Memory of Tomorrow วันพรุ่งนี้ในความทรงจำ
เขียนโดย Xiaobei
วันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 13.24 น.
แก้ไขเมื่อ 16 เมษายน พ.ศ. 2563 14.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
38) บทที่38 ถูกโจมตีทุกทาง(2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่38 ถูกโจมตีทุกทาง(2)
อาจารย์กวาดตาไปยังนักศึกษาที่ส่งเสียงอย่างไม่พอใจ แล้วจึงพูดเนื้อหาของตัวเองต่อ จากนั้นก็มีเสียงสูดหายใจและเสียงกระซิบกระซาบดังมาไม่ขาดสาย
“โอ้โห ปกติดูไม่ออกเลย คิดไม่ถึงว่าอี้เป่ยซีจะเด็ดขนาดนี้”
“เฮ้ย นายดูท่าทางเธอสิ อ่อยจนเป็นนิสัยไปแล้วจริงๆ”
“บนหิมะเหรอ? กระตุ้นอารมณ์อย่างดีเลย บอกหน่อยได้ไหมว่าเธออยู่ไหน ฉันก็จะนัดเธอสักที”
ถังเสวี่ยไม่ค่อยเข้าใจ เธอมองดูหน้าจอมือถือของเพื่อนนักเรียนข้างหน้าที่โผล่มาครึ่งหนึ่ง แล้วรีบเปิดมือถือของตัวเองทันที
นี่มันวันนั้นที่ไปบนภูเขาหิมะไม่ใช่เหรอ? ที่แท้อี้เป่ยซีหายไป คิดไม่ถึงว่าจะเจอเรื่องแบบนี้ เธอมองฟางหมิ่นที่อยู่ข้างๆ เห็นเพื่อนขมวดคิ้วแน่นดูเป็นกังวลมาก
“พวกเรารีบกลับกันเถอะ” ฟางหมิ่นพูดจบก็วิ่งออกไปทางประตูด้านหลังทันที ‘อี้เป่ยซี ทำไมเธอถึง…’
.........
“เสี่ยวซี เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่พี่ชายเธอก็พอ เธอไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้นโอเคไหม?”
อี้เป่ยซีถอนหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อย ตอบรับคำกับปลายสาย
“พี่คะ ฉันไม่เข้าใจ ฉันมันเป็นไอ้ขี้แพ้ขนาดนี้เลยเหรอ?”
“ตอนนี้เจี้ยกำลังไปรับเธอแล้ว พวกเรากลับบ้านค่อยคุยกันโอเคไหม”
“ได้ค่ะ” อี้เป่ยซีวางสาย ดังนั้นเมื่อกี้พี่ก็เป็นคนบล็อกเว็บนั่นเหรอ? แต่ว่าไม่น่าจะใช่ พี่ไม่น่าทำเรื่องโง่ๆ แบบนี้ได้
จู่ๆ หน้าจอโทรศัพท์มือถือก็สว่างขึ้น เธอเอียงหัวเปิดวีแชทขึ้นมา…
เมื่อพวกฟางหมิ่นกลับถึงหอพัก ประตูห้องก็แง้มเปิดเพียงแค่ครึ่งหนึ่งแล้ว มือถือของอี้เป่ยซีตกอยู่บนพื้น กำลังสั่นด้วยสายเรียกเข้า
“รีบไปหาเธอเร็ว” หลังจากฟางหมิ่นพูดด้วยเสียงสั่นเทา ก็พุ่งออกไปนอกหอพักทันที ถังเสวี่ยเดินไปที่มือถือ หยิบมันขึ้นมาแล้วกดรับสาย
“เสี่ยวซี เธออย่า…”
“ฉันเป็นเพื่อนของเธอค่ะ ไม่รู้ว่าเธอไปไหนแล้ว ตอนนี้พวกเรากำลังหาตัวอยู่”
“ได้ รบกวนพวกเธอด้วยนะ”
ถังเสวี่ยรับปากกับปลายสายแล้วหาต่อไป อี้เป่ยซี เธออย่าคิดอะไรบ้าๆ นะ
ฝ่ายหลิงจื่อเซี่ยดูข่าวใหม่ที่ออกมาด้วยความตกใจ หัวเราะเยาะหยัน
ดูสิอี้เป่ยซี คนชั่วก็ต้องถูกสวรรค์ลงโทษ ฉันจะดูซิว่าคราวนี้เธอจะอวดดีต่อไปยังไง เมื่อเห็นรถที่กำลังใกล้เข้ามาทุกทีจอดอยู่ตรงหน้า เธอก็ซ่อนรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้า เรียกเสียงหวานว่า“พี่จื่อหาน”
ลั่วจื่อหานเหลือบมองบริเวณมหาวิทยาลัยแล้วพยักหน้า หลิงจื่อเซี่ยวางของลงอย่างว่าง่ายแล้วนั่งลงที่เบาะข้างคนขับ พลางหรี่ตาเพลิดเพลินกับเวลาที่อยู่กับเขาตามลำพัง
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ลั่วจื่อหานกดรับสาย หลังจากฟังจบใบหน้าหล่อเหลาก็ทะมึนลงทันที อุณหภูมิภายในรถลดลงหลายองศาโดยฉับพลัน
“รถลงไป” เขาเอ่ยปากอย่างเย็นชา
“ทะ ทำไมล่ะ”
“ไม่ได้ยินรึไง?”
หลิงจื่อหานลงจากรถด้วยอาการน้อยใจเล็กน้อย ลั่วจื่อหานขับรถกลับไปทางเดิมด้วยความรวดเร็ว
‘บ้าเอ๊ย เห็นอยู่ว่าจัดการเจ้าพวกนั่นได้แล้ว ทำไมถึงยังมีภาพหลุดออกมาได้ล่ะ
อี้เป่ยซี เธออย่าทำให้ฉันดูถูกเธอเลย’
.......
ลั่วจื่อหานโทรไปหาอีเป่ยซีทันที มีเสียงรอสาย เสียงรอสาย และเสียงรอสายดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
บ้าจริง เธอรับสายสิ
“ฮัลโหล”
“อี้เป่ยซีอยู่ไหน”
“หายไปแล้ว” พูดจบเขาก็วางสายทันที
ลั่วจื่อหานขว้างหูฟังในหูตนทิ้งอย่างหงุดหงิด
เธอจะอยู่ที่ไหนได้ อี้เป่ยซี
เขาขับรถเข้ามาในบริเวณมหาวิทยาลัยและตามหาทั่วทุกที่ แล้วก็เจอฉู่ซ่งที่ร้อนใจเหมือนกันบนถนนสายเล็กๆ
“พี่จื่อหาน” ฉู่ซ่งร้องเรียกเขาด้วยอาการเหนื่อยหอบ
“เกิดเรื่องอะไร?”
“ผมกำลังหาอี้เป่ยซี ตอนนี้ผมว่าผมน่าจะรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน พี่จะ…”เขายังไม่ทันพูดจบก็ถูกลั่วจื่อหานตัดบททันที
“ขึ้นรถเร็ว”
“เธอน่าจะอยู่ที่ศาลาริมน้ำ เลี้ยวซ้ายไปก็ถึงแล้ว…จอดรถตรงนี้แหละ”
ลั่วจื่อหานจอดรถแล้วพุ่งพรวดออกไปทันใดฉู่ซ่งอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะเดินตามเขาไป
อี้เป่ยซีสวมเสื้อขนสัตว์ขดตัวอยู่ตรงมุมระเบียงคนเดียวอย่างที่คิด สายตาเธอเหม่อลอย ลั่วจื่อหานถอนหายใจ สถานการณ์น่าเป็นห่วงแต่ไม่มีอันตราย ยังดีที่ไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้น
เขาเอื้อมมือออกไปอย่างปวดใจ เห็นเธอที่ตัวเล็กๆ เขยิบตัวหลบไปด้านข้างอีก ก้มหน้าแอบมองเขาด้วยความระแวดระวังมาก ลั่วจื่อหานคุกเข่าลงข้างเธอ กล่าวอย่างอ่อนโยน“หนาวรึเปล่า พวกเรากลับบ้านกัน”
“กลับบ้าน…”เธอเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นชัดเจนว่าเป็นใครก็ส่งเสียงสะอื้น“ลั่วจื่อหาน พื้นหิมะหนาวมากๆ เลย เสื้อคลุมของฉันหายไปแล้ว”
ลั่วจื่อหานรีบถอดเสื้อนอกของตัวเองออกแล้วยื่นให้เธอ “เธอออกมาก่อน เสื้อคลุมอยู่ที่ฉัน”
“ไม่เอา ลั่วจื่อหาน พวกมันอยู่ข้างนอกใช่ไหม”
“ไม่มี ไม่มีหรอก ไม่มีใครอยู่ข้างนอกทั้งนั้น มีแค่ฉันคนเดียว”
อี้เป่ยซีลังเลเล็กน้อย ค่อยๆ เขยิบออกมา ลั่วจื่อหานพันตัวเธอไว้ในเสื้อผ้าหนาๆ กอดเธอไว้แน่น
“ไม่เป็นไรแล้ว”
อี้เป่ยซีซบบนตัวลั่วจื่อหานขณะร้องไห้เงียบๆ ฉู่ซ่งกำหมัดแน่นอยู่ด้านข้าง เต็มไปด้วยความสงสารและโกรธแค้น
ลั่วจื่อหานอุ้มคนในอ้อมกอดขึ้นมา เดินพาเธอกลับไปที่รถด้วยความหนักแน่นเป็นอย่างมาก จากนั้นพูดกับฉู่ซ่งที่อยู่ด้านหลัง“ครั้งนี้รบกวนนายขับรถด้วย”
ฉู่ซ่งพยักหน้า รถออกจากบริเวณมหาวิทยาลัยไปอย่างรวดเร็ว และขับผ่านเงาของคนคุ้นเคยที่กำลังกระวนกระวายใจ ฉู่ซ่งเอ่ยปากอย่างลังเล“จะบอกอี้เป่ยเฉิน…”
“เขามาแล้วก็ไม่มีประโยชน์ พาเธอไปส่งที่บ้านฉันก่อนเถอะ ไว้คราวหลังฉันจะคุยกับเขาเอง”
ฉู่ซ่งพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไรอีก อี้เป่ยซีเอาแต่เบิกตากว้าง ไม่พูดแม้แต่ประโยคเดียว ไม่แม้แต่จะเคลื่อนไหว
“เรื่องบนอินเตอร์เน็ตต้องฝากนายแล้วนะ ฉู่ซ่ง”
“ไม่เป็นไร มันคือเรื่องที่ผมควรทำ”
หลังจากฉู่ซ่งมาถึงบ้านของลั่วจื่อหานแล้ว ก็ไปที่ห้องหนังสือตามการนำทางของพ่อบ้าน ลั่วจื่อหานพาเธอไปที่ห้องนอนใหญ่ อุณหภูมิในห้องถูกปรับขึ้นจนสูง ขณะที่เขาจะปล่อยมือ มือข้างหนึ่งของอี้เป่ยซีก็จับเสื้อเสื้อเขาไว้ มืออีกข้างคว้านิ้วของเขา สายตาอ้อนวอน
“ฉันจะอยู่ที่นี่แหละ สบายใจแล้วหรือยัง หืม?” ลั่วจื่อหานเอ่ยพลางนั่งลงข้างอี้เป่ยซี เอามือลูบผมของเธอ ขณะพิมพ์ข้อความอย่างรวดเร็ว ผ่านไปสักพักจึงค่อยพิมพ์อีกข้อความ
เขาหันมองอี้เป่ยซีที่ยังคงเบิกตากว้าง จ้องมองเพดานที่ว่างเปล่า
“เป่ยซี ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว” ลั่วจื่อหานเอนตัวลงบนเตียงตามสบาย แล้วกอดเธอไว้ทั้งผ้าห่ม
“พวกมันแรงเยอะมาก ฉันหนีออกมาไม่พ้น”ขณะพูด อี้เป่ยซีก็ร้องไห้อีกครั้งพร้อมสูดจมูกตัวเอง
“ไม่ใช่ความผิดเธอ ตอนนี้เธอไม่เป็นไรแล้ว พวกมันก็ถูกไล่ออกไปแล้ว”
“ลั่วจื่อหาน ลั่วจื่อหาน”
ลั่วจื่อหานรู้สึกเจ็บที่บริเวณหน้าอกข้างซ้าย “ฉันอยู่นี่ ฉันอยู่นี่”
“ลั่วจื่อหาน นายบอกว่าจะส่งฉันกลับบ้าน ทำไมพวกมันก็อยู่ที่นั่นด้วย พวกมันก็อยู่ที่นั่น อยากกลับบ้าน อยากลับบ้าน” มือของลั่วจื่อหานออกแรงอีก
“ตอนนี้พวกเรากลับมาบ้านแล้ว พวกมันไม่อยู่แล้ว จริงๆ นะ เธอดูสิ ที่นี่นอกจากฉันก็ไม่มีคนอื่นแล้ว”
อี้เป่ยซีซุกหน้าอยู่ในอกของเขา“ฮือๆๆ…ทำไม ลั่วจื่อหาน ทำไม มันไม่ใช่ความผิดของฉัน เห็นอยู่ว่าไม่ใช่ความผิดของฉัน”
เขาตบหลังของเธอเบาๆ“ใช่ ไม่ใช่ความผิดของเธอ”
บนอาคารสูงของมหาวิทยาลัย…
“ทำไมลั่วจื่อหานถึงโผล่เข้ามาได้” น้ำเสียงของผู้ชายไม่ค่อยพอใจอย่างเห็นได้ชัด
ผู้หญิงที่อยู่ด้านข้างเขากล่าวขึ้น“นี่ก็คือความสามารถของอี้เป่ยซีน่ะค่ะ”
“หึ คนประเภทนี้…”เขาหัวเราะ“พวกเรากลับกันเถอะ”
------------
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ