี่ยนความคิดกับเพื่อนๆ ได้และมึงไม่ได้อารมณ์ดียิ้มแย้มบ่อยขนาดนี้”  เมษพูดในสิ่งที่สังเกตุออกมาและเป็นตะวันเองที่เงียบไปอึดใจนึง  ก่อนจะเอ่ยออกมาในที่สุด
“กูไม่ได้เป็นอะไรและไม่ได้แปลกหรือเปลี่ยนไปหรอก  มึงแค่ยังไม่รู้จักกูดีพอแค่นั้นเอง”  ตะวันเอ่ยจริงจังก่อนจะเดินมาล้มตัวลงนอนบนที่นอน   คืนนั้นตะวันนอนไม่หลับเกือบทั้งคืนเพราะคำพูดของเมษที่ดูเหมือนว่าเมษจะสงสัยในตัวของเขาแล้วและอีกส่วนหนึ่งคงเพราะคนที่กำลังนอนหลับอยู่ข้างๆ เขานี่เอง     ในชีวิตนี้นอกจากอาทิตย์และตะวันก็ไม่เคยนอนภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับใครมาก่อน   ยิ่งกับเมษด้วยแล้วต้องยอมรับว่าเมษเป็นคนมีเสน่ห์มากคนนึง   ใครอยู่ใกล้เป็นต้องยิ้มตามไปกับพฤติกรรมเขาได้แน่ๆ   แต่ที่น่าสงสัยคือทำไมเมษถึงรู้จักอาทิย์ดีมากมายขนาดนี้   ชักอยากจะรู้ซะแล้วซิว่าเมษเป็นเพื่อนแบบไหนของอาทิตย์กันแน่นะ
 
เช้าวันรุ่งขึ้น....
“เมษ  ไอ้เมษ”  ตะวันเอ่ยปลุกเมษตั้งแต่หกโมงเช้า   ทันทีที่ตื่นขึ้นก็ปรากฏว่าเมษนอนก่ายเขาอยู่แม้จะพยายามแกะขาแกะมือเขาออกแต่ก็ไม่เป็นผลจนต้องตัดสินใจปลุก
“อือออ” เมษส่งเสียงงัวเงียออกมาก่อนจะกระชับแขนแน่นขึ้นจนตะวันถอนหายใจออกมาอยางเหนื่อยอ่อน
“ไอ้เมษ   ถ้ามึงไม่ตื่นกูถีบมึงตกเตียงจริงนะ”  ทันทีที่ตะวันพูดจบเมษก็ลืมตาขึ้นอัตโนมัติพร้อมกับเด้งตัวลุกขึ้นนั่งอย่างไวจนตะวันอดที่จะแอบขำไม่ได้
“เห็นกูไม่ว่าเหมือนก่อนมึงนี่เอาใหญ่เลยนะ” ตะวันเอ่ยแซวเพื่อน
“โทษที  เมื่อคืนกูฝันดีไปหน่อยเลยเผลอนอนก่ายมึง”  เมษไม่กล้าพูดว่ากอดแม้ว่าสิ่งที่ตนเองทำนั้นมันคือนอนกอดมากกว่านอนก่ายก็ตาม
“กูหวงไว้ให้แค่พี่คิมคนเดียวเว้ย   มึงอย่ามาเนียน”  ตะวันเอ่ยต่อแต่ทว่าไม่ทันได้สังเกตุสีหน้าของเมษซึ่งบัดนี้เมษมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป
“งั้นกูกลับห้องก่อนนะ   อีกชั่วโมงนึงไปรับกูที่หอแล้วกัน”  เมษเอ่ยพร้อมกับลุกเดินออกไปโดยไม่รอคำตอบจากเพื่อน
“เอ้า  เชี่ยไรของมันวะ”  ตะวันที่กำลังงงกับเพื่อนก็ได้แต่บ่นลับหลังก่อนจะลุกไปอาบน้ำแต่งตัว
 
1 ชั่วโมงต่อมา...
“แหม  วันนี้เพื่อนกูแต่งตัวซะหล่อเชียวนะ”  เมษที่ยืนรอตะวันอยู่หน้าหอเอ่ยทันทีเมื่อตะวันเดินลงมาจากรถ   ใช่แล้ววันนี้ตะวันแต่งตัวสบายๆ ด้วยเสื้อเชิ๊ตสีขาวกับกางเกงสีครีมพร้อมแว่นตากันแดดสีชาและกระเป๋าสะพายอีกหนึ่งใบแต่แค่นี้ก็ดูดีมากเลยทีเดียว
“จะแซวแว่นกูใช่ม้ะ   ช่วงนี้กูแสบๆตาหน่ะ  ป่ะ ไปกันได้ยัง”  ตะวันเอ่ยพร้อมลากเมษขึ้นรถก่อนจะขับออกไปยังปลายทาง
“เออ ไอ้อาทิตย์   จนป่านนี้กูยังไม่เห็นมึงจะรุกพี่คิมของมึงเลย”  เมษถามขณะนั่งรถ
“มึงว่ากูไปวุ่นวายไปกับแล้ววันนึงกูหายไปเขาจะรู้สึกอะไรมั๊ยวะ?”
“มึงพึ่งเจอพี่เขา2-3 ครั้งเอง  เขายังไม่ทันรู้สึกอะไรกับมึงหรอก”  เมษเอ่ยยิ้มๆ
“อ่าวหรอ   งั้นกิจกรรมปลูกต้นไม้นี้มึงต้องช่วยกูนะ”  ตะวันเอ่ย
“ยังไงวะ?”
“ก็ทำให้กูกับพี่คิมได้ปลูกต้นไม้ร่วมกันไง”  ตะวันเอ่ยพร้อมยิ้มอารมณ์ดี
‘มีแค่พี่คิมคนเดียวที่ทำมึงยิ้มได้สินะ  ไอ้อาทิตย์’
 
ณ  ห้างสรรพสินค้า...
     หลังจากตะวันและอาทิตย์เดินซื้อของกันกว่าสองชั่วโมงทั้งคู่ก็มาจบที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งบนห้างสรรพสินค้า   ตลอดเวลาที่ผ่านมาตะวันจะถือโทรศัพท์ตลอดเวลา  มีการตอบแชทอยู่ตลอดจนเมษอดสงสัยไม่ได้ว่าตะวันคุยกับใครนักหนา
“เอสเพรสโซ่แก้วนึงครับ   มึงล่ะเอาอะไร?”  เมษหันมาถามเพื่อน
“เหมือนมึงเลย”  เอ่ยตอบขณะกดโทรศัพท์   แต่ทว่าคำตอบของตะวันทำให้คิ้วเมษกระตุกทันที  แต่เพียงชั่วครูก็ยิ้มออกมา
‘ทุกทีมึงไม่กินนะ ไอ้อาทิตย์’
“เพิ่มเป็น 2 แก้วเลยนะครับ”  เมษหันไปเอ่ยกับพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ก่อนจะพากันมานั่ง
“มึง  เดี๋ยวกูไปห้องน้ำแป้บนะ” เมษเอ่ยพร้อมกับลุกขึ้นเดินออกไป   เมษได้แต่มองตามหลังเพื่อนราวกับว่ากำลังเก็บรายละเอียดทุกอย่างของเพื่อนให้ชัดอย่างไรอย่างนั้น
 
10 นาทีผ่านไป..
“รอนานป่าววะ”  น้ำเสียงที่เอ่ยถามของคนที่กำลังหย่อนก้นนั่งลงตรงหน้าช่างคุ้นเคยเสียจริงๆ แต่ทว่ามันต่างกันกับเสียงของคนที่พึ่งจะออกไปเมื่อครู่นี้นี่สิ
“ไม่นานๆ  อ่ะ  นี่กาแฟมึงจะละลายหมดแล้ว”  เมษยื่นแก้วกาแฟให้เพื่อน
“หืม  เชี่ยไรเนี่ย”  เสียงอุทานดังขึ้นทันทีหลังจากที่ดูดกาแฟได้เพียงนิดเดียว
“ก็เอสเพรสโซ่ของมึงไง  มึงสั่งเองนะ”  เมษเอ่ยยิ้มๆ
“กูสั่งหรอ   มึงก็รู้ว่ากู....  ช่างเหอะ”  เอ่ยยังไม่ทันจบก็เงียบไปทันทีแล้วก้มหน้าก้มตาดูดกาแฟ  แต่ทว่าสีหน้าช่างดูไม่ดีเอาเสียเลย
“เออมึง  เดี๋ยวเสร็จแล้วไปไหนต่อป่าววะ  กูว่าจะ”
“กูอยากกลับหอ” ยังไม่ทันที่เมษจะเอ่ยจบอาทิตย์ก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน
“ก็ได้  งั้นกลับเลยดีกว่า  ดูๆ สีหน้ามึงไม่ค่อยดีเลยนะ”  เมษถามเพราะเป็นห่วง   ในระหว่างเดินออกมายังโรงจอดรถ   เหมือนอาทิตย์จะรู้ว่าเขาไม่รู้ว่าตะวันรถจอดอยู่ที่ไหนเพราะล่าสุดตอนเปลี่ยนตัวกันตะวันก็ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเขา
“เมษ  ขับรถให้หน่อยนะ  กูมึนๆ หัวว่ะ”  เอ่ยพร้อมสงกุญแจรถให้
“เฮ้อ  ก็ใครใช้ให้กินกาแฟตามกูละ  ร้อยวันพันปีไม่เยแดกวันนี้เสือกจะมาแดกตามกู  555” เมษที่เข้าใจว่าอาทิตย์มึนหัวเพราะกินกาแฟก็เอ่ยไปเรื่อยแต่ก็มิวายคว้ากุญแจรถจากมือเพื่อนมาถือไว้แล้วเดินนำไป
‘รอดตัวไป’  อาทิตย์ถอนหายใจก่อนจะเดินตามหลังเพื่อนไป
 
                                                                     ...........................................................
 
 
22.00 น.
ก๊อกๆๆ  เสียงเคาะปรตูห้องดังขึ้น
“อ่าว  ว่าไงเมษ”
“คือ  วันนี้กูไปกับมึงไง  เลยลืมตามช่างมาซ่อมแอร์”
“แล้ว?”
“กูขอค้างด้วยอีกคืนนะ” เมษอ้อน
“เอาดิ  นอนโซฟาได้นะมึงอ่ะ”  อาทิตย์เอ่ยขณะเดินกลับเข้าห้อง
“อ่าว  ทีเมื่อคืนมึงไม่เห็นว่าแบบนี้เลย” เมษโวยวายแต่เหมือนอาทิตย์จะฉุกคิดอะไรได้บางอย่าง
“เมื่อคืน....”
“ก็เมื่อคืนก็ก็นอนที่เตียงมึงไง   โถ่  กูก็หลงดีใจว่ามึงเลิกกลัวแล้วถึงยอมให้กูนอนด้วยได้” เมษเอ่ยเหมือนคนชนะ  ใช่เพราะบัดนี้เขาถือไพ่เหนือกว่ามาก
“ก็... เมื่อคืนส่วนเมื่อคืน  แต่คืนนี้ไม่ได้ไง”  อาทิตย์รีบตัดบท
“มึงกลัวกูหรอ?”  เมษพูดพร้อมยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์
“สัส  พูดมาก จะนอนก็นอน”  อาทิตย์รีบตัดบทและนั่นทำให้เมษที่ยืนหอบผ้าห่มอยู่นั้นยิ้มแป้นออกมาด้วยความดีใจก่อนจะทิ้งตัวลงบนที่นอน
“แอร์เย็นจัง  อื้มมมม” เอ่ยพร้อมหลับตาพริ้มและทันทีที่อาทิตย์ปิดไฟแล้วเดินมานอนเมษก็เริ่มดำเนินการตามแผนทันที
หมับ!! ขาของเมษยกก่ายพาดลำตัวของอาทิตย์   แต่ทว่าผู้ที่ถูกกระทำยังคงนอนนิ่งอยู่
“อื้มมม” เห็นดังนั้นทำให้เมษได้ใจจึงตวัดมือไปพาดบนอกของอาทิตย์อีกครั้ง  แต่ทว่าครั้งนี้...
“เห้ย!!  โอ้ยย”  อาทิตย์พลิกตัวออกแล้วถีบเมษอย่างเต็มแรงจนเมษกลิ้งลงมากองอยู่กับพื้นพร้อมส่งเสียงร้องโอดครวญ
“ทะลึ่งแล้วมึงอ่ะ  ไปนอนที่เดิมมึงเลย  โน่นโซฟาของมึง”  อาทิตย์เอ่ยเสียงดุจนเมษได้แต่บ่นงึมงำก่อนจะคว้าผ้าห่มตัวเองแล้วลากไปยังโซฟาก่อนจะล้มตัวลงนอนในที่สุด   แต่เมื่อนอนลงแล้ว   ในความมืดนั้นเมษกลับยิ้มออกมาอย่างคนที่สมหวังในอะไรบางอย่าง
“แบบนี้ค่อยเป็นอาทิตย์ที่กูคุ้นเคยหน่อย  หึหึ”
 
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา