Memory of Tomorrow วันพรุ่งนี้ในความทรงจำ
-
เขียนโดย Xiaobei
วันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 13.24 น.
40 ตอน
0 วิจารณ์
34.17K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 เมษายน พ.ศ. 2563 14.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) บทที่5 เขาชอบเธอ (5)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่5 เขาชอบเธอ (5)
อี้เป่ยเฉินมักจะมีความรู้สึกประมาณว่า ผักกาดขาวที่ฉันปลูกที่บ้านทำไมต้องให้หมูอย่างนายมากินด้วย เขายอมรับว่าตัวเองใจร้ายอยู่บ้าง และใช้วิธีการบางอย่าง เด็กหนุ่มเหล่านั้นจึงไม่ปรากฏตัวข้างกายอี้เป่ยซีอีกต่อไป ตั้งแต่นั้นมาเธอก็สนิทกับเขามากขึ้น
ครั้นอี้เป่ยเฉินเข้ามหาวิทยาลัย คนในครอบครัวก็อยากให้เขาคบหากับผู้หญิงบ้าง เขาให้เหตุผลว่าเบื่อแล้วบอกปัดไป นี่ไม่ใช่ข้ออ้าง แต่คือความคิดจริงแท้ที่อยู่ในใจของเขา เขารู้สึกว่าการอยู่กับผู้หญิงคนอื่นก็คือการสิ้นเปลืองเวลาของตัวเอง ถ้าทุกคนนำมาซึ่งสีสันได้เหมือนเธอ เขาอาจจะพิจารณาดู แต่กับคนอื่นเขามีแต่รู้สึกปวดหัวเท่านั้น
ปีนั้นที่อายุครบสิบแปด เขาฝัน ในฝันเขากับเธอแนบชิดเกาะเกี่ยวกัน เขาตื่นขึ้นมาพร้อมเหงื่อท่วมตัว เมื่อคิดว่าตัวเองฝันสกปรกแบบนี้ก็รู้สึกละอายใจ คืนนั้นก็ดึกมาแล้ว เขารู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของร่างกายตัวเอง จึงขับรถออกไปดื่มเหล้าคนเดียวที่ชายหาด
เธอมาพบเขาในตอนเช้า ในตอนนั้นเขายังไม่ค่อยได้สติ นึกว่าตัวเองอยู่ในความฝัน จึงยื่นมือไปหาเธอทั้งแบบนั้น กอดเธอไว้ราวกับว่าจะกอดเอาทุกสิ่งทุกอย่าง กลิ่นหอมหวานบนตัวเธอทำให้ร่างกายเขาเกิดความรู้สึกที่ทั้งคุ้นเคยและแปลกประหลาด เขารีบผลักเธอออกไป เธอยังเด็ก เขารู้ดี เธอคือคนที่เขาต้องปกป้อง เขาจะทำร้ายเธอไม่ได้
อี้เป่ยเฉินกลัวว่าความคิดที่เขามีต่อเธอจะทำให้เธอตกใจ ตอนนั้นเธออายุเพียงสิบสามปี โลกของเธอควรจะยังบริสุทธิ์ ใครก็ไม่สามารถทำให้แปดเปื้อนได้ แม้แต่ตัวของเขาเองก็ตาม เขาใกล้ชิดกับเธอ แต่ก็รักษาระยะห่างด้วยเช่นกัน โชคดีเธอที่หัวช้าไม่ได้รู้สึกอะไร เขากับเธอยังคงเป็นเหมือนพี่ชายน้องสาวทั่วไปที่มีความสัมพันธ์ดีมาก และแกล้งทำเป็นพี่ชายกับน้องสาวกันตามปกติ
เมื่อถึงวันเกิดปีที่สิบเก้าของตัวเอง ลูกสาวจากบริษัทหนึ่งที่ครอบครัวได้ร่วมงานหลายครั้งก็มาด้วย ทุกคนต่างหยอกล้อและบอกว่าเธอมาเพื่อเขา มีเพียงเขาที่ไม่สะทกสะท้าน สายตาจับจ้องไปยังอี้เป่ยซีที่พูดคุยกับเจี้ยอยู่ตลอด เจี้ยคือคนเดียวที่รู้ว่าในใจเขาคิดอะไร เขาวางใจอีกฝ่าย ฉะนั้นจึงวางใจให้ดูแลเจ้าหญิงน้อยของตัวเอง
หลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นปรากฏตัว ทุกคนต่างหลงใหลในความงามและความเซ็กซี่ของเธอ เธอเป็นคนสวยจริงๆ แต่ไม่ใช่แบบที่เขาชอบ เวลาที่เธอเดินเข้ามาใกล้เขา เขาสังเกตเห็นว่าอี้เป่ยซีมองมาทางนี้ตลอด
จากนั้นก็มีการเจอหน้ากันหลายครั้งโดยจงใจ รวมถึงเจตนาทานอาหารร่วมกันด้วย เขาไม่สนใจผู้หญิงฟ้าประทานที่คนอื่นพูดถึงคนนี้เลยแม้แต่น้อย จนกระทั่งคืนวันนั้น เป่ยซีที่พ่อแม่เลือกให้เป็นแม่สื่อแม่ชักเดินมายังห้องของเขา ทันทีที่เธอเข้ามาเขาก็เห็นแล้ว แต่ยังคงทำเป็นนิ่งเฉยทำงานในมือของตัวเองต่อไป
คำพูดของเธอในคืนวันนั้นช่างเสียดแทงเหลือเกิน อี้เป่ยเฉินไม่เคยโกรธเธอมากขนาดนี้มาก่อน เขาทิ้งเอกสารทั้งหมดบนโต๊ะลงพื้น เมื่อเห็นดวงตาที่น้อยเนื้อต่ำใจและคลอน้ำตาของเธอ เขารู้สึกเสียใจมาก กระแทกประตูจากไป
คืนวันนั้นเขาดื่มเหล้าคลายทุกข์กับเจี้ย เมื่อกลับถึงบ้านก็เป็นเวลาตีสามแล้ว เสื้อผ้าก็คร้านจะถอดออก นอนลงบนเตียงของตัวเองทันที ประตูถูกเปิดออกเบาๆ เขารู้สึกได้ว่ามือน้อยๆ ของอี้เป่ยซีกำลังเคลื่อนไหวอยู่บนตัวเขา กลิ่นหอมที่คุ้นเคยเปิดประตูเขื่อนที่ปิดเอาไว้ ถ้าปลดปล่อยตัวเองสักครั้งจะเป็นอะไรไป ทันทีที่เขาคว้ามือเธอมาก็กดเธอลงใต้ร่าง ถอดเสื้อผ้าของเธอออกด้วยความป่าเถื่อน กัดริมฝีปากเธออย่างบ้าคลั่ง
การควบคุมของเขาทำให้การต่อต้านของเธออ่อนแรงมากอย่างเห็นได้ชัด เธอตะโกนเรียกอี้เป่ยเฉินเสียงดัง เสียงสั่นเทามีแต่ความหวาดกลัวและไร้ที่พึ่ง สติที่กระเจิดกระเจิงจึงกลับมาสู่สมองของเขา
‘ขอโทษ ขอโทษ’ เมื่อเขาได้ยินเสียงสะอื้นของเธอ ก็รู้สึกว่าตัวเองคือคนที่ไร้ยางอายที่สุดในโลก นี่เขากำลังทำอะไรอยู่ เขาทำร้ายคนที่เป็นที่รักของตัวเองเพื่อความสุขส่วนตัวได้อย่างไรกัน
เขาพลิกตัวไปเข้าห้องน้ำ น้ำเย็นจัดเอาสติสัมปชัญญะของเขากลับมาอย่างสมบูรณ์ ตอนกลับมาห้องนอนก็พบว่าเธอจากไปแล้ว เมื่อหันมาก็เห็นแววตาตำหนิระคนผิดหวังของพ่อ เขาคุกเข่าอยู่ในห้องอ่านหนังสือของพ่อหนึ่งวันหนึ่งคืน ถึงเอาไม้บรรทัดตีสั่งสอนบนร่างกาย เขาก็ยังรู้สึกว่าลงโทษเบาเกินไปด้วยซ้ำ
พ่อจัดการให้เขากลับไปเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองที่ประเทศC บางทีแบบนี้อาจจะดีกับตัวเขาเองและดีกับเธอด้วย เจี้ยได้ฟังคำพูดของเขาก็มาที่ประเทศC ด้วยกัน ระหว่างใช้โทรศัพท์ระหว่างประเทศ เขาจะได้ยินความคิดถึงที่แม่มีต่อเขา พ่อที่ยอมรับความสำเร็จของเขา แล้วก็สาวน้อยของเขา…เดิมทีเขานึกว่าตัวเองจะใจเย็นลงได้ แต่ความคิดถึงกลับเติบโตบ้าคลั่งราวกับเถาวัลย์ เขาอยากเจอเธอ ไม่เวลาไหนก็ตาม
ตอนเขาอายุยี่สิบก็บรรลุเป้าหมายที่ท้าทายมากอย่างหนึ่ง เขาใจร้อนอยากจะแบ่งปันเรื่องนี้กับเด็กน้อยของเขา แต่เมื่อโทรติดกลับได้ยินเสียงของผู้ชาย ได้ยินเสียงที่ร่าเริงของพวกเขาสองคน สวรรค์รู้ดีว่าเขาอิจฉาจนแทบคลั่ง ความสุขถูกแผดเผาไปในพริบตา
ต่อมาถึงได้ยินแม่พูดว่าคนคนนั้นคือแฟนของอี้เป่ยซี งั้นเหรอ เธอยังเด็กขนาดนี้จะเข้าใจเรื่องความรักเหรอ พ่อกับแม่ก็อนุญาตให้เธอมีผู้ชายมายืนเคียงข้างตามอำเภอใจอีก เขาเขวี้ยงโทรศัพท์มือถือทิ้งด้วยความโมโห หลังจากผ่านชีวิตที่เศร้าเสียใจไปหลายวัน เขาก็ขลุกอยู่กับงานเหมือนกับซอมบี้ตัวหนึ่ง
ปีนั้นเธออายุสิบเจ็ด คนคนนั้นเสียชีวิตเพราะช่วยเธอเอาไว้ อันที่จริงเขาแอบดีใจอยู่บ้าง แต่หลังจากรับสายแม่ที่บอกให้เขากลับไป เขาก็รู้สึกปวดใจ เขาลืมไปแล้วว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเป็นคนที่ใส่ใจกับความรู้สึกมาก เป็นหญิงสาวที่ใส่ใจคนที่ตัวเองชอบ ไม่ว่าจิตแพทย์จะหาทางออกให้เธออย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ เธอต่อต้านทุกอย่างโดยสัญชาตญาณ
พอเขาเห็นเธอที่ผอมซูบหลบอยู่มุมกำแพง ก็ระบายความโกรธใส่พ่อแม่ และกอดสาวน้อยของตัวเองไว้ขณะเนื้อตัวสั่นเทา เขานึกว่าการจากเธอไปจะปกป้องเธอได้ดียิ่งขึ้น กลับคิดไม่ถึงว่าเธอจะเปลี่ยนไปจนกลายเป็นแบบนี้
“พี่ พี่เป่ยเฉิน” พวกเขาบอกว่านี่คือประโยคแรกที่เธอพูดตั้งแต่คนคนนั้นตาย ภายใต้การปลอบประโลมของเขา การรักษาของจิตแพทย์ถึงเริ่มเห็นผล แต่ว่าเวลาที่ไม่มีใคร เขาก็ยังเห็นความปวดใจและการหวนระลึกถึงในดวงตาใสกระจ่างได้
จากนั้นเขาก็กลับประเทศC อีกครั้ง แอบตัดสินใจว่าจะต้องพาผู้หญิงของเขามาดูแลอยู่ข้างๆ เขาไม่วางใจใครทั้งนั้น หลังจากยืนกรานกับพ่อตัวเองแล้ว เขาก็ทำสำเร็จ และรีบพาอี้เป่ยซีของเขามาอยู่ข้างกายตัวเอง
------------
อี้เป่ยเฉินมักจะมีความรู้สึกประมาณว่า ผักกาดขาวที่ฉันปลูกที่บ้านทำไมต้องให้หมูอย่างนายมากินด้วย เขายอมรับว่าตัวเองใจร้ายอยู่บ้าง และใช้วิธีการบางอย่าง เด็กหนุ่มเหล่านั้นจึงไม่ปรากฏตัวข้างกายอี้เป่ยซีอีกต่อไป ตั้งแต่นั้นมาเธอก็สนิทกับเขามากขึ้น
ครั้นอี้เป่ยเฉินเข้ามหาวิทยาลัย คนในครอบครัวก็อยากให้เขาคบหากับผู้หญิงบ้าง เขาให้เหตุผลว่าเบื่อแล้วบอกปัดไป นี่ไม่ใช่ข้ออ้าง แต่คือความคิดจริงแท้ที่อยู่ในใจของเขา เขารู้สึกว่าการอยู่กับผู้หญิงคนอื่นก็คือการสิ้นเปลืองเวลาของตัวเอง ถ้าทุกคนนำมาซึ่งสีสันได้เหมือนเธอ เขาอาจจะพิจารณาดู แต่กับคนอื่นเขามีแต่รู้สึกปวดหัวเท่านั้น
ปีนั้นที่อายุครบสิบแปด เขาฝัน ในฝันเขากับเธอแนบชิดเกาะเกี่ยวกัน เขาตื่นขึ้นมาพร้อมเหงื่อท่วมตัว เมื่อคิดว่าตัวเองฝันสกปรกแบบนี้ก็รู้สึกละอายใจ คืนนั้นก็ดึกมาแล้ว เขารู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของร่างกายตัวเอง จึงขับรถออกไปดื่มเหล้าคนเดียวที่ชายหาด
เธอมาพบเขาในตอนเช้า ในตอนนั้นเขายังไม่ค่อยได้สติ นึกว่าตัวเองอยู่ในความฝัน จึงยื่นมือไปหาเธอทั้งแบบนั้น กอดเธอไว้ราวกับว่าจะกอดเอาทุกสิ่งทุกอย่าง กลิ่นหอมหวานบนตัวเธอทำให้ร่างกายเขาเกิดความรู้สึกที่ทั้งคุ้นเคยและแปลกประหลาด เขารีบผลักเธอออกไป เธอยังเด็ก เขารู้ดี เธอคือคนที่เขาต้องปกป้อง เขาจะทำร้ายเธอไม่ได้
อี้เป่ยเฉินกลัวว่าความคิดที่เขามีต่อเธอจะทำให้เธอตกใจ ตอนนั้นเธออายุเพียงสิบสามปี โลกของเธอควรจะยังบริสุทธิ์ ใครก็ไม่สามารถทำให้แปดเปื้อนได้ แม้แต่ตัวของเขาเองก็ตาม เขาใกล้ชิดกับเธอ แต่ก็รักษาระยะห่างด้วยเช่นกัน โชคดีเธอที่หัวช้าไม่ได้รู้สึกอะไร เขากับเธอยังคงเป็นเหมือนพี่ชายน้องสาวทั่วไปที่มีความสัมพันธ์ดีมาก และแกล้งทำเป็นพี่ชายกับน้องสาวกันตามปกติ
เมื่อถึงวันเกิดปีที่สิบเก้าของตัวเอง ลูกสาวจากบริษัทหนึ่งที่ครอบครัวได้ร่วมงานหลายครั้งก็มาด้วย ทุกคนต่างหยอกล้อและบอกว่าเธอมาเพื่อเขา มีเพียงเขาที่ไม่สะทกสะท้าน สายตาจับจ้องไปยังอี้เป่ยซีที่พูดคุยกับเจี้ยอยู่ตลอด เจี้ยคือคนเดียวที่รู้ว่าในใจเขาคิดอะไร เขาวางใจอีกฝ่าย ฉะนั้นจึงวางใจให้ดูแลเจ้าหญิงน้อยของตัวเอง
หลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นปรากฏตัว ทุกคนต่างหลงใหลในความงามและความเซ็กซี่ของเธอ เธอเป็นคนสวยจริงๆ แต่ไม่ใช่แบบที่เขาชอบ เวลาที่เธอเดินเข้ามาใกล้เขา เขาสังเกตเห็นว่าอี้เป่ยซีมองมาทางนี้ตลอด
จากนั้นก็มีการเจอหน้ากันหลายครั้งโดยจงใจ รวมถึงเจตนาทานอาหารร่วมกันด้วย เขาไม่สนใจผู้หญิงฟ้าประทานที่คนอื่นพูดถึงคนนี้เลยแม้แต่น้อย จนกระทั่งคืนวันนั้น เป่ยซีที่พ่อแม่เลือกให้เป็นแม่สื่อแม่ชักเดินมายังห้องของเขา ทันทีที่เธอเข้ามาเขาก็เห็นแล้ว แต่ยังคงทำเป็นนิ่งเฉยทำงานในมือของตัวเองต่อไป
คำพูดของเธอในคืนวันนั้นช่างเสียดแทงเหลือเกิน อี้เป่ยเฉินไม่เคยโกรธเธอมากขนาดนี้มาก่อน เขาทิ้งเอกสารทั้งหมดบนโต๊ะลงพื้น เมื่อเห็นดวงตาที่น้อยเนื้อต่ำใจและคลอน้ำตาของเธอ เขารู้สึกเสียใจมาก กระแทกประตูจากไป
คืนวันนั้นเขาดื่มเหล้าคลายทุกข์กับเจี้ย เมื่อกลับถึงบ้านก็เป็นเวลาตีสามแล้ว เสื้อผ้าก็คร้านจะถอดออก นอนลงบนเตียงของตัวเองทันที ประตูถูกเปิดออกเบาๆ เขารู้สึกได้ว่ามือน้อยๆ ของอี้เป่ยซีกำลังเคลื่อนไหวอยู่บนตัวเขา กลิ่นหอมที่คุ้นเคยเปิดประตูเขื่อนที่ปิดเอาไว้ ถ้าปลดปล่อยตัวเองสักครั้งจะเป็นอะไรไป ทันทีที่เขาคว้ามือเธอมาก็กดเธอลงใต้ร่าง ถอดเสื้อผ้าของเธอออกด้วยความป่าเถื่อน กัดริมฝีปากเธออย่างบ้าคลั่ง
การควบคุมของเขาทำให้การต่อต้านของเธออ่อนแรงมากอย่างเห็นได้ชัด เธอตะโกนเรียกอี้เป่ยเฉินเสียงดัง เสียงสั่นเทามีแต่ความหวาดกลัวและไร้ที่พึ่ง สติที่กระเจิดกระเจิงจึงกลับมาสู่สมองของเขา
‘ขอโทษ ขอโทษ’ เมื่อเขาได้ยินเสียงสะอื้นของเธอ ก็รู้สึกว่าตัวเองคือคนที่ไร้ยางอายที่สุดในโลก นี่เขากำลังทำอะไรอยู่ เขาทำร้ายคนที่เป็นที่รักของตัวเองเพื่อความสุขส่วนตัวได้อย่างไรกัน
เขาพลิกตัวไปเข้าห้องน้ำ น้ำเย็นจัดเอาสติสัมปชัญญะของเขากลับมาอย่างสมบูรณ์ ตอนกลับมาห้องนอนก็พบว่าเธอจากไปแล้ว เมื่อหันมาก็เห็นแววตาตำหนิระคนผิดหวังของพ่อ เขาคุกเข่าอยู่ในห้องอ่านหนังสือของพ่อหนึ่งวันหนึ่งคืน ถึงเอาไม้บรรทัดตีสั่งสอนบนร่างกาย เขาก็ยังรู้สึกว่าลงโทษเบาเกินไปด้วยซ้ำ
พ่อจัดการให้เขากลับไปเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองที่ประเทศC บางทีแบบนี้อาจจะดีกับตัวเขาเองและดีกับเธอด้วย เจี้ยได้ฟังคำพูดของเขาก็มาที่ประเทศC ด้วยกัน ระหว่างใช้โทรศัพท์ระหว่างประเทศ เขาจะได้ยินความคิดถึงที่แม่มีต่อเขา พ่อที่ยอมรับความสำเร็จของเขา แล้วก็สาวน้อยของเขา…เดิมทีเขานึกว่าตัวเองจะใจเย็นลงได้ แต่ความคิดถึงกลับเติบโตบ้าคลั่งราวกับเถาวัลย์ เขาอยากเจอเธอ ไม่เวลาไหนก็ตาม
ตอนเขาอายุยี่สิบก็บรรลุเป้าหมายที่ท้าทายมากอย่างหนึ่ง เขาใจร้อนอยากจะแบ่งปันเรื่องนี้กับเด็กน้อยของเขา แต่เมื่อโทรติดกลับได้ยินเสียงของผู้ชาย ได้ยินเสียงที่ร่าเริงของพวกเขาสองคน สวรรค์รู้ดีว่าเขาอิจฉาจนแทบคลั่ง ความสุขถูกแผดเผาไปในพริบตา
ต่อมาถึงได้ยินแม่พูดว่าคนคนนั้นคือแฟนของอี้เป่ยซี งั้นเหรอ เธอยังเด็กขนาดนี้จะเข้าใจเรื่องความรักเหรอ พ่อกับแม่ก็อนุญาตให้เธอมีผู้ชายมายืนเคียงข้างตามอำเภอใจอีก เขาเขวี้ยงโทรศัพท์มือถือทิ้งด้วยความโมโห หลังจากผ่านชีวิตที่เศร้าเสียใจไปหลายวัน เขาก็ขลุกอยู่กับงานเหมือนกับซอมบี้ตัวหนึ่ง
ปีนั้นเธออายุสิบเจ็ด คนคนนั้นเสียชีวิตเพราะช่วยเธอเอาไว้ อันที่จริงเขาแอบดีใจอยู่บ้าง แต่หลังจากรับสายแม่ที่บอกให้เขากลับไป เขาก็รู้สึกปวดใจ เขาลืมไปแล้วว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเป็นคนที่ใส่ใจกับความรู้สึกมาก เป็นหญิงสาวที่ใส่ใจคนที่ตัวเองชอบ ไม่ว่าจิตแพทย์จะหาทางออกให้เธออย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ เธอต่อต้านทุกอย่างโดยสัญชาตญาณ
พอเขาเห็นเธอที่ผอมซูบหลบอยู่มุมกำแพง ก็ระบายความโกรธใส่พ่อแม่ และกอดสาวน้อยของตัวเองไว้ขณะเนื้อตัวสั่นเทา เขานึกว่าการจากเธอไปจะปกป้องเธอได้ดียิ่งขึ้น กลับคิดไม่ถึงว่าเธอจะเปลี่ยนไปจนกลายเป็นแบบนี้
“พี่ พี่เป่ยเฉิน” พวกเขาบอกว่านี่คือประโยคแรกที่เธอพูดตั้งแต่คนคนนั้นตาย ภายใต้การปลอบประโลมของเขา การรักษาของจิตแพทย์ถึงเริ่มเห็นผล แต่ว่าเวลาที่ไม่มีใคร เขาก็ยังเห็นความปวดใจและการหวนระลึกถึงในดวงตาใสกระจ่างได้
จากนั้นเขาก็กลับประเทศC อีกครั้ง แอบตัดสินใจว่าจะต้องพาผู้หญิงของเขามาดูแลอยู่ข้างๆ เขาไม่วางใจใครทั้งนั้น หลังจากยืนกรานกับพ่อตัวเองแล้ว เขาก็ทำสำเร็จ และรีบพาอี้เป่ยซีของเขามาอยู่ข้างกายตัวเอง
------------
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ