Memory of Tomorrow วันพรุ่งนี้ในความทรงจำ
-
เขียนโดย Xiaobei
วันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 13.24 น.
40 ตอน
0 วิจารณ์
34.20K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 เมษายน พ.ศ. 2563 14.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) บทที่4 เขาชอบเธอ (4)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่4 เขาชอบเธอ (4)
อี้เป่ยเฉินจำปีนั้นที่เขาอายุสิบขวบได้อย่างชัดเจน แม่เขาพาเธอเข้ามา บอกเขาว่า‘เป่ยเฉิน นี่คือเป่ยซีน้องสาวของลูก ลูกต้องดูแลเขาให้ดีนะ’
น้องสาว เขารู้สึกมาตลอดว่าการมีพี่น้องคือภาระ เขาชอบอยู่คนเดียว และยิ่งชอบอยู่กับคนที่มีความคิดเหมือนกับตัวเอง ไม่ใช่ตัวติดกับน้องสาวคนนี้เนื่องด้วยความสัมพันธ์อื่นที่อธิบายไม่ได้
'นี่คือลูกสาวคนเดียวของคุณอาเจิ้ง ถ้าลูกกล้ารังแกเขา แม่จะโกรธแน่’
ในเวลานี้เอง อี้เป่ยเฉินจึงค่อยเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือ เขาชอบคุณอาเจิ้งมาตั้งแต่เด็ก คุณอาเป็นตำรวจตัวสูงใหญ่ เปี่ยมด้วยความยุติธรรม มีความสนใจหลากหลาย อยู่กับเขาแล้วได้ความรู้เหมือนอ่านหนังสือ แต่ว่าคนแบบนี้กลับเสียชีวิตระหว่างทำคดี ทิ้งภรรยากับลูกชายของตัวเองไว้ และลูกสาวคนเดียวก็ยังโดนคนลักพาตัวไปอีก ภรรยาคุณอาเจิ้งทนรับการกระทบกระเทือนจิตใจซ้ำสองไม่ได้จึงฆ่าตัวตายไป
เขามองเด็กน้อยที่อยู่ตรงหน้า ดูท่าทางคนบ้านนั้นต้องดูแลเธออย่างดีมาก รูปร่างเจ้าเนื้อน่ารัก ดวงตาสว่างสดใสเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า แต่ยังมีความอึดอัดและกังวลที่ปกปิดไว้ไม่อยู่ จู่ๆ เขาก็รู้สึกเห็นใจเด็กสาวคนนี้ขึ้นมาเล็กน้อย
'ผมจะดูแลเขาครับ’ นี่คือประโยคแรกที่เขาเอ่ยปากตั้งแต่เธอเข้าบ้านมา ไม่เพียงแต่เป็นคำสัญญาที่ให้กับแม่ แต่สัญญากับตัวเองด้วย คุณอาเจิ้งสั่งสอนเขาหลายเรื่อง เขาก็ควรทำอะไรเพื่อคุณอาเจิ้งบ้าง อย่างเช่นดูแล‘น้องสาว’ คนนี้อย่างดี
ตอนนั้นที่อยู่ประเทศU เธอไม่เข้าใจภาษาเลยแม้แต่นิดเดียว อี้เป่ยเฉินเป็นคนสอนเธอให้พูดคุยสื่อสารได้ด้วยตัวเอง แม้ว่าเธอจะเรียนรู้ได้เร็วมาก แต่มักจะขาดความสนใจ เขามองเห็นว่าในดวงตาของเธอมีความมืดมนที่ไม่เหมาะสมกับเด็กในวัยนี้ จึงพาเธอหลบเลี่ยงผู้คนอย่างรู้ทางหนีทีไล่ พาเธอไปที่สวนสนุกและเล่นกันสุดเหวี่ยงตลอดทั้งบ่าย
‘ขอบคุณค่ะ’ นี่คือคำแรกที่เธอพูดกับเขา แต่หลังจากนั้นเธอก็ร้องไห้ ร้องไห้เสียใจมาก ร้องจนเขาไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร เขาอุ้มเธอที่ตัวเล็กๆ เอาไว้ ถึงได้พบว่าเธอผอมลงไปเยอะมาก ไม่อวบอ้วนเหมือนตอนที่เพิ่งมาอีกแล้ว
'อย่าร้องไห้สิ’ เขาทำได้เพียงปลอบโยนเธออย่างจนปัญญาแบบนี้ เด็กสองคนนั่งอยู่บนม้านั่งในสวนสนุกเนิ่นนาน เขาไม่สนใจสายตาแปลกๆ ของคนที่เดินผ่านไปมา ได้แต่ปลอบใจเด็กตัวน้อยๆ ในอ้อมอกตัวเอง เขารู้สึกว่ากำลังแบบความรับผิดชอบอยู่บนบ่า ความรับผิดชอบที่ต้องดูแลและปกป้องเด็กน้อยคนนี้
วันนั้นหลังจากร้องไห้ พวกเขาก็กลับบ้าน เป็นธรรมดาที่จะโดนแม่ผู้ใจดีต่อว่าไปชุดใหญ่ เมื่อพ่อรู้ว่าเขาทำให้แม่โกรธเข้าแล้ว ก็ไม่พูดไม่จา ลงโทษให้เขาคุกเข่าอยู่ในสวน ยังจำได้ว่าคืนนั้นดวงจันทร์ส่องสว่างกลบดวงดาว ทั้งที่จิตใจควรว้าวุ่นกลับสงบนิ่ง รอจนกระทั่งทุกคนหลับหมดแล้ว เงาสีขาวตัวน้อยจึงเดินเข้ามาหาเขา
'ขอโทษค่ะ’ เสียงของเธอนุ่มนวลเหมือนกับขนมแป้งข้าวเหนียว
'ทำไมเธอถึงร้องไห้อีกแล้ว’
‘พี่เป่ยเฉิน’ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเรียกเขาแบบนี้ อี้เป่ยเฉินรู้สึกชื่นใจ
'อือ พี่อยู่นี่’
นี่คือคำตอบของเขา
‘หนูคืออี้เป่ยซีใช่ไหม?’ เธอถามเขาอย่างไม่เข้าใจ อี้เป่ยเฉินไม่รู้ว่าตัวเองควรตอบอย่างไร เขาไม่รู้ว่าเธอรู้สึกอย่างไรกับพ่อแม่บุญธรรมของเธอ เขารู้เพียงว่าบางแห่งในหัวใจของตัวเองเจ็บปวดเล็กน้อย
'หนูรู้แล้ว หนูคืออี้เป่ยซี ใช่ หนูก็คืออี้เป่ยซี’ เธอยิ้มแล้ว
เขาไม่เคยเห็นเด็กตัวน้อยมีรอยยิ้มอ้างว้างเช่นนี้มาก่อน เขากอดเธอไว้‘ใช่แล้ว เธอคืออี้เป่ยซี เจ้าหญิงตัวน้อยของพี่ชาย’
จากนั้นเป็นต้นมา เขารับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงทีละน้อยๆ ของเธอ เธอเริ่มสื่อสารและคุยเล่นกับผู้คนรอบกาย บางครั้งบนโต๊ะก็มีแต่รอยยิ้มของเธอกับคุณพ่อเสือยิ้มยากของเขา ทุกคนต่างมีความสุขดี แต่เขารู้ว่าเธอยังลืมไม่ลง และเธอก็ไม่คิดที่จะลืม
อี้เป่ยซีในวัยเด็กตัวติดกับเขาแจ ตามเขาตลอดไม่ว่าเวลาไหน เขาไม่ได้รู้สึกรำคาญอะไร ถึงขั้นรู้สึกว่าถูกพึ่งพาอาศัยแบบนี้แล้วมีความสุขมาก คำพูดหยอกเล่นของเพื่อนในหัวเขา กลายเป็นความอิจฉาแบบที่กล่าวโทษคนอื่นเมื่ออยากได้บางอย่างแต่ไม่ได้มา
เขาปกป้องเจ้าหญิงน้อยคนนี้และเติบโตมาด้วยกันกับเธอ สภาพความเป็นอยู่ในประเทศU ค่อนข้างอิสระและผ่อนคลาย หลังจากขึ้นมัธยมต้นแล้ว ผู้คนรอบตัวเขาล้วนแต่มีแฟนกันหมด เขารู้สึกแค่ว่าน่าขำ แม้ว่าจะมีหลายคนมาสารภาพรักกับเขา เขาก็รู้สึกเบื่อหน่าย เขาไม่ชอบความหลงใหลกับความเจ้าแผนการในสายตาของเด็กสาวเหล่านั้น ทำไมเด็กสาวคนอื่นถึงไม่น่ารักเหมือนเป่ยซีของเขากันนะ
พอเธอเข้ามัธยมต้นก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของวัยสาวเหมือนเด็กผู้หญิงทั่วไปเธอเป็นคนที่สวยอยู่แล้ว โดยเฉพาะดวงตาที่เหมือนหิ่งห้อย เวลาที่เธอยิ้ม คุณจะรู้สึกว่าโลกทั้งใบอยู่ในดวงตาคู่นั้น ฉะนั้นสมัยที่เธอเรียนมัธยมต้นจึงมีคนมากมายตามจีบ เพื่อนชายที่ค่อนข้างสนิทสารภาพรักกับอี้เป่ยซี เมื่อเห็นความลังเลในสายตาเธอ เขาก็รู้สึกร้อนใจเสียแล้ว…
------------
อี้เป่ยเฉินจำปีนั้นที่เขาอายุสิบขวบได้อย่างชัดเจน แม่เขาพาเธอเข้ามา บอกเขาว่า‘เป่ยเฉิน นี่คือเป่ยซีน้องสาวของลูก ลูกต้องดูแลเขาให้ดีนะ’
น้องสาว เขารู้สึกมาตลอดว่าการมีพี่น้องคือภาระ เขาชอบอยู่คนเดียว และยิ่งชอบอยู่กับคนที่มีความคิดเหมือนกับตัวเอง ไม่ใช่ตัวติดกับน้องสาวคนนี้เนื่องด้วยความสัมพันธ์อื่นที่อธิบายไม่ได้
'นี่คือลูกสาวคนเดียวของคุณอาเจิ้ง ถ้าลูกกล้ารังแกเขา แม่จะโกรธแน่’
ในเวลานี้เอง อี้เป่ยเฉินจึงค่อยเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือ เขาชอบคุณอาเจิ้งมาตั้งแต่เด็ก คุณอาเป็นตำรวจตัวสูงใหญ่ เปี่ยมด้วยความยุติธรรม มีความสนใจหลากหลาย อยู่กับเขาแล้วได้ความรู้เหมือนอ่านหนังสือ แต่ว่าคนแบบนี้กลับเสียชีวิตระหว่างทำคดี ทิ้งภรรยากับลูกชายของตัวเองไว้ และลูกสาวคนเดียวก็ยังโดนคนลักพาตัวไปอีก ภรรยาคุณอาเจิ้งทนรับการกระทบกระเทือนจิตใจซ้ำสองไม่ได้จึงฆ่าตัวตายไป
เขามองเด็กน้อยที่อยู่ตรงหน้า ดูท่าทางคนบ้านนั้นต้องดูแลเธออย่างดีมาก รูปร่างเจ้าเนื้อน่ารัก ดวงตาสว่างสดใสเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า แต่ยังมีความอึดอัดและกังวลที่ปกปิดไว้ไม่อยู่ จู่ๆ เขาก็รู้สึกเห็นใจเด็กสาวคนนี้ขึ้นมาเล็กน้อย
'ผมจะดูแลเขาครับ’ นี่คือประโยคแรกที่เขาเอ่ยปากตั้งแต่เธอเข้าบ้านมา ไม่เพียงแต่เป็นคำสัญญาที่ให้กับแม่ แต่สัญญากับตัวเองด้วย คุณอาเจิ้งสั่งสอนเขาหลายเรื่อง เขาก็ควรทำอะไรเพื่อคุณอาเจิ้งบ้าง อย่างเช่นดูแล‘น้องสาว’ คนนี้อย่างดี
ตอนนั้นที่อยู่ประเทศU เธอไม่เข้าใจภาษาเลยแม้แต่นิดเดียว อี้เป่ยเฉินเป็นคนสอนเธอให้พูดคุยสื่อสารได้ด้วยตัวเอง แม้ว่าเธอจะเรียนรู้ได้เร็วมาก แต่มักจะขาดความสนใจ เขามองเห็นว่าในดวงตาของเธอมีความมืดมนที่ไม่เหมาะสมกับเด็กในวัยนี้ จึงพาเธอหลบเลี่ยงผู้คนอย่างรู้ทางหนีทีไล่ พาเธอไปที่สวนสนุกและเล่นกันสุดเหวี่ยงตลอดทั้งบ่าย
‘ขอบคุณค่ะ’ นี่คือคำแรกที่เธอพูดกับเขา แต่หลังจากนั้นเธอก็ร้องไห้ ร้องไห้เสียใจมาก ร้องจนเขาไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร เขาอุ้มเธอที่ตัวเล็กๆ เอาไว้ ถึงได้พบว่าเธอผอมลงไปเยอะมาก ไม่อวบอ้วนเหมือนตอนที่เพิ่งมาอีกแล้ว
'อย่าร้องไห้สิ’ เขาทำได้เพียงปลอบโยนเธออย่างจนปัญญาแบบนี้ เด็กสองคนนั่งอยู่บนม้านั่งในสวนสนุกเนิ่นนาน เขาไม่สนใจสายตาแปลกๆ ของคนที่เดินผ่านไปมา ได้แต่ปลอบใจเด็กตัวน้อยๆ ในอ้อมอกตัวเอง เขารู้สึกว่ากำลังแบบความรับผิดชอบอยู่บนบ่า ความรับผิดชอบที่ต้องดูแลและปกป้องเด็กน้อยคนนี้
วันนั้นหลังจากร้องไห้ พวกเขาก็กลับบ้าน เป็นธรรมดาที่จะโดนแม่ผู้ใจดีต่อว่าไปชุดใหญ่ เมื่อพ่อรู้ว่าเขาทำให้แม่โกรธเข้าแล้ว ก็ไม่พูดไม่จา ลงโทษให้เขาคุกเข่าอยู่ในสวน ยังจำได้ว่าคืนนั้นดวงจันทร์ส่องสว่างกลบดวงดาว ทั้งที่จิตใจควรว้าวุ่นกลับสงบนิ่ง รอจนกระทั่งทุกคนหลับหมดแล้ว เงาสีขาวตัวน้อยจึงเดินเข้ามาหาเขา
'ขอโทษค่ะ’ เสียงของเธอนุ่มนวลเหมือนกับขนมแป้งข้าวเหนียว
'ทำไมเธอถึงร้องไห้อีกแล้ว’
‘พี่เป่ยเฉิน’ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเรียกเขาแบบนี้ อี้เป่ยเฉินรู้สึกชื่นใจ
'อือ พี่อยู่นี่’
นี่คือคำตอบของเขา
‘หนูคืออี้เป่ยซีใช่ไหม?’ เธอถามเขาอย่างไม่เข้าใจ อี้เป่ยเฉินไม่รู้ว่าตัวเองควรตอบอย่างไร เขาไม่รู้ว่าเธอรู้สึกอย่างไรกับพ่อแม่บุญธรรมของเธอ เขารู้เพียงว่าบางแห่งในหัวใจของตัวเองเจ็บปวดเล็กน้อย
'หนูรู้แล้ว หนูคืออี้เป่ยซี ใช่ หนูก็คืออี้เป่ยซี’ เธอยิ้มแล้ว
เขาไม่เคยเห็นเด็กตัวน้อยมีรอยยิ้มอ้างว้างเช่นนี้มาก่อน เขากอดเธอไว้‘ใช่แล้ว เธอคืออี้เป่ยซี เจ้าหญิงตัวน้อยของพี่ชาย’
จากนั้นเป็นต้นมา เขารับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงทีละน้อยๆ ของเธอ เธอเริ่มสื่อสารและคุยเล่นกับผู้คนรอบกาย บางครั้งบนโต๊ะก็มีแต่รอยยิ้มของเธอกับคุณพ่อเสือยิ้มยากของเขา ทุกคนต่างมีความสุขดี แต่เขารู้ว่าเธอยังลืมไม่ลง และเธอก็ไม่คิดที่จะลืม
อี้เป่ยซีในวัยเด็กตัวติดกับเขาแจ ตามเขาตลอดไม่ว่าเวลาไหน เขาไม่ได้รู้สึกรำคาญอะไร ถึงขั้นรู้สึกว่าถูกพึ่งพาอาศัยแบบนี้แล้วมีความสุขมาก คำพูดหยอกเล่นของเพื่อนในหัวเขา กลายเป็นความอิจฉาแบบที่กล่าวโทษคนอื่นเมื่ออยากได้บางอย่างแต่ไม่ได้มา
เขาปกป้องเจ้าหญิงน้อยคนนี้และเติบโตมาด้วยกันกับเธอ สภาพความเป็นอยู่ในประเทศU ค่อนข้างอิสระและผ่อนคลาย หลังจากขึ้นมัธยมต้นแล้ว ผู้คนรอบตัวเขาล้วนแต่มีแฟนกันหมด เขารู้สึกแค่ว่าน่าขำ แม้ว่าจะมีหลายคนมาสารภาพรักกับเขา เขาก็รู้สึกเบื่อหน่าย เขาไม่ชอบความหลงใหลกับความเจ้าแผนการในสายตาของเด็กสาวเหล่านั้น ทำไมเด็กสาวคนอื่นถึงไม่น่ารักเหมือนเป่ยซีของเขากันนะ
พอเธอเข้ามัธยมต้นก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของวัยสาวเหมือนเด็กผู้หญิงทั่วไปเธอเป็นคนที่สวยอยู่แล้ว โดยเฉพาะดวงตาที่เหมือนหิ่งห้อย เวลาที่เธอยิ้ม คุณจะรู้สึกว่าโลกทั้งใบอยู่ในดวงตาคู่นั้น ฉะนั้นสมัยที่เธอเรียนมัธยมต้นจึงมีคนมากมายตามจีบ เพื่อนชายที่ค่อนข้างสนิทสารภาพรักกับอี้เป่ยซี เมื่อเห็นความลังเลในสายตาเธอ เขาก็รู้สึกร้อนใจเสียแล้ว…
------------
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ